ละคร รักล้นดอย
ดู 4,949 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันเสาร์ วันอาทิตย์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 11 กรกฎาคม 2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 09:00 - 09:45 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ตรัยยุทธ กิ่งภากรณ์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท ปรากฏการณ์ดี จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ รักล้นดอย
ที่ชายแดนระหว่างเชียงรายและพม่า เสียงผู้คนร้องเอะอะโวยวายจนสัตว์ป่าต่างๆ ที่อยู่ในป่าใหญ่บนยอดดอยต่างแตกฮือหนีตายกันโกลาหล ไม่ใช่เพราะเกิดสงครามระหว่างไทยพม่า แต่เสียงที่เอะอะโวยวายนั่นคือเสียงของ ดาวน้อย (อังคณา วรรัตนาชัย) เจ้าหญิงแห่งเผ่าซอเลี๊ยะ กำลังระดมปาอุจจาระเป็ดภูเขาใส่ กษิดิน (พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์) ผู้บริหารหนุ่มวัย 27 ปี เจ้าของบริษัท วันเดอร์แลนด์ ออร์กาไนซ์ จำกัด บริษัทที่ผลิตสื่อเพื่อความบันเทิง ชื่อบริษัทฟังแล้วอาจจะดูเหมือนเป็นองค์กรใหญ่โต แต่ที่จริงแล้วบริษัทของกษิดินเป็นบริษัทขนาดเล็กมากถึงเล็กที่สุด เพราะมีพนักงานเพียงสองคนคือตัวเขากับ ยอดชาย (ณรงค์ศักดิ์ อังกาบ) เท่านั้น ภายใต้สโลแกนที่ดูดีเกินกว่าบริษัทก็คือ ความสุขของคุณ ความสุขของเรา กษิดินกำลังจะได้รับงานใหญ่ที่ทำให้เขาลืมตาอ้าปากได้ ด้วยความที่กษิดินอยากได้งานชิ้นนี้มากจึงยอมทำทุกอย่าง แม้กระทั่งคนบอกให้ขึ้นมาไหว้พระธาตุประจำปีเกิด กษิดินก็ต้องมา แถมด้วยความคิดของยอดชายที่บอกให้ทำบุญกับชาวเขาก็น่าจะดี กษิดินก็ไม่ขัด จนกระทั่งเกิดสงครามขึ้นระหว่างดาวน้อยกับเขานั่นเอง สาเหตุที่ดาวน้อยกับกษิดินเปิดศึกเหม็นๆ ใส่กันก็เพราะว่า ดาวน้อยดันไปได้ยินกษิดินพูดกับยอดชายถึงความน่ารังเกียจของชนเผ่าของเธอนั่นเอง จึงทำให้ดาวน้อยผู้ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครทนไม่ได้ทันทีเมื่อมีใครมาดูถูกเผ่าของเธอ เพราะมีคำกล่าวในเผ่าของเธอว่า ดินคือพ่อ น้ำคือแม่ เพื่อนแท้คือพงไพร
แม้ว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดีจากการไกล่เกลี่ยของ งอแซ (ถนอม สามโทน) ผู้เป็นทั้งหัวหน้าเผ่าและพ่อของดาวน้อย แต่ก็ทำให้ทั้งกษิดินและดาวน้อยต่างก็จงเกลียดจงชังกับความเป็นตัวตนของอีกฝ่าย แม้ว่าดาวน้อยจะใจเย็นลงบ้างแต่คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนยิ่งกว่ากลับเป็น