วิจารณ์ Three Extremes

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 26 ม.ค. 56 14:14

    ผู้เคราะห์ร้าย

    วัยเด็กผมเคยดูอารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต ในปี 2002 แล้วผมว่ามันคือความน่าเบื่อขนานแท้ ผมเองก็บ้าอยากลองของใช่ย่อย ลองคิดดูเถิดเด็กประถมริอยากดูหนังสยองขวัญ แค่นั้นยังไม่พอมันดันเป็นหนังสยองขวัญที่ดูยากจนแทบต้องปีนกระไดดู อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต จึงถือเป็นยาขมเรื่องแรกๆที่ผมลิ้มรส

    อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต 2 เข้าฉายในอีก 2 ปีถัดมา ผมไม่คิดที่จะหยิบเรื่องนี้หรืออ้อนวอนให้พ่อและแม่หามาดูเลย เพราะกลัวว่าความงงงวยจะเข้าครอบงำ มาวันนี้ผมอยู่ ม.ปลาย เตรียมย่างเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จากการดูหนังอย่างโชกโชนราวคนบ้าคลั่ง อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต 2 จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่แสนจะท้าทาย ประสบการณ์การดูหนังแปลกๆ ของผม และเมื่อดูจบพบก็พบว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะอธิบายหนังเรื่องนี้ออกมาไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือตัวอักษร ให้คนที่ดูแล้วมาเล่าให้ฟังแต่ละคนก็คงเล่าแตกต่างกันออกไป แม้หนังที่ดูจะเป็นเรื่องเดียวกันก็ตาม

    โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบดูหนังที่เป็นเรื่องราวสั้นๆ นำมาร้อยเรียงกัน ยิ่งเป็นหนังที่มีคอนเซปส์ยึดไว้แล้วให้ผู้กำกับต่างคนต่างตองคิดหาแง่มุมที่นำเสนอเองแล้วยิ่งชอบดูไปใหญ่ เพราะผู้กำกับ ทีมงาน ต่างก็ต้องสำแดงของดีกันออกมาทั้งนั้นเช่นกันกับ อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต 2 เป็นหนังสั้นๆสามเรื่องจากผู้กำกับสามชาติ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี (งานนี้ขาดพี่ไทย)ที่รวมตัวกันเพื่อโปรเจคสุดหินนี้ และจากชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ Three Extremes ก็คาดหวังไว้ได้เลยว่าจัดหนักทั้งในเรื่องคอนเซปส์ นักแสดง ที่สำคัญคือศิลปะบนแผ่นฟิล์มที่ผู้กำกับแต่ละท่านไม่ยอมน้อยหน้าควักท่าไม้ตาย ไม้เด็ดออกมาง้าง ท้าตีกันอย่างจัดเต็ม

    ในตอนแรกกับตอน BOX ได้ถูกเลือกให้เป็นการเปิดเรื่อง และหนังทำหน้าที่ในการอินโทรคนดูได้เป็นอย่างดี และดูเหมือนจะเป็นตอนที่มีรายละเอียด มีเรื่องราว ยุบยั่บให้คนดูตามเก็บมากมาย การวางปมปริศนามีให้เห็นทั่วทั้งเรื่อง ความจิตของตัวนางเอกที่ดูแล้วน่าขนลุกขนพองมากกว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ในกล่องเสียอีก อารมณ์หนังดูหม่นๆสร้างความหวาดหวั่นไปพร้อมกับความเย็นยะเยือกอย่างได้ผลดี เทคนิคการตัดต่อทำออกมาได้อย่างสอดคล้องกับความจิต หนังยังมีการสร้างจุดหักมุมให้คนดูเซอร์ไพร์สเป็นของขวัญกับตอนจบที่ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ตกลงแล้วเป็นเพียงความฝันหรืออย่างไร ?

