เกร็ดน่ารู้จาก Star Wars: Episode III - Revenge of the Sith
เกร็ดน่ารู้
- พิมพ์เขียวของสภาเจไดที่ใช้ใน เอพพิโซด 1 และ เอพพิโซด 2 ต้องจัดฉากให้สูงขึ้นกว่าพื้น เพื่อเป็นการเตรียมห้องให้คนชักหุ่น แต่ปัจจุบันนี้ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลในการทำเอเลี่ยน ทำให้การยกพื้นสูงไม่จำเป็นอีกต่อไป แต่ยังคงมีอยู่ไว้ในภาคนี้
- สมาชิกกลุ่ม ไฮเปอร์สเปซ ซึ่งเป็นแฟนคลับของ สตาร์ วอร์ส ได้ร่วมกันตัดสินเกี่ยวกับลักษณะของหุ่น R4-G9 ของ โอบี-วัน เคโนบี ภายในเว็บไซต์ starwars.com ระหว่างเดือนมิถุนายน - สิงหาคม 2003 โดยพวกเขาเลือกแบบในโทนสีบรอนซ์และทองแดงจากที่มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี (คล้ายกับ R4-P17 สีแดง ใน เอพพิโซด 2) จึงทำให้ R4-G9 เป็นหุ่นประเภทแรกๆ ที่คนรู้จักในภาคนี้
- แฟรนซิส ฟอร์ด คอปโปลา แนะนำ คริสโตเฟอร์ เนล กับ จอร์ช ลูคัส เพื่อเป็นคนดูแลบทสนทนา ลูคัส บอกว่าการสื่อให้ถึงอารมณ์เป็นเรื่องที่จริงจังสำหรับ เอพพิโซด 3 และตัว ลูคัส เองไม่ค่อยจะมีเวลาพูดคุยกับนักแสดงมากนัก จึงเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีใครอีกสักคนหนึ่งที่มาคอยดูแลเรื่องนี้แทน เพื่อให้การแสดงออกมาดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- ได้มีการเสนอบทของ กัปตัน แอนไทล์ส ให้ เดนิส ลอว์สัน ผู้เล่นบท เวดจ์ แอนไทล์ส ใน เอพพิโซด 4-6 แต่แล้วบทนี้ก็ตกเป็นของ โรฮาน นิโคล
- ชื่อตอนของ เอพพิโซด 3 มีที่มาจากการตั้งชื่อปลอมของ เอพพิโซด 6 ที่มีชื่อว่า Return Of The Jedi เป็น Revenge Of The Jedi โดย จอร์จ ลูคัส กล่าวว่าเขาจงใจปล่อยชื่อ Revenge Of The Jedi ออกไป เพื่อจับกุมคนทำสินค้าเถื่อน เขายังกล่าวอีกว่าคนที่เป็นแฟน สตาร์ วอร์ส แท้จริงจะรู้ว่าเป็นชื่อปลอม เพราะ เจได ไม่มีวันที่จะไปแก้แค้นใครเป็นอันขาด
- การปล่อยกระแสชื่อปลอม Revenge Of The Jedi ระหว่างการทำ เอพพิโซด 6 ทำให้ภาพยนตร์เรื่อง Star Trek: Khan's Revenge ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น Star Trek: The Wrath of Khan
- การต่อสู้กันครั้งสุดท้ายระหว่าง โอบี-วัน เคโนบี และ อนาคิน ถือเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในภาพยนตร์เรื่อง สตาร์ วอร์ส ซึ่งทั้งสองตัวละครได้ใช้ไลต์เซเบอร์สีเดียวกันด้วย
- ไลต์เซเบอร์ที่ โอบี-วัน ใช้ในภาคนี้ เป็นอันเดียวกับที่ใช้ในเอพพิโซด 4
