SIAMZONE.COM

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ยืนยันในความมืดมนและหม่นหมองของหนังเรื่องนี้ครับ คุณแทบจะไม่เจอฉากที่เรียกว่าความสุขได้จริงๆเลย ทั้งฉากเรือ 2 ลำที่แสดงให้เห็นถึงความดีและความมีน้ำใจของมนุษย์ก็ไม่สามารถสร้างอารมณ์ในด้านบวกได้เพราะรู้สึกว่าหนังพยายามจะเน้นไปที่การตัดสินใจในช่วงวินาทีสุดท้ายทำให้ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วไม่อยากทำหรือไม่กล้าทำกันแน่ อีกฉากคือตอนที่กอร์ดอนกลับมาหาครอบครัว ก็ดันเป็นช่วงสั้นๆจนไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกมากเท่าที่ควร(โดนเมียตบหน้าก่อนจะกอดกันอยู่ 3 วิ) หรือตอนจบที่พระเอกโชว์ความเป็นลูกผู้ชายตัวจริงแบบสุดๆก็ยังทิ้งสิ่งที่เรียกว่า "ความเกลียดชัง" ไว้ในภาคต่อไปอีก สุดๆจริงๆครับกับหนังที่มีแต่การโกหก, หลอกลวง, หักหลัง, ความสูญเสีย, ความผิดหวัง และอารมณ์ด้านมืดทุกอย่างที่จะรู้สึกได้ในหนังฮีโร่เรื่องหนึ่ง ไปดูครับแล้วจะรู้ว่าคุณได้ดูหนังที่พาคุณดำดิ่งสู่ด้านมืดทุกรูปแบบที่มนุษย์จะมีได้ "ที่ดีที่สุดในโลกเรื่องหนึ่ง" และนั่นคือความสุขเพียงอย่างเดียวที่ได้จากหนังเรื่องนี้ครับ

- เห็นด้วยที่ฉากนางเอกตายไม่เร้าอารมณ์เท่าที่ควรเพราะทั้งหน้าตาและการแสดงไม่ถึงขั้นจะเป็นนางเอกจริงๆครับ ไม่รู้ว่าพยายามจะหาคนที่มาเล่นให้เหมือน Katie Holmes ให้มากที่สุดหรือเปล่าแต่ก็ยังไม่เหมือนอยู่ดี (ขอโทษแฟนๆของ Maggie Gyllenhaal ด้วยครับ) และงงมากๆครับกับคำพูดของทางวอร์เนอร์ที่แค้น Katie Holmes จนออกมาประกาศเมื่อตอนจบภาค Batman: Begins ว่า "ผู้คนส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่าความสำเร็จที่ได้จากหนังในภาคนี้มาจากนักแสดงหลักในเรื่องทั้ง 3 คนคือ คริสเตียน เบลล์, ไมเคิล เคน และมอร์แกน ฟรีแมน ส่วนบทนางเอก (หมายถึง เคธี่ โฮมส์) ไม่ได้มีส่วนดึงคนเข้ามาดูหนังเรื่องนี้เลย และเป็นที่แน่นอนว่าจะไม่มีเธอมาร่วมงานในโปรเจคต์ต่อไปแน่นอน ทางเราคงต้องหานางเอกที่ดึงคนเข้ามาดูได้มากกว่านี้" หาได้คนนี้จริงๆเหรอครับ? ลองหานางเอกจากตัวเลือกทั้งหมดกี่คนครับ?

- ไม่ว่าจะหาใครมาเล่นแทน Heath Ledger ก็คงไม่สามารถลบภาพ Joker ที่เล่นในภาคนี้ไปได้ สุดยอดจริงๆครับ ขอไว้อาลัยไว้ ณ ที่นี้ R.I.P

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น บอกคำเดียว ผู้กำกับคนนี้ ผมดูกี่เรื่องของเขาทำได้ดีทุกเรื่อง ผมคาดไว้ไม่ผิดหนังดีจริงๆ ฉากเสียวๆ มันๆ ทุกเรื่อง โม้อยุ่ฉากเดียว ฉากหน้า ของฮาวี่ ทำได้สยองมากๆๆ แล้ว Twoface ในเรื่องปรากฏตามหาคนผิดที่ทำให้ราเชลตาย ผมดู TwoFace เนื้อเรื่องภาคนี้ กับ ภาค แบทแมนที่ ทอมมี่ ลีโจนส์ แสดง คนละเรื่องเลย

