ละคร ปลาหลงฟ้า
ดู 5,059 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 13 กุมภาพันธ์ 2558 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:20 - 22:30 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ปัญญา ชุ่มฤทธิ์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | อิสย่าห์-พิมพิสุธญ์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ ปลาหลงฟ้า
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ปิ้ว ปิ้ว ปิ้ว ปิ้ว เสียงจากสมาร์ทโฟนดังตลอดเวลาในห้องทำงานของประธานบริษัทมีโชคคนใหม่ ประสานรับกับเสียงเปิดประตูดังโครม "แกทำอะไรของแก ไอ้น่าน" นางวิภา (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) แผดเสียงดังก้อง อีกฝ่ายตอบอย่างไม่สนใจ "กำลังลับสมองอยู่ครับ" นางวิภาทนไม่ไหวแล้ว น่านฟ้า (วงศกร ปรมัตถากร) ลูกชายของสามีผู้วายชน มาทำงานได้ 2 เดือนแต่ยังทำตัวเหลวไหล และไม่ว่านางวิภาจะส่งเสียงต่อว่ามากแค่ไหน อีกฝ่ายก็ต่อปากต่อคำด้วยน้ำเสียงยียวน กวนประสาท แถมยังชวนแม่ใหญ่มาฝึกเล่นเกมกับเขาจะได้ไม่เป็นอัลไซเมอร์ นี่ยังไม่รวมชุดทุเรศๆ บ้าๆ บอๆ ที่น่านฟ้าใส่มาทำงานในฐานะประธานคนใหม่ของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตข้าวเกรียบมีโชคออกสู่ตลาดมานานกว่า 30 ปี นางวิภาไม่ได้อยากบังคับน่านฟ้าเลย นางไม่เคยอยากให้ไอ้เด็กเหลือขอลูกเมียรองอย่างเขามารับตำแหน่งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคำขอสุดท้ายของนายโชคอดีตประธานบริษัท สามีของนางที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 3 เดือนก่อน อุบัติเหตุครั้งนั้นพรากวิชญะลูกชายของนางไป เขาเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายโชคเสียชีวิตอีก 1 สัปดาห์ต่อมา ก่อนจากไปสามีของนางทิ้งคำขอสุดท้ายไว้ว่าให้น่านฟ้าลูกของเขากับ นางสุกัญญา (กชกร นิมากรณ์) มาสานต่อกิจการข้าวเกรียบมีโชค ความจริงนางวิภาหมายมั่นปั้นมือหวังให้วิชญะลูกชายของนางเป็นประธานคนต่อไปของบริษัทแต่ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว นางวิภาไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมให้อาณาจักรมีโชคตกอยู่ในมือของน่านฟ้า ที่นอกจะไม่เอาถ่าน เสเพลแล้ว ยังยียวนกวนประสาทไม่หยุดหย่อน
ไม้เด็ดของนางวิภาคือการหาผู้ช่วยมาสอนงานและควบคุมพฤติกรรมของน่านฟ้า แม้ผู้ช่วยจะเป็นผู้หญิงตามความต้องการที่น่านฟ้าหนุ่มเจ้าชู้ขอไว้ แต่ทันทีที่น่านฟ้าเจอ มัศยา (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ฝันของเขาก็สลายลงทันที เพราะเธอห่างไกลรสนิยมของเขาเหลือเกิน นี่มันร่างอวตารของแม่ใหญ่ชัดๆ อายุก็มากกว่าเขาตั้ง 2 ปี หุ่นก็อวบ ดูอึด ถึก ทนและแข็งแรง หน้าตาก็แทบจะไม่มีเครื่องสำอางค์ ผมก็เพียงรวบหางม้าไว้ แถมน้ำเสียงก็ดังฟังชัดและหนักแน่นราวกับนายทหารหญิง แม้ผิวหน้าจะดูอ่อนเยาว์แต่แววตานั้นแสนจะเข้มงวดและพร่องความไร้เดียงสา ทำให้หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์วัย 27 ปี อย่างน่านฟ้ายิ่งหมดอารมณ์ในการทำงาน มัศยาอายุ 29 ปี เธอทำงานที่บริษัทข้าวเกรียบมีโชคมา 7 ปีแล้ว ปัจจุบันเธอเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด เธอตั้งใจถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งหมดให้น่านฟ้าและพร้อมทำทุกวิถีทางให้เขาเหมาะสมกับตำแหน่งประธานเพื่อมาช่วยกอบกู้สถานการณ์อันย่ำแย่ของบริษัทตามคำสั่งของนางวิภา แต่แค่เริ่มภารกิจลูกชายคนเล็กของอดีตประธานก็ปั่นหัวและสร้างปัญหาให้เธอต้องออกแรง อาทิเช่น น่านฟ้าพยายามหลบเลี่ยงการสอนงานของมัศยาด้วยการอ้างว่าท้องเสีย มัศยาจึงตามล่าเขาไปถึงในห้องน้ำชาย ปีนขึ้นไปที่ประตูดูให้เห็นกับตา นี่ถ้าเขาไม่ใจกล้าหน้าด้านจะถอดกางเกงให้ดู เธอไม่มีวันปล่อยหนีไปแน่ๆ ไม่มีทางที่คนอย่าง เจ๊หยี ณ มีโชค (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) จะยอมแพ้ง่ายๆ เธอต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จเพื่อประธานโชค ผู้มีพระคุณต่อเธอและครอบครัว เสเพล ไม่เอาถ่าน ไม่ได้เรื่องได้ราว เหล่านี้คือคุณสมบัติแค่บางส่วนของประธานคนล่าสุดที่ทุกคนในบริษัทรู้จักกัน การวางอนาคตของข้าวเกรียบมีโชคไว้ในมือของน่านฟ้าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ โดยเฉพาะสำหรับ นายสุกิจ (สันติสุข พรหมศิริ) น้องชายบุญธรรมของนางวิภา นายสุกิจพยายามหว่านล้อมให้นางวิภาทบทวนอีกครั้งเรื่องตำแหน่งประธาน นี่ไม่ใช่ตำแหน่งที่เด็กอมมืออย่างน่านฟ้าจะมาทำได้ เพราะนายสุกิจหมายมั่นปั้นมือจะฮุบอาณาจักรนี้ไว้เสียเอง
"เมื่อไรน่านจะเลิกแกล้งแม่ใหญ่ซะที" นางสุกัญญาถามลูกชายด้วยน้ำเสียงอบอุ่นใจดี นางรู้ว่าที่น่านฟ้าทำตัวเหลวไหล บ้าๆ บอๆ เพราะไม่อยากเป็นประธานบริษัทของพ่อ พ่อที่ไม่เคยสนใจไยดีเขาและแม่ น่านฟ้าไม่เคยลืมว่าเขาและแม่ต้องใช้ชีวิตดิ้นรนกระเสือกกระสนขนาดไหน ผิดกับแม่ใหญ่และวิชญะพี่ชายต่างแม่ที่ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายเพียงเพราะพ่อไม่กล้าขัดแย้งกับแม่ใหญ่ สุดท้ายพ่อก็เกรงใจเมียแรกจนยอมเห็นเมียและลูกอีกคนลำบาก ตั้งแต่น่านฟ้าจำความได้แม่ใหญ่ขอพ่อให้เตรียมพินัยกรรมยกหุ้นและตำแหน่งประธานบริษัทให้วิชญะไว้แต่เนิ่นๆ แม่ใหญ่ยืนกรานเสียงแข็งเสมอว่าผู้บริหารธุรกิจนี้คนต่อไปต้องเป็นวิชญะลูกชายคนเดียวของนางเท่านั้น นางจึงกีดกันน่านฟ้าไม่ให้เข้าไปยุ่งกับอาณาจักรมีโชค และตัวน่านฟ้าเองก็ไม่ได้อยากสานต่อธุรกิจที่ไร้อนาคตอย่างข้าวเกรียบที่มีชื่อเชยๆ ว่ามีโชค "โอ๊ย" น่านฟ้าร้องเสียงหลงเป็นเสียงที่สองของน่านฟ้าที่ดังขึ้นในห้องประชุม นอกจากเสียงกรนของเขา อันเกิดจากการกระทำของมัศยาที่ทนไม่ไหวจึงใช้เท้าที่สวมคัตชูสีดำกระทืบลงบนรองเท้าผ้าใบสีส้มแปร๊ดของน่านฟ้า ประธานคนใหม่หลับตลอดการประชุม ทันทีที่ตื่นขึ้นเขาก็สั่งเลิกประชุมโดยไม่สนใจใคร นางวิภาจึงสั่งให้มัศยารายงานผลการประชุมให้น่านฟ้าฟัง แต่มัศยาก็ทำภารกิจพลาดอีกครั้ง น่านฟ้าแกล้งทำไฟดับและหนีไปอีกจนได้
วันต่อมามัศยาอาละวาดน่านฟ้าที่ทำให้เธอถูกนางวิภาต่อว่าเป็นชั่วโมงเพราะปล่อยให้เขาหนีกลับบ้าน มัศยาเดือดดาลขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่น่านฟ้าสนุกขึ้นทุกที มัศยาต่อว่าจนน่านฟ้าต้องอุดหู คงเป็นเรื่องประหลาดถ้าผู้หญิงขี้บ่น ปากจัดและเสียงดังอย่างมัศยาจะมีแฟน น่านฟ้าคิดและพูดใส่หน้าเธอ เขาเรียกมัศยาว่าเจ๊ตลอดเวลา ยิ่งทำให้มัศยาอารมณ์ขึ้น มัศยาไม่ชอบที่น่านฟ้าเรียกเธอว่าเจ๊เพราะทำให้เธอนึกถึงเจ๊เกียวเจ้าแม่รถทัวร์ ผู้ชายทำตัวไร้สาระไม่เอาไหนอย่างน่านฟ้าก็คงไม่มีผู้หญิงคนไหนเอาเหมือนกัน น่านฟ้าไม่ลดละคุยโวโอ้อวดว่าผู้ชายหล่อๆ อย่างเขามีแต่สาวติดตรึม มัศยาตอกกลับไปว่ามีแต่ผู้หญิงโง่ๆ ไร้สมองถึงจะมาติดผู้ชายอย่างน่านฟ้า เขาไม่ยอมจบโต้กลับว่าโง่ไร้สมองหรือเปล่าไม่รู้ แต่สวยกว่ามัศยาแน่นอน ศึกน้ำลายเหมือนจะจบลงเพราะมัศยาต้องขับรถพาประธานคนใหม่ออกไปพบลูกค้า แต่เขาก็ยียวนประสาทเธอตลอดเวลาที่อยู่ในรถด้วยกัน ซ้ำยังนัด แอนนา (กัญญกร พินิจ) สาวสวยหุ่นนางแบบให้ไปรับเขาระหว่างทางเพื่อเลี่ยงการไปพบลูกค้าแต่ไปกินข้าวกลางวันกับผู้หญิงแทน "เราต้องการประธานสุกิจ เราต้องการประธานสุกิจ เราต้องการประธานสุกิจ" เสียงประกาศผ่านโทรโข่งดังก้องอย่างต่อเนื่องบนเวทีหน้าอาคารบริษัทมีโชค ภูริช (ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) ผู้จัดการฝ่ายการตลาดลูกน้องมือขวาของนายสุกิจทำหน้าที่เป็นแกนนำปลุกระดมพนักงานสองร้อยกว่าชีวิตมารวมตัวกัน ไม่ใช่แค่ม็อบพนักงานเท่านั้น แต่ที่ประชุมผู้บริหารก็พร้อมใจกันลงมติให้นายสุกิจดำรงตำแหน่งแทนน่านฟ้า
นางวิภารู้ดีว่านายสุกิจอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ นางไม่มีทางยอมยกบริษัทให้น้องชายบุญธรรมที่ฉลาดแกมโกงอย่างนายสุกิจแน่ นางวิภาพยายามเกลี้ยกล่อมน้องชายบุญธรรมแต่ไม่เป็นผล สุดท้ายนางจึงไปอาละวาดน่านฟ้าถึงที่บ้าน ความเหลวไหลของน่านฟ้าทำให้พนักงานทุกระดับก่อม็อบปลดน่านฟ้าและกดดันให้ยกตำแหน่งให้นายสุกิจ น่านฟ้าไม่เดือดร้อน เขาว่าก็ให้นายสุกิจเป็นประธานไปเพราะเป็นน้องแม่ใหญ่อยู่แล้ว หากนางวิภาบอกว่านายสุกิจไม่ใช่สายเลือดเดียวกันกับนางหรือนายโชค น่านฟ้าตอกกลับทันทีว่า "ผมก็ไม่ใช่สายเลือดแม่ใหญ่เหมือนกัน" "แต่แกสืบสายเลือดของคุณโชค" คำพูดนี้ของนางวิภาและคำขอของนางสุกัญญาทำให้น่านฟ้าใจอ่อน ยอมให้สัญญาลูกผู้ชายว่าเขาจะเอาตำแหน่งประธานและบริษัทของพ่อกลับคืนมาให้ได้ จะกอบกู้สถานการณ์ที่ตกต่ำมาตลอดหลายปีของข้าวเกรียบมีโชคโดยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลา 3 เดือน ถ้าทำไม่ได้จะยกตำแหน่งประธานให้นายสุกิจอย่างไม่มีเงื่อนไข ข้อเสนอของน่านฟ้าที่ยื่นให้ม็อบพนักงานทุกคนยอมรับเงื่อนไขโดยมีนายสุกิจอยู่เบื้องหลัง เพราะคิดว่ายังไงน่านฟ้าก็ไม่มีทางทำได้สำเร็จ แต่พอน่านฟ้าออกปากว่าจะมีใครช่วยงานเขาในเวลา 3 เดือนต่อจากนี้บ้าง กลับมีแต่ความเงียบงันจากพนักงาน แล้วก็มีเสียงตอบจากสวรรค์ มัศยายอมให้ความช่วยเหลือเขา แม้น่านฟ้าจะสุดแสนประหลาดใจกับการกระทำของมัศยา ร่างอวตารของแม่ใหญ่แต่อย่างน้อยเขาก็ดีใจที่ไม่ต้องต่อสู้เพียงลำพัง ศึกใหญ่ครั้งสำคัญเริ่มต้นขึ้น ศึกย่อยๆ ระหว่างน่านฟ้าและมัศยาจึงสงบลงชั่วคราว ภารกิจกอบกู้บริษัทมีโชคมีเพียงเขาและเธอที่จำเป็นต้องร่วมมือกัน น่านฟ้าเสนอให้มีการรีแบรนด์สินค้าใหม่ แม้มัศยาจะไม่เห็นด้วยที่น่านฟ้าจะเปลี่ยนชื่อข้าวเกรียบมีโชค แต่ไอเดียของน่านฟ้าในการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของสินค้าและการเตรียมตัวทำการบ้านมาอย่างดีโดยการอ่านแผนการตลาดเดิมที่ประธานโชคและวิชญะเคยวางไว้ร่วมกับฝ่ายการตลาดของเธอ ทำให้มัศยาทั้งอึ้ง ทั้งทึ่ง ทั้งเสียว แล้วน่านฟ้าก็เริ่มเห็นว่ามัศยานั้นน่ารักดีจึงปฏิบัติการหมาหยอกไก่ แต่มัศยาเองระวังตัวตลอดเวลาและบอกว่าตนเองมีแฟนแล้ว น่านฟ้าหัวเราะเขาจะจีบมัศยาได้ยังไงในเมื่อเจ๊ไม่ใช่รสนิยมของเขาเลย ผู้หญิงของน่านฟ้าต้องหุ่นนางแบบเท่านั้น
ข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรสูตรใหม่ที่น่านฟ้าเสนอไอเดียนอกจากการรีแบรนด์สินค้า เขาและเธอจึงต้องออกตามล่าหาคนทำสูตรนี้ น่านฟ้าเป็นคนพามัศยาไปหา ป้ามะลิ (นฤมล นิลวรรณ) เจ้าของสูตรข้าวเกรียบรสเลิศสุดโหด ที่หน้าบ้านป้ามะลิน่านฟ้ากับมัศยาพนันกันว่าถ้าน่านฟ้ากอบกู้สถานการณ์ของข้าวเกรียบมีโชคได้สำเร็จภายในสามเดือนเขามีสิทธิ์จะขออะไรเธอก็ได้อย่างหนึ่งแต่ถ้าน่านฟ้าทำไม่สำเร็จมัศยาจะเป็นคนได้สิทธิ์ในขออะไรก็ได้จากเขาแทน ความโหดของป้ามะลิทำให้ทั้งคู่ต้องปฏิบัติการตื้อเท่านั้นที่ครองโลกโดยนอนข้ามคืนตากน้ำค้างอยู่หน้าบ้านป้ามะลิอย่างไม่ย่อท้อแม้จะถูกเขวี้ยงปาของไล่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายป้ามะลิก็ใจอ่อนยอมช่วยเพราะบังเอิญป้าจอมโหดรู้ว่ามัศยาเป็นลูกของ นางสมใจ หรือ เจ๊สมใจ ณ มีโชค (อลิษา ขจรไชยกุล) เพื่อนของเธอ เมื่อติดต่อป้ามะลิเรียบร้อย น่านฟ้าจึงแวะไปส่งมัศยาที่บ้านเพื่อขอบคุณนางสมใจ นอกจากจะได้รู้ว่านางสมใจแม่ของมัศยาจงรักภักดีต่อบริษัทมีโชคมากขนาดไหน ยังพบว่ามัศยาเป็นแม่ม่ายเรือพ่วง เธอมีลูกแล้ว เป็นเด็กน้อยแสนน่ารักวัย 6 ขวบ ชื่อ นะดี (ชวัลรัตน์ เจนจิตรานนท์) ที่ติดใจน่านฟ้าตั้งแต่แรกพบ ป้ามะลิเริ่มดูแลเรื่องสูตรข้าวเกรียบใหม่โดยมีน่านฟ้ากับมัศยาเป็นผู้ช่วยหลัก และมี ไพศาล (เดชบดินทร์ ฉายทองดี) ลูกน้องของมัศยาแอบมาช่วยกันผสมสูตรจนเช้ามืด น่านฟ้าและมัศยาต้องอยู่ค้างคืนด้วยกันอีกครั้งที่ห้องทำงานของน่านฟ้า เขาถามมัศยาเรื่องนะดี พ่อของนะดี และสงสัยว่าทำไมเขาไม่เห็น สินธุ (เจจินตัย อันติมานนท์) แฟนของเธอโทรหาเลย มัศยาตอกกลับว่าไม่เห็นน้องแอนนาโทรหาเขาเหมือนกัน น่านฟ้าบอกว่าน้องแอนนาไปถ่ายแบบที่สิงคโปร์ 3 - 4 เดือน คืนนั้นมัศยาทวงสัญญาจากน่านฟ้าว่าต้องนวดต้นคอให้ชดเชยที่เธอต้องนอนคอห้อยทั้งคืนที่หน้าบ้านป้ามะลิ น่านฟ้าไม่ลืมที่จะโปรยเสน่ห์ใส่ ก่อนที่น่านฟ้าจะล่วงเกินเธอมากไปกว่าการนวด มัศยาก็ออกอาวุธหมัด ศอก เข่าใส่จนเขาต้องหยุดเจ้าชู้ใส่เธอ หลังผ่านขั้นตอนการผลิตโดยฝีมือเพียงไม่กี่คน ในที่สุดข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรล็อตแรกทั้งรสกะเพรา ตะไคร้ และอัญชัญก็ออกมาให้พนักงานบริษัทมีโชคได้ชิมกัน ทุกคนต่างฟันธงว่าข้าวเกรียบสูตรนี้ต้องติดตลาดในไม่ช้า อีกทั้งน่านฟ้ายังทำเรื่องประหลาดใจด้วยการติดต่อกับห้างดังไว้เพื่อวางขายสินค้า ทั้งหมดนี้ทำให้นางวิภาเปี่ยมไปด้วยความหวัง ในขณะที่นายสุกิจดิ้นพล่าน เขาและภูริชวิ่งไปหา ปารณ (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) หนุ่มหน้าเข้มวัย 30 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็นพีอาร์กรุ๊ปบริษัทที่ปรึกษาการตลาดชื่อดังซึ่งมีซีอีโอชื่อมิสเตอร์คิน นายสุกิจใช้บริการบริษัทนี้อยู่ เขาวางแผนโละข้าวเกรียบมีโชคทิ้งมาพักใหญ่แล้ว และกำลังแอบปลุกปั้นข้าวเกรียบยี่ห้อใหม่ ข้าวสาหร่ายมันฝรั่งทอดโอกิมิ "วิธีการกำจัดคู่แข่งที่ดีที่สุดคือฆ่าให้ตายเสียแต่เนิ่นๆ"คำพูดของปารณที่สนับสนุนความคิดของนายสุกิจในการทำให้งานของน่านฟ้าสะดุดเพื่อกันไว้ดีกว่าแก้ และปารณแนะนำว่านายสุกิจต้องทำให้เครื่องจักรในการผลิตข้าวเกรียบเสีย หลังเลิกประชุมปารณไปหาเพื่อนที่ผับดัง เขาสะดุดตาที่ผู้หญิงสวยรูปร่างดีคนหนึ่ง เธอน่าจะอายุไม่เกิน 20 ปี ในที่สุดปารณก็พาผู้หญิงคนนั้นมาที่คอนโดของเขาได้ แต่เขากลับถูกวางยาและปลดทรัพย์ เธอเป็นนางนกต่อ
