SIAMZONE.COM

เห็นด้วย หนังสั้นไปหน่อย CG ก็ใช้ได้นะ ดูลุ้นและหน้ากลัวตลอดทั้งเรื่อง แต่มาตกม้าตายตอนจบนี่แหละ ที่ดูแล้วไม่ค่อยอิน จบปุ๊บมันงงๆอ้าวนี่จบแล้วหรอ
ส่วนดาราก็แสดงดีเหมือนเคย...

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ไปดูมาแล้วครับสนุกมากๆไม่เสียดายเงินเลย ไปดูโรง imax มาอลังการดีครับ

หนังจบเร็วเกินไป หมาไม่น่าตายเลย

ที่มีคนถาม ทำไมคน, สุนัข, หนู ติดเชื้อได้ แต่สิงโต,กวาง,นก, ปลา ถึงไม่ติดเชื้อ ผมก็สงสัยเหมือนกัน

ดูแล้วอาจจะมีภาค 2

สนุก + เศร้า มากๆ

ตอบ >> ใครยิงจรวดใส่สะพาน ยิงทำไม

เค้ายิง กั้น ไม่ให้ใครข้ามมาแล้ว คนยิงคือทหาร ครับ

ตอบ >> ตอนต้นเรื่องคนอื่นตายหมด แต่พระเอกกับหมารอดชีวิตได้ยังไง พอฮอตกก็ไม่เห็นเล่าต่อเลย (เก็บไว้ทำภาค 2 รึเปล่า)

เพราะพระเอก มีภูมิคุ้มกัน ที่คนมีเพียง ไม่กี่คนที่มี หมานั้น ผมไม่ทราบ พอฮอร์ ตกลูกกะเมียเค้า ก็ตายงัยครับ - -*

ผลสรุปคือให้ 100เต็ม10

I am Legend : ข้าคือตำนานพิฆาตมหากาฬ

หนังแนวหายนะมวลมนุษยชาติ คงจะถูกใจใครหลายๆคนน่าดู แต่จะดีกว่าไหม
ถ้าเรื่องที่พูดถึงนี้มีประเด็นดราม่า และการแสดงขั้นสุดยอดของ Will Smith

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ตัวผมเองได้มีโอกาสไปสัมผัส I am Legend แบบ
Imax Experience มา ขอบอกว่าสุดยอด และได้อารมณ์มากๆ ยิ่งช่วยทำให้หนังดูยิ่งใหญ่กว่าเดิม

กลับมาที่ตัวหนังกันต่อ ผกก. Francis Lawrence ฝีมือพัฒนามากขึ้น มีการใส่ชีวิตลงไปในหนัง
ทำให้มันดูมีชีวิตและเป็นความสมจริงมากกว่างานก่อนหน้านี้อย่าง Constantine
และแน่นอนว่าหนังไม่ได้แอ็คชั่นจ๋าอย่างที่หลายคนคาดหวังที่จะมารับกัน แต่หนังเล่นกับความหว้าเหว่
ความโดดเดี่ยว และความน่าสะพรึงกลัว จึงทำให้ด้านดราม่าผสมผสานกับแอ็คชั่นได้ดี
แถมหนังดำเนินเรื่องได้น่าติดตามด้วยการอาศัย Flashback แบบเป็นจังหวะๆ
ช่วยกระตุ้นให้คนดูสนใจที่จะรับรู้และอยากรู้มากขึ้น ทำให้ติดตามหนังอย่างต่อเนื่อง
แม้เนื้อเรื่องออกจะแนวเดิมๆก็ตาม แต่การเล่าเรื่องนั้นยอดเยี่ยมทำให้ส่วนนี้กลับสนุกขึ้นได้

ฉากเมืองร้าง ภาพความหว้าเหว่ แสดงออกมาอย่างทรงพลัง ดูหวังเวง น่ากลัว แต่เสียไปนิด
ตรงเอฟเฟกต์ของแวมไพร์ที่น่าจะสวยและสมจริงกว่าที่เป็น เพราะฉากสะพานที่พูดถึงนั้น ขอบอกว่าอลังการมากๆ
Will Smith ฝากการแสดงกับงานนี้อย่างยอดเยี่ยม ฝีมือดีไม่มีตก เขาสามารถแบบรับหนังคนเดียวได้ทั้งเรื่อง
และเล่นได้อย่างธรรมชาติมาก มีความเป็นมนุษย์จริงๆ เพราะเขาเล่น บทดราม่า บทแอ็คชั่น
ผสมผสานได้อย่างดี ฝีมือดีไม่มีตกจริงๆ แต่ที่ประทับใจแบบเซอร์ไพรส์เล็กน้อยคือ ฝ่ายแวมไพร์ หรือที่เรียกกันว่า Dark Seeker
ไม่ได้โง่ และซื่อบื้อเหมือนหนังทั่วไป แต่จะออกแนวเดียวกับ 28 Weeks Later เลยทีเดียว
ถ้าใครได้ดูแล้ว คงจะชอบตรงจุดนี้กันพอสมควรทีเดียว

