The Hidden Blade

N/A คะแนนสยามโซนรออย่างน้อย 5 โหวต ร่วมโหวต
  • ชื่อไทยซามูไร หิมะ ซากุระ ความรัก
  • ปีที่เปิดตัว2547
  • เข้าฉายในไทย4 สิงหาคม 2548
  • จำกัดโรงที่เครือ Apex
  • นำแสดงMasatoshi Nagase , Takako Matsu, Hidetaka Yoshioka
  • เรื่องราวของชนชั้นซามูไร ที่ผสานเรื่องราวสองเรื่องเข้าไว้ด้วยกัน นั่นคือ คาคูชิ เคน, โอนิ โน ซึเมะ (Hidden Sword, Devil's Craw) ซึ่งเป็นเรื่องราวของเทคนิคการใช้ดาบที่เป็นความลับสุดยอด และจะถูกถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น จากอาจารย์สู่ลูกศิษย์เท่านั้น และ ยูกิ อะคาริ (Snow's Glare) ที่บอกเล่าเรื่องราวของความรักระหว่างคนต่างชนชั้น

    เหตุการณ์ในเรื่องจะติดตามชีวิตของ มูเนโซะ คาตากิริ นักรบที่มีชีวิตอยู่ในตอนปลายของยุคเอโดะ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อวัฒนธรรมจากโลกตะวันตกได้เข้ามากลืนกินวิถีชีวิตของซามูไรไปอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน เขาก็พบตัวเองพัวพันอยู่ในความขัดแย้งที่นำเขาไปสู่การเผชิญหน้ากับเพื่อนเก่าในที่สุด และที่สำคัญ ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็ได้ทำความรู้จักกับ คิเอะ หรือความรักอันละเมียดละไมที่อยู่เหนือขอบเขตของกำแพงแห่งชนชั้นนั่นเอง

    กลางศตวรรษที่ 19 ในระหว่างยุคสุดท้ายของบรรดาโชกุนและเหล่านักรบซามูไรทั้งหลาย สายลมแห่งความเปลี่ยนแปลงที่กำลังพัดผ่านไปทั่วทุกหนแห่งในประเทศญี่ปุ่นนั้น ก็เริ่มจะสัมผัสได้แม้กระทั่งในแคว้นอุนาซากะ มณฑลเล็กๆ ที่มีการปกครองในระบอบศักดินา ที่อยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเลตอนเหนือบนเกาะหลักของญี่ปุ่น

    เพื่อนรักสองคน คือ มุเนโซะ คาตากิริ (มาซาโตชิ นางาเสะ) และ ซาเอมอน ชิมาดะ (ฮิเดทากะ โยชิโอกะ) ได้ไปส่ง ยาอิชิโร ฮาซามะ (ยูกิโยชิ โอซาวะ) ในการออกเดินทางเพื่อไปรับตำแหน่งสำคัญในองค์กรของกลุ่มในเมืองเอโดะ

    หลังจากนั้น ทั้งสองก็ได้กลับไปยังบ้านของมุเนโซะ ซึ่งเป็นเพียงที่พักอาศัยเรียบๆ พอเหมาะพอสมกับซามูไรที่มีรายได้ประจำน้อยนิด อยู่เพียงที่ข้าวสาร 30 โคคุเท่านั้น แต่ก็เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเสียงหัวเราะที่เขาอยู่ร่วมกับมารดา น้องสาวของเขา ชิโนะ (โทโมโกะ ทาบาตะ) และ คิเอะ (ทากาโกะ มัตซุ) สาวชาวนาแสนน่ารักผู้เป็นสาวรับใช้ในบ้าน พร้อมกันกับการเรียนรู้มารยาทและฝึกฝนวิชาการเรือนและเย็บปักถักร้อยที่เธอจำเป็นต้องมีไว้ เพื่อการแต่งงานในอนาคตข้างหน้าที่จะนำพาชีวิตของเธอให้ดีขึ้นอีกด้วย

