วิจารณ์ แฟนฉัน
-
B'N'B
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 ต.ค. 46 21:24
น่าร้ากที่สุดเลย... ตอนแรกดูแล้วแบบว่าฮามากๆ แต่พอมาตอนหลังรู้สึกเศร้าๆแอบร้องไห้ด้วยแหละ นักแสดงเล่นดี เป็นธรรมชาติทุกคน เนื้อเรื่องน่ารัก กุ๊กกิ๊กดี เรื่องนี้นับเป็นหนังที่น่าประทับใจที่สุดในรอบปีนี้เลยทีเดียว อยากดูอีกรอบมากๆ จะหาเวลาไปดูให้ได้ค่ะ...
-
โทเบ
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 ต.ค. 46 17:03
ไปดูกันเยอะๆนะครับ สนุกมาก ตอนจบน่าจะแต่งงานกันนะ
-
โทเบย์
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 ต.ค. 46 16:59
ชอบมากครับ จะไปดูอีก แล้วซื้อแผ่นหนังเอาไว้ด้วย สนุกมาก
น้องๆที่แสดงก็น่ารักมากเลยไปดูกัน24คน(สอบเสร็จก็ไปดูกัน) เพื่อนๆร้องไห้ครับ บอกว่าทุกคนชอบๆๆๆจริงๆๆๆ -
ูดูมาแว้ว
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 ต.ค. 46 16:48
เป็นหนังที่ทำออกมาได้ดีมากรู้สึกดูแล้วอินไปกับหนังเลยอ่ะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ในวงการดูแล้วรู้สึกไม่เสียดายตังอ่ะ
-
ศิวารักษ์
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 ต.ค. 46 16:15
ภาพยนตร์แฟนฉันเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องของเด็กๆแต่ไม่เด็ก เป็นภาพยนตร์ที่น่ารักม้ากมากเท่าที่ฉันเคยดูมา ทำให้ย้อนคิดถึงในวัยเด็ก น้องๆเล่นได้เป็นธรรมชาติมาก เรียกได้ว่าเวลาดูหนังเรื่องนี้แล้ว มีทั้งยิ้ม เศร้า เคล้าน้ำตา และตลกสนุกสนาน แต่ตอนจบฉันยังไม่ทันได้เตรียมใจเลยมันจบแบบตอนก่อนจะจบไม่นานพึ่งอยู่อารมณ์สนุกอยู่เลย แล้วก็เศร้าและจบ แต่นับได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมาก ฉันชอบในส่วนของเพลงประกอบภาพยนตร์ด้วย และยังชอบของเก่าๆในเรื่องไม่รู้หามาได้ยังไง เก่งจัง ก็ขอให้มีคนดูหนังเยอะนะคะ เป็นกำลังใจให้ทีมงานผู้สร้างหนังเรื่องนี้ทุกคนเลยนะคะ
-
อริศญา
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 ต.ค. 46 15:41
ว้า..........................
มันทำให้คิดถึงแฟนเราเลย -
ไก่โต้ง
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 ต.ค. 46 12:29
ไปดูมาแล้ว ยอมรับว่าสนุกมาก แต่บทเจี๊ยบตอนโตดูแล้วเล่นไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่ ส่วนตอนจบของเรื่องรวบรัดเกินไป เพื่อน ๆ ของเจี๊ยบหายไปไหนกันหมด น่าจะมีบทสรุบของตัวละครทุกตัว ว่าเมื่อโตแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่โดยรวมแล้วนับว่าเป็นหนังที่เรียกรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ได้มากทีเดียว ดูแล้วยังอดนึกถึงสมัยที่เราเป็นเด็กได้ดี ขอปรบมือดัง ๆ ให้ทีมงานและนักแสดงทุกคน............น่าจะมีภาคต่อไป
-
น้อยหน่า
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 ต.ค. 46 12:02
จะว่าอย่างไรก็เหอะ
รำคาญเจี๋ยบตอนโตอะ
โทรศัพท์ได้ทั้งเรื่อง
มาทำอะไรไม่รู้ โทรศัพท์ท่าเดียว ทั้งเรื่อง -
ปู
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 ต.ค. 46 11:56
นั่งดูน้ำตาไหลตอนไหนยังไม่รู้เลย สนุกดีค่ะ
-
JoEi
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 7 ต.ค. 46 11:43
แฟนฉัน นับเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องหนึ่งที่มีกระแสที่แรงมากๆ มีเสียงกล่าวถึงไปทั่วอินเตอร์เน็ตก่อนที่ภาพยนตร์จะเข้าฉายตั้งนาน ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้มีการออกฉายโชว์ไปทั่วประเทศก่อนที่จะฉายจริง
