วิจารณ์ Harry Potter and the Order of the Phoenix
-
-+-CuddLe$-+-
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 30 ก.ค. 50 08:36
ตอนอ่านหนังสือมันจินตนาการได้ถึงการต่อสู้ที่สุดยอดมาก แต่ในหนังทำออกมาหดเหลือนิดเดียว สรุปคือในหนังสือดีกว่ามากๆ พอทำออกมาเป็นหนัง ห่วยที่สุดแล้ว ให้คะแนนแค่ 6 พอละกันคะ
-
yukira
(เลขที่ 142297)
เมื่อ 28 ก.ค. 50 10:04
ชอบลูน่าอ่ะ นั่งมองแต่ลูน่าอย่างเดียว
ก็ยังไม่ถูกใจมากนะกับภาคนี้
แต่เผอิญว่าบ้าแฮร์รี่เป็นทุนเลยสนุกกับมันได้ (แบบว่าไปจิ้นต่อเองก็ได้ ชั้นไม่ง้อหรอก) ไปอ่านหนังสือเอาเองดีกว่า ฉากที่คิดไว้อลังสุดๆ -
โอเคซึ้ง
(เลขที่ 127461)
เมื่อ 24 ก.ค. 50 22:08
เป็นภาค ที่ ห่วยที่สุด ใน จำนวนภาคที่ได้ฉายมา หนังแย่ไปทุกๆอย่าง ดูไป 1 ชั่วโมงครึ่ง ฉากต่อสู้หรือฉากเด็ดๆ ยังไม่เห็นเลย
พอตอนท้าย ฉากเด็ดๆ มีแค่นั้นอ่ะ มาสร้างทำไมเนี่ย หนังแฟนตาซี ไปสร้างหนังดราม่าไป
สำหรับผู้กำกับคนนี้ ไม่สมควรจะมาสร้างหนังแฟนตาซี ควรจะไปสร้างหนังดราม่ามากกว่า ห่วยครับ -
doraemon_monster
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 22 ก.ค. 50 21:30
ชอบลูน่า มากน่ารักดี เฟร็ดกะจอร์จแสบได้ใจ ชอบรอนมากมาย เฮอร์ไมโอนี่น่ารักอ่ะ ยิ่งโตยิ่งสวยค่ะ>o<!!++
-
azazxc
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 21 ก.ค. 50 20:10
เราไปดูมาแล้ว แต่อ่านหนังสือสนุกกว่าเยอะเลย ตัดไปตั้งหลายตอนแนะ
-
monkiechoc
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 20 ก.ค. 50 13:10
ไปดูกะเพื่อนมา ภาคนี้สนุกนะ แต่จบง่ายไป แล้วโชมาขโมยจูบแฮร์รี่ทำไม T^T
-
เป็นประกาย
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 20 ก.ค. 50 11:39
Harry Potter and the Order of the Phoenix หรือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟินิกซ์ ภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกันต่อเนื่องมาถึงภาคที่ 5 แล้ว กับเรื่องราวของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) ในโลกของเวทมนตร์ ที่เข้มข้นขึ้นไปตามวัยจากเดิมที่เป็นแค่พ่อมดน้อยในภาคแรก มาสู่ความเป็นพ่อมดหนุ่มในภาคนี้
จากหนังสือที่มีความหนาถึงพันกว่าหน้ามาสู่ฉบับภาพยนตร์ ที่ต้องใส่รายละเอียดมากมายในหนังสือดังกล่าวลงไปในเวลาแค่ 2 ชั่วโมงกว่าๆ นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นคนที่หวังเอาไว้ว่าจะได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองจินตนาการเอาไว้จากตอนที่อ่านหนังสืออาจต้องผิดหวังไปบ้าง กับการตัดรายละเอียดปลีกย่อยหลายอย่างในภาคนี้ที่ทำเอาบรรดาแฟนๆ ของหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ต้องบ่นอุบไปตามๆ กันว่าทำไมถึงไม่มีฉากนั้นฉากนี้ อาทิ ฉากการแข่งขันควิดดิช ที่มีให้เห็นทุกภาค ก็จะไม่มีให้เห็นในภาคนี้เลยนั่นเอง