- ครั้งแรกและครั้งเดียวของ สตาร์ วอร์ส ที่ได้รับการจัดเรตติ้งสูงกว่า PG คือ PG-13
- ภาพยนตร์เรื่อง สตาร์ วอร์ส ใช้นักแสดงบท อนาคิน สกายวอร์คเกอร์ และ ดาร์ธ เวเดอร์ จำนวน 6 คน ได้แก่ เดวิด เพราส์ ใน เอพพิโซด 4-6 ภายใต้ชุดของ ดาร์ธ เวเดอร์, เจมส์ เอิร์ล โจนส์ ในฐานะคนให้เสียงทุกภาคที่มี ดาร์ธ เวเดอร์, บ็อบ แอนเดอร์สัน ในฉากต่อสู้ด้วยดาบใน เอพพิโซด 5 กับ 6, เฮย์เดน คริสเต็นเซ็น ในบท อนาคิน สกายวอร์คเกอร์ และ ดาร์ธ เวเดอร์ ในเอพิโซด 2 กับ 3 และ เจ็ค ลอยด์ ใน เอพิโซด 1 ในบท อนาคิน สกายวอร์คเกอร์ ตอนเด็ก
- แอนโธนี ดาเนี่ยล (C-3PO) และ เควิน เบเกอร์ (R2-D2) เป็นเพียง 2 นักแสดงเท่านั้นที่ร่วมงานใน สตาร์ วอร์ส ทั้ง 6 ภาค จากนั้น ก็คือ แฟรงก์ ออส (โยดา) ที่ร่วมงานใน สตาร์ วอร์ส เป็นจำนวน 5 ภาค ตามด้วย เจมส์ เอิร์ล โจนส์ (พาย์เสียง ดาร์ธ เวเดอร์) ปีเตอร์ เมย์ฮิว (ชิวเบ็กก้า) เอียน แม็กเดียร์มิด (สมุหนายกแพลพาทีนและดาร์ธซีเดียส) ที่ร่วมงานใน สตาร์ วอร์ส เป็นจำนวน 4 ภาค (ไม่นับรวมที่ เอียน แม็กเดียร์มิด รับบท สมุหนายกแพลพาทีน ในดีวีดีฉบับพิเศษของ เอพพิโซด 5 แทนนักแสดงคนเก่า)
- ตัวละคร โอบี-วัน เคโนบี มีอยู่ใน สตาร์ วอร์ส ทั้ง 6 ภาค แต่ใช้นักแสดงทั้งหมด 2 คน คือ เซอร์ อเล็กซ์ กวินเนส และ ยวน แม็กเกรเกอร์
- ทุกๆ ฉากที่ถ่ายทำบนฉากเขียว ก่อให้เกิดแสงสะท้อนบนผิวสีทองของ C-3PO ดังนั้น ทีมงานเทคนิคดิจิตอลจึงต้องค่อยๆ มาแต่งสีของ C-3PO ใหม่ในแต่ละเฟรม เพื่อที่จะลบแสงสะท้อนเหล่านั้น
- ตัวละคร บารอน พาพานอยดา ผิวสีน้ำเงิน ในฉากโอเปร่า นับเป็นการแสดงเพียงครั้งเดียวของ จอร์จ ลูคัส ในเรื่อง สตาร์ วอร์ส
- เฮย์เดน คริสเต็นเซ็น ต้องเพิ่มน้ำหนักถึง 11 กิโลกรัม หรือ 24.2 ปอนด์ สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาทำน้ำหนักโดยการกินถึง 6 มื้อต่อวัน
- รหัสของผู้บังคับการโคลน บาคารา คือ 1138 อ้างอิงมาจาก THX-1138 ของ จอร์จ ลูคัส
- ภาพยนตร์ภาคนี้เป็นการกลับมาในวงการภาพยนตร์เป็นครั้งแรกของ ปีเตอร์ เมย์ฮิว (ไม่นับรวมภาพยนตร์ทางโทรทัศน์) นับตั้งแต่ เอพพิโซด 6
- หน้ากากของ ดาร์ธ เวเดอร์ ภาคนี้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ โดยใช้การออกแบบทางดิจิตอล ซึ่งใช้การคำนวนของคอมพิวเตอร์เป็นพื้นฐาน ทำให้การสร้างต้นแบบของหน้ากากสามารถทำได้จากหน้าจอ ผลที่ได้คือหน้ากากจะได้สัดส่วนจริง เป็นครั้งแรกของ สตาร์ วอร์ส ที่สามารถทำได้ถึงขนาดนี้