แฟนฉันเป็นเรื่องของชีวิตในวัยเด็กของ 2 คน คนหนึ่งเป็นชายเงียบๆ ชื่อ เจี๊ยบ อีกหนึ่งเป็นหญิงร่าเริงชื่อ น้อยหน่า โดยทั้ง 2 คนบ้านอยู่ใกล้กันมาก (ห่างกันแค่ 1 ห้อง) ในพื้นที่แถวนั้นไม่ค่อยมีเด็กรุ่นเดียวกับเขา และถึงจะมีก็มีแต่เด็กผู้หญิง ซึ่งน้อยหน่าก็เป็นหนึ่งในนั้น ข้ามถนนไปทางตลาดจะมีกลุ่มเด็กผู้ชายซึ่งการที่เจี๊ยบต้องการเล่นตามประสาผู้ชาย ด้วยความต้องการดังกล่าว จึงทำให้เจี๊ยบต้องไปแกล้งน้อยหน่าเพื่อเข้ากลุ่มเพื่อนผู้ชาย
ด้วยความรู้สึกที่ว่าหนังเรื่องนี้จะต้องดีแน่ๆ เพราะว่ามีเสียงตอบรับดีก่อนที่จะได้ไปดู อีกทั้งยังมีชื่อพี่เก้ง จิระ มะลิกุล นั่งแท่นดูแลการผลิต ยิ่งทำให้คาดหวังกับภาพยนตร์นี้ไว้ค่อนข้างสูง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลยถ้าอยากจะไปดูเรื่องนี้แล้วได้รับความสนุกเต็มที่
การคัดเลือกนักแสดงเด็กของเรื่องนี้กระทำอย่างพิถีพิถันมากๆ ทำให้นักแสดงเด็กที่ได้ถือว่าดีมากๆ เพราะว่าบุคลิกของแต่ละคนมีความโดดเด่นไปคนละแบบ คล้ายกับตัวการ์ตูนในการ์ตูนโดราเอมอน ทุกคนล้วนแล้วแต่แสดงความสามารถของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทำให้ภาพยนตร์ทั้งเรื่องดูสนุกได้ตลอดทั้งเรื่อง
ส่วนด้านนักแสดงผู้ใหญ่ ก็ไม่รู้ว่าติดใจอะไรนักหนากับศิลปิน ถึงได้เอาศิลปินมาเล่นเป็นนักแสดงผู้ใหญ่ตัวหลักๆ ทั้งหมด แต่ด้วยบทบาทของพวกเขาที่ไม่ได้มีบทที่เล่นยากหรือต้องใช้อารมณ์ ทำให้ผลที่ได้ออกมาค่อนไปทางดี จะมีก็แต่จั๊กที่จะต้องมารับบทของเจี๊ยบตอนโต ที่จะเล่นเป็นตัวเองมากไปหน่อย ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าเจี๊ยบนั้นจะเป็นเด็กเงียบๆ มีความกระตือรือร้น เก็บความรู้สึก และแสดงออกทางสีหน้า ซึ่งจั๊กยังตามตรงนี้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ถ้าจะถามว่าทำให้หนังเสียหายไหม ก็คงต้องบอกว่าไม่เป็นไรเพราะว่าเรื่องนี้ดูเด็กๆ ก็พอ
นอกจากนักแสดงจะเป็นนักร้องเก่าแล้ว ในเรื่องนี้ยังใช้เพลงในยุค 80 อีกมากมายหลายเพลง จนแทบจะนึกว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องยาวประกอบเพลง การนำเพลงเก่าๆ มาใส่ทำให้สามารถเรียกความรู้สึกตอนวัยรุ่นผ่านบทเพลงได้ด้วย ซึ่งคนที่ชอบฟังเพลงเหล่านี้เป็นทุนเดิม หรือรู้จักเพลงเหล่านี้อยู่แล้วคงชอบแน่ๆ แต่ถ้าเป็นคนยุคใหม่ที่ไม่ได้รู้จักเพลงเหล่านี้ก็คงจะบอกว่าเพลงมันออกจะมากเกินไปนิด
นอกจากนักแสดงและเพลงเก่าๆ แล้วยังมีการนำการละเล่นเก่าๆ ของเด็กมาเพิ่มรสชาติอีกด้วย โดยสำหรับเด็กผู้ชายจะเล่นเป่ากบ เล่นต่อสู้แบบจีน และฟุตบอล ส่วนเด็กผู้หญิงจะเล่นกระโดดหนังยาง และพ่อแม่ลูก สำหรับพ่อแม่ลูกคนเขียนบททำได้ดีมาก เพราะว่าถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดได้เป็นอย่างดี การเล่นต่อสู้ของเด็กผู้ชายก็น่ารักดีดูมีพลังและน่าสนุกจริงๆ ส่วนการละเล่นอื่นๆ ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร ตอนที่อยู่ที่โรงเรียนน่าจะมีการละเล่นต่างๆ เพิ่มมากกว่านี้ เช่น ตุ๊กตากระดาษ หมากเก็บ ซ่อนหา หรือ รูปลอก