ข้อคิดของผู้กำกับคนนี้ในหนังเรื่องนี้ สอนให้รู้ความจริงของมนุษย์ คนดีทำความดีง่าย แต่คนชั่วทำความดียาก

ไปดูมาแล้วค่ะสนุกดีค่ะเป็นหนัง super hero ที่สนุกที่สุดเท่าที่เคยดูมาเพราะเรื่องอื่นพยายามที่จะหาวายร้ายที่มีพลังพิเศษมาสู้กับsuper hero แต่เรื่องนี้วายร้ายเป็นคนธรรมดาที่สามารถกดดัน super hero มีเป็นคนธรรมดาที่พยายามจะช่วยเมืองของเค้าให้กลับมาสงบสุข เนื่อเรื่องนั้นได้อารมณ์ครบทุกอารมณ์ไม่เน้นความเป็น super hero อย่างเดียวแต่ทำให้รู้ว่า super hero ก็มีความเป็นคนอยู่

คุ้มค่ากับการรอคอย
ความเข้มข้นของบทสุดยอด บทแข็งแรงมากๆ
หนังนำเสนอ ด้านมืดของจิตใจทุกๆคน ทั้งประเด็นความดีความเลว สะท้อนความเป็นมนุษย์ สัญชาติญาณการเอาตัวรอด ความโลภ
(ชอบตอนเรือ2ลำมาก)
ประเด็นของหนังทำออกมาดี วางจุดพลอตได้น่าสนใจ
และจบได้ดีมากๆ หนังทำให้ลงตัวในทุกอยากจริงๆ
ถือเปนผลงานที่น่าจดจำของปีนี้นอกจากIron man

ps.ในหนังฟอร์มยักษ์ที่เต้มไปด้วยดาราดังมากฝีมืออย่างนี้
ขัดใจอยู่อย่างเดียวคือนางเอก
ทั้งความสามารถและความสวยยังไม่เหมาะสมกับบทนางเอกเลย

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น **บทความนี้ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่มีใครถูก หรือ ผิด แค่เราคิดต่างกัน หวังว่าคงไม่ทำให้ใครเดือดร้อนใจนะครับ**
****บทความนี้ มีการอ้างอิงเนื้อหาสำคัญของหนัง หลายส่วน ใครที่ตั้งใจไปดูไม่ควรอ่านนะครับ เพราะจะทำให้เสียอรรถรสในการชมโดยใช่เหตุ*****


