วิจารณ์ มนุษย์เหล็กไหล
-
benz
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 11 ส.ค. 49 16:17
มันหยดเลยฮะอยากให้มีภาค2จังชุดเท่กว่า spiderman อีก
-
K.O.N.G.
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 11 ส.ค. 49 08:56
เหนือความคาดหมายที่สุด... ผมว่านี่คงจะเป็นคำจำกัดความที่เหมาะสมที่สุดนะครับ นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีทีเดียวสำหรับSuperheroสายพันธุ์ไทยคนแรกแห่งจอเงิน ผมจะไม่เล่าแล้วกันว่าหนังเป็นอย่างไร แต่ขอให้ไปดูกันเอาเอง ยังไงก็ขอสนับสนุนหนังดีๆอีกคนด้วยนะครับ
แต่สิ่งที่ผมอยากจะเสนอมากกว่าก็คือ Idia สำหรับ มนุษย์เหล็กไหล ๒ (Mercury Man 2) หลังจากที่ผมได้ไปดูภาคแรกมาแล้ว และผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่สนใจในวงการภาพยนตร์ โดยเฉพาะหนังไทยเรื่องนี้ที่ถือเป็นก้าวใหม่ของวงการภาพยนตร์ไทย --- ถ้าหากทางผู้สร้างหนังเรื่องนี้หรือผู้เกี่ยวข้องที่ให้ความสนใจและสนับสนุนมาอ่านข้อคิดเห็นนี้ จะนำ Idia นี้ไปสร้างภาคต่อของ Superhero ของคนไทยก็ไม่ว่ากันนะครับ(ไม่สนใจก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน)
หนังภาคต่อทุกเรื่อง(Sequel)จะนำเสนอเรื่องราวที่สืบเนื่องจากภาคแรกๆ อาจจะขยายมุมมองเดิมๆให้ใหญ่ขึ้นกว้างขึ้น หรือใส่ปัญหาใหม่ๆมาให้ได้ขบคิดแก้ไข แต่สิ่งที่ไม่ควรทำก็คือการย่ำรอยเดิมของความสำเร็จที่ภาคแรกนั้นได้ทำไว้ หรือพูดง่ายๆคือเราไม่วครจะใช้มุขเดิมแล้วกับภาคใหม่ๆ
อย่างในเรื่องนี้ ภาคแรกเราได้รู้ว่าฌานกลายมาเป็นมนุษย์เหล็กไหลได้อย่างไร และสำหรับเรื่องราวการต่อสู้ก็มีเรื่องของเหล็กไหลมาเกี่ยวข้องด้วย ฉะนั้นผมว่าภาคสองถ้ายังจะให้ผู้ร้ายได้รับพลังจากเหล็กไหลเหมือนกับพระเอกอีกก็คงจะไม่ได้มุมมองใหม่ๆเลยแน่ๆ (ยกเว้นแต่ว่าถ้าผู้ร้ายนั่นเป็นหมอผี จอมขมังเวทย์คาถาอาคม หรือนักล่าของศักดิ์สิทธิ์ก็พอรับไหว)
ส่วนประเด็นความขัดแย้งของเรื่องราวนั้น ภาคแรกเล่นถึงเรื่องของผู้ก่อการร้ายที่มาวางแผนในเมืองไทย ก็ขอยกนิ้วให้จริงๆที่นานทีจะมีหนังสักเรื่องกล้าทำแล้วก็ทำออกมาดีด้วย เรียกว่าทันยุคทันเหตุการณ์ และสำหรับภาคสองนั้นผมคิดว่ายังมีหลายๆประเด็นนะครับที่น่านำมาเชื่อมโยงผูกกับเรื่องราว อย่างเช่นเรื่องของโรคระบาด --- อาจเป็นว่ามีองค์กรสักแห่งที่ทำการทดลองเชื้อโรคร้ายแรง แล้วเชื้อนั้นเกิดเล็ดลอดออกมาส่งผลให้เกิดวิกฤต หรืออย่างเช่นมีมนุษย์คนหนึ่งที่ได้รับเชื้อโรคร้ายแรง(เช่นH5N1) แต่ปรากฏว่าเขาไม่ตายแต่กลายเป็นอะไรที่เหนือกว่ามนุษย์ และแทนที่เขาจะใช้พลังนั้นเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกัน อย่างที่ฌานได้รับพลังจากเหล็กไหลแล้วตัดสินใจมาช่วยเหลือผู้คน แต่กลับนำพลังนั้นไปเข่นฆ่าทำลายผู้คนหรือถึงขั้นพยายามยึดครองบ้านเมือง...
