วิจารณ์ Atonement
-
CTU
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 13 ต.ค. 51 11:51
เพิ่งได้ดูดีวีดี ผมชอบหนังเรื่องนี้ที่ทำให้พล็อตธรรมดาดูน่าสนใจตรงที่การถ่ายย้อนไปมา เรื่องนี้ตอนจบทำร้ายจิตใจผมมากๆเลย แต่โดยรวมชอบ แนะนำว่าให้ซื้อเรื่องเป็นดีวีดีบ็อกเซ็ตชุด Double The Romance ที่แคทฯทำออกมาเพราะคุ้มราคากว่า และขอแนะนำอีกนิดว่าให้ดูเรื่องนี้ก่อนแล้วค่อยดู Pride & Prejudice หากไม่อยากรู้สึกอารมณ์ค้างกับ Atonement แบบผม
-
ศีแรดำพ์
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 4 เม.ย. 51 00:49
หนังเรื่องนี้ที่ไม่ได้รางวัล academy award ก็เพราะอยู่แค่ระดับ -B และก็ไม่ควรเป็นหนังในระดับ R หนังเป็นได้แค่ ระดับ PG เพราะไม่มีอะไรที่แสดงอนาจาร หรือบาดตา บาดใจ ยั่วยวน รวมทั้งฉากสงครามเองก็ไม่น่ากลัวอะไร เพราะดูข่าวสงครามในอิรักยังหนักกว่ามากนัก
สำหรับภาพถ่ายก็ไม่ได้วิเศษสวยงามอะไรนัก ธรรมดา ธรรมดา กับภาพทิวทัศน์ เมื่อดูหนังเรือ่งนี้แล้ว ก็ไม่ต่างไปจากดูหนังทางโทรทัศน์ที่ฉายให้ดูใน PBS ในอเมริกาเช่น Masterpiece Theatre จนเมื่อเปรียบเทียบดูแล้วทำให้คิดว่า หนังคลาสิคที่ฉายให้ดูใน Masterpiece Theatre ทำได้ดีกว่าเสียด้วยซ้ำ เรื่องของเนื้อหาในหนังก็เป็นเรื่องของความอิจฉา ริษยา สร้างภาพพจน์ที่เข้าใจผิดกันเองในครอบครัว ถ้าเป็นละครแบบไทยๆก็น้ำเน่าโบราณ แต่เมื่อฝรั่งอังกฤษทำเป็นภาพยนต์ ยอมได้รับการต้อนรับและมีคุณภาพกว่าน้ำเน่าแบบไทยๆ
การตัดต่อของหนังค่อนข้างสับสน ย้อนไปย้อนมา สาเหตุเพราะหนังไม่มี plot ที่สับสนอะไรมากนัก ในช่วงเริ่มต้นก็พอดูได้ บรรยากาศที่คฤหาสที่ร่มรื่นของคนที่มีฐานะ ที่ต่างกับตัวเอกที่เป็นคนงานทำงานในสวน ที่หลงรักกับลูกสาวเจ้าของบ้าน ความแตกต่างทางชนชั้น แต่ความรักนั้นเลือกไม่ได้ แต่หนังก็ลงเอยไปที่น้องสาวที่มีความอิจฉาและต้องการความสนใจ ซึ่งเธอเองก็แอบชอบผู้ชายที่เธอเองทำลายอนาคตด้วย เช่นเดียวกับที่เธอทำลายความรักของพี่สาวตัวเอง และหนังลงเองด้วย Briony เป็นคนเขียนบันทึกเรื่องราวในตอนใกล้จะตาย สร้างภาพพจน์ที่เธอเองไม่สามารถแก้ไขได้เพื่อเป็นการชดเชยจากโศกนาตกรรมที่เป็นจริงในชีวิต
Atonement เป็นชื่อที่เหมาะสมสำหรับหนัง แต่เป็นหนังที่ดูได้อย่างฉาบฉวยเพียงครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น ในวันที่ไม่มีอะไรจะทำและน่าเบื่อหน่าย -
maawthai
(เลขที่ 86810)
เมื่อ 10 มี.ค. 51 22:03
อืม... หนังดีนะชอบวิธีการนำเสนอพอไบรโอนี่คิดเสร็จก็มีการอธิบายเหตุการณ์จริงว่าเป็นยังไง
-
^Or_Mrs.Coulter^
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 15 ก.พ. 51 11:41
หนังดีค่ะ มีช่วงน่าเบื่อบ้าง ตอนพระเอกเป็นทหาร มันเอื่อยไปหน่อย เหมือนไม่รู้จุดประสงค์ แต่พอรู้จุดจบตอนท้ายแล้ว ก็เหมือนเค้าต้องการสื่อบางอย่าง....