"" มือดำ หดหู่ หม่นหมอง มองไม่เห็นแสงสว่าง ซีเรียสและตึงเครียดสุดๆ""
นั่นคืออารมณ์ของหนัง และตัวผม หลังดูหนังเรื่องนี้จบครับ
และคือ อารมณ์ทุกอย่าง ที่ตรงข้ามสุดขั้ว กับ JOKER ครับ
-หนังเรื่องนี้ ยาวพอๆกับ สามก๊กภาคRed Cliff เลย แต่ให้อารมณ์ที่ต่างกันมากครับ ผมดู3ก๊ก มันยาว2ชม.15 เลยนะ แต่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจริง
แต่พอผมดูDark Knightจบ กลับเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน อึดอัดสุดๆ ทีแรกพอเดินออกมา (นึว่าหนัง3ชม.แล้วซะอีก)
-ภาคแรกควรจะได้รับเครดิตไปเต็มๆ เพราะหนังปูทางมาเรียบร้อยแล้ว มาภาคนี้เลยใส่เต็มๆ (ยาวเหยียด) และภาคแรกก็ยังทำเงินมาพอสมควรด้วย มิฉะนั้นแล้ว อาจจะเหมือน GoldenCompass , Eragon
Superman Return ที่ใครๆก็รุ้ว่าผู้สร้างต้องการให้เป็นหนังภาคต่อ แต่คงไม่อยากสร้างต่อแล้วครับ ลงทุนสูงแต่พังพาบไม่เป็นท่า
-ที่จริง หนังเรื่องนี้ มาพร้อมความสมบูรณ์แบบ นับตั้งแต่ Poster ,Teaser , นักแสดง , ผกก.และทีมงาน รวมไปถึงชื่อเสียงของคำว่าBatman เอง
แต่บางอย่างทำให้มันดูขาดๆเกินๆ นั่นคือบทภาพยนตร์ครับ ภาคแรกบอกอย่างละเอียดเลยว่า ที่มาของBatmanคืออะไร แต่ภาคนี้ Jokerมาจากไหน แค่คำบอกเล่าไม่กี่คำเท่านั้นเอง ทั้งๆที่เป็นตัวสำคัญขนาดนั้น
แถมบทหนังมันยังดูง่ายๆในหลายฉาก แถมยังsuperHero มากๆเลย ยิ่งตอบจบนะ โห!!.........มันจะฮีโร่ไปถึงไหนเนี่ย........
-ไม่ได้จับผิด แต่รู้สึกเองโดยธรรมชาติ ว่าฉากวางระเบิดเรือ ทั้ง2ลำ ลำแรก ที่เป็นคนธรรมดา ผมเชื่อในการกระทำของคนบนเรือลำนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพูดของคนหลายคน
ที่เพื่อเอาตัวรอด(ผมเชื่อว่า คำพูดที่คนในเรือพูดเพื่อเอาตัวรอดเหล่านั้น มันอยู่ในความคิดของคุณๆที่ดูอยู่แล้วด้วย อีกทั้งคุณๆก็ไม่แปลกใจ
อะไรเลย ที่คนเหล่านันพูดออกมาด้วย) แม้จะมีคนเสนอตัวมากดปุ่ม แต่เขาก็ใจไม่กล้าพอที่จะทำ ผมเชื่อว่า ถ้าเป็นคนปกติ คงยากต่อ
การตัดสินใจในวินาทีนั้นทีเดียว
แต่ในเรืออีกลำ ที่เป็นนักโทษ(จริงๆ) พวกเขาคือผู้กระทำผิดจริง ไม่ว่าจะอารมณ์ชั่ววูบ หรือตั้งใจ แต่ต้องเป็นกลุ่มคนที่ใจคอโหดมากที่สุด
กลุ่มหนึ่งมารวมตัวกัน (เพราะว่าเป็นคนคุกเหมือนกัน) ผมไม่ได้บอกว่าพวกเขาเลว หรือชั่วร้ายนะครับ หรือถึงแม้ว่าจะมีคนดี หรือ
คนกลับใจแล้ว แต่ก็ไม่น่าเยอะครับ พวกเขาไม่มีการลุกฮือ ขึ้นมาต่อต้านเลย ทั้งๆที่โอกาสรอดมาถึงแล้ว ผมเชื่อและมั่นใจว่าอารมณ์นั้น ตำรวจเลวๆ(ที่มีทุกๆที่ในโลก)
ก็อาจจะช่วยพวกคนคุกก็ได้ เพราะเขาคงยังไม่อยากตายแบบนี้ หนังทำให้คนกลุ่มนั้นกลายเป็นHero เกินไป โดยไม่จำเป็น มันทำให้ดูเกินจริง ดูเวอร์ ดูไม่น่าเชื่อถือเลยครับ
สำหรับในด้านข้อเท็จจริงของคน
-ถ้าจะให้เปรียบเทียบเรื่องจิตใจของคนอย่างง่ายๆเลย เอาแค่ในหนัง ก็มีอยู่ฉากหนึ่ง ที่มีนายตำรวจ(หรือคนผู้คุมครอง) เขามีคนรู้จักอยู่ในโรงพยาบาลที่โดน joker วางระเบิดอยู่
แต่ถ้านาย.ก...(โทษทีครับ..ผมจำชื่อไม่ได้) ตาย joker จะไม่ระเบิดโรงพยาบาลนั้นๆ เขาเป็นตำรวจ(หรือคนคุมครอง)เขายังยิงนาย ก.เลย หรือก่อนหน้าที่นาย ก.จะมาหนีขึ้นรถ
ก็ถูกคนที่ไม่รู้จัก (และไม่เคยสร้างความแค้นขุ่นเคืองอะไรกันมาด้วย) ตามไล่ยิงเลย เห็นไหมครับ ว่าด้านอารมณ์ที่นำเสนอมันขัดกันขนาดไหน หรือจะอารณ์ของ2เฟส ที่แต่ก่อนเป็นคนดี
ขนาดนั้น ยังเปลี่ยนแปลงได้เลย คนมี2ด้านถูกแล้วครับ ทุกคนคนล้วนมีด้านมืดในตัวเอง ฉะนั้นไม่มีทางเลยที่คนเมื่อถึงเวลาสำคัญ จุดตรึงเครียดขนาดนั้นแล้ว จะไม่ทำอะไรเลย
ต่างคนต่างก้มก้มตา รับกรรมรึไงครับ นั่นไม่ใช่วิสัยของคนแน่นอน เพราะทางออกอยู่แค่ข้างหน้าครับ
-หรือจะให้เปรียบเทียบอีกสักเรื่อง คือเรื่อง The MIST ครับ เรื่องนี้ตีแผ่ถึงอีกด้านของคนได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่งตลอดกาลครับ ใครที่ได้ดูจะรู้เลยว่าโลกแห่งความจริง เมื่อความกลัวมันถึงขีดสุดของคน
มันน่ากลัวขนาดไหน มันทำได้ทุกอย่างครับ แต่เรื่องนี้กลับทำให้คนมันดูดีเกินไป ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา ทั่วๆไป กับคนที่เคยทำผิด(อย่างน้อยต้องมีส่วนหนึ่ง ที่ตั้งใจทำผิดจริง) มาแล้ว ไม่ทำอะไรเลย
ทุกคน(ทั้ง2ลำ)ล้วนควบคุมอารมณ์ได้แน่นิ่งเกินจริงเกินไปครับ แค่ฉากนี้ฉากเดียว มันทำให้หนังที่ดูเป็นหนัง ดราม่า หรือsuperHero ที่ดูสมจริงสมจังที่สุดมาทั้งเรื่อง ดูขาดๆเกินๆ ไป
-อย่างน้อยที่สุด เรื่องนี้ก็เป็นหนังsummerที่คนยกให้ว่าดีที่สุดเรื่องหนึ่งตลอดกาลไปแล้ว และหนังที่ดีที่สุด ก็ยังมีข้อเสียในตัวมันเองอยู่
หนังที่มาพร้อมกับด้านมืด ผมชอบStarWrasEP3 มากว่าครับ ผมรัก ประทับใจ และอินไปกับหนังได้ดี ผมน้ำตาไหลและขนลุกไปกับหนัง
แต่กับเรื่องนี้ นอกจาก ประโยคในย่อหน้าแรกแล้ว ผมไม่รู้สึกอะไรเลย นางเอกตาย ก็เฉยๆ ,นายตำรวจที่มาจากภาคแรก(เหมือน)ตาย ก็เฉยๆ ไม่ซึ้ง ส่วน2faceตกลงตายหรือยัง?
-HEATH LEDGER ในบท Joker สุดยอดครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเป็นคนอื่นมาเล่น จะทำได้ดีขนาดนี้หรือไม่
-อ่านข้อความนี้จบ อาจมีคำถามว่า Why So Serious? (ทำไมคุณต้องซีเรียสด้วยล่ะ) แต่เป็นคำถามที่คุณๆที่กรุณาอ่าน ถามผม ...หรือผมถามคุณๆกลับกันแน่คร้บ..... HA HA HA Ha Ha ha ha .........

