ละคร บุษบาท่าเรือ
ดู 4,121 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัส วันศุกร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 18 มีนาคม 2558 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 18:30 - 19:30 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | บุญชู พิทักษ์เลิศกุล | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | นันทนา วีระชน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท มงคล การละคร จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ บุษบาท่าเรือ
เรื่องราวของเด็กสาวชื่อ ฉายชบา (พิมประภา ตั้งประภาพร) อายุ 17 ปี นัยน์ตาสีน้ำตาล ผิวขาว ปากร้าย สู้คนและไม่เกรงกลัวใคร เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายทำให้เธอต้องสู้คนและเข้มแข็ง ฉายอาศัยอยู่กับ นางโฉม (มัณฑนา หิมะทองคำ) ผู้เป็นแม่วัย 40 กว่า ที่ทำอาชีพเป็นนักร้องที่บาร์ใกล้ๆ ท่าเรือ และ ไอ้โถ (สาริน บางยี่ขัน) นักเลงท่าเรือที่เธอเกลียดชังมาก เพราะมันเป็นแมงดาคอยเกาะแม่ของเธอกินไปวันๆ ตั้งแต่ฉายยังเด็กเธอก็อาศัยอยู่ในห้องแถวแคบๆ ที่กั้นแบ่งเป็นสองตอนกับโฉมแม่ของเธอเพียงสองคน โดยฉายนั้นนอนอยู่ในครัว และก็เห็นแม่ของเธอทำอาชีพนักร้องที่ท่าเรือนี้มาตลอด ฉายไม่มีพ่อแม้จะเคยถามโฉมผู้เป็นแม่ว่า "พ่อเป็นใคร" แต่เธอก็ไม่เคยได้รับคำตอบมีเพียงข่าวลือว่า พ่อเธออาจเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยมหาศาลเท่านั้น ฉายเรียนจบแค่ชั้นมัธยมปลายก็ออกมาทำงานเป็นแม่ค้าขายปลาอยู่ในตลาดปลากับ ป้ายี่สุ่น (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) และ แฉะ (ดนยา รัตนธาดา) ที่เธอสนิทสนมกันมาก ฉายเป็นเด็กสาวที่ขยันทำงานหาเงินเพราะเธอตั้งใจว่า จะได้เอาเงินมาเลี้ยงดูโฉมผู้เป็นแม่ และจะได้ให้แม่เลิกเป็นนักร้องกลางคืนสักที พร้อมกับเลิกคบไอ้โถแมงดาที่คอยแต่คิดจะหาโอกาสปล้ำเธออยู่เสมอ จนเธอไม่เคยนอนหลับสนิทสักคืน เพราะต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลา
ฉายทำงานหนัก จนวันหนึ่งเธอไม่ทันระวังรถเข็นขนปลา เข็นไปทับบนรองเท้าของชายหนุ่มหน้าตาดี อายุเกือบ 30 ปี ชื่อ ทิว (รพีภัทร เอกพันธ์กุล) เป็นกัปตันเรือขนสินค้าคนใหม่ ซึ่งทิวเมื่อเห็นฉายก็รู้สึกสนใจ จนต้องแอบถาม ต้นเรือสมเวช (พงษ์อนันต์ หวังสิทธิเดช) ว่าฉายเป็นใครเพราะรูปร่างหน้าตาผิวพรรณที่ดีของเธอทำให้เขาเกิดสงสัยนั่นเอง ทิวมาออกเรือเจอฉายจึงเข้าไปพูดคุยหวังผูกไมตรีจิต เพราะรู้สึกเอ็นดูแต่ก็โดนเธอตอกหน้ากลับมาทันทีเช่นกัน ฉายเริ่มทนไม่ไหวกับเรื่องของแม่และไอ้โถ จนออกมาเช่าห้องเช่าของป้ายี่สุ่นอยู่เพียงลำพัง