ขอบคุณทุกคนที่ร่วมเดินทางกันมาจนถึงจุดนี้ ขอบคุณประชาชนทุกคนที่ลงคะแนนให้ฝ่ายก้าวหน้าทุกพรรค แต่ต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษกับทุก ๆ คนที่ลงคะแนนให้กับพรรคก้าวไกล … การทำงานของพรรคอนาคตใหม่จนถึงพรรคก้าวไกล กับการเลือกตั้งที่จบลงเป็นเพียงการสิ้นสุดลงของ “บทนำ” เท่านั้น … บทที่ 1 กำลังจะเริ่มต้นนับแต่วันนี้ การเดินทางและการต่อสู้ของพวกเราทุกคนยังไม่จบ ขอให้ร่วมเดินทางกันอย่างแข็งขันและทรหดอดทนกันต่อไป จนกว่าฟ้าวันใหม่จะเป็นสีทองผ่องอำไพ

กับคุณหมอเอิร์ธฐา #aertha เร็ว ๆ นี้ทาง #aerthachannel ครับ

เมื่อวานนี้ที่เคหะไฟฟ้า พระราม 2 วันนี้พบกันต่อ 5 โมง ที่เคหะเอื้ออาทร แสมดำครับ

สื่อชิ้นนี้ผลิตโดย พรรคก้าวไกล 167 ชั้น 4 ซ.รามคำแหง 42 หัวหมาก บางกะปิ กทม 10240 จำนวนที่ผลิต 1 โพสต์ วันที่ผลิต 9 เมษายน 2566

วานซืน ที่ พิดโลก <3

(สื่อชิ้นนี้ผลิตโดย พรรคก้าวไกล 167 ชั้น 4 ซ.รามคำแหง 42 หัวหมาก บางกะปิ กทม 10240 จำนวนที่ผลิต 1 โพสต์ วันที่ผลิต 3 เมษายน 2566)

อีก 1 ชม. พบกันครับ

พบกัน วันพรุ่งนี้ครับ

ค่ำคืนนี้มาย้อนฟังของเมื่อเที่ยงกันสักหน่อยกับการอภิปรายงบฯ ปี ‘66 วาระ 2 ในส่วนของมาตรา 25 “กระทรวงสาธารณสุข” สั้น ๆ ง่าย ๆ ประโยคเดียว “โรงพยาบาลบุรีรัมย์ได้งบสูงกว่าโรงพยาบาลอื่น 156 เท่า” จะเอากันอย่างนี้จริง ๆ หรือ?

ง้างไมค์กำลังจะอภิปรายงบฯ ‘66 ในมาตรา 30 “หน่วยงานของรัฐสภา” โดยผมจะอภิปรายในส่วน ‘สภาผู้แทนฯ’ ส่วนพริษฐ์จะอภิปรายในส่วน ‘วุฒิสภา’ ปรากฏว่า … # สภาล่ม … อีกแล้ว

อภิปรายงบฯ ‘66 มาตรา 23 ก.วัฒนธรรม ปรับปรุง “โรงละครแห่งชาติ” 942 ล้าน แต่ซ่อมจริง 400 กว่า ซื้อของปาไป 500 กว่า เบิกจ่ายไม่ได้เพราะจัดซื้อจัดจ้างไม่ได้ซักที แก้ TOR อยู่นั่น กลิ่นหึ่งว่ามีการล็อกสเปกรึเปล่า แถมด้วยเรื่องศิลปินแห่งชาติ เงินเดือนรวม 4.4 ล้านบาท สวัสดิการเพียบ แต่มีปัญหาเรื่องความโปร่งใสในการคัดเลือก