ตัวเองก็แต่งหนังสือมีจินตนาการเยอะเหมือนกัน ใช้แค่การเอาตัวรอดค่ะ แต่ไม่คิดจะใช้เพื่อให้ใครเดือดร้อนอย่างนี้จริงๆ สงสารพระนางอย่างสุดซึ้ง เพราะเด็กบ๊องๆ คนเดียว แต่จบแบบนี้ดีแล้ว อย่างน้อยสุดท้ายก็เกลียดเธอไม่ลงจริงๆ
ให้ 9.5/10 ค่ะ ลบไป 0.5 สำหรับความน่าเบื่อบางตอน
PS.เคียร่าน่ารัก (แต่บางลงเยอะจริงๆ แฟบไปหมดเลย) T_T -
butterfly2
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 10 ก.พ. 51 02:11
-นักเขียนส่วนใหญ่มักมีจิตนาการค่อนข้างสูง ไบรโอนี่ก็เช่นกัน เพียงเธอรวมความอิจฉาริษยาเข้าไปด้วย กว่าจะสำนึกได้ก็สายเสียแล้ว
-เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "คิดให้รอบคอบ ก่อนทำอะไรลงไปเสมอ"
-มหัศจรรย์ Long Take 5 นาที เซ็ตฉากได้ยอดเยี่ยมจริงๆ
-ขอติเรื่องทรงผมไบรโอนี่น่าจะเปลี่ยนบ้างนะ กลัวคนดูไม่รู้รึไงว่าเป็นใคร
-ให้คะแนน 9/10 -
treenot
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 ก.พ. 51 21:16
คุณภาพโดยรวมค่อนข้างดีมาก
เสียงประกอบดี เนื้อเรื่องไหลลื่น ผมคิดว่าจะไม่มีไรนอกจากนี้...
แต่ตอนใกล้จะจบผมคิดผิด คงจะไม่บอกว่าเป็นไง แต่...
พูดได้อย่างเดียวว่า ไปดูแล้วคุ้มทีเดียว -
J@y_Wyler
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 6 ก.พ. 51 15:29
Atonement : ตราบาปลิขิตรัก
" สุดยอด ตราตรึง ประทับใจ " ต้องขอพล่ามสักนิดเนื่องจากตัวผมไม่ได้มีโอกาสเข้าโรงหนังเสียนาน
คำกล่าวเมื่อสักครู่นี้คือนิยามสั้นๆให้กับหนังเรื่องนี้ หนังถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมา
อย่างละเอียดสร้างอารมณ์ร่วมอย่างดี เหมือนเราเข้าอกเข้าใจ ในตัวไบรโอนี่อย่างดี
หนังทั้งเรื่องจะเล่าถึง ชีวิตของไบรโอนี่ ที่เธอชอบการเขียนนิยายเป็นชีวิตจิตใจ แต่ลึกๆเธอก็แอบหลงรัก
ร็อบบี้ (James McAvoy) แต่เขานั้นกับมีใจให้กับพี่สาวของเธอ ซิซีเลีย (Keira Knightley)
เรื่องทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิดของ ไบรโอนี่ ทำให้ทั้งสองต้องพลัดพรากกัน และความผิดครั้งนี้มันก็เป็นเหมือน
ตราบาปที่จะติดตัวเธอไปตลอด ถึงแม้เธอจะหาทางชดใช้เท่าไร ไม่ว่าจะเป็นพยาบาลในสงครามก็ตามที
หนังคุมองค์ประกอบต่างๆในตัวหนังได้อย่างดี ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ตีโจทย์ในสิ่งที่ต้องการจะเสนอคือ
ในด้านของการสำนึกผิดและการไถ่โทษ และยิ่งองค์ประกอบต่างๆในหนังนั้นยิ่งคอยย้ำเหตุการณ์ในอดีต
ว่าสิ่งที่ไบรโอนี่ทำมันช่างเลวร้ายขนาดไหน
การดำเนินเรื่องจะมีสลับกัน 2 ช่วงคือ การเล่าเรื่องในมุมมองของไบรโอนี่ และมุมมองของคนอื่น
ซึ่งส่วนใหญ่มุมมองด้านไบรโอนี่จะมาก่อน แล้ว อีกมุมมองจะตามมาเหมือนค่อยช่วยย้ำและเพิ่มน้ำหนักในเหตุการณ์
นั้นๆให้หนักแน่นขึ้น
สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดในความคิดของผมคือ ช่วงเวลา 5 นาทีสุดท้าย ที่เป็นไบรโอนี่ ในวัยชรา ที่เธอ
แต่งนิยาย ชื่อ "Atonement" เพื่อไถ่บาปและสำนึกผิด และจะเป็นบทสรุปทั้งหมด ซึ่งตรงนี้ตัวหนังทำออกมาจับใจคนดูได้อย่างอยู่หมัด