เรื่องราวต้องขับดันตัวละครให้ดำเนินไปเสมอ ในภาคแรกนั้นฌานเป็นแค่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงธรรมดาๆที่ใจร้อนวู่วาม จนเมื่อเหล็กไหลสุริยันเข้าไปหลอมรวมกับร่างของเขา ทางเดียวที่จะทำให้เป็นหนึ่งเดียวกับพลังมหาศาลที่ได้รับนั่นคือสงบใจของตนเอง ผมว่านี่เป็นหัวใจหลักสำคัญของหนัง Superhero ชุดนี้ทีเดียว --- และถ้าหากภาคสองจะเกิดขึ้น ผมว่าเรื่องราวนั้นควรจะต้องลึก หนักและมืดหม่นมากขึ้น อาจมีเหตุบางอย่างที่ทำให้พระเอกไม่อาจควบคุมจิตใจตนเองได้... เป็นต้นว่าการได้พบคนรักคนใหม่ การที่เขาต้องใช้ชีวิตสองด้านคือเป็นทั้งพนักงานดับเพลิงหนุ่มกับSuperheroผู้ผดุงคุณธรรม ซึ่งไม่อาจจะเผยตัวตนที่แท้จริงให้ใครรู้ได้ --- และที่สำคัญที่สุดซึ่งขาดไม่ได้คือวายร้ายคู่ปรับในภาคสองนี้ เขาอาจจะเป็นวายร้ายโรคจิตจอมวางแผน ใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงเพื่อเข้ามาคุกคามชีวิตของฌานและคนรอบข้าง เหมือนเป็นมารซาตานที่คอยขัดขวางการทำความดีของพระเอก... หลายครั้งทำให้จิตใจร้อนรุ่มไม่สงบจนเกิดเป็นผลร้าย ท้ายสุดแล้วพระเอกจึงต้องดับความร้อนในใจของตนเองให้ได้ก่อนจะไปแก้ไขปัญหาทั้งหมด
สุดท้ายสำหรับความเป็นมนุษย์เหล็กไหล แม้ใครๆจะรู้ว่าได้แรงบันดาลใจมาจากSpider-Man(ดูได้จากCostumeหรือแม้แต่Dialogueในเรื่อง) แต่ผมว่ายังมีพลังของมนุษย์เหล็กไหลหลายอย่างที่กินขาดSuperheroอื่นๆ นอกจากความคงกระพันฟันแทงไม่เข้าแล้ว เป็นต้นว่าพลังสนามแม่เหล็กที่ยกรถได้ทั้งคันและพลังความร้อนที่สามารถแผดเผาสิ่งรอบตัว แต่ทำไมถึงกลับกลัวไฟฟ้าไปได้... ซึ่งก็เป็นธรรมดาอยู่แล้วเพราะแท้จริงSuperheroทั้งหลายก็เคยเป็นมนุษย์เดินดินมาก่อนทั้งนั้น(ยกเว้นแต่Supermanที่มาจากดาวคริปตอน!) ส่วนฉากต่อสู้มีให้เห็นกันทุกๆสิบนาทีตามสไตล์องค์บาก+ต้มยำกุ้ง แต่ผมคิดว่าภาคสองนี้ถ้าลองลดบางฉากให้น้อยลงบ้างแต่ไปเสริมให้แต่ละฉากดูยิ่งใหญ่อลังการขึ้น(พลังสนามแม่เหล็กของมนุษย์เหล็กไหลก็มี ถ้าลองให้ยกสะพานทั้งสะพานดูคงจะเจ๋งแน่ๆ)คิดว่าคงออกมาดีเยี่ยมยิ่งกว่าภาคแรกมากนักแล ฟันธง!! -
เสียเวลา
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 11 ส.ค. 49 08:41
ง่ายๆ เลยนะ เรื่องไหนลูกเกดเล่น
ห่วยทุกเรื่อง... -
j
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 10 ส.ค. 49 15:31
สนุกมากค่ะ
-
seven
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 10 ส.ค. 49 03:59
ทำยังไงก็ไม่มีทางเนียนเท่าฝรั่งครับ เพราะทุนไม่ถึง เรื่องนี้สำคัญที่สุด
ไม่ใช่ความสามารถคนไทยทำไม่ได้นะครับ
เช่น สิงโตในเรื่อง นาเนีย คนไทยก็เป็นคนทำ
หนังของไทยทุนเท่านี้ ได้เท่านี้ สุดยอดแล้วครับ ดูหนังเกรดบีของฝรั่งสิ ห่วยกว่านี้เยอะเลย -