    เวลาผ่านไปสามปี ระหว่างนั้น มารดาของมุเนโซะได้เสียชีวิต พร้อมกับความกังวลในเรื่องที่บุตรชายของเธอยังคงไม่มีภรรยามาเป็นคู่ชีวิต ในขณะที่น้องสาวของเขาได้ออกเรือนไปแล้วกับ ซาเอมอน ปล่อยให้มุเนโซะต้องอยู่ในบ้านของพวกเขาเพียงลำพังกับหญิงรับใช้สูงอายุคนหนึ่งเท่านั้น ส่วน คิเอะ ได้แต่งงานเข้าไปสู่ตระกูลอิเซยะ ครอบครัวผู้ขายส่งน้ำมัน โดยที่มุเนโซะเข้าใจว่าเธอจะมีชีวิตคู่ที่มีความสุข

    เมื่อพบเธอโดยบังเอิญขณะเธอกำลังเดินซื้อของอยู่ในวันหนึ่งในฤดูหนาว เขาก็ได้สังเกตเห็นว่าเธอกลับผอมซูบลง และกลับดูโศกเศร้า และเขาก็กลับรู้สึกเจ็บแปลบในใจอย่างแปลกประหลาด เมื่อเห็นเธอเดินจากไปท่ามกลางหิมะที่พรั่งพรูนั้น

    หลายเดือนผ่านไป ด้วยคำสั่งของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในเมืองเอโดะ มุเนโซะได้เป็นหนึ่งในซามูไรที่จะได้เข้ารับการฝึกสอนวิธีการใช้ปืนใหญ่ อันนับเป็นวิทยาการล้ำสมัยในยุคนั้น เมื่อได้ทราบข่าวว่าคิเอะได้ล้มป่วยลง เขาและซาเอมอนก็รีบรุดเดินทางไปยังบ้านอิเซยะ หลังจากได้รับการต้อนรับอย่างไม่เต็มใจนักจากมารดาของสามีของคิเอะ เขาก็ได้พบกับเธอในสภาพป่วยหนัก นอนซมอยู่ในห้องเก็บของที่มีเพียงแสงไฟริบหรี่เท่านั้น และหลังจากได้สั่งให้สามีของเธอไปจัดการเรื่องหย่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็อุ้มเธอกลับไปยังบ้านของเขา

    อาการของเธอค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยน้องสาวของเธอได้เดินทางมาช่วยดูแลเธอด้วยอีกแรง และแล้วบ้านของมุเนโซะก็ได้กลับกลายมาเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอีกครั้ง แต่แม้กระนั้นก็ตาม แผนการณ์ของกลุ่มซามูไรในเอโดะที่ต้องการจะล้มล้างหัวหน้าของตนก็ได้ถูกเปิดโปง และด้วยความหวาดหวั่นว่าความลับนี้จะล่วงรู้ไปถึงรัฐบาลของท่านโชกุน ทุกคนที่เกี่ยวข้องในการนี้จึงได้รับคำสั่งให้ฆ่าตัวตายให้หมดสิ้นไปด้วยกัน ยาอิชิโรเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย เขาจึงถูกส่งตัวไปยังอาณาเขตของกลุ่ม และถูกจองจำอยู่ในกระท่อมหลังเล็กๆ อยู่ลึกไปในหุบเขาในบริเวณนั้น

    มุเนโซะและยาอิชิโรคือสองในนักเรียนที่ดีที่สุดที่ คันไซ โทดะ (มิน ทานากะ) เคยมี โดยเขาผู้นี้เคยเป็นอาจารย์ผู้สอนวิชาฟันดาบให้กับทางกลุ่มมาก่อน โดยจริงๆ แล้วยาอิชิโรคือผู้ที่มีฝีดาบเก่งกาจกว่า แต่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดที่โทดะถึงได้ตัดสินใจเลือกที่จะถ่ายทอดเทคนิคลับที่ชื่อ โอนิ โน ซุเมะ หรือกงเล็บปีศาจให้กับมุเนโซะ

