ละคร สาวน้อยอ้อยควั่น
ดู 8,249 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 10 กันยายน 2558 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 18:30 - 19:45 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ประทุม สินธุอุส่าห์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ คำหล้า, บทโทรทัศน์ วรพันธ์ รวี | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ สาวน้อยอ้อยควั่น
ณัฐวุฒิ (สวิช เพชรวิเศษศิริ) เศรษฐีหนุ่มวัยสี่สิบปี มีภรรยาชื่อ สินีนาฎ (พัชรมัย สุขประเสริฐ) แต่ทั้งคู่ยังไม่มีลูก จึงได้รับ นัทธร (พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์) หลานภรรยามาเป็นลูกเลี้ยง ณัฐวุฒิได้เจอกับ ส่าง (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) และมาเจอกับเจ้านางบุญญวง เขาตกหลุมรักเธอทันที ต่อมาทั้งคู่ได้ตกเป็นของกันละกัน เมื่อสินีนาฎรู้เรื่องเข้าจึงส่งคนไปทำร้ายเจ้านางบุญญวงซึ่งกำลังตั้งท้อง ส่วนสินีนาฎใช้โอกาสนี้ขมขู่เจ้านางบุญญวงว่าให้ยกเป็นลูกของเธอตามกฎหมาย เจ้านางบุญญวงได้คลอดลูกชื่อว่า ส่วยหย่ง (พัชญา เพียรเสมอ) เธอยอมยกลูกให้สินีนาฎ แล้วเธอจึงตัดสินใจไปอยู่ประเทศอเมริกา ส่างรู้เรื่องทุกอย่างดี ณัฐวุฒิและนัทธรดีใจที่มีสมาชิกเพิ่ม แต่สินินาฎดันต้องมารถคว่ำเสียชีวิตเสียก่อน หนูส่วยหย่งรอดชีวิต ส่างจึงต้องการส่งส่วยหย่งให้ณัฐวุฒิ แต่เกิดจลาจลในค่ายพัก ส่างเสียชีวิตก่อนที่จะได้บอกความจริง หนูส่วยหย่งจึงตกอยู่ในการดูแลของศูนย์ดูแลกันตาด้วยตามมีตามเกิด โดยมีสัญลักษณ์ตัวแทนคือเหรียญห้อยคอ สลักชื่อบุญญวงและส่วยหย่ง ต่อมา นางมะขิ่น (ทราย เจริญปุระ) แรงงานต่างด้าวขายหนูส่วยหย่งให้กับ สมใจ (จารุศิริ ภูวนัย)
ณัฐวุฒิแทบเป็นบ้าเมื่อรู้ว่าบุญญวงหนีไปอเมริกาและส่วยหย่งหายไป เขาตามหาแต่ไม่พบจนล้มป่วย ส่วนหนูส่วยหย่งตามสมใจมาที่กรุงเทพฯ และเปลี่ยนชื่อว่า อ้อยควั่น (พัชญา เพียรเสมอ) ถูกใช้ให้ขอทานและโดนทารุณประจำ อ้อยควั่นมีความสามารถพิเศษคือชอบร้องเพลงและเต้น สะกดผู้คนให้บริจาคเงินได้ไม่ยาก เธอจึงถูกหมั่นไส้จากขอทานที่อิจฉา กิตติศัพท์ของอ้อยควั่นเป็นที่ต้องการของแก๊งขอทานกลุ่มอื่น เธอได้ถูกแก๊งนางสมรลักพาตัว แม้จะหนีออกมาได้พร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ แต่อ้อยควั่นก็ถูกจับซ้อมจนป่วยและจะถูกส่งไปขายที่ชายแดน