ละคร พญาโศก
ดู 5,647 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 13 กันยายน 2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:20 - 22:30 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | เชิด ทรงศรี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ พญาโศก
หนูใหญ่ หรือ ลำหับ (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) เป็นลูกสาวของ ราม (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) หัวหน้าค่ายอาสาป้องกันชายแดนผู้ทรยศต่อแผ่นดิน เพราะความอยากเป็นใหญ่มีเงินทองจึงไปเข้าร่วมกับ พ่อเลี้ยงศร (เล็ก ไอศูรย์) เจ้าพ่อค้ายา ทำสิ่งผิดกฎหมายและก่อการร้าย รามเปิดทางให้พวกพ่อเลี้ยงศรเข้ามาเผาค่ายเพื่อใช้เป็นทางผ่านส่งยา ในคืนวันเกิดเหตุหลังจากที่ลำหับฝึกซอสามสายที่ นลินี (มัณฑนา หิมะทองคำ) ผู้เป็นแม่ฝึกสอนให้ประจำแล้ว รามสั่งให้นลินีเล่นเพลงพญาโศก ซึ่งรามแอบใช้เป็นเพลงสื่อสารกับพ่อเลี้ยงให้รอช่วงเวลาหลังจากเพลงจบบุกทำลายค่าย นลินีไม่ต้องการเล่นเพลงนี้เพราะจับสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่สามีสั่งให้เล่นเพลงนี้จะมีความตายเกิดขึ้น แต่ก็ไม่อาจขัดขืนได้จึงจำใจเล่น ศรได้ยินเสียงเพลงพญาโศกขึ้นจึงรีบสั่งการตามที่นัดหมายกับรามทันที เมื่อเพลงจบรามสั่งให้ลูกเมียเดินทางออกจากค่ายโดยไม่ยอมตอบคำถามว่ามีจุดหมายที่ใด อนุญาตเพียงให้เอาซอสามสายไปด้วย นลินีเกิดลางสังหรณ์ว่ารามอาจทำสิ่งไม่ถูกต้องจึงปฏิเสธที่จะออกจากค่ายจนกว่าจะได้คำตอบ รามตอบเพียงว่า "ถ้าอยู่ครอบครัวต้องตายหมดเพราะค่ายกำลังจะถูกทำลาย" นลินีเข้าใจทันที และต่อว่ารามว่าหักหลังพี่น้องในค่าย เธอจะไปบอกให้ทุกคนรู้ตัวโดยที่ไม่ฟังคำสั่งของรามว่าให้ออกจากค่ายไม่เช่นนั้นจะยิงให้ตาย นลินีและลูกพากันวิ่งกลับไปเพื่อตะโกนบอกพวกในค่ายให้รู้ตัว ขณะเดียวกันนั้นพ่อเลี้ยงศรก็ยิงระเบิดเข้าไปในค่ายหลายลูก รามตัดสินใจยิงนลินีก่อนที่จะเข้าไปบอกทุกคนจนล้มลง ซอสามสายกระเด็น ลำหับและน้องชายตกตะลึง นลินีที่ใกล้ตายตะโกนสั่งให้ลำหับซึ่งตอนนั้นชื่อหนูใหญ่ ส่วนน้องชายชื่อ น้องเล็ก หรือ พลเทพ (พูลภัทร อัตถปัญญาพล) ให้พาน้องหนี ลำหับก้มลงเก็บซอและพยายามกระชากน้องชายหนี แต่รามจิกหัวไว้ ผมขาดจากหัวกระจุกใหญ่ รามแย่งเอาน้องเล็กมาได้ คนของศรเข้ามาเจอเหตุการณ์จะยิงลำหับ นลินีฮึดเฮือกสุดท้ายกระโดดไปขวางทางปืนล้มลงตาย ลำหับหนีรอดไปได้ ค่ายโดนทำลายคนในค่ายตายทั้งหมด ศรพาคาราวานยาเสพติดผ่านค่ายไปได้ ตั้งรามให้เป็นหัวหน้าค่ายแห่งใหม่ รามได้รางวัลเป็นเงินทองมากพอสมควร
ลำหับหอบซอหนีมาหกล้มลุกคลุกคลานหมดแรงสลบบนก้อนหินใหญ่กลางป่า เช้ารุ่งขึ้น บริพัตร (เขตต์ ฐานทัพ) ทำงานสำรวจรังวัดถนนที่ดิน เข้ามาสำรวจงานตามปกติกับลูกน้องสองคน ขณะที่ส่องกล้องสำรวจ ได้ยินเสียงเพลงพญาโศกแว่วมาจึงแพนกล้องไปยังก้อนหินใหญ่ เขาเห็นเด็กสาวแรกรุ่นหน้าตาสะสวยน้ำตาอาบนองหน้ากำลังเล่นเพลงพญาโศก บริพัตรเข้าไปยืนฟังใกล้ๆ รอจนเพลงจบจึงแสดงตัว แต่ลำหับไม่ยอมพูดจาหรือตอบคำถาม หอบซอหนีไป บริพัตรตามจนลำหับหมดแรงล้มสลบไปอีกครั้ง บริพัตรจึงพาลำหับกลับไปบ้านตนเอง ลำหับรู้สึกตัวที่บ้านบริพัตร เห็นบริพัตรคนแรกรีบถอยหนีดึงซอมากอดไว้แน่น นายแม่ (วาสนา สิทธิเวช) ของบริพัตรนั่งอยู่ด้วยเข้าปลอบโยนจนหายตกใจ กระนั้นลำหับก็ยังไม่ยอมพูดจากับใครเช่นเดิม จนทุกคนคิดว่าลำหับเป็นใบ้ ลำหับเอาแต่สีซอเพลงพญาโศก ข้าวปลาแทบไม่ยอมกิน จนกระทั่งวันหนึ่งนายแม่เป็นลมกะทันหันไม่มีใครในบ้านเห็น ลำหับไปช่วยพูดจาดูอาการนายแม่ ทำให้ทุกคนดีใจมากที่ลำหับพูดได้ วิเวก (นึกคิด บุญทอง) คนรถกับ ตึ๋งหนืด (อรุโณทัย จิตตรีขันธ์) คนรับใช้ชื่นชมรักใคร่ลำหับมากโดยเฉพาะนายแม่ บริพัตรดีใจที่สุดตัดสินใจส่งลำหับไปเรียนหนังสือ แต่ไม่ว่าลำหับจะพูดจาอะไรก็ไม่เคยปริปากบอกว่าเป็นใครมาจากไหน เฉิดเฉลา (ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) หญิงสาวเปรี้ยวเฉี่ยวที่ทุกคนเข้าใจว่าคือเจ้าสาวในอนาคตของบริพัตร ไม่ชอบลำหับตั้งแต่ก้าวแรกที่บริพัตรพามาบ้าน พยายามบอกให้ไล่ไปให้พ้นเพราะลำหับต้องเป็นคนไม่ดีแน่นอน เฉิดเฉลาเบื้องหน้าเป็นหลานของพ่อเลี้ยงศร แต่ความจริงแล้วเป็นลูกสาวของแม่บ้านที่ท้องกับคนงานด้วยกันแต่ไม่มีใครยอมรับเป็นพ่อ พอโตขึ้นหน้าตาดีจึงถูกศรขืนใจ และรับเอามาเป็นเมียน้อยตั้งแต่อายุเพิ่งแรกรุ่น เฉิดเฉลาแสร้งทำดีแต่ในใจเกลียดชังคิดล้างแค้น เฉิดเฉลารู้ความลับและความเป็นมาของลำหับ เฉิดเฉลามักใหญ่ใฝ่สูงอยากได้ใคร่ดี แอบคบเพื่อนชายสนิทคือ ยศพงษ์ (ศรุต วิจิตรานนท์) เป็นเศรษฐีใหม่ไฟแรงที่มีนิสัยตรงกัน เฉิดเฉลาสมคบกับยศพงษ์โค่นล้มศร เพราะเกรงใครจะรู้ว่าเธอคือเมียน้อยของศร แม้แต่ยศพงษ์ก็ไม่รู้ เฉิดเฉลามีลูกกับศรชื่อ เศก (ณรงค์ฤทธิ์ รัตนภักดี) เศกเป็นเด็กติดยา เฉิดเฉลาบอกทุกคนว่าเก็บมาดูแล เฉิดเฉลาทำตัวเป็นคนใจบุญดูแลเศกที่ติดยาถึงขั้นหนักหน่วง เมื่อโค่นศรได้แล้วยศพงษ์ก็จะกลายเป็นเจ้าพ่อค้ายาคนใหม่แทนศร