ไม่เคยคิดว่ามันจะสนุกขนาดนี้ ปกติผมไม่ชอบดูหนังแนวนี้สักเท่าไร พอไปดูแล้ว ทุกอย่างเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบจริงๆ โดยเฉพาะเนื้อเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ บวกกับความเข้มข้นของบทและดนตรี ทำให้ต้องติดตามตลอด รวมไปถึงนักแสดงที่ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาอย่างดี โดยเฉพาะบท โจ๊กเกอร์ โรตจิตได้ใจมาก ฮีธ คุณเป็นตำนานไปแล้วล่ะ ภาพยนตร์เรื่องนี้ปิดท้ายการแสดงของคุณได้อย่างสวยงามจริงๆ ขอให้ไปสู่สุขคตินะครับ

ผมชอบตอนก่อนจบที่สุดเลย รู้เลยว่าทำไมถึงได้ตั้งชื่อถภาคนี้ว่า The Dark Knight

สำหรับเรื่องนี้ ผมว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดภาพยนตร์แห่งปีเลยก็ว่าได้

เอาไป 10 ครับ

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ตัวหนังบททำได้ดีเยี่ยม มีแต่ความหม่นและความจริงจังทั้งเรื่อง
หนังเรื่องนี้จะต่างจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ต่างๆตรง มันจะเน้นความจริงจัง ถ้าคิดจะหา
มุขตลกสอด หรือให้เรายิ้มนั้นแทบจะไม่มี