จ่อไม้โป้ หรือ ไม้ (นนทพันธ์ ใจกันทา) ลูกชายของ ยะขิ่น (กล้วย เชิญยิ้ม) หมอผีประจำหมู่บ้าน ไม้แอบหลงรักดาวน้อยมาตั้งแต่เด็กแต่ก็ไม่กล้าบอกดาวน้อยเพราะกลัวจะผิดหวังนั่นเอง แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่ไม้ไม่ได้บอกความในใจให้ดาวน้อยฟังคงเป็นเพราะ กระจง (ธีระพล หอมจม) หนุ่มประหลาดที่สุดในเผ่าซอเลี้ยะเพราะมีนิสัยตุ้งติ้งเหมือนผู้หญิง จนไม่รู้จะเรียกว่าเพื่อนสาวหรือเพื่อนชายของดาวน้อย ไม่เคยเปิดโอกาสให้ดาวน้อยกับไม้ได้อยู่กันตามลำพัง จนทำให้ไม้กับกระจงกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาประจำเผ่าไปนั่นเอง แต่คนอย่างดาวน้อยไม่เคยยอมคนอยู่แล้ว ดาวน้อยคิดแก้เผ็ดกษิดินจึงแอบเข้าไปในรถของกษิดินในวันที่กษิดินกำลังจะกลับเพื่อเอาลูกดอกอาบขี้กิ้งกือไปทำให้กษิดินสลบเพื่อจะเอาตัวเขามาสั่งสอนให้สาสม แต่แล้วเจ้าป่าเจ้าเขาหรือโชคชะตากลั่นแกล้งไม่แน่ใจ เมื่อดาวน้อยดันทำลูกดอกจิ้มโดนตัวเอง ดาวน้อยตกใจเพราะเธอรู้ว่าฤทธิ์ของขี้กิ้งกือนั่นแรงแค่ไหน แล้วสิ่งที่ดาวน้อยเห็นเป็นครั้งสุดท้ายก็คือกษิดินกำลังเดินมาที่รถก่อนที่ดาวน้อยจะหมดสติไป
ขณะเดียวกันงอแซก็ฝันเห็น ฟ้าลั่น (สุพจน์ จันทร์เจริญ) ลูกชายอีกคนซึ่งเป็นพี่ชายของดาวน้อยที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพราะดันไปเชื่อคำชักชวนของคนเมืองที่ว่า "ชีวิตกรุงเทพ ชีวิตที่ดีกว่า" แม้ว่างอแซจะพยายามห้ามปรามเท่าไรแต่ฟ้าลั่นก็ไม่ฟัง จนทำให้ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง จากวันนั้นที่ฟ้าลั่นจากไปเป็นเวลาเกือบสองปีที่งอแซและดาวน้อยไม่ได้ข่าวคราวของเขาอีกเลย แล้วงอแซยิ่งไม่สบายใจเมื่อรู้ว่าดาวน้อยหายตัวไป จะว่าถูกเสือคาบไปกินก็ไม่น่าจะใช่เพราะสัตว์ในพงไพรแถวนี้ล้วนเป็นเพื่อนกับดาวน้อย หรือว่าดาวน้อยจะตกน้ำ ก็ไม่น่าจะใช่อีกเพราะดาวน้อยว่ายน้ำเก่งยิ่งกว่าปลาเสียอีก แล้วสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ที่งอแซคิดได้ว่าดาวน้อยหายไปไหนนั่นก็คือถูกพวกคนกรุงจับตัวไป หลังจากที่กษิดินกลับถึงกรุงเทพฯ ก็ทำการชุบตัวอบสมุนไพรเพื่อล้างกลิ่นอุจจาระเป็ดภูเขาเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่กษิดินจะได้เดินตามความฝันของตัวเองซะที แล้วอย่างแรกที่เขาต้องทำก็คือการนัด ปริม (วรางคนาง วุฑฒยากร) สาวสวยผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและกริยามารยาทชาติตระกูลไปด้วย