ละคร เวลาในขวดแก้ว
ดู 3,564 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง True4U | ||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 14 ธันวาคม 2558 | ||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 19:00 - 20:00 น. |
||||||||||||||||||
กำกับโดย | นุติ เขมะโยธิน | ||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ ประภัสสร เสวิกุล, บทโทรทัศน์ ศัลยา | ||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท ดาวินชี่ โปรดักชั่น จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ เวลาในขวดแก้ว
เรื่องราวเกี่ยวกับสภาพปัญหาครอบครัว ประมาณปีพุทธศักราช 2518 - 2523 ที่พ่อแม่ไม่เอาใจใส่เด็ก ทำให้เด็กมีปัญหา โดยมีตัวละครที่สำคัญดังนี้ นัต (เศรษฐพงศ์ เพียงพอ) ชัย (กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา) ป้อม (สุนันทา ยูรนิยม) และ เอก (วงศพัทธ์ ตั้งนิยม) ทั้ง 4 คน เป็นเพื่อนสนิทกัน ซึ่งนัตมีพี่น้องสาวชื่อ หนิง (เนรัญชรา เลิศประเสริฐ) ที่บ้านฐานะปานกลาง แต่พ่อกับแม่ของนัตทะเลาะ ตบตีกันเป็นประจำต่อหน้าลูกๆ สาเหตุคือ กฤช พ่อของนัตไปมีผู้หญิงอื่น ทำให้ ชุลีพร แม่ของนัตโกรธทนไม่ได้ที่สามีไปมีภรรยาน้อย เจอกันทีไรต้องมีปากมีเสียงกันทุกครั้งไม่ว่าเรื่องอะไร กฤชทนไม่ได้จึงออกไปอยู่กับ แหวว ภรรยาใหม่
ส่วนชัยเป็นเด็กที่อยู่ในครอบครัวหาเช้ากินค่ำในชุมชนแออัด พ่อของชัยเป็นทหารที่เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นแม่ของชัยต้องทำงานคนเดียว ความฝันของชัยคืออยากเป็นทหาร ซึ่งแม่ก็ตั้งความหวังไว้มากเช่นกัน สำหรับเอกเป็นลูกคนจีนที่บ้านขายของชำ เอกต้องช่วยทำงานที่บ้านก่อนไปโรงเรียนในตอนเช้า ความฝันของเขาคืออยากเรียนสถาปัตย์ ส่วนป้อมเป็นลูกสาวคนเดียวที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านไม้หลังเก่าๆ กับแม่ ป้อมมีลักษณะท่าทางการพูดจาเหมือนผู้ชาย แต่เธอก็แอบหลงรักนัตเพื่อนสนิท ป้อมเป็นคนรักความยุติธรรมจึงอยากเรียนนิติศาสตร์ ทั้ง 4 คนเป็นเพื่อนรักกันมากมีปัญหาก็จะช่วยกันแก้ไข