อภิปรายงบฯ ปี ‘66 วาระ 2 มาตรา 14 กระทรวงเกษตรฯ ในส่วนของ “กรมการข้าว” ปูดมา 15,260 ล้านบาท รมช.ยังไม่รู้เรื่องเลย ตั้งคกก.สอบ เชิญอธบ.มาชี้แจง 2-3 รอบ ก็ไม่มา ชี้แจงพลิกไปพลิกมา สุดท้ายเอาพี่น้องชาวนามาเป็นตัวประกัน สรุปเป็นจะแจกเงินลงไปตรง ๆ แต่การทำแบบนี้นั้นขัดต่อวัตถุประสงค์ที่กรมการข้าวตั้งโครงการของบจากสำนักงบฯ มาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะหลบไปทางไหน ก็เจอแต่ทางที่ไม่ถูกต้อง

ขอบคุณฮะ

อีก 1 ชม. ผมจะขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมว.สธ. ความยาว 1 ชม. ติดตามกันนะครับ

2 ทุ่ม พบกันที่เพจ #พรรคก้าวไกล และเพจ #ไอติมพริษฐ์ พูดคุยกันในบรรยากาศสบาย ๆ หลังเสร็จการประชุมกมธ.งบประมาณฯ แต่เนื้อหาไม่สบาย ๆ น้า 😀

ควันหลงต่อเนื่องจากการอภิปรายของผม ขอบพระคุณ The Momentum ด้วยครับ

‘หมอวาโย’ อัดทุกกระทรวงจัดงบซื้อคอมบวม เหน็บงบสร้างรพ.อยู่แค่บุรีรัมย์ แขวะวธ.จัดงบแจกสื่อช่องท็อป ๆ ซัดงบฝึกทอ.มากกว่าพัฒนาอาจารย์แพทย์
.
เดี๋ยวพรุ่งนี้ลงคลิปให้ชมกันนะครับ เพิ่งอภิปรายไปเมื่อ 21.15 น. หรืออ่านสรุปได้ที่ https://www.matichon.co.th/politics/news_3378273

วันนี้มาบรรยายเรื่อง “การระงับข้อพิพาทก่อนชั้นศาล ในข้อพิพาททางการแพทย์” ให้กับสถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) ที่ตึกพิรัช เอ็มควอเทียร์ ขณะที่กำลังเดินหาร้านอาหารเพื่อรับประทาน ได้เดินผ่านหน้าร้านทำผมแห่งหนึ่ง มองเข้าไปก็สะดุดตาช่างตัดผมหน้าตาดีทะลุแมสก์ท่านนึง ก็จำได้ทันทีว่าอ้าว เฮ้ย เจษ! รักแท้ของบูมนี่นา! 😂 คถมาก ๆ เลย 🧡

ครอบครัวขยายครับปีนี้ มีคนมาช่วยคุณแม่และคุณแม่บุญธรรมเล่นตุ๊กตาหมีเพิ่ม 1 หน่วย สุขสันต์วันพ่อครับ ^^