น่านฟ้าขอรางวัลจากมัศยาหลังบอกข่าวดีว่าเขาจะทำตามใจเธอไม่เปลี่ยนชื่อข้าวเกรียบมีโชคแล้ว โดยให้เหตุผลว่าชื่อมีโชคมีต้นทุนอยู่แล้วเพราะอยู่ในตลาดมานาน ความจริงในใจมัศยาก็อยากกระโดดหอมแก้มเขาเหมือนกันแต่เธอมีคนรักอยู่แล้ว และถึงแม้น่านฟ้าจะหล่อเร้าใจขนาดไหน แต่เขาไม่ใช่รสนิยมของเธอ รสนิยมของมัศยาต้องเป็นหนุ่มมาดภูมิฐานดูเป็นผู้ใหญ่อย่างสินธุไม่ใช่เด็กไม่รู้จากโตอย่างน่านฟ้า น่านฟ้าสังหรณ์ใจว่าอาจจะมีคนเล่นไม่ซื่อ ซึ่งลางสังหรณ์ของน่านฟ้าแม่น ครั้งแรกน่านฟ้ากับมัศยาเห็นคนร้ายผ่านกล้องวงจรปิดในไอแพด แม้คนร้ายจะหนีไปได้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ขัดขวางภารกิจการทำลายเครื่องจักรไว้ทัน จากนั้นน่านฟ้าบอกให้มัศยา ไพศาล และพนักงานอีกคนช่วยกันขนย้ายที่เก็บข้าวเกรียบสมุนไพรมีโชคที่เพิ่งผลิตเสร็จสดๆร้อนๆ เช้าวันต่อมาโกดังใหญ่ที่ใช้เก็บผลิตภัณฑ์ของโรงงานเปียกชุ่ม มีคนร้ายใช้สายยางฉีดน้ำเข้าไปในโกดัง น่านฟ้าคาดการณ์ได้แม่นยำอีกครั้งราวกับเป็นผู้หยั่งรู้อนาคต ปารณแปลกใจเมื่อภูริชมาบอกว่าน่านฟ้ารู้ทันแผนการของพวกเขาหมดทุกอย่าง ภูริชเสนอให้ใช้จุดอ่อนของน่านฟ้าเล่นงานตัวเขา โดยหาผู้หญิงเข้าไปทำให้เสียงานและคอยรายงานความคืบหน้าของน่านฟ้าทุกฝีก้าว ผู้หญิงคนที่ภูริชหามาเป็นนางนกต่อแสนสวยชื่อ นิรชา (ซอนญ่า สิงหะ) ปารณจำได้เธอคือคนที่ปลดทรัพย์เขาเมื่อคืนนั้นนั่นเอง ปารณต้อนนิรชาจนมุม เขาจำเธอได้แม่นและยังมีหลักฐานทั้งพยานปากอย่างยามประจำคอนโดและภาพในกล้องวงจรปิด แม้นิรชาจะหน้าเสียแต่ก็ยังสวนกลับและบอกว่าถ้าเขาแจ้งตำรวจเธอก็จะบอกตำรวจว่าเขากับภูริชจ้างเธอเป็นนางนกต่อให้ทำร้ายน่านฟ้า สุดท้ายปารณจึงเลือกที่จะเอาคืนด้วยการตอแยเธอแทนที่จะได้เงินกับของคืน เขาบังคับให้นิรชาต้องทำทุกอย่างตามคำสั่งเขา
รถหกล้อที่น่านฟ้าต้องขับไปส่งสินค้าเองชนรถญี่ปุ่นสีขาวของสาวน้อยนางหนึ่งที่ทั้งสวย น่ารัก และรูปร่างดีสุดๆ น่านฟ้าผู้ชายบ้างานกลับมาเป็นผู้ชายหื่นกามในทันที เพียงลงไปเคลียร์กันไม่นานเขาและเธอก็ปฏิบัติการขอใจแลกเบอร์โทรกันเรียบร้อย ท้ายที่สุดตลอดเส้นทางที่ไปส่งสินค้าน่านฟ้าก็โทรศัพท์คุยกับ น้องนิ้ม (ซอนญ่า สิงหะ) จนแบตฯมือถือแทบระเบิด แต่รถหกล้อยังคงมุ่งหน้าไปร้านค้าส่งร้านแล้วร้านเล่า ของถูกลำเลียงจากรถบรรทุกสู่ร้านค้าจนฟ้ามืด น่านฟ้าก็ยังไม่วางโทรศัพท์ โดยผู้ปฏิบัติภารกิจขับรถหกล้อแทนน่านฟ้าและขนของอันหนักอึ้งอยู่เพียงคนเดียวก็คือมัศยา มัศยาทั้งเหนื่อยทั้งหงุดหงิด น่านฟ้าจึงไถ่โทษด้วยการพาเธอไปเลี้ยงที่โรงแรมห้าดาว แม้มัศยาจะอึดอัดเพราะสารรูปของเธอยับเยินจนดูไม่ได้ แต่การที่น่านฟ้าตามใจเธอด้วยการยอมให้เธอสั่งอาหารที่เธอต้องการและสวาปามทุกอย่างบนโต๊ะก็ทำให้เธอกลับมายิ้มได้ ขากลับน่านฟ้าขับรถหกล้อมาส่งมัศยาที่บ้านฝ่ายหญิง น่านฟ้าเจอสินธุที่ยังคงใช้รถของมัศยาไม่ยอมคืน นะดีตามมัศยาออกมาส่งน่านฟ้าที่รถบรรทุกหกล้อ ขณะที่นะดีปีนไปเล่นบนท้ายรถ น่านฟ้าเตือนมัศยาที่สินธุยังไม่คืนรถให้เธอและว่ามัศยาหลงแฟนไม่ลืมหูลืมตา มัศยาโต้กลับให้น่านฟ้าเตือนตัวเองที่ทั้งเจ้าชู้ทั้งกะล่อนสักวันจะโดนดี น่านฟ้าอ้างว่าน้องแอนนาอยู่สิงคโปร์ น้องนิ้มก็เลยต้องมาช่วยแก้เหงาเพราะมัศยานั่นแหละที่ไม่ไยดีเขา ก่อนกลับมัศยาอุ้มนะดีส่งน่านฟ้า ลูกสาวมัศยาส่งยิ้มหวานโบกมือลาและส่งจูบให้เขา น่านฟ้ายิ้มหวานโบกมือลาและส่งจูบกลับให้นะดี นายสุกิจพอใจที่ภูริชมารายงานว่าแผนการใช้นางนกต่อกำลังไปได้สวย ส่วนนางวิภาเดือดดาลเพราะน่านฟ้าผิดนัดรายงานความคืบหน้าผลการทำงาน นางรอน่านฟ้ามา 3 ชั่วโมงแล้ว แถมยังได้ภาพที่ภูริชส่งต่อมาเป็นภาพน่านฟ้าถ่ายคู่กับนิรชาอย่างสนิทสนมในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ความซวยตกอยู่ที่มัศยา นางวิภาสั่งว่าถ้ามัศยาปล่อยให้น่านฟ้าเหลวไหลอีกนางจะเอาเรื่องเธอ ปฏิบัติการตามล่าน่านฟ้าที่ผับยามค่ำคืนจึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจของมัศยา เธอฉุดกระชากน่านฟ้าจากน้องนิ้มหรือนิรชา และรีบลากเขาออกจากฟลอร์เต้นรำด้วยเรี่ยวแรงราวกับช้างสาร มัศยาทำให้น่านฟ้าทึ่งต่อเมื่อเธอบอกว่าจะไปนอนเฝ้าเขาที่คอนโดจะได้ไม่หนีเที่ยว ไม่นอนตื่นสาย "เจ๊จะไปนอนค้างกับผมที่คอนโด คิดมิดีมิร้ายกับผมหรือเปล่า" น่านฟ้าถามมัศยาด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแห่งความสนุกสนาน มัศยาตอกกลับว่าถ้าน่านฟ้าคิดจะทำอะไรเธอ เธอเอาเลือดหัวเขาออกแน่แม้นางสมใจแม่ของเธอจะเป็นคนออกไอเดียให้มัศยามานอนเฝ้าและดูแลน่านฟ้าเป็นอย่างดี ปลาอย่างมัศยาไม่มีทางหลงรักน่านฟ้าแน่นอน เพราะเธอเกิดมาคู่สินธุ ไม่มีอะไรมาพรากเธอและเขาได้
เกิดเรื่องจนได้มัศยาไม่ได้ไปนอนเฝ้าน่านฟ้าทุกคืน น่านฟ้าจึงมาสายอีกแล้ว ครั้งนี้มีนัดถ่ายทำโฆษณา ซ้ำร้ายเขายังบอกว่านัดนางแบบผิดวัน การถ่ายทำโฆษณาชุดตุ่มจึงล้มไม่เป็นท่า นางวิภากำลังจะอกแตกตาย น่านฟ้ากลับมาทำตัวเหลวไหลอีกแล้ว ภูริชเล่นงานน่านฟ้าต่อโดยให้นิรชาทิ้งน่านฟ้ากลางอากาศเอาให้อกหักดังเป๊าะ นิรชาทำตามนั้น น่านฟ้าเสียใจดื่มจนเมาเละเทะ มัศยาตามไปหาน่านฟ้าที่ผับเพื่อปลอบใจ แต่ที่นั่นมัศยากลับเจอเรื่องช้ำใจเสียเองเมื่อเจอสินธุอยู่กับสาวน้อยผิวขาว และได้ยินสินธุว่าเธอว่าเป็นผู้หญิงน่าเบื่อ ผู้ชายที่อยู่ด้วยทุกคนต้องหมดอารมณ์ทางเพศ เขาอยากเลิกจะตายอยู่แล้ว ที่คบไว้ผ่อนคอนโด เสร็จเมื่อไรจะขอเลิก มัศยาโกรธจัดทั้งตบ เข่า ถีบสินธุไม่ยั้ง น่านฟ้าสร่างเมาพุ่งเข้าไปล็อกตัวและลากมัศยาออกมาแทบไม่ทัน ตอนนี้กลายเป็นน่านฟ้าปลอบใจมัศยาแทน สำหรับผู้ชายสุขนิยมอย่างน่านฟ้า อกหักแป๊บเดียวก็หาย คนเมาแอ๋กลายเป็นมัศยา โดยมีน่านฟ้าดื่มเป็นเพื่อน น่านฟ้าไม่กล้าพามัศยาในสภาพเละเทะกลับบ้านเลยต้องหิ้วมัศยาไปที่คอนโดเขา มัศยาเมามายจนเผลอเผยความในใจว่าน่านฟ้าทำให้เธอใจหวิว น่านฟ้าเลยจะประทับจูบบนริมฝีปากอิ่ม