วันหนึ่งนัตมีสีหน้าไม่ดีเพื่อนจึงถามนัต นัตก็เล่าเรื่องที่พ่อแม่ทะเลาะกัน ซึ่งพ่อไปมีคนใหม่ แล้วพ่อก็ไปอยู่บ้านภรรยาน้อยให้เพื่อนฟัง เพื่อนจึงได้แต่ปลอบนัตโดยทำเป็นเรื่องตลก ซึ่งนัตเป็นคนเข้มแข็งจึงไม่มีผลกระทบมากเท่าหนิง นัตก็เป็นห่วงน้องสาวอย่างมาก ทั้งสองพยามยามที่จะทำให้พ่อแม่คืนดีกันแต่ดูเหมือนว่าไม่มีทางจะเป็นไปได้ เพราะพอพ่อเจอหน้าแม่ทีไรทั้งสองคนต้องหาเรื่องทะเลาะกัน ที่โรงเรียนนัตแอบชอบ จ๋อม (สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ) ลูกสาวเศรษฐีนักธุรกิจ เพื่อนที่เรียนพิเศษไวโอลินด้วยกัน จ๋อมเติบโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูเหมือนเป็นคุณหนู นัตกับจ๋อมจะพากันไปกินกาแฟเย็นกับขนมถั่วตัดที่ร้านเพิงหมาแหงน และจะหยอดตู้เพลงฟังเพลงเวลาในขวดแก้วด้วยกันเป็นประจำ ซึ่งจ๋อมเองก็เป็นเด็กมีปัญหาเหมือนกัน คือพ่อของจ๋อมก็มีภรรยาน้อยหลายคนทำให้แม่ของจ๋อมเอาแต่ร้องไห้ นัตเป็นเพื่อนชายที่จ๋อมสนิทด้วยเพียงคนเดียว เวลามีปัญหาก็จะปรึกษานัตด้วยความเป็นเพื่อน
วันหนึ่งนัตกับป้อมไปเดินห้างสรรพสินค้าด้วยกันบังเอิญพบคู่อริ ป้อมเกือบมีเรื่องชกต่อยกันแต่นัตห้ามไว้ทัน คู่อริจึงฝากบอกชัยและเอกด้วยว่าปีนี้งานฟุตบอลระหว่างโรงเรียนจะขอเอาชัยชนะคืน พอถึงวันแข่งจริงเล่นได้สักครู่ก็มีเรื่องกันจริงๆ เกิดการตีกันระหว่าง 2 โรงเรียน นัตเข้าไปช่วยป้อมแล้วไล่ป้อมกลับบ้าน ป้อมจึงเป็นผู้รอดจากการถูกจับ นอกนั้นโดนจับเข้าคุกกันหมด ชุลีพรรู้ข่าวจึงไปบอกกฤชให้ช่วยลูกด้วย กฤชไปโรงพักพร้อมกับทนาย เมื่อช่วยนัตและเอกออกจากคุกได้นัตต้องไปอยู่บ้านกฤชทำให้เขาได้พบกับภรรยาใหม่ของพ่อที่ดูท่าทางเรียบร้อยใจดี แต่นัตต้องคิดอยู่เสมอว่าเขาคือผู้หญิงที่มาแย่งพ่อไปจากเรา จึงทำให้นัตไม่เคารพแหววสักเท่าไร ส่วนชัยที่โดนรุมทำร้ายถึงกับขาหักและไม่สามารถเดินได้เหมือนเดิม ความฝันของชัยที่จะเป็นทหารก็หมดไป ชัยมีแต่ความโกรธแค้น นัตและเพื่อนต้องเข้ามาปลอบจนชัยยอมรับสภาพ ส่วนหนิงเริ่มไม่อยากเรียนหนังสือ เบื่อที่บ้าน คิดมาก ไม่อยากกลับบ้าน พอกลับบ้านก็โดนแม่ด่าว่าเลวเหมือนพ่อ ซึ่งนัตที่เพิ่งกลับมาบ้านก็โดนด่าด้วย พอรุ่งขึ้นนัตทำท่ากลุ้มใจมาก ชัยจึงหาทางออกให้โดยพาเพื่อนทั้ง 4 คน ไปในสวน ไปสูบกัญชา แต่เอกและป้อมห้ามเอาไว้ นัตเลยไม่ได้ลอง พอกลับถึงบ้านก็พบกับสภาพเดิมๆ ที่พ่อและแม่ทะเลาะกันคราวนี้เสียงดังมากแล้วแม่ก็หยิบเอาไวโอลินของนัตที่รักมากมาฟาดหัวพ่อจนไวโอลินแตก นัตเสียใจมาก กฤชจึงพานัตมาอยู่ด้วย ส่วนชุลีพรก็ได้พบผู้ชายที่คอยให้กำลังใจชื่อ อมร คบกันได้สักพักก็พาอมรเข้ามาอยู่ด้วย หนิงเสียใจมากเพราะรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่พ่อแม่จะกลับมาดีกันเหมือนเดิม
หนิงเริ่มทำท่าทางเหม่อลอยไม่สดใสเหมือนก่อน หนิงและนัตไม่ได้เจอกันนาน พอเจอกันนัตเห็นสภาพน้องก็เสียใจ จึงบอกว่าจะไปอยู่กับหนิงเหมือนเดิมเมื่อสอบเสร็จ หนิงได้ระบายความทุกข์และเล่าเรื่องอมรให้นัตฟัง นัตเล่าให้พ่อฟัง พ่อโกรธมากจึงไปหาชุลีพร ทั้งสองทะเลาะกันอีกชุลีพรจึงขอกฤชหย่า แล้วตกลงกันว่าบ้านหลังนี้ต้องเป็นของชุลีพร พอชุลีพรได้บ้านก็ขายแล้วนำเงินไปเปิดร้านอาหาร ซึ่งอมรที่มีภรรยาอยู่แล้วแต่ไม่ได้หย่า ภรรยาของอมรก็นึกว่าอมรเปิดร้านให้ชุลีพรจึงมาหาเรื่องตบตีกับชุลีพร หลังจากสอบเสร็จที่บ้านป้อมจะให้ป้อมย้ายโรงเรียนไปอยู่โรงเรียนสตรี และช่วงสอบนี้เองหนิงก็ขอแม่มาอ่านหนังสือบ้านป้อมและได้พบกับ สมพงษ์ เพื่อนของป้อมซึ่งมีท่าทางที่แอบสนใจหนิงอยู่ หลังจากวันนั้นหนิงก็ไม่ได้พบกับสมพงษ์อีก ส่วนกฤชที่เป็นผู้จัดการก็ต้องตกงาน จึงเอาแต่ดื่มเหล้าจนเป็นโรคแอลกอฮอล์ลิซึ่ม แหววต้องคอยดูแลรักษาอย่างหนัก ทำให้นัตสงสารแหววมาก เงินก็ไม่มีต้องมานั่งคอยปรนนิบัติ นัตจึงเข้าใจว่านี่คือความรักของพ่อ ทางด้านชุลีพรก็สนใจแต่เรื่องร้าน กับตามอมรจากบ้านที่หาดใหญ่ของภรรยาเก่า ส่วนนัตก็คอยช่วยเหลือจ๋อมที่มีปัญหากับพ่อ คราวนี้พ่อพาภรรยาน้อยออกหน้าออกตาทางสังคม ทำให้แม่ของจ๋อมต้องกลุ้มใจจนไม่สบาย จ๋อมทะเลาะกับภรรยาใหม่พ่อเป็นประจำ
ป้อมก็เริ่มคบกับพวกหัวรุนแรงตั้งกลุ่มประท้วงเรียกร้องสิทธิมนุษยชนตามโรงงานที่เกิดเรื่อง เลยไม่มีใครสนใจหนิง หนิงได้พบกับสมพงษ์อีกและเกิดความความสัมพันธ์ลึกซึ้งจนท้อง แต่สมพงษ์ไม่ยอมรับเป็นพ่อ หนิงไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับใครจึงไปบอกพี่นัตและป้อม ทำให้นัตโกรธป้อมมากเพราะสมพงษ์เป็นเพื่อนของป้อม แต่ป้อมกลับพูดว่าแล้วนัตทำไมไม่ดูแลน้อง นัตกับป้อมหาวิธีแก้ไขสถานการณ์โดยการทำแท้ง หลังจากทำแท้งเสร็จหมอบอกว่าหนิงไม่สามารถมีลูกได้อีกแล้ว ทำให้นัตยิ่งโกรธป้อมมากขึ้น ส่วนชัยกลุ้มใจเรื่องขาที่ไม่สามารถทำให้เป็นทหารได้จึงหันไปคลายทุกข์ด้วยการสูบกัญชา ซึ่งทางบ้านรู้ว่าชัยติดกัญชาจึงขอให้ชัยเลิกกัญชา คงมีแต่เอกเพียงคนเดียวที่ได้อ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ ส่วนจ๋อมพ่อก็ส่งไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษเพื่อจะได้ไม่ต้องทะเลาะกับภรรยาใหม่ พอวันประกาศผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทั้ง 4 คน มีเอกติดเพียงคนเดียวในคณะสถาปัตย์ฯ นัตเสียใจมากป้อมมาปลอบนัตว่าอย่าเสียใจ แต่เกิดการทะเลาะกันขึ้นระหว่างนัตกับป้อม นัตจึงไปหาจ๋อมซึ่งกลับมาจากอังกฤษแล้ว ทั้งคู่ได้พูดกันสักพัก พลศักดิ์ แฟนของจ๋อมก็มารับทำให้นัตโกรธมากว่าจ๋อมมีแฟนแล้ว และจ๋อมก็คิดกับนัตเป็นเพียงเพื่อน นัตเสียใจมาก ชัยจึงชวนนัตไปเที่ยวที่หนองคาย ทางด้านชุลีพร ก็เป็นห่วงนัตมากจึงนำเรื่องการเรียนไปปรึกษากฤชซึ่งเริ่มทำงานเป็นเสมียนในบริษัทเล็กๆ แต่เมื่อเจอหน้ากันก็ทะเลาะกัน โดยกฤชจะให้นัตเลือกเรียนตามใจของนัตเอง ส่วนชุลีพรจะให้นัตเรียนนิติศาสตร์ตามใจของชุลีพร
เมื่อนัตอยู่ที่หนองคาย นัตได้เที่ยวกับชัยสักพัก ชัยก็กลับกรุงเทพฯ มาก่อน ส่วนนัตก็ไปพักบ้านครูที่สอนไวโอลิน และนัตก็ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับป้อมว่าเป็นหัวหน้าในการประท้วงโรงงานเพื่อเรียกร้องความเสมอภาคระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง ป้อมโดนรุมทำร้ายจากการสลายการชุมนุมจนต้องติดคุกและรักษาตัว และนัตยังได้ข่าวของจ๋อมว่าเกิดเหตุทะเลาะกับภรรยาน้อยของพ่อถึงกับใช้ปืนยิงภรรยาน้อยพ่อ จึงทำให้นัตรีบกลับกรุงเทพฯ ไปเยี่ยมจ๋อม ปรากฏว่าจ๋อมหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่บ้านของ โย่ง เพื่อนเก่าที่แอบชอบจ๋อม ส่วนป้อมก็ต้องเข้ารับการผ่าตัด หลังจากอาการของป้อมดีขึ้น และได้รับการปล่อยตัวให้กลับบ้าน นัตพาป้อมซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กลับบ้าน ระหว่างทางป้อมขอให้นัตพาไปดูต้นตะแบก ซึ่งกำลังออกดอกสวยงาม นัตสัญญาว่าวันหลังเขาจะเก็บดอกตะแบกไปให้เธอ นัตได้ตามใจแม่เรียนนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเอกชนเพราะแม่ขอร้อง หลังจากนั้นไม่นานได้เกิดเหตุการณ์จลาจลของกลุ่มนักศึกษาปะทะกับทางราชการขึ้นอีก ชัยได้รับบาดเจ็บ เขาหนีมาหานัตที่บ้านด้วยสภาพเลือดท่วมตัว ชัยบอกว่าป้อมได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล นัตจึงรีบไปหาป้อมโดยสภาพร่างกายของป้อมมีอาการสาหัสเนื่องจากเศษระเบิดตกค้างอยู่ในกะโหลก นัตก็คิดว่าถึงเวลาที่เขาควรจะวาดรูปให้ป้อม เมื่อนัตเอาไปให้ป้อม ป้อมดีใจมาก เธอสิ้นลมต่อหน้านัต ก่อนตายป้อมให้เศษกระดาษนัตข้างในเขียนว่า "ตะแบกบาน เธอเคยบอก