วันนี้ ผมและพรรคก้าวไกลได้แถลงถึง 3 ข้อกังวล + 3 ข้อเสนอแนะ ต่อการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 2564 สรุปได้ ดังนี้
1. ปริมาณของผู้ได้รับวัคซีน 2 เข็มหรือมากกว่ายังน้อยเกินไป มีเพียงประมาณร้อยละ 40 ของประชากร โดยนับรวมผู้ที่ได้รับวัคซีน 2 เข็มชนิดเชื้อตายบางยี่ห้อซึ่งไม่เพียงพอแล้ว และผู้ที่ได้รับวัคซีนสูตรไขว้ซึ่งยังไม่ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ที่มีน้ำหนักเพียงพอ
2. การเปิดประเทศถึงแม้จะมีมาตรการให้นักท่องเที่ยวตรวจหาเชื้อไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเข้าประเทศและให้ตรวจซ้ำอีกครั้งเมื่อถึงประเทศไทย ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าความเสี่ยงที่จะเกิดการหลุดรอดของเชื้อจากระยะ “Window Period” เป็นศูนย์
3. การเปิดประเทศโดยใช้ตัวแบบจากการทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้นไม่ประสบความสำเร็จ ร่วมกับสถานการณ์ในประเทศที่ผู้ติดเชื้อยังสูงถึง 7-8 พันรายต่อวัน ยังไม่นับจำนวนผู้ติดเชื้อจากการตรวจ ATK ซึ่งอาจสูงถึงหลายพันรายต่อวัน อีกทั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายจังหวัดมีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นมาก ทั้งปริมาณของประชากรที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม ที่ยังน้อยเกินไป และจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศที่ยังควบคุมไม่ได้ดี แต่กลับเลือกที่จะเปิดประเทศโดยทันที จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า การเปิดเมืองในครั้งนี้เป็นเพียงการขายผ้าเอาหน้ารอดจากการลั่นวาจาว่าจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน หรือไม่ และผลลัพธ์จากการเปิดประเทศในครั้งนี้อาจกลับกลายเป็นว่า มีคนไทยจำนวนมากบินออกจากประเทศเพื่อไปรับวัคซีนที่ดีแล้วบินกลับมาโดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งกลับจะทำให้เม็ดเงินรั่วไหลออกไปนอกประเทศมากขึ้น
ข้อเสนอแนะ:
1. เร่งฉีดวัคซีนให้ได้วันละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านโดส เพื่อให้ครอบคลุมร้อยละ 70 ถึง 80 ของประชากรภายในเดือนพฤศจิกายน จัดสรรวัคซีนให้ภาคเอกชนร่วมบริการ โดยเฉพาะวัคซีนทางเลือกที่กำลังจะเข้ามาภายในต้นเดือนพฤศจิกายน อย่าให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยว่า วัคซีนเข้ามาแล้วแต่กลับต้องรอระยะเวลาในการตรวจสอบและอนุมัติเป็นสัปดาห์ เลิกทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม
2. ระดมสรรพกำลังทั้งจากภาครัฐและเอกชน ทั้งห้องไอซียู เครื่องช่วยหายใจ เครื่องมือทางการแพทย์ รวมถึงบุคลากรทั้งหลาย เลิกมองสถานพยาบาลเอกชนเป็นศัตรูของรัฐ ปรับเปลี่ยนทัศนคติว่าสถานพยาบาลเอกชนเป็นผู้แบ่งเบาพันธกิจของรัฐ คำนึงถึง Worst Case Scenario และเร่งจัดเตรียมทรัพยากรต่าง ๆ ให้เพียงพอ
3. นายกรัฐมนตรีจะต้องแสดงความหนักแน่นให้ผู้ประกอบการเห็นว่า มีความตั้งใจจริงที่จะเปิดประเทศ อย่าปล่อยให้ผู้ประกอบการขาดความเชื่อมั่น ไม่กล้าที่จะดำเนินธุรกิจ ไม่กล้าที่จะสต๊อกของ ไม่กล้าที่จะจ้างพนักงาน เพราะกลัวความลักปิดลักเปิดของนายกฯ

Officially announce! ขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ ญาติ ๆ ผู้ใหญ่ทุกท่าน เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่มาร่วมและช่วยงานเช้าวันนี้ให้ผ่านลุล่วงไปด้วยดี และต้องขอโทษหลาย ๆ ท่านที่แสดงความจำนงมาร่วมงานตามประเพณีแต่ไม่สามารถ ตามข้อจำกัดเรื่องจำนวนผู้ร่วมงานตามสถานการณ์ฯ
.
ขออนุญาตลงรูปพรีเวดดิงไปก่อน รูปชัด ๆ จากตากล้องอาจตามมาทีหลังนะครับ
.
ท้ายที่สุด ต้องขอโทษประชาชนทุกคนในฐานะผู้แทนประชาชนที่ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาผมต้องใช้กำลังกายและกำลังสมองไปกับการจัดเตรียมงานในวันนี้อย่างมาก แต่ก็สมดังเจตนาที่ตั้งใจไว้ว่า อยากจะเร่งจัดการเรื่องส่วนตัวให้เสร็จสิ้นก่อนเปิดสมัยประชุมสภาฯ เหลือเวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ สภาเปิด แล้วพบกันครับ ^^

การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของ #พรรคก้าวไกล ที่ขอนแก่นวันนี้จบลงอย่างสวยงาม ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ^^ #ก้าวไกลไปนำแหน่

วันนี้เช้า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้เดินทางไปยังสำนักงานป.ป.ช. เพื่อยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีและคณะ โดยมีคำร้องทั้งสิ้น 4 คำร้อง สืบเนื่องมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งที่ผ่านมา โดยกระผมและพรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอหลักในคำร้องที่ 3 เกี่ยวกับปัญหาการจัดซื้อวัคซีนชนิดเชื้อตาย ซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงประสิทธิภาพต่อการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดฯ สายพันธุ์เดลต้า ณ เวลาที่สั่งซื้อ ย่อมเป็นการกระทำอันผิดต่อหลักการตามมาตรา 8 พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ โดยเฉพาะในเงื่อนไขที่ว่า การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐจะต้องคำนึงถึง “ประสิทธิภาพและประสิทธิผล” เป็นสำคัญ
.
กล่าวโดยสรุป มิใช่หน้าที่ของพวกเราในฐานะประชาชนที่จะต้องพิสูจน์ถึง “ความไร้ประสิทธิภาพ” ของวัคซีนฯ หากแต่เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะที่จะต้องพิสูจน์ถึง “ความมีประสิทธิภาพ” ของวัคซีนฯ ที่ตนสั่งซื้อมา ณ เวลาที่ตนได้มีมติให้สั่งซื้อ ทว่า นายกรัฐมนตรีและคณะกลับมิได้นำพา
.
รายละเอียดปรากฏตาม การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในครั้งที่ผ่านมา โดยกระผมเอง หากท่านใดสนใจและยังไม่เคยรับชมในรายละเอียด สามารถเซิจหาได้ใน search engine ทั่วไปหรือในแพลตฟอร์ม youtube นะครับ -/\-

Move on to the next chapter of life. ^^
.
ขอบพระคุณพี่ @peachabelle ที่ช่วยมาเป็นหน้าม้า ซ่อนแหวน ถ่ายรูป ถ่ายคลิปให้ในวันนี้ เสียดายที่เพื่อน ๆ หลายคนติดงานอยู่ตจว.เลยทำให้ไม่ค่อยคึกคักนัก แต่ก็ถือว่าลดจำนวนคนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ฯ ครับ
.
ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ช่วยกันหาแหวนตามสเปกและทุนทรัพย์กันอย่างยากลำบาก
.
ขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ช่วยให้คำปรึกษาและสนับสนุนให้กล้าเดินต่อสู่บทถัดไปของชีวิต
.
และท้ายที่สุด ขอบคุณน้องเกรซ @gracekewalin ที่สนับสนุน อดทน และเป็นกำลังใจให้ตลอดมา แม้ในวันที่ผิดพลาด ล้มเหลว และยากลำบาก