- จอร์จ ลูคัส ได้ถ่ายทำฉากสั้นๆ ของภาคนี้ในทะเลทรายตูนิเซียน ระหว่างการสร้าง เอพพิโซด 2 เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สะดวกที่จะต้องเดินทางกลับมาถ่ายทำที่นี่อีกครั้งในเวลา 3 ปีต่อมา ซึ่งลือกันว่าเป็นฉากที่ โอบี-วัน เคโนบี นำ ลุค สกายวอล์คเกอร์ มาส่งให้ลุงกับป้าของเขา
- ภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส ภาคที่ออกฉายก่อนหน้า ถ่ายทำทั้งในเวทีเสียงและสถานที่ต่างๆ แต่ภาคนี้ได้ถ่ายทำทั้งหมดในสตูดิโอ มีเพียงการถ่ายทำฉากหลังระหว่างการสร้าง เอพพิโซด 2 เท่านั้นที่ถ่ายทำนอกสถานที่
- ถึงแม้ว่าจะไม่มีการถ่ายทำนอกสถานที่ในระหว่างการถ่ายทำหลัก ขั้นตอนหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ (Post-Production) ได้ทำในประเทศไทย สวิสเซอร์แลนด์ และจีน เพื่อถ่ายทำฉากหลังของดาวคาชีก ซึ่งอยู่ขอบชั้นกลางของดาราจักร สภาพเป็นป่าไม้รกทึบ มีต้นโรไชร์ เป็นที่อยู่ของชนเผ่าวูกี้
- ดาวเคราะห์ขอบนอกที่ชื่อว่า ยูทาเปา ผิวดาวเป็นที่ราบและทุ่งหญ้าเป็นส่วนใหญ่ มีลมแรงจัด พื้นที่มีหลุมลึกหลายลุม เหมือนท่อน้ำทิ้งขนาดกว้าง เชื่อมเป็นเครือข่าย มีมหาสมุทรใต้ดิน เคยปรากฏในบทร่างของ สตาร์ วอร์ส ถึง 2 ครั้งก่อนหน้านี้ บทร่างครั้งแรก ยูทาเปาเป็นดวงดาวบ้านเกิดของ เคน อนาคิน และ ดีก สตาร์คิลเลอร์ มีภูมิประเทศเป็นทะเลทราย ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ทาทูอิน นอกจากนี้ อูตาเพา ยังเป็นชื่อเดิมของดาวนาบูด้วยในบทร่างครั้งแรกของ เอพพิโซด 1
- การต่อสู้ด้วยพวกวูกี้มีมาตั้งแต่บทภาพยนตร์ เอพพิโซด 4 โดยตั้งใจจะให้พวกวูกี้ช่วยปราบกบฏของจักรวรรดิ ความคิดนี้ก็ยังคงเป็นพื้นฐานของฉากต่อสู้ที่ เอ็นดอร์ ใน เอพพิโซด 6 แต่แทนที่จะใช้พวกวูกี้ จอร์จ ลูคัส ตัดสินใจใช้เผ่าพันธุ์ตัวเล็กๆ ที่มีขนที่เรียกว่า อีว็อก แทน
- ชุดของวูกี้จากภาพยนตร์เรื่องนี้มีระบบหล่อเย็น เพื่อรักษาความเย็นให้กับนักแสดงที่สวมใส่ชุดนี้
- ยวน แม็คเกรเกอร์ และ เฮย์เดน คริสเต็นเซ็น ต้องฝึกฟันดาบและออกกำลังกายเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกายสำหรับฉากต่อสู้ในภาคนี้
- เดิมทีการออกแบบ อนาคิน จะมีลักษณะเป็นแบบชนเผ่าอินเดียนแดง โมฮ็อก มีรอยสักบนแขนขวา และเสื้อคลุมเจไดก็จะออกแนวถูกตัดถูกฉีกหน่อย จอร์จ ลูคัส บอกว่า "มากเกินไป" ต่อมาจึงเสื้อคลุมตามปกติและไว้ผมยาวมีหางม้า เฮย์เดน คริสเต็นเซ็น คิดว่า "ดูน่ารักเกินไป" ท้ายที่สุด พวกเขาตกลงออกแบบให้คล้ายกับ โอบี - วัน เคโนบี ใน เอพพิโซด 2