จะเก็บให้ แต่วันนั้นไม่เคยมาถึง" ส่วนชัยที่กลัวมากจึงหนีไปอยู่ที่หนองคายตลอดไป ในงานศพของป้อมนัตได้พบจ๋อม จ๋อมมาบอกว่าจะไปอยู่ที่อังกฤษกับพลศักดิ์แฟนจ๋อม ซึ่งจ๋อมบอกว่าได้เลิกโย่งแล้ว จ๋อมเลยจะไปอยู่กับพลศักดิ์ซึ่งจ๋อมก็มั่นใจในตัวพลศักดิ์มาก นัตเสียใจแต่ไม่กล้าพูดอะไรเพราะรู้ว่าจ๋อมคิดกับตนเองเป็นเพียงเพื่อนสนิทเท่านั้น นัตก็ได้แต่อวยพรให้จ๋อมโชคดี 4 ปีผ่านไป นัตตั้งใจเรียนจนจบนิติศาสตร์ ขณะไปเดินหาเช่าชุดครุย ก็บังเอิญพบจ๋อมพอดี จ๋อมบอกว่าได้เลิกกับพลศักดิ์แล้ว นัตทำท่าเสียใจ แต่จ๋อมพูดว่าไม่เป็นไรจ๋อมเป็นคนเลือกเอง จ๋อมให้ดอกไม้แก่นัตเพื่อแสดงความยินดีที่เรียนจบ
ส่วนชัยเป็นเด็กที่อยู่ในครอบครัวหาเช้ากินค่ำในชุมชนแออัด พ่อของชัยเป็นทหารที่เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นแม่ของชัยต้องทำงานคนเดียว ความฝันของชัยคืออยากเป็นทหาร ซึ่งแม่ก็ตั้งความหวังไว้มากเช่นกัน สำหรับเอกเป็นลูกคนจีนที่บ้านขายของชำ เอกต้องช่วยทำงานที่บ้านก่อนไปโรงเรียนในตอนเช้า ความฝันของเขาคืออยากเรียนสถาปัตย์ ส่วนป้อมเป็นลูกสาวคนเดียวที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านไม้หลังเก่าๆ กับแม่ ป้อมมีลักษณะท่าทางการพูดจาเหมือนผู้ชาย แต่เธอก็แอบหลงรักนัตเพื่อนสนิท ป้อมเป็นคนรักความยุติธรรมจึงอยากเรียนนิติศาสตร์ ทั้ง 4 คนเป็นเพื่อนรักกันมากมีปัญหาก็จะช่วยกันแก้ไข
วันหนึ่งนัตมีสีหน้าไม่ดีเพื่อนจึงถามนัต นัตก็เล่าเรื่องที่พ่อแม่ทะเลาะกัน ซึ่งพ่อไปมีคนใหม่ แล้วพ่อก็ไปอยู่บ้านภรรยาน้อยให้เพื่อนฟัง เพื่อนจึงได้แต่ปลอบนัตโดยทำเป็นเรื่องตลก ซึ่งนัตเป็นคนเข้มแข็งจึงไม่มีผลกระทบมากเท่าหนิง นัตก็เป็นห่วงน้องสาวอย่างมาก ทั้งสองพยามยามที่จะทำให้พ่อแม่คืนดีกันแต่ดูเหมือนว่าไม่มีทางจะเป็นไปได้ เพราะพอพ่อเจอหน้าแม่ทีไรทั้งสองคนต้องหาเรื่องทะเลาะกัน ที่โรงเรียนนัตแอบชอบ จ๋อม (สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ) ลูกสาวเศรษฐีนักธุรกิจ เพื่อนที่เรียนพิเศษไวโอลินด้วยกัน จ๋อมเติบโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูเหมือนเป็นคุณหนู นัตกับจ๋อมจะพากันไปกินกาแฟเย็นกับขนมถั่วตัดที่ร้านเพิงหมาแหงน และจะหยอดตู้เพลงฟังเพลงเวลาในขวดแก้วด้วยกันเป็นประจำ ซึ่งจ๋อมเองก็เป็นเด็กมีปัญหาเหมือนกัน คือพ่อของจ๋อมก็มีภรรยาน้อยหลายคนทำให้แม่ของจ๋อมเอาแต่ร้องไห้ นัตเป็นเพื่อนชายที่จ๋อมสนิทด้วยเพียงคนเดียว เวลามีปัญหาก็จะปรึกษานัตด้วยความเป็นเพื่อน
