วิจารณ์ The Grudge

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 30 ต.ค. 47 19:49

    ยอมรับเลยว่าเรื่องนี้น่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยดูมา (ประมาณว่าดูชัตเตอร์แค่กระตุกแต่นี่เล่นผวาถึงบ้านเลย {มองซ้าย...มองขวา...}) เป็นหนังรีเมคที่ตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น ตอนของเด็กนักเรียนตายหมู่ เป็นต้น นอกจากนี้หนังยังตอกย้ำให้มีเหตุมีผลมากขึ้น เช่น การเน้นความสัมพันธ์แบบชู้ทางใจของคายาโกะที่ทำให้เธอตายเมื่อสามีขี้หึงรู้เข้าแล้วฆ่าเธอนำไปสู่คำสาปจากแรงแค้นของคายาโกะ บรรกาศโดยรวมภายในหนังให้ความรู้สึกแบบฮอลลีวู๊ด เอฟเฟกและจังหวะในการมาของผีทำได้ดีขึ้น และสำหรับผมที่คิดว่าสิ่งที่หนังเรื่องนี้รีเมคออกได้ดีคือการไม่แบ่งเป็นบทๆ ซึ่งที่แน่ๆคือ หากไม่อ่านหนังสือ หรือดูเพียงรอบเดียวนั้นอาจจะไม่รู้เรื่องหรือลำดับเหตุการณ์ได้ไม่ถูกเป็นแน่ แต่ในฉบับนี้กลับใช้วิธีแบบว่าในขณะตัวละครหนึ่งกำลังโดนอะไรหรือทำอะไร อีกตัวหนึ่งโดนฆ่าหรืออะไรโดยการตัดฉากไปธรรมดาการลำดับและให้ความสำคัญกับที่มาของตัวละครนั้นก้เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ทำออกมาแล้วเข้าใจมากขึ้น อีกเหตุผลหนึ่งโดยส่วนตัวของผมคือการนำซาร่า มิเชลล์ เกลล่าร์ ที่เคยรับบทบัฟฟี่ซึ่งเป็นนักฆ่าผี(ประมานแวน เฮลซิงอะ) มาแสดงให้ถูกผีหลอกคืน - - ฉากที่ผมชอบในเรื่องนี้ฉากหนึ่งคือฉากที่เคเรนนำรูปที่ปีเตอร์ถ่ายมาดูแล้วพบคายาโกะ ซึ่งหากไม่ดูให้ดีๆจะไม่รู้เลยเพราะเหมือนคนธรรมดาติดอยู่หลายรูป เป็นการเน้นย้ำจากคำโปรยจากใบปิดที่ว่า "มันจะตามคุณไปทุกที่" เป็นอย่างดี สรุปโดยรวมแล้วนับว่าดี เป็นหนังผีเรื่องนึงที่ไม่ควรพลาดเรื่องนึงของปี (ที่นี้เรื่องต่อไปที่ผมรอคือ คนเห็นผี ไม่รู้จากภาค 1 หรือ 2 ในชื่อของ The Eye ซึ่งเป็นรีเมคจากประเทศไทยโดย Hollywood เช่นกันว่าจะทำดีกว่าต้นฉบับไหม หรือจะดีกว่ารีเมคจูองหรือเปล่า ก็รอดูละกัน )

  • เมื่อ 30 ต.ค. 47 19:17

    ผมได้ไปชมภาพยนต์เรื่องนี้แล้ว The Grude ก็คือ ju-on ในอีกแบบฉบับหนึ่ง ซึ่งมีหลายอย่างดีขึ้นจากเดิม ไม่ว่าจะเป็น ฉาก แสง เสียง เนื้อหา จุดเริ่มต้นจุดจบ รวมถึงแก้ไขบ้างอย่างที่ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ในฉบับญี่ปุ่นซึ่งเราๆท่านๆได้ชมไปแล้ว ความน่ากลัวของฉบับฮอลลีวูดนี้ ดีกว่าตอนเป็นฉบับญี่ปุ่น มาก! การปรากฎตัวของผีเร็วและแรงกว่าเดิมมาก!ทำให้ผีตัวเดิมที่เราเคยเห็นมาแล้วกลับมาดูน่ากลัวกว่าเดิมหลายเท่าตัว การแก้ไขจุดด้อยให้ดีขึ้นจากของเดิม เป็นตัวชี้ให้เห็นว่า ทาคาฮาชิ ชิมิสุเป็นสุดยอดผู้กำกับคนหนึ่งของเอเชีย
    มีสิ่งหนึ่งหลังจากผมดูหนังเรื่องนี้จบก็คิดมาโดยตลอด ว่า ทำไมพอเป็นฉบับรีเมกแล้ว ju-on ถึงดีขึ้น

