SIAMZONE.COM

จริงๆ มี สส.เกาหลีที่เป็นโสเภณีหรือเปล่า?ล่ะ? ถ้างั้นก็ต้องมีตัวแทนของกระหรี่ทุกประเภททั้งกระหรีหญิง กะชาย กะหรี่เกย์ กะหรี่ดี้-ทอม และมีกระทรวงโสเภณี มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโสเภณี ซึ่งต้องได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้ง....คุณลองนึกภาพสิว่าจะเป็นอย่างไร?

แล้วตัวเลขการเก็บภาษีออกมาว่า ภาษีหลักของงบประมาณแผ่นดินของประเทศไทยมาจากเก็บภาษีจากโสเภณี......หมายถึงประเทศไทย อับจนฉิบหายเลย ทั้งประเทศไม่มีปัญหาจะหากินจากอาชีพอื่นนอกจากขายบริการทางเพศสนองตัญหาของมนุษย์.....ทั้งประเทศเอาแต่เสพสังวาส และหากินจากการเสพสังวาส ....รัฐมนตรี สส. สว. โดยเฉพาะผู้หญิงไปประชุมต่างประเทศที่ไหน..คงจะต้องถูกถาม ว่า "เท่าไร?" หมายถึงค่าตัว เพราะอาจไม่รู้ว่า สส. สว. นายก รมต......ใครเป็นโสเภณีบ้างอาจเหมารวมหมด

พวกนักเรียนนักศึกษาก็จากประเทศไทยไปที่ไหนอาจถูกเหมารวมว่าเป็นคุณโสฯด้วย

สนุกละทีนี้
ทุเรศจริงๆ

ผมได้ไปดูรอบสื่อมวลชน ที่ทาง siamzone จัดให้
หนังสนุกพอใช้ครับ นางเอกสวยดีประเภทใจกล้า
เป็นหนังค่อนข้างไปทาง x เลยล่ะครับ
ใครไปดูรอบธรรมดาจะได้เห็น
อย่างที่ผมเห็นหรือเปล่าก็ไม่ทราบ...

ข้อคิด...ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังรอบพิเศษ (ดูฟรี)
ก็คิดถึงเด็กๆบ้าง ไม่ใช่หอบลูกหอบเต้าไปดูกัน

ฟันธง ถ้าชอบหนังที่มีนางเอกสวยๆ ก็ไปดูได้...

The First amendment ... เมื่อคุณโส(เภณี ) ลงสมัครเป็น ส.ส. คุณจะเลือกเธอใหมครับ ??
ผมเดาว่า คุณๆ ทั้งหลาย คงจะไม่เลือกเธอกันแหงๆ ไม่ว่า จะเลือก กากบาท คุณเธอทั้งหลายใน คูหา หรือแม้แต่จะ เลือกที่จะดู เธอ ในโรงภาพยนตร์ ทำไมหรือครับ ?? หรือว่า ท่านจะบอกว่า มันผิดศีลธรรม มันไม่สมควร ที่จะให้ บุคคลที่เคยทำงานแบบนี้ เข้าไปในทำเนียบ ขณะที่ เบื้องหลังของอีกหลายๆท่านที่อยู่ในสภา ก็ไม่ได้โสภา หรือสะอาดอย่างที่หน้าฉากเป็นกันสักเท่าไหร่นัก และในเมื่อ สภา คือที่รวมของผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศ การจะมี โสเภณี ซึ่งเป็น 1 ในตัวแทนของประชาชน เข้าไปทำงานสักคน ผมคิดว่าก็น่าจะเป็นเหตุผลที่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เพราะอาชีพนี้ก็จะได้มีปากมีเสียงสักที และสามารถทำอะไรให้มันอยู่ในรูปในรอยของกฏหมาย (หนังเรื่องนี้ทำให้ทราบว่า อาชีพ โสเภณี ของเกาหลี นั้นเป็นอีกอาชีพที่ถูกกฏหมาย และเสียภาษีให้รัฐบาล ) <== แล้วเมื่อไหร่ เมืองไทยจะทำได้บ้าง ?? ถึงเวลาหรือยัง ที่โสเภณี จะได้รับการจัดระเบียบ ได้รับการ"เอื้ออาทร"จากรัฐ และ ได้รับสวัสดิการด้านสุขภาพ เช่นการประกันสังคม รวมถึงมีการเสียภาษี เหมือนเช่นอาชีพอื่นๆทั่วไปในสังคมไทยกันเสียที