ปริมได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีจาก ประไพศรี (กรองทอง รัชตะวรรณ) ผู้มีบารมีและอิทธิพลในชุมชนเพราะประไพศรีเป็นเจ้าของบ้านเช่าที่เรียกได้ว่าแทบจะทั้งแถบ แถมยังเป็นเจ้าของร้านอาหารครัวประไพที่ไร้คู่แข่ง ไม่ใช่เพราะรสชาติดีเด่นอะไร แต่ถ้าใครมาเปิดร้านข้าวขายแข่งกับประไพศรีในละแวกใกล้ๆ ประไพศรีจะขึ้นค่าเช่าให้อยู่กันไม่ได้ แต่ที่สำคัญประไพศรีคือกระดูกชิ้นโตที่คอยขัดขวางไม่ให้กษิดินได้แต่งงานกับปริม จนกว่าเขาจะทำให้ฐานะของเขาเขยิบขึ้นมาทัดเทียมนั่นเอง แค่กระดูกชิ้นเดียวอย่างประไพศรีก็จะแย่แล้ว นี่ยังมี สุทัศน์ (ศศิศศร สุทธิเกษม) ชายหนุ่มเจ้าสำอาง เจ้าของธุรกิจรองเท้าแตะยาง ผู้เพียบพร้อมไปด้วยฐานะและชาติตระกูล เรียกได้ว่าเหมาะสมกับปริมทุกกระเบียดนิ้ว ติดเพียงอย่างเดียวที่ปริมไม่ได้ชอบเขานั่นเอง
กษิดินตั้งใจจะทำให้ปริมและคุณหญิงประทับใจ กษิดินเรียกนักข่าวและปริมไปที่รถเพราะเขาได้เตรียมลูกโป่งและการขอแต่งงานไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ทันทีที่กษิดินเปิดท้ายรถออกนอกจากลูกโป่งจะลอยขึ้นมาแล้ว ฝ่าเท้าของดาวน้อยก็พุ่งตรงเข้าเต็มหน้าของกษิดิน ปริม และคุณหญิง รวมถึงนักข่าวต่างตกใจว่าดาวน้อยเป็นใคร ดาวน้อยเองก็ตกใจเมื่อตัวเองตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ตัวเองไม่เคยรู้จักมาก่อน ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อดาวน้อยพุ่งกระโจนจะหาทางหนี แต่ไม่ว่าจะไปทางไหนดาวน้อยก็ไม่เห็นป่าที่ตัวเองเคยอยู่เลย มีแต่ตึกคอนกรีตล้อมรอบเธอทุกทิศทุกทาง ทันใดนั้นกษิดินก็สั่งให้พนักงานรักษาความปลอดภัยจับตัวดาวน้อยก่อนที่จะเอาตัวดาวน้อยเข้าไปในบริษัท ด้วยความพลิ้วของกษิดินจึงบอกกับทุกคนรวมถึงนักข่าวว่า เขาได้พบกับดาวน้อยผู้หญิงหลงสำรวจในป่าลึกทางภาคเหนือ และเธอก็คือหนึ่งในผู้ประกวดในโครงการ ฟันนี่ เฟรชชี่เกิร์ล หรือเรียกย่อๆ ว่า เอฟเอฟ เป็นรายการที่นำเอาหญิงสาวจากหลากหลายอาชีพเข้ามาประกวดเพื่อค้นหาผู้หญิงที่มีความสามารถเกินหญิง โดยผู้ชนะจะได้ทั้งเงิน และมีชื่อเสียงโด่งดัง แม้ว่ากษิดินจะใช้ความพลิ้วเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ดังกล่าวไปได้ แต่ดูเหมือนทุกอย่างกลับยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่เมื่อมีข่าวดาวน้อยออกไปทำให้ผู้หญิงหลายคนเกิดเปลี่ยนใจไม่มาสมัคร ทำให้ทางช่องที่จะทำการถ่ายทอดโครงการเอฟเอฟเกิดเปลี่ยนใจที่จะไม่เอารายการเอฟเอฟ กษิดินพยายามขอร้องอ้อนวอนเพราะโครงการเอฟเอฟคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ถ้าจะล้มโครงการนี้ก็ฆ่าเขาซะยังจะดีกว่า ทางช่องจึงยื่นคำขาด ถ้าหากผู้สมัครยังไม่ครบในวันนี้จะตัดโครงการนี้ออกจากผังทันที
ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้กษิดินถึงกับต้องมานั่งเครียดอยู่ที่บ้านเพราะเขาจะไปหาผู้หญิงจากไหนมาอีกตั้งห้าคน แต่แล้วด้วยความฉลาดหลักแหลมหรือเพราะเข้าตาจนไม่ทราบได้ กษิดินเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้วนั่นก็คือ บรรดาเพื่อนบ้านที่อยู่รายรอบเขานี่แหละที่จะเป็นผู้สมัครในโครงการเอฟเอฟ แล้วผู้สมัครเหล่านั้นก็คือ เฮียจู (หมวย ชวนชื่น) เจ้าของร้านนวดที่ใจเป็นชายแต่ร่างกายเป็นหญิง คนที่สองคือ มะเหมี่ยว (วรรษพร วัฒนากุล) หมอนวดที่มีฉายาว่า หวานซ่อนเปรี้ยวต้องมะเหมี่ยวสิคะ การบูร (สิริลภัส กองตระการ) แม่ค้าขายส้มตำหน้าหวานที่ครองใจหนุ่มๆ ไปทั้งซอย แต่ยังไงเธอก็ยังภักดีและรักแต่ เพชรฉาย (มงคล สะอาดบุญญพัฒน์) พระเอกลิเกเก่าที่ไม่รู้ว่ามีดีอะไร นอกจากจะเสียงดังโวยวายแล้วแถมยังชอบแซวสาวๆ ไปทั่ว ส่วนคนสุดท้ายที่เกือบไม่ได้ประกวดนั่นก็คือ นุ้ย (พรสวรรค์ สุขจิตร) คนงานในร้านครัวประไพ สาวชาวใต้ที่ทำทุกอย่างตั้งแต่จ่ายตลาดยันเคลียร์บัญชีค่าใช้จ่าย กษิดินดีใจที่ทั้งสี่สาวยอมเข้าร่วมในโครงการเอฟเอฟ แต่ยังไงก็ยังขาดอีกหนึ่งคน ยอดชายจึงบอกกับกษิดินว่าก็ดาวน้อยที่อาศัยอยู่กับกษิดินไง เพราะกษิดินได้ออกข่าวไปแล้วด้วยว่าดาวน้อยคือหนึ่งในผู้สมัคร แต่กษิดินมีลางสังหรณ์ว่าถ้าให้ดาวน้อยสมัครจะต้องเกิดเรื่องยุ่งๆ ขึ้นมาอีกแน่ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ กษิดินจึงรีบเสนอชื่อดาวน้อยเข้าไปอีกคนเพราะตอนนี้เขาหมดหนทางแล้วจริงๆ แล้วในที่สุดดาวน้อยก็ได้เป็นหนึ่งในผู้ประกวดโครงการเอฟเอฟไปโดยไม่ทันตั้งตัว โดยที่ดาวน้อยไม่รู้เลยว่าชะตาชีวิตของเธอกำลังจะพบกับความผกผันต่อจากนี้ ดาวน้อยจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงได้หรือไม่ แล้วเธอจะได้พบกับพี่ชายที่หายตัวไปเมื่อไรรวมถึงคนในเผ่าที่กำลังส่งคนมาตามหาเธอที่เมืองหลวง และที่สำคัญสาวชาวป่าจะกับหนุ่มเมืองกรุงจะรักกันได้อย่างไร
แม้ว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดีจากการไกล่เกลี่ยของ งอแซ (ถนอม สามโทน) ผู้เป็นทั้งหัวหน้าเผ่าและพ่อของดาวน้อย แต่ก็ทำให้ทั้งกษิดินและดาวน้อยต่างก็จงเกลียดจงชังกับความเป็นตัวตนของอีกฝ่าย แม้ว่าดาวน้อยจะใจเย็นลงบ้างแต่คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนยิ่งกว่ากลับเป็น จ่อไม้โป้ หรือ ไม้ (นนทพันธ์ ใจกันทา) ลูกชายของ ยะขิ่น (กล้วย เชิญยิ้ม) หมอผีประจำหมู่บ้าน ไม้แอบหลงรักดาวน้อยมาตั้งแต่เด็กแต่ก็ไม่กล้าบอกดาวน้อยเพราะกลัวจะผิดหวังนั่นเอง แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่ไม้ไม่ได้บอกความในใจให้ดาวน้อยฟังคงเป็นเพราะ กระจง (ธีระพล หอมจม) หนุ่มประหลาดที่สุดในเผ่าซอเลี้ยะเพราะมีนิสัยตุ้งติ้งเหมือนผู้หญิง จนไม่รู้จะเรียกว่าเพื่อนสาวหรือเพื่อนชายของดาวน้อย ไม่เคยเปิดโอกาสให้ดาวน้อยกับไม้ได้อยู่กันตามลำพัง จนทำให้ไม้กับกระจงกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาประจำเผ่าไปนั่นเอง แต่คนอย่างดาวน้อยไม่เคยยอมคนอยู่แล้ว ดาวน้อยคิดแก้เผ็ดกษิดินจึงแอบเข้าไปในรถของกษิดินในวันที่กษิดินกำลังจะกลับเพื่อเอาลูกดอกอาบขี้กิ้งกือไปทำให้กษิดินสลบเพื่อจะเอาตัวเขามาสั่งสอนให้สาสม แต่แล้วเจ้าป่าเจ้าเขาหรือโชคชะตากลั่นแกล้งไม่แน่ใจ เมื่อดาวน้อยดันทำลูกดอกจิ้มโดนตัวเอง ดาวน้อยตกใจเพราะเธอรู้ว่าฤทธิ์ของขี้กิ้งกือนั่นแรงแค่ไหน แล้วสิ่งที่ดาวน้อยเห็นเป็นครั้งสุดท้ายก็คือกษิดินกำลังเดินมาที่รถก่อนที่ดาวน้อยจะหมดสติไป
ขณะเดียวกันงอแซก็ฝันเห็น ฟ้าลั่น (สุพจน์ จันทร์เจริญ) ลูกชายอีกคนซึ่งเป็นพี่ชายของดาวน้อยที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพราะดันไปเชื่อคำชักชวนของคนเมืองที่ว่า "ชีวิตกรุงเทพ ชีวิตที่ดีกว่า" แม้ว่างอแซจะพยายามห้ามปรามเท่าไรแต่ฟ้าลั่นก็ไม่ฟัง จนทำให้ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง จากวันนั้นที่ฟ้าลั่นจากไปเป็นเวลาเกือบสองปีที่งอแซและดาวน้อยไม่ได้ข่าวคราวของเขาอีกเลย แล้วงอแซยิ่งไม่สบายใจเมื่อรู้ว่าดาวน้อยหายตัวไป จะว่าถูกเสือคาบไปกินก็ไม่น่าจะใช่เพราะสัตว์ในพงไพรแถวนี้ล้วนเป็นเพื่อนกับดาวน้อย หรือว่าดาวน้อยจะตกน้ำ ก็ไม่น่าจะใช่อีกเพราะดาวน้อยว่ายน้ำเก่งยิ่งกว่าปลาเสียอีก แล้วสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ที่งอแซคิดได้ว่าดาวน้อยหายไปไหนนั่นก็คือถูกพวกคนกรุงจับตัวไป หลังจากที่กษิดินกลับถึงกรุงเทพฯ ก็ทำการชุบตัวอบสมุนไพรเพื่อล้างกลิ่นอุจจาระเป็ดภูเขาเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่กษิดินจะได้เดินตามความฝันของตัวเองซะที