เกร็ดน่ารู้จาก ช็อคโกแลต
เกร็ดน่ารู้
- จีจ้า - ญานิน วิสมิตะนันทน์ สัมผัสวิถีการต่อสู้ด้วยเทควันโด้ตั้งแต่อายุ 11 ปีและสามารถคว้าเทควันโด้สายดำได้ในเวลาแค่ 2 ปี ก่อนจะมาบ่มเพาะความสามารถในการต่อสู้จาก พันนา ฤทธิไกร นานถึง 4 ปีเต็ม สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้
- ในตอนแรกนั้น จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันท์ มาคัดเลือกเป็นนักแสดงในภาพยนตร์เรื่อง เกิดมาลุยของ พันนา ฤทธิไกร ทำให้ พันนา ได้เห็นความสามารถและชักชวน จีจ้า ให้มาฝึกอยู่ด้วยกัน ทั้งๆ ที่ก็ยังไม่รู้ว่าจะสร้างภาพยนตร์เรื่องใด
- จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันท์ ผู้รับบท เซน สาวน้อยที่มีความสามารถในการต่อสู้นั้น เป็นครูสอนเทควันโด้และมีความสามารถในการเล่นยิมนาสติกด้วย
- เดิมที จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันท์ เป็นสาวน้อยขี้โรคในวัยเด็กที่ยอมตัดสินใจเรียนเทควันโด้ เมื่ออายุได้เพียง 11ปี (พ.ศ.2538) เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง จากนั้นก็ฝึกจนได้สายดำดั้งที่ 1 เมื่อปี 2540 และได้สายดำดั้ง 2 ในพ.ศ. 2542 และสายดำดั้ง 3 ในพ.ศ. 2546
- จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันทน์ เป็นมิสเทควันโดคนแรกของประเทศไทยใน ปี 1999 ซึ่งเป็นการประกวดแข่งท่ารำและท่าเตะแบบสวยงาม
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลาเตรียมการและถ่ายทำนานถึง 4 ปี โดยใน 2 ปีแรกนั้น จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันท์ ต้องฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้มาโดยตลอด และใช้เวลาถ่ายทำอีก 2 ปี โดยที่ จีจ้า ก็ยังต้องฝึกซ้อมต่อไปในขณะถ่ายทำด้วย
- แรงบันดาลใจในการทำงานของผู้กำกับ ปรัชญา ปิ่นแก้ว มาจากความศรัทธาที่เขามีต่อ บรู๊ซ ลี, เฉินหลง และ จา - พนม ยีรัมย์
- ภาพยนตร์ที่ตัวละครของ จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันท์ ดูทางโทรทัศน์นั้น รับบทนำโดย จา - พนม ยีรัมย์ ซึ่งกำกับโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว เช่นเดียวกับเรื่องนี้
- ระหว่างการถ่ายทำในฉากต่อสู้ที่ระเบียงตึกนั้น จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันท์ ประสบอุบัติเหตุอย่างหนักขณะถ่ายทำ คือโดนเตะเข้าที่ตาทำให้ตาปิดไปในทันที ทางผู้กำกับจึงสั่งให้ยกเลิกกองกลางคันตอนเที่ยงคืน และทำให้ต้องหยุดกองนานเป็นอาทิตย์
- นอกจาก จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันท์ จะศึกษาเรื่องเด็กออทิสติกทางหนังสือ อินเตอร์เน็ต และการศึกษาโดยตรงจากเด็กพิเศษเหล่านี้แล้ว เธอยังศึกษาเพิ่มเติมจากภาพยนตร์เรื่อง Rainman, Awakening และ Forrest Gump