วันหนึ่งนัตกับป้อมไปเดินห้างสรรพสินค้าด้วยกันบังเอิญพบคู่อริ ป้อมเกือบมีเรื่องชกต่อยกันแต่นัตห้ามไว้ทัน คู่อริจึงฝากบอกชัยและเอกด้วยว่าปีนี้งานฟุตบอลระหว่างโรงเรียนจะขอเอาชัยชนะคืน พอถึงวันแข่งจริงเล่นได้สักครู่ก็มีเรื่องกันจริงๆ เกิดการตีกันระหว่าง 2 โรงเรียน นัตเข้าไปช่วยป้อมแล้วไล่ป้อมกลับบ้าน ป้อมจึงเป็นผู้รอดจากการถูกจับ นอกนั้นโดนจับเข้าคุกกันหมด ชุลีพรรู้ข่าวจึงไปบอกกฤชให้ช่วยลูกด้วย กฤชไปโรงพักพร้อมกับทนาย เมื่อช่วยนัตและเอกออกจากคุกได้นัตต้องไปอยู่บ้านกฤชทำให้เขาได้พบกับภรรยาใหม่ของพ่อที่ดูท่าทางเรียบร้อยใจดี แต่นัตต้องคิดอยู่เสมอว่าเขาคือผู้หญิงที่มาแย่งพ่อไปจากเรา จึงทำให้นัตไม่เคารพแหววสักเท่าไร ส่วนชัยที่โดนรุมทำร้ายถึงกับขาหักและไม่สามารถเดินได้เหมือนเดิม ความฝันของชัยที่จะเป็นทหารก็หมดไป ชัยมีแต่ความโกรธแค้น นัตและเพื่อนต้องเข้ามาปลอบจนชัยยอมรับสภาพ ส่วนหนิงเริ่มไม่อยากเรียนหนังสือ เบื่อที่บ้าน คิดมาก ไม่อยากกลับบ้าน พอกลับบ้านก็โดนแม่ด่าว่าเลวเหมือนพ่อ ซึ่งนัตที่เพิ่งกลับมาบ้านก็โดนด่าด้วย พอรุ่งขึ้นนัตทำท่ากลุ้มใจมาก ชัยจึงหาทางออกให้โดยพาเพื่อนทั้ง 4 คน ไปในสวน ไปสูบกัญชา แต่เอกและป้อมห้ามเอาไว้ นัตเลยไม่ได้ลอง พอกลับถึงบ้านก็พบกับสภาพเดิมๆ ที่พ่อและแม่ทะเลาะกันคราวนี้เสียงดังมากแล้วแม่ก็หยิบเอาไวโอลินของนัตที่รักมากมาฟาดหัวพ่อจนไวโอลินแตก นัตเสียใจมาก กฤชจึงพานัตมาอยู่ด้วย ส่วนชุลีพรก็ได้พบผู้ชายที่คอยให้กำลังใจชื่อ อมร คบกันได้สักพักก็พาอมรเข้ามาอยู่ด้วย หนิงเสียใจมากเพราะรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่พ่อแม่จะกลับมาดีกันเหมือนเดิม
หนิงเริ่มทำท่าทางเหม่อลอยไม่สดใสเหมือนก่อน หนิงและนัตไม่ได้เจอกันนาน พอเจอกันนัตเห็นสภาพน้องก็เสียใจ จึงบอกว่าจะไปอยู่กับหนิงเหมือนเดิมเมื่อสอบเสร็จ หนิงได้ระบายความทุกข์และเล่าเรื่องอมรให้นัตฟัง นัตเล่าให้พ่อฟัง พ่อโกรธมากจึงไปหาชุลีพร ทั้งสองทะเลาะกันอีกชุลีพรจึงขอกฤชหย่า แล้วตกลงกันว่าบ้านหลังนี้ต้องเป็นของชุลีพร พอชุลีพรได้บ้านก็ขายแล้วนำเงินไปเปิดร้านอาหาร ซึ่งอมรที่มีภรรยาอยู่แล้วแต่ไม่ได้หย่า ภรรยาของอมรก็นึกว่าอมรเปิดร้านให้ชุลีพรจึงมาหาเรื่องตบตีกับชุลีพร