เนื้อเรื่อง แม้แนวทางเนื้อเรื่องออกจะซ้ำซากตามสูตรไปสักนิด แต่การเล่าเรื่องและการดำเนินเรื่อง ทำได้ดี และน่าติดตาม
เอฟเฟกต์ ฉากระเบิด ฉากสะพาน สวยสมจริง เว้นแต่แวมไพร์และสัตว์ต่างๆที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้
การแสดง Will Smith แบบรับภาระทั้งเรื่องได้อย่างดี โดยเฉพาะด้านดราม่าที่ทำได้อย่างดีเยี่ยม
ความบันเทิง หนังไม่ใช่ความบันเทิงดาดๆ ฉากแอ็คชั่นมีไม่บ่อยนัก แต่แต่ละครั้งที่มีฉากแอ็คชั่น ยิ่งใหญ่อลังการ
คุณภาพ ภาพรวมก็ถือว่าเป็นผลงานครั้งที่ 2 ของผกก. Francis Lawrence ที่ดีกว่างานแรก
แต่ถ้าคุณภาพในหนังที่เยี่ยมจริงๆคือการแสดงของ Will Smith ครับ

มาดูคะแนนกันเลยครับ
เนื้อเรื่อง 7.5/10
เอฟเฟกต์ 8/10
การแสดง 8.5/10
ความบันเทิง 7.5/10
คุณภาพ 8/10
คะแนนรวม 39.5/50 ให้เกรด B+ ครับ แต่ถ้าส่วนตัวผมให้ B ครับ
หนังดูสนุกพอสมควร แต่ไม่ใช่หนังแนวยิงกระจาย จึงทำให้บางช่วงของหนัง อาจทำให้ใครหลายคนเริ่มเซ็งได้
แต่หนังน่านับถือตรงที่การนำนักแสดงคนเดียวเล่นเกือบทั้งเรื่อง แถมยังออกมาได้ดีด้วย

สนุกมาก.. หนังสามารถดึงอารมณ์คนดูได้ชวนลุ้น ตื่นเต้นตั้งแต่ต้น เปิดเรื่องด้วยฉากเมืองนิวยอร์กซิตี้ที่ รกร้างว่างเปล่าดูแล้วยังคนลุก เมืองที่เคยเป็นความเจริญสูงสุดของโลก กลับหลงเหลือแค่ซากไร้ผู้คน มีแต่ต้นหญ้าต้นไม้รกร้าง คนออกแบบงานสร้างฉากทำได้ดีมาก เรื่องของคนติดเชื้อ(หรือจะเรียกว่าซอมบี้ก็ได้มั้ง) ทำได้ดูมีสไตร์ไม่เหมือนเรื่องไหน แต่บางฉากอาจทำให้นึกถึงหนังเก่าๆ ของ วิล สมิธ อย่างตอนาพวกซอมบี้ยกขโยงมาที่บ้านดอกเตอร์โรเบิร์ต เนวิล พระเอกของเรื่องและการไล่ล่าที่สะพานดูคล้าย I Robot ที่หุ่นยนตร์ยึดเมืองและไล่ปืนตามพระเอกไปบนยอดตึก
เรื่องของการแสดง วิล สมิธ ฉายเดี่ยวได้อย่างภาคภูมิ น่าส่งเข้าไปชิงรางวัลภาพยนตร์ต่างๆได้ พี่วิล ทำให้คนดู อินไปกับการ บ้าหรือคลั่งของคนที่อยู่คนเดียวบนโลก ตอนครอบครัวพระเอก...ที่สะพาน.. ตอน...แซม หมาของพระเอก ได้ต่อสู้และ... ตอน จบ... ซึ่งไม่อยากให้จบแบบบนี้ แต่ก็ดี
แอฟแฟคทำได้ดีทีเดียว แต่ก็อาจจะยังดูเดิมๆ ที่ฮอลลีวู้ดสามรถเนรมิตได้อยู่แล้ว แต่ฉากเมืองนิวยอร์กเป็นเมืองร้าง ทำได้ไง สำหรับบางคนหนังอาจดู ยืดยานไปบ้าง แต่จะบอกว่าหนังต้องการความเป็นดราม่าที่สื่อให้เห็นเมื่อมนุษย์ต้องอยู่ในสภาพที่กดดัน อยู่คนเดียวมีเพื่อนก็คือสุนัขอย่างเดียว และก็ต้องอยู่หลบๆ ซ่อนๆ แล้วอยู่ๆ ก็ไปพบบคนเป็นๆที่ไม่ได้ติดเชื้อ ทั้งการทดลองอยากทำให้โลกกลับมาเป็นเหมือนเดิม
คุ้มค่ากับการแสดงของวิล สมิธ หนังดูดีมีระดับกว่าซอมบี้เถื่อนๆ ทั่วไป ดูได้เอามันได้ แต่ไม่เหมาะกับคนที่จะไปดูเพื่อฉากแอ็คชั่นตูมตาม อย่างเดียว ที่หนังต้องการแฝงสาระของมนุษย์ที่อยู่คนเดียวบนโลกไม่ได้

