วิจารณ์ Swing Girls
-
l3lueberriie
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 3 ก.ค. 48 18:11
ไปดูมาแล้วอ่ะวันนี้
แบบ....อยากจะบอกว่า
ถ้าดูเรื่องนี้แล้ว คุ้มมากๆ
มันเป็นอะไรที่น่าสนุกสนานอ่ะ
ยังคิดเลยว่า ถ้ามีชีวิตอย่างงี้บ้างก็ดี
เพลงเพราะมากๆๆๆๆ
ดูแล้ว อินเลยยยย อยากเล่นเครื่องดนตรีงี้บ้าง 555 -
aaax
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 27 มิ.ย. 48 16:32
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น นาทีแรก ๆ ของหนังเรื่องนี้ผมดูด้วยความหงุดหงิด
หนังเริ่มเรื่องด้วยการให้เด็กสาวมัธยม 13 คน นั่งเรียนซ่อมคณิตศาสตร์ในช่วงปิดเทอมหน้าร้อนอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก บางคนมัวแต่ถ่ายรูปกันในห้องเรียน บางคนก็เอาแต่นั่งเหม่อ จนเมื่อคนส่งข้าวกล่องมาถึงโรงเรียนหลังจากที่รถบัสของวงดุริยางค์ที่จะไปเชียร์ทีมเบสบอลของโรงงานออกไปแล้ว พวกเธอที่อยากโดดเรียนจึงขออาสาครูคณิตศาสตร์ไปส่งข้าวกล่องแทนการนั่งเรียน
ด้วยความเหลวไหล ไม่คิดจะตั้งใจทำงานทำการอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน แม้แค่เรื่องง่าย ๆ อย่างการเอาข้าวกล่องไปส่ง พวกเธอจึงนั่งรถไฟเลยสถานี หลังจากที่แอบกินข้าวไปกล่องนึง และเมื่อเดินย้อนกลับไปสถานีก่อนหน้าท่ามกลางแดดร้อน ๆ รถไฟกลับวิ่งตามหลังมาอย่างไม่รู้ตัว เธอและข้าวกล่องจึงตกลงข้างรางรถไฟที่เป็นทุ่งนาเวิ้งว้าง
พวกเธอเลอะเทอะจนต้องไปล้างเนื้อล้างตัวที่แม่น้ำ ส่วนข้าวกล่องก็สกปรกไม่แพ้กัน
เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายแก่ ๆ ข้าวกล่อง และสาว ๆ ทั้ง 13 คนก็มาถึงสนามกีฬา วงดุริยางค์ทานเข้าไปกันหมดเกลี้ยงด้วยความหิวโหย โดยไม่ทันสะดุดความไม่สะอาด มีเพียงหนุ่มตีฉาบที่ไม่พิศมัยดนตรีคลาสสิคสักเท่าไหร่นักเพียงคนเดียว ที่ไม่ได้ข้าวกล่อง
และเขาก็เป็นคนเดียวที่ไม่ท้องเสียอย่างรุนแรง เหมือนคนอื่น ๆ
...
สิ่งที่ผมไม่ชอบเลยก็คือ ความไร้สาระของพวกเด็ก ๆ พวกนี้ ทำอะไรไม่มีจุดมุ่งหมาย ใช้ชีวิตไร้สาระไปวัน ๆ ด้วยความเข้าใจว่าสิ่งที่ทำเป็นไปเพื่อความสุข หลาย ๆ คนบอกว่า วัยรุ่น ก็ต้องมีช่วงเวลาอย่างนี้บ้าง แต่ผมจำไม่ได้ว่าเคยมีเวลาแบบนี้ในชีวิตตัวเอง
สงสัยผมจะเกิดมาแล้วแก่เลย
...