แต่หากมองในแง่ความเป็นภาพยนตร์โดยไม่ได้ยึดเอาความครบถ้วนจากหนังสือเป็นหลักแล้วนั้น ภาคนี้ก็ถือเป็นภาคหนึ่งที่ดูสนุก เพลิดเพลิน และทำเอาคนดูต้องลุ้นไปได้ในหลายๆ ฉากได้ดีทีเดียว ด้วยบทภาพยนตร์ที่ลื่นไหลชวนติดตาม อีกทั้งการแสดงจากบรรดานักแสดงทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่มีเสน่ห์ชวนให้คนดูหลงรักหรือว่าเกลียดชังได้ เช่น เพื่อนซี้ของ แฮร์รี่ อย่าง รอน (รูเพิร์ต กรินต์) และ เฮอร์ไมโอนี่ (เอ็มม่า วัตสัน) รวมทั้ง คู่หู เฟรด และ จอร์จ วีสลี่ย์ (เจมส์ และ โอลิเวอร์ เฟลป์ส) ที่ยังคงทำให้คนดูต้องยิ้มตามในฉากที่พวกเขาปรากฏตัวได้เช่นเคย
ส่วนตัวละครใหม่ๆ ในภาคนี้ ที่เด่นเกินหน้าใครก็เห็นจะเป็น แม่มดสาวน้อยบุคลิกแปลกๆ เย็นๆ ล่องลอย อย่าง ลูน่า เลิฟกู้ด ที่ต้องยกความดีให้กับการคัดเลือกนักแสดงจนได้ อีวานน่า ลินช์ มาเป็นคนสวมบทนี้ได้อย่างน่ารักถูกใจคนดู จนต้องจับจ้องในทุกฉากที่เธอออก หรือนักแสดงอีกคนอย่าง อิเมลด้า สทอนตัน ก็สวมบท ศาสตราจารย์ โดโลเรส อัมบริดจ์ ได้อย่างเหมาะสม กับการเป็นอาจารย์จอมร้ายกาจที่จะมาป่วนโรงเรียนฮอกวอตส์ จนเหล่านักเรียนและคนดูพากันหมั่นไส้กับบทบาทและเสียงหัวเราะของเธอไปตามๆ กัน
เมื่อดูในส่วนของเนื้อหาในภาคที่ 5 นี้บ้าง ก็นับว่าเป็นภาคที่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับตัวละคร แฮร์รี่ กับการสูญเสียบางอย่างที่สำคัญยิ่งในชีวิตของเขา ซึ่งการถ่ายทอดประเด็นนี้ในภาพยนตร์ ถือว่ายังทำได้ไม่ดีพอ ในเมื่อฉากนี้ควรจะสะเทือนอารมณ์ชนิดเรียกน้ำตาจากคนดูได้มาก แต่เหมือนว่าผู้กำกับจะไม่ต้องการเน้นหรือให้ความสำคัญเท่าไรนัก จนกลายเป็นแค่ฉากที่เหมือนกับต้องมี เพียงแค่เพื่อให้ผ่านไปสู่ภาคที่ 6 เท่านั้น
ส่วนอีกฉากกับการปรากฏตัวของ ลอร์ดโวลเดอมอร์ (เรล์ฟ ไฟน์ส) ก็ยังไม่มีพลังสมกับเป็นการมาของจอมมารที่ผู้คนในโลกแห่งเวทมนตร์หวาดกลัว จนต่อเนื่องมาถึงฉากการต่อสู้ของเขากับ ศาสตราจารย์ ดัมเบิลดอร์ (ไมเคิล แกมบอน) ที่น่าจะอลังการชวนอัศจรรย์ใจสมกับเป็นการต่อสู้ด้วยไม้กายสิทธิ์ของ 2 พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ ก็ยังคงไม่น่าลุ้นระทึกตื่นเต้นมากมายอย่างที่คนดูคาดหวังว่าจะได้เห็นอีกเช่นกัน
