SIAMZONE.COM

การแตกหัก

ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่ผมหาหนัง Fracture มาดูนอกจากว่าผมหลังรัก Ryan Gosling

หนังเล่าเรื่องราวของทนายหนุ่มที่ต้องส่งตัวผู้ร้ายจอมวางแผน ที่อัจฉริยะไม่เบา เข้าสู่ห้องขัง โดยหนังมุ่งประเด็นไปที่การชิงไหวพริบของตัวละครอย่าง Willy Beachum และ Ted Crawford ในการขึ้นดรงขึ้นศาล ซึ่งตรงนี้ใครที่ไม่มีความรู้ทาด้านกฏหมายก็ดูสนุกได้ (ทีแรกผมกลัวว่า จะดูไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำในจุดๆนี้ แต่หนังสามารถทำให้เราติดตามคดีนี้ได้ตลอดรอดฝั่ง)

หนังบอกเราตั้งแต่ต้นเรื่องว่าใครคือฆาตกร ดังนั้นคนดูจึงเทใจไปให้กับ Willy Beachum ในการหาหลักฐานมามัดตัวผู้ร้าย ซึ่ง Ryan Gosling รับบทเป็น Willy Beachum ได้อย่างดีเยี่ยม แต่ผมก็ยอมรับว่ารัศมีของ Anthony Hopkins ในบท Ted Crawford นั้นทอแสงประกายมากกว่า แทบไม่ต้องทำอะไรมาก แค่การพูด ลักษณะท่าทาง ดูแล้วทำให้เราเชื่อว่านี่ล่ะ คือยอดคนโรคจิต

เป็นหนังอีกเรื่องที่ไม่เพียงแต่มอบความบันเทิง แต่หนังยังมีอะไรบางอย่างที่ทำให้คนดูต้องคอยลุ้นเอาใจช่วย และตลอดเวลาเราก็จะขบคิดไปด้วยว่า เอ๊ะ! เค้าทำได้ยังไง เค้าปิดบังหลักฐานไว้ได้ไง เป็นหนังที่ประเทืองปัญญาในระดับนึงเลยครับ แนะนำใครที่อชบหนังแนว Se7en ,Zodiac ไม่มีผิดหวังครับ

8.5/10

*Ryan Gosling หล่ออ่ะ ><

นางเอกน่ารักมาก(โรซามุนด์ ไปก์) ใครที่ชอบแนวสืบสวนก็ควรไปดูซะ

เป็นหนังที่น่าสนใจมาก ชอบๆ

เข้มข้น ดุเดือด ฉะกันได้ดี ไม่มีใครเด่นเกินใคร หนังดูไม่ยาก แต่หนังไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนดูนัก เนื้อเรื่องเข้มข้น ซ่อนเงื่อน เหมาะสำหรับแนวนี้โดยเฉพาะ แถมยังได้ "สติและความรอบคอบ เหนือกว่าความฉลาด" กลับไปคิดเล่นๆที่บ้านด้วย

อย่าว่าอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะครับ ... สั้นๆง่ายๆ ... " ไม่สนุกเลย !!! " แต่อยากให้ไปดูกันนะ คุณปู่เล่นดีเหมือนเดิม กอสลิงก็เท่ ผมชอบมากๆ มันเป็นความผิดที่ผู้สร้างไม่ได้สร้างหนังให้มันตื่นเต้น แต่ผมก็นึกๆดูว่าตอนไหนมันควรระทึกอ่า ? ไม่ก็ไม่เห็นมีตรงไหนที่ควรระทึก เล่นสงครามประสาททั้งเรื่องคร๊าบ...

ปล.อารมณ์หนังเหมือนเส้นชีพจรที่เป็นเส้นขนาน --------- ตลอดเรื่อง

ผมว่าเรื่องนี้ใช้ทั้ง Ryan กับท่านเซอร์ไม่คุ้มเลยครับ - -*
ผมว่าเรื่องนี้ทำไมมันเอื่อยๆ ซึมกะทือยังไงไม่ทราบ รู้สึกว่าบทมันน่าจะเขียนให้เข้มข้นได้มากกว่านี้ ไม่งั้นบทของเท็ดจะติดตาคนดูมากกว่าที่เป็นอยู่

Fracture ( ค้นแผนฆ่า ล่าอัจฉริยะ ) ... เกือบๆสามดาว ...

