วิจารณ์ World Trade Center
-
โบราณแมน
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 23 ก.ย. 49 12:04
ส่วนตัวชอบมากๆกับหนังที่ย้อนถึงเหตุการณ์ที่ยังเป็นที่จดจำอยู่ ตรงนี้ชม สโตนเลยว่า นำ นิโคลัส เคส เป็นตัวเอกถือว่าเยี่ยมจริงๆ และเหตุการณ์ค่อนข้างเน้นความเป็นความตายของคนในเหตุการณ์ 911 นะ แต่ในสายตาไทยคนจะมองว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไกลตัวไป เนื่องจากไม่มีญาติหรือคนรู้จักไปอยุ่ในเหตุการณ์ครับ ลองเปลี่ยนบ้างถ้าเกิดว่ามีคนรู้เกิดอย่างนั้นจะรู้สึกอย่างไรนะ เต็ม 10 ให้ 9 ครับ
-
ฟรอยด์
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 23 ก.ย. 49 06:49
เป็นหนังของโอลิเวอร์ สโตนท์ ที่ทำเอาผิดหวังจริงๆ ถ้าคิดจะไปดูเพื่อความสนุกคงต้องเสียใจกลับไป ถ้าเทียบแล้ว United 93 แล้วคนละขั้ว แม้ว่าจะเป็นหนังฟอร์มเล็กกว่าก็ตาม
-
CP
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 23 ก.ย. 49 03:20
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ตำรวจ 2 คน...ติดอยู่ใต้ซากตึก...คุยกัน...รอคนมาช่วย...ญาติเป็นห่วง...จบ
-
Jak
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 22 ก.ย. 49 23:30
คนไทยดูหนังเรื่องนี้แล้วอาจจะเบื่อๆ เพราะว่าเราไม่ได้ไปประสบเป็นพรรคเขา แต่คนลองนึกดูซิครับว่าเราเป็นคนอเมริกันที่อยู่ใน New York ตอนเกิดเหตุการณ์และเราอยากจะรู้ถึงชะตากรรมรวมทั้งอยากช่วยคนที่ประสบเหตุการณ์นี้ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ญาติทำงานที่นั่นวันนั้นด้วย แต่เขาอยู่แถวบรู๊คลิน แต่ในตอนนั้นโทรศัพท์ในนิวยอร์กล่มมันทำให้เราติดต่อเขาไม่ได้ ทุกคนก็เป็นห่วงกินไม่ได้นอนกันไม่หลับ อยากไปตามหาแต่เราไม่สามารถเข้าประเทศเข้าได้ ก็เหมือนกับที่ครอบครัวของตำรวจสองคนนี้พยายามตามหาละครับ การรอคอยคนที่รักกลับมาทั้งๆที่เราไม่รู้ว่าเขามีชีวิตอยู่หรือไม่ มันทรมานนะครับ มันน่าเบื่อมันที่หลายๆคนบอกว่าหนังเรื่องนี้น่าเบื่อ แต่ถ้าคุณเคยเจอประสบเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วคุณก็จะบอกได้ว่าหนังเรื่องนี้ละ สื่ออารมณ์ของการรอคอยความหวังออกได้อย่างดี
อย่าที่conceptบอกละครับว่า "วันนั้นโลกทั้งโลกเห็นความชั่วร้าย แต่ผู้ชายสองคนนี้มองเห็นสิ่งอื่น" มันคือความกล้าหาญที่พวกเขามีในการเข้าไปช่วยเหลือคนเคราะห์ร้ายในตึกนั้นไม่ใช่แค่ 2 ตัวเอกแต่หมายถึงเจ้าที่อีก 400 กว่าคนที่ไม่กลับออกมา และแสดงให้ถึงความหวังที่จะมีชีวิตรอดเพื่อไปพบหน้าที่พวกเขารักทำให้พวกเขาไม่ยอมแพ้
ก็สมกับที่เขาบอกว่าเรื่องนี้ทำจากเรื่องราวของความกล้าหาญและการอยู่รอดจริงๆ! -
จอร์จ
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 22 ก.ย. 49 10:42
อืด หนังไม่หนุก เนื้อเรื่องไม่มีไรเลย
-
tumray
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 22 ก.ย. 49 10:28
เข้าใจครับว่านำเสนอจากเรื่องจริง เป็นหนังดราม่า..แต่การนำเสนอ บท ทำได้น่าเบื่อมากครับ..ดูสารคดีที่ช่อง 9 เอามาให้ดูยังสนุกกว่าครับ โอลิเวอร์ สโตนทำผิดหวังอีกแล้ว..
-
Mr.Carpe Diem
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 21 ก.ย. 49 21:44
คนที่มีอารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์อยู่แล้ว ไปดูจะยิ่งตอกย้ำมากยิ่งขึ้น และ อาจจะทำให้คิดถึงชีวิตตัวเอง และคนรอบข้างมากยิ่งขึ้น ว่าคนเราไม่มีอะไรแน่นอน มีความดี ก็หลีกหนีความชั่วไม่พ้น
หนังสะเทือนอารมณ์ครับ ^^ -
Top_Snatch
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 21 ก.ย. 49 09:48
ดูๆแล้ว theme เรื่องน่าจะเน้นหนักไปทางครอบครัว เหมือน Ladder 49 แต่มี Background เป็นเหตุการณ์ shock โลก 9/11 ชึ่งแตกต่างจาก เหตุการณ์เพลิงไหม้ตามธรรมดาทั่วไป...