แต่สัญชาตญาณในการป้องกันตัวของมัศยายังใช้การได้ดี หน้าแข้งของมัศยาเตะเข้าที่ต้นขาของเขา ตามด้วยฝ่ามือขวาของเธอเหวี่ยงเข้าที่ใบหน้าของน่านฟ้า ในที่สุดเขาก็หมดแรงสลบไสลอยู่ข้างตัวเธอ ภูริชไปหานิรชาที่คอนโด เขาใช้กำลังหวังจะขืนใจเธอ โชคดีที่ปารณแวะหามาหานิรชาพอดี แม้หญิงสาวจะไม่ได้เอ่ยปากบอกอะไรปารณเพราะภูริชขู่ไว้ว่าถ้านิรชาพูดอะไรเขาจะทำร้ายแม่ของเธอ แต่ปารณรู้ทันจึงไล่ภูริชกลับไปและดูแลนิรชาที่หน้าบวมฉึ่งเพราะถูกภูริชทำร้าย นิรชานัดนางนารีแม่ของเธอไว้จึงต้องออกไปทั้งๆ ที่ยังเจ็บหน้าอยู่ เธอไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง นางนารีเป็นมะเร็งมดลูกกำลังรักษาด้วยการให้เคมีบำบัดหลังจากรักษาด้วยการฉายรังสี ปารณแอบตามเธอมาและเข้าไปเยี่ยมแม่ของนิรชาด้วย ปารณได้รู้ความจริงว่านิรชาต้องทำงานเป็นนางนกต่อเพื่อเอาเงินมารักษาแม่ เขาช่วยปิดนางนารีเรื่องงานที่เธอทำให้เขาและบอกนางนารีว่าเธอทำงานเป็นเลขาของเขา ปารณคุยกับนิรชาว่าเมื่อจบงานนี้ เขามีงานเลขาจริงๆ ให้เธอทำ
น่านฟ้าไปปรึกษาหารือเรื่องการประชาสัมพันธ์กับมัศยาที่บ้านของเธอ โดยมีนะดีนั่งอยู่ข้างๆ น่านฟ้า ภาพตรงหน้ามัศยาประหนึ่งสายใยผูกพันระหว่างพ่อและลูกสาว นางสมใจก็มาดูแลเอาใจน่านฟ้าตลอดเวลา เมื่อนางสมใจพานะดีขึ้นนอน น่านฟ้าออดอ้อนอยากให้เธอหลงรักเขาจนมัศยาใจสั่นระรัว กว่าจะกลับมาคุยกันได้มัศยาต้องตีน่านฟ้าดังผัวะ ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปเรื่องงานว่าจะจัดงานการกุศลเพื่อระดมทุนช่วยเด็กด้อยโอกาสด้วยการขายกอด หอม จุ๊บ โดยเชิญนายแบบหล่อๆ มาให้เหล่าคุณหญิงคุณนายได้ร่วมทำการกุศล มัศยาตั้งใจไปบอกข่าวดีน่านฟ้าเรื่องยอดขายกระเตื้องขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ เพราะการเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าไปตามห้าง แต่น่านฟ้ามีข่าวใหม่ล่าสุดกว่านั้นคือรายการดังจะเชิญข้าวเกรียบมีโชคเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนร่วมทำกิจกรรมด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับเหล่าคนดัง ข่าวนี้ทำให้มัศยาดีใจจนเผลอกระโดดกอดน่านฟ้า เขาสวมกอดสาวหุ่นเต็มไม้เต็มมือแล้วลูบไล้บั้นท้ายของเธออย่างย่ามใจ มัศยาตบศีรษะน่านฟ้าดังป้าบ แล้วทุกอย่างก็ถูกขัดจังหวะด้วยการโทรมาขอคืนดีของนิรชา มัศยารีบห้ามทัพ แต่น่านฟ้าอ้างว่าเขาเป็นคนขี้เหงาขาดน้องนิ้มไม่ได้ แต่ถ้ามัศยายอมเป็นกิ๊กกับเขา น่านฟ้าจะไม่กลับไปคบกับน้องนิ้ม มัศยาต้องจำใจยอมเป็นกิ๊กกำมะลอของน่านฟ้า ข้าวเกรียบมีโชค กอด หอม จุ๊บ งานระดมเงินทุนช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสเพื่อประชาสัมพันธ์แถลงข่าวเปิดตัวข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรมีโชคจัดขึ้นที่โรงแรมริมแม่น้ำแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย พนักงานที่รับปากมาช่วยแสดงเปิดงานเปลี่ยนใจไม่แสดงเพราะภูริชโทรมาขู่ว่าจะไล่คนที่ช่วยงานนี้ออก จึงเหลือเพียงไพศาลหรือต๋อง ดังนั้นจึงกลายเป็นว่า 3 คนที่ต้องสวมชุดมาสคอตตุ๊กตาหมีลายอัญชัญ กะเพรา และตะไคร้ ก็คือต๋อง มัศยาและนางวิภา โดยน่านฟ้าก็ต้องรับหน้าที่แทนพิธีกรที่ติดธุระโดยบังเอิญ
งานในค่ำคืนนั้นเกือบจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแต่หลังจากน่านฟ้าให้ต๋องไปส่งนางวิภากลับไปพักผ่อนที่บ้าน นายแบบ 3 คนที่ตกลงมาขายกอด หอม จุ๊บ ก็ยังเดินทางมาไม่ถึงและติดต่อไม่ได้ด้วย แต่ปัญหาก็ถูกแก้ด้วยการสลับให้มัศยาไปทำหน้าที่พิธีกรและน่านฟ้าสวมบทแทนนายแบบ มัศยาและน่านฟ้าถูกแปลงโฉม โดยน่านฟ้ากลายเป็นนายแบบหนุ่มหล่อล่ำที่แสนจะน่ากิน แต่นายแบบจำเป็นกลับกลืนน้ำลายเมื่อเห็นมัศยาในลุคสวยโฉบเฉี่ยวเซ็กซี่ในชุดเกาะอกเข้ารูปสีทองอร่าม เน้นความเต็มอิ่มของทรวงอกและส่วนเว้าส่วนโค้ง ค่ำคืนนั้นน่านฟ้าโดนปู้ยี่ปู้ยำจากเหล่าแขกเหรื่อสาวแก่ แม่ม่าย และสาวประเภทสองอยู่นานนับชั่วโมงแลกกับการได้ยอดบริจาคสูงถึง 5 ล้านบาท โดยมีพิธีกรสาวอย่างมัศยาช่วยขายและปั่นราคาด้วยความสนุกสนาน แล้วงานการกุศลก็จบลงอย่างงดงาม จากการแสดงสุดท้ายที่สร้างความประทับใจให้คนมาร่วมงาน นั่นคือการจุมพิตอันดูดดื่มของนายแบบหนุ่มหล่อล่ำกับพิธีกรสาวหุ่นอึ๋มที่คนในงานประสานเสียงเชียร์เพื่อแลกกับการเพิ่มยอดบริจาคขึ้นอีก 1 ล้านบาท การจัดงานเปิดตัวประสบความสำเร็จเกินคาด และในคืนเดียวกันนั้นหนังโฆษณาข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรมีโชคชุดตุ่มก็ออกอากาศเป็นครั้งแรกด้วยสโลแกนฮาๆ "ข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรมีโชค อร่อยได้ทุกที่แม้ตอนหนีผีลงตุ่ม" ทุกคนประหลาดใจว่าน่านฟ้าไปถ่ายโฆษณาตอนไหน ทั้งหมดเป็นการวางแผนการตลาดอย่างแยบยลของประธานคนใหม่ของบริษัทมีโชคนั่นเอง นายสุกิจโวยวายใส่ภูริชเมื่อเห็นทั้งโฆษณาและข่าวงาน ข้าวเกรียบมีโชค กอด หอม จุ๊บ ลงว่อนทั้งในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ และข่าวบันเทิงในทีวี โดยเฉพาะโฆษณาชุดตุ่มที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงในโซเชียลมีเดีย นายสุกิจรีบโทรปรึกษาปารณ เขาบอกให้นายสุกิจเดินหน้าให้ข้าวเกรียบสาหร่ายมันฝรั่งทอดโอกิมิ ออกสู่ตลาดโดยเร็วที่สุดและแนะนำให้ลงทุนซื้อเครื่องจักรราคาเป็นสิบๆ ล้านเพื่อสร้างภาพลักษณ์ความทันสมัยเป็นจุดขายในโฆษณาและทำกิจกรรมให้ลูกค้าเยี่ยมชมโรงงาน นายสุกิจกระวีกระวาดว่าเขามีที่ดินที่ประธานโชคให้ไว้เหมาะสำหรับทำโรงงานใหม่พอดี