พบกันใน #คุยให้ชัดกับพรรณิการ์ พรุ่งนี้

สืบเนื่องจากกรณีที่ ส.ส.ณัฐชา แจ้งต่อสภาว่าผลการตรวจคัดกรองโควิดฯ ด้วย Rapid Antigen Test ของตนให้ผลเป็นบวกนั้น ทำให้เห็นถึงแนวคิดและทัศนคติของบุคคลหลายฝ่าย โดยเฉพาะผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกพรรคการเมืองหลายท่านที่ออกมาตอบสนองและแสดงออกต่อกรณีที่เกิดขึ้นแตกต่างกันไป
.
เบื้องต้น ผมต้องขอแสดงความเป็นห่วงต่อ ส.ส.ณัฐชา และร่วมรอผลการตรวจยืนยันด้วยวิธี RT-PCR ในวันนี้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
.
ผมรู้สึกชื่นชมต่อสิ่งที่ส.ส.ณัฐชากระทำในส่วนหนึ่ง ที่รีบแจ้งไปยังสภาในทันทีที่ทราบผลการตรวจคัดกรอง ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ใช่ผลยืนยันจากการตรวจด้วยวิธี RT-PCR เพื่อให้บุคลากรทุกฝ่ายได้ระมัดระวังและเตรียมตัวกันอย่างรวดเร็ว ไม่ปกปิดข้อมูล ไม่รอให้ล่าช้า จริง ๆ แล้วส.ส.ณัฐชาค่อยแจ้งต่อสภาเมื่อผลตรวจยืนยันออกมาแล้วก็ย่อมได้ แต่ส.ส.ณัฐชาก็เลือกที่จะแจ้งกรณีดังกล่าวต่อสภาโดยเร็ว
.
ทว่า ต่อกรณีดังกล่าวกลับมีผู้แทนราษฎร สมาชิกพรรคการเมืองบางท่าน แสดงออกผ่านข้อความที่บ่งถึงความรังเกียจต่อ ส.ส.ณัฐชา รวมถึงคณะทำงานของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติของบุคคลเหล่านี้ต่อ “ผู้ติดเชื้อ” หรือ “ผู้ป่วย” ซึ่งรวมถึงประชาชนโดยทั่วไปที่อาจจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
.
ชุดความคิดนี้ไม่สมควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะในหมู่ผู้แทนของราษฎรและผู้ที่ทำงานการเมืองทุกท่าน เนื่องจากพวกเราต้องทำงานร่วมกับประชาชน และลงพื้นที่ที่อาจจะมีความเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยทั้งหลายอีกมากมาย
.
ท้ายที่สุด ในเวลาที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้นกำลังไต่ระดับความชันขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ผมขอแสดงความห่วงใยต่อประเทศชาติและประชาชนทุก ๆ ท่าน ทุก ๆ ฝ่าย มา ณ ที่นี้ด้วย ขอให้ท่านทั้งหลายปลอดภัย ไร้ซึ่งโรคภัย สุขภาพร่างกายแข็งแรง และร่วมก้าวข้ามผ่านภาวะวิกฤตินี้ไปด้วยกันครับ

ภาพจากเมื่อวาน ขณะรับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่ม #หมอไม่ทน ณ อาคารรัฐสภา ในฐานะรองประธาน กมธ.สาธารณสุขฯ เรื่องขอให้เร่งรัดและผลักดันการนำเข้าวัคซีนฯ ชนิด mRNA เพื่อบุคคลากรสาธารณสุข/ประชาชน และขอให้ตรวจสอบสัญญาการซื้อขายวัคซีนระหว่างรัฐกับบริษัทฯ โดยในวันนี้ ได้รับเรื่องราวดังกล่าวเข้าที่ประชุมฯ และมีมติให้เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน โดยมีหนังสือนัดหมายผู้ร้อง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลายให้มาชี้แจงในกรณีดังกล่าวในวันพฤหัสบดีหน้าทันที

วันนี้ ผมในฐานะรองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร (รอง ปธ.กมธ.สธ.สผ.) รับเรื่องร้องเรียนที่เป็นข้อสังเกตจากตัวแทนสมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย (IFMSA-Thailand) เพื่อให้ทางกมธ.สธ.สผ.ทำการศึกษาเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงถึงกรณีที่แพทย์เพิ่มพูนทักษะในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขได้ฆ่าตัวตายอันอาจเนื่องมาจากภาระงานที่มากเกินไปและก่อให้เกิดความเครียดจนเกินทนหรือไม่ ในการนี้ จะได้มีการเชิญให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลายเข้ามาปรึกษาหารือกันเพื่อวิเคราะห์กรณีปัญหารวมถึงสังเคราะห์แนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อความยั่งยืนต่อไปครับ