    ตอนที่สองกับ Dumplings เป็นเรื่องราวของดาราสาว(ที่เริ่มจะไม่สาว)ซึ่งสามีแอบนอกใจ เธอจึงพยายามทำให้ชายคนรักกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง โดยไปขอความช่วยเหลอจากสาวนางหนึ่งซึ่งมีสูตรลับคือ อาหาร แต่เป็นอาหารที่ทำจากเนื้อเด็กทารกอันมาจากการทำแท้ง หนังเล่าเรื่องออกมาแบบทีเล่นทีจริง ให้อารมณ์แบบตลกร้ายระหว่างความน่าสะอิดสะเอียนและสมเพชไปกับชะตากรรมของตัวละคร ดูจบแล้วอาจไม่อยากกินฮะเก๋ากันอีกต่อไป หากจะว่าไปแล้วตอนที่สองนี้ดูเหมือนจะเป็นตอนที่มีความสนุกและเอนเตอร์เทนคนดูมากที่สุด ตอนจบของหนังก็ยังให้ผลลัพธ์ที่ติดค้างอยู่ในอารมณ์คนดู

    ตอนสุดท้ายซึ่งผมดูแล้วถึงกับสะอึกนิดนึง เนื่องจากความคล้าย ผมต้องบอกก่อนว่าผมชอบหนังเรื่องห้าแพร่งมาก(ผมสารภาพว่าเป็นแฟนหนังค่าย GTH) และความคล้ายที่ว่าคือมันคล้ายกับเรื่อง คนกอง ของผู้กำกับโต้ง ในแง่นึง จนแอบหวั่นว่า เฮ้ย มันจะเหมือนกันทั้งหมดหรือเปล่าแต่ก็ต้องโล่งใจที่ความคล้ายกันนั้น เป็นแค่ในเรื่องของการอยู่ในกองถ่ายหนังเท่านั้น CUT เล่าเรื่องราวของผู้กำกับหนุ่มและแฟนสาวที่ต้องเอาชีวิตให้รอดจากหนุ่มโรคจิตร่างอุบาทว์ พวกเค้าทั้งคู่ต้องร่วมเล่นเกมที่แสนหฤหรรษ์ประสาท หนังมาพร้อมอารมณ์กวนๆ ความฮาอย่างร้ายกาจ การตัดต่อ มุมกล้องดูโฉบเฉี่ยว หนังค่อยๆทวีความต่นเต้นตามระดับก่อนจะลงท้ายด้วยความสลดใจ

    หนังทั้งสามมีจุดร่วมที่เหมือนกันคือหนังมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ ผู้เคราะห์ร้าย ผู้ที่ต้องรับเคราะห์กรรมจากสิ่งที่ตนไม่ได้ก่อ และที่สำคัญคือผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่คือผู้หญิง หนังไม่ได้สร้างความน่ากลัวจนต้องร้องกรี้ด ปิดตาหยี แต่หนังกลับมีชั้นเชิงในการเล่าถึงปัญหาสังคมที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุค กี่สมัยก็ยังคงมีให้เห็นและผุ้หญิง เด็ก ผู้ที่อ่อนแอ ต่างคือเหยื่ออันโอชะที่ถูกเล่นงาน

    หากใครที่หาหนังผีที่ต้องลุ้นระทึก โก่งตัวดู ใจเต้นระส่ำระส่าย บอกผ่านหนังเรื่องนี้ไปได้อย่างไม่ต้องเสียดาย หากใครกำลังหาหนังสักเรื่อง(สามเรื่อง)ที่เต็มไปด้วยแง่มุมให้ขบคิด ความคลุมเคลือให้หาคำตอบเอาเอง มีชั้นเชิงมีความเป็นศิลปะมากกว่าเป็นหนังสยองขวัญเบาปัญญาไม่ประเทืองอารมณ์ Three Extremes คือหนังคุณภาพเรื่องนั้นที่คุณมองหา