ลำหับสวยวันสวยคืนเก่งงานสารพัด เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 และจะไปเรียนมหาวิทยาลัยต่อ ก่อนที่พ่อเลี้ยงศรจะโดนโค่นล้ม เฉิดเฉลายุยงให้ศรขอลำหับมาเป็นเมียเพื่อกีดกันลำหับให้พ้นจากบริพัตรที่เธอหมายปอง เฉิดเฉลาพาพ่อเลี้ยงมาสู่ขอลำหับจากนายแม่ นายแม่โยนไปที่บริพัตร บริพัตรพูดไม่ออกบอกนายแม่ขอถามความเห็นของลำหับก่อน ลำหับปฏิเสธแม้ว่านั่นจะทำให้เธอกลายเป็นหญิงผู้ร่ำรวย เฉิดเฉลาไม่พอใจมากๆ ลำหับกับบริพัตรพากันไปยังสถานที่พบกันครั้งแรก ทั้งสองสารภาพรักกัน บริพัตรขอลำหับแต่งงาน ลำหับตกลง บริพัตรแจ้งข่าวนี้กับนายแม่ ท่านยินดีและเต็มใจ เฉิดเฉลาแค้นมาก งัดไม้ตายเรื่องความหลังของลำหับว่ามีพ่อคือรามเป็นคนขายชาติ และจะเป็นการทำลายการไปสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของบริพัตร นายแม่ไม่สนใจสิ่งนี้ และขอโทษเฉิดเฉลาแทนบริพัตร ส่วนเรื่องอนาคตให้บริพัตรตัดสินใจเอง ลำหับแอบได้ยินทั้งหมดจึงตัดสินใจหนีไปจากบริพัตร ลำหับชวนบริพัตรไปยังโขดหินแห่งนั้นอีกครั้ง ทั้งสองได้เสียกันในคืนนั้น เมื่อบริพัตรตื่นมาไม่พบลำหับจึงรู้ว่าลำหับหนีไปแล้ว เขาเสียใจมากจนล้มป่วย เฉิดเฉลาวางแผนกับยศพงษ์ว่าจะใช้บริพัตรเป็นเครื่องมือหากินหลังจากที่บริพัตรได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยศพงษ์ลงทุนหาเสียงและแอบซื้อเสียงให้บริพัตรโดยที่เขาไม่รู้ตัว เฉิดเฉลาบอกบริพัตรเรื่องลำหับเป็นลูกคนขายชาติ บริพัตรบอกไม่จำเป็นที่ลำหับต้องขายชาติไปด้วย เฉิดเฉลาตามหาลำหับ ต่อว่าต่อขานจ้างวานลำหับให้หนีไปให้พ้นอย่าให้บริพัตรเจอ ให้ลำหับนึกถึงอนาคตของบริพัตร ลำหับปฏิเสธจะรับเงินแต่รับปากจะหนีให้พ้นบริพัตร เฉิดมาบอกบริพัตรว่าลำหับมีผู้ชายคนใหม่ชื่อ ชาตรี (รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง) ไปมาหาสู่บ่อยๆ
บริพัตรตามหาลำหับจนพบ ลำหับจึงแกล้งทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเธอยินยอมจะแต่งงานด้วยถ้าบริพัตรจะยอมเป็นคนขายชาติเข้าร่วมกับพ่อของเธอ บริพัตรไม่เชื่อ ลำหับยืนยันว่าจริง บังเอิญชาตรีมาหาลำหับ บริพัตรถามว่านี่คือผู้ชายคนใหม่หรือ ลำหับยอมรับว่าใช่ บริพัตรจึงจำใจตัดใจจากลำหับด้วยความเศร้าโศกผิดหวังกลับมาแต่งงานกับเฉิดเฉลา บริพัตรได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดังต้องการ ถึงคราวที่ยศพงษ์และเฉิดเฉลาจะเอาคืน ทั้งสองขอให้บริพัตรผลักดันโครงการที่หมายตาไว้ให้ยศพงษ์ บริพัตรปฏิเสธ เฉิดเฉลาบอกว่าจะเปิดโปงบริพัตรเรื่องลำหับ และจะแฉบริพัตรว่าเนรคุณที่ยศพงษ์ซื้อเสียงให้ บริพัตรตกใจมากเพราะไม่เคยทราบมาก่อน จึงตัดสินใจลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หันมาทำงานส่วนตัว เฉิดเฉลากับยศพงษ์เหิมเกริมเล่นชู้กันจนออกนอกหน้า นายแม่เห็นจึงตักเตือน เฉิดเฉลาไม่พอใจเถียงสู้ด่ากลับแล้วผลักนายแม่จนตกจากบันไดคอหักตาย แสร้งทำโวยวายร้องไห้ว่าเข้ามาพบนายแม่ตกบันได บริพัตรหมดสิ้นทั้งแม่และคนรัก เตลิดเปิดเปิงหายเข้าป่าไป เขาไปนั่งรอลำหับที่โขดหิน บางครั้งได้ยินเสียงซอสามสายเพลงพญาโศกดังแว่วมา พอตามไปหาที่มาของเสียงกลับไม่พบอะไร ที่แท้ลำหับนั่นเองลอบตามมาแอบดูบริพัตร ลำหับไปทำไร่ดอกไม้โดยมีวิเวกกับตึ๋งหนืดตามไปอยู่ด้วย เฉิดเฉลาท้องกับยศพงษ์แต่ไม่ได้บอกใคร กลับทำให้ทุกคนเข้าใจว่าท้องกับบริพัตร ส่วนลำหับคลอดลูกเป็นชายชื่อ คนัง (กันตพัฒน์ รัตนภักดี) ตลอดเวลาลำหับไม่เคยทราบว่าชาตรีคือตำรวจลับนอกเครื่องแบบที่แอบติดตามพฤติกรรมของเธอมาตลอด เธอมักพบชาตรีตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะในเวลาที่คับขัน เขาจะเป็นคนที่มาช่วยให้เธอรอดปลอดภัย จนกลายเป็นคนที่ไปมาหาสู่ที่ไร่ของลำหับ
พลเทพซึ่งโตแล้วและได้รามครอบงำเต็มที่ปฏิบัติตามคำสั่งพ่อแต่โดยดี พลเทพลงมาจากเขามาดูพฤติกรรมของลำหับโดยไม่บอกว่าเขาคือน้องเล็ก รามให้พลเทพพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลำหับไปเป็นพวก ลำหับปฏิเสธ แต่พลเทพเองก็ไม่ย่อท้อ เฉิดเฉลาแอบหลบไปคลอดลูกเงียบๆ และยกเด็กให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอบอกยศพงษ์ว่าเด็กแท้งตายไปแล้ว ยศพงศ์มีลูกกับภรรยาเก่าที่แต่งงานด้วยซึ่งเสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่ลูกสาวคือ เพ็ญโพยม (สมิตา รัตนภักดี) ยังเล็กๆ ทิ้งเพ็ญโพยมให้อยู่ในความดูแลของ แม่เริ่ม (วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง) กับ อาเดียว (วันชัย เผ่าวิบูลย์) ญาติห่างๆ ยศพงษ์ให้ทุกอย่างทางวัตถุยกเว้นความรักความห่วงใย วิเวกมีญาติทำงานในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบอกลำหับว่าเฉิดเฉลาทิ้งลูกที่ลงทะเบียนว่าเป็นลูกของบริพัตรไว้ ลำหับจึงไปรับมาดูแลเพราะสงสาร บริพัตรอาการหนักเพราะไปพลัดตกลงมาจากโขดหินที่ทั้งสองเคยพลอดรักกัน ลำหับรีบรับตัวบริพัตรมาดูแล เมื่อบริพัตรได้สติเขาได้ยินเสียงเพลงพญาโศก และพบว่าลำหับสีซออยู่ใกล้ๆ เขาดีใจมาก ลำหับบอกความจริง และบอกเรื่องลูก บริพัตรจึงขอร้องให้ดูแลลูกของตนกับเฉิดเฉลาด้วย ลำหับพาคนังกับ จักริน (พรหมพิริยะ ทองพุทธรักษ์) ลูกของเฉิดเฉลามาให้รู้จัก บริพัตรกอดคนัง จักริน และลำหับก่อนหมดลมหายใจ ลำหับเลี้ยงดูเด็กทั้งสองด้วยความรักใคร่เท่าเทียมกัน สอนให้คนังรักน้องอภัยให้น้อง ยิ่งโตเด็กสองคนยิ่งมีนิสัยแตกต่างกัน จักรินชั่วร้ายเอาแต่ใจเห็นแก่ตัว เมื่อทำความผิดจะโทษ คนัง (ภัทรพลฒ์ เดชพงษ์วรานนท์) ให้คนังยอมรับโทษแทนเสมอโดยที่ลำหับไม่เคยทราบ วิเวกกับตึ๋งหนืดระอาใจกับจักรินมาก โตขึ้นเรียนหนังสือเวลาสอบจักรินให้คนังใส่ชื่อและหมายเลขสอบของตน ส่วนตนเองใส่ชื่อคนัง ทำให้จักรินได้คะแนนสูงแต่คนังคะแนนต่ำ จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 คนังตัดสินใจไม่เรียนต่อเพื่อให้แม่ได้ส่งเสียจักรินคนเดียว คนังใช้วิธีครูพักลักจำไปเรียนวิชาการเกษตรจากอาจารย์แม่โจ้ที่เกษียณแล้ว ทำสวนดอกไม้สวยงามใหญ่โต เอาเงินส่งให้จักรินเรียนเมืองนอกแบบลูกเศรษฐี
