ละคร รากบุญ รอยรักแรงมาร
ดู 3,090 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 8 กรกฎาคม 2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:15 - 22:45 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ ช่อมณี, บทโทรทัศน์ เอกลิขิต | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ รากบุญ รอยรักแรงมาร
หลังจากการตายที่เป็นปริศนาของพิสัย (โกสินทร์ ราชกรม) เจติยา (ราศรี บาเล็นซิเอก้า) ได้สืบหาความจริงตามการร้องขอของพิสัย ทุกคนพุ่งเป้าไปที่พ่อของปริม หากแต่คนลงมือไม่ใช่และไม่สามารถโยงใยถึงพ่อของปริมได้เลย คดีนี้พ่อปริมเลยลอยนวล แต่จากการสืบหาความจริงในครั้งนี้ ทำให้เจติยาพบข้อเท็จจริงว่าพ่อของปริมได้ไปปรึกษาปรับทุกข์กับเพื่อนเก่า วนันต์ ไกรวิน (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) ซึ่งกำลังป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และการตายของพิสัยก็เกิดจากอำนาจลึกลับบางอย่างที่วนันต์ผู้นี้ได้มาจากกล่องรากบุญ
ความจริงแล้วในอดีตวนันต์เป็นเพื่อนสนิทของสารัช (สมมาตร ไพรหิรัญ) พ่อของลาภิณ (พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) และเป็นหุ้นส่วนนิราลัยด้วย หากแต่วนันต์มีปัญหาเรื่องการเงินถึงขั้นล้มละลาย จึงทำการฉ้อโกงบริษัท สารัชรู้ทัน แต่ด้วยความเป็นเพื่อนสนิทเลยไม่เอาผิด เพียงแต่ยึดหุ้นคืนเพื่อเป็นการชดเชยความเสียหายของบริษัท สารัชบอกต่อทุกคนเพียงว่าวนันต์ขายหุ้นให้ตนเพื่อจะไปลงทุนทำกิจการอย่างอื่น
วนันต์อับจนถึงขีดสุด จึงคิดขโมยกล่องรากบุญของสารัชเพราะคิดว่าเป็นของเก่าแก่เพราะสารัชหวงแหนมาก คงได้ราคาเป็นหลายสิบล้านแน่ๆ ไม่งั้นสารัชคงไม่หวงแหนขนาดนี้ วนันต์แอบมาขโมยกล่องรากบุญของสารัชที่ห้องทำงาน ขณะสำรวจกล่องไปมา วนันต์ก็เห็นเหรียญตกแต่งที่ใต้กล่องรากบุญ มีลายสลักสวยงามแปลกตา วนันต์จึงลองจับดูปรากฏว่าสามารถแกะออกมาได้ แต่ทันใดนั้นสารัชก็กลับมาที่ห้องทำงาน วนันต์จึงรีบเก็บกล่องรากบุญไว้ที่เดิมซึ่งเอาไปได้เพียงแค่เหรียญใต้กล่องเท่านั้น
ทันทีที่วนันต์ออกไปจากนิราลัยก็เกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้นกับเหรียญตกแต่งกล่องรากบุญ เหรียญดังกล่าวเกิดแตกตัวกลายเป็น 3 เหรียญ แล้ว 2 เหรียญพุ่งขึ้นฟ้ากระจายหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย วนันต์ตกใจมากได้แต่กำเหรียญรากบุญที่อยู่กับตนอีก 1 เหรียญในมือเอาไว้แน่น
ต่อมาวนันต์ได้ย้ายไปเริ่มต้นธุรกิจที่ประเทศสิงคโปร์ และร่ำรวยขึ้นมาอย่างกะทันหันด้วยการร่วมลงทุนกับนักธุรกิจที่นั่น วนันต์ได้ทำธุรกิจเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้าง โดยมีลูกสาวพิมพ์อร (วิริฒิพา ภักดีประสงค์ แย้มนาม) กับสามีช่วยบริหารบริษัทก่อสร้างแทนเพราะวนันต์เริ่มป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
ต่อมาสามีพิมพ์อรตายกะทันหันด้วยอาการหัวใจวายอันเกิดเพราะคำขอจากเหรียญลึกลับ การชิงอำนาจบริหารกับผู้ถือหุ้นอื่นในบริษัทและจุดประสงค์บางอย่างทำให้เธออาสาขอไปดูแลสาขาใหม่ของบริษัทที่ประเทศไทย ซึ่งเธอมีความได้เปรียบด้านภาษาและพื้นเพดั้งเดิมของครอบครัวที่เคยอยู่ในประเทศไทย อีกทั้งมีมิตรสหายทางธุรกิจที่เป็นคนไทยหลายคน ผู้ถือหุ้นจึงเลือกเธอให้ไปเป็นตัวแทนเปิดตลาดในตำแหน่งผู้จัดการสาขาคนใหม่ วนันต์ได้ขอร้องให้ลูกสาวพาเขากลับเมืองไทยด้วย
