ละคร เจ้านาง

ดู 7,358 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันจันทร์ วันอังคาร
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 6 กรกฎาคม 2558
เวลาออกอากาศ 20:20 - 22:30 น.
  
กำกับโดย เอกภพ ตันหยงมาศกุล
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ ทองพริ้ม, บทโทรทัศน์ ภาคย์รพี
นำแสดงโดย
อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ ... ละอองคำ/มนต์ทิพย์
ธนพล นิ่มทัยสุข ... ราบฟ้า/บุญสลัก
รพีภัทร เอกพันธ์กุล ... ฉัตร
ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล ... เจ้านางปิ่นเมือง
ณธิดา ภัทรชาญไชย ... รุ้งแก้ว
อุษณีย์ วัฒฐานะ ... อัปสร
อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์ ... โฉม
มณีนุช เสมรสุต ... พวงคราม
ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์ ... เขมิกา
อำภา ภูษิต ... ปอบผีเจ้า
อุ่นเรือน ราโชติ ... แหวน
จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา ... แม่ชีน้อม
นภาพร หงสกุล ... ผ่อง
ผู้สร้าง บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ เจ้านาง

เจ้านางละอองคำ (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) แห่งเมืองนาย น้อยเนื้อต่ำใจที่เจ้าฟ้าเมืองนาย ผู้เป็นพ่อไม่รัก ซ้ำถูกกล่าวหาว่าแม่ของตนคบชู้ เมื่อแม่ตายก็ไม่ได้รับเกียรติให้อยู่ในกู่หลวงเมืองนาย แต่ถูกนำกู่บรรจุอัฐิไว้ที่นอกเมือง ละอองคำอาศัยอยู่กับ เจ้านางรุ้งแก้ว (ณธิดา ภัทรชาญไชย) น้องสาวที่มีอายุห่างกันหลายปีที่คุ้มนอกเมืองมิได้อยู่ในคุ้มหลวงเช่นเจ้านางอื่นๆ มีเพียง เจ้าราบฟ้า (ธนพล นิ่มทัยสุข) พระราชบุตรเมืองนายเท่านั้นที่รักและสัญญากับละอองคำว่าวันใดที่ตนขึ้นเป็นเจ้าหลวงเมืองนายแล้วตนจะยกย่องและคืนพระยศให้เจ้านางละอองคำ แต่ความรักของเจ้านางผู้อาภัพก็ถูกกลั่นแกล้งและขัดขวางสารพัดจาก เจ้านางปิ่นเมือง (ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล) ผู้หลงรักเจ้าราบฟ้าเช่นเดียวกัน ซ้ำยังมักใหญ่ใฝ่สูงหวังว่าจะได้เป็นมหาเทวีเจ้าแห่งเมืองนายด้วย ในที่สุดเจ้านางปิ่นเมืองก็ทำสำเร็จ โดยใช้อาคมทำให้เจ้าราบฟ้าหลงใหลและทำให้เจ้าพ่อยิ่งชิงชังเจ้านางละอองคำอย่างถึงที่สุด ในช่วงดังกล่าวเมืองนายถูกโจมตีจากฝรั่งดั้งขอซึ่งมีปืนไฟเป็นอาวุธร้ายแรง แม้แต่ดาบสรีกัญไชย ดาบศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองนายก็สู้กับปืนไฟไม่ได้ เจ้านางละอองคำตัดสินใจทิ้งผีปู่ผีย่าด้วยเห็นว่าผีบรรพบุรุษช่วยตัวเองไม่ได้เลยจึงไปซื้อผีต่างวงศ์มาเลี้ยงดู เจ้านางรุ้งแก้วห้ามอย่างไรก็ไม่สนใจ เมื่อเมืองนายแตกพ่ายละอองคำก็ทิ้งผีปู่ย่าลงน้ำเสียหมดทำให้เจ้าฟ้าเมืองนายโกรธจัด ทุกคนในเมืองนายตายหมด แต่ ผีเจ้า (อำภา ภูษิต) ช่วยละอองคำกับรุ้งแก้วให้อพยพหนีตายไปกับเรือสินค้าที่มาจากสยาม ระหว่างเดินทางนั้นเองพ่อค้าคิดล่วงเกินละอองคำ ผีเจ้าจึงจัดการกับพ่อค้าและบริวารจนหมดสิ้น ละอองคำได้ครอบครองสมบัติมหาศาลในกำปั่นตั้งรกรากและมีชีวิตใหม่ที่บางกอก

สมัยรัชกาลที่ 7 ละอองคำกับรุ้งแก้วกลายเป็นสาวสังคมที่ใครๆ ก็หลงใหลในความงามมีผู้ชายฐานะดีมาติดพันมากมาย แต่ก็ถูกผีเจ้าเล่นงานจนตายหมด ในจำนวนนี้มี โฉม (อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์) ซึ่งสูญเสียคนรักไปด้วยจึงคิดผูกใจเจ็บ พยายามบอกใครๆ ว่าละอองคำเป็นผีปอบแต่ไม่มีใครเชื่อซ้ำร้าย ฉัตร (รพีภัทร เอกพันธ์กุล) พี่ชายของตนกลับหลงรักละอองคำ รุ้งแก้วขอร้องละอองคำให้เลิกนับถือผีแต่ก็ถูกเล่นงานจนปางตายจนต้องมาอาศัยอยู่กับ แม่ชีน้อม (จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา) ที่วัด ซึ่งที่วัดนี้เองพ่อของฉัตรได้บวชเป็นสมภารอยู่ ทำให้ฉัตรหาโอกาสมากราบหลวงพ่อและไปหาละอองคำได้บ่อยๆ ฉัตรรักละอองคำมาก แต่ละอองคำกลับลืมเจ้าราบฟ้าไม่ได้เลย ในที่สุดละอองคำก็ตัดสินใจมีชีวิตใหม่ยอมแต่งงานกับฉัตร ในวันแต่งงานนั้นเองรุ้งแก้วกับธวัช คนรักของเธอได้ลอบเข้าไปในห้องของละอองคำแล้วนำผีเจ้าไปไว้ใต้ฐานพระ ละอองคำดีใจที่พ้นจากอำนาจของผีเจ้าได้ แต่เธอก็ยังฝันถึงราบฟ้าจึงไปทำบุญและอธิษฐานขอให้ได้พบกับราบฟ้าอีกในชาติต่อๆ ไป แต่เพียงไม่นานผีเจ้าก็ออกมาได้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนบ้าที่เข้าไปในโบสถ์ ความแค้นของผีเจ้าจึงเล่นงานธวัชจนตาย รุ้งแก้วเสียใจมากที่คนรักตาย แม่ชีน้อมสงสารจึงพาย้ายไปอยู่วัดป่าเพื่อปฏิบัติธรรมตลอดชีวิต ฉัตรขอร้องให้ละอองคำเลิกล่าเหยื่อมาสังเวยผีเจ้า หากต้องการก็ให้ฆ่าเขาแทน ละอองคำรู้ซึ้งถึงความรักที่ฉัตรมีต่อตน แต่ก็ทนความทุกข์ทรมานที่ผีเจ้าทำกับตัวเองไม่ได้จึงเริ่มทำร้ายฉัตร ระหว่างนั้นเองฉัตรเขียนจดหมายให้ อัปสร (อุษณีย์ วัฒฐานะ) ลูกสาวของตนนำไปให้หลวงปู่ที่วัด หลวงปู่ได้ติดต่อโฉมมารับหลานไป โฉมส่งอัปสรไปอยู่กับเพื่อนที่อังกฤษ พ่อกับแม่ของเธอถูกปอบผีเจ้าฆ่าตายไป แต่โฉมรอดตายเพราะมีของดีที่แม่ชีน้อมเคยมอบไว้ให้ โฉมได้แต่งงานกับอนันต์ เศรษฐีหนุ่มใหญ่ แต่แต่งงานได้ไม่นานสามีก็เสียชีวิต เธอได้ใช้ชีวิตอยู่เกษมผู้เป็นลูกชาย ซึ่งเป็นพ่อม่ายช่วยกันทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนเป็นเศรษฐีระดับประเทศ