chaaimboy
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 10 ส.ค. 49 03:10
หนังใช้ได้ครับ
ถึงเนื้อเรื่องจะแปลกๆไปนิดนึง แต่ก็ Ok นะ
สำหรับคอฮีโร่ อย่างผมรับได้ก็ โอเคแล้วครับ
อีกอย่าง
ถือเป็นก้าวแรกๆของวงการฮีโร่ไทยครับ
อย่าทำลายความหวังคนไทยเลยดีกว่านะ -
nekojung
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 10 ส.ค. 49 02:30
"ถ้าเราไม่ทำ มันก็จะไม่เกิด" เป็นคำพูดที่น่าประทับใจมากของคุณอ๊อด ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ การทำหนังออกมา มันเป็นการพูดถึงจินตนาการ เอาง่ายๆคนที่ว่า เลียนแบบ Spiderman ถามทีนะคะ เวลาคุณนึกถึงเหล็กไหล คุณนึกถึง สีอะไรคะ เหล็กไหลพอเรานึกถึงเรานึกถึงสีดำขึ้นมาทันทีไม่ได้นึกถึงสีอื่นเลย ส่วนเรื่องบท และเค้าโครง โอเค มันยังอ่อนไปที่ไม่แสดงให้เห็นว่า พระเอกคนนี้ปกป้องคนธรรมดาอย่างไร หรือ พิเศษอย่างไร และยังไม่มีจุดไคลแมกซ์ให้คนดูลุ้น เอาใจช่วยพระเอก ส่วนเรื่องอื่นๆใช้ได้ อธิบายทีเหตุผล ว่าทำไมชุดพระเอกต้องเป็นแบบนี้ ทำไมพระเอกต้องใช้พลองเป็นอาวุธ ทำไมลูกเกดซึ่งเป็นตัวร้ายถึงใช้พลังได้ไม่คล่องเท่าพระเอก และทำไมนางเอกถึงหาพระเอกเจอ
ถ้าคุณไม่ตั้งใจดูหนัง คุณก็จะไม่ได้คำตอบค่ะ Open Mild ก่อนดูหนัง ฮีโร่ไทย เรื่องนี้ บ้างนะจ้า -
ดูมาแล้ว
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 9 ส.ค. 49 17:16
การออกแบบ CG. การเล่าเรื่อง ค่อนข้างดีนะดูสนุก สอบผ่านเลยล่ะสำหรับซุปเปอร์ฮีโร่ตัวแรก ต้องยอมรับว่าเขากล้าทำ ผมไปดูรอบสื่อมวลชนมาเห็นมีเด็กมาดูด้วยพวกเขาชอบนะ
-
vb_club
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 9 ส.ค. 49 14:59
สนุกมากครับ
-
สวราชย์
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 9 ส.ค. 49 12:34
ดีมากสนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Quantum of Solaceเข้าฉายปี 2008 แสดง Daniel Craig, Olga Kurylenko, Mathieu Amalric
- The Matrix Revolutionsเข้าฉายปี 2003 แสดง Keanu Reeves, Carrie-Anne Moss, Laurence Fishburne
- สวย ซามูไรเข้าฉายปี 2009 แสดง โสภิตา ศรีบาลชื่น, แจ็คเกอลิน อภิธนานนท์, เกศริน เอกธวัชกุล
เกร็ดภาพยนตร์
- The Hobbit: The Battle of Five Armies - นักแสดงหลายคนเก็บอุปกรณ์การแสดงกลับบ้านไปด้วยหลังจากถ่ายทำเสร็จ อาทิ มาร์ติน ฟรีแมน ผู้สวมบท บิลโบ เก็บดาบและหูปลอมของตัวเองกลับไป ริชาร์ด อาร์มิเทจ ผู้รับบท ธอริน นำดาบออร์คริสต์กลับ ส่วน ลี เพซ ผู้รับบท ธรันดูอิล นำดาบเอล์ฟไป อ่านต่อ»
- Stonehearst Asylum - สร้างจากเรื่องสั้นเมื่อปี 1844 เรื่อง The System of Doctor Tarr and Professor Fether เขียนโดย เอดการ์ แอลลัน โพ อ่านต่อ»