เรียกได้ว่านั่งเกือบ 3 ชม. เครียดมันตลอด 3 ชม.
ส่วนตัวผมไม่อคติว่า ชีวิตตูก็เครียดพอแล้วอยากหาหนังเบาสมอง หรือหนังตลกๆ
หรือผีกระเทย หรือ บลาๆๆ อะไรก็ได้ที่คนไทยชอบคิดอย่างนั้น
ผมเป็นคนที่ดูหนังยังไงก็ได้ ถ้าดูแล้วมีอารมณ์ร่วมได้(ไม่จำเป็นนะครับ ว่าต้องตลก หรือต้องหัวเราะไปด้วย ไม่จำเป็นต้องมีความสุขอย่างเดียว) ผมก็ถือว่าเป็นหนังดีที่ดูสนุกแล้ว
แต่มีคำถามอยากให้คนที่วิจารณ์ต่อไปมาตอบ เพราะมันทำให้คะแนนเรื่องแบทแมนลดลงนั่นคือ
ทำไมโจ๊กเกอร์ที่ใครๆก็คิดว่าเป็นตัวประหลาด สามารถหาคนมาร่วมงานได้ทำอะไรหลายๆอย่างได้ โดยทำตามคนที่เค้ามองว่ามันโรคจิต เงินก็ไม่มีให้ และไปเตรียมงานกันยังไง ตอนไหน ใช้คนได้อย่างไร หาปืนและระเบิดมาจากไหน
อีกเรื่องคือพนง.บัญชีที่รอดในตอนหลัง ทำไมถึงมาโดนจับออกทีวีได้(ก็ตำรวจช่วยมาแล้วนี่หว่า) ผมละงง
ติดใจอยู่แค่นี้แหละครับ เลยให้แค่ 8 ไม่งั้นเอา 10 ไปเลย
ปล.ฉากระเบิดโรงพยาบาลดูยังไงก็ระเบิดจริงๆ ถามหน่อยว่าใช้เอฟเฟกค์หรือของจริง ถ้าจริงแล้วลงทุนสร้างตึกแล้วระเบิดทิ้งนี่นะ??

บอกได้เลย ว่า ว้าาาาาาาาาว...!!! ขออุทิศตัวเป็นสาวกพี่ฮีท ด้วยคน ไม่ใช่ตามกระแสนะ แต่ มัน....สุดๆ จริงๆ ออกโรงมาคนพูดถึงกันระงมเลย กับบทโจ๊กเกอร์เนี่ย นี่ถ้าพี่ฮีท ยังอยู่นะ ผมว่า ดังทะลุเพดานโลกแน่ๆ ปีนี้คงไม่พ้น ออสก้า รางวัลใดรางวัลหนึ่ง ล้าน%

ว่าแต่ว่า...โจ๊กเกอร์...ยัง....XXX แล้วเกิดจะมีใครมารับบทโจ๊กเกอร์ต่อไป ผมว่า คงจะกดดันมหาศาล...หึหึ ก็ของเค้าดีจริง...

ชอบตรงฉากระเบิด......XXX เค้ายอมระเบิดจริงๆเสียด้วย นี่แหละเค้าเรียกว่า หนังของจริง ไม่เน้น CG มากมาย ทุกอย่างคือของจริง อัดกันจริงๆ ระเบิดจริงๆ (ระเบิดแบบสะใจเสียด้วย) ทุกฉากคือของจริง ทั้งคำพูดที่เฉือดเฉือนกันไปมา ไม่ใช่แต่กับ แบทแมน กับ โจ๊กเกอร์นะ ท่านอื่นๆ ก็เจ๋ง ปล่อยคำพูดออกมาแต่ละคำนี่ สุดยอดทั้งนั้น

เอาเป็นว่า ใครไม่ได้ไปดูในโรง ก็ขอบอกว่า คุณทำผิดอย่างมหันต์

ไปดูมาแล้วครับ
ภาคแรกผมหลับครับ ภาคนี้อยากดูเพราะโจ๊กเกอร์ครับ

ก่อนหน้านี้ไม่รู้ครับว่าคนที่เล่นโจ๊กเกอร์คือ ฮีท แต่พอมาดูตัวเล่นถึงรู้ครับ

ยิ่งทำให้อยากดู พอดูแล้วก็ดีครับ

ผมชอบหนังเครียดๆอยู่แล้วและดิบๆ เนื้อบทผมให้ 9 ครับ
ส่วนอื่นๆผมให้ 8 - 8.5

สุดยอดครับ หนังยาวมากๆ แต่คุ้มมากครับ หักมุมได้ดี มาช่วยดันอีกเรื่อง หุหุ