หลายปีต่อมาละอองคำอยู่ในเรือนปั้นหยาอย่างโดดเดี่ยวและออกล่าเหยื่อบ้างเมื่อหิวโหย อัปสรแต่งงานกับพรวุฒิ ทั้งสองอยากกลับเมืองไทยอัปสรคิดถึงแม่จึงมาหาละอองคำ แต่ละอองคำบังคับให้อัปสรยอมรับเป็นทายาทปอบต่อจากตน อัปสรไม่ยอมรับหนีออกมาจากเรือนปั้นหยาได้ ผีเจ้าโกรธละอองคำจึงจัดการฆ่าจนตายและฝากความเป็นปอบไว้ที่แมวดำ ซึ่งอยู่ที่เรือนปั้นหยา หลังจากนั้นก็จัดการฆ่าพรวุฒิตายไปด้วย แต่ครั้นจะเล่นงานอัปสรกลับถูกกายทิพย์ของรุ้งแก้วมาช่วยไว้ได้ อัปสรกลับอังกฤษและหนีข่าวที่โฉมเผลอพูดให้คนทั่วไปฟังว่าอัปสรเป็นลูกของปอบละอองคำ อัปสรเลี้ยงดู มนต์ทิพย์ (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ลูกสาวคนเดียวอย่างโดดเดี่ยว เมื่อมนต์ทิพย์โตเป็นสาวได้พบรักกับ บุญสลัก (ธนพล นิ่มทัยสุข) วิศวกรหนุ่มชาวไทยทั้งสองต้องการแต่งงานกันที่เมืองไทย แม้ว่าอัปสรจะห้ามปรามอย่างไร แต่ทั้งสองก็ไม่ฟังทุกคนจึงอพยพกลับมาเมืองไทย อัปสรยังใจแข็งไม่ยอมเป็นทายาทปอบ ปอบผีเจ้าจึงเปลี่ยนเป้ามาที่มนต์ทิพย์ผู้เป็นลูกสาว พักตร์พริ้งอาของบุญสลักไม่ชอบมนต์ทิพย์ เพราะต้องการให้ เขมิกา (ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์) ได้แต่งงานกับบุญสลัก เขมิกาเป็นลูกสาวของเกษม ผู้ชายที่พักตร์พริ้งเคยหลงรักมาในอดีต พักตร์พริ้งยุยง พวงคราม (มณีนุช เสมรสุต) แม่ของบุญสลักให้เกลียดชังมนต์ทิพย์ ซ้ำยังได้ข้อมูลว่าเป็นลูกสาวของอัปสรซึ่งมีแม่เป็นปอบ มนต์ทิพย์จึงถูกดูแคลนจากครอบครัวของบุญสลัก แต่ด้วยความรักที่มั่นคงทำให้บุญสลักดื้อดึงและรับมนต์ทิพย์ให้อยู่ในบ้าน อัปสรไม่ห้ามปรามเพราะต้องการให้มนต์ทิพย์ไม่ต้องรับรู้เรื่องปอบละอองคำ เขมิกาได้ทีจะเข้ามาหาเรื่องมนต์ทิพย์อยู่เป็นประจำ โดยมีสาวใช้สองคนคือ หวานกับแช่ม ซึ่งรับเงินจากเขมิกาให้สอดส่องและรายงานตนตลอดเวลา มีเพียง ผ่อง (นภาพร หงสกุล) สาวใช้กลางคนที่สงสารมนต์ทิพย์และคอยขัดขวางมิให้สาวใช้อีกสองคนทำอะไรได้