- ฉากที่เกี่ยวข้องกับนักแสดงสาว ไป่หลิง กับบทบาทวุฒิสภาหญิง บาน่า บรีมู ถูกตัดทิ้งทั้งหมดจาก Star Wars หลังจากที่ จอร์จ ลูคัส ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้เขียนบท และโปรดิวเซอร์ ทราบว่าเธอเป็นนางแบบให้กับนิตยสาร เพลย์บอย
- คนที่สมัครบริการสมาชิกของ ลูคัสฟิล์ม จะมีโอกาสติดตามชมขั้นตอนต่างๆ ในการผลิตภาพยนตร์ผ่านเว็บแคม
- ไคช่า คาสเซิล-ฮิวจ์ส ถ่ายทำฉากของเธอทั้งหมดภายในวันเดียว
- เดือนสิงหาคม 2004 ข่าวลือได้เริ่มแพร่สะพัดไปทั่วอินเตอร์เน็ตว่า จอร์จ ลูคัส ตัดสินใจทำเอพพิโซด 7, 8 และ 9 หลังจากพบว่าได้มีการให้พนักงานของลูคัสฟิล์มเซ็นต์สัญญารักษาความลับเกี่ยวกับภาพยนตร์ แต่ จอร์จ ลูคัส ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือ และบอกว่ายังไม่มีความตั้งใจที่จะทำภาพยนตร์ไตรภาคอีกเป็นครั้งที่ 3
- ด้ามของไลต์เซเบอร์ทำมาจากยางชุบโครเมียม เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักแสดง
- หนึ่งในแนวคิดแรกๆ ของนายพล กรีฟวัส จะมีลักษณะเป็นเด็กเล็กๆ นั่งอยู่บนเก้าอี้ลอยได้ โดยมีหุ่น IG88 จาก เอพพิโซด 5 แต่ จอร์จ ลูคัส ปฏิเสธลักษณะที่เหมือนเด็กดังกล่าว เพราะอยากจะให้ดูจริงจังเหมือนนักสู้ของกาแล็กซี่ผู้หยิบยื่นความตาย ดังนั้น ลักษณะบางส่วนของนายพล กรีฟวัส จึงได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงหัวฉีดของสายชำระในห้องน้ำ
- แกรี่ โอลด์แมน ได้ตกลงที่จะพากย์เสียงเป็นนายพล กรีฟวัส แต่แล้วก็ถอนตัวไป เนื่องจากได้มีการใช้นักแสดงที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมอาชีพนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ของอเมริกา ซึ่ง แกรี่ โอลด์แมน เป็นสมาชิกอยู่
- มีการส่งบทนายพล กรีฟวัส ให้ ดันแคน ยัง อ่าน แต่ท้ายสุดแล้วคนที่ได้พากย์เสียงตัวละครนี้ คือ แมทธิว วู้ด ซึ่งเป็นพนักงานของลูคัสฟิล์ม และใช้ชื่อ อลัน สมิธตี (ซึ่งเป็นชื่อที่มักจะใช้เวลาที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อจริงๆ) ในการทำงานเรื่องนี้
- ตัวอย่างภาพยนตร์แบบทีเซอร์ ซึ่งออกฉายเป็นครั้งแรกวันที่ 5 พฤศจิกายน 2004 ใช้รหัสว่า Sand Dogs
