เกร็ดน่ารู้จาก The Constant Gardener
เกร็ดน่ารู้
- ดัดแปลงจากนิยายชื่อเดียวกันของ จอห์น เลอ การ์เร นักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษ
- นิยายต้นฉบับของภาพยนตร์ ถูกห้ามเผยแพร่ในประเทศเคนย่า เนื่องจากมีการเสนอเนื้อหาการฉ้อราษฎร์บังหลวงของเจ้าหน้าที่ในเคนย่า
- ครั้งแรกที่ ไซมอน แชนนิง วิลเลียมส์ ซึ่งต่อมารับตำแหน่งโปรดิวเซอร์ของเรื่อง ได้อ่านนิยาย The Constant Gardener เขารู้สึกประทับใจอย่างมากจนต้องเขียนจดหมายไปหาตัวแทนของ จอห์น เลอ การ์เร เพื่อยื่นข้อเสนอขอนำนิยายเรื่องนี้มาทำเป็นภาพยนตร์ ผลปรากฏว่าตัวแทนของ เลอ การ์เร ให้คำตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ แชนนิงจึงตัดสินใจบินข้ามทวีปจากลอนดอนถึงนิวยอร์กในเย็นวันเดียวกัน เพื่อพิสูจน์ให้ฝ่ายของ เลอ การ์เร เห็นว่าเขาเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มากเพียงใด
- เดิมที ไมค์ โนเวลล์ ได้รับการวางตัวให้เป็นผู้กำกับเรื่องนี้ แต่เขาได้ถอนตัวไปภายหลัง เพื่อไปกำกับภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter and the Goblet of Fire
- ผู้กำกับ เฟอร์นานเดส เมอเรลเลส ได้เสนอให้ถ่ายทำเรื่องนี้ในประเทศเคนย่า แทนที่จะเป็นแอฟริกาใต้ ซึ่งมีสถานที่มากมายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์
- เหตุผล 3 ข้อที่ทำให้เฟอร์นานโด เมเรลเลส ตัดสินใจยอมรับตำแหน่งผู้กำกับหนังเรื่องนี้ ก็คือ ข้อแรก เขาสนใจเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการผลิตยา ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมใหญ่และมีอิทธิพลมากสาขาหนึ่งของโลก ข้อสอง The Constant Gardener มีแง่มุมความรักที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง และข้อสุดท้าย ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้เขามีโอกาสได้เดินทางไปถ่ายทำที่เคนยา
- เพื่อความถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง เฟอร์นานโด เมเรลเลส และทีมงานจึงพากันไปขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทางการทูตอังกฤษประจำเคนยา ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี นอกจากจะให้คำแนะนำแล้ว เจ้าหน้าที่เหล่านั้นยังอนุญาตให้นักแสดงไปเยือนถึงที่พำนักของตน เพื่อศึกษาวิธีกินวิธีอยู่ในชีวิตประจำวันอีกด้วย
- เรื่องนี้เปิดกล้องในเดือนพฤษภาคม 2004 โดยเริ่มถ่ายที่ประเทศเยอรมันก่อน จากนั้นก็ย้ายไปอังกฤษ และสุดท้ายจึงไปปักหลักกันที่กรุงไนโรบี เมืองหลวงของเคนยา
- เทสซา หนึ่งในตัวละครสำคัญของเรื่อง ซึ่งรับบทโดย ราเชล ไวซ์ นั้น เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนผู้กล้าแกร่ง ตัวละครตัวนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนตัวจริง ชื่อ ยีแวตต์ ปิแอร์เปาลี ชาวฝรั่งเศส ซึ่งเริ่มทำงานด้านนี้มาตั้งแต่อายุเพียง 19 ปี
- มาร์คัส ลอร์เบียร์ รับบทโดย พีท พอสเทลเวท ได้สวมหมวกแก๊ปที่มีรูปเครื่องหมายเท่ากับสีเหลืองซี่งอยู่ภายในรูปสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน อันเป็นสัญลักษณ์ของโครงการรักษาสิทธิมนุษยชน องค์กรเพื่อสังคมซึ่งรณรงค์ด้านสิทธิที่เท่าเทียม ในการไม่แบ่งแยกเพศใดๆ โดยเป็นองค์กรสนับสนุนเพศที่สาม คือ เกย์ เลสเบี้ยน ไบโอเซ็กชวล และผู้ได้รับการผ่าตัดแปลงเพศที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา
