ละคร ปดิวรัดา
ดู 11,020 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันพุธ วันพฤหัส | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 13 มกราคม 2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:20 - 22:50 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | สมจริง ศรีสุภาพ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ สราญจิตต์, บทโทรทัศน์ นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ ปดิวรัดา
ย้อนกลับไปพุทธศักราช 2502 บ้านบำรุงประชากิจ ประกอบด้วยผู้นำครอบครัวคือ ท่านเจ้าคุณบำรุงประชากิจ (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) และ คุณหญิงเพ็ญแข (สาวิตรี สามิภักดิ์) มีบุตรสาวสาวสองคนคือ บราลี หรือ บารนี บำรุงประชากิจ (พิมพ์ทอง วชิราคม) และ บุรณี บำรุงประชากิจ (อารดา อารยวุฒิ) สองศรีพี่น้องสาวสวยแห่งพระนคร ในงานสโมสรเต้นรำ ศรัณย์ ศิวะเวทย์ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) ได้พา ดวงสวาท เสริมสาคร (ณัฐวรา วงศ์วาสนา) บุตรสาวคหบดี เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนสาวข้างบ้านที่เติบโตมาด้วยกัน ระหว่างเต้นรำบราลีและดวงสวาทเกิดชนกันจนมีปากเสียง ศรัณย์กับ พณิช ชวาลา (พศิน เรืองวุฒิ) หนุ่มใหญ่แฟนของบราลี จึงต้องเข้ามาห้ามศึกระหว่างสองสาวก่อนจะแยกย้ายกันไป โดยไม่มีใครรู้ว่าชะตาชีวิตจะต้องเข้ามาข้องเกี่ยวกันอย่างไม่อาจเลี่ยงในไม่ช้า วันนั้นศรัณย์เอ่ยปากขอแต่งงานกับดวงสวาท แต่ดวงสวาทจำต้องปฏิเสธเพราะเธอกำลังจะแต่งงานกับ คุณชายนริศ (วิทวัส สิงห์ลำพอง) ผู้สูงศักดิ์ ทำให้ศรัณย์เสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะแหวนหมั้นที่เขานำมาหมั้นเธอนั้นได้มาจากเงินรางวัลนำจับ เสือผิน (ชัยวัฒน์ ทองแสง) ที่แหกคุกออกมาปล้นฆ่าชาวบ้าน
คุณหญิงเพ็ญแขเลี้ยงดูบุตรสาวทั้งสองมาด้วยความรักความเอาใจใส่ ด้วยฐานะบริบูรณ์ พูนสุข บราลีและบุรณีแทบไม่ต้องหยิบจับอะไรเพราะมีบริวารคอยดูแล บราลีนั้นเมื่อเรียนจบเธอก็ใช้เวลาสนุกสนานเพลิดเพลินกับการเข้างานสังคม ส่วนบุรณีก็มุ่งมั่นอยากสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศและกลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย วิชาการบ้านการเรือนที่คุณหญิงเพ็ญแขสั่งสมมาจึงตกไปอยู่กับ ริน ระพี (ราณี แคมเปน) เด็กสาวรับใช้คนสนิทของคุณหญิงเพ็ญแข เมื่อ 22 ปีก่อน มีหญิงยากไร้ชื่อ เรียง (สุปราณี เจริญผล) อุ้มทารกน้อยมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านบำรุงประชากิจ พร้อมสร้อยทองกับพระและกระดาษเขียนลายมือโย้เย้สั้นๆ ว่า "ริน ระพี" ท่านเจ้าคุณกับคุณหญิงเพ็ญแขเมตตาทารกน้อยจึงรับเลี้ยงไว้ด้วยความสงสาร และให้ความรักการศึกษาทัดเทียมกับบุตรสาวแท้ๆ ของตน คุณหญิงเพ็ญแขถ่ายทอดวิชาเย็บปักถักร้อย การจัดดอกไม้ การทำอาหารให้ริน รินเป็นเด็กดีขยันขันแข็งและเอาใจใส่ดูแลปรนนิบัติเจ้าคุณกับคุณหญิงและคุณหนูทั้งสองเป็นอย่างดี จนเป็นที่รักใคร่ของเจ้านายทั้งสี่ ชีวิตของรินจึงมีความสุขตามอัตภาพ มาจนถึงวันหนึ่งที่เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางชีวิตของริน เมื่อปลัดศรัณย์อกหักสาหัสจากดวงสวาทหญิงสาวข้างบ้านที่เขารักมาตั้งแต่เด็ก คุณหญิงแก้ว นิติศาสตร์ธำรง (จินตหรา สุขพัฒน์) จึงคิดจะใช้ความรักครั้งใหม่เยียวยาหัวใจของศรัณย์ จึงส่งจดหมายมาหาเจ้าคุณบำรุงประชากิจ เพื่อทวงสัญญาที่เจ้าคุณบำรุงประชากิจเคยมีไว้กับ เจ้าคุณนิติศาสตร์ธำรง (ทนงศักดิ์ ศุภการ) ว่าจะให้บุตรชายและบุตรสาวของทั้งสองฝ่ายแต่งงานกัน ซึ่งเมื่อครั้งในอดีตนั้นเจ้าคุณนิติศาสตร์ธำรง ร่ำรวยมีอำนาจวาสนาและฐานะมั่งคั่ง แต่ไม่กี่ปีหลังจากนั้นเจ้าคุณนิติศาสตร์ถูกโกงจนล้มละลายและตัดสินใจปลิดชีวิตตนเอง คุณหญิงแก้วสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องหอบหิ้วเด็กชายศรัณย์ไปฝากไว้กับหลวงพ่อที่นับถือ ศรัณย์ขยันขันแข็งได้ร่ำเรียนจนจบปริญญารัฐศาสตร์บัณฑิตและเข้ารับราชการเป็นปลัดอำเภอที่จังหวัดราชบุรี
เมื่อได้รับจดหมายทวงถามสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างเจ้าคุณบำรุงกับเจ้าคุณนิติ คุณหญิงเพ็ญแขถึงกลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะไม่อยากให้ลูกสาวต้องตกระกำลำบากเป็นภรรยาข้าราชการบ้านนอกจนๆ เธอจึงออกอุบายวางแผนสลับตัวรินสาวใช้กับคุณหนูบราลีตัวจริงเสียเลย ค่ำนั้นรินตกปากรับคำขอของคุณหญิงเพ็ญแขด้วยความกล้ำกลืน แต่ด้วยสำนึกในพระคุณที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย คุณหญิงเพ็ญแขให้รินสัญญาว่าจะเก็บความลับนี้ไว้กับตัว แม้แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันกับศรัณย์ไปกี่สิบปีก็ห้ามบอกกับใครเป็นเด็ดขาด ศรัณย์เองเมื่อขัดแม่ไม่ได้จึงได้ขอย้ายตัวเองไปอยู่จังหวัดทางภาคใต้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแดนอันตราย เพราะในขณะนั้นมี เสือขาว (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) และสมุน ที่ออกอาละวาดและปล้นสดมภ์ทรัพย์สินชาวบ้าน อีกทั้งว่ากันว่าเสือขาวและโจรก๊กนี้มีวิชาอาคมแกร่งกล้า ศรัณย์หวังเพียงว่าบ้านบำรุงประชากิจจะไม่กล้าส่งลูกสาวมายังดินแดนอันตรายแห่งนี้ แต่ผิดคาดเมื่อบ้านบำรุงประชากิจได้ส่ง ริน ที่ใช้ชื่อใหม่ว่า บราลี บำรุงประชากิจ (ราณี แคมเปน) เดินทางมาปักษ์ใต้เพื่อเข้าพิธีแต่งงานกับปลัดศรัณย์ เมื่อแรกพบรินรู้สึกว่าปลัดหนุ่มตรงหน้ามองเธอด้วยสายตาตกตะลึงแล้วแปรเปลี่ยนเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม มุมปากประดับด้วยรอยยิ้มหมิ่น เหมือนรู้ว่ารินไม่ใช่บราลีตัวจริง โดยมี ชรัตน์ รพิพันธุ์ (กฤตฎ์ อมรชัยฤกษ์) เพื่อนสนิทที่เดินทางมาร่วมงานแต่ง ยืนยันว่ารินไม่ใช่บราลีแน่นอน ศรัณย์แยกห้องนอนกับรินตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอ รินได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าได้ทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณอย่างดีที่สุดที่เธอทำได้ เพราะหลังจากแต่งงานรินต้องพบกับความโดดเดี่ยวในความต่างบ้านต่างเมือง และศรัณย์ผู้เป็นสามีก็ไม่มีให้แม้แต่ความรักความเมตตา จะมีก็แต่ความเย็นชาและเมินเฉย รินก็ใช้ความอดทนและเข้มแข็งของเธอรับมือกับศรัณย์ มีเพียง อรุณฤกษ์ ไกรสีห์ (อัศนัย เทียนทอง) พี่ชายข้างบ้านบำรุงประชากิจที่เติบโตมาด้วยกันและแอบหลงรักรินอยู่คอยปลอบใจ
เมื่ออาศัยอยู่ในบ้านของศรัณย์ รินดูแลบ้านเรือนได้อย่างเรียบร้อยไม่มีที่ติ ตกแต่งบ้านจนสวยงามสะอาดตา ข้าวปลาอาหารที่เคยเป็นฝีมือของ แม่สาย (ดารณีนุช ปสุตนาวิน) แม่ครัวพื้นที่ซึ่งศรัณย์บอกว่า "ทำจนตายก็ไม่ได้ดี" กลายเป็นอาหารรสเลิศถูกปากด้วยฝีมือของริน เสื้อผ้าของศรัณย์ก็ถูกซักรีดอบร่ำจนหอมกรุ่น รินเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของคุณหญิงแก้ว ศรัณย์เองที่ถึงแม้จะทำเย็นชาใส่ริน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกพึงใจกับความสวยงามสบายตาสบายใจที่เกิดขึ้นภายในบ้าน เวลาว่างนอกจากงานบ้านรินแปลงที่ดินโล่งข้างบ้านให้กลายเป็นสวนดอกไม้นานาพันธุ์ หอมหวลไปด้วยกลิ่นมะลิและกุหลาบซึ่งเป็นดอกไม้ที่รินชอบ ถ้าไม่นับความเย็นชามึนตึงที่ศรัณย์แสดงกับรินดูเหมือนรินจะมีความสุขดีกับชีวิตเรียบง่ายที่มีคุณหญิงแก้วและงานบ้านเป็นเครื่องปัดเป่าความเหงา แต่รินสงบสุขไม่ได้นานเมื่อดวงสวาทคนรักเก่าของศรัณย์กลายมาเป็นแขกประจำของบ้าน ดวงสวาทเพิ่งเลิกรากับคุณชายนริศ ที่มารู้ภายหลังว่าความจริงแล้วคุณชายนริศมีแต่เปลือกหามีทรัพย์สินเงินทองอย่างที่หวังไม่ ดวงสวาทเองก็ยังรักศรัณย์อยู่ไม่น้อยเลยตามมาแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของในตัวศรัณย์ ราวกับไม่เห็นรินผู้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ในสายตา