  • เมื่อ 30 ต.ค. 47 01:53

    ที่จริงแล้ว หนะ คับ ju-on นี่ ในรูปแบบ หนังสือนี่ มีแค่ 2 ภาค นะคับ ที่มันมีภาค 3 ออกมาเพื่ออธิบายให้คนดูเข้าใจมากขึ้น แล้ว หนังมันได้รับความนิยมจนต้องออกทั้ง 3 ภาค เลย ลองอ่านหนังสือดูสิครับ สนุกมาก อ่านแล้ว เสียวสันหลังเลย

  • เมื่อ 29 ต.ค. 47 08:22

    ส่วยตัวผมแล้ว หนัง เรื่องนี้ ก็เอามาจาก ju-on นะ อย่างที่ ว่า แต่ที่ต้องสร้าง The Grude ก็เพื่อทำให้ ju-on โก inter นั้นเองหละ โดยรวม หนัง เรื่องนี้ ถ้าไม่เอา ju-on มาเปรียบเทียบ เพราะ ดูแล้ว นี่ อาจจะเป็นหนังที่น่ากลัวที่สุดเรื่องหนึ่งของปีนี้ ใครที่ยังไม่ได้ดู ju-on ก็ไปดู เรื่องนี้ก็จะเสียวสุดๆ แต่ถ้าคนดูแล้ว ก็น่าจะเฉยๆ แค่โปสเตอร์เรื่องนี้ เด็กฝรั่งก็ขนลุกแล้ว

  • เมื่อ 29 ต.ค. 47 08:12

    เป็นงานรีเมคจากจูออนครับ พูดง่ายๆ ก็คือเป็นจูออนเวอร์ชั่นฮอลลีวูด (เหมือนกับ เดอะริง) โดยรวมแล้วเป็นการก๊อบจากต้นฉบับมาแบบฉากต่อฉาก แต่มีเพิ่ม และตัดออกไปบ้าง ที่เห็นได้ชัดน่าจะเป็น การเพิ่มเรื่องราวความสัมพันธ์ของคายาโกะ ที่มีต่ออาจารย์ และสาเหตุที่ทำให้สามีของเธอโกรธจนต้องฆ่าเธอ (ซึ่งในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ไม่มีส่วนนี้) และมีการแก้ไขบท ให้ดูมีเหตุผลมากขึ้น ผูกเรื่องให้รู้เรื่องขึ้น เพราะงานนี้เป็นเหมือนงานกำกับครั้งที่สองของชิมิสุ ทำให้มีการแก้ไขข้อบกพร่องในตอนแรก เพิ่มสิ่งที่สำคัญลงไป ตัดส่วนที่ทำให้หนังขาดสัมพันธภาพทิ้ง (ฉากที่พวกเด็กนักเรียนเข้าไปสำรวจบ้านผีสิง อันนำมาสู่ฉากผีหลอกที่ไร้สาระ) และทำให้เวอร์ชั่นนี้ดูมีเหตุผลในความโกรธแค้นจนต้องเข่นฆ่าผู้คนของคายาโกะมากกว่า อีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างแน่ๆ ก็คือ เทคนิคของหนัง ที่ดูดีขึ้น(มาก) ทั้งวิญญาณสีดำ การเมคอัพ ฉาก มุมกล้อง การเคลื่อนภาพ แสง ที่เหล่านี้ดูรู้เลยว่าเป็นหนังผีญี่ปุ่น (ผีเป็นคนญี่ปุ่น) แต่บรรยากาศฮอลลีวูดชัวร์
    หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จในบ็อกออฟฟิต คงเพราะชื่อของแซม ไรมี่ และเรื่องที่แปลก โดยใช้ผีเป็นสไตล์เอเชีย ซึ่งทำให้คนมะกันรู้ว่า หน้าของคนเอเชียนั้นแต่งเป็นผีได้หน้ากลัวกว่าฝรั่งจ๋ามากนัก...