ด้านการดำเนินเรื่อง ยังนับว่าเดินเรื่องได้ไม่นุ่มนวลเท่าที่ควร การดำเนินเรื่องจะดูเป็นช่วงๆ ประมาณว่าคิดได้ว่าในวัยเด็กทำอะไร ก็มาใส่ในภาพยนตร์ พอได้ครบ 2 ชม. ก็นำความคิดทั้งหมดมาต่อกันให้เป็นภาพยนตร์ พัฒนาการของตัวละครแต่ละตัวจึงยังไม่นิ่มนวลเท่าที่ควร แน่นอนว่าแต่ละช่วงของภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดออกมาสร้างความสนุกให้กับคนดูมากมาย แต่มันก็ไม่ได้ชักจูงให้คนสนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นถัดไปสักเท่าไร
หลายๆ คนอาจจะถามว่า แฟนฉัน น่าดูไหม ก็ขอตอบตรงๆ ได้เลยว่าไม่ควรพลาด ด้วยฝีมือการกำกับ ของผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรง ด้วยความน่ารักของเด็กๆ ด้วยการย้อนความทรงจำกลับไปหาช่วงที่เราเป็นเด็ก ที่เราเป็นวัยรุ่น ความประทับใจในมิตรภาพของเพื่อน และอีกหลายๆ เหตุผลที่จะทำให้คนที่เข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้โดยไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้มาก จะได้รับความสนุกจากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมาอย่างเต็มที่
(บทวิจารณ์หลังจากนี้จะมีการกล่าวถึงเนื้อหาของภาพยนตร์ ไม่เหมาะกับผู้ที่ยังไม่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้)
แม้ว่าภาพยนตร์จะดูตลก แต่ถ้าคิดให้ดีๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้แฝงไว้ด้วยความเศร้ามาตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการที่เจี๊ยบไม่กล้าข้ามถนนเพราะว่าเห็นรถชน การที่แถวๆ บ้านของเจี๊ยบไม่มีเพื่อนของเจี๊ยบที่เป็นผู้ชายเลย การที่เจี๊ยบไม่มีเพื่อนเล่นเลยตอนที่อยู่ที่โรงเรียน การที่เจี๊ยบจะต้องตื่นสายทุกวันโดยที่พ่อแม่ไม่เคยที่จะปลุกแม้แต่วันที่น้อยหน่าจะจากไป หรือจะเป็นตอนท้ายของเรื่องกับฉากจบที่เรียกน้ำตาคนดูไปได้มากมาย จะเห็นได้ว่าดูจงใจเกินไปที่จะทำให้ใครสักคนต้องพบชะตากรรมที่เศร้าขนาดนี้
อาจจะเป็นเพราะว่า ภาพยนตร์ต้องการสะท้อนความทรงจำในวัยเด็กของเจี๊ยบมากเกินไปทำให้เหตุผลบางอย่างตอนท้ายเรื่องหายไปเช่น น้อยหน่าแต่งงานที่บ้านเกิด จังหวัดเดียวกับที่เจี๊ยบเคยอาศัยอยู่ ในความเป็นจริงแล้วก็ไม่ได้ห่างกันมากเกินไป ทำไมน้อยหน่าที่จงใจจะไม่ติดต่อเจี๊ยบเลยตลอดช่วงเวลาก่อนแต่งงาน ถึงตัดสินใจเดินทางมามอบการ์ดเชิญงานแต่งงานด้วยตัวเอง ทำไมพ่อแม่ของเจี๊ยบจึงไม่ปลุกเจี๊ยบขึ้นมาเพื่อส่งน้อยหน่าก่อนที่น้อยหน่าจะเดินทางไปซึ่งผิดสังเกตอย่างมากในฐานะที่เป็นพ่อแม่
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- เขาชนไก่เข้าฉายปี 2006 แสดง วศิษฎ์ ผ่องโสภา, ทวีรัตน์ จุลศิริ, อภิพล ตรีเทวะวงษา
- เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตายเข้าฉายปี 2006 แสดง มหาสมุทร บุณยรักษ์, ชลลดา เมฆราตรี, แอนดี้ เขมภิมุก
- Happy Feetเข้าฉายปี 2006 แสดง Robin Williams, Hugh Jackman, Elijah Wood
เกร็ดภาพยนตร์
- Blackhat - ชื่อภาพยนตร์อ้างอิงถึงลักษณะของตัวร้าย ซึ่งวายร้ายในแถบตะวันตกมักจะสวมหมวกสีดำ อ่านต่อ»
- Maps to the Stars - วิกโก มอร์เทนเซน และ ราเชล ไวส์ซ ต่างก็เคยถูกพิจารณาให้รับบท สแตฟฟอร์ด และ ฮาวานา ก่อนที่จะถอนตัวออกไปทั้งคู่เนื่องจากปัญหาตารางงาน สุดท้าย จอห์น คูแซก และ จูเลียนน์ มัวร์ จึงเข้ามารับบท สแตฟฟอร์ด และ ฮาวานา ตามลำดับ อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Ford v Ferrari สร้างจากเรื่องจริงของการแข่งขันเพื่อชิงความเป็นที่หนึ่งของสองยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์อย่าง ฟอร์ด และเฟอร์รารี่ ในการแข่...อ่านต่อ»