คลิปนี้คือของขวัญวันเกิดที่ผมมอบให้ตัวเองปีนี้ครับ
.
เมื่อไม่กี่ปีก่อนผมเจอกับมรสุมชีวิตออนไลน์ ซึ่งภายนอกผมอาจจะดูทำตัวกวนตีน ปากเก่ง สู้มือ แต่จริงๆแล้วข้างในผมรู้สึกไม่เป็นตัวเองเลยครับ มันสะสมเรื่อยๆจนเกือบแย่เอาเหมือนกัน ผมถามหาความชอบธรรมจากกลุ่มคนที่ไม่มีตัวตนบนโลกสมมติ แล้วพยายามโต้ตอบด้วยสติปัญญาเท่าที่มี จนสุดท้ายเกิดเรื่องฟ้องร้อง ขึ้นศาลกันไปมา
.
เอาตรงๆ ผมโกรธตัวเองช่วงนั้นมากๆเลย เหมือนผมทำ branding ตัวเองที่สร้างมาตลอดหลายปี พังไปในคืนเดียว คำว่า #คนอย่างแม็กเจน ทำผมคว่ำไม่เป็นท่าเลย อันนี้สารภาพ
แต่คนเราไม่มีทางแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว หรือคาดการณ์สิ่งที่ยังไม่เกิดได้หรอกเนอะ ผมเลยตัดสินใจด้วยสติที่ยังเหลือ หลบไปอยู่เงียบๆกับครอบครัว และมันทำให้ผมได้มีเวลารักษาตัวเอง กลับมาทำอัลบัม แสดงในภาพยนตร์ที่ผมภูมิใจ เจอเพื่อนเก่งๆใหม่ๆ รู้สึกโตขึ้นไปอีกขั้น และยอมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้แบบเต็มสองเท้าอย่างมั่นคง
.
สิ่งที่แอบอยู่ในความเงียบสงบนั้นอธิบายไม่ได้ แค่อยากจะมาแบ่งปันว่า ชีวิตของเราเกิดมามีครั้งเดียว อยู่กับปัจจุบันและมีความสุขในความสงบที่น่าอิจฉาบนก้อนหินกลมๆที่เรียกว่าโลกไปด้วยกันจนกว่าจะแตกสลายดีกว่า
.
หนังสั้นเรื่องนี้ผมถ่ายเองตอนไปเที่ยวด้วย iPhone 13 และ GoPro แค่อยากจะเก็บความรู้สึกสงบตอนนั้นเอาไว้ เพลงนี้ผมเขียนตอนอยู่ West Coast ก่อนจะข้ามไปแคนาดาและลงไปฝั่ง East Coast ผมเลยตั้งชื่อหนังเรื่องนี้ว่า “from coast to ghost” และได้น้องต๊ะมือ editor มาช่วยตัดและทำสีให้ ขอบคุณที่อดทนกับความประสาทแดกของผมนะ 555
.
หวังว่าจะชอบกันนะครับ!
.
เรื่องที่ไม่ต้องรู้ก็ได้:
เพลง “แล้วแต่เธอ” ตอนแรกผมแต่งเพื่อประชดสังคม ไอเดียตอนนั้นคือผมจับคนที่ผมชนะคดีมาเต้นที่หน้าสน.ปทุมวัน (ผมเต้นด้วยนะ แฟร์ๆ) ถ่ายเสร็จหมดทุกอย่าง พอเอามาดูกลับสงสารเขา ตอนแรกคิดว่าตัวเองชนะอย่างใสสะอาด แต่กลับรู้สึกว่างเปล่าชิบหาย ความแค้นที่เคยถือไว้ก็กลายเป็นไร้ค่าขึ้นมา เสียหายไปหลายแสน กำอะไรไม่มีติดมือมาเลย ไร้สาระสัสๆ อย่าหาทำนะครับ อภัยกันได้อภัย ยอมได้ยอม ไม่ได้แปลว่าแพ้ แต่แค่ retreat ไปตั้งหลัก (ยิ่งเขียนยิ่งงง ถถถ) สองอาทิตย์ที่แล้วผมเอาเพลงมาปัดฝุ่นแล้วถ่ายใหม่ เพื่อกระตุ้นตัวเองและแฟนเพลงว่า อะ ฉันกลับมาแล้วนะ เป็นปกติแล้ว อยากคุยกับพวกคุณอีกนะครับ 🪬