    หัวหน้าข้าหลวงประจำกลุ่ม โชเกน โฮริ (เคน โอกาตะ) เรียกตัวมุเนโซะให้มาเข้าพบ และแจ้งว่าเขาได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย อันเนื่องมาจากความสัมพันธ์ระหว่างเขากับยาอิชิโร และขอให้เขาเปิดเผยชื่อของบุคคลอื่นๆ ที่ฮาซามะสนิทสนมด้วยให้ทางกลุ่มได้รับรู้ แต่มุเนโซะกลับตอบไปเพียงว่า ซามูไรมีหน้าที่ที่จะต้องรักษาความลับทั้งปวง และปฏิเสธที่จะเผิดเผยรายชื่อของบุคคลเหล่านั้น

    การมาอาศัยอยู่ในบ้านของมุเนโซะของคิเอะนั้น แน่นอนว่าย่อมจะทำให้เขาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่น้อย เขาจึงได้ตกลงใจที่จะส่งเธอกลับไปยังบ้านของครอบครัวของเธอเมื่อเธอหายดีแล้ว แต่ในเวลานี้ เขาขอบอกเธอในความฝันที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมาเป็นเวลานานก่อน นั่นก็คือการได้ร่วมเดินทางข้ามทะเลไปพร้อมกับเธอ และนั่นก็ได้ทำให้คิเอะล่วงรู้ถึงความในใจที่เขามีต่อเธอ และหัวใจของเธอก็เริ่มเต้นแรงขึ้น

    ยาอิชิโรหลบหนีออกจากที่กุมตัว และไปหลบภัยอยู่ในบ้านชาวนาคนหนึ่งโดยจับเจ้าของบ้านหลังนั้นไว้เป็นตัวประกัน โอกาตะ (เนนจิ โคบายาชิ) หัวหน้าผู้ตรวจการประจำกลุ่ม จึงได้ออกคำสั่งให้มุเนโซะไปสังหารยาอิชิโร จุดจบของโลกแห่งซามูไรกำลังจะมาถึง แต่โลกนั้นกลับยังไม่พร้อมที่จะปล่อยให้มุเนโซะได้เป็นอิสระ

  • n the mid-19th century, during the final days of the Shoguns and the Samurais, the winds of change blowing throughout the country are beginning to be felt even in the Unasaka domain, a small fief on the northwest coast of Japan's main island.

    Two friends, Munezo Katagiri (Masatoshi Nagase) and Samon Shimada (Hidetaka Yoshioka), see Yaichiro Hazama (Yukiyoshi Ozawa) off on his journey to take up an important position within the clan organization in distant Edo.

    The two return to Munezo's home, a modest dwelling befitting a samurai who lives on a tiny stipend of only 30 koku of rice per year, but a place of warmth and laughter he shares with his mother, his younger sister Shino (Tomoko Tabata) and Kie (Takako Matsu), a pretty farm girl working as a maid while she learns the skills and manners she will require to make an advantageous marriage.

    Three years pass, in which time Munezo's mother has died, concerned that her son remains without a wife, and his sister has married Samon, leaving Munezo alone in their house with one elderly maid. Kie has married into the Iseya, a family of oil wholesalers, and Munezo assumes she is living happily.

    Encountering her out shopping one winter's day, he notices that she has grown thin and sad, and feels a tug at his heart as he watches her walk away through the snow.

    Several months later. Under the direction of an official from Edo, Munezo is one of several samurai studying the new science of artillery. Hearing that Kie is ill, he and Samon hurry to the Iseya. Reluctantly admitted by Kie's mother-in-law, he finds her lying half-dead in a dimly lit storeroom. Ordering her husband to institute divorce proceedings, he carries her back to his own home.

    Gradually she recovers, her younger sister comes to help, and Munezo's house once again becomes a place of gaiety and laughter. However, a plot by members of the clan in Edo against its leaders is brought to light, and fearful that this will come to the attention of the Shogun's government, those responsible are ordered to commit suicide. Yaichiro is also implicated, and he is 'sent down' to the clan's domain, where he is imprisoned in a small hut deep in the mountains.

    Munezo and Yaichiro were two of the best students of Kansai Toda (Min Tanaka), former fencing instructor to the clan. Yaichiro was actually the better of the two, but for some reason Toda chose to impart his secret 'Oni No Tsume (devil's claw)' technique to Munezo.

