SIAMZONE.COM

เราว่าหนังออกจะเว่อร์มากไปหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นคุยกันมากกว่า ฉากบู๊มีนิดเดียวเอง

ดูแล้วก็มันดีนะ บู๊สุดยอด นางเอกสวยมากๆๆๆ แต่ไม่ค่อยเข้าใจอะ

เป็นหนังที่แย่ที่สุดแห่งปีนี้แน่นอน บท ภาพ การแสดง แย่ทุกด้าน ผลงานก่อนนี้ของผู้กำกับเรื่องนี้ คือ เรื่อง นักฆ่าบวชไม่ต้องบวช กลายเป็นหนังดีไปเลย เมื่อเทียบกับเรื่องนี้ หลายคนคงเดินออกจากโรงก่อนหนังจบเป็นแน่

Milla J. เล่น Action เก่งมากๆเลย เเละดูเเต่ละเรื่องเธอ ก็บู๊ล้างผลาญทั้งนั้นเลย สมกับที่เป็นลูกครึ่ง ทั้งความสามารถ การเเสดง ท่าทาง อะไรก็ดูดีทั้งนั้น
สำหรับ Ultraviolet นับว่าเป็นหนัง Action ที่คอบู๊ทุกคนไม่ควรพลาด เเม้ว่าเปิดตัวด้วย box office อันดับหนึ่งก็ตาม (สำหรับเรา เราชอบเรื่องนี้มากๆ เลยล่ะ)

สนุกดีอ่ะ ตื่นเต้นเร้าใจดี ถ้าไม่คิดมากอ่ะนะ ก้อโอเช สนุก ๆ ไปดูไม่เสียดายตัง

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ชอบฉากบู๊ ดูแล้วคุ้มค่า 130 แต่ว่าเค้าถ่ายตั้งหลายวัน มันก็เนียนดีนะ ส่วน theme เรื่องมันเกี่ยวกับคนที่อยากเป็นแม่แล้วไม่ได้เป็น เห็นเด็กแล้วรู้สึกอยากปกป้อง ตอนสุดท้ายก็เหมือนเค้าได้ให้ชีวิตใหม่แก่เด็กคนนั้นนั่นแหล่ะ ส่วนรัฐบาลเผด็จการก็ทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ตนเองมีอำนาจเบ็ดเสร็จ มียารักษาก็ไม่ให้ แต่ใช้วิธีการแบ่งแยกคนเป็นสองกลุ่ม รัฐบาลมีหน้าที่ปกป้องประชาชน ปราบพวกติดเชื้อ พอพวกติดเชื้อ จะตายหมด ก็สร้างข้ออ้างใหม่ขึ้นมา จบข่าว

mila เท่ และหุ่นดีมากๆ..แอ๊คชั่นดีไซน์ได้แปลกตา และมันดี...ปัญหาคือส่วนอื่นนอกจากแอ๊คชั่นไม่สนุกเลย...

มั่วได้ใจ ประเด็นอะไรไม่มีสักนิด เวียนหัว ดูแล้ว เซ็งจิต กลับมานั่งคิด ไปดูทำไม

ต่อจากข้างล่าง ...bst2...
ที่บอกว่าสนุกน่ะ ก็สำหรับคนที่ไม่คิดอะไรมากเอาความสนุก ความบันเทิง ความมันส์ ซะใจและผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ดูหนังเพราะเหตุผลนี้ ไม่งั้นซื้อหนังแผ่นดูอยู่บ้านดีกว่า เพราะที่ไปดูโรงเพราะต้องการได้รสชาติของหนังมากกว่าดูอยู่กับบ้าน แต่สำหรับคนที่ดูแล้วคิดมาก ดูหนังเรื่องนึงก็ด่า ดูอีกเรื่องก็ว่าเพราะต้องการเนื้อเรื่อง สาระจากเรื่องของหนัง หรือเอาหนังเรื่องหนึ่งไปเทียบกับอีกเรื่องมากเกินไป คิดมาก (ดูแล้วเครียดหรือเปล่าเนี่ย ถ้าดูแล้วคิดไม่ได้ก็อย่าดูดีกว่าเพราะจะเครียด) แล้วก็ส่วนหนึ่งดูหนังตามกระแส เรื่องนี้คนดูเยอะ (แต่ไม่ได้เรื่องก็มี)
และที่บอกไปแล้วว่าแต่ละคนชอบไม่เหมือนกันก็จริงอยู่ แต่ถ้าคิดว่าดูหนังแล้ว จะคิดมาก ก็แนะนำว่าลองเปลี่ยวแนวดีกว่า หนังรักดีมั้ยเดี่ยวกลัวน้ำเน่าเกิน ทนไม่ไหว หนังแฟนตาซี ไซไฟหรือผจญภัยล่ะ. .ไม่เอาเดี๋ยวจะดูแล้วไม่สมจริง หนังตลกจะดีกว่ามั้งก็ว่ามุขฝืดอีก หาหนังตลกมุขขำยาก ถ้าเป็นแบบนี้ก็ดูตัวเองบ้างล่ะ...เพราะเขาดูหนังกันเพื่อความบันเทิง ครายเครียดหรือเพื่อสนุก (ไม่ใช่วิจารณ์ที่ดูเพื่อหาจุดด้อย หรือเอาสาระมาตีความให้มากมาย ..น่าเบื่อ..)

ต่อจากข้างล่าง...bst...
หนังเรื่องนี้เห็นได้ชัดว่าต้องการสร้างออกไปทางแนวโลกอนาคตที่มีตัวเอก ที่เด่นที่สุด แอ็คชั่นเกือบทั้งเรื่องซึ่งบางคนอาจไม่ชอบแต่ผมชอบ และที่บอกว่าเทคนิคพิเศษ หรือ เสปเชียลเอฟเฟคไม่ดี เหมือนการ์ตูนมากกว่า ข้อนี้ผมว่าผู้กำกับต้องการให้เป็นแบบนี้มากกว่าคือให้จินตนาการให้เหมือนโลกอนาคตที่อะไรอะไรก็คงต่างจากที่เห็นปัจจุบัน และไม่คิดว่าเค้าฝีมือไม่ถึงหรอกเพราะตอนนี้คอมพิวเตอร์อะไรอะไรก็สร้างได้ทั้งนั้น(ลองดู KingKong , The Lord of the Ring , Narnia , The day after tomorrow) และยอมรับว่าแนวนี้เนื้อเรื่องอาจคล้ายๆกับหลายๆเรื่องแต่รับรอง ความมันส์ต่างกันแน่นอน
เรื่องนี้ขอบอกว่า สนุกมาก ฉากแอ็คชั่น เยอะมากๆๆ (ไม่เคยเห็นเรื่องไหนเยอะอย่างนี้) โดยรวมก็ดี เนื้อเรื่องอาจคล้ายๆ หนังบางเรื่อง แต่ยอมรับได้ (คิดว่าไม่แพ้ Resident Evil2 หรอก) ดูแล้วไม่ผิดหวัง...