วิจารณ์ ล่า-ท้า-ผี
-
ชาณาเมอมอน ~*
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 10 พ.ค. 49 10:55
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ช่วงแรกๆน่ากลัวมากกกกกกกกก
เราตกใจ ปิดตา หลบๆ กรี๊ดๆ เกือบตลอดเรื่องอ่ะ ( เป็นคนกลัวผีมากอ่านะ )
แต่ก็รู้สึกว่าผีจะน่ากลัวสู้ชัตเตอร์ไม่ได้ คือจะพูดถึงแล้วมันหลอนไม่เท่าชัตเตอร์ - -"
แต่นักแสดงเล่นได้ดีพอสมควรเลยนะสำหรับเรื่องแรก โดยเฉพาะน้ำตาล วิทย์ แล้วก็อ๊อฟอ่ะ
หนังมีจุดน่าสนใจตรงที่มีผีออกมาเรื่อยๆแทบไม่ให้คนดูตั้งตัว มันเลยตกใจมากกว่าที่จะกลัว
อย่างที่หลายๆคนบอก บทยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หลายๆตัวละครน่าจะทำให้เรื่องน่ากลัวกว่านี้ได้
อย่างตัว ไพลิน น่าจะมีเรื่องราวมากกว่านี้ อันนี้ดูๆน้อยไงไม่รู้
หนังยังไม่ค่อยมีที่มาที่ไปอ่ะ ... แล้วไม่รู้ว่าทีมงานตายยังไง ???
สุดท้ายทุกคนตายหมด มันดูแปลกๆไป น่าจะจบให้ดีกว่านี้หน่อย ตอนจบผิดหวังมากเลย -0-
ยอมรับว่าไปดูตามกระแสอ่ะ เห็นเค้าโปรโมทว่าน่ากลัวนักหนา
ถ้ามาอ่านคำวิจารณ์ในนี้ก่อนเราอาจจะไม่ไปดูก็ได้
ถ้าแก้บทหนังให้ซับซ้อน มีปม เป็นเรื่องเป็นราวกว่านี้หนังคงเหยียบ 100 ล้าน
(( ตอนนี้แอบหลอนนิดหน่อยยยย ตกลงเรื่องคุกนี้เรื่องที่สหายเซียมทำ มันเป็นจริงไหมอ่ะ ? )) -
aorja~
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 9 พ.ค. 49 23:07
เรื่องนี้ รวมๆ แล้ว production ดีนะ แล้วก็คุมโทนสีของหนัง ตลอดเรื่องเลย ทำให้คนดูเครียดได้พอสมควร
เนื่อหาของหนังช่วงแรก ก็พอจะทำให้คนดูติดตามได้ ลุ้นว่าปมของหนังจริงๆแล้วมีที่มาเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่ช่วงหลังๆ นั้น เมื่อทุกอย่างคลี่คลายแล้ว เนื้อเรื่องที่ดำเนินต่อจนจบ น่าเบื่อเกินไป เหมือนกับรีบๆทำให้จบๆ ไปงั้น คนดูเดาได้ จบอย่างไม่ประทับใจ
แต่ก็ยังดี ที่ไม่ทำผีออกมาแบบ ผีญี่ปุ่นจนมากเกินไป ดูแล้วไม่เฝือ ก็สามารถทำให้คนขวัญอ่อน กลัวได้พอสมควร -
ang
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 9 พ.ค. 49 19:15
ไม่ได้เรื่องเลย ไม่มีความน่ากลัวเลย ขนาดดูคนเดียวนะ เสียตังป่าว เชื่อดิ
-
เป็นประกาย
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 9 พ.ค. 49 17:12
ล่า-ท้า-ผี ภาพยนตร์สยองขวัญ ที่เรียกความสนใจจากผู้ชม ด้วยการนำเรียลลิตี้ไปซ้อนกับเรียลลิตี้ นั่นคือเรื่องราวการแข่งขันในฤดูกาบที่ 2 ของเกมเรียลลิตี้โชว์ท้าผี ซึ่งผู้แข่งขันจะต้องร่วมกันเผชิญหน้ากับสิ่งลึกลับ เพื่อหาผู้ชนะที่สามารถทนอยู่ในสถานที่แข่งขันได้เป็นคนสุดท้าย ส่วนเรียลลิตี้ลำดับที่สอง นั่นคือนักแสดงหน้าใหม่ของเรื่องทั้ง 11 คน ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการแข่งขันเรียลลิตี้โชว์จริงๆ ในนาม อะคาเดมี แฟนเทเชีย ปีที่ 1 นั่นเอง