    The clan's chief retainer, Shogen Hori (Ken Ogata), summons Munezo and informs him that he is suspect due to his association with Yaichiro, and demands the names of others Hazama is friendly with. Munezo, saying that it is a samurai's duty to respect confidences, refuses to tell him.

    The presence of Kie in Munezo's home makes him the subject of criticism. He has resolved to send her back to her family once she is recovered, but now tells her of a long-held dream of his, to take her with him on a journey across the sea. Thus made aware of his feelings for her, she feels her own heart begin to pound.

    Yaichiro escapes from confinement and takes refuge in a farm house, taking an inhabitant hostage. Ogata (Nenji Kobayashi), the clan's chief overseer, orders Munezo to kill him. The end of the samurai's world is now in sight, but that world is not yet ready to let Munezo go free.

  • กำกับโดย Yoji Yamada
  • เขียนโดย ,
  • นำแสดงโดย
    • Masatoshi Nagase
    • Takako Matsu ... Kie
    • Hidetaka Yoshioka
    • Yukiyoshi Ozawa
    • Tomoko Tabata
    • Reiko Takashima
    • Sachiko Mitsumoto
    • Kunie Tanaka
    • Chieko Baisho
    • Min Tanaka
    • Nenji Kobayashi
    • Ken Ogata
    • Makoto Akatsuka
    • Hiroshi Kanbe
    • Takashi Sasano
  • ประเภท Drama
  • ความยาว 131 นาที
  • สร้างโดย Japan
  • จำหน่ายโดย เมเจอร์ ซีนีพิคเจอร์ส
  • ชื่ออื่นๆ
    Kakushi-ken: oni no tsume
เกร็ดจาก The Hidden Blade
- หลังจากประสบความสำเร็จไปกับ The Twilight Samurai ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมประจำปี 2004 ผู้กำกับ โยจิ ยามาดะ ก็ได้กลับมาร่วมงานกับทีมงานของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวสร้างภาพยนตร์ย้อนยุคเนื้อหาอิงประวัติศาสตร์อีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นจากบทภาพยนตร์ดั้งเดิมโดยของ ชูเฮ ฟูจิซาวะ

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • Harry Potter and the Goblet of FireHarry Potter and the Goblet of Fireเข้าฉายปี 2005 แสดง Daniel Radcliffe, Rupert Grint, Emma Watson
  • The ThingThe Thingเข้าฉายปี 2011 แสดง Mary Elizabeth Winstead, Joel Edgerton, Ulrich Thomsen
  • Love of MayLove of Mayเข้าฉายปี 2005 แสดง Chen Bo-lin, Liu Yifei

เกร็ดภาพยนตร์

  • Into the Woods - บทภาพยนตร์ร่างแรกๆ บทผู้บรรยาย ที่เป็นตัวสำคัญในละครเพลงยังมีบทบาทอยู่ในฉบับภาพยนตร์ และก่อนที่บทนี้จะถูกตัดออกในภายหลัง นักแสดงมากมายได้รับการพิจารณา เจรจา และทาบทามให้สวมบทนี้ นักแสดงเหล่านั้นรวมถึง เจเรมี ไอออนส์, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์, เจฟฟรีย์ รัช, เจมส์ เอิร์ล โจนส์, จอห์น คลีส, ไมเคิล เคน, ไมเคิล แกมบอน และ อลัน ริกแมน นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าจะมอบบทนี้ให้นักแสดงผู้หญิงอย่าง จูลี แอนดรูว์ หรือ แองเจลา แลนส์บูรี ที่คุ้นเคยกับลักษณะงานของผู้ประพันธ์เพลง สตีเฟน ซอนด์ไฮม์ เป็นอย่างดี อ่านต่อ»
  • Blackhat - ชื่อภาพยนตร์อ้างอิงถึงลักษณะของตัวร้าย ซึ่งวายร้ายในแถบตะวันตกมักจะสวมหมวกสีดำ อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Saand Ki Aankh Saand Ki Aankh Chandro Tomar (Bhumi Pednekar) และ Prekashi Tomar (Taapsee Pannu) พวกเธอทั้ง 2 อายุเกิน 60 ปีแล้ว เธอใด้สร้างแรงบันดาลใ...อ่านต่อ»