วิจารณ์ ต้มยำกุ้ง

วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 27 ส.ค. 48 21:37

    สนุกมาก หนังไทยจะได้มีระดับมากขึ้นให้ 10 คะแนนเลย ขอเป็นกำลังใจให้บักขามนะครับ

  • เมื่อ 27 ส.ค. 48 10:40

    ก็ที่ดูมาก็สนุกดีเเละมันมาก ขอให้ถ่ายทำต่อไป

  • เมื่อ 27 ส.ค. 48 03:04

    1.นักแสดงที่โชว์อารมณ์ได้เก่งที่สุดก็คือ พ่อใหญ่ (คนเป็นๆ อายไหมเนี่ย)
    2.น่าจะเชิญ สตีเว่น ซีกัล มาช่วยกันหักกระดูกเป็นสถิติโลก..
    3. อะไรคือความศักดิ์สิทธิ์ของทหาร "จตุรงคบาท"!!! (เด็กบางคนตอบ..เกมส์ต้มยำกุ้ง...)
    4. ไม่รู้ว่า วูฟล์ เวอร์ลีน จะเอาชนะพี่ขามได้หรือเปล่า?
    5. บักหำแหล่ เล่นได้ดีกว่า จ่ามาร์ค (น้องตั๊กตอนถกกระโปรงแดงก็เช่นกัน)
    6. คนไทยในออสฯเป็นได้แค่เด็กเสริฟกับE-ต??..แต่..มีแต่คนไทยเท่านั้นที่เป็นคนดี(และฉลาด)
    7. ภาพยนตร์ไทยหรือหนังขายยา(ชูกำลัง) ????
    8. เตรียมออก ver. 2 เพื่อแก้ bug และ error ใน ver.1(อาจแถม ver .2.5 และ update patch 2.5.1 ตอนบรรจุแผ่น)
    9. ดีที่ไม่มีฉากผู้กองยิงปืนใส่พี่ขาม..(ไม่งั้นคงได้เห็น NEO2)
    10. ประโยคทองของเรื่องคือ " ช้างกูอยู่ไหน "
    11 ฤา.".ความตั้งใจ"กลายเป็นเหยื่อ"ธุรกิจ"... ("กำไร"แต่ไม่"งดงาม")

  • เมื่อ 26 ส.ค. 48 21:09

    ให้ 10/10 เลยครับ ดูแล้ว สนุกดี

    ฉาก ที่ แสดง ถึง อารมณ์ ของหนัง ก็ เข้าท่า ดีนะ

    โดย รวม ถือ ว่า ภาพ ออกมา สวยมาก ครับ

  • เมื่อ 26 ส.ค. 48 20:53

    น่าดูในโรงไหม=น่าดู
    น่าซื้อ DVD เก็บไหม=แน่นอน

    เป็นหนังไทยประทับใจ (1 ใน 10) ไหม= ไม่เลย

    สรุป ถ้าดูเอามันส์ เอาไปเลย เต็ม 10..นอกนั้นตกเกือบหมด โดยเฉพาะ คนตัดต่อหนัง

  • เมื่อ 26 ส.ค. 48 19:58

    คนไทย ไม่กล้ายอมรับของไทย ถ้าต่างชาติไม่ยอมรับก่อน ไม่งั้น เชย
    อย่างตอนองค์บากเข้าไทยใหม่ๆ มีคนไทยบางคน มาด่าแบบเด็ดขาดว่าไม่มีทางเทียบเฉินหลง
    หรือเจ็ทลี ได้
    แต่ตอนนี้ พวกนั้น....... เงียบไปแล้ว เพราะต่างชาติก็ยอมรับแล้ว
    พวกนี้ชอบดูถูก อะไรที่เป็นของไทย ในสายเลือดเลยล่ะครับ