ที่เมืองนอกจักรินพบกับ เพ็ญโพยม (พรชดา เครือคช) และสนิทสนมกัน จักรินหลงรักเพ็ญโพยม แต่เพ็ญโพยมชอบพอบ้างไม่ถึงกับหลงรัก ทั้งสองไม่รู้ว่าพ่อเดียวกันเพียงแต่คนละแม่ จักรินอวดว่าเป็นลูกเศรษฐีมีเงิน เพ็ญโพยมฟังแล้วเบื่อมาก เพ็ญเลือกเรียนด้านดนตรีส่วนจักรินเรียนแบบจับจดไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ปิดเทอมทั้งสองต่างกลับบ้านและนัดเจอกันที่เมืองไทย จักรินไม่อยากอยู่บ้านไร่กลัวคนว่ายากจน โดยหารู้ไม่ว่าคนังได้ขยายกิจการจนมีบ้านน่ารักน่าอยู่ จักรินพักที่คอนโดหรูในตัวเมือง เพ็ญโพยมไม่พอใจน้อยใจพ่อที่เอาแต่อยู่กับเฉิดเฉลาทำตัวเป็นนักการกุศลดูแลเศกและเด็กยากจนอื่นๆ แต่ไม่เหลียวแลลูกตนเอง จึงไม่ยอมเข้าบ้านพ่อ แต่จะไปหาแม่เริ่มกับอาเดียวที่เป็นผู้เลี้ยงดูเธอมา ซึ่งก็ย้ายบ้านใหม่เช่นกัน เพ็ญโพยมขับรถมาตามลำพังเพื่อไปหาแม่เริ่มกับอาเดียว แต่ไปไม่ถูกจึงแวะถามทางที่ไร่ของลำหับ เจอวิเวก เขาจะเป็นคนพาไปแต่รถยางแบน วิเวกเรียกตึ๋งหนืดมาช่วย และฝากคนังให้พาเพ็ญไปนั่งรอ คนังทำท่าเข้มไม่สนใจความเป็นสาวเปรี้ยวของเพ็ญโพยม เพ็ญโพยมรู้สึกว่าคนังอวดดีปั้นปึ่ง เพ็ญโพยมหิวน้ำคนังก็ชี้ให้ไปกินในห้วย เพ็ญโพยมแอบเห็นคนังใช้ใบไม้รองน้ำกิน จึงขอใบไม้บ้าง คนังหมั่นไส้ส่งใบไม้ที่มีมดให้ เพ็ญโพยมโดนมดกัดปากเจ่อโวยวายใส่คนัง คนังหัวเราะเยาะแล้วเดินหนีไป เพ็ญโพยมเดินตามไปจะเอาเรื่องกลับได้ยินเสียงเพลงพญาโศก จึงหยุดทันทีหันเดินไปตามเสียงเพลงดังกล่าว พบว่าลำหับกำลังสีเพลงที่หลุมศพใครคนหนึ่ง เพ็ญโพยมเข้าไปทักทายจึงทราบว่าลำหับคือเจ้าของไร่ดอกไม้แห่งนี้ เธอบอกว่าสนใจซอสามสาย และเพลงพญาโศกนี้มาก เคยได้ยินเพลงนี้แต่ไม่ไพเราะอย่างนี้ อยากขอมาเรียนรู้เพลงนี้จากลำหับบ้าง ลำหับยินดี ลำหับบอกว่าเธอมีลูกชายสองคน คนโตคือคนังผู้จัดการไร่ คนเล็กอยู่เมืองนอกหารู้ไม่ว่าจักรินมาขอให้คนังส่งเงินไปให้เช่าคอนโดอยู่ และกำลังจะขอให้ซื้อรถให้ และในระหว่างรอ จักรินจึงเอาเงินไปเช่ารถหรูมาขับ ขณะคุยกันลำหับทราบว่าเพ็ญโพยมเรียนที่เมืองเดียวกับลูกชาย และกำลังจะบอกชื่อลูกชายอีกคนแต่ไม่ทันได้บอก คนังก็มาบอกว่ารถใช้ได้แล้ว
วิเวกพาเพ็ญโพยมไปส่งที่บ้านแม่เริ่มกับอาเดียว เพ็ญโพยมกลับไปเจอเข้ากับยศพงษ์ เฉิดเฉลา และจักรินที่นั่น วิเวกซึ่งแอบหลบซ่อนดูอยู่จึงเห็นเหตุการณ์ และพบว่าแทนที่ยศพงษ์จะดีใจที่เห็นเพ็ญโพยมกลับมา แต่กลับบอกให้ไปคุยกับเฉิดเฉลาเรื่องงานกุศลที่จะให้เพ็ญโพยมจัดแสดงศิลปะที่ร่ำเรียนมา เพ็ญโพยมต่อว่าพ่อไม่ใยดี จักรินรีบประจบเอาใจเฉิดเฉลากับยศพงษ์เพื่อทำคะแนนเรื่องเพ็ญโพยม สองคนคิดว่าจักรินเป็นลูกเศรษฐีจึงยิ้มแย้มต้อนรับ ทั้งหมดทำให้วิเวกใจหายใจคว่ำมากรีบหนีกลับไร่ เฉิดเฉลากับยศพงษ์พูดจบก็กลับไป ทิ้งให้เพ็ญโพยมอยู่กับอาเดียว แม่เริ่ม และจักริน ยศพงษ์ให้แค่ซองเงินเป็นค่าใช้จ่ายวันงาน เพ็ญโพยมน้ำตาตกใน จักรินชวนเพ็ญโพยมไปเที่ยวดูแสงสีในเมือง เพ็ญปฏิเสธ แม่เริ่มกับอาเดียวได้แต่มองหน้ากันทำตาปริบๆ สงสารเพ็ญโพยม เพ็ญโพยมไปหาลำหับให้สอนเพลงพญาโศกและสอนสีซอสามสาย เพ็ญใช้เพลงพญาโศกประกอบนาฏลีลาเป็นการแสดงของตนเอง โดยขอร้องให้ลำหับสีเพลงนี้ให้เธอ ลำหับรับปาก ทุกวันเพ็ญโพยมมาฝึกซ้อมที่ไร่ร่วมเดือน เพ็ญโพยมพบกับคนังมีปากเสียงกันทุกวัน เพ็ญเปรยว่าอยากเจอหน้าน้องชายของคนังมาก เพราะลำหับคุยอวดไว้ว่าเป็นเด็กดีเรียนเก่ง คนังบอกลำหับว่าจักรินกลับมาแล้วไม่ยอมกลับมาบ้าน ลำหับน้อยใจเงียบๆ ให้คนังโทรไปหาจักริน จักรินบอกกำลังคุยเรื่องงาน และต้องการรถหนึ่งคันเพื่อใช้ติดต่องาน ไม่อยากให้ใครคิดว่ายากจนเพราะมีแฟนร่ำรวยมาก สองคนได้แต่อึ้ง แต่คนังก็รับปากน้องชายพยายามจะหาเงินให้จักรินไปดาวน์รถให้ได้
ถึงวันงานมีการแสดงต่างๆ พอถึงชุดที่เพ็ญโพยมแสดง ทุกคนเงียบกริบ เพลงพญาโศกหวานเย็นไพเราะจนทุกคนต้องนิ่งเงียบ ลีลาการแสดงของเพ็ญโพยมประทับใจคนดูที่สุด เมื่อจบการแสดงทุกคนต่างลุกขึ้นยืนปรบมือยกนิ้วส่งเสียงเอาอีกๆ ให้เพ็ญโพยม จักรินรับหน้าที่เป็นพิธีกรเป็นตัวแทนสัมภาษณ์เพ็ญโพยม การแสดงครั้งนี้มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ด้วย รามดูรายการนี้ ส่วนพลเทพไปดูที่ห้องส่งจำเสียงเพลงพญาโศกนี่ได้ดี การสัมภาษณ์เริ่มต้นขึ้นจักรินชื่นชมเพ็ญโพยมมากมาย เพ็ญโพยมกลับบอกว่าต้องยกความดีความชอบนี้ให้กับผู้ที่สีซอสามสายเพลงพญาโศก ยศพงษ์และหลายคนต้องการให้พาไปดูคนสีซอผู้นี้ที่สุด เพ็ญโพยมพาจักรินไปพบลำหับทุกคนตะลึง ยศพงษ์และจักรินถึงกับนิ่งอึ้ง รามที่ดูอยู่บนเขาในป่าตะลึงนิ่งเงียบ เห็นลำหับแม้จะเป็นผู้ใหญ่สามสิบกว่าแต่ยังสวยงามได้แต่ถอนใจพูดไม่ออก แต่คนที่ทนไม่ได้คือเฉิดเฉลานั่นเอง ลืมตัวเผลอวิ่งเข้ากล้องมากระชากคันซอไปจากมือลำหับขว้างทิ้ง ตบหน้าจนทุกคนตกตะลึงพรึงเพริด เฉิดเฉลาอ้างว่าตบสั่งสอนลูกคนขายชาติ ผู้กำกับรายการสั่งตัดภาพเข้าโฆษณาทันที แต่ผู้ชมก็เห็นกันทั่วประเทศแล้ว เฉิดเฉลาโกรธมากที่ลำหับบังอาจมาเล่นซอสามสายในงานของเธอ คนังปราดมาปกป้องแม่ วิเวกกับตึ๋งหนืดก็เช่นกัน เพ็ญโพยมโกรธเฉิดเฉลามาก ด่ากลับเฉิดเฉลารุนแรง จักรินพูดไม่ออก เพ็ญโพยมขอโทษลำหับ ชาตรีมาปรากฏตัวและแนะนำให้ลำหับกลับไปก่อน ขณะกำลังจะกลับจักรินวิ่งตามมาบอกลำหับว่าอย่าบอกทุกคนว่าเป็นลูก คนังชกจักริน ลำหับต้องห้ามเอาไว้และรับปากว่าจะไม่บอกใคร จักรินโล่งอก เฉิดเฉลากับยศพงษ์ตามมาสำทับว่าอย่าคบหากับลูกสาวของพวกเขาเด็ดขาด และสั่งจักรินว่าพวกเราเป็นผู้ดีมีเงินอย่าไปเกลือกกลั้วคนชั้นต่ำ จักรินรีบทำท่าดูถูกผสมทันที คนังจะอาละวาดอีกครั้ง ลำหับต้องรีบห้าม
