เกร็ดน่ารู้จาก Across the Universe
เกร็ดน่ารู้
- อีวาน ราเชลล์ วู้ดส์ เล่าถึงตอนฝึกร้องเพลงว่าขณะที่เธอกำลังหาวิธีที่จะร้องเพลง If I Fell ให้ดีที่สุดนั้น ทีมงานพา จิม เสตอเกส พระเอกของเรื่อง เข้ามาในห้องอัด และให้เธอร้องเพลงนี้ให้เขาฟัง ซึ่งในครั้งนั้นเป็นการร้องเพลงที่ดีที่สุด วิธีนี้ทำให้เธอไม่เกร็ง และร้องเพลงที่ยากนี้ได้เต็มที่
- ทีวี คาร์พิโอ ที่แสดงเป็นพรูเดนซ์ นอกจากจะมีเสียงร้องที่ไพเราะแล้ว เธอยังเป็นแดนเซอร์และนักกีฬาไอซ์สเก็ตมาก่อน ตอนแรกผู้กำกับ จูเลีย เทย์มอร์ ติดต่อเธอให้มาเล่นสเก็ตน้ำแข็ง ในฉากที่เกี่ยวกับคณะละครสัตว์ในเรื่อง แต่แล้ว จูเลีย ก็เล็งเห็นว่าเธอเหมาะที่จะรับบทเชียร์ลีดเดอร์ด้วย
- ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มีการคัดเลือกแดนเซอร์จากบรอดเวย์และสถาบันต่างๆ ทั้งหมดมากกว่า 350 คน
- ทีมงานกว่า 13 คน ใช้เวลาเพียง 2 วันก่อนถ่ายทำ ในการวาดและทำเปเปอร์มาเช่ หุ่นเชิดที่ตัวใหญ่ที่สุด 2 ตัว มีใบหน้าสูง 18 ฟุต ความยาวทั้งตัว 27 ฟุต ไม่นับความยาวของแขน และมือทั้ง 2 ข้างที่มีความยาวรวม 120 ฟุต
- เดเนียล แอซราโรล ผู้ออกแบบท่าเต้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ร่วมแสดงเป็นแดนซ์เซอร์รับเชิญในฉากในบทท่านสาธุคุณด้วย
- สถานที่ที่ใช้ในการถ่ายทำเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ใช้สถานที่ในเมืองนิวยอร์ก ซึ่งสอดคล้องกับเรื่องราวทั้งหมด โดยเปลี่ยนสถานที่ทั้งหมด 50 สถานที่ในการถ่ายทำ 60 วัน นับเป็นการถ่ายทำที่ซับซ้อนมาก เพราะต้องเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำแทบทุกวัน
- ฉากที่จัดไว้เพื่อถ่ายทำเพียง 2 วันนั้น ต้องใช้เวลาก่อสร้างราว 2-4 สัปดาห์ ทุกๆ วันที่กองถ่ายกำลังถ่ายทำฉากใดฉากหนึ่ง อีกกองก็ต้องเร่งมือสร้างฉากอย่างน้อย 4 ฉากเตรียมไว้
- ฉากบนถนน ริวิงตัน สตรีท ย่านตะวันออกเฉียงใต้ของแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นฉากที่ใหญ่ที่สุดของเรื่อง โดยเป็นฉากอีสวิลเลจของฮิปปี้และศิลปินในยุคปี 1960 ทีมงานได้ดัดแปลงมาจากย่าน ไฮแอต แอชเบอร์รี่ ของเมืองซานฟรานซิสโกนั่นเอง ฉากนี้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด มหาศาลกว่า 3 บล็อกถนน ทั้งย่านแอตโทมี นอร์ธฟลอค์ และ ริวิงตัน โดยใช้สี่แยกที่ตัดระหว่างถนน ริวิงตัน และ คลินตัน เป็นฉากเต้นในเพลง Come Together
- การสร้างฉากในเรื่องนี้ ทีมงานใช้พื้นที่ย่านนิวเจอร์ซี่จำลองฉากในเวียดนามและเนรมิตทางใต้ของย่านบร๊องซ์ให้เป็นเมืองดีทรอยด์ ด้านฉากงานศพน้องชายของ โจโจ้ ทีมงานได้ใช้ลานจอดรถขนาดใหญ่เพื่อสร้างโบสถ์ขึ้นมา ฉากใน วอชิงตัน ดี.ซี ก็เป็นอีกเมืองที่ถูกจำลองขึ้นในนิวยอร์กนี้ เช่นเดียวกับฉากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียที่ใช้พิพิธภัณฑ์แห่งนิวยอร์กเป็นสถานที่หลักในการถ่ายทำ