ความสัมพันธ์ของน่านฟ้าและมัศยารุดหน้าเพราะเธอและเขาต้องเดินสายทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง มีการจัดบูทแสดงสินค้าตามที่ต่างๆ แล้วมัศยาก็ได้เห็นและสิ่งที่เห็นทำให้มัศยาพุ่งเข้าไปหาสินธุที่เดินโอบกอดมากับสาวน้อยหน้าใส เธอด่าเสียงดังลั่นเรื่องที่เขาขายคอนโดทิ้งแล้วเอาเงินไปใช้สบายใจเฉิบ น่านฟ้าหยุดการโวยวายของมัศยาด้วยการชกหน้าสินธุอย่างเต็มแรง มัศยาประทับใจที่น่านฟ้าทำเพื่อเธอ ทั้งคู่ไปดื่มเบียร์กันต่อที่คอนโดของน่านฟ้าที่นั่นเขาบอกอยากรู้จักเธอมากขึ้นกว่าที่เคยรู้จักและขอมีความสัมพันธ์กับเธอ มัศยาถามอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาและเธอจะคบกันเพื่อลงเอยด้วยการแต่งงานใช่หรือไม่ น่านฟ้าตอบว่าจะคิดมากไปทำไม แค่ตอนนี้เราสนุกและมีความสุขด้วยกัน พรุ่งนี้มีแต่เรื่องไม่แน่นอนอย่าเพิ่งไปคิดถึงมัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของจุดจบ น่านฟ้ากลับไปทำงานที่บริษัทมีโชคในฐานะประธานคนใหม่ใส่แว่นตาดำอย่างภูมิฐาน แต่ในใจเขานั้นกลับโหวงเหวง โต๊ะทำงานของมัศยาว่างเปล่า ผู้ช่วยของเขาไม่มาทำงาน เธอลาป่วย เมื่อคืนเรื่องของเขาและเธอจบลงด้วยมัศยาชกน่านฟ้าจนตาเขียวช้ำเป็นหมีแพนด้า น่านฟ้าตามไปง้อมัศยาที่บ้าน มัศยาไม่ฟังคำอธิบายใดๆ จากปากน่านฟ้า เมื่อเขาตอแยเธอมากๆ เธอก็ตั้งท่าจะชกตาน่านฟ้าอีก ทั้งยังขับรถไล่ชน และเตรียมจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าหากเขายังเข้ามาใกล้ แต่เมื่อน่านฟ้ายอมถอยกลับไป มัศยาก็น้ำตานองหน้า เขาไม่เคยคิดจะจริงจังกับเธอเลย วันต่อมาเมื่อน่านฟ้าไปทำงาน เขาเดินผ่านโต๊ะมัศยา เธอมาทำงานแล้ว แต่ไม่เหลียวมองมาทางเขาแม้แต่นิดเดียว น่านฟ้าเจ็บจี๊ดๆ เหมือนมีมดแดงกัดที่หัวใจ เขาเรียกมัศยาเข้าไปพบ เธอมีท่าทีเย็นชาเฉยเมยกับเขา น่านฟ้าขอสงบศึก มัศยารับปากเธอบอกไม่ต้องห่วงเพราะระหว่างเธอและเขาจะมีแต่เรื่องงานไม่มีเรื่องส่วนตัวใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง น่านฟ้ารู้สึกหน่วงๆ ในอกทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ไม้เด็ดของนางวิภาคือการหาผู้ช่วยมาสอนงานและควบคุมพฤติกรรมของน่านฟ้า แม้ผู้ช่วยจะเป็นผู้หญิงตามความต้องการที่น่านฟ้าหนุ่มเจ้าชู้ขอไว้ แต่ทันทีที่น่านฟ้าเจอ มัศยา (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ฝันของเขาก็สลายลงทันที เพราะเธอห่างไกลรสนิยมของเขาเหลือเกิน นี่มันร่างอวตารของแม่ใหญ่ชัดๆ อายุก็มากกว่าเขาตั้ง 2 ปี หุ่นก็อวบ ดูอึด ถึก ทนและแข็งแรง หน้าตาก็แทบจะไม่มีเครื่องสำอางค์ ผมก็เพียงรวบหางม้าไว้ แถมน้ำเสียงก็ดังฟังชัดและหนักแน่นราวกับนายทหารหญิง แม้ผิวหน้าจะดูอ่อนเยาว์แต่แววตานั้นแสนจะเข้มงวดและพร่องความไร้เดียงสา ทำให้หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์วัย 27 ปี อย่างน่านฟ้ายิ่งหมดอารมณ์ในการทำงาน มัศยาอายุ 29 ปี เธอทำงานที่บริษัทข้าวเกรียบมีโชคมา 7 ปีแล้ว ปัจจุบันเธอเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด เธอตั้งใจถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งหมดให้น่านฟ้าและพร้อมทำทุกวิถีทางให้เขาเหมาะสมกับตำแหน่งประธานเพื่อมาช่วยกอบกู้สถานการณ์อันย่ำแย่ของบริษัทตามคำสั่งของนางวิภา แต่แค่เริ่มภารกิจลูกชายคนเล็กของอดีตประธานก็ปั่นหัวและสร้างปัญหาให้เธอต้องออกแรง อาทิเช่น น่านฟ้าพยายามหลบเลี่ยงการสอนงานของมัศยาด้วยการอ้างว่าท้องเสีย มัศยาจึงตามล่าเขาไปถึงในห้องน้ำชาย ปีนขึ้นไปที่ประตูดูให้เห็นกับตา นี่ถ้าเขาไม่ใจกล้าหน้าด้านจะถอดกางเกงให้ดู เธอไม่มีวันปล่อยหนีไปแน่ๆ ไม่มีทางที่คนอย่าง เจ๊หยี ณ มีโชค (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) จะยอมแพ้ง่ายๆ เธอต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จเพื่อประธานโชค ผู้มีพระคุณต่อเธอและครอบครัว เสเพล ไม่เอาถ่าน ไม่ได้เรื่องได้ราว เหล่านี้คือคุณสมบัติแค่บางส่วนของประธานคนล่าสุดที่ทุกคนในบริษัทรู้จักกัน การวางอนาคตของข้าวเกรียบมีโชคไว้ในมือของน่านฟ้าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ โดยเฉพาะสำหรับ นายสุกิจ (สันติสุข พรหมศิริ) น้องชายบุญธรรมของนางวิภา นายสุกิจพยายามหว่านล้อมให้นางวิภาทบทวนอีกครั้งเรื่องตำแหน่งประธาน นี่ไม่ใช่ตำแหน่งที่เด็กอมมืออย่างน่านฟ้าจะมาทำได้ เพราะนายสุกิจหมายมั่นปั้นมือจะฮุบอาณาจักรนี้ไว้เสียเอง
"เมื่อไรน่านจะเลิกแกล้งแม่ใหญ่ซะที" นางสุกัญญาถามลูกชายด้วยน้ำเสียงอบอุ่นใจดี นางรู้ว่าที่น่านฟ้าทำตัวเหลวไหล บ้าๆ บอๆ เพราะไม่อยากเป็นประธานบริษัทของพ่อ พ่อที่ไม่เคยสนใจไยดีเขาและแม่ น่านฟ้าไม่เคยลืมว่าเขาและแม่ต้องใช้ชีวิตดิ้นรนกระเสือกกระสนขนาดไหน ผิดกับแม่ใหญ่และวิชญะพี่ชายต่างแม่ที่ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายเพียงเพราะพ่อไม่กล้าขัดแย้งกับแม่ใหญ่ สุดท้ายพ่อก็เกรงใจเมียแรกจนยอมเห็นเมียและลูกอีกคนลำบาก ตั้งแต่น่านฟ้าจำความได้แม่ใหญ่ขอพ่อให้เตรียมพินัยกรรมยกหุ้นและตำแหน่งประธานบริษัทให้วิชญะไว้แต่เนิ่นๆ แม่ใหญ่ยืนกรานเสียงแข็งเสมอว่าผู้บริหารธุรกิจนี้คนต่อไปต้องเป็นวิชญะลูกชายคนเดียวของนางเท่านั้น นางจึงกีดกันน่านฟ้าไม่ให้เข้าไปยุ่งกับอาณาจักรมีโชค และตัวน่านฟ้าเองก็ไม่ได้อยากสานต่อธุรกิจที่ไร้อนาคตอย่างข้าวเกรียบที่มีชื่อเชยๆ ว่ามีโชค "โอ๊ย" น่านฟ้าร้องเสียงหลงเป็นเสียงที่สองของน่านฟ้าที่ดังขึ้นในห้องประชุม นอกจากเสียงกรนของเขา อันเกิดจากการกระทำของมัศยาที่ทนไม่ไหวจึงใช้เท้าที่สวมคัตชูสีดำกระทืบลงบนรองเท้าผ้าใบสีส้มแปร๊ดของน่านฟ้า ประธานคนใหม่หลับตลอดการประชุม ทันทีที่ตื่นขึ้นเขาก็สั่งเลิกประชุมโดยไม่สนใจใคร นางวิภาจึงสั่งให้มัศยารายงานผลการประชุมให้น่านฟ้าฟัง แต่มัศยาก็ทำภารกิจพลาดอีกครั้ง น่านฟ้าแกล้งทำไฟดับและหนีไปอีกจนได้
วันต่อมามัศยาอาละวาดน่านฟ้าที่ทำให้เธอถูกนางวิภาต่อว่าเป็นชั่วโมงเพราะปล่อยให้เขาหนีกลับบ้าน มัศยาเดือดดาลขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่น่านฟ้าสนุกขึ้นทุกที มัศยาต่อว่าจนน่านฟ้าต้องอุดหู คงเป็นเรื่องประหลาดถ้าผู้หญิงขี้บ่น ปากจัดและเสียงดังอย่างมัศยาจะมีแฟน น่านฟ้าคิดและพูดใส่หน้าเธอ เขาเรียกมัศยาว่าเจ๊ตลอดเวลา ยิ่งทำให้มัศยาอารมณ์ขึ้น มัศยาไม่ชอบที่น่านฟ้าเรียกเธอว่าเจ๊เพราะทำให้เธอนึกถึงเจ๊เกียวเจ้าแม่รถทัวร์ ผู้ชายทำตัวไร้สาระไม่เอาไหนอย่างน่านฟ้าก็คงไม่มีผู้หญิงคนไหนเอาเหมือนกัน น่านฟ้าไม่ลดละคุยโวโอ้อวดว่าผู้ชายหล่อๆ อย่างเขามีแต่สาวติดตรึม มัศยาตอกกลับไปว่ามีแต่ผู้หญิงโง่ๆ ไร้สมองถึงจะมาติดผู้ชายอย่างน่านฟ้า เขาไม่ยอมจบโต้กลับว่าโง่ไร้สมองหรือเปล่าไม่รู้ แต่สวยกว่ามัศยาแน่นอน ศึกน้ำลายเหมือนจะจบลงเพราะมัศยาต้องขับรถพาประธานคนใหม่ออกไปพบลูกค้า แต่เขาก็ยียวนประสาทเธอตลอดเวลาที่อยู่ในรถด้วยกัน ซ้ำยังนัด แอนนา (กัญญกร พินิจ) สาวสวยหุ่นนางแบบให้ไปรับเขาระหว่างทางเพื่อเลี่ยงการไปพบลูกค้าแต่ไปกินข้าวกลางวันกับผู้หญิงแทน "เราต้องการประธานสุกิจ เราต้องการประธานสุกิจ เราต้องการประธานสุกิจ" เสียงประกาศผ่านโทรโข่งดังก้องอย่างต่อเนื่องบนเวทีหน้าอาคารบริษัทมีโชค ภูริช (ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) ผู้จัดการฝ่ายการตลาดลูกน้องมือขวาของนายสุกิจทำหน้าที่เป็นแกนนำปลุกระดมพนักงานสองร้อยกว่าชีวิตมารวมตัวกัน ไม่ใช่แค่ม็อบพนักงานเท่านั้น แต่ที่ประชุมผู้บริหารก็พร้อมใจกันลงมติให้นายสุกิจดำรงตำแหน่งแทนน่านฟ้า