พลเทพกลับไปรายงานพ่อถึงเรื่องลำหับและคนัง รามบอก สน (จิรภัทร พานเงิน) สมุนมือขวาว่าต้องการให้สนติดตามลำหับมาเป็นพวกให้ได้ สนบอกว่าชาตรีเป็นคนรักของลำหับ ชาตรีน่าจะช่วยพูดให้ได้ รามตกลงให้เอา คนังมาด้วย เพ็ญโพยมไม่สบายใจมาก คนังก็แค้นมากที่เฉิดเฉลามาตบหน้าแม่ และโดนดูถูกจากยศพงษ์ คนังเก็บความแค้นเอาไว้เต็มอก วิเวกกับตึ๋งหนืดต่อว่าลำหับว่าทำไมไม่บอกเฉิดไปว่าจักรินคือลูกของเฉิดเฉลาที่ลำหับเก็บมาเลี้ยง ลำหับห้ามไว้เพราะจักรินจะอับอาย จักรินแอบมาอีกครั้งมาบอกว่าจะเอาเงินไปซื้อรถเขาเห็นไร่ใหญ่โตไม่เชื่อว่าไม่มีเงิน และห้ามไม่ให้ไปในที่พวกเพ็ญโพยมและจักรินไป ลำหับรับปากน้ำตาไหลพราก คนังประกาศว่าไม่ซื้อรถไม่ส่งเสียคนอกตัญญูอีกแล้ว ทำให้จักรินยิ่งแค้นใจมากชกต่อยกัน ลำหับแอบให้เงินจักรินไปก้อนหนึ่ง จักรินบอกว่าจะไม่มาที่นี่อีก เพราะกำลังจะไปเป็นลูกเขยของบ้านเฉิดเฉลาแล้ว เฉิดเฉลาพยายามสืบสวนว่าจักรินคือลูกใคร ฐานะดี ชาติตระกูลดีแค่ไหน จักรินก็เล่นบทหลอกลวงจนสองคนเชื่อว่าเป็นลูกเศรษฐี จักรินขอเพ็ญโพยมแต่งงาน เพ็ญโพยมปฏิเสธ วันหนึ่งเพ็ญโพยมแอบมาที่ไร่ของลำหับยังไม่ทันจะเข้าไปกลับพบกับคนังเสียก่อน เพ็ญโพยมโดนคนังต่อว่าแรงๆ เพ็ญโพยมแรงตอบ และจะเข้าไปพบลำหับให้ได้ สองคนยื้อยุดกัน คนังโกรธจับเพ็ญโพยมมัดโยนใส่รถของเพ็ญโพยมเองแล้วขับไปในป่าที่มีทะเลสาบกระท่อม ลุงเปรื่อง (สมชาย ศักดิกุล) ที่คนังคุ้นเคยซึ่งตอนนี้ลุงเปรื่องไม่อยู่แล้ว ทั้งสองทะเลาะตบตีกันในบ้านหลังนั้นหลายวัน คนังไม่ได้ล่วงเกินเพ็ญโพยม ในที่สุดทั้งสองก็แอบรักกันและกัน แต่ยังมีทิฐิอยู่ เฉิดเฉลา ยศพงษ์ และจักรินตามหาเพ็ญโพยมไม่พบ มั่นใจว่าโดนคนังลักพาตัว จักรินรับอาสามาถามลำหับ จักรินทำร้ายด่าทอลำหับ ชาตรีมาห้ามเอาไว้และต่อว่า ขู่ว่าจะไปแจ้งความ จักรินจึงกลับไป แล้วในที่สุดก็กลับมาอีกพร้อมกับยศพงษ์ สมุน และเฉิดเฉลามาบังคับให้ลำหับบอกให้ได้ ลำหับบอกไม่รู้ไม่เห็นเพ็ญโพยมกับคนัง
คนังผูกเพ็ญโพยมไว้ตลอดเวลา ทีแรกเพ็ญโพยมไม่ยอมกินอาหาร แกล้งสั่งให้ให้คนังไปหาอาหารแปลกมาให้กินเช่นปลาโน่นปลานี่ คนังตากฝนไปหาปลาดังกล่าวมาให้เพ็ญโพยมโดนขวดแตกในน้ำบาดเป็นแผลเหวอะหวะอักเสบบวมไข้ขึ้น คนังจึงตัดสินใจปล่อยเพ็ญโพยมออกไป คนังพยายามตะกายจะไปหาหมอเองล้มลงหมดสติ ฟื้นมาอีกทีพบว่าเพ็ญโพยมพาคนังไปหาหมอ คนังบอกไม่ต้องการให้ช่วยเหลือให้เพ็ญโพยมกลับไป เพ็ญโพยมบอกไม่ไปจนกว่าคนังจะอาการดีขึ้น ทั้งสองจึงพากันกลับไปที่กระท่อมอีกครั้ง คนังห่วงลำหับมากทำตัวให้ดูเหมือนอาการดีขึ้น ทั้งสองจึงพากันกลับบ้าน ที่บ้านลำหับพวกเฉิดเฉลาบุกมาอีกครั้งมาทำร้ายวิเวกกับตึ๋งหนืดจนหมดสติ และจะจับตัวลำหับจะเอาไปเป็นตัวประกันให้คนังออกมา แต่เฉิดเฉลาต้องการมากกว่านั้นคือเผาบ้านลำหับ สั่งให้จักรินเป็นคนเผาเพื่อพิสูจน์ว่ารักเพ็ญโพยมจริง จักรินลำบากใจไม่น้อยเพราะมากเกินไป ที่นี่ตนเองเคยอยู่มาตั้งแต่เล็กๆ แต่ยศพงษ์สั่งให้เผา หากไม่เผาจะไม่ยกเพ็ญโพยมให้ จักรินพายามลากลำหับออกมาจากบ้าน ลำหับยืนกรานว่าจะตายคาบ้าน เฉิดเฉลากับยศพงษ์บอกตามใจ ลำหับสลัดหนีเข้าบ้าน ในที่สุดจักรินก็เผาบ้าน ลำหับหยิบซอนั่งสีเพลงพญาโศกน้ำตาไหลพรากในบ้าน ขณะที่เพ็ญโพยมกับคนังพากันมาใกล้บ้านมากแล้ว รถน้ำมันหมดสองคนลงเดิน คนังมองไปเห็นควันไฟออกมาจากบ้าน คนังวิ่งสุดแรงเกิดรีบจนทำจดหมายหล่นลงพื้นหลายฉบับ เพ็ญโพยมหยิบไว้เก็บใส่กระเป๋าตัวเองเดินตามคนังไป คนังไปถึงบ้านไฟไหม้เกือบหมดแล้ว จักรินมองอึกอัก ยศพงษ์กับเฉิดเฉลายืนมองหัวเราะด้วยความสะใจ คนังปราดมาชกต่อยจักริน วิเวกกับตึ๋งหนืดฟื้นขึ้นมาบอกคนังว่า ลำหับน่าจะติดอยู่ในบ้าน คนังวิ่งไปในบ้านที่ไฟกำลังลุกท่วมช่วยลำหับออกมาได้ ให้วิเวกกับตึ๋งหนืดดูแลแม่ คนังลงมือชกกับจักรินด่าว่าอกตัญญูไม่รู้จักบุญคุณแม่ที่เลี้ยงดูมา ยศพงศ์กับเฉิดเฉลาแปลกใจ และโกรธมากที่รู้ว่าจักรินกลายเป็นลูกของลำหับแต่มาหลอก ยศพงษ์ชักปืนมาจะยิงจักริน วิเวกกับตึ๋งหนืดตะโกนใส่เฉิดเฉลาบอกว่าจักรินนี่แหละลูกของเฉิดเฉลาที่เกิดกับบริพัตร ที่เฉิดเฉลาเอาไปทิ้งไว้สถานเด็กกำพร้า ลำหับรับปากบริพัตรจึงไปรับมาเลี้ยง เฉิดเฉลาตะลึง จักรินตะลึงแต่กลายเป็นดีใจที่มีแม่รวย คนังก็ตกใจเพิ่งรู้ความจริง แต่ยศพงษ์ก็ยังไม่พอใจเพราะยิ่งคิดว่าเป็นลูกบริพัตรก็ยิ่งไม่ชอบใจจะยิงต่อ เฉิดเฉลาวิ่งมาบังแล้วบอกว่ายิงไม่ได้แถมดึงปืนจากมือยศพงษ์มายัดใส่มือจักรินแล้วสั่งให้ยิงคนัง จักรินจะยิงคนัง ลำหับมาห้ามไว้ เฉิดเฉลาบอกให้ยิงลำหับ เพ็ญโพยมวิ่งมาบอกว่าคนังไม่ได้ลักพาตัวเธอไป จักรินกำลังจะยิงใส่ลำหับ คนังโดดมาแย่งปืน สองคนแย่งปืนกันไปมา แล้วปืนก็ลั่นดังขึ้นไปโดนเอาพลเทพที่รามส่งลงมาหาลำหับ พลเทพบอกกับลำหับว่าเขาคือน้องชายของลำหับที่รามส่งมาคอยดูลำหับ ลำหับร้องไห้ด้วยความเสียใจ เฉิดรีบสั่งให้จักรินเอาปืนยัดใส่มือคนังที่กำลังตกใจมาก
เฉิดเลา ยศพงษ์ และจักรินช่วยกันลากเพ็ญโพยมกลับออกไป วิเวกกับตึ๊งหนืดให้คนังรีบหนี ส่วนสมุนที่มาด้วยกับพลเทพทำทีช่วยคนังหนี แต่ที่แท้แอบจับตัวคนังไปให้ราม ส่วนศพของพลเทพที่ตายในอ้อมกอดของลำหับ มีคนของรามมาเอาศพไป ลำหับหมดสิ้นทุกอย่างตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยกันเอาคันซอแทงหน้าอก ชาตรีมาห้ามเอาไว้ทัน ปลอบโยนลำหับว่าถ้าต้องการกู้เกียรติว่าไม่ใช่คนขายชาติก็ต้องกอบกู้เกียรตินั่นกลับคืนมาด้วยการช่วยชาติ ลำหับตกลง ชาตรีจึงแนะให้ลำหับไปพบรามบนเขา ลำหับไปพบราม รามไม่ได้ทำท่ายินดีมากมายแต่โอบกอดตามรูปแบบที่ทุกคนทำกันเท่านั้น ลำหับบอกจะมาขออยู่ด้วย รามบอกให้ลำหับพิสูจน์ตนเองด้วยการฆ่าใครหนึ่งให้ดู ลำหับรับปาก แต่พอเห็นคนที่รามสั่งให้ฆ่าเท่านั้น ลำหับใจสลายตกใจมาก เพราะนั่นคือคนังนั่นเอง โทษฐานที่ยิงพลเทพตาย และไม่ใช่แค่คนังที่โดนจับ พวกยศพงษ์ เฉิดเฉลา เพ็ญโพยม และจักริน ก็โดนด้วยเช่นกัน รามสั่งให้ลำหับยิงคนัง หรือไม่ก็มีตัวเลือกให้อีกคนคือจักริน เพราะอยู่ในข่ายยิงพลเทพตายเช่นเดียวกัน ถ้าไม่ยิงคนใดคนหนึ่งทุกคนที่เหลืออยู่ต้องตายหมด เฉิดเฉลาร้องห้ามไม่ให้ยิงจักริน ยศพงษ์บอกยิงใครก็ได้ เฉิดเฉลาจึงบอกความจริงออกมาว่าจักรินคือลูกเธอกับเขา เพ็ญโพยมยืนยันว่าคนที่ทำปืนลั่นใส่พลเทพคือจักริน แม้ว่าจะเป็นพี่ชายของเธอก็ตาม แต่มันคือความถูกต้อง เฉิดเฉลากับยศพงษ์พากันตบหน้าเพ็ญโพยม