SIAMZONE.COM

มันมาก สุดยอด

Action มันสะใจดีจัง
สั่นสะเทือน ทำได้ดีไม่เหนือจากความเป็นจริงมากเกินไปถึงจะชื่อ impossible ก็ตาม

นี่แหละ ที่เขาเรียกว่า MI.. ทุกๆภาค จะประมาณนี้..มีเป็นภารกิจ concept เดิมเป๊ะ จบแบบหักมุมเดิม ตัวการใหญ่อยู่ใกล้ตัว ไม่ต้องคาดเดามาก เนื้อเรื่องประมาณนี้แหละ ไม่ซับซ้อนอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ง่ายเท่าไหร่ แต่ action มันสุดยอด ตื่นเต้นดี ชอบ เข้าใจหาทำดี จุดขายเดิมๆ agent ต้องเก่งภาษา เชี่ยวชาญแทบจะทุกด้าน ทำอะไร ที่มัน impossible ให้มัน possible แบบเวอร์ๆ ใช้ hight technology เหลือเกินสรุปว่ามันส์ แบบ MI นี่แหละ ไปดูเลย มันเป็นการพัฒนาของ MI ไม่เสียดายตังค์หรอด

ตัวละครของ Tom Cruise มีอารมณ์และความรู้สึกมากกว่าสองเรื่องก่อนหน้า จุดหมายปฏิบัติการที่เป็นแกนกลางของเรื่องน่าจะให้ความหมายของผลที่ตามมาถ้าปฏิบัติการล้มเหลวได้มากกว่านั้น ในกรณีนี้ให้ความสำคัญกับความรู้สึกส่วนตัวของหัวหน้าปฏิบัติการเป็นหลัก น่าจะมีประเด็นของความเป็นส่วนรวมมากกว่านี้ อุปกรณ์ทันสมัยที่จำเป็นสำหรับปฏิบัติการถูกใส่เข้ามาได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ (เทียบกับสองเรื่องแรกเราจะไม่มีโอกาสได้เห็นกรรมวิธีในการผลิตหน้ากากปลอมตัวเลย) เล่นกับระบบรักษาความปลอดภัยไม่ยั้ง Style ของหนังยังไม่แตกต่างจากเรื่องที่สองมากนัก อย่างน้อยก็ Theme ของหนัง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกเสียววาบจากส่วนหนึ่งของปฏิบัติการซึ่งเป็นความรู้สึกที่น่าจดจำจากหนังต้นฉบับ แม้จะเทียบกันระหว่างฉากห้องน้ำในวาติกัน (เรื่องที่สาม) กับฉากห้อยตัวลงมาขโมยข้อมูล (ต้นฉบับ) ก็ตาม แต่ความรู้สึกกดดันที่สัมผัสได้ตั้งแต่เริ่มเรื่อง ทำเอาหายใจหายคอไม่ถนัดเหมือนกัน ฉาก Action ออกแบบได้สมจริงและดูน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะฉากบนสะพาน (Chesapeake Bay Bridge) ซึ่งเรียกร้องความสนใจ และ ...ตื่นเต้นได้อารมณ์ดีชะมัด!

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น คิดว่าสนุกอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมแฟร์รี่ส์จึงยอมให้โอเว็นจับง่ายๆโดยไม่สู้เลย แล้วส่ง ไมโครดอทมา

นับว่าภาคนี้พอใช้ได้ แต่ไม่ได้สนุกมากนัก แต่ก็ไม่ได้แย่เลยทีเดียว ความมันส์ระดับกลาง เดาเรื่องได้ง่ายเหมือนหนังแอ็กชั่นทั่วไป ไม่มีอะไรเป็นความต่างของภาพยนตร์ แต่สิ่งที่ดีของเรื่องนี้ก็มีคือภาพของฉากแอ็กชั่นนั้นนับว่าดี มุมกล้อง และ ฉากที่ถือว่าทำได้ดี เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรมาก ดูได้เรื่อยๆ ไม่ถึงขั้นแย่มาก แต่จะคาดหวังอะไรให้มากไม่ได้นัก ส่วนนักแสดง ทอมครูซยังแสดงคล้ายเดิม มีความแข็งทื่อ แต่พอดูได้ ฟิลิปป์ ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน ถือว่าสมบทบาทกับการแสดงเป็นตัวร้ายของเรื่อง และ สมกับรางวัลออสการ์ที่ได้รับไปตอนเดือนมีนาคม ส่วน 3 ผู้ช่วยของอีธาน นั้น ถือว่าเป็นตัวประกอบที่มีหน้าที่ในด้านส่วนของแอ็กชั่นเท่านั้น ลูกศิษย์ของอีธาน นั้นออกน้อยเกินไป เป็นปมที่เดาได้ง่าย ขาดในส่วนที่ต้องประทับใจ หรือ สงสัยที่จะเก็บไปคืดที่บ้าน สรุปโดยรวม ถือว่า 6.8 เต็ม 10 ส่วนหนึ่งมาจาก ฉากที่ดูดี และ อีกส่วนมาจาก การแสดงของฟิลิปป์ ซีมัวร์ ฮอฟแมน ถ้าคิดเกรดแบบ เอ บี ซี จะให้ประมาณ บี ลบ ส่วนรายได้คิดว่าวันนี้คงออกแล้ว จะทุบสถิติไหม คงไม่หรอกมั่งคับ แต่เปิด๖ว 3 วัน ราว 80 - 90 ล้านเหรียญ ก็คงจะมีสิทธิ์ แต่ก็ไม่แน่ในเรื่องรายได้

มันส์ดี มันส์มากๆ แต่ งง โดยเฉพาะ TEEN กระต่ายอ่ะ มึนๆ งง ๆ แต่มันส์มาก

จะว่าไงดีอ่ะ ทอม ครูชหล่อชะมัดเลย
ตอนดูเราก็ลนๆ ด้วยอ่ะ ไปเรียนสายเลย
ก็ยังงงกะตีนกระต่ายเหมือนกันนะ

ก็หนุกดีนะ แต่ยังไม่ถึงที่สุดอ่า คือยังงงๆกับตอนจบอ่า - - นักแสดงก็ ok แต่ชอบ Philip Seymour Hoffman ที่สุด ดูมีพลังดี
เรื่องนี้ผมให้ 9/10ละกัน
ปล. คำวิจารณ์ส่วนตัวนะครับอย่าด่าผมเลย น้าๆๆๆ

ถ้าไม่ใช่ทอม หนังคงโดนด่ามากกว่านี้
แย่มากครับ ทั้งเนื้อเรื่องและการแสดงของดารา
เหมือนขี้เกียจแสดง ไม่เป็นธรรมชาติ
เทียบไม่ได้เลยกับเจสัน บอนด์ ของเฮียแมด
รึเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสายลับ
ภาค 1 กะ 2 ดีที่สุดแล้ว
ผมให้ 6 จาก 10 ละกัน