แถมยังบอกรินว่าเอาเข้าจริงแล้วรินต่างหากที่เป็นเมียน้อยของเธอ เพราะเธอได้เสียกับศรัณย์ก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อเสือขาวเหิมเกริมหนักทางการได้มีคำสั่งจับตายเสือขาวทำให้ศรัณย์ต้องออกปราบปรามเสือขาวและพรรคพวกเสือขาวอย่างจริงจัง ศรัณย์ยิง เสือบาง (เรืองฤทธิ์ วิสมล) สมุนมือขวาของเสือขาวเสียชีวิต สร้างความเคียดแค้นให้กับเสือขาวเป็นอย่างยิ่ง
คืนหนึ่งลูกน้องของศรัณย์มาส่งข่าวว่าเสือขาววางแผนจะเข้าปล้นหมู่บ้าน ศรัณย์จึงวางแผนออกไปซุ่มเตรียมจับเสือขาว รินเป็นห่วงศรัณย์เดินออกไปส่งศรัณย์ที่หน้าประตูบ้าน ศรัณย์เอ็นดูที่รินแสดงความเป็นห่วงใยในตัวเขา เขาแกล้งเดินชนและแอบหอมแก้มริน ทำเอารินใจสั่นไปทั้งคืน ศรัณย์ออกตามล่าเสือขาวเข้าไปในป่าไปจนถึงเย็นอีกวันก็ยังไม่มีข่าวคราว รินได้แต่สวดมนตร์ขอพรพระเงียบๆ เพราะเกรงว่าจะทำให้คุณหญิงแก้วเป็นกังวลใจ ดวงสวาทเข้ามาถามหาศรัณย์ พอรินบอกว่าศรัณย์ไปตามล่าเสือขาวยังไม่กลับ ดวงสวาทร้องตีโพยตีพายขึ้นว่าที่สโมสรลือกันว่าปลัดโดนยิงพรุนคงต้องเป็นศรัณย์แน่แท้ คุณหญิงแก้วได้ยินดังนั้นก็เป็นลมไปทันที ศรัณย์ดวลปืนกับเสือขาว เสือขาวได้ใช้คาถาอาคมพรางตัวจนศรัณย์เพลียงพล้ำถูกเสือขาวยิงบาดเจ็บ ศรัณย์ให้แม่แก้วและรินกลับพระนครเพราะที่นี่ไม่ปลอดภัย แต่รินก็ดื้อและอยู่เฝ้าดูแลศรัณย์จนความรักค่อยๆ ก่อเกิดขึ้นทีละน้อย บราลีซึ่งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบารนี แต่งงานกับพณิชและได้ย้ายมาอยู่ปักษ์ใต้ ไม่ไกลนักจากบ้านของริน รินกับบารนีแสร้งสวมบทบาทพี่สาวน้องสาวที่จากกันมานานภายใต้การจับตามองของศรัณย์ แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ทุกครั้งที่รินสบตากับศรัณย์ รินต้องรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ใจคอไม่ดี กลัวศรัณย์รู้ความจริงว่าเธอแค่ตัวแทนของบราลีเท่านั้น
ศรัณย์พบว่าพณิชทำธุรกิจการค้าลักลอบส่งข้าวและสินค้าออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมายซึ่งมีความผิดรุนแรง เขาเห็นว่าพณิชเป็นน้องเขยของรินจึงให้รินไปเตือนบารนีก่อนที่ทางการจะลงมือปราบขั้นเด็ดขาด รินกำลังจะไปเตือนบารนี แต่บารนีแย้งขอร้องรินตามที่พณิชสั่งมาให้ศรัณย์รับสินบนและอำนวยความสะดวกให้กับการส่งข้าวเถื่อนของพณิช รินอึกอักและบอกปฏิเสธทำให้บารนีโกรธจัด บารนีหาทางทำลายรินโดยไม่ทันคิดถึงผลเสียที่จะตามมาอย่างใหญ่หลวง บารนีเรียกดวงสวาทมาพบแล้วเล่าความลับของรินทั้งหมด ว่าแท้จริงนั้นรินไม่ใช่บราลี บุตรีเจ้าคุณบำรุงประชากิจ หากเป็นเพียงเด็กสาวรับใช้ที่ครอบครัวเธอเก็บมาเลี้ยงเท่านั้น