ลำหับรีรอไม่ยิงสักที รามจึงสั่งให้สนจัดการยิงให้หมดทุกคน ลำหับขอสีซอเพลงพญาโศกก่อน รามยอมให้ลำหับสีซอจนจบเพลง รามสั่งให้ยิงอีก ลำหับยกปืนมากลั้นหายใจ หันปากกระบอกปืนใส่ตนเองทันที สนยืนตรงนั้นยิงไปที่รามทันทีเช่นกัน ชาตรีเข้ามาแย่งปืนจากลำหับ สนยิงรามล้มลง ชาตรีกระชากลำหับให้ไปด้วย คนังกระชากเพ็ญโพยมหลบออกมาทันที ยศพงษ์โกรธต่อว่าเฉิดเฉลา และแย่งปืนจากคนของรามจะยิงเฉิดเฉลา เฉิดเฉลาแย่งปืนจากอีกคนยิงยศพงษ์ตายเช่นกัน จักรินวิ่งหนีจึงโดนคนของรามยิงตาย เพ็ญโพยมเอาจดหมายของจักรินที่เขียนมาไถเงินคนัง และขอบใจเรื่องที่ทำสอบแทนทุกครั้งที่สอบ ที่คนังทำหล่นไว้ให้ลำหับดูว่าคนังไม่ใช่คนเรียนไม่เก่ง คนังเสียสละให้จักรินตลอดมา เธอจะไม่กลับไปเรียนต่อแต่จะขออยู่ทำไร่ดอกไม้ และเรียนซอสามสายกับลำหับต่อไป คนังยิ้มให้เพ็ญโพยม ลำหับไปที่โขดหินและถือซอสามสายที่นั่นนึกถึงบริพัตร ชาตรีไปหาลำหับและบอกว่าเขาคือผู้ที่บริพัตรฝากให้ดูแลและช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีของลำหับกลับคืนมา ซึ่งลำหับก็ได้ทำแล้ว เขาขอคุ้มครองลำหับต่อไปได้ไหม พร้อมกับเอาจดหมายฝากฝังจากบริพัตรให้ลำหับดู ลำหับยิ้มให้ชาตรีและเล่นเพลงพญาโศกอีกครั้ง ชาตรีพึมพำบอกว่าลำหับคือเจ้าแม่พญาโศกจริงๆ
ลำหับหอบซอหนีมาหกล้มลุกคลุกคลานหมดแรงสลบบนก้อนหินใหญ่กลางป่า เช้ารุ่งขึ้น บริพัตร (เขตต์ ฐานทัพ) ทำงานสำรวจรังวัดถนนที่ดิน เข้ามาสำรวจงานตามปกติกับลูกน้องสองคน ขณะที่ส่องกล้องสำรวจ ได้ยินเสียงเพลงพญาโศกแว่วมาจึงแพนกล้องไปยังก้อนหินใหญ่ เขาเห็นเด็กสาวแรกรุ่นหน้าตาสะสวยน้ำตาอาบนองหน้ากำลังเล่นเพลงพญาโศก บริพัตรเข้าไปยืนฟังใกล้ๆ รอจนเพลงจบจึงแสดงตัว แต่ลำหับไม่ยอมพูดจาหรือตอบคำถาม หอบซอหนีไป บริพัตรตามจนลำหับหมดแรงล้มสลบไปอีกครั้ง บริพัตรจึงพาลำหับกลับไปบ้านตนเอง ลำหับรู้สึกตัวที่บ้านบริพัตร เห็นบริพัตรคนแรกรีบถอยหนีดึงซอมากอดไว้แน่น นายแม่ (วาสนา สิทธิเวช) ของบริพัตรนั่งอยู่ด้วยเข้าปลอบโยนจนหายตกใจ กระนั้นลำหับก็ยังไม่ยอมพูดจากับใครเช่นเดิม จนทุกคนคิดว่าลำหับเป็นใบ้ ลำหับเอาแต่สีซอเพลงพญาโศก ข้าวปลาแทบไม่ยอมกิน จนกระทั่งวันหนึ่งนายแม่เป็นลมกะทันหันไม่มีใครในบ้านเห็น ลำหับไปช่วยพูดจาดูอาการนายแม่ ทำให้ทุกคนดีใจมากที่ลำหับพูดได้ วิเวก (นึกคิด บุญทอง) คนรถกับ ตึ๋งหนืด (อรุโณทัย จิตตรีขันธ์) คนรับใช้ชื่นชมรักใคร่ลำหับมากโดยเฉพาะนายแม่ บริพัตรดีใจที่สุดตัดสินใจส่งลำหับไปเรียนหนังสือ แต่ไม่ว่าลำหับจะพูดจาอะไรก็ไม่เคยปริปากบอกว่าเป็นใครมาจากไหน เฉิดเฉลา (ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) หญิงสาวเปรี้ยวเฉี่ยวที่ทุกคนเข้าใจว่าคือเจ้าสาวในอนาคตของบริพัตร ไม่ชอบลำหับตั้งแต่ก้าวแรกที่บริพัตรพามาบ้าน พยายามบอกให้ไล่ไปให้พ้นเพราะลำหับต้องเป็นคนไม่ดีแน่นอน เฉิดเฉลาเบื้องหน้าเป็นหลานของพ่อเลี้ยงศร แต่ความจริงแล้วเป็นลูกสาวของแม่บ้านที่ท้องกับคนงานด้วยกันแต่ไม่มีใครยอมรับเป็นพ่อ พอโตขึ้นหน้าตาดีจึงถูกศรขืนใจ และรับเอามาเป็นเมียน้อยตั้งแต่อายุเพิ่งแรกรุ่น เฉิดเฉลาแสร้งทำดีแต่ในใจเกลียดชังคิดล้างแค้น เฉิดเฉลารู้ความลับและความเป็นมาของลำหับ เฉิดเฉลามักใหญ่ใฝ่สูงอยากได้ใคร่ดี แอบคบเพื่อนชายสนิทคือ ยศพงษ์ (ศรุต วิจิตรานนท์) เป็นเศรษฐีใหม่ไฟแรงที่มีนิสัยตรงกัน เฉิดเฉลาสมคบกับยศพงษ์โค่นล้มศร เพราะเกรงใครจะรู้ว่าเธอคือเมียน้อยของศร แม้แต่ยศพงษ์ก็ไม่รู้ เฉิดเฉลามีลูกกับศรชื่อ เศก (ณรงค์ฤทธิ์ รัตนภักดี) เศกเป็นเด็กติดยา เฉิดเฉลาบอกทุกคนว่าเก็บมาดูแล เฉิดเฉลาทำตัวเป็นคนใจบุญดูแลเศกที่ติดยาถึงขั้นหนักหน่วง เมื่อโค่นศรได้แล้วยศพงษ์ก็จะกลายเป็นเจ้าพ่อค้ายาคนใหม่แทนศร
ลำหับสวยวันสวยคืนเก่งงานสารพัด เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 และจะไปเรียนมหาวิทยาลัยต่อ ก่อนที่พ่อเลี้ยงศรจะโดนโค่นล้ม เฉิดเฉลายุยงให้ศรขอลำหับมาเป็นเมียเพื่อกีดกันลำหับให้พ้นจากบริพัตรที่เธอหมายปอง เฉิดเฉลาพาพ่อเลี้ยงมาสู่ขอลำหับจากนายแม่ นายแม่โยนไปที่บริพัตร บริพัตรพูดไม่ออกบอกนายแม่ขอถามความเห็นของลำหับก่อน ลำหับปฏิเสธแม้ว่านั่นจะทำให้เธอกลายเป็นหญิงผู้ร่ำรวย เฉิดเฉลาไม่พอใจมากๆ ลำหับกับบริพัตรพากันไปยังสถานที่พบกันครั้งแรก ทั้งสองสารภาพรักกัน บริพัตรขอลำหับแต่งงาน ลำหับตกลง บริพัตรแจ้งข่าวนี้กับนายแม่ ท่านยินดีและเต็มใจ เฉิดเฉลาแค้นมาก งัดไม้ตายเรื่องความหลังของลำหับว่ามีพ่อคือรามเป็นคนขายชาติ และจะเป็นการทำลายการไปสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของบริพัตร นายแม่ไม่สนใจสิ่งนี้ และขอโทษเฉิดเฉลาแทนบริพัตร ส่วนเรื่องอนาคตให้บริพัตรตัดสินใจเอง ลำหับแอบได้ยินทั้งหมดจึงตัดสินใจหนีไปจากบริพัตร ลำหับชวนบริพัตรไปยังโขดหินแห่งนั้นอีกครั้ง ทั้งสองได้เสียกันในคืนนั้น เมื่อบริพัตรตื่นมาไม่พบลำหับจึงรู้ว่าลำหับหนีไปแล้ว เขาเสียใจมากจนล้มป่วย เฉิดเฉลาวางแผนกับยศพงษ์ว่าจะใช้บริพัตรเป็นเครื่องมือหากินหลังจากที่บริพัตรได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยศพงษ์ลงทุนหาเสียงและแอบซื้อเสียงให้บริพัตรโดยที่เขาไม่รู้ตัว เฉิดเฉลาบอกบริพัตรเรื่องลำหับเป็นลูกคนขายชาติ บริพัตรบอกไม่จำเป็นที่ลำหับต้องขายชาติไปด้วย เฉิดเฉลาตามหาลำหับ ต่อว่าต่อขานจ้างวานลำหับให้หนีไปให้พ้นอย่าให้บริพัตรเจอ ให้ลำหับนึกถึงอนาคตของบริพัตร ลำหับปฏิเสธจะรับเงินแต่รับปากจะหนีให้พ้นบริพัตร เฉิดมาบอกบริพัตรว่าลำหับมีผู้ชายคนใหม่ชื่อ ชาตรี (รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง) ไปมาหาสู่บ่อยๆ