ซึ่งแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรผิดกับไอ้โถที่ไม่ยอมแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หลังจากนั้นไม่นานฉายไม่เห็นโฉมผู้เป็นแม่หลายวันเลยเป็นห่วงไปดูที่ห้องแถวจึงรู้ว่าแม่ของเธอไม่สบาย เมื่อพาไปคลีนิค หมอบอกว่าให้พาโฉมไปตรวจที่โรงพยาบาลเพราะอาจเป็นมะเร็ง ทำให้ฉายกังวลและกลุ้มใจมาก เรื่องแม่ของเธอที่ไม่ยอมไปหาหมอที่โรงพยาบาล ขณะที่กัปตันทิวที่เมาจากงานสังสรรค์ ก่อนจะเดินทางไปสิงคโปร์ เดินกลับมาที่ท่าเรือเจอฉายเข้าแล้วเริ่มมั่วคิดว่า เธอเป็นโสเภณีจะจ้างไปนอนด้วย ทิวจึงโดนเธอซัดเข้า
เมื่อทิวกลับจากสิงคโปร์จึงมาหาฉายเพื่อเอาตุ๊กตาที่ซื้อมาให้เธอ ทำให้เธอรู้สึกดี และดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่มีคนนึกถึงเธอและให้ความสำคัญ ฉายอารมณ์ดีจนป้ายี่สุ่นสังเกตได้ จึงสอบถามพอรู้เรื่องจึงเตือนให้เธออย่าหลงระเริงไปกับสิ่งของเพียงเล็กน้อย ซึ่งเธอก็เข้าใจแต่ก็อดไม่ได้ ไม่นานทิวก็เดินเรือไปเทียบท่าเรือที่สิงคโปร์อีก เขาได้พบกับผู้ชายสูงวัยร่างกายสูงใหญ่ หนวดเคราเข้มหนาชื่อ อดัม สมิธ จูเนียร์ (เคน สตรุทเกอร์) เจ้าของบริษัทเดินเรือทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นที่นี้ ทิวพบอดัมที่บาร์ซึ่งเขารู้สึกคุ้นเคยมากเมื่อสบสายตากับคนๆ นี้ หลังจากพูดคุยกันอย่างถูกคอ ทำให้อดัมชวนทิวให้ไปทำงานด้วย แต่เขากลับบอกขอเวลาคิดเพราะอะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกลังเลกับโอกาสดีๆ ที่เข้ามาซึ่งอดัมก็บอกว่าจะรอคำตอบ ทางด้านฉายก็กลุ้มใจเรื่องแม่ของเธอไม่สบายเป็นมะเร็ง ต้องได้รับการผ่าตัดด่วน และเรื่องวิธีหาเงินมาเป็นค่ารักษาแม่ จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ซึ่งในระหว่างนั้นพี่ยุทธ์ (ปิยพันธ์ ขำกฤษ) ลูกป้ายี่สุ่นที่เคยสนิทกับฉายในวัยเด็กก็ได้กลับมาจากการทำงานเป็นครูฝึกทหารด้วย เมื่อยุทธ์ทราบว่าแม่ของฉายเข้าโรงพยาบาลก็ไปเยี่ยม ส่วนเธอหลังจากไม่ได้ทำงาน เพราะต้องเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล ทำให้เงินเก็บแทบไม่เหลือเธอจึงต้องรีบกลับมาทำงานหาเงินตัวเป็นเกลียว
วันต่อมา หลังจากที่ฉายกลับจากทำงาน ฉายก็ต้องตกใจมากเมื่อเธอเห็นแม่แวะมาหาเพื่อบอกเธอว่า ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ฉายพยายามบอกให้แม่กลับไปโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ผลทำให้เธอยิ่งกลุ้มใจ ซึ่งทิวกับพี่ยุทธ์ก็ได้เข้ามาปลอบใจ และแสดงความหวังดีกับเธอเป็นอย่างดีจนเธอรู้สึกราวกับว่า สิ่งที่ขาดหายในหัวใจได้ถูกเติมเต็ม ฉายออกมาทำงานเช่นเคย แต่วันนี้เจอไอ้โถมาก่อกวน แล้วคิดจะใช้กำลังเมื่อโดนเธอด่า แต่ยุทธ์ได้เข้ามาช่วยเธอไว้ทันโดยจับไอ้โถโยนลงน้ำไป ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ไอ้โถโกรธยุทธ์มากที่ทำให้เขาเสียหน้า และยังมาเกาะแกะฉายอีก จนไอ้โถคิดจะกำจัดยุทธ์เมื่อมีโอกาส ส่วนโฉมนั้นกลับมาทำงานเป็นนักร้องตามเดิม แม้ฉายจะขอร้องให้เลิก แต่โฉมก็ไม่สนใจและให้เหตุผลเพียงว่า ต้องกินต้องใช้เท่านั้น ยิ่งทำให้ฉายเป็นห่วงแม่มากขึ้น แต่ความจริงแล้วโฉมไม่อยากให้ฉายลำบากที่ต้องหาเงินมารักษาโฉม หลังจากนั้นพี่ยุทธ์มาหาฉายทุกวันคอยเตือนคอยให้กำลังใจด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ซึ่งป้ายี่สุ่นก็เริ่มสังเกตเห็นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จนวันหนึ่งฉายดูหงุดหงิดผิดปกติ ซึ่งพี่ยุทธ์ก็มาหาแล้วชวนไปกินข้าวแต่ถูกปฏิเสธ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม จึงรู้สึกหงุดหงิดหลังจากเห็น ศิรินภา (ปริษา ทนาวิวัฒน์) กอดแขนขึ้นรถไปกับทิว หลังจากนั้นไม่นานทิวนั้นก็ได้ไปพบกับอดัมอีกครั้ง และเขาได้รู้ว่าอดัมจะมาเมืองไทยและขอให้เขาช่วยตามหาลูกกับภรรยาให้ ซึ่งทิวก็รับปาก อดัมจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทิวฟัง ทำให้เขารู้ความจริงว่าฉายเป็นลูกของอดัม
ในขณะเดียวกันฉายไม่กลับไปกินข้าวที่บ้านป้ายี่สุ่นกับยุทธ์สักที จึงทำให้ยุทธ์เป็นห่วงออกมาตามหา จนเจอไอ้โถแล้วมีปากเสียงกันเป็นเหตุให้ไอ้โถฆ่ายุทธ์ตาย นางยี่สุ่นเสียใจมาก จนไม่เป็นอันทำอะไร ส่วนฉายก็รู้สึกผิดมากที่เธอเป็นสาเหตุให้ยุทธ์ต้องตาย ฉายจึงคอยดูแลป้ายี่สุ่นอย่างดี และเป็นคนจัดการเรื่องงานศพทั้งหมด ในระหว่างที่ฉายออกมาข้างนอกก็ได้พบกับทิว ทิวเล่าเรื่องอดัมให้ฉายฟัง จนฉายต้องไปถามแม่ว่าจริงหรือไม่ แต่แม่กลับบอกว่าเป็นนิทานหลอกเด็ก ทำให้ฉายเสียใจมาก ทิวจึงกอดปลอบซึ่งทั้งสองไม่รู้เลยว่า ไอ้โถแอบฟังอยู่ แล้วก็เริ่มคิดวางแผนไม่ดีขึ้นทันที
หลังจากนั้นโฉมได้มาหาทิวเพื่อบอกว่า อย่ายุ่งกับเรื่องนี้อีก แต่ทิวไม่ยอม โฉมจึงไปหาฉายเพื่อสั่งห้ามว่า ไม่ให้ยุ่งและคุยกับทิวเรื่องพ่ออีก ซึ่งก็ได้ผลเมื่อทิวมาหาฉายเพราะเป็นห่วง แต่ฉายก็บอกกับทิวว่าเธอไม่ต้องการพ่อแล้ว เธอทำทุกอย่างได้เพื่อแม่แม้ต้องขายชีวิตก็ตาม และบอกให้เขาไม่ต้องมายุ่งกับเธออีก หลังจากนั้นไม่นานโฉมได้เสียชีวิตลง ฉายเสียใจมากซึ่งพอทิวรู้ก็มาปลอบใจ และบอกว่าตอนนี้เธอเหลือแต่พ่อเท่านั้น พร้อมกับบอกว่าเขารักเธอ เขาต้องการให้ผู้หญิงที่เขารักเป็นคนดี เขาถือว่าเขามีสิทธิ์ ถ้าฉายจะไปทำงานกลางคืน เขาก็คงรับไม่ได้ ทำให้ฉายเสียใจมากแล้ววิ่งหนีไป ฉายเสียใจมากจนตัดสินใจไปทำงานอย่างที่แม่เคยทำที่ท่าเรือ ทิวรู้เรื่องเลยรีบมาหาทำให้มีปากเสียงกัน ทิวโมโหมากเลยจะซื้อตัวฉายเองทำให้เธอกลัวจนสลบไป ทิวเลยพาฉายไปพักที่บ้านศิรินภา