ในงานเลี้ยงประจำจังหวัดเมื่อทุกคนมารวมตัวกัน ดวงสวาทวางแผนที่จะแฉเรื่องราวกำมะลอลวงโลกของครอบครัวบำรุงประชากิจ และทำให้รินได้อับอายจนไม่กล้าสู้หน้าศรัณย์ได้อีก แต่บังเอิญว่าชรัตน์ได้เห็นสร้อยคอที่รินให้ศรัณย์ใส่ไว้คุ้มครองขณะออกไปปราบเสือขาว สร้อยเส้นนั้นเป็นสร้อยที่ คุณพระพิจารณ์ (สมมาตร ไพรหิรัญ) เคยให้กับแม่เรียงแม่ของรินไว้ ดวงสวาทจะทำสำเร็จตามแผนกระชากหน้ากากรินอย่างที่เธอวางไว้หรือไม่ สร้อยทองที่ติดตัวรินมาตั้งแต่ถูกนำมาทิ้งไว้หน้าบ้านบำรุงประชากิจจะพิสูจน์ว่าแท้จริงแล้วรินคือใคร และเสือขาวที่แค้นฝังลึกปลัดศรัณย์ถึงกับประกาศกร้าว "มึงตาย กูไม่ตาย" จะกลับมาล้างแค้นปลัดศรัณย์ให้ตายตกกันไปข้าง ความรักที่ค่อยๆ งอกงามและเติบโตอย่างงดงามในใจของปลัดศรัณย์และรินจะเอาชนะอุปสรรคมากมายที่ถาโถมเข้าใส่สามีภรรยาคู่นี้จนชีวิตคู่ต้องพังทลายหรือไม่
คุณหญิงเพ็ญแขเลี้ยงดูบุตรสาวทั้งสองมาด้วยความรักความเอาใจใส่ ด้วยฐานะบริบูรณ์ พูนสุข บราลีและบุรณีแทบไม่ต้องหยิบจับอะไรเพราะมีบริวารคอยดูแล บราลีนั้นเมื่อเรียนจบเธอก็ใช้เวลาสนุกสนานเพลิดเพลินกับการเข้างานสังคม ส่วนบุรณีก็มุ่งมั่นอยากสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศและกลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย วิชาการบ้านการเรือนที่คุณหญิงเพ็ญแขสั่งสมมาจึงตกไปอยู่กับ ริน ระพี (ราณี แคมเปน) เด็กสาวรับใช้คนสนิทของคุณหญิงเพ็ญแข เมื่อ 22 ปีก่อน มีหญิงยากไร้ชื่อ เรียง (สุปราณี เจริญผล) อุ้มทารกน้อยมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านบำรุงประชากิจ พร้อมสร้อยทองกับพระและกระดาษเขียนลายมือโย้เย้สั้นๆ ว่า "ริน ระพี" ท่านเจ้าคุณกับคุณหญิงเพ็ญแขเมตตาทารกน้อยจึงรับเลี้ยงไว้ด้วยความสงสาร และให้ความรักการศึกษาทัดเทียมกับบุตรสาวแท้ๆ ของตน คุณหญิงเพ็ญแขถ่ายทอดวิชาเย็บปักถักร้อย การจัดดอกไม้ การทำอาหารให้ริน รินเป็นเด็กดีขยันขันแข็งและเอาใจใส่ดูแลปรนนิบัติเจ้าคุณกับคุณหญิงและคุณหนูทั้งสองเป็นอย่างดี จนเป็นที่รักใคร่ของเจ้านายทั้งสี่ ชีวิตของรินจึงมีความสุขตามอัตภาพ มาจนถึงวันหนึ่งที่เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางชีวิตของริน เมื่อปลัดศรัณย์อกหักสาหัสจากดวงสวาทหญิงสาวข้างบ้านที่เขารักมาตั้งแต่เด็ก คุณหญิงแก้ว นิติศาสตร์ธำรง (จินตหรา สุขพัฒน์) จึงคิดจะใช้ความรักครั้งใหม่เยียวยาหัวใจของศรัณย์ จึงส่งจดหมายมาหาเจ้าคุณบำรุงประชากิจ เพื่อทวงสัญญาที่เจ้าคุณบำรุงประชากิจเคยมีไว้กับ เจ้าคุณนิติศาสตร์ธำรง (ทนงศักดิ์ ศุภการ) ว่าจะให้บุตรชายและบุตรสาวของทั้งสองฝ่ายแต่งงานกัน ซึ่งเมื่อครั้งในอดีตนั้นเจ้าคุณนิติศาสตร์ธำรง ร่ำรวยมีอำนาจวาสนาและฐานะมั่งคั่ง แต่ไม่กี่ปีหลังจากนั้นเจ้าคุณนิติศาสตร์ถูกโกงจนล้มละลายและตัดสินใจปลิดชีวิตตนเอง คุณหญิงแก้วสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องหอบหิ้วเด็กชายศรัณย์ไปฝากไว้กับหลวงพ่อที่นับถือ ศรัณย์ขยันขันแข็งได้ร่ำเรียนจนจบปริญญารัฐศาสตร์บัณฑิตและเข้ารับราชการเป็นปลัดอำเภอที่จังหวัดราชบุรี
เมื่อได้รับจดหมายทวงถามสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างเจ้าคุณบำรุงกับเจ้าคุณนิติ คุณหญิงเพ็ญแขถึงกลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะไม่อยากให้ลูกสาวต้องตกระกำลำบากเป็นภรรยาข้าราชการบ้านนอกจนๆ เธอจึงออกอุบายวางแผนสลับตัวรินสาวใช้กับคุณหนูบราลีตัวจริงเสียเลย ค่ำนั้นรินตกปากรับคำขอของคุณหญิงเพ็ญแขด้วยความกล้ำกลืน แต่ด้วยสำนึกในพระคุณที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย คุณหญิงเพ็ญแขให้รินสัญญาว่าจะเก็บความลับนี้ไว้กับตัว แม้แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันกับศรัณย์ไปกี่สิบปีก็ห้ามบอกกับใครเป็นเด็ดขาด ศรัณย์เองเมื่อขัดแม่ไม่ได้จึงได้ขอย้ายตัวเองไปอยู่จังหวัดทางภาคใต้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแดนอันตราย เพราะในขณะนั้นมี เสือขาว (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) และสมุน ที่ออกอาละวาดและปล้นสดมภ์ทรัพย์สินชาวบ้าน อีกทั้งว่ากันว่าเสือขาวและโจรก๊กนี้มีวิชาอาคมแกร่งกล้า ศรัณย์หวังเพียงว่าบ้านบำรุงประชากิจจะไม่กล้าส่งลูกสาวมายังดินแดนอันตรายแห่งนี้ แต่ผิดคาดเมื่อบ้านบำรุงประชากิจได้ส่ง ริน ที่ใช้ชื่อใหม่ว่า บราลี บำรุงประชากิจ (ราณี แคมเปน) เดินทางมาปักษ์ใต้เพื่อเข้าพิธีแต่งงานกับปลัดศรัณย์ เมื่อแรกพบรินรู้สึกว่าปลัดหนุ่มตรงหน้ามองเธอด้วยสายตาตกตะลึงแล้วแปรเปลี่ยนเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม มุมปากประดับด้วยรอยยิ้มหมิ่น เหมือนรู้ว่ารินไม่ใช่บราลีตัวจริง โดยมี ชรัตน์ รพิพันธุ์ (กฤตฎ์ อมรชัยฤกษ์) เพื่อนสนิทที่เดินทางมาร่วมงานแต่ง ยืนยันว่ารินไม่ใช่บราลีแน่นอน ศรัณย์แยกห้องนอนกับรินตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอ รินได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าได้ทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณอย่างดีที่สุดที่เธอทำได้ เพราะหลังจากแต่งงานรินต้องพบกับความโดดเดี่ยวในความต่างบ้านต่างเมือง และศรัณย์ผู้เป็นสามีก็ไม่มีให้แม้แต่ความรักความเมตตา จะมีก็แต่ความเย็นชาและเมินเฉย รินก็ใช้ความอดทนและเข้มแข็งของเธอรับมือกับศรัณย์ มีเพียง อรุณฤกษ์ ไกรสีห์ (อัศนัย เทียนทอง) พี่ชายข้างบ้านบำรุงประชากิจที่เติบโตมาด้วยกันและแอบหลงรักรินอยู่คอยปลอบใจ