เจติยายังคงทำงานในห้องแต่งศพเพราะขาดบุคลากรด้านนี้ อีกทั้งยังแบ่งเวลาไปช่วยงานแผนกอื่นตามคำขอร้องของลาภิณ ความรักของทั้งคู่อยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน จึงสวีตหวานเป็นที่อิจฉาสำหรับพนักงานสาวๆ ทั้งบริษัท ซึ่งในขณะเดียวกันเจติยายังช่วยคลี่คลายคดีให้ผู้กองนวัช (เอกพงค์ จงเกษกรณ์) ด้วย นวัชก็ยังคงคบหากับนิษฐา (แจ๊คกี้ ชาเคอลีน) เหมือนเดิม แต่นิษฐาก็ยังไม่ใจอ่อนยอมแต่งงานด้วย เพราะเธอต้องการที่จะเรียนปริญญาโทต่อให้จบตามความตั้งใจก่อน แต่ก็ไม่วายแอบหึงแอบงอนผู้กองหนุ่มอยู่ตลอดเพราะระยะหลังเสน่ห์แรงมีสาวๆ มาติดพันเยอะ มีเรื่องมาพูดคุยมาปรึกษากับเจติยาอยู่บ่อยๆ
เจติยาทำงานตามคำเรียกร้องจากศพด้วยความสุขใจโดยไม่มีการเรียกร้องตอบแทนอะไร เจติยาเองก็มีความสุขกับการช่วยวิญญาณจนบางครั้งเริ่มมีเวลาให้ลาภิณน้อยลง ทั้งคู่ก็เริ่มมีความน้อยใจกันบ้าง แต่ก็กระเง้ากระงอดประสาคนรักกัน แต่กระนั้นเรื่องเล็กๆ นี้ก็เป็นบ่อเกิดของปัญหาใหญ่ในชีวิตคู่ที่จะตามมา ธุรกิจของลาภิณก็เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ ลุงทวี (ญาณี ตราโมท) กับโอ้เอ้ (จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม) ก็ยังคงช่วยงานบริษัทอยู่เหมือนเดิมแถมเจติยายังดึงนที (สายชล ปารเนียล) เข้ามาหัดทำงานในห้องแต่งศพเพื่อฝึกนิสัยและหารายได้พิเศษอีกด้วย ลุงทวีช่วยเหลือและให้คำแนะนำเป็นอย่างดี ช่วงนี้นทีเองก็กำลังพบรักกับสาวสก๊อยสวยเปรี้ยวนางหนึ่ง ซึ่งเจติยาและแม่ไม่ชอบเอามากๆ
ชาคร (วริษฐ์ ทิพโกมุท) คือผู้ประสานงานการตั้งบริษัทสาขาใหม่ในเมืองไทยให้พิมพ์อร ชาครมีความหลังและเป็นหนี้บุญคุณเกื้อหนุนกันมากับครอบครัวของวนันต์ หลายปีก่อนชาครพักอยู่กับแม่ที่สิงคโปร์ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านให้ครอบครัวคนสิงคโปร์ ต่อมาแม่ป่วยหนักจึงถูกเลิกจ้างและเตรียมส่งกลับประเทศไทย เขาต้องการหาเงินช่วยรักษาแม่ จึงเข้าร่วมปล้นเงินของวนันต์ที่เพิ่งเบิกจากธนาคารและเอากลับบริษัท จึงถูกชิงเงินตรงที่จอดรถของตึก คนเห็นการปล้นรีบแจ้งสายด่วน ตำรวจจึงเข้าจับกุมโจร ชาครถูกยิงบาดเจ็บและถูกโจรทิ้งไว้ วนันต์รับทราบปัญหาของเขาจึงเห็นใจและช่วยด้านคดีจนเขารับโทษเนรเทศกลับประเทศไทยพร้อมกับแม่ได้ เขาให้เงินช่วยเหลือดูแลครอบครัวชาครและส่งเสียให้เขาได้เรียนหนังสือในไทย เมื่อรู้ว่าพิมพ์อรจะมาทำงานที่ไทยจึงให้ชาครเป็นคนประสานงานและคอยดูแลเธอ ชาครมีโอกาสพบวนันต์และพิมพ์อรเป็นระยะ เขาแอบหลงรักพิมพ์อรและให้ความภักดีต่อวนันต์และลูกสาวอย่างไร้เงื่อนไข ชาครได้ทำงานเป็นเลขาส่วนตัวให้กับพิมพ์อร ทั้งคู่ได้ไปที่บริษัทนิราลัยเพื่อเจรจารับงานสร้างอาคารใหม่กับลาภิณ อีกทั้งขอพบ ลุงทวี อันสร้างความแปลกใจแก่เขามากที่พิมพ์อรลูกสาวของวนันต์กลับมาร่ำรวยยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง พิมพ์อรขอร้องให้ลุงทวีไปพบกับบิดาของเธอแล้วจะหายสงสัยเอง
ลาภิณและพิมพ์อร วัยเด็กไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกันด้วยวัยต่างกันมาก และต่างคนก็เปลี่ยนไปเยอะ แถมพอพ่อทั้งคู่ผิดใจกันก็ไม่เคยได้พบเจอกันอีกเลย ชาครไม่สบายใจที่เห็นเจ้านายสาวมีความพึงพอใจให้ลาภิณที่รวยและมีความสามารถในงานบริหารธุรกิจ พูดง่ายๆ คือแอบหึงหวงแต่ก็ไม่กล้าแสดงความรู้สึกอะไรเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อสาวสก๊อยที่นทีหลงรัก ตามจีบ และหวังช่วยให้เธอกลับใจจากการหลงแก๊งซิ่งรถ เสียชีวิตอย่างปริศนา สร้างความเสียใจมากให้แก่นที เจติยาช่วยคลี่คลายคดีและจับคนร้ายได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เจติยาได้เหรียญที่มีรูปภาพคุ้นตาไว้ในครอบครองจากศพสก๊อยสาวที่ได้เหรียญประหลาด จากแม่ซึ่งเก็บมาจากถังขยะระหว่างเป็นแม่บ้านของบริษัทแห่งหนึ่ง