แล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟังซึ่งเธอก็ยอมจะช่วยเหลือ หลังจากนั้นเขาก็ไปพบอดัม เพื่อบอกเรื่องราวทั้งหมดโดยที่ไม่รู้เลยว่าโถ และเหี้ยน (ณัฏฐพล อิศรางกูร ณ อยุธยา) สะกดรอยตามไป โถและเหี้ยนจึงได้บุกเข้าไปจับตัวฉาย ที่บ้านของศิรินภามาเรียกค่าไถ่ พอทิวรู้เรื่องก็รีบไปหาอดัมพ่อของฉายเพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น ในระหว่างนั้นก็มีโทรศัพท์มาทิวรีบรับสาย และบอกจะเอาเงินค่าไถ่ไปให้ตามที่นัดหมาย เมื่อไปถึงทั้งสองฝ่ายก็เอาของมาแลกกันพอโถเปิดกระเป๋าดูจึงรู้ว่าไม่มีเงินมีเพียงอิฐ โถโกรธมากเอามีดขึ้นมาจะแทงฉายให้ตาย แต่อดัมเข้ามาขวางจึงโดนแทงแทน โถและเหี้ยนถูกตำรวจที่ทิวแจ้งความไว้จับไป ส่วนฉายก็เสียใจมาก เพราะเธอทำให้พ่อต้องตายเนื่องจากทิฐิของเธอเอง ทิวจึงกอดปลอบว่ามันเป็นไปตามแต่บุญแต่กรรม แล้วทั้งสองก็ปรับความเข้าใจกันได้ อยู่ๆ มีดอกไม้ร่วงลงมาราวกับคำอวยพรของท้องฟ้าและผู้ล่วงลับ ต่อไปนี้ฉายจะไม่ไช่บุษบาท่าเรือ แต่จะเป็นบุษบาในหัวใจของทิวตลอดกาล
ฉายทำงานหนัก จนวันหนึ่งเธอไม่ทันระวังรถเข็นขนปลา เข็นไปทับบนรองเท้าของชายหนุ่มหน้าตาดี อายุเกือบ 30 ปี ชื่อ ทิว (รพีภัทร เอกพันธ์กุล) เป็นกัปตันเรือขนสินค้าคนใหม่ ซึ่งทิวเมื่อเห็นฉายก็รู้สึกสนใจ จนต้องแอบถาม ต้นเรือสมเวช (พงษ์อนันต์ หวังสิทธิเดช) ว่าฉายเป็นใครเพราะรูปร่างหน้าตาผิวพรรณที่ดีของเธอทำให้เขาเกิดสงสัยนั่นเอง ทิวมาออกเรือเจอฉายจึงเข้าไปพูดคุยหวังผูกไมตรีจิต เพราะรู้สึกเอ็นดูแต่ก็โดนเธอตอกหน้ากลับมาทันทีเช่นกัน ฉายเริ่มทนไม่ไหวกับเรื่องของแม่และไอ้โถ จนออกมาเช่าห้องเช่าของป้ายี่สุ่นอยู่เพียงลำพัง ซึ่งแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรผิดกับไอ้โถที่ไม่ยอมแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หลังจากนั้นไม่นานฉายไม่เห็นโฉมผู้เป็นแม่หลายวันเลยเป็นห่วงไปดูที่ห้องแถวจึงรู้ว่าแม่ของเธอไม่สบาย เมื่อพาไปคลีนิค หมอบอกว่าให้พาโฉมไปตรวจที่โรงพยาบาลเพราะอาจเป็นมะเร็ง ทำให้ฉายกังวลและกลุ้มใจมาก เรื่องแม่ของเธอที่ไม่ยอมไปหาหมอที่โรงพยาบาล ขณะที่กัปตันทิวที่เมาจากงานสังสรรค์ ก่อนจะเดินทางไปสิงคโปร์ เดินกลับมาที่ท่าเรือเจอฉายเข้าแล้วเริ่มมั่วคิดว่า เธอเป็นโสเภณีจะจ้างไปนอนด้วย ทิวจึงโดนเธอซัดเข้า
เมื่อทิวกลับจากสิงคโปร์จึงมาหาฉายเพื่อเอาตุ๊กตาที่ซื้อมาให้เธอ ทำให้เธอรู้สึกดี และดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่มีคนนึกถึงเธอและให้ความสำคัญ ฉายอารมณ์ดีจนป้ายี่สุ่นสังเกตได้ จึงสอบถามพอรู้เรื่องจึงเตือนให้เธออย่าหลงระเริงไปกับสิ่งของเพียงเล็กน้อย ซึ่งเธอก็เข้าใจแต่ก็อดไม่ได้ ไม่นานทิวก็เดินเรือไปเทียบท่าเรือที่สิงคโปร์อีก เขาได้พบกับผู้ชายสูงวัยร่างกายสูงใหญ่ หนวดเคราเข้มหนาชื่อ อดัม สมิธ จูเนียร์ (เคน สตรุทเกอร์) เจ้าของบริษัทเดินเรือทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นที่นี้ ทิวพบอดัมที่บาร์ซึ่งเขารู้สึกคุ้นเคยมากเมื่อสบสายตากับคนๆ นี้ หลังจากพูดคุยกันอย่างถูกคอ ทำให้อดัมชวนทิวให้ไปทำงานด้วย แต่เขากลับบอกขอเวลาคิดเพราะอะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกลังเลกับโอกาสดีๆ ที่เข้ามาซึ่งอดัมก็บอกว่าจะรอคำตอบ ทางด้านฉายก็กลุ้มใจเรื่องแม่ของเธอไม่สบายเป็นมะเร็ง ต้องได้รับการผ่าตัดด่วน และเรื่องวิธีหาเงินมาเป็นค่ารักษาแม่ จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ซึ่งในระหว่างนั้นพี่ยุทธ์ (ปิยพันธ์ ขำกฤษ) ลูกป้ายี่สุ่นที่เคยสนิทกับฉายในวัยเด็กก็ได้กลับมาจากการทำงานเป็นครูฝึกทหารด้วย เมื่อยุทธ์ทราบว่าแม่ของฉายเข้าโรงพยาบาลก็ไปเยี่ยม ส่วนเธอหลังจากไม่ได้ทำงาน เพราะต้องเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล ทำให้เงินเก็บแทบไม่เหลือเธอจึงต้องรีบกลับมาทำงานหาเงินตัวเป็นเกลียว
วันต่อมา หลังจากที่ฉายกลับจากทำงาน ฉายก็ต้องตกใจมากเมื่อเธอเห็นแม่แวะมาหาเพื่อบอกเธอว่า ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ฉายพยายามบอกให้แม่กลับไปโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ผลทำให้เธอยิ่งกลุ้มใจ ซึ่งทิวกับพี่ยุทธ์ก็ได้เข้ามาปลอบใจ และแสดงความหวังดีกับเธอเป็นอย่างดีจนเธอรู้สึกราวกับว่า สิ่งที่ขาดหายในหัวใจได้ถูกเติมเต็ม ฉายออกมาทำงานเช่นเคย แต่วันนี้เจอไอ้โถมาก่อกวน แล้วคิดจะใช้กำลังเมื่อโดนเธอด่า แต่ยุทธ์ได้เข้ามาช่วยเธอไว้ทันโดยจับไอ้โถโยนลงน้ำไป ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ไอ้โถโกรธยุทธ์มากที่ทำให้เขาเสียหน้า และยังมาเกาะแกะฉายอีก จนไอ้โถคิดจะกำจัดยุทธ์เมื่อมีโอกาส ส่วนโฉมนั้นกลับมาทำงานเป็นนักร้องตามเดิม แม้ฉายจะขอร้องให้เลิก แต่โฉมก็ไม่สนใจและให้เหตุผลเพียงว่า ต้องกินต้องใช้เท่านั้น ยิ่งทำให้ฉายเป็นห่วงแม่มากขึ้น แต่ความจริงแล้วโฉมไม่อยากให้ฉายลำบากที่ต้องหาเงินมารักษาโฉม หลังจากนั้นพี่ยุทธ์มาหาฉายทุกวันคอยเตือนคอยให้กำลังใจด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ซึ่งป้ายี่สุ่นก็เริ่มสังเกตเห็นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จนวันหนึ่งฉายดูหงุดหงิดผิดปกติ ซึ่งพี่ยุทธ์ก็มาหาแล้วชวนไปกินข้าวแต่ถูกปฏิเสธ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม จึงรู้สึกหงุดหงิดหลังจากเห็น ศิรินภา (ปริษา ทนาวิวัฒน์) กอดแขนขึ้นรถไปกับทิว หลังจากนั้นไม่นานทิวนั้นก็ได้ไปพบกับอดัมอีกครั้ง และเขาได้รู้ว่าอดัมจะมาเมืองไทยและขอให้เขาช่วยตามหาลูกกับภรรยาให้ ซึ่งทิวก็รับปาก อดัมจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทิวฟัง ทำให้เขารู้ความจริงว่าฉายเป็นลูกของอดัม