บริพัตรตามหาลำหับจนพบ ลำหับจึงแกล้งทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเธอยินยอมจะแต่งงานด้วยถ้าบริพัตรจะยอมเป็นคนขายชาติเข้าร่วมกับพ่อของเธอ บริพัตรไม่เชื่อ ลำหับยืนยันว่าจริง บังเอิญชาตรีมาหาลำหับ บริพัตรถามว่านี่คือผู้ชายคนใหม่หรือ ลำหับยอมรับว่าใช่ บริพัตรจึงจำใจตัดใจจากลำหับด้วยความเศร้าโศกผิดหวังกลับมาแต่งงานกับเฉิดเฉลา บริพัตรได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดังต้องการ ถึงคราวที่ยศพงษ์และเฉิดเฉลาจะเอาคืน ทั้งสองขอให้บริพัตรผลักดันโครงการที่หมายตาไว้ให้ยศพงษ์ บริพัตรปฏิเสธ เฉิดเฉลาบอกว่าจะเปิดโปงบริพัตรเรื่องลำหับ และจะแฉบริพัตรว่าเนรคุณที่ยศพงษ์ซื้อเสียงให้ บริพัตรตกใจมากเพราะไม่เคยทราบมาก่อน จึงตัดสินใจลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หันมาทำงานส่วนตัว เฉิดเฉลากับยศพงษ์เหิมเกริมเล่นชู้กันจนออกนอกหน้า นายแม่เห็นจึงตักเตือน เฉิดเฉลาไม่พอใจเถียงสู้ด่ากลับแล้วผลักนายแม่จนตกจากบันไดคอหักตาย แสร้งทำโวยวายร้องไห้ว่าเข้ามาพบนายแม่ตกบันได บริพัตรหมดสิ้นทั้งแม่และคนรัก เตลิดเปิดเปิงหายเข้าป่าไป เขาไปนั่งรอลำหับที่โขดหิน บางครั้งได้ยินเสียงซอสามสายเพลงพญาโศกดังแว่วมา พอตามไปหาที่มาของเสียงกลับไม่พบอะไร ที่แท้ลำหับนั่นเองลอบตามมาแอบดูบริพัตร ลำหับไปทำไร่ดอกไม้โดยมีวิเวกกับตึ๋งหนืดตามไปอยู่ด้วย เฉิดเฉลาท้องกับยศพงษ์แต่ไม่ได้บอกใคร กลับทำให้ทุกคนเข้าใจว่าท้องกับบริพัตร ส่วนลำหับคลอดลูกเป็นชายชื่อ คนัง (กันตพัฒน์ รัตนภักดี) ตลอดเวลาลำหับไม่เคยทราบว่าชาตรีคือตำรวจลับนอกเครื่องแบบที่แอบติดตามพฤติกรรมของเธอมาตลอด เธอมักพบชาตรีตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะในเวลาที่คับขัน เขาจะเป็นคนที่มาช่วยให้เธอรอดปลอดภัย จนกลายเป็นคนที่ไปมาหาสู่ที่ไร่ของลำหับ
พลเทพซึ่งโตแล้วและได้รามครอบงำเต็มที่ปฏิบัติตามคำสั่งพ่อแต่โดยดี พลเทพลงมาจากเขามาดูพฤติกรรมของลำหับโดยไม่บอกว่าเขาคือน้องเล็ก รามให้พลเทพพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลำหับไปเป็นพวก ลำหับปฏิเสธ แต่พลเทพเองก็ไม่ย่อท้อ เฉิดเฉลาแอบหลบไปคลอดลูกเงียบๆ และยกเด็กให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอบอกยศพงษ์ว่าเด็กแท้งตายไปแล้ว ยศพงศ์มีลูกกับภรรยาเก่าที่แต่งงานด้วยซึ่งเสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่ลูกสาวคือ เพ็ญโพยม (สมิตา รัตนภักดี) ยังเล็กๆ ทิ้งเพ็ญโพยมให้อยู่ในความดูแลของ แม่เริ่ม (วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง) กับ อาเดียว (วันชัย เผ่าวิบูลย์) ญาติห่างๆ ยศพงษ์ให้ทุกอย่างทางวัตถุยกเว้นความรักความห่วงใย วิเวกมีญาติทำงานในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบอกลำหับว่าเฉิดเฉลาทิ้งลูกที่ลงทะเบียนว่าเป็นลูกของบริพัตรไว้ ลำหับจึงไปรับมาดูแลเพราะสงสาร บริพัตรอาการหนักเพราะไปพลัดตกลงมาจากโขดหินที่ทั้งสองเคยพลอดรักกัน ลำหับรีบรับตัวบริพัตรมาดูแล เมื่อบริพัตรได้สติเขาได้ยินเสียงเพลงพญาโศก และพบว่าลำหับสีซออยู่ใกล้ๆ เขาดีใจมาก ลำหับบอกความจริง และบอกเรื่องลูก บริพัตรจึงขอร้องให้ดูแลลูกของตนกับเฉิดเฉลาด้วย ลำหับพาคนังกับ จักริน (พรหมพิริยะ ทองพุทธรักษ์) ลูกของเฉิดเฉลามาให้รู้จัก บริพัตรกอดคนัง จักริน และลำหับก่อนหมดลมหายใจ ลำหับเลี้ยงดูเด็กทั้งสองด้วยความรักใคร่เท่าเทียมกัน สอนให้คนังรักน้องอภัยให้น้อง ยิ่งโตเด็กสองคนยิ่งมีนิสัยแตกต่างกัน จักรินชั่วร้ายเอาแต่ใจเห็นแก่ตัว เมื่อทำความผิดจะโทษ คนัง (ภัทรพลฒ์ เดชพงษ์วรานนท์) ให้คนังยอมรับโทษแทนเสมอโดยที่ลำหับไม่เคยทราบ วิเวกกับตึ๋งหนืดระอาใจกับจักรินมาก โตขึ้นเรียนหนังสือเวลาสอบจักรินให้คนังใส่ชื่อและหมายเลขสอบของตน ส่วนตนเองใส่ชื่อคนัง ทำให้จักรินได้คะแนนสูงแต่คนังคะแนนต่ำ จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 คนังตัดสินใจไม่เรียนต่อเพื่อให้แม่ได้ส่งเสียจักรินคนเดียว คนังใช้วิธีครูพักลักจำไปเรียนวิชาการเกษตรจากอาจารย์แม่โจ้ที่เกษียณแล้ว ทำสวนดอกไม้สวยงามใหญ่โต เอาเงินส่งให้จักรินเรียนเมืองนอกแบบลูกเศรษฐี
ที่เมืองนอกจักรินพบกับ เพ็ญโพยม (พรชดา เครือคช) และสนิทสนมกัน จักรินหลงรักเพ็ญโพยม แต่เพ็ญโพยมชอบพอบ้างไม่ถึงกับหลงรัก ทั้งสองไม่รู้ว่าพ่อเดียวกันเพียงแต่คนละแม่ จักรินอวดว่าเป็นลูกเศรษฐีมีเงิน เพ็ญโพยมฟังแล้วเบื่อมาก เพ็ญเลือกเรียนด้านดนตรีส่วนจักรินเรียนแบบจับจดไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ปิดเทอมทั้งสองต่างกลับบ้านและนัดเจอกันที่เมืองไทย จักรินไม่อยากอยู่บ้านไร่กลัวคนว่ายากจน โดยหารู้ไม่ว่าคนังได้ขยายกิจการจนมีบ้านน่ารักน่าอยู่ จักรินพักที่คอนโดหรูในตัวเมือง เพ็ญโพยมไม่พอใจน้อยใจพ่อที่เอาแต่อยู่กับเฉิดเฉลาทำตัวเป็นนักการกุศลดูแลเศกและเด็กยากจนอื่นๆ แต่ไม่เหลียวแลลูกตนเอง จึงไม่ยอมเข้าบ้านพ่อ แต่จะไปหาแม่เริ่มกับอาเดียวที่เป็นผู้เลี้ยงดูเธอมา ซึ่งก็ย้ายบ้านใหม่เช่นกัน เพ็ญโพยมขับรถมาตามลำพังเพื่อไปหาแม่เริ่มกับอาเดียว แต่ไปไม่ถูกจึงแวะถามทางที่ไร่ของลำหับ เจอวิเวก เขาจะเป็นคนพาไปแต่รถยางแบน วิเวกเรียกตึ๋งหนืดมาช่วย และฝากคนังให้พาเพ็ญไปนั่งรอ คนังทำท่าเข้มไม่สนใจความเป็นสาวเปรี้ยวของเพ็ญโพยม เพ็ญโพยมรู้สึกว่าคนังอวดดีปั้นปึ่ง เพ็ญโพยมหิวน้ำคนังก็ชี้ให้ไปกินในห้วย เพ็ญโพยมแอบเห็นคนังใช้ใบไม้รองน้ำกิน จึงขอใบไม้บ้าง คนังหมั่นไส้ส่งใบไม้ที่มีมดให้ เพ็ญโพยมโดนมดกัดปากเจ่อโวยวายใส่คนัง คนังหัวเราะเยาะแล้วเดินหนีไป เพ็ญโพยมเดินตามไปจะเอาเรื่องกลับได้ยินเสียงเพลงพญาโศก จึงหยุดทันทีหันเดินไปตามเสียงเพลงดังกล่าว พบว่าลำหับกำลังสีเพลงที่หลุมศพใครคนหนึ่ง เพ็ญโพยมเข้าไปทักทายจึงทราบว่าลำหับคือเจ้าของไร่ดอกไม้แห่งนี้ เธอบอกว่าสนใจซอสามสาย และเพลงพญาโศกนี้มาก เคยได้ยินเพลงนี้แต่ไม่ไพเราะอย่างนี้ อยากขอมาเรียนรู้เพลงนี้จากลำหับบ้าง ลำหับยินดี ลำหับบอกว่าเธอมีลูกชายสองคน คนโตคือคนังผู้จัดการไร่ คนเล็กอยู่เมืองนอกหารู้ไม่ว่าจักรินมาขอให้คนังส่งเงินไปให้เช่าคอนโดอยู่ และกำลังจะขอให้ซื้อรถให้ และในระหว่างรอ จักรินจึงเอาเงินไปเช่ารถหรูมาขับ ขณะคุยกันลำหับทราบว่าเพ็ญโพยมเรียนที่เมืองเดียวกับลูกชาย และกำลังจะบอกชื่อลูกชายอีกคนแต่ไม่ทันได้บอก คนังก็มาบอกว่ารถใช้ได้แล้ว