การสืบหาคดีต่างๆ ร่วมกับผู้กองนวัชอย่างสม่ำเสมอทำให้เจติยาไม่ได้สนใจความเปลี่ยนแปลงของเหรียญรากบุญ ซึ่งแต่เดิมเหรียญเป็นสีดำ พออยู่กับเจติยาก็มีสีอ่อนลงเรื่อยๆ พอลุงทวีได้เห็นเหรียญก็มีความสงสัยว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่ก็นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก เวลาเดียวกันพิมพ์อรกับลาภิณเริ่มสนใจการลงทุนอื่นที่เพื่อนนักธุรกิจแนะนำ ทั้งสองจึงมีการพบปะแลกเปลี่ยนความเห็นและเรียนรู้ธุรกิจที่อยากลงทุนเพิ่มเติม พิมพ์อรยิ่งเพิ่มความชื่นชมความเป็นสุภาพบุรุษและความฉลาดของลาภิณมากขึ้นซึ่งช่วยเติมเต็มจิตโหยหาของเธอ แม้พิมพ์อรจะรู้ว่าเจติยาเป็นภรรยาของเขาก็ตาม เธอใช้ความสนใจการลงทุนและงานก่อสร้างตึกใหม่เพื่อสร้างความสนิทสนมกับลาภิณ
พิมพ์อรต้องการสร้างชื่อเสียงในสังคมไทยจึงบริจาคเงินก้อนใหญ่ให้งานกุศลที่ลาภิณเป็นกรรมการหาทุนอยู่จึงกลายเป็นข่าวใหญ่ จากนั้นก็ใช้ชื่อเสียงนี้เข้าหาผู้ใหญ่เพื่อวิ่งเต้นหางานก่อสร้างเข้าบริษัทอย่างต่อเนื่อง เธอใช้โครงการก่อสร้างอาคารใหม่ของนิราลัยเป็นผลงานไปสู่งานชิ้นใหญ่ การจ่ายเงินแกล้งแพ้พนันในสนามกอล์ฟแก่ผู้ใหญ่แลกกับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทำให้เธอสามารถเข้าถึงผู้ใหญ่ได้ทุกระดับ บริษัทของพิมพ์อรจึงมีชื่อเสียงในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อคู่แข่งพูดสบประมาทเธอก็จะพบจุดจบชีวิตอย่างไม่คาดคิด ทำให้เธอได้งานชิ้นที่ต้องการอย่างง่ายดาย จนลือกันว่าเธออยู่เบื้องหลังความตายปริศนาของคู่แข่งแต่ไร้หลักฐาน ผู้กองนวัชได้รับการร้องเรียนจากครอบครัวผู้ตายเป็นระยะ แต่ยังหาหลักฐานดำเนินคดีกับพิมพ์อรไม่ได้ ส่วนชาครยังคงทำหน้าที่ตามคำสั่งให้ประสบความสำเร็จเพื่อกำจัดศัตรูทางธุรกิจให้เธอ
มยุรี (ชนานา นุตาคม) ป่วยเป็นอัมพาตด้วยโรคหลอดเลือดสมองแตก เจติยารับหน้าที่ดูแลแม่สลับกับนที ซึ่งลาภิณได้จ้างพยาบาลมาช่วยดูแลแทน เจติยายอมรับความช่วยเหลือช่วงกลางวันและวันที่ไม่ต้องเข้าเวรกลางคืนในห้องแต่งศพ ทุกคืนเธอจะดูแลแม่ด้วยตัวเองจากคำพูดที่ทุกคนฟังแล้วอึ้งว่า แม่ดูแลเธอกับน้องชายด้วยสองมือ เธอกับนทีเป็นลูกต้องดูแลแม่คนเดียวได้ นี่จะเป็นการตอบแทนบุญคุณของลูก วันหนึ่งมยุรีเกิดอาการหัวใจวายกะทันหัน นทีรีบแจ้งให้พี่สาว เจติยารู้สึกใจไม่ดีเมื่อได้รับแจ้งให้ไปดูใจของผู้เป็นแม่ที่โรงพยาบาลเป็นครั้งสุดท้าย
ลุงทวีตามเจติยาไปที่โรงพยาบาลด้วย เมื่อเห็นสองพี่น้องร่ำไห้หนักกับการใกล้สูญเสียมารดาหลังจากแพทย์เตือนล่วงหน้าแล้ว ลุงทวีเอ่ยถึงเหรียญประหลาดที่หล่อนได้รับจากศพสาวสก๊อยว่าตนจำได้ว่าเป็นเหรียญที่ประดับอยู่ที่กล่องรากบุญแต่ตอนอยู่กับคุณสารัชและเจติยามันหายไปแล้ว ทวีคิดว่าเหรียญอาจจะมีอิทธิฤทธิ์คล้ายกล่องรากบุญก็ได้ ให้เจติยาลองขอพรให้มยุรีหาย เจติยารับรู้ด้วยความประหลาดใจ แต่หล่อนปฏิเสธว่าไม่ต้องการเป็นทาสกิเลส นี่เป็นวัฏสังขารของมนุษย์ ถ้าแม่รู้ ก็ต้องเห็นด้วยกับการที่ลูกไม่ถูกบังคับให้ทำงานแลกชีวิตแม่ ลาภิณ ผู้กองนวัช นิษฐา รีบไปเยี่ยมปลอบใจเจติยากับนทีในการเสียแม่ครั้งนี้