เด็กหนุ่มต้องการกอบกู้ภารกิจการตามเชียร์ทีมนักกีฬาของโรงเรียน ด้วยการบังคับเด็กสาวเหล่านั้นมาซ้อมดนตรีแทนนักดนตรีที่ต้องพักอยู่ในโรงพยาบาลกันทั้งวง พวกเธอเองก็ยอมมาแต่โดยดี ด้วยความอยากโดดเรียน
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวของสาว ๆ เหล่านั้น เริ่มแสดงให้เห็น จากความที่ไม่เป็นอะไรเลย และอู้ซ้อม หนีซ้อม พวกเธอก็เริ่มรู้สึกลึก ๆ ว่ามีอะไรในดนตรีที่ทำให้พวกเธอมีเป้าหมายในชีวิต
แต่พอใกล้ถึงวันแสดงจริง นักดนตรีตัวจริงก็หายป่วย
สาว ๆ จึงเริ่มปฏิบัติการเพื่อสิ่งที่ตนค้นพบว่ามีความหมายกับชีวิตเป็นครั้งแรก พวกเธอหาเงินเพื่อซื้อเครื่องดนตรีราคาแพง ๆ เหล่านั้น ฝึกซ้อมอย่างเอาเป็นเอาตาย มีปัญหาเรื่องสถานที่ฝึกซ้อมมากมาย ผ่านอุปสรรคนานัปการตามที่หนังแบบนี้ควรต้องมี
ในที่สุด พวกเธอก็กลายเป็นหญิงสาวที่เปี่ยมเสน่ห์ ที่ไม่น่าหงุดหงิดกับความไร้สาระไปวัน ๆ อีกต่อไป คนเราเมื่อมีความมุ่งมั่น จะมีความเปล่งปลั่ง และเสน่ห์อย่างประหลาด ผู้กำกับชิโนบุ ยากุจิ ซึ่งเคยนำ Water boys เด็กหนุ่มที่อยากเล่นระบำใต้น้ำมาให้เรารู้จักเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ แสดงสิ่งนี้ให้เราเห็นซ้ำอีกครั้งได้อย่างชัดเจน
เทศกาลดนตรีของเมืองจะจัดขึ้นไม่ช้า พวกเธอสมัครเข้าร่วมการประกวด และพบอุปสรรคครั้งใหญ่อีกครั้ง เมื่อเทปที่สมัครส่งไปเป็นวงหลัง ๆ จนจดหมายที่มาจากคณะกรรมการจัดงานกลายเป็นจดหมายปฏิเสธเพราะมีวงที่สมัครมามากเกินไป เพื่อนที่รับจดหมาย ไม่กล้าบอกคนอื่น จนถึงวันที่รถไฟของพวกเธอแล่นไปติดปัญหากลางทุ่งหิมะเวิ้งว้าง
แทนที่จะหดหู่ พวกเธอกลับหยิบเครื่องดนตรีออกมาบรรเลงเพลงแจ๊ซกันซะบนรถไฟ เพื่อระบายความอัดอั้นที่จะไม่ได้เล่นอีกต่อไป ทว่ารถบัสของโรงเรียนกลับมารับพวกเธอเพื่อไปที่งานแสดงทันเวลาพอดี (พร้อมกับผู้ชมที่หายใจโล่งอก) คุณครูที่มากับวงดุริยางค์คุมรถกลับมารับพวกเธอ เพราะหิมะที่ตกหนักทำให้นักดนตรีวงอื่นวงหนึ่งไม่สามารถมาถึงหอประชุมที่จัดงานได้
จังหวะลุ้น ๆ ของการมาทัน หรือไม่ทัน ของพวกเธอ ชวนให้คนดูลุ้นไปด้วยไม่ได้ แม้ว่าจะคิดอยู่ว่าคงต้องทันก็ตามที
พวกเธอนำเพลงแจ๊ซมากระหึ่มหอประชุม และทำให้ผู้ชมในจอสนุกสนานไปกับเสียงเพลงที่เปลี่ยนแปลงจากตอนเริ่มเรื่องราวกับเสียงจากนรก กับเสียงจากสวรรค์
หลังจากนาทีแรก ๆ นั้นแล้ว ผมดูหนังเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบ
...