.........หนังขึ้นโรงขึ้นศาลอีกครั้งของผู้กำกับ เกรกอรี่ ฮอบลิท ( เป็นอะไรกับพวกฮอบบิท หรือเปล่าไม่แน่ใจ ) เจ้าของผลงานอย่าง Primal fear ซึ่งแจ้งเกิด เอดเวิร์ด นอร์ตันมาแล้ว มาคราวนี้เขาจับเอา ไรอัน กอสลิ่ง พระเอกหนุ่มหล่อจาก The notebook มาประชันกับรุ่นเก๋า ท่านเซอร์ แอนโธนี ฮอปกินส์ ( จาก Silence of the lambs ) การประชันบทบาทของดาราหนุ่มต่างวัย ย่อมจะดึงดูดแฟนๆของทั้งสองคนนี้ รวมถึงคอหนังทั่วไปให้ตีตั๋วเข้ามาชมได้ไม่ยาก โดยหนังเรื่องนี้ก็มีดาราประกอบฝีมือดี หน้าตาคุ้นๆอีกหลายคนเลยทีเดียว อาทิ เดวิด สแตรทเธิน , โรซามุน ไพด์ , บ๊อบ กันตัน ( คราวนี้ได้บทคนดีกับเค้าด้วย ) ฯลฯ

.........หนังเปิดตัวด้วยฉากการฆาตกรรมง่ายๆที่เหมือนเกิดจากโทสะชั่ววูบ ของชายชราท่าทางไม่มีพิษสง ก่อนที่นายตำรวจที่เข้ามาจะพบว่า ศพที่กองอยู่นั้นเป็นชู้รักของตัวเองนั่นเอง ชายชราผู้นั้นรับสารภาพ พร้อมอาวุธของกลาง ฟังดูเหมือนเป็นคดีง่ายๆที่ จำเลยต้องติดคุกหัวโตแน่ๆ อัยการหนุ่มไฟแรงซึ่งกำลังจะก้าวไปทำงานตำแหน่งใหญ่โต จับผลัดจับผลูเข้าไปจัดการคดีทิ้งท้ายให้สำนักอัยการแอลเอ โดยเห็นว่า คดีนี้หวานหมู ยังไงก็ไม่มีปัญหา รับปากจัดการให้แบบขอไปที ก่อนที่จะรู้ว่า ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่คิด และจำเลยของเขานั้น ก็เก๋าระดับ เซียนเรียกพี่ ผมเข้าใจว่า พ่อหนุ่มอัยการจาก The notebook นี้ คงจะไม่เคยดูหนังอย่าง Silence of the lamb , Remain of the day , หรือ Amistad แน่ๆ ไม่งั้นพ่อหนุ่มไรอัน คงต้องพลิกตำรากฏหมายเตรียมตัวอย่างดีก่อนปะทะคารมในศาลแล้วล่ะ

.........ชายชราผู้ดูไม่มีพิษสง ขอเสนอต่อศาลว่าจะไม่จ้างทนาย แต่จะสู้คดีโดยจะแก้ต่างให้ตัวเอง ขณะที่ทางอัยการแอลเอก็ไม่มีปัญหา และแล้วคดีก็เริ่มซับซ้อนซ่อนเงื่อนขึ้นทุกที ปืนเจ้าปัญหาไม่รู้ไปอยู่ที่ใหน พยานบุคคลก็เห็นเหตุการณ์แบบคลุมเครือ ที่น่าสนุกก็คือการเชือดเฉือนบทบาทระหว่าง จำเลยจอมเก๋า กับ อัยการจอมกร่าง แม้ว่าอัยการหนุ่มไฟแรงจะมีสถิติชนะคดีสูงมาก แต่มาเจอของจริงแล้ว ไปไม่ถูกเหมือนกัน ยิ่งทำการบ้านมาน้อยและประมาทมากเท่าไหร่ โอกาสลงเหวก็มีสูงเท่านั้น ผมยังอดนึกขำไม่ได้ตอนที่ ท่านเซอร์ ฮอปกินส์ เสนอต่ออัยการตอนแรกๆว่า ให้เปลี่ยนใจมาเป็นทนายเขาดีกว่า รับทรัพย์เนื้อๆ แถมโอกาสแพ้ก็ไม่มี แต่ถ้าสู้ต่อจะหมดท่านะจ๊ะ แต่อัยการหนุ่มก็ไม่เชื่อ ( บอกแล้วพี่แกไม่เคยดูหนังชุดฮันนิบาล )

