วิจารณ์ โกยเถอะโยม
-
ปลานิล
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 23 ส.ค. 49 12:20
ฮาสุดๆเลยครับพี่
-
A
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 21 ส.ค. 49 10:10
เห็นด้วยกับคุณคัชชี่ค่ะ เป็นหนังที่ไม่ได้อยู่ในโผที่จะไปดูเหมือนกัน แต่เพื่อนอยากดู ก็เลยต้องดูเป็นเพื่อน
หนังไม่ค่อยขำเท่าไร ได้แต่นั่งอมยิ้มอย่างเดียว แต่ก็หักมุมดี แถมมีข้อคิดที่ดีอีกต่างหาก ดูแล้วก็ถือว่าโอเคนะ
ก็อยากไปลองดูกัน... -
Rocky
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 19 ส.ค. 49 22:05
ผมว่าตลกอ่ะ ใครไม่ตลกแสดงว่าดูหนังตลกไม่เป็น อย่าดูเลยดีกว่า เนื้อหาถึงส่วนใหญ่จะหนีแต่ผี แต่ตอนจบก็ทำได้ดีมากนะ ซึ้งดี แฝงข้อคิดด้วย
-
จาตุรงค์
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 17 ส.ค. 49 14:11
หนังไร้สาระมาก ตลก ฝืดๆอย่างเดียว
-
auto
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 17 ส.ค. 49 11:23
ชอบมากครับ
-
we
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 16 ส.ค. 49 22:57
ไม่สนุก เสียดายตังค์
-
สาวสวย
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 16 ส.ค. 49 11:11
ไม่หนุกเลยอะ โห เซ็งเป็นบ้า
-
คัชชี่
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 15 ส.ค. 49 14:26
เรื่องนี้ไม่ได้ตั๋วฟรีครับ..ไปดูกับแฟนมาเมื่อวานเอง จริงๆแล้วหนังเรื่องนี้ไม่อยู่ในโผที่จะไปดูเลยด้วยซ้ำ เพราะแค่ชื่อก็ไม่น่าดูแล้ว...ดูเป็นหนังตลกๆที่คงได้แค่ความตลก ในความรู้สึกแรกคิดว่าคงจะเหมือนๆหนังตลกหลายๆเรื่องที่ผ่านๆมา ไม่ค่อยจะได้สาระมากนักกับหนังประเภทนี้ จากที่ผ่านมาหนังไทยแนวนี้ดูค่อนข้างจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก เพราะแนวทางในการนำเสนอเป็นเพียงแค่หนังตลกๆธรรมดา แต่ในมุมมองของผู้กำกับคงจะต้องการบอกถึงความตลกของหนังจึงได้สื่อออกมาแบบนั้นในตัวอย่างหนังที่เราได้เห็นกัน
เมื่อมีกระแสวิภาควิจารณ์กันอย่างหนังถึงหนังเรื่องนี้ว่าเนื้อหาไม่เหมาะสม ชื่อไม่เหมาะสม จนทำให้เกือบไม่ได้เข้าฉายด้วยซ้ำไป... กลายเป็นว่า กระแสวิภาควิจารณ์ครั้งนี้กลับทำให้คนให้ความสนใจมากขึ้น ...ผมก็เช่นกัน...
หลังจากออกมาจากโรงหนังความรู้สึกแรกคือ หนังไม่ได้เพียงแค่ความตลกอย่างเดียว หากแต่สอดแทรกถึงหลักธรรมคำสอนต่างๆ ที่ดีมากสมควรแก่การนำมาปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน สำหรับผมนั้นได้อะไรดีๆจากหนังเรื่องนี้เยอะครับ หนังแสดงให้เห็นว่า การทำแท้งเป็นสิ่งไม่ดี การมีลูกเมื่อไม่พร้อมก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีเช่นกัน ทำให้ปัญหาทุกอย่างมาตกลงที่ลูกคนเดียว และการหนีความจริงก็ทำให้คนเราเป็นบ้าได้เหมือนกัน และการบันดาลโทษะก็ไม่แตกต่างอะไรไปจากการทำให้ทุกอย่างแย่ลงเช่นกัน
จตุรงค์แสดงได้ดี สมบทบาทในผ้าเหลืองมากครับ คงถูกคัดกรองมาอย่างดีแล้ว ไม่ทำให้ภาพลักษณ์เสียไปอย่างที่ข่าวเป็น แต่ก็แฝงด้วยมุกตลกที่ไม่น่าเกียดด้วยครับ