และเธอก็หนีออกมาได้อีกครั้ง เตร็ดเตร่ไปตามถนนจนมาเจอกับสุนัขจรจัดชื่อมู่ลี่ ที่กลายเป็นเพื่อนซี้ในเวลาต่อมาที่ไปไหนมาไหนด้วยกันและหาเลี้ยงประทังชีวิตไปวันๆ อ้อยควั่นอยากมีใครสักคนข้างกายและอยากตามหาแม่ แต่แล้วมีเหตุการณ์หนึ่งที่อ้อยควั่นและมู่ลี่ช่วยป้าเมตตาเอากระเป๋าคืนมาจากโจรได้ ป้าเมตตาให้ความเมตตาจึงนำทั้งสองไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าที่ป้าทำงานอยู่ อ้อยควั่นจึงมีชื่อใหม่ว่า กชกร (พัชญา เพียรเสมอ) เธอได้เรียนหนังสือและทำงานเล็กๆ น้อยๆ จนถึงอายุ 12 ปี เริ่มเป็นสาวแล้ว
ส่วนณัฐวุฒิยังคงตามหาคนที่รักไม่เจอ นัทธรที่ช่วยอีกแรงก็ยังไม่พบ นัทธรอยากรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดูเพื่อที่จะได้สืบหาลูกสาวของณัฐวุฒิ จึงให้เขียนเรียงความเรื่อง แม่จ๋าอยู่ไหน เพื่อคัดเลือกคนที่เข้าตา เขาประทับใจบทความของอ้อยควั่นจึงส่งเธอไปเรียนโรงเรียนที่เขาเป็นผู้อำนวยการ นัทธรอบรมอ้อยควั่นเสมอจนหญิงสาวกลัว แต่ก็มีเพื่อนใหม่ชื่อภัคภิรมย์ ที่ชอบพูดจาดูถูก และศลิษาที่เข้ามาใหม่ อ้อยควั่นมักจะเขียนจดหมายผ่านเลขาให้คุณพ่อ อ้อยควั่นมีชีวิตที่สุขสบายมากความจำเป็น แต่คุณพ่อก็ยังส่งเสียให้ เธออยากจะเจอหน้าแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง พร้อมๆ กับนัทธรที่ชอบอมรบเรื่องเดิมๆ จนกระทั่งเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 มู่ลี่ตายด้วยโรคร้าย แม้จะเสียใจคุณพ่อก็ได้แต่ปลอบว่าชีวิตต้องเดินต่อไป อ้อยควั่นสอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกันกับภัคและศลิษา มีการเลี้ยงฉลองสอบติด นัทธรที่ในตอนนี้ดูใจจนอ้อยควั่นลืมภาพความดุร้ายนั้นไปเลย ศลิษาบอกว่าโตแล้วก็ควรจะมองหนุ่มๆ บ้าง แต่คุณพ่อก็ส่งข้อความมาว่าควรตั้งใจเรียน อย่าข้องเกี่ยวกับผู้ชาย เพราะเขาหวงอ้อยควั่นมาก อ้อยควั่นให้สัญญา คุณพ่อจึงแซวกลับว่าจะทำได้จริงหรือ
เจ้าบุญญวงเดินทางกลับเมืองไทยเธอเสียใจมากที่ลูกตนเองหายไป และได้พบกับนัทธรจึงออกแรงตามหากันอีกครั้ง จนกระทั่งเจ้าบุญญวงได้พบอ้อยควั่นและสนใจมากเป็นพิเศษ เมื่อสอบถามอ้อยควั่นได้แต่บอกว่าพ่อแม่เสียชีวิตแล้ว เมื่อถึงช่วงหยุดฤดูร้อนอ้อยควั่นปฏิเสธที่จะไปเที่ยวเมืองนอก เพราะคิดว่าฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น คุณพ่อจึงให้ไปพักผ่อนบ้านบนเขา