เกร็ดน่ารู้จาก The Great Raid
เกร็ดน่ารู้
- ภาพยนตร์อิงเรื่องจริงโดย จอห์น ดาห์ล ที่เล่าภารกิจกู้ชีวิตสุดทรหดในประวัติศาสตร์อเมริกา
- บทภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ส่งให้ วิลเลี่ยม บรูเออร์ นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ คาบานาทวน อ่านเพื่อขอคำแนะนำ
- เจมส์ ฟรานโก ได้พบกับร้อยเอกพรินซ์ตัวจริง ซึ่งอาศัยอยู่ในซีแอตเติล และได้ดูฟุตเตจบทสัมภาษณ์ พรินซ์ ในช่วงปี 40
- ตอนแรกบทร้อยตรีฮวน ปาโจตา เป็นของ โซเรน เลแกสปี แต่เนื่องจากเขาติดงานอื่นและไม่สามารถจากครอบครัวเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อถ่ายทำเรื่องนี้ที่ออสเตรเลียได้ บทนี้จึงตกเป็นของ ซีซาร์ มอนทาโน
- โจเซฟ ไฟนส์ ลดน้ำหนัก 20 ปอนด์ เพื่อแสดงบทพันตรีกิ๊บสัน โดยควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเคร่งครัดในช่วงเวลา 5 เดือนของการถ่ายทำ
- นักแสดง 120 ชีวิตต้องเดินทางไปเข้าค่ายฝึกพิเศษที่รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นเวลา 10 วัน ภายใต้การบังคับบัญชาของร้อยเอก เดล ดาย
- เรื่องนี้ถูกถ่ายทำในปี 2002 มีกำหนดฉายเดิมในปี 2003 จากนั้นก็เลื่อนเป็นปี 2004 แต่แล้วมิราแม็กซ์ก็เลื่อนวันฉายออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกระทั่งเมื่อ ดิสนีย์ และ มิราแม็กซ์ แยกตัวออกจากกันเรียบร้อย จึงได้กำหนดวันเข้าฉายของเรื่องนี้ในอเมริกา เดือนสิงหาคม ปี 2005
- ลำดับเวลาที่คาบานาทวน
- 7 ธันวาคม 1941 กองกำลังญี่ปุ่นบุกเพิร์ลฮาร์เบอร์ หลังจากนั้นไม่นานก็บุก คลาก ฟีลด์ ในประเทศฟิลิปปินส์ อาณานิคมหนึ่งของสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะได้รับการปลดปล่อย ฟิลิปปินส์กลายเป็นเป้าหมายหลักของญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นได้ยึดเกาะต่างๆ เพื่อคุมแปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้ทั้งหมด
- 10 ธันวาคม 1941 ญี่ปุ่นเดินหน้าจู่โจมฟิลิปปินส์เต็มที่ โดยประจัญหน้ากับนายพล แม็คอาร์เธอร์ผู้นำกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งประจำการอยู่ที่นั่น
- 27 ธันวาคม 1941 นายพลแม็คอาร์เธอร์ถอนกำลังจากกรุงมะนิลาสู่บาทาน
- 2 มกราคม 1942 ญี่ปุ่นยึดกรุงมะนิลาได้สำเร็จ หลังระดมทิ้งระเบิดอย่างหนัก
- มีนาคม 1942 ภายใต้คำสั่งของประธานาธิบดีรูสเวลท์ นายพลแม็คอาร์เธอร์ออกจากฟิลิปปินส์และเดินทางสู่ประเทศออสเตรเลีย
- 9 เมษายน 1942 นายพล เอ๊ดเวิร์ด คิง ผู้นำกองกำลังลูซอน ซึ่งประกอบด้วยทหารอเมริกันและฟิลิปปินส์ 70,000 ชีวิต ยอมจำนนนต่อกองทัพญี่ปุ่นที่บาทาน นับเป็นการยอมแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน
- 10 เมษายน 1942 กองทัพญี่ปุ่นบังคับให้เชลยศึกเดินทางข้ามป่าเขาในบาทานเป็นระยะทางกว่า 65 ไมล์ สัปดาห์ถัดมา ทหารอเมริกันนับร้อยและทหารฟิลิปปินส์กว่าพันคนเสียชีวิตเพราะขาดอาหาร ทนพิษบาดแผลไม่ไหว โรคร้าย และถูกฆ่าตาย
- เมษายน 1942 เชลยศึกถูกคุมตัวเข้าค่ายโอดอนแนล ที่ซึ่งเชลยชาวอเมริกัน 1,500 คน และเชลยชาวฟิลิปปินส์ 15,000 คนเสียชีวิตภายใน 2 เดือนของการถูกคุมขัง
- มิถุนายน 1942 เชลยศึกชาวอเมริกันถูกส่งไปยังค่ายคาบานาทวน หลายร้อยชีวิตเสียชีวิตตั้งแต่เดือนแรกจากภาวะขาดอาหาร โรคเขตร้อน และการถูกทรมาน ซึ่งเป็นเช่นนี้เรื่อยไปอีกตลอด 3 ปี
- สิงหาคม 1944 กระทรวงการสงครามของญี่ปุ่นออกนโยบาย Kill All Policy เพื่อกำจัดเชลยศึกที่เหลืออยู่ให้สิ้นซาก
- 20 ตุลาคม 1944 นายพล แม็คอาร์เธอร์ กลับมายังฟิลิปปินส์
- 14 ธันวาคม 1944 เชลยศึกชาวอเมริกัน 150 ชีวิต ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดที่ค่ายปาลาวัน และมีข่าวลือว่าค่ายคาบานาทวนจะเป็นเป้าหมายต่อไป
- 27 มกราคม 1945 พันเอก เฮนรี่ มุชชี่ และกองกำลังที่ 6 ได้รับคำสั่งให้บุกค่ายคาบานาทวน
- 27 มกราคม 1945 กองลาดตระเวนอลาโม่เริ่มต้นสอดแนมเขตแดนศัตรู
- 30 มกราคม 1945 ปฏิบัติการบุกค่ายคาบานาทวนเริ่มต้นขึ้น
advertisement
วันนี้ในอดีต
- ผู้หญิง 5 บาปเข้าฉายปี 2002 แสดง คลาวเดีย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา, ชุติมา เอเวอรี่, กมลชนก เวโรจน์
- องค์บาก 2เข้าฉายปี 2008 แสดง จาพนม ยีรัมย์, นิรุตติ์ ศิริจรรยา, สรพงษ์ ชาตรี
- ผีจ้างหนังเข้าฉายปี 2007 แสดง อชิตะ ปราโมช ณ อยุธยา, ภัครมัย โปรตระนันท์, นะโม ทองกำเหนิด
เกร็ดภาพยนตร์
- Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
- Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»