  • เมื่อ 28 ต.ค. 47 17:37

    ไม่ไหวเลย ดูแล้ว เฮ้อ......บัด (บัติ) ซบจริงๆ เลย ไม่น่าสร้าง เปลืองเงินเปล่าๆ ดู Ju-on แล้วไปดูเรื่องนี้ต่อสิ - - แล้วจะรู้เอง

  • เมื่อ 27 ต.ค. 47 21:40

    สรุปว่าเรื่องนี้ รีเมกมาจากจูอองเหรอครับ

  • เมื่อ 24 ต.ค. 47 19:40

    ก็น่ากลัวนะ ขนลุกอ่ะ แต่ดูไปแล้วอาจจะคิดว่าทำทำไม เพราะเหมือนจูออง เลย ผีก็เหมือนกัน ผีเด็กก็คนเดียวกัน บ้านก็หลังเดียวกัน แต่รู้เรื่องกว่าญี่ป่นนะ คือไม่งง สรุปก็คือ น่ากลัวนะ

  • เมื่อ 22 ต.ค. 47 12:14

    ดูไตเติ้ลแล้ว น่ากลัวมากเลยล่ะ ยังไงต้องไปดูให้ได้ แต่จูออนทั้ง2ภาคก้อน่ากลัวนะ แต่คิดว่าเรื่องนี้น่าจะน่ากลัวกว่า

  • เมื่อ 22 ต.ค. 47 03:41

    ไตเติ้ลน่ากลัวมาก ๆ ไม่ไหวแล้ว แต่ก็อยากดู ท่าทางจะน่ากลัวกว่าจูออนต้นฉบับนะ เพราะต้นฉบับไม่น่ากลัวเท่าที่ควร ผีอันนี้น่ากลัวมาก ๆ ขนลุก

มีทั้งหมด 30 วิจารณ์ หน้าที่ 3 [ก่อนหน้า] 1 2 3 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • TwilightTwilightเข้าฉายปี 2008 แสดง Kristen Stewart, Robert Pattinson, Cam Gigandet
  • The DuchessThe Duchessเข้าฉายปี 2008 แสดง Keira Knightley, Ralph Fiennes, Dominic Cooper
  • เพชฌฆาตเงียบ อันตรายเพชฌฆาตเงียบ อันตรายเข้าฉายปี 2000 แสดง ปวริศร์ มงคลพิสิฐ , พิเศก อินทรครรชิต , เปรมสินี รัตนโสภา

เกร็ดภาพยนตร์

  • Laggies - แอนน์ แฮตธาเวย์ คือนักแสดงเดิมที่จะมารับบท เมแกน แต่ขอถอนตัวเนื่องจากติดถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Song One (2014) และ Interstellar (2014) ด้าน รีเบกกา ฮอลล์ ก็ปฏิเสธบท เมแกน เพื่อแสดง Transcendence (2014) เคียรา ไนต์ลีย์ จึงเข้ามารับบทนี้แทน อ่านต่อ»
  • Into the Woods - บทภาพยนตร์ร่างแรกๆ บทผู้บรรยาย ที่เป็นตัวสำคัญในละครเพลงยังมีบทบาทอยู่ในฉบับภาพยนตร์ และก่อนที่บทนี้จะถูกตัดออกในภายหลัง นักแสดงมากมายได้รับการพิจารณา เจรจา และทาบทามให้สวมบทนี้ นักแสดงเหล่านั้นรวมถึง เจเรมี ไอออนส์, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์, เจฟฟรีย์ รัช, เจมส์ เอิร์ล โจนส์, จอห์น คลีส, ไมเคิล เคน, ไมเคิล แกมบอน และ อลัน ริกแมน นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าจะมอบบทนี้ให้นักแสดงผู้หญิงอย่าง จูลี แอนดรูว์ หรือ แองเจลา แลนส์บูรี ที่คุ้นเคยกับลักษณะงานของผู้ประพันธ์เพลง สตีเฟน ซอนด์ไฮม์ เป็นอย่างดี อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

ดิว ไปด้วยกันนะ ดิว ไปด้วยกันนะ เรื่องราว ณ ปางน้อย พ.ศ. 2539 ความรู้สึกพิเศษได้ก่อตัวขึ้นระหว่างเด็กหนุ่มอายุ 17 สองคน ดิว (ภวัต จิตต์สว่างดี) และ ภพ ...อ่านต่อ»