นางวิภารู้ดีว่านายสุกิจอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ นางไม่มีทางยอมยกบริษัทให้น้องชายบุญธรรมที่ฉลาดแกมโกงอย่างนายสุกิจแน่ นางวิภาพยายามเกลี้ยกล่อมน้องชายบุญธรรมแต่ไม่เป็นผล สุดท้ายนางจึงไปอาละวาดน่านฟ้าถึงที่บ้าน ความเหลวไหลของน่านฟ้าทำให้พนักงานทุกระดับก่อม็อบปลดน่านฟ้าและกดดันให้ยกตำแหน่งให้นายสุกิจ น่านฟ้าไม่เดือดร้อน เขาว่าก็ให้นายสุกิจเป็นประธานไปเพราะเป็นน้องแม่ใหญ่อยู่แล้ว หากนางวิภาบอกว่านายสุกิจไม่ใช่สายเลือดเดียวกันกับนางหรือนายโชค น่านฟ้าตอกกลับทันทีว่า "ผมก็ไม่ใช่สายเลือดแม่ใหญ่เหมือนกัน" "แต่แกสืบสายเลือดของคุณโชค" คำพูดนี้ของนางวิภาและคำขอของนางสุกัญญาทำให้น่านฟ้าใจอ่อน ยอมให้สัญญาลูกผู้ชายว่าเขาจะเอาตำแหน่งประธานและบริษัทของพ่อกลับคืนมาให้ได้ จะกอบกู้สถานการณ์ที่ตกต่ำมาตลอดหลายปีของข้าวเกรียบมีโชคโดยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลา 3 เดือน ถ้าทำไม่ได้จะยกตำแหน่งประธานให้นายสุกิจอย่างไม่มีเงื่อนไข ข้อเสนอของน่านฟ้าที่ยื่นให้ม็อบพนักงานทุกคนยอมรับเงื่อนไขโดยมีนายสุกิจอยู่เบื้องหลัง เพราะคิดว่ายังไงน่านฟ้าก็ไม่มีทางทำได้สำเร็จ แต่พอน่านฟ้าออกปากว่าจะมีใครช่วยงานเขาในเวลา 3 เดือนต่อจากนี้บ้าง กลับมีแต่ความเงียบงันจากพนักงาน แล้วก็มีเสียงตอบจากสวรรค์ มัศยายอมให้ความช่วยเหลือเขา แม้น่านฟ้าจะสุดแสนประหลาดใจกับการกระทำของมัศยา ร่างอวตารของแม่ใหญ่แต่อย่างน้อยเขาก็ดีใจที่ไม่ต้องต่อสู้เพียงลำพัง ศึกใหญ่ครั้งสำคัญเริ่มต้นขึ้น ศึกย่อยๆ ระหว่างน่านฟ้าและมัศยาจึงสงบลงชั่วคราว ภารกิจกอบกู้บริษัทมีโชคมีเพียงเขาและเธอที่จำเป็นต้องร่วมมือกัน น่านฟ้าเสนอให้มีการรีแบรนด์สินค้าใหม่ แม้มัศยาจะไม่เห็นด้วยที่น่านฟ้าจะเปลี่ยนชื่อข้าวเกรียบมีโชค แต่ไอเดียของน่านฟ้าในการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของสินค้าและการเตรียมตัวทำการบ้านมาอย่างดีโดยการอ่านแผนการตลาดเดิมที่ประธานโชคและวิชญะเคยวางไว้ร่วมกับฝ่ายการตลาดของเธอ ทำให้มัศยาทั้งอึ้ง ทั้งทึ่ง ทั้งเสียว แล้วน่านฟ้าก็เริ่มเห็นว่ามัศยานั้นน่ารักดีจึงปฏิบัติการหมาหยอกไก่ แต่มัศยาเองระวังตัวตลอดเวลาและบอกว่าตนเองมีแฟนแล้ว น่านฟ้าหัวเราะเขาจะจีบมัศยาได้ยังไงในเมื่อเจ๊ไม่ใช่รสนิยมของเขาเลย ผู้หญิงของน่านฟ้าต้องหุ่นนางแบบเท่านั้น
ข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรสูตรใหม่ที่น่านฟ้าเสนอไอเดียนอกจากการรีแบรนด์สินค้า เขาและเธอจึงต้องออกตามล่าหาคนทำสูตรนี้ น่านฟ้าเป็นคนพามัศยาไปหา ป้ามะลิ (นฤมล นิลวรรณ) เจ้าของสูตรข้าวเกรียบรสเลิศสุดโหด ที่หน้าบ้านป้ามะลิน่านฟ้ากับมัศยาพนันกันว่าถ้าน่านฟ้ากอบกู้สถานการณ์ของข้าวเกรียบมีโชคได้สำเร็จภายในสามเดือนเขามีสิทธิ์จะขออะไรเธอก็ได้อย่างหนึ่งแต่ถ้าน่านฟ้าทำไม่สำเร็จมัศยาจะเป็นคนได้สิทธิ์ในขออะไรก็ได้จากเขาแทน ความโหดของป้ามะลิทำให้ทั้งคู่ต้องปฏิบัติการตื้อเท่านั้นที่ครองโลกโดยนอนข้ามคืนตากน้ำค้างอยู่หน้าบ้านป้ามะลิอย่างไม่ย่อท้อแม้จะถูกเขวี้ยงปาของไล่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายป้ามะลิก็ใจอ่อนยอมช่วยเพราะบังเอิญป้าจอมโหดรู้ว่ามัศยาเป็นลูกของ นางสมใจ หรือ เจ๊สมใจ ณ มีโชค (อลิษา ขจรไชยกุล) เพื่อนของเธอ เมื่อติดต่อป้ามะลิเรียบร้อย น่านฟ้าจึงแวะไปส่งมัศยาที่บ้านเพื่อขอบคุณนางสมใจ นอกจากจะได้รู้ว่านางสมใจแม่ของมัศยาจงรักภักดีต่อบริษัทมีโชคมากขนาดไหน ยังพบว่ามัศยาเป็นแม่ม่ายเรือพ่วง เธอมีลูกแล้ว เป็นเด็กน้อยแสนน่ารักวัย 6 ขวบ ชื่อ นะดี (ชวัลรัตน์ เจนจิตรานนท์) ที่ติดใจน่านฟ้าตั้งแต่แรกพบ ป้ามะลิเริ่มดูแลเรื่องสูตรข้าวเกรียบใหม่โดยมีน่านฟ้ากับมัศยาเป็นผู้ช่วยหลัก และมี ไพศาล (เดชบดินทร์ ฉายทองดี) ลูกน้องของมัศยาแอบมาช่วยกันผสมสูตรจนเช้ามืด น่านฟ้าและมัศยาต้องอยู่ค้างคืนด้วยกันอีกครั้งที่ห้องทำงานของน่านฟ้า เขาถามมัศยาเรื่องนะดี พ่อของนะดี และสงสัยว่าทำไมเขาไม่เห็น สินธุ (เจจินตัย อันติมานนท์) แฟนของเธอโทรหาเลย มัศยาตอกกลับว่าไม่เห็นน้องแอนนาโทรหาเขาเหมือนกัน น่านฟ้าบอกว่าน้องแอนนาไปถ่ายแบบที่สิงคโปร์ 3 - 4 เดือน คืนนั้นมัศยาทวงสัญญาจากน่านฟ้าว่าต้องนวดต้นคอให้ชดเชยที่เธอต้องนอนคอห้อยทั้งคืนที่หน้าบ้านป้ามะลิ น่านฟ้าไม่ลืมที่จะโปรยเสน่ห์ใส่ ก่อนที่น่านฟ้าจะล่วงเกินเธอมากไปกว่าการนวด มัศยาก็ออกอาวุธหมัด ศอก เข่าใส่จนเขาต้องหยุดเจ้าชู้ใส่เธอ หลังผ่านขั้นตอนการผลิตโดยฝีมือเพียงไม่กี่คน ในที่สุดข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรล็อตแรกทั้งรสกะเพรา ตะไคร้ และอัญชัญก็ออกมาให้พนักงานบริษัทมีโชคได้ชิมกัน ทุกคนต่างฟันธงว่าข้าวเกรียบสูตรนี้ต้องติดตลาดในไม่ช้า อีกทั้งน่านฟ้ายังทำเรื่องประหลาดใจด้วยการติดต่อกับห้างดังไว้เพื่อวางขายสินค้า ทั้งหมดนี้ทำให้นางวิภาเปี่ยมไปด้วยความหวัง ในขณะที่นายสุกิจดิ้นพล่าน เขาและภูริชวิ่งไปหา ปารณ (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) หนุ่มหน้าเข้มวัย 30 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็นพีอาร์กรุ๊ปบริษัทที่ปรึกษาการตลาดชื่อดังซึ่งมีซีอีโอชื่อมิสเตอร์คิน นายสุกิจใช้บริการบริษัทนี้อยู่ เขาวางแผนโละข้าวเกรียบมีโชคทิ้งมาพักใหญ่แล้ว และกำลังแอบปลุกปั้นข้าวเกรียบยี่ห้อใหม่ ข้าวสาหร่ายมันฝรั่งทอดโอกิมิ "วิธีการกำจัดคู่แข่งที่ดีที่สุดคือฆ่าให้ตายเสียแต่เนิ่นๆ"คำพูดของปารณที่สนับสนุนความคิดของนายสุกิจในการทำให้งานของน่านฟ้าสะดุดเพื่อกันไว้ดีกว่าแก้ และปารณแนะนำว่านายสุกิจต้องทำให้เครื่องจักรในการผลิตข้าวเกรียบเสีย หลังเลิกประชุมปารณไปหาเพื่อนที่ผับดัง เขาสะดุดตาที่ผู้หญิงสวยรูปร่างดีคนหนึ่ง เธอน่าจะอายุไม่เกิน 20 ปี ในที่สุดปารณก็พาผู้หญิงคนนั้นมาที่คอนโดของเขาได้ แต่เขากลับถูกวางยาและปลดทรัพย์ เธอเป็นนางนกต่อ