    8/10

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 1 ส.ค. 49 15:20

    การที่ใช้ชื่อ อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต ชื่อนี้คนดูคงต้องพิจารณาการเชื่อมโยงโครงเรื่อง ชื่อเรื่อง ที่โคตรจะซับซ้อนให้ได้ (ซึ่งภาคแรกทำมาตรงกับชื่อ และอีกอย่างคนตั้งชื่อเขาคงไม่ได้ตั้งชื่อเผื่อว่ามันจะอุตตริสร้างภาค2) อย่างที่ใครหลายคนกล่าว หนังเรื่องนี้มีความเป็นตัวเองสูง และ สูงมากๆ หนังเสนอความแปลกใหม่ ความโสมมของสังคม ที่ผมนั่งทนดูจนแทบอยากอ้วก ไม่น่าเชื่อว่าผู้กำกับทั้ง3 จะหยิบความจริงของสังคมที่เป็นมุมมืดออกมาทำได้น่ากลัวจนขนหัวลุกแบบนี้ ครั้งแรกที่ผมได้ดูขอบอกเลยว่า มันห่วยมากๆจอร์ช แต่พอมานั่งคิดไป คิดมา คิดไป คิดมา กว่าจะรู้ว่าจริงๆหนังไม่ได้ห่วย ไอ้แต่มันเอาความห่วยมาเชื่อมโยงกันต่างหาก อ๋อ...หนังก็เลยอยู่ในระดับดีเท่านั้น (ดีไม่เท่าภาคแรก)
    โดยขอยอมรับว่า Cut ทำออกมาได้น่ากลัวมากเลย โดยเฉพาะการแต่งหน้า สร้างฉาก กำกับศิลป์ ออกแบบเครื่องแต่งกาย ฯลฯ ซึ่งดูแล้วเรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่ดูง่ายที่สุด สยองโจ่งแจ้งมากที่สุด ต่อมาคือ
    Dumplings น่ากลัวและแสยะสยองเป็นอันดับ 2 รองจาก Cut แต่ก็พอๆกันเพราะมันเล่นกับคนดูด้วยความอยากอ้วกเหมือนกัน แต่มีตัวละครและตัวเรื่องที่แตกต่างกัน (เอ้อ เห็นบางฉากในหนังตัวอย่างกะสปอต ไม่มีในเนื้อเรื่องเลย โดยเฉพาะฉากเหลือบตามองก้อง จ้องกินเกี๊ยวของเจ้ชุดแดง)
    Box คงจะเป็นเรื่องที่ดูยากมากๆๆๆๆที่สุดใน 3 เรื่อง ดูครั้งแรกแล้วงงงงงงงงที่สุด งงมากๆเลย แต่ก็พอจับจุดได้จึงพิจารณาให้ผ่านอย่างงๆอยู่ดี

    สุดท้ายคงต้องบอกคุณไว้ว่าแบบที่ว่า...
    ดูหนังเรื่องนี้เสร็จคุณจะไม่ได้กลัวผี แต่คุณจะได้กลัวโลกใบนี้ไปอีกนาน

  • เมื่อ 8 ต.ค. 47 15:03

    ในที่สุดก็ยอมควักสตางค์ออกมา 120 บาทเพื่อดูหนังเรื่องนี้ จริงๆเเล้วใจจดจ่อรอคอยภาคนี้มานานมากๆ ก่อนหน้านี้มีเพื่อนผู้หวังดีกล่าวว่าหนังไม่สนุกเลย ดูไม่รู้เรื่อง ก็รับฟังความคิดเห็นของเค้า เเต่ยังไงก็อยากจะดูซิว่ามันจะไม่สนุกซักเเค่ไหนกันเชียว

    อย่างเเรกหากคุณๆทั้งหลายอยากจะดูภาพยนตร์เรื่องนี้หล่ะก็ ต้องขอบอกเลยว่า

    1. ภาพยนตร์ทั้ง 3 เรื่องนี้ไม่ใช่หนังผี ตามหลอนแต่อย่างใด ทางผู้กับกำทั้ง 3 ชาติได้มีข้อตกลงกันตั้งเเต่แรกเเล้วค่ะ ว่าทุกๆเรื่องใน THREE EXTREMES จะต้องเป็นไปในแนวเดียวกันคือ เน้นความขยะแขยง สยดสยอง แบบว่าไม่มีผีซักกะตน โผล่มาให้เห็น
    2. หนังค่อนข้างจะเข้าใจยากพอดูทีเดียว หากคุณเป็นคนที่ดูหนังเช่น The Lord of the Rings ไม่เข้าใจเเล้วหล่ะก็ อย่าคิดจะมีดูหนังเรื่องนี้เลย เพราะเข้าใจยากกว่ากันมากๆ แต่หากคุณดู The Lord of the Rings รู้เรื่อง แต่ลองมองตัวเองว่าปกติภาพยนตร์ที่คุณดูแล้วเข้าใจมีมากน้อยแค่ไหน ดูแล้วงงบ้างไหม หากมากว่า 40 % หล่ะก็ อย่ามาดูเลย เสียเวลาเปล่าๆ