ดังนั้นสำหรับภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคที่ 5 นี้ เมื่อมองในแง่มุมของผู้ชมที่ส่วนใหญ่จะอ่านหนังสือมาก่อนแล้ว อาจจะมีหลายเสียงที่บ่นว่าผิดหวังกันไปบ้าง กับการคาดหวังว่าจะออกมาใกล้เคียงกับจินตนาการของแต่ละคนให้มากที่สุด รวมทั้งการที่ต้องลดทอนเนื้อหาลงไปเยอะดังที่กล่าวไว้ข้างต้น แต่หากมองในแง่ภาพยนตร์ ก็ถือได้ว่าเรื่องนี้ก็เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วสนุกอีกเรื่องหนึ่ง กับความสามารถในการรวมทุกรสชาติ ไม่ว่าจะเป็น ดราม่า แฟนตาซี ความรัก มิตรภาพ การเมือง รวมทั้งอารมณ์ขันต่างๆ เอาไว้อย่างกระชับไม่ยืดเยื้อ ตื่นเต้นและน่าติดตามไปจนจบเรื่องนั่นเอง -
ชาขาวเพียวริคุ
(เลขที่ 90701)
เมื่อ 19 ก.ค. 50 16:29
เราว่าสนุกดูออก ดูแบบไม่คิดมาก เอฟเฟคสวยมาก ชอบๆ
สำหรับผมไม่ผิดหวังนะ ตอนดูอั้นฉี่แทบตายตั้งแต่โชจูบกะแฮร์รี่
อิอิ ยันจบเลย-*- คิดดู -
Keir@_{L&O}
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 19 ก.ค. 50 08:45
เมื่อวานไปดูกับเพื่อนมา พบว่าผิดหวังจัง แอบเสียดายเงินนิดๆ อาจจะเป็นเพราะว่าในหนังสือ มีรายละเอียดเยอะมากๆ เล่มหนา แต่หนังจำเป็นต้องตัดให้มีความยาวพอดี ขาดอรรถรสไปเยอะ แต่เอฟเฟ็คสวยดี ชอบตอนที่โวลเดอร์มอร์กับดับเบิ้ลดอร์สู้กัน เหมือนเจได
เนื้อเรื่อง - จริงๆแล้วหนังสือสนุกมาก แต่ในหนังรายะเอียดน้อย
การนำเสนอ - ไม่มีจุดเด่นซักอย่างในตอนแรกๆ แต่พอถึงหลังๆ กลายเป็นแย่งกันเด่นซะหมด จัดระบบระเบียบไม่ดี ในหนังสือภาค 5 ประเด็นก็คือ มีตั้ง กด แฮร์รี่ถูกว่าว่าโกหก โวลเดอร์มอร์กลับมา และคำพยากรณ์ หลักๆก็มีแค่นี้ แต่ตัวหนังนำเสนอได้ไม่เข้าถึงประเด็นที่แท้จริง
ป.ล.อาจขัดใจสาวกแฮร์รี่ซักนิด แต่ก็ดูสนุกดี -
Louis.Vuitton
(เลขที่ 89393)
เมื่อ 18 ก.ค. 50 23:19
วันนี้ผมไปดู มา (รอบ 2) แต่ไปดู ที่ กรุงศรี ไอแมกซ์ มา ฉาก 3 มิติ ตั้งแต่ช่วง ที่ แฮร์รี่ ใช้ เธสตรอล บินไป กระทรวงฯ จนถึง จบตรงรายงานของ เดลี่ พรอเฟน นั่น ทำได้ยอดเยี่ยมมาก แต่ ช่วง ตรง สู้กัน บางฉาก มันเร็ว และ เนื่องจากใส่แว่นมานาน อาจจะทำให้ปวดหัว ฉาก เศษกระจกนั้น ทำได้เหมือนทะลุ ออกมามากมายยย
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- รักแห่งสยามเข้าฉายปี 2007 แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, กัญญา รัตนเพชร์
- Harry Potter and the Chamber of Secretsเข้าฉายปี 2002 แสดง Daniel Radcliffe , Emma Watson , Rupert Grint
- ตีสาม 3Dเข้าฉายปี 2012 แสดง กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, โทนี่ รากแก่น, ชาคริต แย้มนาม
เกร็ดภาพยนตร์
เปิดกรุภาพยนตร์
Gemini Man เฮนรี่ โบรแกน (วิล สมิธ) นักฆ่าฝีมือฉกาจซึ่งกลายเป็นเป้าหมายและถูกไล่ล่าโดยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการลับที่สามารถคาดการณ์การ...อ่านต่อ»