หลังจากสอบเสร็จที่บ้านป้อมจะให้ป้อมย้ายโรงเรียนไปอยู่โรงเรียนสตรี และช่วงสอบนี้เองหนิงก็ขอแม่มาอ่านหนังสือบ้านป้อมและได้พบกับ สมพงษ์ เพื่อนของป้อมซึ่งมีท่าทางที่แอบสนใจหนิงอยู่ หลังจากวันนั้นหนิงก็ไม่ได้พบกับสมพงษ์อีก ส่วนกฤชที่เป็นผู้จัดการก็ต้องตกงาน จึงเอาแต่ดื่มเหล้าจนเป็นโรคแอลกอฮอล์ลิซึ่ม แหววต้องคอยดูแลรักษาอย่างหนัก ทำให้นัตสงสารแหววมาก เงินก็ไม่มีต้องมานั่งคอยปรนนิบัติ นัตจึงเข้าใจว่านี่คือความรักของพ่อ ทางด้านชุลีพรก็สนใจแต่เรื่องร้าน กับตามอมรจากบ้านที่หาดใหญ่ของภรรยาเก่า ส่วนนัตก็คอยช่วยเหลือจ๋อมที่มีปัญหากับพ่อ คราวนี้พ่อพาภรรยาน้อยออกหน้าออกตาทางสังคม ทำให้แม่ของจ๋อมต้องกลุ้มใจจนไม่สบาย จ๋อมทะเลาะกับภรรยาใหม่พ่อเป็นประจำ
ป้อมก็เริ่มคบกับพวกหัวรุนแรงตั้งกลุ่มประท้วงเรียกร้องสิทธิมนุษยชนตามโรงงานที่เกิดเรื่อง เลยไม่มีใครสนใจหนิง หนิงได้พบกับสมพงษ์อีกและเกิดความความสัมพันธ์ลึกซึ้งจนท้อง แต่สมพงษ์ไม่ยอมรับเป็นพ่อ หนิงไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับใครจึงไปบอกพี่นัตและป้อม ทำให้นัตโกรธป้อมมากเพราะสมพงษ์เป็นเพื่อนของป้อม แต่ป้อมกลับพูดว่าแล้วนัตทำไมไม่ดูแลน้อง นัตกับป้อมหาวิธีแก้ไขสถานการณ์โดยการทำแท้ง หลังจากทำแท้งเสร็จหมอบอกว่าหนิงไม่สามารถมีลูกได้อีกแล้ว ทำให้นัตยิ่งโกรธป้อมมากขึ้น ส่วนชัยกลุ้มใจเรื่องขาที่ไม่สามารถทำให้เป็นทหารได้จึงหันไปคลายทุกข์ด้วยการสูบกัญชา ซึ่งทางบ้านรู้ว่าชัยติดกัญชาจึงขอให้ชัยเลิกกัญชา คงมีแต่เอกเพียงคนเดียวที่ได้อ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ ส่วนจ๋อมพ่อก็ส่งไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษเพื่อจะได้ไม่ต้องทะเลาะกับภรรยาใหม่ พอวันประกาศผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทั้ง 4 คน มีเอกติดเพียงคนเดียวในคณะสถาปัตย์ฯ นัตเสียใจมากป้อมมาปลอบนัตว่าอย่าเสียใจ แต่เกิดการทะเลาะกันขึ้นระหว่างนัตกับป้อม นัตจึงไปหาจ๋อมซึ่งกลับมาจากอังกฤษแล้ว ทั้งคู่ได้พูดกันสักพัก พลศักดิ์ แฟนของจ๋อมก็มารับทำให้นัตโกรธมากว่าจ๋อมมีแฟนแล้ว และจ๋อมก็คิดกับนัตเป็นเพียงเพื่อน นัตเสียใจมาก ชัยจึงชวนนัตไปเที่ยวที่หนองคาย ทางด้านชุลีพร ก็เป็นห่วงนัตมากจึงนำเรื่องการเรียนไปปรึกษากฤชซึ่งเริ่มทำงานเป็นเสมียนในบริษัทเล็กๆ แต่เมื่อเจอหน้ากันก็ทะเลาะกัน โดยกฤชจะให้นัตเลือกเรียนตามใจของนัตเอง ส่วนชุลีพรจะให้นัตเรียนนิติศาสตร์ตามใจของชุลีพร