  • เมื่อ 26 ส.ค. 48 19:54

    เป็นหนังที่สนุกมากที่สุดเท่าที่เคยดูมาในชีวิตเลยค่ะ

  • เมื่อ 26 ส.ค. 48 14:21

    หนังดีมากมันมาก

  • เมื่อ 26 ส.ค. 48 12:06

    และแล้วในที่สุด “ต้มยำกุ้ง”ภาพยนตร์แห่งปีที่คนไทยทั้งประเทศรอคอยก็มาถึง ไม่ต้องการันตีอะไรมากก็คงจะรู้แล้วว่าอาหารจานเด็ดนี้เผ็ดร้อน เข้มข้นสุดมันส์แค่ไหน ตลอดชั่วโมงครึ่งของภาพยนตร์นั้น เรียกได้ว่าแทบจะหยุดกระพริบตาไม่ได้เลย และด้วยอานิสงค์จาก “องค์บาก” ภาพยนตร์เรื่องก่อนของ จา พนมที่ดังข้ามโลกนั้น ก็ยิ่งทำให้ “ต้มยำกุ้ง” กลายเป็นภาพยนตร์แอ็กชั่นฟอร์มยักษ์ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และยังคงคอนเซปต์ไว้ว่า “ไม่ใช้สลิง ไม่ใช่ตัวแสดงแทน” มาถึงครั้งนี้ จา พนมซึ่งตอนนี้เป็น Tony Jaa ไอดอลชื่อดังของโลกไปแล้ว ก็กลับมาด้วยเรื่องราวของการตามหา “พ่อใหญ่” และ “ขอน” ช้างพ่อลูกที่ถูกคนร้ายผู้มีอิทธิพลลักพาตัวไปถึงออสเตรเลีย และเพราะเป็นภาพยนตร์แอ็กชั่น ถ้าไม่ได้บู๊สะบั้นหั่นแหลกให้ถึงพริกถึงขิงก็ดูจะกระไรอยู่ ทั้งคู่ต่อสู้นั้นก็ระดับโกอินเตอร์ วิทยายุทธเป็นเลิศทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Johnny Nguyen ,Jing Xing ,Nathan B. Jone , Jon Foo, Lateef Crowder

    สำหรับเนื้อหาตอนแรกเริ่มซึ่งเล่าถึงความเป็นมาของพระเอกและช้างพ่อลูกนั้น ดูออกจะนิ่งๆมาเรื่อยๆเรียงๆ ชวนให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง “ช้างเพื่อนแก้ว” แต่เมื่อพอถึงตอนที่ช้างพ่อลูกถูกจับไปแล้วนั้น การเดินเรื่องกลับเร่งเร็วปุบปับในทันที พร้อมด้วยฉากแอ็กชั่นที่มาตามสูตร ประเดิมด้วยฉากไล่ล่าด้วยเรือหางยาว ซึ่งดูจะลงทุนไปแบบตำน้ำพริกละลายคลองทีเดียว ก่อนที่จา พนมจะข้ามโลกต่อไปยังออสเตรเลีย ซึ่งฉากแอ็กชั่นต่อมาก็คือการปะทะกับแก๊งExtreame ของJohnny และแน่นอนว่าต่อให้มาเป็นสิบก็เรียบวุธ ก่อนจะบุกไปลุยต่อในร้านต้มยำกุ้งอย่างต่อเนื่อง ปะทะกับcapoeira ของ Lateef กับ wusu ของ Jon Foo ในวัดไทย และจบลงด้วยการโชว์มวยคชสารแบบเต็มๆที่โอเปราเฮ้าส์กับลูกสมุนนับร้อยและนักมวยปล้ำอีก 4 คนรวมถึง Nathan B. Jone ของ Madam Rose ที่แสดงโดย Jing Xing