ในขณะเดียวกันฉายไม่กลับไปกินข้าวที่บ้านป้ายี่สุ่นกับยุทธ์สักที จึงทำให้ยุทธ์เป็นห่วงออกมาตามหา จนเจอไอ้โถแล้วมีปากเสียงกันเป็นเหตุให้ไอ้โถฆ่ายุทธ์ตาย นางยี่สุ่นเสียใจมาก จนไม่เป็นอันทำอะไร ส่วนฉายก็รู้สึกผิดมากที่เธอเป็นสาเหตุให้ยุทธ์ต้องตาย ฉายจึงคอยดูแลป้ายี่สุ่นอย่างดี และเป็นคนจัดการเรื่องงานศพทั้งหมด ในระหว่างที่ฉายออกมาข้างนอกก็ได้พบกับทิว ทิวเล่าเรื่องอดัมให้ฉายฟัง จนฉายต้องไปถามแม่ว่าจริงหรือไม่ แต่แม่กลับบอกว่าเป็นนิทานหลอกเด็ก ทำให้ฉายเสียใจมาก ทิวจึงกอดปลอบซึ่งทั้งสองไม่รู้เลยว่า ไอ้โถแอบฟังอยู่ แล้วก็เริ่มคิดวางแผนไม่ดีขึ้นทันที
หลังจากนั้นโฉมได้มาหาทิวเพื่อบอกว่า อย่ายุ่งกับเรื่องนี้อีก แต่ทิวไม่ยอม โฉมจึงไปหาฉายเพื่อสั่งห้ามว่า ไม่ให้ยุ่งและคุยกับทิวเรื่องพ่ออีก ซึ่งก็ได้ผลเมื่อทิวมาหาฉายเพราะเป็นห่วง แต่ฉายก็บอกกับทิวว่าเธอไม่ต้องการพ่อแล้ว เธอทำทุกอย่างได้เพื่อแม่แม้ต้องขายชีวิตก็ตาม และบอกให้เขาไม่ต้องมายุ่งกับเธออีก หลังจากนั้นไม่นานโฉมได้เสียชีวิตลง ฉายเสียใจมากซึ่งพอทิวรู้ก็มาปลอบใจ และบอกว่าตอนนี้เธอเหลือแต่พ่อเท่านั้น พร้อมกับบอกว่าเขารักเธอ เขาต้องการให้ผู้หญิงที่เขารักเป็นคนดี เขาถือว่าเขามีสิทธิ์ ถ้าฉายจะไปทำงานกลางคืน เขาก็คงรับไม่ได้ ทำให้ฉายเสียใจมากแล้ววิ่งหนีไป ฉายเสียใจมากจนตัดสินใจไปทำงานอย่างที่แม่เคยทำที่ท่าเรือ ทิวรู้เรื่องเลยรีบมาหาทำให้มีปากเสียงกัน ทิวโมโหมากเลยจะซื้อตัวฉายเองทำให้เธอกลัวจนสลบไป ทิวเลยพาฉายไปพักที่บ้านศิรินภา แล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟังซึ่งเธอก็ยอมจะช่วยเหลือ หลังจากนั้นเขาก็ไปพบอดัม เพื่อบอกเรื่องราวทั้งหมดโดยที่ไม่รู้เลยว่าโถ และเหี้ยน (ณัฏฐพล อิศรางกูร ณ อยุธยา) สะกดรอยตามไป โถและเหี้ยนจึงได้บุกเข้าไปจับตัวฉาย ที่บ้านของศิรินภามาเรียกค่าไถ่ พอทิวรู้เรื่องก็รีบไปหาอดัมพ่อของฉายเพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น ในระหว่างนั้นก็มีโทรศัพท์มาทิวรีบรับสาย และบอกจะเอาเงินค่าไถ่ไปให้ตามที่นัดหมาย เมื่อไปถึงทั้งสองฝ่ายก็เอาของมาแลกกันพอโถเปิดกระเป๋าดูจึงรู้ว่าไม่มีเงินมีเพียงอิฐ โถโกรธมากเอามีดขึ้นมาจะแทงฉายให้ตาย แต่อดัมเข้ามาขวางจึงโดนแทงแทน โถและเหี้ยนถูกตำรวจที่ทิวแจ้งความไว้จับไป ส่วนฉายก็เสียใจมาก เพราะเธอทำให้พ่อต้องตายเนื่องจากทิฐิของเธอเอง ทิวจึงกอดปลอบว่ามันเป็นไปตามแต่บุญแต่กรรม แล้วทั้งสองก็ปรับความเข้าใจกันได้ อยู่ๆ มีดอกไม้ร่วงลงมาราวกับคำอวยพรของท้องฟ้าและผู้ล่วงลับ ต่อไปนี้ฉายจะไม่ไช่บุษบาท่าเรือ แต่จะเป็นบุษบาในหัวใจของทิวตลอดกาล