นัทธรและป้าไพลินให้การดูแล อ้อยควั่นนับถือ ศรุต (ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส) เป็นพี่ชาย และรู้มาว่าคุณพ่อของอานัทธรและบุญญวงคือสามีภรรยากัน อ้อยควั่นได้หางานพิเศษทำเป็นนางแบบเพื่อหารายได้ให้ตัวเอง แม้คุณพ่อจะส่งเงินมาไม่ขาดมือ อ้อยควั่นพยายามขอร้องอยากเจอหน้าคุณพ่อแต่ก็ได้รับคำตอบที่ว่าเมื่อถึงเวลาจะได้เจอกันแน่นอน เธอจึงตั้งหน้าตั้งตารอ อ้อยควั่นรู้มาว่าบุญญวงพลัดพรากจากลูกสาวที่ชื่อส่วยหย่ง จึงเกิดความสงสาร หลังจากเรียนจบอ้อยควั่นผิดหวังที่คุณพ่อไม่มาเจอหน้า ศรุตอกหักจากอ้อยควั่นและหันมาชอบภัค บุญญวงได้พบกับมะขิ่นทั้งสองดีใจมาก มะขิ่นออกอุบายว่าลูกบุญญวงถูกสมใจหลอกให้เป็นขอทาน บุญวงและณัฐวุฒิตกใจจึงรีบออกตามหา มะขิ่นก็เช่นกันที่โลภอยากได้เงินทางอ้อม อ้อยควั่นได้ทำงานเป็นนักออกแบบและอาศัยในคอนโดที่พ่อมอบให้ เธอพยายามทำให้อานัทธรและศลิษาใกล้ชิดกัน แต่คุณพ่อตอบกลับมาว่าไม่ให้ยุ่งเรื่องคนอื่น พร้อมกับถามความในใจอ้อยควั่น หญิงสาวจึงตอบว่าชอบอานัทธรแต่คงเป็นไปไม่ได้ คุณพ่อบอกว่าใกล้ถึงเวลาที่จะได้เจอกันแล้ว อ้อยควั่นดีใจอย่างมาก และได้นัดพบให้ไปเจอคนที่ใส่เนคไทที่อ้อยควั่นเคยให้คุณพ่อในงานเลี้ยงครบรอบบริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนนัทธรบอกกับศลิษาว่าคิดแบบพี่น้องเท่านั้น อ้อยควั่นรับรู้จึงสงสารเพื่อน อ้อยควั่นแต่งตัวสวยไปหาคุณพ่อในงานเลี้ยง แต่ยังไม่ทันจะได้เจออ้อยควั่นรีบไปหาสร้อยที่ ปราณี (วิยะดา อุมารินทร์) ทิ้งไว้ที่บ้าน ทุกคนจึงได้รู้ว่าอ้อยควั่น บุญญวง และณัฐวุฒิคือครอบครัวเดียวกัน ทั้งสามสวมกอดกันด้วยความปลื้มปิติและยินดี เมื่อนัทธรเดินเขามาอ้อยควั่นแทบอึ้ง รู้ทันทีเลยว่านัทธรก็คือคุณพ่อที่เธอเคยจดหมายคุยด้วยทุกวันนั่นเอง นัทธรเขินที่จะกอดอ้อยควั่น ส่วนพวกมะขิ่นกับสมใจถูกจับตัวไปเพราะลักพาตัวนางปราณีกุญแจสำคัญที่เก็บสร้อยของอ้อยควั่นเอาไว้ ความสงบสุขจึงเกิดขึ้นอย่างแท้จริง พร้อมกับครอบครัวและความรักของอ้อยควั่นที่สมบูรณ์แบบ