- มีการอาศัยมุมกล้อง เพื่อช่วยให้ เฮย์เดน คริสเต็นเซ็น ดูสูงขึ้น เนื่องจาก เดวิด เพราส์ คนที่รับบทเป็น ดาร์ธ เวเดอร์ ใน เอพพิโซด 4-6 สูงกว่า เฮย์เดน คริสเต็นเซ็น 5 นิ้ว โดยใช้เทคนิคที่ใกล้เคียงกับการถ่ายทำ เอพพิโซด 5 และ 6 เมื่อ บ็อบ แอนเดอร์สัน มารับบทแทน เพราส์ ในฉากต่อสู้
- การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของ เมส วินดู ด้วยดาบไลต์เซเบอร์ ใช้ 3 ห้องใหญ่และการเคลื่อนไหว 102 ท่วงท่า
- แม้จะมีการสร้าง โยดา แบบดิจิตอลตั้งแต่ เอพพิโซด 2 แต่หนึ่งในหุ่นของ โยดา ที่สร้างขึ้นในการถ่ายทำ เอพพิโซด 1 ได้ถูกนำมาใช้สร้างจุดอ้างอิงในฉาก เพื่อความง่ายของนักแสดง ระหว่างการถ่ายทำใหม่ในปี 2004
- ชุดกองทัพโคลนในเอพพิโซด 2 มีลักษณะก้ำกึ่งระหว่างชุดแมนดาลอเรียนที่ใส่โดย แจงโก้ เฟตต์ กับชุดของกองทัพสตอร์มในเอพพิโซด 4-6 แต่ในภาคนี้จะมีลักษณะค่อนไปทางชุดของกองทัพสตอร์มมากกว่า แต่ก็ยังคงองค์ประกอบบางส่วนของชุดแมนดาลอเรียน
- บทบาทของ มาส อเมดดา แสดงโดย เจอโรม เบล็ก และ เดวิด โบเวอร์ส โดย เบล็ก รับบทในเอพพิโซด 1 ส่วน โบเวอร์ส รับบทในเอพพิโซด 2 สำหรับภาคนี้ ฉากที่ถ่ายทำฉากหลักๆ ในออสเตรเลีย รับบทโดย โบเวอร์ส สำหรับการถ่ายทำฉากใหม่ๆ หรือฉากเก็บตกในประเทศอังกฤษ รับบทโดย เบล็ก
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Alexanderเข้าฉายปี 2004 แสดง Colin Farrell, Jared Leto, Angelina Jolie
- Puss in Bootsเข้าฉายปี 2011 แสดง Antonio Banderas, Salma Hayek, Zach Galifianakis
- ฝนตกขึ้นฟ้าเข้าฉายปี 2011 แสดง นพชัย ชัยนาม, ศิริน หอวัง, อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต
เกร็ดภาพยนตร์
- Demonic - ประกาศสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยชื่อ House of Horror เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2011 โดย เจมส์ วาน รับหน้าที่อำนวยการสร้าง อ่านต่อ»
- Child 44 - เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ที่ ทอม ฮาร์ดี ผู้รับบท เลโอ และ แกรี โอลด์แมน นักแสดงบท มิกเฮล ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน เรื่องก่อนหน้านี้คือ Tinker Tailor Soldier Spy (2011) Lawless (2012) และ The Dark Knight Rises (2013) อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
รัก ล้น ใจ แจน (ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) พนักงานบริษัทที่แบ่งเบาภาระทางบ้านด้วยการพาน้องมาอยู่ด้วยที่กรุงเทพฯ และส่งเสียน้องเรียน...อ่านต่อ»