ภวังค์หลับของเจติยาก็ได้พบกับยมทูตที่เตือนให้รักษาเหรียญประหลาดไว้และใช้มันเพื่อเรียกหาอีกสองเหรียญที่แตกกระจายหายไปจากกล่องรากบุญ รวมทั้งอธิบายถึงขอบเขตพลังของเหรียญดังกล่าว มัจจุราชต้องการให้เจติยาทำลายเหรียญเพราะเป็นผู้ที่มีจิตบริสุทธิ์ พร้อมกับบอกวิธีทำลายมัน เมื่อตื่นขึ้นมาเธอสังเกตเห็นสีดำบนเหรียญจางลงกว่าครั้งแรกที่ได้รับมันอันเป็นไปตามคำบอกของยมทูต หล่อนรู้เพียงว่าอีกสองเหรียญจะตามล่าหาเธอแน่เพื่อสร้างกล่องรากบุญใบใหม่
เวลาเดียวกันพิมพ์อรได้ยินเสียงของ กสิณ (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) ซึ่งเป็นผู้ชี้ทางชีวิตให้เธอมานานแล้ว เธออยู่ในห้องที่ห้ามทุกคนเข้าไปข้างใน จึงไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ในนั้นแม้แต่ชาคร เธอเล่าสรุปว่า พิมพ์อรช่วยสะสมพลังงานให้เธอคงรูปร่างนี้และพัฒนาจนมีเสียงพูดคุยกันได้ แทนที่จะเขียนอักษรบนกระจกอย่างที่ผ่านมา แรงปรารถนาของพิมพ์อรสร้างสีดำบนเหรียญและเป็นพลังงานของเธอยิ่งมีพลังมากขึ้น ทำให้เธอช่วยพิมพ์อรได้มากขึ้น จะไม่ใช่เพียงแค่บันดาลเรื่องเงินทองเท่านั้น เธอได้เตือนว่าเหรียญไม่มีพลังพอที่จะช่วยให้พ่อของพิมพ์อรมีชีวิตใหม่ได้ เรื่องใหญ่ขนาดนี้จำเป็นต้องใช้กล่องรากบุญ เวลาของวนันต์เหลือน้อยเต็มที เธอต้องเร่งหาเหรียญอีกสองอันให้เจอ เธอสัมผัสพลังเหรียญอันหนึ่งอยู่ไม่ห่างเธอนัก แต่ยังไม่มีพลังมากพอจะมองเห็นที่ซ่อนของมัน พิมพ์อรรับปากที่จะหาเหรียญทั้งสองมาให้ได้โดยเร็วเพื่อให้กำเนิดกล่องรากบุญขึ้นมาอีกครั้ง
พิมพ์อรจะเยี่ยมและพูดคุยกับวนันต์เป็นประจำเพื่อใช้เวลากับพ่ออันเป็นที่รัก ให้สัญญาจะคืนสุขภาพแข็งแรงให้เขา โดยไม่สนใจคำขอร้องกึ่งเตือนจากวนันต์ที่ไม่ให้หมกมุ่นกับเหรียญมากเกินไป เขารู้สึกถึงความไม่เป็นมงคลจากเหรียญอันนั้น แม้จะเคยได้ความสำเร็จจากแรงอธิษฐานผ่านเหรียญแล้วก็ตาม จึงไม่อยากให้ลูกสาวพึ่งพามัน แต่ควรใช้ความสามารถ ความรู้ เพื่อสร้างความสำเร็จด้วยตัวเองและยั่งยืนกว่ากัน พิมพ์อรอยากพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่าเธอเป็นที่พึ่งของเขาได้มากกว่าน้องชาย อยุทธ์ (นิพัธ เจริญผล) ซึ่งเป็นความหวังของวนันต์มาตลอด อยุทธ์เองก็ไม่สนใจความต้องการของวนันต์ เขาเดินทางตามหาความฝันของตัวเองที่จะเป็นศิลปินนักวาดรูป ทิ้งภาระให้พี่สาวเผชิญเพียงลำพัง วันนี้พ่อก็ยังรักและคิดถึงน้องชายคนนั้นอยู่ตลอดเวลา เธอน้อยใจที่เสียสละตัวเองเพื่อรักษาธุรกิจของครอบครัวไว้ด้วยการแต่งงานกับลูกน้องที่เก่งของพ่อ แต่เวลานั้นเขาถูกซื้อตัวไปทำงานที่อีกบริษัท เมื่อรู้ว่าเขาหลงรักพิมพ์อร เธอจำต้องยอมแต่งงานกับเขาเพื่อรักษางานของวนันต์ไว้ พ่อก็ยังไม่เชื่อถือเธอว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวตามลำพังได้ เธอจึงอยากให้พ่อมีชีวิตอยู่ดูความสำเร็จของเธอก่อน ให้พ่อได้ชื่นชมเธอได้นานที่สุด กล่องรากบุญจึงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะยื้อชีวิตของพ่อไว้ หลังจากได้ยินคำบอกเล่าของลุงทวีกับวนันต์ซึ่งได้พบกันเป็นครั้งแรก พอได้ถามถึงเหรียญที่เขาแอบขโมยจากก้นกล่องโดยบังเอิญว่ามันคืออะไรกันแน่ เธอยิ่งมั่นใจในพลังของกล่องรากบุญซึ่งจะมอบชีวิตใหม่ให้พ่อได้
เจติยาช่วยคลี่คลายคดีปริศนาในความรับผิดชอบของนิษฐาได้และเห็นเหรียญปริศนาของเธอขาวขึ้นด้วยความยินดี ลุงทวีสงสัยกับสีของเหรียญที่เปลี่ยนไปจึงถามจากเจติยา เขาทึ่งใจกับภารกิจลับที่เธอรับปากกับยมทูตไว้และเตือนถึงภัยที่อาจมาใกล้เธอ อยุทธ์กับแฟนสาวเดินทางมาไทยเพื่อร่วมงานวันเกิดพ่อของแฟน แต่แฟนสาวกลับตกลงมาตายที่โรงแรมโดยไม่รู้สาเหตุระหว่างที่เขาขอตัวไปเข้าห้องน้ำและเป็นมุมที่ไม่สามารถหาภาพในกล้องวงจรปิดมาเป็นหลักฐานได้