แต่ข้อเสียของหนังก็ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง..ยังถือว่ายังไม่ได้เพอเฟ็ค 100 % นัก การดำเนินเรื่องในช่วงแรกช้ามาก มีแต่คนเล่าเรื่องที่ตัวเองโดนผีหลอก เข้าเรื่องบ้างไม่เข้าเรื่องบ้าง เอาฮาเข้าว่า ถือเป็นเอกลักษณ์หนังผีไทยเลยเชียวแหล่ะ ดาราบางคนเข้าฉากแค่นิดเดียว ผมแอบเห็นบางคนในโบสถ์ไม่มีบทบาทเลยด้วยซ้ำไป เหมือนเพียงแค่ตัวประกอบที่ทำให้ดูคนในหมู่บ้านมีเยอะเท่านั้นเอง ส่วนดาราบางคนกลับหายไปในฉากที่เป็นฉากหลักของเรื่องอย่างในโบสถ์ เช่น โน๊ตและเมียโน๊ต หรือคุณชาย ที่เป็นลูกเฮียขายหมู แถมเป็นชาวบ้านคนเดียวที่ไม่โดนผีหลอกด้วยซ้ำ
อีกอย่างคือ เมื่อได้ดูหนังแล้ว ชื่อหนังไม่ได้สื่ออะไรกับหนังมากนัก แล้วฉากที่พระพูดว่า "โกยเถอะโยม" ในตัวอย่างหนังก็หายไป ดูเหมือนกับหนังที่ขายความตลกอย่างเดียวทั้งที่หนังก็ไม่ได้ตลกอย่างเดียว..(งงมะ) ถ้ามีการนำเสนอที่ดีกว่านี้ ผมว่าหนังไทยเรื่องนี้อาจจะได้ ร้อยล้านบ้างก็ได้ครับ -
j1
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 15 ส.ค. 49 13:21
ไม่มีสาระอะไร แต่ก็ตลกดี ขำตลอดเรื่องเลย
-
Hunter
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 14 ส.ค. 49 16:16
ไม่คิดว่า GTH จะยอมให้เงินทุนไปสร้างหนังเรื่องนี้ เพราะไม่ว่าจะเนื้อเรื่องที่ไม่น่าจะติดตาม ผู้กำกับมือใหม่ และ บทที่อ่อนแออย่างรุนแรงในทุกๆด้าน หนังเปิดเรื่องมาดูเหมือน(จะ)น่าสนใจ แต่ก็ไม่มีอะไรที่ให้น่าติดตาม Theme หลักของเรื่องนี้มีอยู่ที่เดียวคือในศาลาวัด และเรื่องราวที่เกิดขึ้นในศาลาวัดก็มีแค่ชาวบ้านมารวมตัวกันเพื่อที่จะเล่าเรื่องผีที่ตนเจอ กว่าจะเล่าเรื่องของแต่ละคนเสร็จก็กินเวลาไป ชั่วโมงกว่าแล้ว(ไร้สาร)และเรื่องที่แต่ละคนเล่าก็ไร้สาระอีกเช่นกัน ได้แต่ทนนั่วดูและรอว่าเมื่อไหร่จะจบ พอหนังดำเนินเรื่องใกล้จะถึงจุดไคลแมกซ์ หนังยิ่งพาตัวเองไปสู่จุดที่ต่ำที่สุด (ทั้งๆที่ต่ำอยู่แล้ว)
SPOIL....ใครยังไม่ได้ดูข้ามไปเลย
ปรากฏว่าสุดท้ายทั้งหมดทั้งมวลที่หนังเล่ามา ที่ผีมาเที่ยวหลอกหลอนชาวบ้าน แล้วจาตุรงค์ถามถามว่าพ่อ แม่แกเป็นใคร ไอ้ผีเด็กก็ตอบว่า แม่ผมเป็นบ้า พ่อผมมาบวชเป็นพระ (รู้ทุกอย่าง) สุดท้ายก็แค่ต้องการมารตามหาพ่อซึ่งก็คือ จาตุรงค์ แต่พอจาตุรงค์ถามด้วยความที่(เหมือนจะ)ไม่รู้ว่าพ่อแกคือใคร ผีเด็กตนหนังกับตอบอย่างไม่น่าให้อภัยว่า "ก็คุณนั่นแหละ" ซึ่งในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าพ่อแกเป็นใครแล้วจะมาเที่ยวหลอกชาวบ้านทำไม นี่ยังไม่นับถึงการตัดต่อที่ห่วยแสนห่วย มุขที่สุดแป็ก และการเล่าเรื่องที่ไร้อรรถรส ผมก็ขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้ที่ 3 เต็ม 10 คะแนนแล้วกันครับ
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Let Me Inเข้าฉายปี 2010 แสดง Kodi Smit-McPhee, Chloe Moretz, Richard Jenkins
- Vampire Hunter Dเข้าฉายปี 2004 แสดง Hideyuki Tanaka, Ichiro Nagai, Koichi Yamadera
- Unstoppableเข้าฉายปี 2010 แสดง Denzel Washington, Chris Pine, Rosario Dawson
เกร็ดภาพยนตร์
เปิดกรุภาพยนตร์
Fall In Love At First Kiss เรื่องราวระหว่างหนุ่มอัจฉริยะไอคิว 200 เจียงจื้อฉู่ (ดาร์เร็น หวัง) และสาวบ๊องหน้าใส หยวนเซียงฉิน (หลินอวิ่น) เมื่อตัวเ...อ่านต่อ»