- แม้ในฉากนอกโรงเรียนทุกคนจะใส่เสื้อแจ๊กเก็ต เสื้อคลุม และสวมหมวก แต่ในความเป็นจริงแล้วขณะนั้นมีอุณหภูมิสูงถึงเกือบ 80 องศาฟาเรนไฮต์ เมื่อผู้กำกับสั่งคัต ทุกคนต่างก็วิ่งหลบแดดกันพัลวัน
- ชื่อภาพยนตร์และตัวละครส่วนใหญ่มาจากชื่อเพลงของ เดอะ บีตเทิลส์ ทั้ง ลูซี่ จู๊ด ซาดีย์ มิสเตอร์ไคท์ ดร.โรเบิร์ต พรูเด้นซ์ โจโจ้ และ ริต้า
- ซัลม่า ฮาเย็ก ถูกขอร้องให้มาร่วมแสดงในเรื่องนี้ เมื่อ จูเลีย เทย์มอร์ ให้เธอรับบท Bang Bang Shoot Shoot Nurse ซึ่ง ซัลม่า บอก จูเลีย ว่าขอเป็นนางพยาบาลแต่เพียงผู้เดียว
- จูเลีย เทย์มอร์ ได้สร้างบทบาทของ ซาดี สำหรับ ดาน่า ฟัชส์ โดยเฉพาะ
- รถประจำทางที่ตัวละคร ดร.โรเบิร์ต ใช้ตอนร้องเพลง I am the Walrus นั้น อ้างอิงถึงรถประจำทางที่ เดอะ บีตเทิลส์ ใช้ในเรื่อง Magical Mystery Tour (1967)
- เหตุการณ์ในเรื่องนั้นเกิดขึ้นในระหว่างปี 1960-1969 เช่น เหตุการณ์ความรุนแรงที่นักศึกษาประท้วงที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย การระเบิดในนิวยอร์กซึ่งทำให้พวกหัวรุนแรงที่วางระเบิดเสียชีวิต และ เดอะ บีตเทิลส์ ถูกตำรวจสั่งระงับการแสดงคอนเสิร์ตที่ลอนดอน
- คนงานอู่ต่อเรือที่ให้ค่าจ้างตัวละคร จู๊ด กล่าวว่าเขาคิดว่าเขาควรทำอะไรที่แตกต่างออกไป เมื่อเขาอายุได้ 64 ปี พาดพิงถึงเพลง When I'm Sixty-Four ของ พอล แม็กคาร์ตนีย์
- เมื่อ แม็กซ์ และ จู๊ด เห็นอพาร์ตเม้นต์ของพวกเขาเป็นครั้งแรก เซดี กล่าวว่า แม็กซ์ ดูเหมือนซื่อๆ แต่สามารถฆ่าคนได้โดยใช้ค้อนเงิน และอีกฉากหนึ่งจะเห็น แม็กซ์ ถือค้อนเงิน ซึ่งทั้งสองฉากแสดงให้เห็นถึงความเคารพต่อเพลง Maxwell's Silver Hammer ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ แม็กซ์
- เมื่อ จู๊ด ได้แรงบันดาลใจมาจากชามใส่สตรอเบอร์รี่ เขาก็วาดภาพในลักษณะเดียวกับ แจ๊กสัน พอลล็อก ซึ่งเกี่ยวเนื่องถึง สจ๊วต ซัตคลิฟ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นมือเบสของวง เดอะ บีตเทิลส์ ซึ่งวาดภาพในเดียวกับ แจ๊กสัน พอลล็อก เช่นกัน
- ช่วงขึ้นต้นของเพลง If I Fell ยืมมาจากช่วงขึ้นต้นของเพลง Good Day Sunshine ของ เดอะ บีตเทิลส์
- คอนเสิร์ตในตอนท้ายของเรื่องนั้น อิงถึงคอนเสิร์ตของ เดอะ บีตเทิลส์ ที่สำนักงานใหญ่ของ แอ๊ปเปิล เรกคอร์ดส์ ซึ่งเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งสุดท้ายของพวกเขา
- กลางๆ เพลง With A Little Help from My Friends ได้มีการเปลี่ยนดนตรีไปเป็นเพลงฉบับของ โจ คอกเกอร์ ซึ่งมีบทบาทรับเชิญในเรื่องนี้ โดยเพลงนี้ยังถูกใช้เป็นเพลงหลักของรายการโทรทัศน์ The Wonder Tears (1988) ด้วย
- ตัวละคร โจโจ้ อ้างอิงถึงนักกีตาร์ จิมี เฮนดริกซ์