ศพแฟนสาวไปอยู่กับเจติยาหลังการตรวจพิสูจน์จากตำรวจแล้ว ลุงทวีเห็นนามสกุลของอยุทธ์เป็นนามสกุลเดียวกับวนันต์และพิมพ์อร จึงซักถามจนได้ความว่าเป็นลูกชายคนเล็กของวนันต์นั่นเอง ทั้งสองจึงสนิทกันในระยะเวลาอันรวดเร็วด้วยอัธยาศัยที่เป็นมิตรของลุงทวีและเจติยา ศพแฟนสาวร้องขอความช่วยเหลือจากเจติยาให้จับแฟนเก่าที่ตามระรานเธอ โดยอยุทธ์ช่วยกันเขียนภาพในมโนภาพสุดท้ายของแฟนสาวออกไปให้ตำรวจตามค้นหาฆาตกรและเจติยาชี้เบาะแสให้ผู้กองนวัชทำงานไวขึ้นจนจับฆาตกรได้สำเร็จ อยุทธ์ชื่นชมและทึ่งในการทำงานของเจติยาที่นิราลัยมาก ประกอบกับยังทำใจเรื่องเสียแฟนสาวไม่ได้ จึงหมกตัวอยู่กับเจติยา ช่วยเหลือเจติยาทำงานชนิดเป็นเงาตามตัว จนลาภิณแอบจับตามองอยู่ห่างๆ แอบหึงภรรยาขึ้นมาเหมือนกัน
ลุงทวีทราบว่าอยุทธ์กับพิมพ์อรขัดแย้งกันจนถูกสั่งห้ามพบวนันต์ ผู้เป็นพ่อด้วยข้ออ้างว่าพ่อไม่อยากเห็นหน้าลูกชายแล้ว ทำให้ลุงทวีเห็นใจและให้สัญญาว่าจะพยายามให้พ่อลูกได้พบกัน การก่อสร้างอาคารใหม่ของนิราลัย ความพยายามชักจูงให้ลาภิณลงทุนในบริษัทของพิมพ์อร ทำให้ทั้งสองใกล้ชิดสนิทสนมมากขึ้นจนกลายเป็นข่าวลือทั่วสังคมว่ามีสัมพันธ์พิเศษต่อกัน แต่พิมพ์อรสัมผัสได้ว่า ลาภิณยังรักมั่นต่อเจติยาเสมอ ส่วนเขาก็ไม่แสดงปฏิกิริยาใดให้เธอเข้าใจผิดและรักษาระยะห่างเพื่อให้เกียรติแก่เธอ มันทำให้เธอไม่พอใจมากที่ความรักไม่คืบหน้า ชาครมองความสัมพันธ์ของทั้งสองด้วยความเจ็บปวดใจ แต่เมื่อเป็นความต้องการของพิมพ์อรเขาจึงไม่คิดที่จะขัดใจ เขาหาโอกาสเตือนลาภิณถึงความรักของเจ้านายและขู่นทีว่าไม่ต้องการให้เจ้านายผิดหวัง ยิ่งทำให้ลาภิณเพิ่มความสงสัยข่าวลือว่าพิมพ์อรกับชาครอยู่เบื้องหลังการตายของคู่แข่งทางธุรกิจมากขึ้น
ลาภิณกับเจติยามีความรักมั่นคงและไว้วางใจกัน มีการพูดคุยกันเป็นระยะทำให้ไม่มีใครเห็นทั้งสองทะเลาะกันด้วยข่าวลือความสัมพันธ์ลับๆ ของพิมพ์อรกับลาภิณเลย เมื่อความปรารถนาของพิมพ์อรถึงขีดสุด เธอได้ขอพรต่อเหรียญให้ลาภิณมาหลงรักเธอ แต่ด้วยพลังความดีและความรักอันมั่นคงของลาภิณและเจติยาได้ปกป้องทั้งคู่เอาไว้ พรที่พิมพ์อรขอจึงไม่สำเร็จ พิมพ์อรโกรธมากไปต่อว่ากสิณ ตัวกิเลสจากเหรียญทันที กสิณต้องยอมสารภาพว่าพลังกิเลสของตนยังแพ้คุณความดีและความรักที่ลาภิณและเจติยามีให้กัน คงต้องพึ่งพลังจากกล่องรากบุญเท่านั้นถึงจะช่วยให้ความปรารถนาของพิมพ์อรสำเร็จได้ พิมพ์อรได้แต่ผูกใจเจ็บแลพยายามหากล่องรากบุญเพื่อให้ได้มาโดยเร็วที่สุด
งานเลี้ยงวันเกิดที่บ้านของพิมพ์อรเชิญลาภิณ เจติยา ลุงทวี ไปร่วมพบปะและแนะนำให้รู้จัก วนันต์ ซึ่งนั่งเก้าอี้ล้อเลื่อนมาร่วมงาน ผ่านไปสักระยะหนึ่งจึงแยกตัวกลับห้องนอนโดยลุงทวีตามไปเป็นเพื่อนคุยด้วย โดยวางแผนกับเจติยาและลาภินให้ถ่วงเวลาพูดคุยกับพิมพ์อรไว้ ลุงทวีจะได้เอาโทรศัพท์มือถือให้วนันต์คุยกับอยุทธ์ได้ ช่วงหนึ่งชาครนำของว่างไปให้ทั้งสองในห้อง จึงได้ยินเสียงพูดคุยแปลกๆ ในห้อง เมื่อเปิดเข้าไปก็เห็นวนันต์กับลุงทวีนั่งคุยกันด้วยใบหน้าสดชื่น เขามั่นใจว่ามีบางอย่างไม่ปกติในห้องนั้น เวลาเดียวกัน กสิณ ซึ่งอยู่อีกห้องหนึ่งสัมผัสกับพลังเหรียญที่เจติยาพกติดตัวตลอดเวลา เธอดีใจมากที่พบเหรียญที่สองแล้ว แต่ด้วยพลังไม่มากพอจึงไม่รู้ว่ามันอยู่กับใคร เธอเพ่งสมาธิเต็มที่เพื่อสร้างภาพเจ้าของเหรียญที่สองให้ชัดขึ้นบนกระดาษในมือ ทำให้เห็นลายเส้นภาพผู้ที่เป็นเจ้าของเหรียญเป็นผู้หญิงและเห็นปัญหาที่เกิดกับเหรียญด้วยชาครรายงานความไม่ปกติในห้องของวนันต์แก่พิมพ์อร หล่อนไปซักถามกับพ่อ วนันต์ปฏิเสธไม่มีใครอื่น เขากับลุงทวีคุยถึงความหลังระหว่างสามคนคือ เขา ลุงทวี และสารัช ช่วงเริ่มสร้างนิราลัย วันนี้บริษัทก็รุ่งเรืองจนตกทอดแก่ลาภิณได้ ลุงทวีเล่าอุปสรรคที่เผชิญมาเหมือนกับเล่นละครให้ดูอันเป็นนิสัยของเพื่อนคนนี้ ทำให้คิดว่ามีการคุยกันหลายคน พิมพ์อรสงสัย แต่ไม่อยากคาดคั้นอีกเพราะพ่อคงไม่ยอมพูดความจริงแน่
