12. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 มีกฎหมายที่กำหนดห้ามใช้เครื่องมืออวนล้อมจับ ที่มีขนาดช่องตาเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ทำการประมงในเวลากลางคืนเพื่อป้องกันการทำลายสัตว์น้ำขนาดเล็ก สัตว์น้ำวัยอ่อนที่จะกลายเป็นปลาเศรษฐกิจที่สำคัญ และรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ
13. แต่เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขพระราชกำหนดประมง ในมาตรา 69 เปิดช่องให้สามารถทำการล้อมจับด้วยอวนตาถี่ที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตรได้ในพื้นที่นอกชายฝั่งออกไป 12 ไมล์ทะเล โดยไม่มีการห้ามล้อมจับในเวลากลางคืน โดยระบุไว้สั้นๆ ว่าให้อยู่ในอำนาจตัดสินใจของรัฐมนตรี
//ข้ออ้างของการแก้กฎหมายมาตรา 69//
14. คณะกรรมการที่แก้ไขชี้แจงว่าโรงงานน้ำปลาปิดตัวลงหลายโรง เพราะเราจับปลากะตักได้น้อยลง และมีปลากะตักจำนวนมากที่เล็ดลอดการจับมาบริโภค
15. ปัจจุบันมีเรือที่จับปลากะตักที่จดทะเบียนในประเทศไทยเพียง 175 ลำ ในขณะที่ประมงพื้นบ้านมีจำนวนถึง 5 หมื่นลำ การออกกฏหมายฉบับนี้จึงไม่อยู่บนพื้นฐานของการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมอย่างแท้จริง
//อนาคตของทะเลไทย//
16. การแก้ไขกฏหมายในข้อนี้จะส่งผลในระยะยาวต่ออนาคตของทะเลไทย กับทุกคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็น ชาวประมงพื้นบ้าน นักดำน้ำ นักตกปลา และธุรกิจท่องเที่ยว รวมไปถึงการดำน้ำ ที่จะต้องอาศัยทรัพยากรเหล่านี้ในอนาคตอย่างยั่งยืนเช่นกัน
17. ถ้าเราไม่เริ่มในวันนี้ อาจจะไม่มีวันพรุ่งนี้ของทะเลไทย 🐠🐟🐡🐠#คัดค้านมาตรา69
#หยุดอวนตาถี่กลางคืน

โพสต์เมื่อ
11 ม.ค. 68 - 12:09:17
ถูกใจ
1,622 คน
ความคิดเห็น
17 ข้อความ