-มนต์รักนักพากย์-
เราโตไม่ทันยุคหนังพากย์สด แต่ทันดูหนังกลางแปลงหน้าวัดนางชำ ยังทันกินอ้อยควั่น ข้าวเกรียบว่าว ข้าวโพดคั่วที่มีมะพร้าวเคลือบน้ำตาลหวานๆหนาๆปนมาในถุง ซึ่งตาจะเก็บไว้ให้เรากินเสมอ
แต่เราโตในห้องพากย์หนังที่ห้องอัดเสียงคุณปง รามอินทรา นอนซุกอยู่ใต้โต๊ะพากย์ ฟังเสียงอารอง อาดาวพากย์คู่กรรม ฟังบทพากย์ที่โกโบริพูดถึงเฟื่องฟ้าที่หน้าบ้านอังศุมาลิน
เราโตขึ้นมากับการไปเรียกพ่อออกมาจากห้องตัดต่อ ห้องตัดที่ตัดฟิล์มและต่อฟิล์มแบบตรงตามตัวหนังสือ ห้องที่เต็มไปด้วยฟิล์มทั้งในกล่องและระเกะระกะบนพื้น ในขณะที่ทุกคนสูบบุหรี่อย่างไม่แคร์ว่าสูบท่ามกลางวัตถุไวไฟ
ดู‘มนต์รักนักพากย์ของพี่อุ๋ยแล้วให้ความรู้สึกแบบนั้น ความรักในสิ่งหนึ่งของคนกลุ่มหนึ่ง ความรักในหนังไทยที่ไม่ใช่แค่รักจะดู แต่รักองค์ประกอบและสิ่งแวดล้อมของหนัง รักที่มันแข็งทื่อ รักที่มันไม่สมจริง รักที่มีดาราคู่ขวัญ รักที่เราทำงานกันไม่ได้หลับได้นอนเพื่อจะทำอะไรที่เราไม่มีวันรู้ว่าคนดูจะรักมันเหมือนพวกเราไหม
หนังไม่ได้ใส่จุดขัดแย้งแบบปะทะ แต่เป็นคนกลุ่มหนึ่งที่ยุคสมัยมันเลื่อนผ่านชีวิตไป จะขัดจะแย้งก็ไม่ได้ จะห้ามก็ห้ามไม่ได้ จะหยุดก็หยุดไม่ได้ มีแค่ต้องเดินไปต่อ กัดฟัน ปรับตัว ทิ้งบางส่วนของชีวิตให้ตายไป แล้วก็เดินต่อ
เหมือนดูหนังroad movieกับหนังที่’หลังจากฤดูร้อนนั้น ชีวิตฉันก็เปลี่ยนไปตลอดกาล‘ แต่เป็น’หลังจากความตายนั้น ชีวิตฉันก็เปลี่ยนไปตลอดกาล‘
แล้วถ้าจะมีคนอินกับอะไรแบบนี้ เราก็ว่าคือพี่อุ๋ยกับพี่เอกนี่แหละ
สมัยถ่ายนางนาก ภาพพี่เอกนั่งเอามะพร้าวแก่ๆทั้งลูกมาตัดหัวตัดท้าย ทุบๆยีๆ ขัดด้วยกระดาษทรายให้นุ่ม เพื่อเอามาทำหมอนให้เรานอนในฉากให้ได้ ทั้งที่รอบตัวก็เต็มไปด้วยไอ้มะพร้าวนี่ยังติดตา หรือที่พี่เอก พี่แอร์ พี่อุ๋ย และหนุ่มๆในกอง มานั่งพ่นตะไคร่น้ำกันทีละนิดให้เรือนมันเก่าสมจริงในนางนาก เพียงเพื่อสุดท้ายจะเผามันทิ้งคาตา คากล้องที่พี่อุ๋ยช่วยถ่ายเป็นกล้องสอง จนฟิล์มมันรันเอาท์สิ้นเสียง หรือพี่อุ๋ยที่เมาแล้วมานั่งร้องไห้ขอโทษและขอบคุณซ้ำๆให้แม่เราปลอบในวันปิดกล้อง ว่าอุ๋ยทำดีแล้ว ทำดีแล้วนะ ไม่เป็นไรเลยถ้านางนากมันจะไม่ถูกใจใคร เราก็ดูของเรากันเอง
ขอบคุณนะพี่ที่ทำหนังเรื่องนี้ออกมา หนูรู้ว่าพงกพี่ต้องมีความสุขกันมากแน่ๆ หนูดูไปก็มีความสุขเหมือนกันค่ะ :)) Nonzee Nimibutr