หนังแบบ underdog หรือ คนขี้แพ้ที่ไม่เคยทำอะไรสำเร็จแบบนี้ ไม่ใช่พลอตใหม่อะไรเลย ยิ่งดูจากงานเก่าของผู้กำกับคนเดียวกันจาก Water boys ก็จะยิ่งเห็นว่าไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากมาย แต่การแสดงที่ลงตัว จังหวะของหนังที่ไม่มาก หรือน้อยจนเกินไป การเก็บเรื่องที่ดีอย่างหนังเล่าเรื่อง แค่นี้ก็ทำให้อบอุ่นหัวใจ และทำให้คนดูติดตามเรื่องราวของพวกเธอ (และเขา) อย่างไม่อยากให้จบ
เพราะอย่างที่ผมพูดไว้แล้ว
คนเราเมื่อมีความมุ่งมั่น ก็มีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก -
Swing Boy
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 20 มิ.ย. 48 14:49
ดูไปแล้ว 3 รอบ หนังดีมั่ก ฮามั่ก มีหลายอารมณ์ ประทับใจ อยากให้ไปดูกันรับรองไม่เสียดายเงิน ลองดูก่อนแล้วค่อยแนะนำเพื่อนก็ได้ไม่ผิดหวังครับ ผมรอซื้อ DVD อยู่เนี่ย
-
คอหนัง
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 14 มิ.ย. 48 15:50
วันที่ 23 Swing Girls เข้าต้องไปดูให้ได้นะครับ หนังฮา ดาราน่ารัก สนุกมากๆ เป็นหนังญี่ปุ่นที่สนุกมากๆ อยากให้พวกวัยรุ่นไปดูกันเยอะๆ พ่อแม่พาลูกไปดูด้วยก็ได้หนังฮา เพลงเพราะ ไม่มีเรื่องสกปรกๆ ในหนังเลย ผมดู DVD ไป 6 รอบแล้ว เชียร์สุดๆ เอา DVD ไปให้เพื่อนยืม เพื่อนบอกต้องซื้อเก็บแล้วก็จะเข้าไปดูภาคไทยในโรงด้วย (DVD ผมเป็น ภาษาญี่ปุ่นน่ะครับ)
-
Weerasak
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 13 มิ.ย. 48 09:12
ผมดู DVD เรื่องนี้แล้วดูมา 5 รอบแล้ว สนุกมากๆ หนังดีมากครับ ดูได้ทั้งครอบครัว เด็กวัยรุ่นควรดูเรื่องนี้ครับแล้วจะได้อะไรหลายๆ อย่าง เนื้อเรื่องดี แสดงดี ตัวละครหลากหลาย (น่ารักเยอะด้วย) มุขตลกฮาดี เพลงเพราะ บรรยากาศในการถ่ายทำสวยเวลาดูรู้สึกสดชื่นไปกับบรรยากาศในเรื่องครับ เป็นหนังที่จรรโลงใจมากๆ เรื่องนึงเลยครับ แนะนำว่าเป็นหนังที่ดูได้ทุกวัย เป็นหนังเรื่องนึงที่ดูแล้วคุณต้องอยากดูอีก
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- A Christmas Carolเข้าฉายปี 2009 แสดง Jim Carrey, Gary Oldman, Colin Firth
- Ninja Assassinเข้าฉายปี 2009 แสดง Rain, Naomie Harris, Rick Yune
- American Pieเข้าฉายปี 1999 แสดง Jason Biggs, Shannon Elizabeth, Alyson Hannigan
เกร็ดภาพยนตร์
- The Age of Adaline - แองเจลา แลนส์บูรี คือนักแสดงที่ถูกวางตัวให้รับบท เฟลมมิง เมื่อปี 2010 แต่ท้ายสุดแล้ว เอลเลน เบอร์สตีน คือผู้ที่ได้แสดงบทนี้ อ่านต่อ»
- Skin Trade - ดอล์ฟ ลันด์เกรน ผู้รับบท นิก เขียนบทเรื่องนี้ในปี 2006-2007 โดยตั้งใจว่าจะกำกับเอง แต่ภายหลังตัดสินใจมอบหน้าที่กำกับให้แก่ เอกชัย เอื้อครองธรรม โดย ดอล์ฟ จะได้ทำหน้าที่ควบคุมงานสร้างได้อย่างเต็มที่ อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Made in China เรื่องราวความล้มเหลวของนักธุรกิจชาวคุชราตผู้หนึ่ง ซึ่งกล้าเข้าไปในโลกที่ไม่รู้จักอย่างประเทศจีน เพื่อจะทำธุรกิจสักครั้ง...อ่านต่อ»