ในส่วนเนื้อเรื่องนั้น ใครที่ชอบความสนุกแบบได้ตกใจเป็นระยะๆ ตลอดทั้งเรื่อง คงจะดูได้อย่างสนุกเพลิดเพลิน ตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่อง ที่เป็นการพยายามสร้างสถานการณ์เรียกเสียงกรี๊ดจากคนดู ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์อันสยดสยองของสถานที่แข่งขัน หมอผีเขมรที่มาทำพิธีก่อนเริ่มเกม หรือ ภารกิจท้าทายต่างๆ ที่ดูแล้วก็รู้แน่ว่าการกระทำแบบนั้น ผู้แข่งขันในเรื่องจะต้องเจอกับอะไรสักอย่าง ซึ่งก็ทำผู้ชมนั้นสามารถเตรียมตกใจล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องกลัวผิดหวัง
ขณะที่องค์ประกอบต่างๆ ในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ฉาก ต่างๆ ก็ดูเป็นงานสร้างที่พิถีพิถันเป็นอย่างดี รวมทั้งยังเหมาะสมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละฉาก ซึ่งในบางครั้งความเนี้ยบเกินไปก็อาจเป็นข้อเสียบ้างที่ทำให้ดูไม่เก่าหรือไม่ขลังจริงตามเนื้อเรื่อง แต่ก็เป็นจุดที่ไม่สร้างความตะขิดตะขวงใจมากนัก เพราะส่วนดีที่ได้ก็คือภาพและฉากต่างๆ ที่ทำออกมามีลักษณะสวยงามน่าดู
เมื่อพูดถึงจุดอ่อนที่สุดของเรื่องนี้ คงเป็นบทที่ค่อนข้างขาดน้ำหนักในหลายสถานการณ์ ซึ่งมักจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยในภาพยนตร์ประเภทนี้อยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เรื่องนี้มีบทที่ค่อนข้างอ่อนมากจนเกินไป ดังนั้นพออาการตกใจของผู้ชมหายไปแล้ว ความสงสัยก็จะก่อตัวขึ้นในทันทีด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผีไพลินที่สามารถมีบทบาทและเพิ่มอรรถรสให้กับเรื่องราวได้มากกว่านี้ หรืออย่างการตายของคนจำนวนหนึ่ง ซึ่งตายโดยไม่มีที่มาที่ไป เหมือนกับต้องการทำให้เรื่องจบไปตามที่กำหนดเอาไว้ ทำให้เรื่องราวไม่ลื่นไหล และสร้างความรู้สึกงุนงงไม่น้อย
ในส่วนของการแสดง ถือว่าสอบผ่านสำหรับนักแสดงที่เป็นหน้าใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะตัวเด่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ดาว (ศุภัทรศิริ ปฐมนุพงษ์) ยุทธ์ (พชรพล จั่นเที่ยง) หรือ เข็มทิศ (ปองศักดิ์ รัตนพงษ์) ซึ่งสามารถแสดงสีหน้าและอารมณ์ได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีบ้างสำหรับบางตัวละคร เช่น ผู้กำกับรายการ ที่พูดจาเหมือนท่องมากเกินไป รวมทั้งมุขที่พยายามจะพูดให้ขำแบบหน้าตาย ซึ่งก็เหมือนจะไม่ค่อยขำเท่าไรนัก
