เกร็ดน่ารู้จาก Dreamgirls
เกร็ดน่ารู้
- หัวหน้าช่างแต่งหน้าของนักแสดงในเรื่องนี้ คือคนไทยที่มีชื่อว่า ทิม ฉัตรชัย บัวเจริญ (Tym Shutchai Buacharern)
- บิล คอนดอน เปิดเพลง And I Am Telling You I'm Not Going ซึ่งเป็นบทเพลงที่บ่งบอกถึงลักษณะของตัวละคร เอฟฟี่ ในระหว่าง 4 วันสุดท้ายของการถ่ายทำ ทำให้ เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน สามารถเข้าถึงบทบาทของ เอฟฟี่
- เฮนรี่ ครีเกอร์ ผู้แต่งเพลงต้นฉบับให้กับละครเพลงบรอดเวย์ ได้แต่งเพลงใหม่ให้ฉบับภาพยนตร์นี้ 4 เพลง ได้แก่ Love You I Do, Listen, Patience และ Perfect World ซึ่ง 3 ใน 4 เพลงนี้ ยกเว้นเพลง Perfect World ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 79 ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- ดรีมเกิร์ลส ฉบับละครเวทีเปิดการแสดงที่บรอดเวย์นานเกือบ 4 ปีเต็ม สร้างความตื่นเต้นให้กับคนดูด้วยการแสดงถึง 1,521 รอบ ก่อนจะตระเวนเปิดการแสดงทั่วสหรัฐอเมริกา และยังเดินทางไปเปิดการแสดงที่ปารีสและญี่ปุ่น รวมไปถึงที่เบอร์ลินและมาเลเซีย
- ฮินตัน แบตเทิล ที่สวมบท เคอร์ติส เอด เวย์น คือคนเดียวกับที่แสดงเป็น เจมส์ ธันเดอร์ ใน ดรีมเกิร์ลส ต้นฉบับที่เป็นละครบรอดเวย์
- ลอเรตต้า ดีไวน์ ซึ่งรับบทเป็นนักร้องเพลงแจ๊สในเรื่อง คือคนที่รับบทเป็น ลอเรลล์ โรบินสัน ในต้นฉบับที่เป็นละครบรอดเวย์ ปี 1981
- เดบร้า เซน ผู้กำกับฝ่ายคัดเลือกนักแสดง รับบทเล็กๆ ในเรื่องเป็นผู้หญิงผิวขาว ซึ่งกำลังมีเรื่องทุกข์ใจที่อยู่ในคลับไมอามี่บีช
- แมรี่ วิลสัน สมาชิกผู้ก่อตั้งของ เดอะ สุพรีมส์ (The Supremes) และเป็นต้นแบบของตัวละคร ลอเรลล์ โรบินสัน พูดว่าเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่าที่คนอื่นๆ คิด โดยที่บทของเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่มาจากวง เดอะ สุพรีมส์ นั่นเอง
- หลังจากต้นฉบับละครบรอดเวย์ประสบความสำเร็จตอนปี 1980 วิทนี่ย์ ฮุสตัน คือคนที่ได้รับพิจารณาให้รับบท ดีน่า
- ทั้ง วิล สมิธ และ เทอร์เรนซ์ โฮเวิร์ด ได้รับการพิจารณาเพื่อรับบท เคอร์ติส เทย์เลอร์ จูเนียร์ ทั้งคู่
- อัชเชอร์ คือตัวเลือกแรกที่จะมารับบท ซี.ซี. ไวต์ แต่เขาถอนตัวไป เนื่องจากตารางงานที่ไม่ตรงกัน ดังนั้น โอมาริออน แกรนด์เบอร์รี่ จึงเป็นตัวเลือกต่อมาที่ถูกพิจารณาในช่วงสั้นๆ ก่อนที่บทนี้จะตกเป็นของ คีธ โรบินสัน
- ผู้กำกับและร่วมเขียนบท บิล คอนดอน ให้ความสนใจเรื่องนี้ตั้งแต่การแสดงเปิดของ ดรีมเกิร์ลส์ ต้นฉบับที่เป็นละครบรอดเวย์ ในอิมพีเรียล เธียเตอร์ กรุงนิวยอร์ก วันที่ 20 ธันวาคม 1981
- เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน ต้องเพิ่มน้ำหนักถึง 20 ปอนด์ เพื่อรับบท เอฟฟี่ ไวต์
- เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน ต้องแข่งขันกับนักแสดงถึง 782 คน เพื่อมารับบท เอฟฟี่ ไวต์ รวมไปถึง แฟนตาเซีย บาร์ริโน คู่แข่งคนเดิมของเธอจากรายการ American Idol: The Search for a Superstar