ณัฐวุฒิแทบเป็นบ้าเมื่อรู้ว่าบุญญวงหนีไปอเมริกาและส่วยหย่งหายไป เขาตามหาแต่ไม่พบจนล้มป่วย ส่วนหนูส่วยหย่งตามสมใจมาที่กรุงเทพฯ และเปลี่ยนชื่อว่า อ้อยควั่น (พัชญา เพียรเสมอ) ถูกใช้ให้ขอทานและโดนทารุณประจำ อ้อยควั่นมีความสามารถพิเศษคือชอบร้องเพลงและเต้น สะกดผู้คนให้บริจาคเงินได้ไม่ยาก เธอจึงถูกหมั่นไส้จากขอทานที่อิจฉา กิตติศัพท์ของอ้อยควั่นเป็นที่ต้องการของแก๊งขอทานกลุ่มอื่น เธอได้ถูกแก๊งนางสมรลักพาตัว แม้จะหนีออกมาได้พร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ แต่อ้อยควั่นก็ถูกจับซ้อมจนป่วยและจะถูกส่งไปขายที่ชายแดน และเธอก็หนีออกมาได้อีกครั้ง เตร็ดเตร่ไปตามถนนจนมาเจอกับสุนัขจรจัดชื่อมู่ลี่ ที่กลายเป็นเพื่อนซี้ในเวลาต่อมาที่ไปไหนมาไหนด้วยกันและหาเลี้ยงประทังชีวิตไปวันๆ อ้อยควั่นอยากมีใครสักคนข้างกายและอยากตามหาแม่ แต่แล้วมีเหตุการณ์หนึ่งที่อ้อยควั่นและมู่ลี่ช่วยป้าเมตตาเอากระเป๋าคืนมาจากโจรได้ ป้าเมตตาให้ความเมตตาจึงนำทั้งสองไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าที่ป้าทำงานอยู่ อ้อยควั่นจึงมีชื่อใหม่ว่า กชกร (พัชญา เพียรเสมอ) เธอได้เรียนหนังสือและทำงานเล็กๆ น้อยๆ จนถึงอายุ 12 ปี เริ่มเป็นสาวแล้ว
ส่วนณัฐวุฒิยังคงตามหาคนที่รักไม่เจอ นัทธรที่ช่วยอีกแรงก็ยังไม่พบ นัทธรอยากรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดูเพื่อที่จะได้สืบหาลูกสาวของณัฐวุฒิ จึงให้เขียนเรียงความเรื่อง แม่จ๋าอยู่ไหน เพื่อคัดเลือกคนที่เข้าตา เขาประทับใจบทความของอ้อยควั่นจึงส่งเธอไปเรียนโรงเรียนที่เขาเป็นผู้อำนวยการ นัทธรอบรมอ้อยควั่นเสมอจนหญิงสาวกลัว แต่ก็มีเพื่อนใหม่ชื่อภัคภิรมย์ ที่ชอบพูดจาดูถูก และศลิษาที่เข้ามาใหม่ อ้อยควั่นมักจะเขียนจดหมายผ่านเลขาให้คุณพ่อ อ้อยควั่นมีชีวิตที่สุขสบายมากความจำเป็น แต่คุณพ่อก็ยังส่งเสียให้ เธออยากจะเจอหน้าแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง พร้อมๆ กับนัทธรที่ชอบอมรบเรื่องเดิมๆ จนกระทั่งเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 มู่ลี่ตายด้วยโรคร้าย แม้จะเสียใจคุณพ่อก็ได้แต่ปลอบว่าชีวิตต้องเดินต่อไป อ้อยควั่นสอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกันกับภัคและศลิษา มีการเลี้ยงฉลองสอบติด นัทธรที่ในตอนนี้ดูใจจนอ้อยควั่นลืมภาพความดุร้ายนั้นไปเลย ศลิษาบอกว่าโตแล้วก็ควรจะมองหนุ่มๆ บ้าง แต่คุณพ่อก็ส่งข้อความมาว่าควรตั้งใจเรียน อย่าข้องเกี่ยวกับผู้ชาย เพราะเขาหวงอ้อยควั่นมาก อ้อยควั่นให้สัญญา คุณพ่อจึงแซวกลับว่าจะทำได้จริงหรือ