วิเวกพาเพ็ญโพยมไปส่งที่บ้านแม่เริ่มกับอาเดียว เพ็ญโพยมกลับไปเจอเข้ากับยศพงษ์ เฉิดเฉลา และจักรินที่นั่น วิเวกซึ่งแอบหลบซ่อนดูอยู่จึงเห็นเหตุการณ์ และพบว่าแทนที่ยศพงษ์จะดีใจที่เห็นเพ็ญโพยมกลับมา แต่กลับบอกให้ไปคุยกับเฉิดเฉลาเรื่องงานกุศลที่จะให้เพ็ญโพยมจัดแสดงศิลปะที่ร่ำเรียนมา เพ็ญโพยมต่อว่าพ่อไม่ใยดี จักรินรีบประจบเอาใจเฉิดเฉลากับยศพงษ์เพื่อทำคะแนนเรื่องเพ็ญโพยม สองคนคิดว่าจักรินเป็นลูกเศรษฐีจึงยิ้มแย้มต้อนรับ ทั้งหมดทำให้วิเวกใจหายใจคว่ำมากรีบหนีกลับไร่ เฉิดเฉลากับยศพงษ์พูดจบก็กลับไป ทิ้งให้เพ็ญโพยมอยู่กับอาเดียว แม่เริ่ม และจักริน ยศพงษ์ให้แค่ซองเงินเป็นค่าใช้จ่ายวันงาน เพ็ญโพยมน้ำตาตกใน จักรินชวนเพ็ญโพยมไปเที่ยวดูแสงสีในเมือง เพ็ญปฏิเสธ แม่เริ่มกับอาเดียวได้แต่มองหน้ากันทำตาปริบๆ สงสารเพ็ญโพยม เพ็ญโพยมไปหาลำหับให้สอนเพลงพญาโศกและสอนสีซอสามสาย เพ็ญใช้เพลงพญาโศกประกอบนาฏลีลาเป็นการแสดงของตนเอง โดยขอร้องให้ลำหับสีเพลงนี้ให้เธอ ลำหับรับปาก ทุกวันเพ็ญโพยมมาฝึกซ้อมที่ไร่ร่วมเดือน เพ็ญโพยมพบกับคนังมีปากเสียงกันทุกวัน เพ็ญเปรยว่าอยากเจอหน้าน้องชายของคนังมาก เพราะลำหับคุยอวดไว้ว่าเป็นเด็กดีเรียนเก่ง คนังบอกลำหับว่าจักรินกลับมาแล้วไม่ยอมกลับมาบ้าน ลำหับน้อยใจเงียบๆ ให้คนังโทรไปหาจักริน จักรินบอกกำลังคุยเรื่องงาน และต้องการรถหนึ่งคันเพื่อใช้ติดต่องาน ไม่อยากให้ใครคิดว่ายากจนเพราะมีแฟนร่ำรวยมาก สองคนได้แต่อึ้ง แต่คนังก็รับปากน้องชายพยายามจะหาเงินให้จักรินไปดาวน์รถให้ได้
ถึงวันงานมีการแสดงต่างๆ พอถึงชุดที่เพ็ญโพยมแสดง ทุกคนเงียบกริบ เพลงพญาโศกหวานเย็นไพเราะจนทุกคนต้องนิ่งเงียบ ลีลาการแสดงของเพ็ญโพยมประทับใจคนดูที่สุด เมื่อจบการแสดงทุกคนต่างลุกขึ้นยืนปรบมือยกนิ้วส่งเสียงเอาอีกๆ ให้เพ็ญโพยม จักรินรับหน้าที่เป็นพิธีกรเป็นตัวแทนสัมภาษณ์เพ็ญโพยม การแสดงครั้งนี้มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ด้วย รามดูรายการนี้ ส่วนพลเทพไปดูที่ห้องส่งจำเสียงเพลงพญาโศกนี่ได้ดี การสัมภาษณ์เริ่มต้นขึ้นจักรินชื่นชมเพ็ญโพยมมากมาย เพ็ญโพยมกลับบอกว่าต้องยกความดีความชอบนี้ให้กับผู้ที่สีซอสามสายเพลงพญาโศก ยศพงษ์และหลายคนต้องการให้พาไปดูคนสีซอผู้นี้ที่สุด เพ็ญโพยมพาจักรินไปพบลำหับทุกคนตะลึง ยศพงษ์และจักรินถึงกับนิ่งอึ้ง รามที่ดูอยู่บนเขาในป่าตะลึงนิ่งเงียบ เห็นลำหับแม้จะเป็นผู้ใหญ่สามสิบกว่าแต่ยังสวยงามได้แต่ถอนใจพูดไม่ออก แต่คนที่ทนไม่ได้คือเฉิดเฉลานั่นเอง ลืมตัวเผลอวิ่งเข้ากล้องมากระชากคันซอไปจากมือลำหับขว้างทิ้ง ตบหน้าจนทุกคนตกตะลึงพรึงเพริด เฉิดเฉลาอ้างว่าตบสั่งสอนลูกคนขายชาติ ผู้กำกับรายการสั่งตัดภาพเข้าโฆษณาทันที แต่ผู้ชมก็เห็นกันทั่วประเทศแล้ว เฉิดเฉลาโกรธมากที่ลำหับบังอาจมาเล่นซอสามสายในงานของเธอ คนังปราดมาปกป้องแม่ วิเวกกับตึ๋งหนืดก็เช่นกัน เพ็ญโพยมโกรธเฉิดเฉลามาก ด่ากลับเฉิดเฉลารุนแรง จักรินพูดไม่ออก เพ็ญโพยมขอโทษลำหับ ชาตรีมาปรากฏตัวและแนะนำให้ลำหับกลับไปก่อน ขณะกำลังจะกลับจักรินวิ่งตามมาบอกลำหับว่าอย่าบอกทุกคนว่าเป็นลูก คนังชกจักริน ลำหับต้องห้ามเอาไว้และรับปากว่าจะไม่บอกใคร จักรินโล่งอก เฉิดเฉลากับยศพงษ์ตามมาสำทับว่าอย่าคบหากับลูกสาวของพวกเขาเด็ดขาด และสั่งจักรินว่าพวกเราเป็นผู้ดีมีเงินอย่าไปเกลือกกลั้วคนชั้นต่ำ จักรินรีบทำท่าดูถูกผสมทันที คนังจะอาละวาดอีกครั้ง ลำหับต้องรีบห้าม
พลเทพกลับไปรายงานพ่อถึงเรื่องลำหับและคนัง รามบอก สน (จิรภัทร พานเงิน) สมุนมือขวาว่าต้องการให้สนติดตามลำหับมาเป็นพวกให้ได้ สนบอกว่าชาตรีเป็นคนรักของลำหับ ชาตรีน่าจะช่วยพูดให้ได้ รามตกลงให้เอา คนังมาด้วย เพ็ญโพยมไม่สบายใจมาก คนังก็แค้นมากที่เฉิดเฉลามาตบหน้าแม่ และโดนดูถูกจากยศพงษ์ คนังเก็บความแค้นเอาไว้เต็มอก วิเวกกับตึ๋งหนืดต่อว่าลำหับว่าทำไมไม่บอกเฉิดไปว่าจักรินคือลูกของเฉิดเฉลาที่ลำหับเก็บมาเลี้ยง ลำหับห้ามไว้เพราะจักรินจะอับอาย จักรินแอบมาอีกครั้งมาบอกว่าจะเอาเงินไปซื้อรถเขาเห็นไร่ใหญ่โตไม่เชื่อว่าไม่มีเงิน และห้ามไม่ให้ไปในที่พวกเพ็ญโพยมและจักรินไป ลำหับรับปากน้ำตาไหลพราก คนังประกาศว่าไม่ซื้อรถไม่ส่งเสียคนอกตัญญูอีกแล้ว ทำให้จักรินยิ่งแค้นใจมากชกต่อยกัน ลำหับแอบให้เงินจักรินไปก้อนหนึ่ง จักรินบอกว่าจะไม่มาที่นี่อีก เพราะกำลังจะไปเป็นลูกเขยของบ้านเฉิดเฉลาแล้ว เฉิดเฉลาพยายามสืบสวนว่าจักรินคือลูกใคร ฐานะดี ชาติตระกูลดีแค่ไหน จักรินก็เล่นบทหลอกลวงจนสองคนเชื่อว่าเป็นลูกเศรษฐี จักรินขอเพ็ญโพยมแต่งงาน เพ็ญโพยมปฏิเสธ วันหนึ่งเพ็ญโพยมแอบมาที่ไร่ของลำหับยังไม่ทันจะเข้าไปกลับพบกับคนังเสียก่อน เพ็ญโพยมโดนคนังต่อว่าแรงๆ เพ็ญโพยมแรงตอบ และจะเข้าไปพบลำหับให้ได้ สองคนยื้อยุดกัน คนังโกรธจับเพ็ญโพยมมัดโยนใส่รถของเพ็ญโพยมเองแล้วขับไปในป่าที่มีทะเลสาบกระท่อม ลุงเปรื่อง (สมชาย ศักดิกุล) ที่คนังคุ้นเคยซึ่งตอนนี้ลุงเปรื่องไม่อยู่แล้ว ทั้งสองทะเลาะตบตีกันในบ้านหลังนั้นหลายวัน คนังไม่ได้ล่วงเกินเพ็ญโพยม ในที่สุดทั้งสองก็แอบรักกันและกัน แต่ยังมีทิฐิอยู่ เฉิดเฉลา ยศพงษ์ และจักรินตามหาเพ็ญโพยมไม่พบ มั่นใจว่าโดนคนังลักพาตัว จักรินรับอาสามาถามลำหับ จักรินทำร้ายด่าทอลำหับ ชาตรีมาห้ามเอาไว้และต่อว่า ขู่ว่าจะไปแจ้งความ จักรินจึงกลับไป แล้วในที่สุดก็กลับมาอีกพร้อมกับยศพงษ์ สมุน และเฉิดเฉลามาบังคับให้ลำหับบอกให้ได้ ลำหับบอกไม่รู้ไม่เห็นเพ็ญโพยมกับคนัง