หนังดีครับ ดูแล้วมีลุ้นดีครับ

-ดึงอารมณ์ผู้ชมให้คล้อยตามได้เยี่ยมทีเดียว ลุ้นตลอดเลย
-ชอบที่ซอมบี้ไม่เชื่องช้า เดินทึ่มๆ แบบเรื่องอื่นๆ เรื่องนี้ซอมบี้ฉลาดมากแถมว่องไว ทำให้คิดถึงหนังเรื่อง Jurassic Park
-ฉากแสงแดดกั้นหมาซอบบี้ ทำให้คิดถึงหนังเรื่อง Star Wars
-ฉากสู้กับซอมบี้ที่ท่าเรือ ทำให้คิดถึงหนังเรื่อง I Robot
-ฉากเมืองร้าง ทำให้คิดถึงหนังเรื่อง 28 Days Later
-มีข้อสงสัยเล็กน้อย ทำไมคน, สุนัข, หนู ติดเชื้อได้ แต่สิงโต,กวาง,นก, ปลา ถึงไม่ติดเชื้อ
-ใครยิงจรวดใส่สะพาน ยิงทำไม
-ตอนต้นเรื่องคนอื่นตายหมด แต่พระเอกกับหมารอดชีวิตได้ยังไง พอฮอตกก็ไม่เห็นเล่าต่อเลย (เก็บไว้ทำภาค 2 รึเปล่า)
-สรุปว่าหนังดีมากครับ แนะนำให้ไปดูกัน ไม่เสียดายตังค์แน่ๆ
-ให้คะแนน 9/10

ไปดูมามะกี้ ดีกว่า เข็มทิศเยอะ น้ำตาไหลไป1 ฉาก

ดูแล้วไม่เสียอารมณ์ เหมือนเข็มทิศ ทองคำ

หัวหน้าตัวติดเชื้อ ยังฉลาดกว่า โคลสเตอร์ อีก

หลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ผมคิดว่า เป็นหนังฝรั่งที่สนุกมากๆ อีกเรื่องนึงในปีเลยก็ว่าได้ หนังดีครบหมดแล้ว แต่ไปติดกะแค่ฉากจบ ที่ไม่สวยซักเท่าไหร่ และยังจบแบบหนัีงไวรัสอีกด้วย

มุมกล้อง 8/10 > ยังไม่ดีสักเท่าไหร่ครับ

ฉาก & CG 10/10 > สมบูรณ์ที่สุด คือฉากนิวยอร์กร้าง ที่ไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนเลย ส่วน CG ตัวแวมไพร์ยังไม่เนียนเท่าไหร่ครับ

การแสดง 10/10 > พี่วิลเล่นดีมากๆ เลย ฉากที่อยู่ตรงท่าเรือตอนรถขว่ำ ที่พวกแวมไพร์วิ่งไล่เข้ามา ผมคิดว่าดู I Robot ซะอีก

บท 7/10 > ยังไม่สะใจสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะตอนจบ

ลำดับฉาก & Effect > 9/10 เจ๋งมากๆ มันทำให้คนดูงงได้ เพราะเปิดเรื่องมา ไม่มีการไล่ลำดับเลย พึ่งมาย้อนให้ดูตอนหลัง ผมชอบแบบนี้

รวมๆ แล้ว ผมให้ 8.8/10 ครับ

ไปดูแล้ว ก็ OK นะครับ ค่อนข้างดีเลยด้วยสำหรับนักแสดง แต่ติที่เนื้อเรื่องอ่ะ โดยเฉพาะตอนจบที่ไม่ชอบเท่าไหร เอาไป 8 พอ