-
เป็นประกาย
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 12 ก.ย. 49 15:59
World Trade Center ภาพยนตร์สะท้อนภาพเหตุการณ์ 11 กันยายน ปี 2001 ผ่านทางสายตา ความคิด และความรู้สึกของคนอเมริกัน ซึ่งได้รับผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้โดยตรง
ประเด็นหลักที่ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามนำเสนอ ไม่ใช่การเน้นถึงช่วงเวลาระทึกขวัญขณะเกิดเหตุการณ์ช็อกโลก ไม่ใช่การนำเสนอความคิดรุนแรงทางด้านการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นการนำเสนอผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากเรื่องราวในวันนั้นมากกว่า ว่าชีวิตของเหล่าประชากรในมหานครเอกของโลกจะเป็นอย่างไรบ้าง และโดยเฉพาะการเจาะจงเน้นไปที่เหตุการณ์จริงของนายตำรวจสองนาย ผู้ติดอยู่ภายใต้ซากตึกมรณะซึ่งถูกเครื่องบินพุ่งชนโดยตรงนั่นเอง
ความรู้สึกที่ผู้ชมจะได้รับขณะชม ก็คือการเอาใจช่วย 2 ผู้โชคร้ายให้รอดชีวิตจากภาวะร่างกายที่บาดเจ็บหนัก ทั้งขาดน้ำ ขาดอาหาร มีอากาศเพียงน้อยนิดว่าจะมีกำลังใจผ่านพ้นไปได้อย่างไร รวมทั้งความรู้สึกเห็นอกเห็นใจต่อครอบครัว ผู้อยู่เบื้องหลังเฝ้ารอคอยข่าวคราว ซึ่งไม่อาจตัดสินได้เลยว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่น่าเห็นใจมากกว่ากัน ระหว่างคนซึ่งได้แต่เฝ้ารออย่างไม่อาจทำอะไรได้ และคนที่พยายามฉุดรั้งกำลังที่จะได้เอาชีวิตรอด เพื่อกลับไปพบคนที่รอคอยพวกเขาอยู่อีกครั้ง
การตัดภาพสลับกันระหว่างใต้ซากตึกที่มืดมิด แต่เปี่ยมไปด้วยแสงแห่งกำลังใจของสองนายตำรวจ กับภาพเบื้องบนของกรุงนิวยอร์กที่แม้จะเจิดจ้าแต่กลับวุ่นวายยุ่งเหยิง จึงเป็นการนำเสนอด้วยมุมมองที่ชาญฉลาดไม่น้อย
จนเมื่อมาถึงบทสรุปของเรื่องราว ที่ไม่ว่าสองครอบครัวนี้จะผ่านความเลวร้ายในครั้งนี้ไปได้หรือไม่ ก็ยังมีความจริงบางอย่างรอคอยทุกผู้คนในมหานครนิวยอร์กอยู่เช่นกัน นั่นคือ ผู้สูญหายอีกนับพันที่ไม่อาจค้นพบได้แม้แต่ร่างไร้วิญญาณ เหลือเพียงแค่รายชื่อว่าเป็นบุคคลสูญหายและภาพประกาศที่ติดอยู่บนบอร์ดเท่านั้น
ภาพกองเศษเหล็กอันเคยเป็นสถานที่ตั้งของตึกซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก รวมทั้งความว่างเปล่าโหวงเหวงภายในขบวนรถไฟที่ควรจะแน่นขนัด จึงเป็นการบอกเล่าได้อย่างดีว่าผลที่ได้รับจากเหตุการณ์ครั้งนั้น อาจไม่ใช่ความเสียหายอื่นใดมากไปกว่าจิตใจของผู้คนที่พังทลายตามตึกไปด้วยนั่นเอง -
winston salem, nc
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 5 ก.ย. 49 06:51
ดูแล้วมีแต่ความหดหู่ คิดว่าคนไทยคงไม่นิยมดู หนังน่าจะไม่ทำกำไร
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- 30 กำลังแจ๋วเข้าฉายปี 2011 แสดง พัชราภา ไชยเชื้อ, ภูภูมิ พงษ์ภาณุ, ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล
- Corpse Brideเข้าฉายปี 2005 แสดง Johnny Depp, Helena Bonham Carter, Emily Watson
- Lord of Warเข้าฉายปี 2005 แสดง Nicolas Cage, Ethan Hawke, Jared Leto
เกร็ดภาพยนตร์
- The Rewrite - ผู้กำกับ มาร์ก ลอว์เรนซ์ และ ฮิวจ์ แกรนต์ ผู้รับบท คีธ เคยทำงานร่วมกันมาแล้ว 3 ครั้ง ได้แก่ Two Weeks Notice (2002) Music and Lyrics (2007) และ Did You Hear About the Morgans? (2009) นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ที่ มาร์ก รับหน้าที่กำกับ และ ฮิวจ์ รับบทนำ อ่านต่อ»
- Comet - เป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของผู้กำกับ แซม เอสเมล อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Pagalpanti ชาย 3 คน ที่โดนตัดสินว่าเป็นผู้ล้มเหลวไปแล้วในสายตาคนอื่น กำลังวางแผนที่จะหาทางรวยไปกับแฟนสาวอีก 2 คน โดยการหลอก 2 กลุ่...อ่านต่อ»