- ม้วนฟิล์มของเรื่องนี้ถูกส่งไปยังบางโรงภาพยนตร์ด้วยชื่อหลอกๆ ว่า Love and Freedom
- นอกจากตัวละคร ซาดี จะอิงถึงนักร้องนักแต่งเพลง เจนิส จ๊อบลิน แล้ว ยังเกี่ยวข้องกับเพลง Sexy Sadie จาก White Album ของ เดอะ บีตเทิลส์ ด้วย
- เพื่อนของ พรูเด้นซ์ ที่ชื่อ ริต้า นั้น มาจากเพลง Lovely Rita ในอัลบั้ม Sgt. Pepper's Lonely Hearts Club Band ของ เดอะ บีตเทิลส์
- ในช่วงของเพลง Being for the Benefit of Mr. Kite ข้อความบางตอนที่ปรากฏที่ฉากหลังนั้น นำมาจากโปสเตอร์แผ่นเดียวกับที่เป็นแรงบันดาลใจให้ จอห์น เลนนอน เขียนเพลง
- ฉากที่อยู่ใต้น้ำของ จู๊ด และ ลูซี่ ทำท่าเดียวกับ จอห์น เลนนอน และโยโกะ โอโนะ ที่ขึ้นปกนิตยสาร โรลลิ่ง สโตน ฉบับที่ 335 ถ่ายโดย แอนนี่ ไลโบวิตซ์
- ในตอนแรก โจ แอนเดอสัน ถูกเล็งให้รับบท จู๊ด แต่เขาก็บอกกับผู้กำกับ จูเลีย เทย์มอร์ ว่าเขาเหมาะกับบท แม็กซ์ มากกว่า และขอทดสอบบทนั้นแทน
- ขณะที่เพลงบรรเลง A Day In The Life ของ เจฟฟ์ เบ็ก ดังขึ้น จู๊ด กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ตรงกับเนื้อเพลงที่ว่า "I read the news today, oh boy."
- วันที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวในสหรัฐนั้นตรงกับวันที่ 9 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของ จอห์น เลนนอน พอดี
- พอล แม็กคาร์ตนีย์ และ โยโกะ โอโนะ ให้การสนับสนุนการสร้างเรื่องนี้ และได้ติดต่อกับ จูเลีย เทย์มอร์ อยู่ตลอด
- จูเลีย เทย์มอร์ นำเพลงของ เดอะ บีตเทิล จำนวน 30 เพลง มาเป็นพื้นฐานสำหรับบทเรื่องนี้ ซึ่งครอบคลุมเหตุการณ์ตั้งแต่ปี 1963-1969 แต่ในภาพยนตร์ได้อัดเรื่องราว 7 ปีนั้น ให้อยู่ในระยะเวลาเพียง 2 ปี
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Bodyguards and Assassinsเข้าฉายปี 2010 แสดง Donnie Yen, Leon Lai, Nicholas Tse
- Brothersเข้าฉายปี 2010 แสดง Jake Gyllenhaal, Natalie Portman, Tobey Maguire
- 20th Century Boys: The Last Chapter - Our Flagเข้าฉายปี 2010 แสดง Toshiaki Karasawa, Etsushi Toyokawa, Airi Taira
เกร็ดภาพยนตร์
- Jupiter Ascending - แชนนิง เททัม ต้องสวมอุปกรณ์บริเวณปากที่ทำให้ลักษณะของขากรรไกรของเขาเปลี่ยนไป เพื่อรับบท เคน อุปกรณ์ชิ้นนั้นทำให้ แชนนิง หุบปากไม่ได้ แถมยังทำให้เขาพูดลำบากอีกด้วย อ่านต่อ»
- Kingsman: The Secret Service - แอรอน เทย์เลอร์ จอห์นสัน ปฏิเสธบท แกรี ภายหลังบทนี้แสดงโดย แทรอน เอเจอร์ตัน อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Baba Yaga: Terror of the Dark Fores เรื่องราวของ อีกอร์ (โอเล็ก ชูกุนอฟ) และครอบครัว ที่ย้ายมาอาศัยอยู่ในห้องพักอันห่างไกลจากตัวเมือง พวกเขาได้ตัดสินใจจ้าง...อ่านต่อ»