นอกเรื่องมายาวเลย ด้านบน เป็นเพียงความคิดเห็นเกี่ยวกับอาชีพ โสเภณี ในมุมมองของผม ซึ่งผมเห็นควรว่า ประเทศไทยน่าจะมีการยอมรับ อาชีพนี้ อย่างอาชีพสุจริตอื่นๆ เหมือนนานาประเทศนานแล้ว ที่สำคัญ ผมเห็นว่า โสเภณี ก็เป็นมนุษย์ เทียบเท่า กับมนุษย์คนอื่นๆที่ดำรงอยู่ใน สังคม เช่นเดียวกัน การริดรอนสิทธิ หรือ ดูถูกดูแคลน เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ต่างหากเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และจะน่ารังเกียจเพิ่มขึ้น ถ้าขณะนึงคุณดูถูกเขา แต่คุณกลับไปซื้อหาบริการจากพวกเค้า ไม่ว่าจะโดยตรงหรือแอบแฝง

The first amendment ( น้องหนู ตะลุยทำเนียบ ) 2 ดาวครึ่ง เป็นหนัง comedy ที่ได้รับรางวัล จากการแข่งขันด้านเขียนบท ของสมาคมเขียนบทของประเทศเกาหลี ยอมรับว่า การตัดสินใจเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ เป็นผลมาจากคำแนะนำของนิตยสาร Bioscope เป็นสำคัญ

หนังเล่าเรื่องเริ่มจาก ส.ส.คนหนึ่งเสียชีวิตลง ขณะนั้น เกาหลีมีพรรคใหญ่ 2 พรรค คะแนนส.ส.เท่ากันพอดี และต้องมีการเลือกตั้งซ่อม เพราะฉะนั้นทั้ง 2 พรรคก็ทุ่มทุนเต็มที่ เพื่อจะได้ 1 เก้าอี้ที่เหลือ เพื่อจะเป็นรัฐบาล ขณะนั้น 1 ในกลุ่มสาวบริการ ถูกข่มขืนและทำทารุณกรรม โดยตำรวจก็ไม่ให้ความสนใจในการทำคดี โกวอุนบี นางเอกสาวที่เป็นโสเภณี ก็เลยต้องลุกขึ้นมา สมัครลงเลือกตั้งเป็น ส.ส.เพื่อจะเป็นตัวแทนของพวกเธอ ในการทวงสิทธิของพวกหล่อน และต่อสู้เพื่อสิทธิ พื้นฐานในความเป็นคนของพวกเธอ

ส่วนตัวแล้วนั้นผมคิดว่า แค่หนังที่มีพล๊อต แหวกแนวและท้าทายเช่นนี้ " คือ จะเป็นไง ถ้า โสเภณี ลงสมัครเป็นผู้แทน " มันก็น่าสนใจอยู่แล้ว แต่ต้องจับประเด็นหลักให้มั่น และพาคนดูไปให้ถึงเป้าหมายแค่นั้น แต่หนังยังจับธีมไม่ชัดเจน ซึ่งผมคิดว่า ธีมของหนังน่าจะเป็น " ต่อสู้เพื่อทวงสิทธิความเท่าเทียมกันของมนุษย์ " หนังมีอุปสรรคให้เล่นได้มากมาย รวมถึง มีฉากที่เอื้อให้ใส่อะไรได้เยอะแยะ แต่หนังกลับเป๋ไปเป๋มา ได้หลายช่วงหลายตอนอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะประเด็น เพื่อนของนางเอกที่โดนทำทารุณกรรมทางเพศนั้น ยกเอามาเรียกร้องความสงสาร และการเอาใจช่วยตัวละคร ของคนดูได้ไม่ยาก แต่หนังไม่ได้เน้นย้ำเลย รวมถึงพล็อตรอง เรื่องของเพื่อนโสเภณีอีกคนที่อยากเป็นผู้ประกาศข่าว กับประเด็นศาสนา ซึ่งมีบทหลวงพ่อในหนังเรื่องนี้ ค่อนข้างจะยืนหยัดเคียงข้างกลุ่มโสเภณี ทั้งๆที่ไม่ค่อยจะเห็นด้วยนักในตอนแรก