แฟรงค์เพื่อนสนิทของบุญสลักเป็นนักออกแบบภายในรู้จักกับบุญสลักและมนต์ทิพย์ที่อังกฤษ เขาหลงรักมนต์ทิพย์ แต่ทำใจได้ที่มนต์ทิพย์แต่งงานกับบุญสลัก และยังคอยช่วยเหลือเป็นกำลังใจอยู่เสมอ ในวันแต่งงานเขมิกากับพักตรพริ้งแสร้งทำเรื่องจนบุญสลักเกือบเข้าหอไม่ทันฤกษ์ ทำให้มนต์ทิพย์น้อยเนื้อต่ำใจ เขมิกาขโมยเครื่องรางของโฉมทำให้ปอบละอองคำฆ่าโฉมตาย เขมิกาผูกใจเจ็บและหาทางแก้แค้นให้ได้ เขมิกาเริ่มไม่กลัวเกรงอำนาจของผีเจ้า เพราะมั่นใจว่าเครื่องรางนี้ทำให้โฉม ย่าของตนอยู่รอดมาถึงวัยชราได้ เธอจึงเริ่มวุ่นวายกับชีวิตของมนต์ทิพย์และสร้างเรื่องว่าบุญสลักจะหย่ากับตน เพราะมนต์ทิพย์เป็นชู้กับแฟรงค์มนต์ทิพย์จึงกลับมาอยู่กับแม่ตามเดิม อัปสรต้องต่อสู้กับความทุกข์ที่ปอบผีเจ้าและปอบละอองคำกระทำกับตน ด้วยความกลัวว่าปอบละอองคำจะเล่นงานมนต์ทิพย์ อัปสรจึงไปขอร้องปอบเจ้านางที่เรือนปั้นหยา แต่ถูกผีเจ้าจับขังไว้ ชาวบ้านได้ยินเสียงร้องจึงเข้าใจว่าอัปสรเป็นปอบ จึงจะรุมประชาทัณฑ์แต่บุญสลักกับแฟรงค์มาช่วยไว้ได้ มนต์ทิพย์สงสารแม่และอยากเอาชนะเขมิกาด้วยจึงยอมรับเป็นทายาทปอบ อัปสรห้ามแต่มนต์ทิพย์ไม่ฟังตั้งแต่รับเป็นทายาทผีปอบ มนต์ทิพย์ก็เริ่มเปลี่ยนไป เธอเริ่มหาเหยื่อเพื่อสังเวยผีเจ้า แต่ก็เอาชนะเขมิกาไม่ได้ วันหนึ่งเกิดการโต้เถียงกันพวงครามหกล้มจนขาหักทำให้บุญสลักทะเลาะกับมนต์ทิพย์ ปอบมนต์ทิพย์จัดการฆ่าพักตร์พริ้ง แต่พักตร์พริ้งหนีไปได้จนกลายเป็นบ้าและถูกรถชนตายในที่สุด พวงครามเริ่มกลัวมนต์ทิพย์ ขณะเดียวกันผีเจ้าก็ทำให้บุญสลักลุ่มหลงมนต์ทิพย์มากยิ่งขึ้น แต่ในที่สุดรุ้งแก้วก็เข้ามาเตือนสติทุกคน ปอบผีเจ้าโกรธมาก รุ้งแก้วสามารถคลายมนต์สะกดบุญสลักและปลดปล่อยวิญญาณที่เป็นบริวารของผีเจ้าจนหมดสิ้น บุญสลักสงสารจึงขอให้กินตัวเองแทนการล่าเหยื่อ มนต์ทิพย์เริ่มสับสนและอ่อนแอ รุ้งแก้วขอร้องให้ละอองคำขอขมาต่อผีบรรพบุรุษแห่งเมืองนาย เพื่อจะทำให้ผีเจ้าอ่อนกำลังลง และหันไปบังคับให้เขมิกานับถือตน เขมิกาอยากเอาชนะทุกคน จึงยอมรับผี แต่เขมิกาไม่ยอมอยู่ในอำนาจของผี ผีเจ้าจึงกัดกินเขมิกาจนตาย อัปสร รุ้งแก้ว พวงครามและบุญสลักปฏิบัติธรรมจนสามารถทำให้ละอองคำใจอ่อนยอมขอขมากับผีบรรพบุรุษได้สำเร็จ ผีเจ้าถูกนำเข้าไปสู่มิติอดีตที่เมืองนายและรุมทำร้ายผีเจ้าซึ่งเป็นผีต่างวงศ์จนพ่ายแพ้ไป มนต์ทิพย์ได้ชวนบุญสลัก แฟรงค์ และรุ้งแก้วกลับไปที่เมืองนายบริเวณริมฝั่งน้ำที่ละอองคำทิ้งผีปู่ย่าที่ตรงนั้น ทำการบวงสรวงดวงวิญญาณกลับมาอีกครั้งพร้อมสร้างกู่ให้เป็นอนุสรณ์อย่างสวยงาม บุญสลักบวชอุทิศให้แก่เหยื่อของปอบผีเจ้าและมนต์ทิพย์ บุญสลักตั้งใจสร้างครอบครัวใหม่ และครองรักกันอย่างมีความสุข