- บียอนเซ่ โนวส์ เป็นแฟนตัวยงของ ดรีมเกิร์ลส ฉบับละครบรอดเวย์ที่เป็นต้นฉบับ ดังนั้นเธอจึงต้องการสวมบทของ ดีน่า โจนส์ ซึ่งเธอก็ต้องทำการคัดเลือกตัวด้วยการสวมชุดตามบทแบบเต็มยศ ต้องแสดงและเต้นตามเนื้อเรื่องอีกด้วย โดย บียอนเซ่ มีคู่แข่งเป็นนักร้องดังอีกคนคือ อลิช่า คีย์ส อีกทั้ง บียอนเซ่ ต้องใช้เวลา 6 เดือนในการฝึกการแสดงและการออกเสียงเพื่อเตรียมตัวสำหรับบทอีกด้วย ซึ่งทำให้เธอออกปากว่าเรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในฐานะนักแสดงจริงๆ
- แอนนิก้า โรส ต้องสวมรองเท้าส้นสูงถึง 6 นิ้ว ในฉากละครเพลงที่เป็นไตเติ้ล ซึ่งมี บียอนเซ่ โนวส์ และ เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เข้าฉากด้วย เพราะว่า แอนนิก้า นั้นสูงแค่ 5 ฟุต 2 นิ้ว ขณะที่ บียอนเซ่ สูง 5 ฟุต 7 นิ้ว และ เจนนิเฟอร์ สูง 5 ฟุต 9 นิ้ว
- เจมี่ ฟ็อกซ์ เผยว่าสาเหตุที่เขาปฏิเสธบท เคอร์ติส เทย์เลอร์ จูเนียร์ ในตอนแรกเป็นเพราะค่าตัวน้อยเกินไป เดนเซล วอชิงตัน ถูกเสนอบทเป็นคนต่อมา ก็ปฏิเสธเช่นกันเพราะว่าร้องเพลงไม่เก่ง แต่พอ บียอนเซ่ โนวส์ และ เอ็ดดี้ เมอร์ฟี่ ถูกติดต่อมารับบทในเรื่องนี้ เจมี่ จึงตอบตกลงที่จะรับบทของเขาเช่นกัน
- ในตอนที่ส่งเรื่องนี้ไปตามโรงภาพยนตร์ต่างๆ มีการใช้ชื่อเรื่องเป็นสัญลักษณ์ว่า ดราม่า (Drama)
- ฟาติมา โรบินสัน ผู้ออกแบบท่าเต้นในเรื่อง รับเชิญแสดงเป็นหนึ่งในวง สเต็ปป์ ซิสเตอร์ส ด้วย
- ในฉากที่ เดอะ ดรีมส์ ยืนอยู่หน้าแบบจำลองอัลบั้มแรกชื่อ มีต เดอะ ดรีมส์ ของพวกเขา รูปแบบของหน้าปกอัลบั้มนั้นแถบจะถอดแบบมาจากอัลบั้มตอนปี 1965 ชื่อ More Hits by the Supremes ของวง เดอะ สุพรีมส์ เลยทีเดียว ขณะที่รูปของตัว เดอะ ดรีมส์ บนหน้าปกเอง ยังมีการวางท่าทางได้คล้ายกับหน้าปกของวง เดอะ สุพรีมส์ อีกอัลบั้มในปี 1966 ชื่อ The Supremes A Go-Go ด้วย
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Bodyguards and Assassinsเข้าฉายปี 2010 แสดง Donnie Yen, Leon Lai, Nicholas Tse
- Brothersเข้าฉายปี 2010 แสดง Jake Gyllenhaal, Natalie Portman, Tobey Maguire
- 20th Century Boys: The Last Chapter - Our Flagเข้าฉายปี 2010 แสดง Toshiaki Karasawa, Etsushi Toyokawa, Airi Taira
เกร็ดภาพยนตร์
- Child 44 - เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ที่ ทอม ฮาร์ดี ผู้รับบท เลโอ และ แกรี โอลด์แมน นักแสดงบท มิกเฮล ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน เรื่องก่อนหน้านี้คือ Tinker Tailor Soldier Spy (2011) Lawless (2012) และ The Dark Knight Rises (2013) อ่านต่อ»
- Big Game - ผู้กำกับ ยาลมารี เฮแลนเดอร์ มองว่าสถานที่จริงที่ตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์ ไม่เหมือนภาพที่เขานึกไว้ในหัว จึงถ่ายทำที่เทือกเขาแอลป์แทน อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
The Closet เรื่องราวของ ซังวอน (ฮาจองอู) ชายผู้สูญเสียภรรยาจากอุบัติเหตุอันน่าสลด เขาตัดสินใจพา อีนา (ฮอยูล) ลูกสาวย้ายเข้าบ้านหลั...อ่านต่อ»