แล้วอย่างแรกที่เขาต้องทำก็คือการนัด ปริม (วรางคนาง วุฑฒยากร) สาวสวยผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและกริยามารยาทชาติตระกูลไปด้วย ปริมได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีจาก ประไพศรี (กรองทอง รัชตะวรรณ) ผู้มีบารมีและอิทธิพลในชุมชนเพราะประไพศรีเป็นเจ้าของบ้านเช่าที่เรียกได้ว่าแทบจะทั้งแถบ แถมยังเป็นเจ้าของร้านอาหารครัวประไพที่ไร้คู่แข่ง ไม่ใช่เพราะรสชาติดีเด่นอะไร แต่ถ้าใครมาเปิดร้านข้าวขายแข่งกับประไพศรีในละแวกใกล้ๆ ประไพศรีจะขึ้นค่าเช่าให้อยู่กันไม่ได้ แต่ที่สำคัญประไพศรีคือกระดูกชิ้นโตที่คอยขัดขวางไม่ให้กษิดินได้แต่งงานกับปริม จนกว่าเขาจะทำให้ฐานะของเขาเขยิบขึ้นมาทัดเทียมนั่นเอง แค่กระดูกชิ้นเดียวอย่างประไพศรีก็จะแย่แล้ว นี่ยังมี สุทัศน์ (ศศิศศร สุทธิเกษม) ชายหนุ่มเจ้าสำอาง เจ้าของธุรกิจรองเท้าแตะยาง ผู้เพียบพร้อมไปด้วยฐานะและชาติตระกูล เรียกได้ว่าเหมาะสมกับปริมทุกกระเบียดนิ้ว ติดเพียงอย่างเดียวที่ปริมไม่ได้ชอบเขานั่นเอง
กษิดินตั้งใจจะทำให้ปริมและคุณหญิงประทับใจ กษิดินเรียกนักข่าวและปริมไปที่รถเพราะเขาได้เตรียมลูกโป่งและการขอแต่งงานไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ทันทีที่กษิดินเปิดท้ายรถออกนอกจากลูกโป่งจะลอยขึ้นมาแล้ว ฝ่าเท้าของดาวน้อยก็พุ่งตรงเข้าเต็มหน้าของกษิดิน ปริม และคุณหญิง รวมถึงนักข่าวต่างตกใจว่าดาวน้อยเป็นใคร ดาวน้อยเองก็ตกใจเมื่อตัวเองตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ตัวเองไม่เคยรู้จักมาก่อน ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อดาวน้อยพุ่งกระโจนจะหาทางหนี แต่ไม่ว่าจะไปทางไหนดาวน้อยก็ไม่เห็นป่าที่ตัวเองเคยอยู่เลย มีแต่ตึกคอนกรีตล้อมรอบเธอทุกทิศทุกทาง ทันใดนั้นกษิดินก็สั่งให้พนักงานรักษาความปลอดภัยจับตัวดาวน้อยก่อนที่จะเอาตัวดาวน้อยเข้าไปในบริษัท ด้วยความพลิ้วของกษิดินจึงบอกกับทุกคนรวมถึงนักข่าวว่า เขาได้พบกับดาวน้อยผู้หญิงหลงสำรวจในป่าลึกทางภาคเหนือ และเธอก็คือหนึ่งในผู้ประกวดในโครงการ ฟันนี่ เฟรชชี่เกิร์ล หรือเรียกย่อๆ ว่า เอฟเอฟ เป็นรายการที่นำเอาหญิงสาวจากหลากหลายอาชีพเข้ามาประกวดเพื่อค้นหาผู้หญิงที่มีความสามารถเกินหญิง โดยผู้ชนะจะได้ทั้งเงิน และมีชื่อเสียงโด่งดัง แม้ว่ากษิดินจะใช้ความพลิ้วเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ดังกล่าวไปได้ แต่ดูเหมือนทุกอย่างกลับยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่เมื่อมีข่าวดาวน้อยออกไปทำให้ผู้หญิงหลายคนเกิดเปลี่ยนใจไม่มาสมัคร ทำให้ทางช่องที่จะทำการถ่ายทอดโครงการเอฟเอฟเกิดเปลี่ยนใจที่จะไม่เอารายการเอฟเอฟ กษิดินพยายามขอร้องอ้อนวอนเพราะโครงการเอฟเอฟคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ถ้าจะล้มโครงการนี้ก็ฆ่าเขาซะยังจะดีกว่า ทางช่องจึงยื่นคำขาด ถ้าหากผู้สมัครยังไม่ครบในวันนี้จะตัดโครงการนี้ออกจากผังทันที
ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้กษิดินถึงกับต้องมานั่งเครียดอยู่ที่บ้านเพราะเขาจะไปหาผู้หญิงจากไหนมาอีกตั้งห้าคน แต่แล้วด้วยความฉลาดหลักแหลมหรือเพราะเข้าตาจนไม่ทราบได้ กษิดินเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้วนั่นก็คือ บรรดาเพื่อนบ้านที่อยู่รายรอบเขานี่แหละที่จะเป็นผู้สมัครในโครงการเอฟเอฟ แล้วผู้สมัครเหล่านั้นก็คือ เฮียจู (หมวย ชวนชื่น) เจ้าของร้านนวดที่ใจเป็นชายแต่ร่างกายเป็นหญิง คนที่สองคือ มะเหมี่ยว (วรรษพร วัฒนากุล) หมอนวดที่มีฉายาว่า หวานซ่อนเปรี้ยวต้องมะเหมี่ยวสิคะ การบูร (สิริลภัส กองตระการ) แม่ค้าขายส้มตำหน้าหวานที่ครองใจหนุ่มๆ ไปทั้งซอย แต่ยังไงเธอก็ยังภักดีและรักแต่ เพชรฉาย (มงคล สะอาดบุญญพัฒน์) พระเอกลิเกเก่าที่ไม่รู้ว่ามีดีอะไร นอกจากจะเสียงดังโวยวายแล้วแถมยังชอบแซวสาวๆ ไปทั่ว ส่วนคนสุดท้ายที่เกือบไม่ได้ประกวดนั่นก็คือ นุ้ย (พรสวรรค์ สุขจิตร) คนงานในร้านครัวประไพ สาวชาวใต้ที่ทำทุกอย่างตั้งแต่จ่ายตลาดยันเคลียร์บัญชีค่าใช้จ่าย กษิดินดีใจที่ทั้งสี่สาวยอมเข้าร่วมในโครงการเอฟเอฟ แต่ยังไงก็ยังขาดอีกหนึ่งคน ยอดชายจึงบอกกับกษิดินว่าก็ดาวน้อยที่อาศัยอยู่กับกษิดินไง เพราะกษิดินได้ออกข่าวไปแล้วด้วยว่าดาวน้อยคือหนึ่งในผู้สมัคร แต่กษิดินมีลางสังหรณ์ว่าถ้าให้ดาวน้อยสมัครจะต้องเกิดเรื่องยุ่งๆ ขึ้นมาอีกแน่ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ กษิดินจึงรีบเสนอชื่อดาวน้อยเข้าไปอีกคนเพราะตอนนี้เขาหมดหนทางแล้วจริงๆ แล้วในที่สุดดาวน้อยก็ได้เป็นหนึ่งในผู้ประกวดโครงการเอฟเอฟไปโดยไม่ทันตั้งตัว โดยที่ดาวน้อยไม่รู้เลยว่าชะตาชีวิตของเธอกำลังจะพบกับความผกผันต่อจากนี้ ดาวน้อยจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงได้หรือไม่ แล้วเธอจะได้พบกับพี่ชายที่หายตัวไปเมื่อไรรวมถึงคนในเผ่าที่กำลังส่งคนมาตามหาเธอที่เมืองหลวง และที่สำคัญสาวชาวป่าจะกับหนุ่มเมืองกรุงจะรักกันได้อย่างไร