อย่างไรก็ดี หลายฉากหลายตอนเรื่องนี้ ของหนัง ก็ล้อนักการเมือง และความสกปรกโสมมของการเมืองอย่างสนุกสนาน รวมถึงวิถีทาง ที่เหล่า คุณน้องนางเหล่านี้ ในการฟันฝ่า เพื่อจะเป็นผู้แทนกะเค้าให้ได้ โดยรวม หนังก็ดูสนุกสนานพอใช้ได้ ในหลายๆฉาก หนังมีตัวละครที่มีสีสันน่าสนใจ แทบทุกคาแรคเตอร์ แต่กลับใช้ประโยชน์ในแต่ละคาแรคเตอร์นั้นๆได้ไม่เต็มที่นัก

หนังฉายจำกัดโรงในเครือ อีจีวี โปรดเช็ครอบฉายอีกที ผมเพิ่งไปดูที่อีจีวีปิ่นเกล้ามา รอบ 17.00 ที่ผ่านมา ครับ ผมนั่งดูคนเดียวในโรงภาพยนตร์ ( ทำเสียงแบบสมีกอล " The theatre is mine " ) มีความสุขจริงๆครับ โรงหนังเป็นของเราไปแล้ว และเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี ที่ได้ดูหนังคนเดียวในโรงหนัง ครั้งสุดท้าย คือที่ เมอรี่คิงส์ ปิ่นเกล้า ตอนนั้นฉายหนังจีน (จำชื่อไม่ได้แล้ว) แต่เป็นช่วงปลายๆของโครงการ art house ที่ คุณสุทธากร เค้าจัดหนังลงโปรแกรม ดีใจที่อีจีวี เป็นโรงหนังคุณภาพอีกโรง ที่ยินดี ฉายหนัง แม้จะมีคนดู เพียงแค่ 1 คน ก็ตาม (ค่าตั๋วหลังหักบัตรลดเอฟวัน เหลือ 80 บาทครับ)

ขอบคุณทางsiamzone.com ที่ทำให้ได้ไปชมหนังเรื่องนี้
ทราบว่าเป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับผู้ที่มีอาชีพขายตัวที่ได้ก้าวไปเป็นส.ส.ของประเทศเกาหลี หนังเรื่องนี้ค่อนข้างแรงในความรู้สึกของตัวเอง
โดยเฉพาะฉากที่มีการขมขื่นผู้หญิงบนถนนสายหนึ่ง
ดูแล้วกลัวการเลียนแบบ เพราะภัยอันตรายใกล้เมืองกรุงมากพออยู่แล้ว
ไม่อยากให้ผู้หญิงถูกทำร้าย เพราะเราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน

เรื่องราวของหนังเรื่องนี้เเปลกดี ไม่เคยดูมาก่อนเลย ไม่รู้ว่าคิดได้ไงเนี้ย ถึงจะเป็นหนังตลกเเต่ก็มีฉากซึ้งๆอยู่เหมือนกันหนะ ที่สำคัญหนังเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กๆนะครับ เเต่ผู้ใหญ่ดูได้ดูดี