    3. ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องสังเกตดีๆ มองมุมโดยรอบ เพราะอย่างที่มีผู้ได้วิจารณ์ก่อนหน้านี้แล้วเรื่อง เทวรูป ต่างๆในตอน Dumplings หมายความว่าอย่างไร หากคุณไม่เข้าใจแล้วหล่ะก็ คุณจะรู้สึกกับหนังเรื่องนี้เเบบไม่ค่อยดีมากนัก อาจถึงขึ้นแย่เลยก็ว่าได้

    4. ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกตัดออกไปเยอะมาก หากคุณได้ดูโฆษณาหรือสื่ออื่นๆก่อนหน้านี้ จะรู้เลยว่า มีอะไรบางอย่างหายไป !!!!

    หากจะกล่าวถึงตอนที่ประทับใจที่สุดก็เห็นจะเป็น Cut ของเกาหลี เพราะดูเเล้วคงจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายสุดเเล้วกระมัง แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่บ้างตรงที่ ชายโรคจิต กล่าวกับพระเอกว่า "มีบ้านหรูอย่างนี้ด้วยเหรอ ในเกาหลี" แต่จริงๆแล้ว มันคือฉากที่โรงถ่ายมิใช่หรือ ดูแล้วเหมือนจะขัดๆอยู่ ไม่รู้ผู้กำกับสับสน หรือคนดูอย่างเราสับสนกันเเน่

    ส่วนตอน Dumplings ก็ทำได้สมใจผู้กำกับจริงๆ เพราะสะอิดสะเอียนจวนอาเจียน ถ้ายังไงก็ฝากบอกถึงผู้กำกับด้วยว่าคุณทำสำเร็จเเล้ว ใน 3 เรื่องนี้มีขำอยู่เรื่องเดียวก็คือของฮ่องกงนี้เอง เนื่องจากคุณซิ้มกินฮะเก๋าได้ฮาสุดยอด ไม่ว่าจะหน้าตา หรือว่าอิริยาบท ดูท่าทางเธอจะอร่อยจริงๆกับฉากสุดท้ายที่ได้กิน เเล้วยังฉากแท้งอีก ตอนเอาลิ้นตวัดเลือด เหมือนจิ้งจกเด๊ะ !!! เห็นแล้วขำ ขำ ขำ แต่มีขัดใจอยู่อีกเรื่องคือคุณสินจัยเป็นคนพากษ์เสียง คือเสียงสินจัยเด๊ะเลย ดังนั้นเวลาดูแทนที่เวลาเห็นหน้าเจ๊ซิ๊มแล้วรู้สึกเข้าถึงอารมณ์ เวลาเราดูที หน้าสินจัยโผล่มาเลย น่าจะให้คนที่ไม่เคยเห็นหน้ามาพากษ์คงจะรู้สึกดีกว่านี้อีกเยอะ

    ส่วนเรื่องเเรกของชาวญี่ปุ่น ซึ่งรู้สึกจะน่าเกลียดที่สุด ตรงที่พ่อกับลูกจูบกัน ทำให้ชวนอาเจียนอย่างเเรง รู้สึก "นี่มันอะไรกันนี่ ??" แต่บอกตรงๆ เรื่องนี้ทำให้ห่วยจริงๆ ดูแล้วรู้สึกแย่ แบบน่าเบื่อ

    คะเเนนโดยรวมให้ 70/100

    ขอหักตอน Box ของญี่ปุ่นไป 25
    ขอหักตอน Dumplings ของฮ่องกงไป 5
    ส่วนตอน Cut ไม่หัก

  • เมื่อ 1 ต.ค. 47 20:21

    อะไรกัน เกินไปแล้วนะ
    ที่คุณว่าห่วยนะ คุณเข้าใจถึงจุดประสงค์ของหนังแล้วหรือยัง หนังเรื่องนี้ เขาไม่ได้เน้นฉากน่ากลัว แต่เขาเน้นในเรื่องของ มุมมอง มากกว่า อาจเป็นเพราะว่า ตึงเครียดเกินไป ผสมความกดดัน บางฉากอาจดูยืดเยื้อ แต่ผลสรุปก็พอโอเค สนุกดี ถามว่าเสียค่าดูไหม ดูแล้วก็บอกว่า ค่อนข้าง 90 บาทเต็ม 120 บาท เพราะข้อเสียคือ
    1. บางฉากยืดเกินทำให้เสียอารมณ์คนดู
    2.บางฉากถ่ายทอดเรื่องราวออกมาไม่ดี
    3.พล็อตเรื่องดีมาก แต่เนื้อหาบางฉากก็ทนดูไม่ไหวเหมือนกัน
    นี้คือข้อเสียที่ต้องหัก และขอบอกว่า นี่เป็นหนังประเภทสืบสวนไม่ใช่สยองขวัญ เหมือนกับ ผีดุ หรือ คนเห็นผี พูดง่ายๆคือ คล้ายๆกับ คน ผี ปีศาจ คือเน้นความกดดันมากกว่าความสยอง