พิมพ์อรไปหา กสิณ ที่ห้องจึงรับทราบว่าเธอพบผู้ครองเหรียญแล้ว เมื่อเห็นภาพผู้หญิงทำให้ตกใจมากเมื่อรู้ว่าคือ เจติยา และปัญหาหนักใจต่อมาคือ เหรียญอันนี้กำลังถูกฟอกขาวด้วยพลังบริสุทธิ์ของเจติยา หากเหรียญนี้ไร้กิเลสครอบงำเป็นสีดำ มันจะสร้างกล่องรากบุญขึ้นมาใหม่ไม่ได้ กสิณแนะให้กำจัดเจติยาและแย่งเหรียญมาโดยเร็ว เธอเห็นเป็นโอกาสทองที่จะแย่งลาภิณมาเป็นของตัวเองเมื่อขาดเจติยาแล้ว จึงรับปากที่จะทำเรื่องนี้ เมื่อถามถึงเหรียญอันที่สาม กสิณ ก็ตอบไม่ได้ ถ้าพลังของเขาเพิ่มมากขึ้นก็น่าจะตามหาเหรียญอันสุดท้ายได้ไม่ยาก
พิมพ์อรสั่งชาครไปจ้างคนฆ่าเจติยาด้วยข้ออ้างว่า ต้องการครอบครองลาภิณไวๆ เขาจึงจ้างมือปืนรับจ้างเพื่อฆ่าเจติยา แต่ทำพลาดเพราะพลังลึกลับของยมทูตช่วยเหลือให้แคล้วคลาด พิมพ์อรรับรู้ผลด้วยความแค้นอยุทธ์เข้ามาเรียนรู้การทำงานของเจติยากับลุงทวีทำให้ความสนิทสนมของเจติยาและอยุทธ์เพิ่มพูนขึ้นจนลาภิณชักไม่พอใจ วันหนึ่งทั้งสองได้อยู่กันตามลำพัง อยุทธ์พูดเปิดใจว่าเขาชอบนิสัยและความจริงใจของเจติยา และยังไม่ลืมความรักของเขากับแฟนสาวที่เพิ่งตายไป ไม่เคยคิดกับเจติยาเป็นอื่นนอกจากความเป็นเพื่อน ลาภิณชื่นชอบความเป็นลูกผู้ชายของอยุทธ์มาก จึงสบายใจที่รู้ว่าทั้งสองเป็นแค่เพื่อนกัน แต่ก็ยังแอบจับตาดูอยู่ห่างๆ อยุทธ์กับเจติยาเสนอสร้างหลักสูตรผู้ช่วยงานแต่งศพ โดยจะนำเสนอผ่านมูลนิธิของนิษฐาและอื่นๆ เพื่อให้คนด้อยโอกาสที่ต้องการงานเข้าอบรมและช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนคนแต่งศพให้บริษัทนิราลัย ลาภิณตอบรับและจะสนับสนุนโครงการนี้เต็มที่ กสิณเริ่มมีพลังแข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อระยะหลังพิมพ์อรมีแรงปรารถนากล้าขึ้นและเมื่อร้องขอจากเหรียญบ่อยก็ทำให้สีดำเข้มมากขึ้น เขาคิดจะช่วยเร่งให้พิมพ์อรได้ครองเหรียญของเจติยาโดยอาสากับเธอจะฆ่าศัตรูธุรกิจที่จะแย่งงานก่อสร้างอาคารประชุมนานาชาติแห่งใหม่กับบริษัทของพิมพ์อรแล้วป้ายสีความผิดและน่าสงสัยให้ลาภิณ เพื่อให้เจติยายอมแลกเหรียญกับความช่วยเหลือชายอันเป็นที่รักจากพิมพ์อร
กสิณใช้พลังเรียกลาภิณเพื่อไปหาเพื่อนและถูกทำให้สลบอยู่ใกล้กับศพเพื่อน เขาไม่มีความทรงจำช่วงเวลานั้น กสิณกำชับพิมพ์อรว่าห้ามเจติยาเข้าใกล้ศพเด็ดขาด หล่อนจึงให้เงินสินบนแก่เจ้าหน้าที่เพื่อกีดกันมิให้เจติยาเข้าใกล้ศพ เจติยากับผู้กองนวัชทราบข่าวด้วยความหนักใจเมื่อบาดแผลและรอยนิ้วมือบนศพล้วนพุ่งไปที่ลาภิณ อีกทั้งก่อนหน้านั้นทั้งสองมีปากเสียงกันเพราะลาภิณปฏิเสธไม่ยอมให้ยืมเงิน เจติยาเข้าใกล้ศพไม่ได้จึงไม่อาจสืบค้นพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ลาภิณได้ ชาครเสนอให้เธอขอความช่วยเหลือจากพิมพ์อรซึ่งมีเพื่อนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เยอะ เจติยาตัดสินใจไปคุยกับเจ้านายของชาครซึ่งขอเหรียญในครอบครองของเธอแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพของลาภิณ เธอรู้ทันทีว่าพิมพ์อรคือข่าวร้ายที่ยมทูตเคยแจ้งเตือนเจติยาไว้ เธอปฏิเสธข้อเสนอนั้นแล้วคิดหาวิธีช่วยเหลือลาภินเอง วนันต์เริ่มอ่อนแอลงจนกระทบต่อกล้ามเนื้อหัวใจที่เสื่อมมาก หมอเตือนพิมพ์อรถึงวาระสุดท้ายของพ่อแล้ว เธอร้อนใจมากจึงไปหากสิณ เขาแจ้งว่ารู้แล้วว่าเหรียญอันที่สามอยู่ที่อยุทธ์นั่นเอง อยุทธ์ได้เหรียญมาตอนเดินทางไปเที่ยว พิมพ์อรจะนัดน้องชายออกมาคุยกัน