.........ท่านเซอร์ แอนโธนี ฮอปกิ๊นส์ แสดงความเหนือชั้นด้านการแสดงอีกครั้ง ในบทบาทของผู้ต้องสงสัยฆ่าภรรยาตัวเอง เค้าเล่นได้เยือกเย็น อำมหิต แฝงไปด้วยความฉลาดหลักแหลม และที่สำคัญมีเสน่ห์เหลือเชื่อ แม้หนังจะบอกโต้งๆตั้งแต่แรกว่า เค้าเป็นฆาตกร แต่ก็เป็นฆาตกรที่เราอดที่จะหลงรักไม่ได้ ผมเชื่อว่าเกือบจะร้อยทั้งร้อยที่เข้าไปดู จะต้องเอาใจช่วย ท่านเซอร์ ฮอปกินส์ให้หลุดคดี ขณะที่ ตัวอัยการหนุ่ม อย่าง กอสลิง แม้จะหนุ่มกว่า หล่อกว่า แต่กลับไม่มีพลังดึงดูดเอาซะเลย ด้วยบุคลิกลักษณะนิสัยในหนัง ผมเชื่อว่าจะไม่ส่งให้คนดูเอาใจช่วยสักเท่าไหร่ และนั่นคือปัญหาของหนังเรื่องนี้ คือมันเกือบจะกลายเป็นการชี้นำรูปคดีเกินไปสักนิด แต่หลายๆฉากก็ทำให้ผมได้ลุ้นอยู่เหมือนกัน .. ปัญหาที่ผมว่าก็คือ หนังให้น้ำหนักบทของ ฮอปกินส์ กับ ไรอัน ค่อนข้างใกล้เคียงกัน หรือเผลอๆ บทฮอปกินส์จะเด่นกว่าด้วย ซึ่งจริงๆแล้ว ดาราอย่างฮอปกินส์นะ แค่บทสมทบก็แทบจะฆ่าดารานำอยู่แล้ว แล้วมาประชันบทนำแบบนี้ ก็ฆ่าอีกฝ่ายตายเลยสิครับ ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้เก๋าระดับเดียวกันหรือท๊อปฟอร์มขึ้นมาพอดี

.........หนังสร้างบรรยากาศลึกลับได้ดี และเล่าเรื่องได้อย่างลุ้นระทึกทีเดียว เชื่อว่าแฟนหนังแนว ลึกลับสืบสวนสอบสวน หรือขึ้นโรงขึ้นศาลคงจะถูกใจหนังเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย แฟนๆของท่านเซอร์ ไม่ผิดหวังแน่ แต่แฟนๆของไรอัส กอสลิ่ง ผมไม่แน่ใจ หลายๆฉากในหนังยังมีซีนอารมณ์ขันมาให้คนดูคลายเครียด พอหอมปากหอมคอ และแน่นอนว่า บทพูดเด็ดๆไปอยู่ในปากของท่านเซอร์ฮอปกินส์ ซะหมด แล้วพ่ออัยการหนุ่มจะเหลืออะไรล่ะคร๊าบบบบ ... เสียดายว่าหนังพยายามจะจบแบบอุดมคติแล้วก็สูตรสำเร็จไปสักนิด แต่ผมก็คิดว่าก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไปนัก หนังดูสนุกสนานตามสมควร แล้วผมก็ยังแอบหวังว่า อยากเห็น ท่านเซอร์ฮอปกินส์ ออกมาเล่นเกมส์ ลูกล่อลูกชนแบบนี้อีก มันเพลินในลีลาสับขาหลอกของท่านเซอร์ซะจริงๆ

เรื่องนี้ก็อยากให้ทุกคนไปชมกัน สนุกมากๆ ค่ะ