น่านฟ้าขอรางวัลจากมัศยาหลังบอกข่าวดีว่าเขาจะทำตามใจเธอไม่เปลี่ยนชื่อข้าวเกรียบมีโชคแล้ว โดยให้เหตุผลว่าชื่อมีโชคมีต้นทุนอยู่แล้วเพราะอยู่ในตลาดมานาน ความจริงในใจมัศยาก็อยากกระโดดหอมแก้มเขาเหมือนกันแต่เธอมีคนรักอยู่แล้ว และถึงแม้น่านฟ้าจะหล่อเร้าใจขนาดไหน แต่เขาไม่ใช่รสนิยมของเธอ รสนิยมของมัศยาต้องเป็นหนุ่มมาดภูมิฐานดูเป็นผู้ใหญ่อย่างสินธุไม่ใช่เด็กไม่รู้จากโตอย่างน่านฟ้า น่านฟ้าสังหรณ์ใจว่าอาจจะมีคนเล่นไม่ซื่อ ซึ่งลางสังหรณ์ของน่านฟ้าแม่น ครั้งแรกน่านฟ้ากับมัศยาเห็นคนร้ายผ่านกล้องวงจรปิดในไอแพด แม้คนร้ายจะหนีไปได้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ขัดขวางภารกิจการทำลายเครื่องจักรไว้ทัน จากนั้นน่านฟ้าบอกให้มัศยา ไพศาล และพนักงานอีกคนช่วยกันขนย้ายที่เก็บข้าวเกรียบสมุนไพรมีโชคที่เพิ่งผลิตเสร็จสดๆร้อนๆ เช้าวันต่อมาโกดังใหญ่ที่ใช้เก็บผลิตภัณฑ์ของโรงงานเปียกชุ่ม มีคนร้ายใช้สายยางฉีดน้ำเข้าไปในโกดัง น่านฟ้าคาดการณ์ได้แม่นยำอีกครั้งราวกับเป็นผู้หยั่งรู้อนาคต ปารณแปลกใจเมื่อภูริชมาบอกว่าน่านฟ้ารู้ทันแผนการของพวกเขาหมดทุกอย่าง ภูริชเสนอให้ใช้จุดอ่อนของน่านฟ้าเล่นงานตัวเขา โดยหาผู้หญิงเข้าไปทำให้เสียงานและคอยรายงานความคืบหน้าของน่านฟ้าทุกฝีก้าว ผู้หญิงคนที่ภูริชหามาเป็นนางนกต่อแสนสวยชื่อ นิรชา (ซอนญ่า สิงหะ) ปารณจำได้เธอคือคนที่ปลดทรัพย์เขาเมื่อคืนนั้นนั่นเอง ปารณต้อนนิรชาจนมุม เขาจำเธอได้แม่นและยังมีหลักฐานทั้งพยานปากอย่างยามประจำคอนโดและภาพในกล้องวงจรปิด แม้นิรชาจะหน้าเสียแต่ก็ยังสวนกลับและบอกว่าถ้าเขาแจ้งตำรวจเธอก็จะบอกตำรวจว่าเขากับภูริชจ้างเธอเป็นนางนกต่อให้ทำร้ายน่านฟ้า สุดท้ายปารณจึงเลือกที่จะเอาคืนด้วยการตอแยเธอแทนที่จะได้เงินกับของคืน เขาบังคับให้นิรชาต้องทำทุกอย่างตามคำสั่งเขา
รถหกล้อที่น่านฟ้าต้องขับไปส่งสินค้าเองชนรถญี่ปุ่นสีขาวของสาวน้อยนางหนึ่งที่ทั้งสวย น่ารัก และรูปร่างดีสุดๆ น่านฟ้าผู้ชายบ้างานกลับมาเป็นผู้ชายหื่นกามในทันที เพียงลงไปเคลียร์กันไม่นานเขาและเธอก็ปฏิบัติการขอใจแลกเบอร์โทรกันเรียบร้อย ท้ายที่สุดตลอดเส้นทางที่ไปส่งสินค้าน่านฟ้าก็โทรศัพท์คุยกับ น้องนิ้ม (ซอนญ่า สิงหะ) จนแบตฯมือถือแทบระเบิด แต่รถหกล้อยังคงมุ่งหน้าไปร้านค้าส่งร้านแล้วร้านเล่า ของถูกลำเลียงจากรถบรรทุกสู่ร้านค้าจนฟ้ามืด น่านฟ้าก็ยังไม่วางโทรศัพท์ โดยผู้ปฏิบัติภารกิจขับรถหกล้อแทนน่านฟ้าและขนของอันหนักอึ้งอยู่เพียงคนเดียวก็คือมัศยา มัศยาทั้งเหนื่อยทั้งหงุดหงิด น่านฟ้าจึงไถ่โทษด้วยการพาเธอไปเลี้ยงที่โรงแรมห้าดาว แม้มัศยาจะอึดอัดเพราะสารรูปของเธอยับเยินจนดูไม่ได้ แต่การที่น่านฟ้าตามใจเธอด้วยการยอมให้เธอสั่งอาหารที่เธอต้องการและสวาปามทุกอย่างบนโต๊ะก็ทำให้เธอกลับมายิ้มได้ ขากลับน่านฟ้าขับรถหกล้อมาส่งมัศยาที่บ้านฝ่ายหญิง น่านฟ้าเจอสินธุที่ยังคงใช้รถของมัศยาไม่ยอมคืน นะดีตามมัศยาออกมาส่งน่านฟ้าที่รถบรรทุกหกล้อ ขณะที่นะดีปีนไปเล่นบนท้ายรถ น่านฟ้าเตือนมัศยาที่สินธุยังไม่คืนรถให้เธอและว่ามัศยาหลงแฟนไม่ลืมหูลืมตา มัศยาโต้กลับให้น่านฟ้าเตือนตัวเองที่ทั้งเจ้าชู้ทั้งกะล่อนสักวันจะโดนดี น่านฟ้าอ้างว่าน้องแอนนาอยู่สิงคโปร์ น้องนิ้มก็เลยต้องมาช่วยแก้เหงาเพราะมัศยานั่นแหละที่ไม่ไยดีเขา ก่อนกลับมัศยาอุ้มนะดีส่งน่านฟ้า ลูกสาวมัศยาส่งยิ้มหวานโบกมือลาและส่งจูบให้เขา น่านฟ้ายิ้มหวานโบกมือลาและส่งจูบกลับให้นะดี นายสุกิจพอใจที่ภูริชมารายงานว่าแผนการใช้นางนกต่อกำลังไปได้สวย ส่วนนางวิภาเดือดดาลเพราะน่านฟ้าผิดนัดรายงานความคืบหน้าผลการทำงาน นางรอน่านฟ้ามา 3 ชั่วโมงแล้ว แถมยังได้ภาพที่ภูริชส่งต่อมาเป็นภาพน่านฟ้าถ่ายคู่กับนิรชาอย่างสนิทสนมในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ความซวยตกอยู่ที่มัศยา นางวิภาสั่งว่าถ้ามัศยาปล่อยให้น่านฟ้าเหลวไหลอีกนางจะเอาเรื่องเธอ ปฏิบัติการตามล่าน่านฟ้าที่ผับยามค่ำคืนจึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจของมัศยา เธอฉุดกระชากน่านฟ้าจากน้องนิ้มหรือนิรชา และรีบลากเขาออกจากฟลอร์เต้นรำด้วยเรี่ยวแรงราวกับช้างสาร มัศยาทำให้น่านฟ้าทึ่งต่อเมื่อเธอบอกว่าจะไปนอนเฝ้าเขาที่คอนโดจะได้ไม่หนีเที่ยว ไม่นอนตื่นสาย "เจ๊จะไปนอนค้างกับผมที่คอนโด คิดมิดีมิร้ายกับผมหรือเปล่า" น่านฟ้าถามมัศยาด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแห่งความสนุกสนาน มัศยาตอกกลับว่าถ้าน่านฟ้าคิดจะทำอะไรเธอ เธอเอาเลือดหัวเขาออกแน่แม้นางสมใจแม่ของเธอจะเป็นคนออกไอเดียให้มัศยามานอนเฝ้าและดูแลน่านฟ้าเป็นอย่างดี ปลาอย่างมัศยาไม่มีทางหลงรักน่านฟ้าแน่นอน เพราะเธอเกิดมาคู่สินธุ ไม่มีอะไรมาพรากเธอและเขาได้
เกิดเรื่องจนได้มัศยาไม่ได้ไปนอนเฝ้าน่านฟ้าทุกคืน น่านฟ้าจึงมาสายอีกแล้ว ครั้งนี้มีนัดถ่ายทำโฆษณา ซ้ำร้ายเขายังบอกว่านัดนางแบบผิดวัน การถ่ายทำโฆษณาชุดตุ่มจึงล้มไม่เป็นท่า นางวิภากำลังจะอกแตกตาย น่านฟ้ากลับมาทำตัวเหลวไหลอีกแล้ว ภูริชเล่นงานน่านฟ้าต่อโดยให้นิรชาทิ้งน่านฟ้ากลางอากาศเอาให้อกหักดังเป๊าะ นิรชาทำตามนั้น น่านฟ้าเสียใจดื่มจนเมาเละเทะ มัศยาตามไปหาน่านฟ้าที่ผับเพื่อปลอบใจ แต่ที่นั่นมัศยากลับเจอเรื่องช้ำใจเสียเองเมื่อเจอสินธุอยู่กับสาวน้อยผิวขาว และได้ยินสินธุว่าเธอว่าเป็นผู้หญิงน่าเบื่อ ผู้ชายที่อยู่ด้วยทุกคนต้องหมดอารมณ์ทางเพศ เขาอยากเลิกจะตายอยู่แล้ว ที่คบไว้ผ่อนคอนโด เสร็จเมื่อไรจะขอเลิก มัศยาโกรธจัดทั้งตบ เข่า ถีบสินธุไม่ยั้ง น่านฟ้าสร่างเมาพุ่งเข้าไปล็อกตัวและลากมัศยาออกมาแทบไม่ทัน ตอนนี้กลายเป็นน่านฟ้าปลอบใจมัศยาแทน สำหรับผู้ชายสุขนิยมอย่างน่านฟ้า อกหักแป๊บเดียวก็หาย คนเมาแอ๋กลายเป็นมัศยา โดยมีน่านฟ้าดื่มเป็นเพื่อน น่านฟ้าไม่กล้าพามัศยาในสภาพเละเทะกลับบ้านเลยต้องหิ้วมัศยาไปที่คอนโดเขา มัศยาเมามายจนเผลอเผยความในใจว่าน่านฟ้าทำให้เธอใจหวิว น่านฟ้าเลยจะประทับจูบบนริมฝีปากอิ่ม แต่สัญชาตญาณในการป้องกันตัวของมัศยายังใช้การได้ดี หน้าแข้งของมัศยาเตะเข้าที่ต้นขาของเขา ตามด้วยฝ่ามือขวาของเธอเหวี่ยงเข้าที่ใบหน้าของน่านฟ้า ในที่สุดเขาก็หมดแรงสลบไสลอยู่ข้างตัวเธอ ภูริชไปหานิรชาที่คอนโด เขาใช้กำลังหวังจะขืนใจเธอ โชคดีที่ปารณแวะหามาหานิรชาพอดี แม้หญิงสาวจะไม่ได้เอ่ยปากบอกอะไรปารณเพราะภูริชขู่ไว้ว่าถ้านิรชาพูดอะไรเขาจะทำร้ายแม่ของเธอ แต่ปารณรู้ทันจึงไล่ภูริชกลับไปและดูแลนิรชาที่หน้าบวมฉึ่งเพราะถูกภูริชทำร้าย นิรชานัดนางนารีแม่ของเธอไว้จึงต้องออกไปทั้งๆ ที่ยังเจ็บหน้าอยู่ เธอไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง นางนารีเป็นมะเร็งมดลูกกำลังรักษาด้วยการให้เคมีบำบัดหลังจากรักษาด้วยการฉายรังสี ปารณแอบตามเธอมาและเข้าไปเยี่ยมแม่ของนิรชาด้วย ปารณได้รู้ความจริงว่านิรชาต้องทำงานเป็นนางนกต่อเพื่อเอาเงินมารักษาแม่ เขาช่วยปิดนางนารีเรื่องงานที่เธอทำให้เขาและบอกนางนารีว่าเธอทำงานเป็นเลขาของเขา ปารณคุยกับนิรชาว่าเมื่อจบงานนี้ เขามีงานเลขาจริงๆ ให้เธอทำ