เมื่ออาศัยอยู่ในบ้านของศรัณย์ รินดูแลบ้านเรือนได้อย่างเรียบร้อยไม่มีที่ติ ตกแต่งบ้านจนสวยงามสะอาดตา ข้าวปลาอาหารที่เคยเป็นฝีมือของ แม่สาย (ดารณีนุช ปสุตนาวิน) แม่ครัวพื้นที่ซึ่งศรัณย์บอกว่า "ทำจนตายก็ไม่ได้ดี" กลายเป็นอาหารรสเลิศถูกปากด้วยฝีมือของริน เสื้อผ้าของศรัณย์ก็ถูกซักรีดอบร่ำจนหอมกรุ่น รินเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของคุณหญิงแก้ว ศรัณย์เองที่ถึงแม้จะทำเย็นชาใส่ริน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกพึงใจกับความสวยงามสบายตาสบายใจที่เกิดขึ้นภายในบ้าน เวลาว่างนอกจากงานบ้านรินแปลงที่ดินโล่งข้างบ้านให้กลายเป็นสวนดอกไม้นานาพันธุ์ หอมหวลไปด้วยกลิ่นมะลิและกุหลาบซึ่งเป็นดอกไม้ที่รินชอบ ถ้าไม่นับความเย็นชามึนตึงที่ศรัณย์แสดงกับรินดูเหมือนรินจะมีความสุขดีกับชีวิตเรียบง่ายที่มีคุณหญิงแก้วและงานบ้านเป็นเครื่องปัดเป่าความเหงา แต่รินสงบสุขไม่ได้นานเมื่อดวงสวาทคนรักเก่าของศรัณย์กลายมาเป็นแขกประจำของบ้าน ดวงสวาทเพิ่งเลิกรากับคุณชายนริศ ที่มารู้ภายหลังว่าความจริงแล้วคุณชายนริศมีแต่เปลือกหามีทรัพย์สินเงินทองอย่างที่หวังไม่ ดวงสวาทเองก็ยังรักศรัณย์อยู่ไม่น้อยเลยตามมาแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของในตัวศรัณย์ ราวกับไม่เห็นรินผู้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ในสายตา แถมยังบอกรินว่าเอาเข้าจริงแล้วรินต่างหากที่เป็นเมียน้อยของเธอ เพราะเธอได้เสียกับศรัณย์ก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อเสือขาวเหิมเกริมหนักทางการได้มีคำสั่งจับตายเสือขาวทำให้ศรัณย์ต้องออกปราบปรามเสือขาวและพรรคพวกเสือขาวอย่างจริงจัง ศรัณย์ยิง เสือบาง (เรืองฤทธิ์ วิสมล) สมุนมือขวาของเสือขาวเสียชีวิต สร้างความเคียดแค้นให้กับเสือขาวเป็นอย่างยิ่ง
คืนหนึ่งลูกน้องของศรัณย์มาส่งข่าวว่าเสือขาววางแผนจะเข้าปล้นหมู่บ้าน ศรัณย์จึงวางแผนออกไปซุ่มเตรียมจับเสือขาว รินเป็นห่วงศรัณย์เดินออกไปส่งศรัณย์ที่หน้าประตูบ้าน ศรัณย์เอ็นดูที่รินแสดงความเป็นห่วงใยในตัวเขา เขาแกล้งเดินชนและแอบหอมแก้มริน ทำเอารินใจสั่นไปทั้งคืน ศรัณย์ออกตามล่าเสือขาวเข้าไปในป่าไปจนถึงเย็นอีกวันก็ยังไม่มีข่าวคราว รินได้แต่สวดมนตร์ขอพรพระเงียบๆ เพราะเกรงว่าจะทำให้คุณหญิงแก้วเป็นกังวลใจ ดวงสวาทเข้ามาถามหาศรัณย์ พอรินบอกว่าศรัณย์ไปตามล่าเสือขาวยังไม่กลับ ดวงสวาทร้องตีโพยตีพายขึ้นว่าที่สโมสรลือกันว่าปลัดโดนยิงพรุนคงต้องเป็นศรัณย์แน่แท้ คุณหญิงแก้วได้ยินดังนั้นก็เป็นลมไปทันที ศรัณย์ดวลปืนกับเสือขาว เสือขาวได้ใช้คาถาอาคมพรางตัวจนศรัณย์เพลียงพล้ำถูกเสือขาวยิงบาดเจ็บ ศรัณย์ให้แม่แก้วและรินกลับพระนครเพราะที่นี่ไม่ปลอดภัย แต่รินก็ดื้อและอยู่เฝ้าดูแลศรัณย์จนความรักค่อยๆ ก่อเกิดขึ้นทีละน้อย บราลีซึ่งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบารนี แต่งงานกับพณิชและได้ย้ายมาอยู่ปักษ์ใต้ ไม่ไกลนักจากบ้านของริน รินกับบารนีแสร้งสวมบทบาทพี่สาวน้องสาวที่จากกันมานานภายใต้การจับตามองของศรัณย์ แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ทุกครั้งที่รินสบตากับศรัณย์ รินต้องรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ใจคอไม่ดี กลัวศรัณย์รู้ความจริงว่าเธอแค่ตัวแทนของบราลีเท่านั้น
ศรัณย์พบว่าพณิชทำธุรกิจการค้าลักลอบส่งข้าวและสินค้าออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมายซึ่งมีความผิดรุนแรง เขาเห็นว่าพณิชเป็นน้องเขยของรินจึงให้รินไปเตือนบารนีก่อนที่ทางการจะลงมือปราบขั้นเด็ดขาด รินกำลังจะไปเตือนบารนี แต่บารนีแย้งขอร้องรินตามที่พณิชสั่งมาให้ศรัณย์รับสินบนและอำนวยความสะดวกให้กับการส่งข้าวเถื่อนของพณิช รินอึกอักและบอกปฏิเสธทำให้บารนีโกรธจัด บารนีหาทางทำลายรินโดยไม่ทันคิดถึงผลเสียที่จะตามมาอย่างใหญ่หลวง บารนีเรียกดวงสวาทมาพบแล้วเล่าความลับของรินทั้งหมด ว่าแท้จริงนั้นรินไม่ใช่บราลี บุตรีเจ้าคุณบำรุงประชากิจ หากเป็นเพียงเด็กสาวรับใช้ที่ครอบครัวเธอเก็บมาเลี้ยงเท่านั้น ในงานเลี้ยงประจำจังหวัดเมื่อทุกคนมารวมตัวกัน ดวงสวาทวางแผนที่จะแฉเรื่องราวกำมะลอลวงโลกของครอบครัวบำรุงประชากิจ และทำให้รินได้อับอายจนไม่กล้าสู้หน้าศรัณย์ได้อีก แต่บังเอิญว่าชรัตน์ได้เห็นสร้อยคอที่รินให้ศรัณย์ใส่ไว้คุ้มครองขณะออกไปปราบเสือขาว สร้อยเส้นนั้นเป็นสร้อยที่ คุณพระพิจารณ์ (สมมาตร ไพรหิรัญ) เคยให้กับแม่เรียงแม่ของรินไว้ ดวงสวาทจะทำสำเร็จตามแผนกระชากหน้ากากรินอย่างที่เธอวางไว้หรือไม่ สร้อยทองที่ติดตัวรินมาตั้งแต่ถูกนำมาทิ้งไว้หน้าบ้านบำรุงประชากิจจะพิสูจน์ว่าแท้จริงแล้วรินคือใคร และเสือขาวที่แค้นฝังลึกปลัดศรัณย์ถึงกับประกาศกร้าว "มึงตาย กูไม่ตาย" จะกลับมาล้างแค้นปลัดศรัณย์ให้ตายตกกันไปข้าง ความรักที่ค่อยๆ งอกงามและเติบโตอย่างงดงามในใจของปลัดศรัณย์และรินจะเอาชนะอุปสรรคมากมายที่ถาโถมเข้าใส่สามีภรรยาคู่นี้จนชีวิตคู่ต้องพังทลายหรือไม่