- ฉากแอ็กชั่นที่มีเรื่องราวเพียงไม่กี่นาทีนั้น กว่าจะออกมาอย่างที่เห็นได้ พันนา ฤทธิไกร จะต้องออกแบบคิวบู๊ขึ้นมาก่อน ส่วนนักแสดงและนักแสดงแทนนั้นต้องฝึกซ้อม และทำเวิร์กช็อป ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาถึง 3-6 เดือน แล้วต้องมาฝึกซ้อมจริงที่สถานที่ถ่ายทำอีกประมาณ 1-2 อาทิตย์ จนทุกอย่างลงตัวถึงเริ่มต้นถ่ายทำ
- เรื่องนี้มีแชมป์มวยไทยรวมด้วย 3 คน ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ 2 คนคือ ซูเมีย ชาวฮอลแลนด์ และ ซูจง ชาวเกาหลี และคนไทย คือ โอ๋ - ศิริมงคล สิงห์วังชา
- ฉากรักระหว่าง ส้ม - อมรา ศิริพงษ์ กับ ฮิโรชิ อาเบะ เป็นฉากที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก โดยส่วนศีรษะเป็น ส้ม ส่วนตัวเป็นของนักแสดงแทน
- ฉากแอ๊กชั่นที่ตัวละครของ จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันท์ ต่อสู้แบบ บรู๊ซ ลี เป็นฉากแรกของ จีจ้า หลังจากเก็บตัวซ้อมมาถึง 2 ปีเต็ม
- สภาพแวดล้อมในการถ่ายทำฉากแอ๊กชั่นบนพื้นไม้ที่ทั้งลื่นและเปียกจากก้อนน้ำแข็ง อบอวลไปด้วยกลิ่นแอมโมเนีย เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตน้ำแข็ง ทำให้ จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันท์ ต้องสูดกลิ่นแอมโมเนีย เป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จนเส้นเลือดฝอยในลำคอแตก และไอออกมาเป็นเลือด
- เดิมทีมีบทของ ดา - ศักดา พัทธสีมา อยู่ในเรื่องนี้ด้วย แต่ภายหลังถูกตัดออก
advertisement
วันนี้ในอดีต
Oppai Volleyballเข้าฉายปี 2010 แสดง Haruka Ayase, Munetaka Aoki, Toru Nakamura
Fanเข้าฉายปี 2016 แสดง Shah Rukh Khan, Waluscha de Sousa, Shriya Pilgaonkar
Seobokเข้าฉายปี 2021 แสดง Gong Yoo, Park Bo-Gum, Jo Woo-Jin
เกร็ดภาพยนตร์
- The Green Inferno - ผู้กำกับ อีไล รอธ และคณะถ่ายทำเดินทางไปหาชาวบ้าน ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองชาวเปรู ให้ร่วมแสดงภาพยนตร์ด้วย แต่ อีไล เพิ่งตระหนักว่าชาวบ้านไม่เคยดูภาพยนตร์มาก่อน และไม่มีทางนึกได้ว่าภาพยนตร์จะออกมาแบบไหน อีไล จึงนำโทรทัศน์และภาพยนตร์เรื่อง Cannibal Holocaust (1980) ไปเปิดให้ดู ชาวบ้านชอบภาพยนตร์เรื่องนั้นมากและยินดีร่วมแสดงภาพยนตร์ อ่านต่อ»
- Everest - เรื่องราวในภาพยนตร์อ้างอิงจากหนังสือเกี่ยวกับภัยพิบัติที่ยอดเขาเอเวอเรสต์เมื่อปี 1996 หลายเล่ม หนึ่งในนั้นคือหนังสือเรื่อง Into Thin Air เขียนโดย จอน ครากอาวร์ ที่ในภาพยนตร์แสดงโดย ไมเคิล เคลลี และยังอ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
The Father
เมื่อ แอนโธนี (แอนโธนี ฮอปกินส์) อายุย่าง 80 และหยิบจับอะไรไม่ถนัด แอนน์ (โอลิเวีย โคลแมน) ลูกสาวที่ห่วงพ่อมากกว่าอะไรท...อ่านต่อ»