    มีคำชมก็ต้องมีคำติ เพราะด้วยความเป็นภาพยนตร์แอ็กชั่นระดับเทียบเท่ากับฮอลิวู๊ด(หรือเปล่า) ที่ทำให้การเดิมเรื่องต้องเร็วขนาดนี้ การตัดต่อนั้นรวดเร็วมาก ทำให้การเล่าเรื่องโดยเฉพาะในตอนท้ายที่ออกจะขาดๆเกินๆไปหน่อย ตัวละครหลายๆคนไม่ค่อยมีบทบาทอะไรมากนัก ทั้งปลา ที่แสดงโดยตั๊ก บงกช ซึ่งดูจะเหมือนตัวประกอบเสียมากกว่า หรืออย่างJohnny ที่ปะทะกับ จาพนมเพียงครั้งเดียว หันไปรัวกระสุนใส่ Vincent ตำรวจหัวหน้ากังฉินของจ่ามาร์ค ที่แสดงโดยหม่ำ จกมก แล้วก็หายสาบสูญไปเฉยเลย ตัวละครอีกหลายคนก็โผล่มาแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ เช่นอย่าง Lateef กับ Jon Foo และที่น่าผิดหวังนั้นก็คงจะเป็นฉากปะทะในร้านต้มยำกุ้ง ซึ่งถ่ายทำแบบ Long takeไม่ตัดต่อ แต่ผลที่ออกมานั้นดูจะเหมือนกับReality Show หรือถ่ายทอดสดเสียมากกว่า เพราะกล้องนั้นถ่ายตามติด จา พนม แบบกระชั้นชิดเกินไป ซ้ำเหล่าร้ายก็ออกจากน้อยนิดไปด้วยไม่สมกับที่เป็นฉากใหญ่ของเรื่องนัก แต่ถ้าจะพูดถึงภาพรวมแล้ว ต้องยกให้เต็มร้อยเลย เพราะการสร้างสรรค์นั้นอลังการ ทุ่มเทอย่างเต็มที่ นานทีปีหนจะมีสักกี่ครั้งที่ภาพยนตร์ไทยจะทำได้แบบนี้กัน สุดท้ายที่ขอชื่นชมก็คือมุขตลกของเรื่องนี้ ที่มีนักแสดงรับเชิญมาปรากฏตัวแบบน่าประหลาดใจ ทั้งนักแสดงจากเรื่อง “องค์บาก” เอง หรือแม้แต่ เสก loso กับ Jackie Chan ยังมาร่วมแจมกับเขาด้วย และเราจะต้องจับตาดูภาพยนตร์เรื่องใหม่ของจา พนม นั่นคือเรื่อง “SWORD.” ซึ่งจะเข้าฉายปีหน้านี้ว่าจะออกมาเยี่ยมยุทธแบบนี้หรือเปล่า…

  • เมื่อ 26 ส.ค. 48 11:05

    สนุกมาก ๆๆๆๆๆ..... ถึงมากที่สุดจนไม่รู้เลยว่าหนังจบตอนไหน เหมือนกับว่าเพิ่งนั่งดูได้แค่ แป้บเดียวเองก็จบแล้ว ก็ดีนะที่คนไทยเก่งขนาดนี้ทำหนังเทียบกับระดับฮอลีวูดได้เลย

มีทั้งหมด 246 วิจารณ์ หน้าที่ 6 [ก่อนหน้า] 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • AlexanderAlexanderเข้าฉายปี 2004 แสดง Colin Farrell, Jared Leto, Angelina Jolie
  • Puss in BootsPuss in Bootsเข้าฉายปี 2011 แสดง Antonio Banderas, Salma Hayek, Zach Galifianakis
  • ฝนตกขึ้นฟ้าฝนตกขึ้นฟ้าเข้าฉายปี 2011 แสดง นพชัย ชัยนาม, ศิริน หอวัง, อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Unbroken - เดน ดีฮาน เกือบได้แสดงบท หลุยส์ แต่สุดท้ายแล้วบทนี้ตกเป็นของ แจ็ก โอ'คอนเนลล์ อ่านต่อ»
  • Focus - เป็นภาพยนตร์เรต R เรื่องแรกของ วิลล์ สมิธ ผู้รับบท นิกกี หลังจาก Bad Boys II (2003) อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Farewell Song Farewell Song เรื่องราวของ 2 เพื่อนรัก ฮารุ (มุกิ คาโดวากิ) และ เลโอะ (นานะ โคมัตสึ) ได้ร่วมกันฟอร์มวงดนตรีชื่อ ฮารุเลโอะ ขึ้นแล้วก็เ...อ่านต่อ»