วันนี้ ผมในฐานะกรรมาธิการฯ ได้อภิปรายถึงร่างพ.ร.บ.ประชามติฯ ที่จะออกบังคับใช้ ในมาตรา 60 (4/1) ซึ่งบัญญัติให้การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการประชามติใด ๆ เป็นความผิดซึ่งมีโทษทางอาญาถึงจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท และอาจถูกเพิกถอนสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งถึง 5 ปี โดยความผิดดังกล่าวเห็นว่าซ้ำซ้อนกับความผิดตามมาตรา 14 (1) พ.ร.บ.คอมฯ ซึ่งมีโทษเท่ากันเป๊ะ ๆ ยกเว้นเพียงในส่วนโทษทางการเมืองที่ถูกเพิ่มขึ้นมา จะเห็นได้ว่าอาจไม่สมเหตุสมผลนัก เนื่องจากเป็นความผิดฐานเดียวกันแต่ได้รับโทษต่างกัน กล่าวคือ หากบุคคลใด ๆ เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จในเรื่องใด ๆ อาจถูกจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท แต่ถ้าข้อมูลอันเป็นเท็จนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประชามติฯ กลับจะถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองไปด้วย ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อปิดปาก (SLAPP) และปิดกั้นการเข้าสู่สภาฯ ของนักกิจกรรมที่อาจได้รับความนิยมจากประชาชนสูง และอาจลงสมัครรับเลือกตั้งในเวลาต่อมา แล้วได้รับเลือกตั้งจากประชาชน ดังนี้ จึงไม่เห็นประโยชน์ของมาตราที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ซึ่งมีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันมิให้ผู้ใดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับประชามติ เนื่องจากมีกฎหมายอื่นซึ่งบัญญัติให้การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดบังคับใช้อยู่แล้ว (พ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 14 (1) )

รัฐบาลขอกู้เงินเพิ่มอีก 5 แสนล้านบาท เขียนเสนอมาด้วยกระดาษ 5 แผ่น ให้เวลาสภาฯ พิจารณา 1 วัน เปิดประชุม 10 โมง ถ้าลากยาวถึงเที่ยงคืนก็ 14 ชม. ให้เวลาสภาฯ พิจารณางบ “วินาทีละ 60 ล้านบาท”. รายละเอียดเต็มหาชมกันได้ในยูทูปนะครับ 18 นาที เนื้อ ๆ ครับ

เมื่อช่วงเย็นวันนี้ ผมได้อภิปรายร่างพรบ.งบประมาณแผ่นดินฯ พ.ศ. 2565 ในส่วนที่เกี่ยวกับการสาธารณสุขและการแก้ไขปัญหาโควิดฯ โดยเน้นถึงความสำคัญของการจัดลำดับความสำคัญและการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดในภาวะวิกฤติ โดยใช้เวลาไปทั้งสิ้น 20 นาทีเศษ ติดตามชมคลิปย้อนหลังได้ เดี๋ยวจะเอามาลงให้ชมกันอีกทีนะครับ

สืบเนื่องจากกรณีที่ท่านนาชิคะ คาซึยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 ได้มีการจัดงาน ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านมณเฑียร บุญตัน เนื่องในโอกาสที่ท่านได้รับรางวัล Certificate of the Foreign Minister’s Commendation ประจำปี 2020 โดยในงานนี้มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากและหนึ่งในนั้นคือกระผมในฐานะกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมเพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านมณเฑียรฯ ในครั้งนี้ด้วย โดยวันนี้เป็นวันที่ 14 นับแต่วันถัดจากวันงานดังกล่าว กระผมยังไม่ปรากฏอาการหรืออาการแสดงใด ๆ และได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แล้วซึ่งให้ผลเป็นลบ จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน ขอบพระคุณทุกท่านที่แสดงความห่วงใยและได้สอบถามกันมาอย่างต่อเนื่องมา ณ ที่นี้ครับ