อยุทธ์นั่งมองเหรียญหน้าตาประหลาดอย่างครุ่นคิด ลุงทวีเห็นความไม่สบายใจของชายหนุ่มจึงนั่งคุยและตกใจและดีใจที่ได้เห็นเหรียญรากบุญเหรียญที่ 3 อยุทธ์เล่าว่าเขาเห็นมันวางขายอยู่ที่ตลาดนัดช่วงที่ท่องเที่ยวในเวียดนามจึงซื้อเก็บไว้เพราะคุ้นตากับลายบนเหรียญที่คล้ายกับของวนันต์มีไว้ในครอบครอง เขาคิดว่ามันอาจเป็นเหรียญเก่ายุคเดียวกัน แต่ไม่เคยมีโอกาสเปรียบเทียบเหรียญสองอันนี้ ลุงทวีตัดสินใจเล่าความเป็นมาของเหรียญทั้งสามอันกับกล่องรากบุญให้อยุทธ์ฟังทั้งหมด และดีใจที่ชายหนุ่มไม่เคยขอสิ่งใดจากเหรียญอันนั้นเลย มันแสดงว่าอยุทธ์มีจิตใจบริสุทธิ์เหมือนเจติยาในปัจจุบันนี้
พิมพ์อรกับอยุทธ์พบกันที่ร้านอาหารย่านชานเมือง เธอขอร้องน้องชายให้มอบเหรียญอันที่สามเพื่อช่วยชีวิตของวนันต์ ผู้เป็นพ่อโดยไม่ยอมบอกวิธีแก่น้องชายโดยละเอียด อยุทธ์เริ่มสงสัยเขาจึงเสนอขอพบพ่อสักครั้งก่อนตัดสินใจ เธอจำต้องรับปากแล้วพากันกลับบ้านเพื่อให้น้องชายคุยกับพ่อ วนันต์ดีใจที่ได้พบลูกชาย วนันต์รู้ตัวว่าวาระสุดท้ายใกล้เข้ามาแล้วกับภาวะหัวใจที่อ่อนแรงลงทุกที จึงขอคุยกับอยุทธ์ตามลำพัง พิมพ์อรจำต้องรับปากเพื่อเอาใจน้องชายและพ่อ คำขอร้องทั้งน้ำตาของวนันต์ให้ช่วยเหลือพี่สาวพ้นจากการครอบงำของกิเลสทำให้อยุทธ์หนักใจมากเมื่อเขาอาจเสียพ่อไปกับการตัดสินใจครั้งนี้ พิมพ์อรต้องผิดหวังเมื่ออยุทธ์ไม่ยอมมอบเหรียญให้พี่สาวจนกว่าจะรู้ว่าเธอทำอย่างไรให้พ่อมีชีวิตใหม่ สองพี่น้องทะเลาะกันหนักเมื่อพิมพ์อรประณามน้องชายว่าไม่รักพ่อ ไม่ทุ่มเทเพื่อพ่อเหมือนเธอ อยุทธ์ทนฟังไม่ได้จึงกลับไป อยุทธ์เล่าการสนทนาระหว่างเขากับวนันต์ทั้งน้ำตาให้ลุงทวีฟัง ลุงทวีมองอยุทธ์ด้วยความเห็นใจ เขาเตือนอยุทธ์ให้เลือกระหว่างคุณธรรม ความรัก และความถูกต้อง ซึ่งอยุทธ์ต้องพร้อมแบกรับความทุกข์ใจไว้กับตัวเองตลอดกาล
เหรียญของเจติยาขาวมากขึ้นจากการคลี่คลายความทุกข์ที่ซ่อนอยู่ในศพอันเป็นการทำบุญจากหัวใจบริสุทธิ์ กสิณร้อนใจมากเกินกว่าจะทนรอการแย่งเหรียญโดยพิมพ์อรได้ จึงพยายามใช้พลังขัดขวางเจติยากับผู้กองนวัชซึ่งลอบเข้าไปใกล้ศพของเพื่อนลาภิณเพื่อหาหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลาภิณ กสิณไม่สามารถทำร้ายเจติยาได้ด้วยพลังลึกลับที่คอยคุ้มครองเธอไว้ทำให้รอดตายได้หวุดหวิด ขณะที่กสิณเสียพลังไปมากจนต้องเก็บตัวสะสมพลังใหม่และขบคิดค้นหาที่มาของพลังลึกลับนั้น เมื่อวนันต์อยู่ในอาการโคม่า พิมพ์อรสั่งชาครไปข่มขู่เจติยาบังคับให้มอบเหรียญไม่เช่นนั้นตนจะส่งคนเข้าไปฆ่าลาภิณในห้องขัง เจติยารู้ว่าพิมพ์อรทำได้เพราะเหรียญในมือพิมพ์อรสะสมกิเลสมากพอจะขอพรได้ จึงยอมรับนัดนำเหรียญไปแลกชีวิตลาภิณ อยุทธ์รู้เรื่องจึงบอกเจติยาว่าจะช่วยให้ทุกอย่างอยู่ในที่อันควรและขอร้องให้เจติยาเชื่อใจเขาด้วย
พิมพ์อรแปลกใจที่อยุทธ์มาหาพี่สาวเพื่อพูดคุยกันก่อนที่เธอจะไปพบเจติยาตามนัดหมาย เขาขอทำเรื่องนี้เพื่อไถ่โทษที่ทิ้งพ่อไปหาความฝันของตัวเองและพี่สาวต้องเดือดร้อนเพียงนี้ เธอรับปากเพื่อเอาใจน้องชาย ขณะนั้นผู้กองนวัชแอบช่วยพูดคุยกับตำรวจผู้ใหญ่ให้ประกันตัวลาภิณออกจากคุกได้ก็เร่งตามเจติยาไปยังที่นัดหมาย โชคดีที่เจติยาฝากข้อความสุดท้ายไว้ที่มือถือของลาภิณในบ้านด้วยคิดว่าเธออาจไม่มีโอกาสกลับมาพบเขาอีก ทั้งสองจึงรู้ว่าจะพบทุกคนได้ที่ใด