เจ้าบุญญวงเดินทางกลับเมืองไทยเธอเสียใจมากที่ลูกตนเองหายไป และได้พบกับนัทธรจึงออกแรงตามหากันอีกครั้ง จนกระทั่งเจ้าบุญญวงได้พบอ้อยควั่นและสนใจมากเป็นพิเศษ เมื่อสอบถามอ้อยควั่นได้แต่บอกว่าพ่อแม่เสียชีวิตแล้ว เมื่อถึงช่วงหยุดฤดูร้อนอ้อยควั่นปฏิเสธที่จะไปเที่ยวเมืองนอก เพราะคิดว่าฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น คุณพ่อจึงให้ไปพักผ่อนบ้านบนเขา นัทธรและป้าไพลินให้การดูแล อ้อยควั่นนับถือ ศรุต (ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส) เป็นพี่ชาย และรู้มาว่าคุณพ่อของอานัทธรและบุญญวงคือสามีภรรยากัน อ้อยควั่นได้หางานพิเศษทำเป็นนางแบบเพื่อหารายได้ให้ตัวเอง แม้คุณพ่อจะส่งเงินมาไม่ขาดมือ อ้อยควั่นพยายามขอร้องอยากเจอหน้าคุณพ่อแต่ก็ได้รับคำตอบที่ว่าเมื่อถึงเวลาจะได้เจอกันแน่นอน เธอจึงตั้งหน้าตั้งตารอ อ้อยควั่นรู้มาว่าบุญญวงพลัดพรากจากลูกสาวที่ชื่อส่วยหย่ง จึงเกิดความสงสาร หลังจากเรียนจบอ้อยควั่นผิดหวังที่คุณพ่อไม่มาเจอหน้า ศรุตอกหักจากอ้อยควั่นและหันมาชอบภัค บุญญวงได้พบกับมะขิ่นทั้งสองดีใจมาก มะขิ่นออกอุบายว่าลูกบุญญวงถูกสมใจหลอกให้เป็นขอทาน บุญวงและณัฐวุฒิตกใจจึงรีบออกตามหา มะขิ่นก็เช่นกันที่โลภอยากได้เงินทางอ้อม อ้อยควั่นได้ทำงานเป็นนักออกแบบและอาศัยในคอนโดที่พ่อมอบให้ เธอพยายามทำให้อานัทธรและศลิษาใกล้ชิดกัน แต่คุณพ่อตอบกลับมาว่าไม่ให้ยุ่งเรื่องคนอื่น พร้อมกับถามความในใจอ้อยควั่น หญิงสาวจึงตอบว่าชอบอานัทธรแต่คงเป็นไปไม่ได้ คุณพ่อบอกว่าใกล้ถึงเวลาที่จะได้เจอกันแล้ว อ้อยควั่นดีใจอย่างมาก และได้นัดพบให้ไปเจอคนที่ใส่เนคไทที่อ้อยควั่นเคยให้คุณพ่อในงานเลี้ยงครบรอบบริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนนัทธรบอกกับศลิษาว่าคิดแบบพี่น้องเท่านั้น อ้อยควั่นรับรู้จึงสงสารเพื่อน อ้อยควั่นแต่งตัวสวยไปหาคุณพ่อในงานเลี้ยง แต่ยังไม่ทันจะได้เจออ้อยควั่นรีบไปหาสร้อยที่ ปราณี (วิยะดา อุมารินทร์) ทิ้งไว้ที่บ้าน ทุกคนจึงได้รู้ว่าอ้อยควั่น บุญญวง และณัฐวุฒิคือครอบครัวเดียวกัน ทั้งสามสวมกอดกันด้วยความปลื้มปิติและยินดี เมื่อนัทธรเดินเขามาอ้อยควั่นแทบอึ้ง รู้ทันทีเลยว่านัทธรก็คือคุณพ่อที่เธอเคยจดหมายคุยด้วยทุกวันนั่นเอง นัทธรเขินที่จะกอดอ้อยควั่น ส่วนพวกมะขิ่นกับสมใจถูกจับตัวไปเพราะลักพาตัวนางปราณีกุญแจสำคัญที่เก็บสร้อยของอ้อยควั่นเอาไว้ ความสงบสุขจึงเกิดขึ้นอย่างแท้จริง พร้อมกับครอบครัวและความรักของอ้อยควั่นที่สมบูรณ์แบบ