  • เมื่อ 29 ก.ย. 47 17:27

    หนังอะไรก็ไม่รู้ ดูไม่รู้เรื่องเลย คะแนนความสนุกเอาไปเลย 0เต็ม ล้าน ขอบอกเลยว่าไม่น่าเสียเงินไปดูเลยคิดผิดจริงๆ ขอบอกอีกว่า ดูไม่จบ เหลือประมาณ 10 นาที เพราะทนดูไม่ไหว หนังบ้าอะไรไม่รู้เสียเวลาจริง

  • เมื่อ 28 ก.ย. 47 16:43

    โคตรห่วยเลย เข้าใจก็ยากสุดๆเลย สยดสยองขยะแขยงขอยกให้เป็นหนังยอดแย่ที่สุดในรอบปีนะคร้าบ

  • เมื่อ 28 ก.ย. 47 08:46

    ไม่อยากบอกเลยว่าไม่ได้เรื่องเลย ห่วย ๆๆๆ สุด ๆๆๆๆ ไม่น่าเสียเงินไปดูเลย ๆๆๆ ขอบอก

  • เมื่อ 24 ก.ย. 47 07:53

    หนังทำได้ดีมากๆ (ดีกว่าภาคแรกเยอะ)

  • เมื่อ 22 ก.ย. 47 13:19

    หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังผี เเต่เป็นหนังสยองขวัญที่ทิ้งให้คนดูคิดเอาเองในตอนท้าย หนังสื่อออกมาค่อนข้างดีนะคะ สะท้องถึงคนในสังคมปัจจุบันที่มีความโหดร้าย ทารุณ ภายใต้หน้าตาสวยงามและฐานะทางสังคมที่ดี ดิฉันคิดว่าหนังทั้งสามเรื่องมีมุมมองที่ค่อนข้างมองโลกในแง่ร้ายและมีเกิดขึ้นจริงๆในสังคมเรา อย่างเรื่องแรก เรื่อง BOX ดิฉันคิดว่า บางทีคนเราก็มีความอิจฉา ริษยาคนที่ได้ดีกว่าเรา ถึงแม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัวก็ตาม เรื่องนี้ก็มีบทเซ็กส์ของพ่อลูกด้วยซึ่งถือว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นที่ยอมรับแต่ในโลกเราคงมีคนจำพวกนี้อยู่
    ส่วนเรื่องที่ 2 เรื่อง Dumplings เรื่องนี้คิดว่าน่าจะเอามาจากเรื่องจริง อย่างที่มีข่าวเวลาคนท้อง ต้องแท้งโดยไม่ตั้งใจ และทางรพบ.ก็นำศพเด็กทารกในท้องมาขาย เพื่อเป็นยาอายุวัฒนะ ดิฉันคิดว่าคงมีคนแบบนี้ในสังคมและก็เรื่องทำแท้งเถื่อนที่ดูจะมีเเพร่หลายทุกประเทศ รวมไปถึงเรื่องของพ่อข่มขืนลูกจนตั้งท้อง ทั้งหมดเป็นสังคมปัจจุบันที่ย่ำแย่ หนังคงจะสื่อถึงเรื่องนี้ นอกจากนี้ ในเรื่องนี้ยังมีการเหน็บแนมเล็กๆ ตรงที่คนที่ทำบาปมหันต์นี้กลับมีเทวรูป อย่างเจ้าแม่กวนอิม ไว้เต็มบ้าน อันนี้คงเป็นการเหน็บแนมคนที่ทำธุรกิจไม่ดีแต่ก็กลัวบาปเลยนับถือบูชาเทวรูป
    ส่วนเรื่องสุดท้าย มีการนำเสนอที่แปลกใหม่ เเละไม่ค่อยเห็นในหนังทั่วไป เรื่อง CUT เป็นการเล่นคำของผู้กำกับเวลาจะสั่งคัท เเละการที่ภรรยาของเขาถูกตัดนิ้วทีละนิ้ว ผู้กำกับที่มีชีวิตเพอร์เฟค ดูเป็นคนดี แต่กลับมีความกดดันเรื่องภรรยาไม่น่าจะเป็นเรื่องสถานการณ์บีบบังคับ แต่เป็นความต้องการลึกๆในใจของเขาที่ถูกเก็บมานานเเล้ว และตัวประกอบโรคจิตเป็นคนดึงความต้องการนั้นของเขาออกมาให้เขาลงมือฆ่าภรรยาเอง โดยที่คนโรคจิตไม่ได้บังคับ เรื่องนี้ค่อนข้างโหดมากๆ ต้องขอชมเรื่องฉาก แสง การแต่งหน้า เพราะทำออกมาอย่างดีมาก และ จบแบบทิ้งให้คนดูคิดต่อเอง ว่าพระเอกจะฆ่าใครต่อไป