คนังผูกเพ็ญโพยมไว้ตลอดเวลา ทีแรกเพ็ญโพยมไม่ยอมกินอาหาร แกล้งสั่งให้ให้คนังไปหาอาหารแปลกมาให้กินเช่นปลาโน่นปลานี่ คนังตากฝนไปหาปลาดังกล่าวมาให้เพ็ญโพยมโดนขวดแตกในน้ำบาดเป็นแผลเหวอะหวะอักเสบบวมไข้ขึ้น คนังจึงตัดสินใจปล่อยเพ็ญโพยมออกไป คนังพยายามตะกายจะไปหาหมอเองล้มลงหมดสติ ฟื้นมาอีกทีพบว่าเพ็ญโพยมพาคนังไปหาหมอ คนังบอกไม่ต้องการให้ช่วยเหลือให้เพ็ญโพยมกลับไป เพ็ญโพยมบอกไม่ไปจนกว่าคนังจะอาการดีขึ้น ทั้งสองจึงพากันกลับไปที่กระท่อมอีกครั้ง คนังห่วงลำหับมากทำตัวให้ดูเหมือนอาการดีขึ้น ทั้งสองจึงพากันกลับบ้าน ที่บ้านลำหับพวกเฉิดเฉลาบุกมาอีกครั้งมาทำร้ายวิเวกกับตึ๋งหนืดจนหมดสติ และจะจับตัวลำหับจะเอาไปเป็นตัวประกันให้คนังออกมา แต่เฉิดเฉลาต้องการมากกว่านั้นคือเผาบ้านลำหับ สั่งให้จักรินเป็นคนเผาเพื่อพิสูจน์ว่ารักเพ็ญโพยมจริง จักรินลำบากใจไม่น้อยเพราะมากเกินไป ที่นี่ตนเองเคยอยู่มาตั้งแต่เล็กๆ แต่ยศพงษ์สั่งให้เผา หากไม่เผาจะไม่ยกเพ็ญโพยมให้ จักรินพายามลากลำหับออกมาจากบ้าน ลำหับยืนกรานว่าจะตายคาบ้าน เฉิดเฉลากับยศพงษ์บอกตามใจ ลำหับสลัดหนีเข้าบ้าน ในที่สุดจักรินก็เผาบ้าน ลำหับหยิบซอนั่งสีเพลงพญาโศกน้ำตาไหลพรากในบ้าน ขณะที่เพ็ญโพยมกับคนังพากันมาใกล้บ้านมากแล้ว รถน้ำมันหมดสองคนลงเดิน คนังมองไปเห็นควันไฟออกมาจากบ้าน คนังวิ่งสุดแรงเกิดรีบจนทำจดหมายหล่นลงพื้นหลายฉบับ เพ็ญโพยมหยิบไว้เก็บใส่กระเป๋าตัวเองเดินตามคนังไป คนังไปถึงบ้านไฟไหม้เกือบหมดแล้ว จักรินมองอึกอัก ยศพงษ์กับเฉิดเฉลายืนมองหัวเราะด้วยความสะใจ คนังปราดมาชกต่อยจักริน วิเวกกับตึ๋งหนืดฟื้นขึ้นมาบอกคนังว่า ลำหับน่าจะติดอยู่ในบ้าน คนังวิ่งไปในบ้านที่ไฟกำลังลุกท่วมช่วยลำหับออกมาได้ ให้วิเวกกับตึ๋งหนืดดูแลแม่ คนังลงมือชกกับจักรินด่าว่าอกตัญญูไม่รู้จักบุญคุณแม่ที่เลี้ยงดูมา ยศพงศ์กับเฉิดเฉลาแปลกใจ และโกรธมากที่รู้ว่าจักรินกลายเป็นลูกของลำหับแต่มาหลอก ยศพงษ์ชักปืนมาจะยิงจักริน วิเวกกับตึ๋งหนืดตะโกนใส่เฉิดเฉลาบอกว่าจักรินนี่แหละลูกของเฉิดเฉลาที่เกิดกับบริพัตร ที่เฉิดเฉลาเอาไปทิ้งไว้สถานเด็กกำพร้า ลำหับรับปากบริพัตรจึงไปรับมาเลี้ยง เฉิดเฉลาตะลึง จักรินตะลึงแต่กลายเป็นดีใจที่มีแม่รวย คนังก็ตกใจเพิ่งรู้ความจริง แต่ยศพงษ์ก็ยังไม่พอใจเพราะยิ่งคิดว่าเป็นลูกบริพัตรก็ยิ่งไม่ชอบใจจะยิงต่อ เฉิดเฉลาวิ่งมาบังแล้วบอกว่ายิงไม่ได้แถมดึงปืนจากมือยศพงษ์มายัดใส่มือจักรินแล้วสั่งให้ยิงคนัง จักรินจะยิงคนัง ลำหับมาห้ามไว้ เฉิดเฉลาบอกให้ยิงลำหับ เพ็ญโพยมวิ่งมาบอกว่าคนังไม่ได้ลักพาตัวเธอไป จักรินกำลังจะยิงใส่ลำหับ คนังโดดมาแย่งปืน สองคนแย่งปืนกันไปมา แล้วปืนก็ลั่นดังขึ้นไปโดนเอาพลเทพที่รามส่งลงมาหาลำหับ พลเทพบอกกับลำหับว่าเขาคือน้องชายของลำหับที่รามส่งมาคอยดูลำหับ ลำหับร้องไห้ด้วยความเสียใจ เฉิดรีบสั่งให้จักรินเอาปืนยัดใส่มือคนังที่กำลังตกใจมาก
เฉิดเลา ยศพงษ์ และจักรินช่วยกันลากเพ็ญโพยมกลับออกไป วิเวกกับตึ๊งหนืดให้คนังรีบหนี ส่วนสมุนที่มาด้วยกับพลเทพทำทีช่วยคนังหนี แต่ที่แท้แอบจับตัวคนังไปให้ราม ส่วนศพของพลเทพที่ตายในอ้อมกอดของลำหับ มีคนของรามมาเอาศพไป ลำหับหมดสิ้นทุกอย่างตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยกันเอาคันซอแทงหน้าอก ชาตรีมาห้ามเอาไว้ทัน ปลอบโยนลำหับว่าถ้าต้องการกู้เกียรติว่าไม่ใช่คนขายชาติก็ต้องกอบกู้เกียรตินั่นกลับคืนมาด้วยการช่วยชาติ ลำหับตกลง ชาตรีจึงแนะให้ลำหับไปพบรามบนเขา ลำหับไปพบราม รามไม่ได้ทำท่ายินดีมากมายแต่โอบกอดตามรูปแบบที่ทุกคนทำกันเท่านั้น ลำหับบอกจะมาขออยู่ด้วย รามบอกให้ลำหับพิสูจน์ตนเองด้วยการฆ่าใครหนึ่งให้ดู ลำหับรับปาก แต่พอเห็นคนที่รามสั่งให้ฆ่าเท่านั้น ลำหับใจสลายตกใจมาก เพราะนั่นคือคนังนั่นเอง โทษฐานที่ยิงพลเทพตาย และไม่ใช่แค่คนังที่โดนจับ พวกยศพงษ์ เฉิดเฉลา เพ็ญโพยม และจักริน ก็โดนด้วยเช่นกัน รามสั่งให้ลำหับยิงคนัง หรือไม่ก็มีตัวเลือกให้อีกคนคือจักริน เพราะอยู่ในข่ายยิงพลเทพตายเช่นเดียวกัน ถ้าไม่ยิงคนใดคนหนึ่งทุกคนที่เหลืออยู่ต้องตายหมด เฉิดเฉลาร้องห้ามไม่ให้ยิงจักริน ยศพงษ์บอกยิงใครก็ได้ เฉิดเฉลาจึงบอกความจริงออกมาว่าจักรินคือลูกเธอกับเขา เพ็ญโพยมยืนยันว่าคนที่ทำปืนลั่นใส่พลเทพคือจักริน แม้ว่าจะเป็นพี่ชายของเธอก็ตาม แต่มันคือความถูกต้อง เฉิดเฉลากับยศพงษ์พากันตบหน้าเพ็ญโพยม ลำหับรีรอไม่ยิงสักที รามจึงสั่งให้สนจัดการยิงให้หมดทุกคน ลำหับขอสีซอเพลงพญาโศกก่อน รามยอมให้ลำหับสีซอจนจบเพลง รามสั่งให้ยิงอีก ลำหับยกปืนมากลั้นหายใจ หันปากกระบอกปืนใส่ตนเองทันที สนยืนตรงนั้นยิงไปที่รามทันทีเช่นกัน ชาตรีเข้ามาแย่งปืนจากลำหับ สนยิงรามล้มลง ชาตรีกระชากลำหับให้ไปด้วย คนังกระชากเพ็ญโพยมหลบออกมาทันที ยศพงษ์โกรธต่อว่าเฉิดเฉลา และแย่งปืนจากคนของรามจะยิงเฉิดเฉลา เฉิดเฉลาแย่งปืนจากอีกคนยิงยศพงษ์ตายเช่นกัน จักรินวิ่งหนีจึงโดนคนของรามยิงตาย เพ็ญโพยมเอาจดหมายของจักรินที่เขียนมาไถเงินคนัง และขอบใจเรื่องที่ทำสอบแทนทุกครั้งที่สอบ ที่คนังทำหล่นไว้ให้ลำหับดูว่าคนังไม่ใช่คนเรียนไม่เก่ง คนังเสียสละให้จักรินตลอดมา เธอจะไม่กลับไปเรียนต่อแต่จะขออยู่ทำไร่ดอกไม้ และเรียนซอสามสายกับลำหับต่อไป คนังยิ้มให้เพ็ญโพยม ลำหับไปที่โขดหินและถือซอสามสายที่นั่นนึกถึงบริพัตร ชาตรีไปหาลำหับและบอกว่าเขาคือผู้ที่บริพัตรฝากให้ดูแลและช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีของลำหับกลับคืนมา ซึ่งลำหับก็ได้ทำแล้ว เขาขอคุ้มครองลำหับต่อไปได้ไหม พร้อมกับเอาจดหมายฝากฝังจากบริพัตรให้ลำหับดู ลำหับยิ้มให้ชาตรีและเล่นเพลงพญาโศกอีกครั้ง ชาตรีพึมพำบอกว่าลำหับคือเจ้าแม่พญาโศกจริงๆ