- เรล์ฟ ไฟน์ส คือผู้ที่ถือกล้องและเป็นคนถ่ายด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นมุมมองของจัสตินในฉาก อันเป็นบทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้
- จากคำบอกเล่าของ เซซาร์ คาร์โลเน ผู้กำกับภาพชาวอุรุกวัย เขาเลือกที่จะถ่ายทอดโลกของจัสตินในสีเขียวเย็นตา ส่วนโลกของเทสซาเป็นสีแดงซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่น
- ขณะเฝ้าสังเกตการณ์การถ่ายทำฉากหนึ่ง เจฟฟรีย์ เคน ผู้เขียนบท พบว่ามีนักแสดงบางคนพูดไม่ตรงกับบทที่เขาเขียนไว้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะบ่นให้ เฟอร์นานโด เมเรลเลส ฟัง เมเรลเลสจึงเชื้อเชิญเคนให้รับบทตัวประกอบเล็กๆ เป็นพนักงานในคลับแห่งหนึ่ง ซึ่งมีบทพูดเพียง 1 ประโยคเท่านั้น เมื่อถึงเวลาเดินกล้องจริง เคนพบว่าตัวเองก็ไม่ได้พูดตรงตามที่บทเขียนไว้สักเท่าไร หลังจากถ่ายทำฉากนี้เสร็จ เมเรลเลสจึงเดินเข้าไปบอกเคนว่ารู้แล้วใช่ไหมว่าเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง
- หลังเสร็จสิ้นการถ่ายทำเรื่องนี้ มีการจัดตั้งกองทุน The Constant Gardener เพื่อช่วยเหลือคนท้องถิ่น ซึ่งอาศัยอยู่ในสลัมใกล้กับไนโรบี อันเป็นสถานที่ที่ตั้งกองถ่าย
- ฉากในสลัมที่ซึ่ง ราเชล ไวซ์ เดินผ่าน และมีเด็กๆ มารุมล้อมและถามว่า "How are you?" และ ราเชล ผู้รับบท เทสซ่า ได้ตอบกลับไปว่า "I'm fine, how are you?" ความจริงแล้วไม่ได้มีอยู่ในบทของเรื่องนี้ และเด็กๆ เหล่านั้นก็เป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในไคบีร่าจริงๆ ไม่ใช่ตัวประกอบ
- ระหว่างการถ่ายทำที่เคนยา ราเชล ไวซ์ ปลีกเวลาไปบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ด้วยการปรากฏตัวในสปอตโทรทัศน์ เวิร์ล ฟู๊ด โปรแกรม (World Food Program) ขององค์การสหประชาชาติ
- มีการติดตั้งถังน้ำขนาดใหญ่ ก่อสร้างสะพานและห้องเรียนใหม่ในสลัม ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำของเรื่องนี้ในไคบีร่า นอกจากนั้นแล้วยังมีการสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษากลางทะเลทรายทางตอนเหนือของประเทศเคนย่า ซึ่งถูกใช้เป็นฉากสุดท้ายของการถ่ายทำเรื่องนี้อีกด้วย
advertisement
วันนี้ในอดีต
แจ๋วเข้าฉายปี 2004
แสดง พรชิตา ณ สงขลา, จารุภัส ปัทมศิริ, จารุณี บุญเสก
TRON: Legacyเข้าฉายปี 2010
แสดง Garrett Hedlund, Olivia Wilde, Jeff Bridges
รักที่รอคอยเข้าฉายปี 2009
แสดง รัชวิน วงศ์วิริยะ, พิษณุ นิ่มสกุล, ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ
เกร็ดภาพยนตร์
- Night at the Museum: Secret of the Tomb - เป็นผลงานการแสดงเรื่องสุดท้ายของ โรบิน วิลเลียมส์ นักแสดงบท ธีโอดอร์ รูสเวลต์ ส่วนใน Absolutely Anything (2015) โรบิน เพียงพากย์เสียงเท่านั้น อ่านต่อ»
- The Tale of The Princess Kaguya - มีความยาว 137 นาที ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ยาวที่สุดของสตูดิโอจิบลิ โดยยาวกว่า Princess Mononoke (1997) 3 นาที อ่านต่อ»