เมื่อนัตอยู่ที่หนองคาย นัตได้เที่ยวกับชัยสักพัก ชัยก็กลับกรุงเทพฯ มาก่อน ส่วนนัตก็ไปพักบ้านครูที่สอนไวโอลิน และนัตก็ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับป้อมว่าเป็นหัวหน้าในการประท้วงโรงงานเพื่อเรียกร้องความเสมอภาคระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง ป้อมโดนรุมทำร้ายจากการสลายการชุมนุมจนต้องติดคุกและรักษาตัว และนัตยังได้ข่าวของจ๋อมว่าเกิดเหตุทะเลาะกับภรรยาน้อยของพ่อถึงกับใช้ปืนยิงภรรยาน้อยพ่อ จึงทำให้นัตรีบกลับกรุงเทพฯ ไปเยี่ยมจ๋อม ปรากฏว่าจ๋อมหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่บ้านของ โย่ง เพื่อนเก่าที่แอบชอบจ๋อม ส่วนป้อมก็ต้องเข้ารับการผ่าตัด หลังจากอาการของป้อมดีขึ้น และได้รับการปล่อยตัวให้กลับบ้าน นัตพาป้อมซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กลับบ้าน ระหว่างทางป้อมขอให้นัตพาไปดูต้นตะแบก ซึ่งกำลังออกดอกสวยงาม นัตสัญญาว่าวันหลังเขาจะเก็บดอกตะแบกไปให้เธอ นัตได้ตามใจแม่เรียนนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเอกชนเพราะแม่ขอร้อง หลังจากนั้นไม่นานได้เกิดเหตุการณ์จลาจลของกลุ่มนักศึกษาปะทะกับทางราชการขึ้นอีก ชัยได้รับบาดเจ็บ เขาหนีมาหานัตที่บ้านด้วยสภาพเลือดท่วมตัว ชัยบอกว่าป้อมได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล นัตจึงรีบไปหาป้อมโดยสภาพร่างกายของป้อมมีอาการสาหัสเนื่องจากเศษระเบิดตกค้างอยู่ในกะโหลก นัตก็คิดว่าถึงเวลาที่เขาควรจะวาดรูปให้ป้อม เมื่อนัตเอาไปให้ป้อม ป้อมดีใจมาก เธอสิ้นลมต่อหน้านัต ก่อนตายป้อมให้เศษกระดาษนัตข้างในเขียนว่า "ตะแบกบาน เธอเคยบอก จะเก็บให้ แต่วันนั้นไม่เคยมาถึง" ส่วนชัยที่กลัวมากจึงหนีไปอยู่ที่หนองคายตลอดไป ในงานศพของป้อมนัตได้พบจ๋อม จ๋อมมาบอกว่าจะไปอยู่ที่อังกฤษกับพลศักดิ์แฟนจ๋อม ซึ่งจ๋อมบอกว่าได้เลิกโย่งแล้ว จ๋อมเลยจะไปอยู่กับพลศักดิ์ซึ่งจ๋อมก็มั่นใจในตัวพลศักดิ์มาก นัตเสียใจแต่ไม่กล้าพูดอะไรเพราะรู้ว่าจ๋อมคิดกับตนเองเป็นเพียงเพื่อนสนิทเท่านั้น นัตก็ได้แต่อวยพรให้จ๋อมโชคดี 4 ปีผ่านไป นัตตั้งใจเรียนจนจบนิติศาสตร์ ขณะไปเดินหาเช่าชุดครุย ก็บังเอิญพบจ๋อมพอดี จ๋อมบอกว่าได้เลิกกับพลศักดิ์แล้ว นัตทำท่าเสียใจ แต่จ๋อมพูดว่าไม่เป็นไรจ๋อมเป็นคนเลือกเอง จ๋อมให้ดอกไม้แก่นัตเพื่อแสดงความยินดีที่เรียนจบ