วิจารณ์ Paycheck
-
เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 16 ม.ค. 52 22:57
แรกๆก็ งงนิดหน่อยแต่พอดูไปเรื่อยๆ ก็เริ่มจะเข้าใจ ซึ่งโดยรวมแล้วเยี่ยมครับ สนุกดี
-
R.
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 19 ส.ค. 48 14:40
สนุกดีครับ ให้ 8/10 เลย
บางช่วง น่าเบื่อบ้าง แต่โดยรวม ถือว่าดี -
neo
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 26 ม.ค. 47 15:35
สนุกดี ชอบหนังของจอห์น วู ทุกเรื่อง โดยเฉพาะ face off
-
Keyser
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 25 ม.ค. 47 13:55
ถ้าดูเฉพาะเนื้อเรื่องผมว่าสุดยอด
รู้สึกว่าจะเอาโครงเรื่องมาจากนิยายวิทยาศาสตร์เหมือนกับ minority report แต่ผมว่าเรื่องนี้น่าสนใจกว่ามาก ถ้าหนังได้ผู้กำกับที่ครีเอทๆ เล่าเรื่องเก่งๆมาทำโดยเน้นเนื้อหาเยอะกว่านี้จะออกมาดีกว่านี้มากๆเลยนะ แต่นี่ดันเป็นจอห์น วู เลยเน้นไปที่ฉากแอ็คชั่นไล่ล่าซะงั้น น่าเสียดายเนื้อเรื่องเจ๋งๆ -
จี๊ด
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 24 ม.ค. 47 20:30
แต่เราว่าสนุกดี........
-
123
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 22 ม.ค. 47 16:09
โอเวอร์ ไปหน่อยนะ........
-
kakinang
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 22 ม.ค. 47 13:56
ดูแล้ว ฉากแอ็คชั่นก็ทำได้มันส์สมราคา
แต่ก็อย่างว่าบางทีหลายๆฉากดูไร้เหตุผล ไม่น่าเป็นไปได้
เว่อร์เกินเหตุ แต่ก็นะ...ดูหนังแบบนี้ก็ต้องเข้าใจหน่อยว่าต้องเว่อร์ไว้ก่อน -
Flogin
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 22 ม.ค. 47 00:25
สนุกมาก มันส์ดี เยี่ยม !!
-
JoEi
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 21 ม.ค. 47 18:03
กระบวนการ Reverse Engineering เป็นกระบวนการที่จะล้วงเอาเทคโนโลยีจากสิ่งต่างๆ ได้ดีที่สุด ซึ่งถ้าเราสามารถนำโครงสร้างของสิ่งต่างมาพัฒนาต่อได้นั่นคือการที่เราจะเหนือคู่แข่ง Paycheck นำจุดนั้นมาเป็นจุดเริ่มต้น
ไมเคิล ซึ่งรับบทโดย Ben Affleck เป็นนัก Reverse Engineering มือหนึ่ง เขาสามารถนำความรู้ของคนอื่น มาเป็นความรู้ของตัวเอง และต่อยอดให้กับความรู้นั้นได้เสมอ ได้รับงานจากบริษัท ออลคอม ซึ่งหลังจากงานเสร็จเขาจะต้องถูกลบความทรงจำเกี่ยวกับงานทั้งหมด พร้อมกับรับผลตอนแทนก้อนโต แต่หลังจากงานเสร็จทุกอย่างไม่เป็นเช่นนั้น สิ่งของ 20 ชิ้นคือสิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่จากงานนี้ พร้อมกับคนที่มาคอยไล่ตามเขาอย่างไม่ลดละ
การจับจุดของการค้าเทคโนโลยีมาเป็นจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ แต่ถ้าดูจากงานที่สร้างแล้ว ดูจะเกินความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน ของชิ้นเล็กๆ เท่ากระเป๋า กลับกลายเป็นห้องขนาดยักษ์ใหญ่เมื่อเสร็จกระบวนการ หรือจะเป็นงานอีกชิ้นที่ฉีกออกไปคนละแนวกับสินค้าเดิมอย่างสิ้นเชิง สิ่งนี้เองไม่ได้สนองกับคำว่า Reverse Engineering ซึ่งเป็นอาชีพของ ไมเคิล
แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด แต่ได้มีการใส่ความเป็นเอเชียในแง่ของศาสตร์ของลายมือเข้ามาอยู่เล็กน้อย จุดนี้ชอบเป็นการส่วนตัว บางคนอาจจะมองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คงเป็น Sci-fi บอกได้เลยว่าไม่ใช่ แม้ว่า Sci-fi จะเป็นจุดที่ภาพยนตร์เรื่องนี้นำมาใช้ แต่ความจริงแล้วมันออกจะเป็น Action ประมาณ 60 - 70% และเป็น Thriller อีก 20-30% ส่วนที่เหลือถึงจะเป็น Sci-fi
Ben Affleck เข้ามารับบท ไมเคิล ได้พอใช้ได้ ถ้าเขาลดความหล่อ และลงทุนที่จะเลอะเทอะจากการต่อสู้และการวิ่งหนีมากกว่านี้ งานแสดงของเขาจะดูสมจริงขึ้นอีกมาก Uma เล่นได้ไม่ดีเลย มีหน้าที่แค่ยิ้มสวย บทบาทไม่ได้แสดงถึงความรักเลยแม้แต่น้อย ลองคิดดูสิเจอกันครั้งแรกกับหลังจากคบกัน 3 ปีแล้ว หน้าตาก็ยังเหมือนเดิม และ Paul รับบทเป็น Shorty แม้ว่าจะไม่ได้รับบทที่เด่น แต่บทบาทของเขาเพิ่มเสียหัวเราะให้กับภาพยนตร์มากทีเดียว ซึ่งเขาก็ทำได้ดีเลยล่ะ
มองโดยรวมแล้ว Paycheck ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดูสนุก ไม่ต้องคาดคั้นหาเหตุผลมากมายจะดูสนุกยิ่งขึ้น
(คำวิจารณ์ต่อไปนี้ จะมีการบอกเนื้อหาของภาพยนตร์ ไม่เหมาะกับผู้ที่ยังไม่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้)
เนื้อเรื่องบางจุดก็ยังดูอ่อนเหตุผลอยู่มาก อย่างเช่น เครื่องนี้ให้เราเห็นได้แค่อนาคตของตัวเอง แต่รู้ได้อย่างไรว่าจะเกิดสงครามขึ้น สิ่งของหลายชิ้นอย่าง แว่นตามองทะลุหมอก ตั๋วรถไฟเที่ยวเดียว กุญแจประตูบานนั้น กุญแจรถมอร์เตอร์ไซด์ เหรียญ และ กระดาษเกมอักษรไขว้ เขาจะไปซื้อสิ่งทั้งหมดนี้ได้อย่างไร ขณะที่กำลังทำงานอยู่ในบริษัท ทำไม เจมส์ (Aaron Eckhart) ถึงสามารถมองเห็นอนาคตที่ ไมเคิล ถูกจับได้ ทั้งๆ ที่เครื่องนี้มองได้แค่อนาคตของตัวเอง นอกจากนี้ ไมเคิล จะต้องมองเห็นอนาคตตัวเอง 20 อย่าง หลังจากเห็นของที่ตัวเองส่งมาให้ตัวเอง 20 ชิ้น จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะรับรู้ได้ว่าอะไรเป็นอนาคตที่เกิดขึ้นจริง อะไรเป็นอนาคตที่ถูกบิดเบือนไปแล้ว หรือการกระทำบางอย่างจะมีผลหรือไม่มีผลกับอนาคตที่ถูกเปลี่ยนแปลงก่อนหน้านี้ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอนาคตก็เช่นกัน เป็นที่รู้ว่าภาพยนตร์ที่เล่นกับการเปลี่ยนแปลงอนาคตนั้นมักจะมีผลกระทบตามมา แต่ในเรื่อง Paycheck นั้นตัดประเด็นนี้ทิ้งหมดเลย -
D E V A N...
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 18 ม.ค. 47 22:08
ก็สนุกดี ตื่นเต้น น่าติดตาม...หนัง จอห์น วู ใช่ป่ะหละ ก็เหมือน MISSION+MINORITY REPORT..เลย แต่ เธอร์แมนไม่ค่อยเด่นเลยอ่ะ...โดยรวมใช้ได้...
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- รักแห่งสยามเข้าฉายปี 2007 แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, กัญญา รัตนเพชร์
- Harry Potter and the Chamber of Secretsเข้าฉายปี 2002 แสดง Daniel Radcliffe , Emma Watson , Rupert Grint
- ตีสาม 3Dเข้าฉายปี 2012 แสดง กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, โทนี่ รากแก่น, ชาคริต แย้มนาม
เกร็ดภาพยนตร์
เปิดกรุภาพยนตร์
รัก ล้น ใจ แจน (ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) พนักงานบริษัทที่แบ่งเบาภาระทางบ้านด้วยการพาน้องมาอยู่ด้วยที่กรุงเทพฯ และส่งเสียน้องเรียน...อ่านต่อ»