หากใครต้องการสัมผัสอารมณ์แบบสะดุ้งตกใจแบบภาพยนตร์สยองขวัญทั่วไป โดยมองข้ามความหละหลวมของเนื้อเรื่องต่างๆ อย่างที่กล่าวเอาไว้ ก็คงสามารถไปชมกันได้อย่างไม่ทำให้ผิดหวัง กับทุกๆ ฉากที่สร้างออกมาแบบตั้งใจเรียกอาการผวาจากผู้ชมตลอดทั้งเรื่อง -
jiw
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 9 พ.ค. 49 12:30
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น บทไม่ได้ความเลย อย่าไปดูเลยครับ หนังดูถูกสติปัญญาคนดูมากเกินไป เขียนบทไม่มีปมอะไรให้น่าสนใจเลย
มีแต่เข้าไปเล่นreality gameแล้วก็ตายๆๆๆ แล้วก็จบ
ถ้าเป็นผม จะเขียนบทให้ ในหนัง มีทั้งฆาตกร ผีที่คิดว่าเป็นคนอยู่ในผู้เข้าแข่งขัน คนของทีมงานที่คอยสร้างสถานการณ์และความขัดแย้งในทีม แบบนี้มันถึงจะสร้างความน่าติดตามและชวนสงสัยให้กับเรื่องราว ไม่ใช่เน้นแต่การหลอกผีห่วยๆ และฆ่ากันตายทั้งเรื่อง
บอกเลยครับห่วย อย่าไปดูเลย เสียดายเงิน -
สาวสวย
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 9 พ.ค. 49 09:44
ก็อย่างว่าแหละหนังที่ชอบหลอกตาเล่นเอาเกมส์มาทำเป็นหนังมันก็ห่วยอย่างนี้นี่เอง จริงป่ะ
-
วันนี้ไปดูมา
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 8 พ.ค. 49 16:49
ไม่ค่อยหลอนแต่สยองมากกว่าถ้าเทียบกับชัตเตอร์แล้วหลอนว่า ผูกเรื่องได้น่าติดตามมากกว่า เราหวังไว้กับเรื่องนี้มาก เพราะโปรโมตว่าดี แต่สุดท้ายก็ผิดหวัง
-
nooy
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 8 พ.ค. 49 09:39
ไม่ได้เรื่องเลย เสียดายตังมากๆ
ผีมันหลอกเกินไปจนน่าเบื่อ
เรื่องราวก็ไม่เหมือนกับประวัติศาสตร์จริง -
คนดูหนัง
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 พ.ค. 49 21:46
ไม่ได้เรื่องเลย เสียดายตังค์ไปดูมากๆ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุยไว้เลย
-
belljang
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 พ.ค. 49 18:10
สนุกมากๆๆน่ากลัวตลอดเรื่องเลยไปดูเราขอแนะนำเลย
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- ผู้หญิง 5 บาปเข้าฉายปี 2002 แสดง คลาวเดีย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา, ชุติมา เอเวอรี่, กมลชนก เวโรจน์
- องค์บาก 2เข้าฉายปี 2008 แสดง จาพนม ยีรัมย์, นิรุตติ์ ศิริจรรยา, สรพงษ์ ชาตรี
- ผีจ้างหนังเข้าฉายปี 2007 แสดง อชิตะ ปราโมช ณ อยุธยา, ภัครมัย โปรตระนันท์, นะโม ทองกำเหนิด
เกร็ดภาพยนตร์
- Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
- Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
The Lighthouse เอเฟรียม (โรเบิร์ต แพตทินสัน) ได้รับการว่าจ้างให้ขึ้นเรือไปยังเกาะอันห่างไกลนอกชายฝั่งนิวอิงแลนด์เป็นเวลา 4 สัปดาห์ เพื...อ่านต่อ»