น่านฟ้าไปปรึกษาหารือเรื่องการประชาสัมพันธ์กับมัศยาที่บ้านของเธอ โดยมีนะดีนั่งอยู่ข้างๆ น่านฟ้า ภาพตรงหน้ามัศยาประหนึ่งสายใยผูกพันระหว่างพ่อและลูกสาว นางสมใจก็มาดูแลเอาใจน่านฟ้าตลอดเวลา เมื่อนางสมใจพานะดีขึ้นนอน น่านฟ้าออดอ้อนอยากให้เธอหลงรักเขาจนมัศยาใจสั่นระรัว กว่าจะกลับมาคุยกันได้มัศยาต้องตีน่านฟ้าดังผัวะ ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปเรื่องงานว่าจะจัดงานการกุศลเพื่อระดมทุนช่วยเด็กด้อยโอกาสด้วยการขายกอด หอม จุ๊บ โดยเชิญนายแบบหล่อๆ มาให้เหล่าคุณหญิงคุณนายได้ร่วมทำการกุศล มัศยาตั้งใจไปบอกข่าวดีน่านฟ้าเรื่องยอดขายกระเตื้องขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ เพราะการเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าไปตามห้าง แต่น่านฟ้ามีข่าวใหม่ล่าสุดกว่านั้นคือรายการดังจะเชิญข้าวเกรียบมีโชคเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนร่วมทำกิจกรรมด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับเหล่าคนดัง ข่าวนี้ทำให้มัศยาดีใจจนเผลอกระโดดกอดน่านฟ้า เขาสวมกอดสาวหุ่นเต็มไม้เต็มมือแล้วลูบไล้บั้นท้ายของเธออย่างย่ามใจ มัศยาตบศีรษะน่านฟ้าดังป้าบ แล้วทุกอย่างก็ถูกขัดจังหวะด้วยการโทรมาขอคืนดีของนิรชา มัศยารีบห้ามทัพ แต่น่านฟ้าอ้างว่าเขาเป็นคนขี้เหงาขาดน้องนิ้มไม่ได้ แต่ถ้ามัศยายอมเป็นกิ๊กกับเขา น่านฟ้าจะไม่กลับไปคบกับน้องนิ้ม มัศยาต้องจำใจยอมเป็นกิ๊กกำมะลอของน่านฟ้า ข้าวเกรียบมีโชค กอด หอม จุ๊บ งานระดมเงินทุนช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสเพื่อประชาสัมพันธ์แถลงข่าวเปิดตัวข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรมีโชคจัดขึ้นที่โรงแรมริมแม่น้ำแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย พนักงานที่รับปากมาช่วยแสดงเปิดงานเปลี่ยนใจไม่แสดงเพราะภูริชโทรมาขู่ว่าจะไล่คนที่ช่วยงานนี้ออก จึงเหลือเพียงไพศาลหรือต๋อง ดังนั้นจึงกลายเป็นว่า 3 คนที่ต้องสวมชุดมาสคอตตุ๊กตาหมีลายอัญชัญ กะเพรา และตะไคร้ ก็คือต๋อง มัศยาและนางวิภา โดยน่านฟ้าก็ต้องรับหน้าที่แทนพิธีกรที่ติดธุระโดยบังเอิญ
งานในค่ำคืนนั้นเกือบจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแต่หลังจากน่านฟ้าให้ต๋องไปส่งนางวิภากลับไปพักผ่อนที่บ้าน นายแบบ 3 คนที่ตกลงมาขายกอด หอม จุ๊บ ก็ยังเดินทางมาไม่ถึงและติดต่อไม่ได้ด้วย แต่ปัญหาก็ถูกแก้ด้วยการสลับให้มัศยาไปทำหน้าที่พิธีกรและน่านฟ้าสวมบทแทนนายแบบ มัศยาและน่านฟ้าถูกแปลงโฉม โดยน่านฟ้ากลายเป็นนายแบบหนุ่มหล่อล่ำที่แสนจะน่ากิน แต่นายแบบจำเป็นกลับกลืนน้ำลายเมื่อเห็นมัศยาในลุคสวยโฉบเฉี่ยวเซ็กซี่ในชุดเกาะอกเข้ารูปสีทองอร่าม เน้นความเต็มอิ่มของทรวงอกและส่วนเว้าส่วนโค้ง ค่ำคืนนั้นน่านฟ้าโดนปู้ยี่ปู้ยำจากเหล่าแขกเหรื่อสาวแก่ แม่ม่าย และสาวประเภทสองอยู่นานนับชั่วโมงแลกกับการได้ยอดบริจาคสูงถึง 5 ล้านบาท โดยมีพิธีกรสาวอย่างมัศยาช่วยขายและปั่นราคาด้วยความสนุกสนาน แล้วงานการกุศลก็จบลงอย่างงดงาม จากการแสดงสุดท้ายที่สร้างความประทับใจให้คนมาร่วมงาน นั่นคือการจุมพิตอันดูดดื่มของนายแบบหนุ่มหล่อล่ำกับพิธีกรสาวหุ่นอึ๋มที่คนในงานประสานเสียงเชียร์เพื่อแลกกับการเพิ่มยอดบริจาคขึ้นอีก 1 ล้านบาท การจัดงานเปิดตัวประสบความสำเร็จเกินคาด และในคืนเดียวกันนั้นหนังโฆษณาข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรมีโชคชุดตุ่มก็ออกอากาศเป็นครั้งแรกด้วยสโลแกนฮาๆ "ข้าวเกรียบสาหร่ายสมุนไพรมีโชค อร่อยได้ทุกที่แม้ตอนหนีผีลงตุ่ม" ทุกคนประหลาดใจว่าน่านฟ้าไปถ่ายโฆษณาตอนไหน ทั้งหมดเป็นการวางแผนการตลาดอย่างแยบยลของประธานคนใหม่ของบริษัทมีโชคนั่นเอง นายสุกิจโวยวายใส่ภูริชเมื่อเห็นทั้งโฆษณาและข่าวงาน ข้าวเกรียบมีโชค กอด หอม จุ๊บ ลงว่อนทั้งในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ และข่าวบันเทิงในทีวี โดยเฉพาะโฆษณาชุดตุ่มที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงในโซเชียลมีเดีย นายสุกิจรีบโทรปรึกษาปารณ เขาบอกให้นายสุกิจเดินหน้าให้ข้าวเกรียบสาหร่ายมันฝรั่งทอดโอกิมิ ออกสู่ตลาดโดยเร็วที่สุดและแนะนำให้ลงทุนซื้อเครื่องจักรราคาเป็นสิบๆ ล้านเพื่อสร้างภาพลักษณ์ความทันสมัยเป็นจุดขายในโฆษณาและทำกิจกรรมให้ลูกค้าเยี่ยมชมโรงงาน นายสุกิจกระวีกระวาดว่าเขามีที่ดินที่ประธานโชคให้ไว้เหมาะสำหรับทำโรงงานใหม่พอดี
ความสัมพันธ์ของน่านฟ้าและมัศยารุดหน้าเพราะเธอและเขาต้องเดินสายทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง มีการจัดบูทแสดงสินค้าตามที่ต่างๆ แล้วมัศยาก็ได้เห็นและสิ่งที่เห็นทำให้มัศยาพุ่งเข้าไปหาสินธุที่เดินโอบกอดมากับสาวน้อยหน้าใส เธอด่าเสียงดังลั่นเรื่องที่เขาขายคอนโดทิ้งแล้วเอาเงินไปใช้สบายใจเฉิบ น่านฟ้าหยุดการโวยวายของมัศยาด้วยการชกหน้าสินธุอย่างเต็มแรง มัศยาประทับใจที่น่านฟ้าทำเพื่อเธอ ทั้งคู่ไปดื่มเบียร์กันต่อที่คอนโดของน่านฟ้าที่นั่นเขาบอกอยากรู้จักเธอมากขึ้นกว่าที่เคยรู้จักและขอมีความสัมพันธ์กับเธอ มัศยาถามอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาและเธอจะคบกันเพื่อลงเอยด้วยการแต่งงานใช่หรือไม่ น่านฟ้าตอบว่าจะคิดมากไปทำไม แค่ตอนนี้เราสนุกและมีความสุขด้วยกัน พรุ่งนี้มีแต่เรื่องไม่แน่นอนอย่าเพิ่งไปคิดถึงมัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของจุดจบ น่านฟ้ากลับไปทำงานที่บริษัทมีโชคในฐานะประธานคนใหม่ใส่แว่นตาดำอย่างภูมิฐาน แต่ในใจเขานั้นกลับโหวงเหวง โต๊ะทำงานของมัศยาว่างเปล่า ผู้ช่วยของเขาไม่มาทำงาน เธอลาป่วย เมื่อคืนเรื่องของเขาและเธอจบลงด้วยมัศยาชกน่านฟ้าจนตาเขียวช้ำเป็นหมีแพนด้า น่านฟ้าตามไปง้อมัศยาที่บ้าน มัศยาไม่ฟังคำอธิบายใดๆ จากปากน่านฟ้า เมื่อเขาตอแยเธอมากๆ เธอก็ตั้งท่าจะชกตาน่านฟ้าอีก ทั้งยังขับรถไล่ชน และเตรียมจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าหากเขายังเข้ามาใกล้ แต่เมื่อน่านฟ้ายอมถอยกลับไป มัศยาก็น้ำตานองหน้า เขาไม่เคยคิดจะจริงจังกับเธอเลย วันต่อมาเมื่อน่านฟ้าไปทำงาน เขาเดินผ่านโต๊ะมัศยา เธอมาทำงานแล้ว แต่ไม่เหลียวมองมาทางเขาแม้แต่นิดเดียว น่านฟ้าเจ็บจี๊ดๆ เหมือนมีมดแดงกัดที่หัวใจ เขาเรียกมัศยาเข้าไปพบ เธอมีท่าทีเย็นชาเฉยเมยกับเขา น่านฟ้าขอสงบศึก มัศยารับปากเธอบอกไม่ต้องห่วงเพราะระหว่างเธอและเขาจะมีแต่เรื่องงานไม่มีเรื่องส่วนตัวใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง น่านฟ้ารู้สึกหน่วงๆ ในอกทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น