และซาบซึ้ง จนบางทีถ้าใครบ่อน้ำตาตื้นอาจจะมีอารมณ์ร่วมตาม
แม้ช่วงกลางๆเรื่องจะเอื่อยบ้างเล็กน้อย อาจชวนเบื่อ แต่ขอบอกว่า บทสรุปปิดท้ายของหนังจะทำให้คุณประทับใจอย่างแน่นอน
เนื้อเรื่อง สนุก ซับซ้อน ชวนให้ติดตามตลอดเวลา แม้ว่าช่วงกลางจะอืดพอสมควร
เอฟเฟกต์ การกำกับภาพและองค์ประกอบต่างๆทำออกมาสวยงาม แม้กระทั่งฉากสงครามที่ถ่ายทอดอารมณ์หดหู่ได้อย่างดี
การแสดง James McAvoy , Keira Knightley ทั้ง 2 แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม
และที่น่าชื่นชมคือการที่หนังมี ไบรโอนี่ถึง 3 คน แต่ทั้ง 3 คนนั้น
ไม่ได้ทำให้อารมณ์ของหนังเปลี่ยนไปเลย เหมือนกับว่า ไบรโอนี่ ทั้งหมดคือคนคนเดียวกัน
ความบันเทิง หนังคุณภาพ ยังไง มันก็ยังดุยากอยู่ดีและครับ
คุณภาพ ยอดเยี่ยม น่าประทับใจที่หนังถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างดี เหมือนกับเราได้อ่านนิยายเองจริงๆ
มาดูคะแนนกันเลยครับ
เนื้อเรื่อง 9/10
เอฟเฟกต์ 8/10
การแสดง 9.5/10
ความบันเทิง 6.5/10
คุณภาพ 8.5/10
คะแนนรวม 41.5/50 ให้เกรด A- ครับ แต่ถ้าส่วนตัวผมให้ A- เช่นกันครับ
หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี การสำนึกผิด การไท่โทษ ที่มันตราตรึงตัวเราตลอด
หนังเรื่องนี้ เป็นเหมือนเครื่องช่วยเตือนว่า -
ppp
(เลขที่ 60863)
เมื่อ 28 ม.ค. 51 22:25
หนังเรื่องนี้สนุกมาก เหมาะกับคนที่กำลังมีความรัก ภาพสวยมาก การแสดงของนักแสดงทำให้เราเข้าถึงตัวละคร นางเอกสวยมากๆๆขอบอก
-
birdyboy
(เลขที่ 178420)
เมื่อ 21 ม.ค. 51 22:54
หนังดีที่ไม่ควรพลาดเรื่องหนึ่งในช่วงต้นปีนี้ สำหรับคนที่เป็นแฟนหนังออสการ์ทั้งหลาย
เนื้อเรื่องน่าสนใจและซับซ้อน การแสดงก็เข้าถึง เด็กผู้หญิงแสดงดีมาก ทำให้เราเชื่อได้ว่าเธอสามารถทำสิ่งที่เลวร้ายโดยรู้เท่าไม่ถึงการได้ ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่น่าสนใจที่สุดเพราะเป็นตัวละครที่ทำให้เกิดการผูกปมเรื่องทำให้เกิดความน่าติดตาม การที่เราได้ตามการเติบโตของตัวละครตัวนี้ทำให้เราเข้าถึงความรู้สึกนึกคิดโดยเฉพาะความรู้สึกผิดและต้องการไถ่บาปได้อย่างลึกซึ้ง
การกำกับก็ทำออกมาได้ไม่ยืดเยื้อ อาจจะมีช่วงต้นของหนังที่เราดูแล้วรู้สึกงงๆนิดๆ แต่ปมที่ถูกผูกขึ้นก็ค่อย ๆ คลี่คลายจนถึงตอนจบของหนังที่ดูแล้วทำให้รู้สึกอึ้งไปเลย.....
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- 30 กำลังแจ๋วเข้าฉายปี 2011 แสดง พัชราภา ไชยเชื้อ, ภูภูมิ พงษ์ภาณุ, ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล
- Corpse Brideเข้าฉายปี 2005 แสดง Johnny Depp, Helena Bonham Carter, Emily Watson
- Lord of Warเข้าฉายปี 2005 แสดง Nicolas Cage, Ethan Hawke, Jared Leto
เกร็ดภาพยนตร์
เปิดกรุภาพยนตร์
Special Actors คาซูโตะ โอโนะ (คาซูโตะ โอซาวะ) เป็นคนมีโลกส่วนตัว เขาใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดง และอยากเป็นซูเปอร์ฮีโร แต่ด้วยอุปสรรคสำคัญที...อ่านต่อ»