    ดิฉันออกจากโรงและเห็นหลายคนเอาเรื่องนี้ไปเปรียบกับ ชัตเตอร์ ว่าชัตเตอร์ดีกว่าเยอะ เเละดูเรื่องนี้เเล้วงง ไม่ได้เรื่อง ดิฉันคิดว่ามันเป็นหนังคนละเเนวกัน จึงไม่ควรไปเปรียบเทียบกัน เเละเรื่องนี้ไม่ใช่หนังผี เเต่เป็นการเล่นกับสัญชาติญาณดิบของคนที่ดูจะน่ากลัวกว่าผีเสียอีก สรุปแล้วดิฉันคิดว่าหากคุณอยากดูหนังผีไม่ควรดูเรื่องนี้ เพราะมันเป็นหนังสยองขวัญ เเละควรจินตนาการตามในเรื่องด้วย ดิฉันชอบหนังแนวนี้มากกว่าหนังผีไทยนะคะ เเละขอเเหวกเเนวคนอื่น ขอให้มีภาคสามและทำได้ดีอย่างนี้ไปเรื่อยๆนะคะ

  • เมื่อ 21 ก.ย. 47 19:59

    นะจ๊ะควรปรับปรุงหน่อยนะจะได้น่าดูขึ้นในภาคสาม

มีทั้งหมด 20 วิจารณ์ หน้าที่ 1 [ก่อนหน้า] 1 2 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • Quantum of SolaceQuantum of Solaceเข้าฉายปี 2008 แสดง Daniel Craig, Olga Kurylenko, Mathieu Amalric
  • The Matrix RevolutionsThe Matrix Revolutionsเข้าฉายปี 2003 แสดง Keanu Reeves, Carrie-Anne Moss, Laurence Fishburne
  • สวย ซามูไรสวย ซามูไรเข้าฉายปี 2009 แสดง โสภิตา ศรีบาลชื่น, แจ็คเกอลิน อภิธนานนท์, เกศริน เอกธวัชกุล

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Theory of Everything - สตีเฟน ฮอว์คิง พูดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องจริง จึงอนุญาตให้ใช้เสียงของเขาในตอนจบ และให้ยืมเหรียญแห่งอิสรภาพ กับวิทยานิพนธ์ที่ลงชื่อ สตีเฟน ฮอว์คิง ไปใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบฉากด้วย อ่านต่อ»
  • Jupiter Ascending - แชนนิง เททัม ต้องสวมอุปกรณ์บริเวณปากที่ทำให้ลักษณะของขากรรไกรของเขาเปลี่ยนไป เพื่อรับบท เคน อุปกรณ์ชิ้นนั้นทำให้ แชนนิง หุบปากไม่ได้ แถมยังทำให้เขาพูดลำบากอีกด้วย อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Ode to Joy Ode to Joy เรื่องราวของ ชาร์ลี (มาร์ติน ฟรีแมน) ชายหนุ่มที่มีความผิดปกติทางระบบประสาท เขามีความรู้สึกทางอารมณ์ที่รุนแรง โดยเฉพาะอย...อ่านต่อ»