พิมพ์อรกับอยุทธ์เดินทางไปพบเจติยาที่โกดังร้างริมแม่น้ำ ชาครจะเข้าไปด้วยแต่พิมพ์อรสั่งให้ชาครรออยู่นอกโกดังร้างอันสร้างความสงสัยแก่ชาครจนต้องแอบดูเหตุการณ์ภายในผ่านหน้าต่าง เจติยาจำใจรับปากมอบเหรียญของเธอให้สองพี่น้อง อยุทธ์ถามพี่สาวว่าจะขอชีวิตใหม่ให้พ่อหรือให้ลาภิณรักพิมพ์อร พี่สาวมีความลังเลชั่วครู่ก่อนตอบยืนยันว่า เรื่องลาภิณจัดการทีหลังได้เมื่อมีกล่องรากบุญแล้ว ตอนนี้ต้องการชีวิตพ่อที่เธอรักก่อน อยุทธ์กับเจติยาแปลกใจที่พิมพ์อรเลือกวนันต์ซึ่งบ่งบอกว่ารักผู้เป็นพ่อมากเพียงใด เจติยาพูดเตือนให้คิดว่าควรปล่อยวนันต์ไปตามวิถีกรรม มิใช่ทำเลว ทำชั่ว เพื่อให้ชีวิตใหม่แก่เขา ที่พิมพ์อรคิดว่าเป็นการแสดงความกตัญญูต่อพ่อ โดยไม่ยอมรับความจริงว่าพ่อรับการตอบแทนแบบนี้ไม่ได้เพราะเป็นการสร้างบาปให้ตัวเองและพ่อ อีกทั้งได้ชีวิตใหม่ครั้งนี้ก็มิใช่ความยั่งยืน สักวันเขาก็ต้องตาย หมายความว่าพิมพ์อรจะต้องสร้างบาปกรรมไปเรื่อยๆ เพื่อให้ชีวิตใหม่แก่พ่อ วนันต์ไม่น่าจะรับเรื่องนี้ได้อีก
มือถือจากโรงพยาบาลเรียกพิมพ์อรไปพบสั่งลากับวนันต์ทำให้เธอเร่งให้น้องชายทำตามสัญญา มิฉะนั้น จะเปลี่ยนใจทำเสียเอง อยุทธ์ยืนกรานว่ารักพ่อเหมือนพี่สาว จึงขอร้องให้เจติยามอบเหรียญให้เขา พิมพ์อรก็มอบเหรียญให้น้องชาย กสิณมองเหรียญทั้งสามมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งด้วยความหวังที่จะได้กล่องรากบุญใบใหม่เป็นที่สิงสถิตสมบูรณ์เสียที พิมพ์อรบอกวิธีการเพ่งแรงปรารถนาเพื่อสร้างคำขอแก่น้องชาย อยุทธ์ทำตามโดยดี เขาเพ่งสมาธิและเปล่งคำขอให้สร้างกล่องรากบุญใบใหม่และ กล่องรากบุญค่อยๆ สร้างตัวเองขึ้นมาขณะที่อยุทธ์พูดคำขอและเว้นระยะไว้ พิมพ์อร กสิณ เจติยา เฝ้ามองกล่องใบนั้นด้วยความตื่นเต้น พลันหัวใจสลายเมื่ออยุทธ์ตะโกนคำขอให้ครบประโยคว่า ให้ทำลายกล่องเดี๋ยวนี้ สิ้นคำขอนั้นกล่องก็สลายตัวพร้อมกับเสียงหวีดร้องของกสิณด้วยความเจ็บปวดทรมานเมื่อเหรียญทั้งสามพุ่งหายวับไปคนละทิศทาง
พิมพ์อรรู้ว่าถูกน้องชายหลอกลวงและวนันต์ ผู้เป็นพ่อต้องตายในไม่ช้า เธอกำลังสูญเสียสมบัติมีค่านี้ไปตลอดกาลแล้ว ตั้งแต่อดีตเธอต้องเสียสละตัวเองเพื่อรักษาธุรกิจให้พ่อ แบ่งปันความรักของพ่อให้น้องชาย ไม่เคยมีอะไรที่เป็นของตัวเองเลย วนันต์จึงเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เป็นของเธอ เขาเป็นพ่อของเธอ พิมพ์อรเป็นลูกของวนันต์ เธอหยิบปืนออกมายิงน้องชาย เจติยาพุ่งตัวเข้าหาพิมพ์อรจนล้มลงและแย่งปืนไปมา ผู้กองนวัชกับลาภิณเข้าไปขวางไว้แล้วจับพิมพ์อรซึ่งคลุ้มคลั่งหนัก ขณะที่อยุทธ์ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งโรงพยาบาลทันที ส่วนตำรวจจับชาครและลูกน้องได้ทั้งหมด
พิมพ์อรถูกคุมขังและพยายามอ้อนวอนให้เธอได้พบวนันต์ ผู้เป็นพ่อครั้งสุดท้าย แต่ถูกปฏิเสธจึงต้องอยู่ในคุก ขณะที่วนันต์ใกล้ตาย ลุงทวีพาอยุทธ์ไปพบพ่อทั้งที่บาดเจ็บอยู่แล้วบอกเล่าการตัดสินใจของลูกชายให้รับรู้ วนันต์ยิ้มและฝากให้อยุทธ์ดูแลพี่สาวด้วย เขามีความสุขที่ทั้งสองพ้นจากการครอบงำของกิเลส และฝากบอกลูกสาวด้วยว่าเขารับรู้ความรักที่เธอมีให้พ่อชัดเจนแล้วกล่าวขอโทษที่เมื่อก่อนเขารักลูกไม่เท่ากันจึงทำลายชีวิตลูกสาวในวันนี้ อยุทธ์เสียใจมากที่พ่อตายและพี่สาวถูกคุมขังอยู่ในคุก
ชาครติดต่อขอให้อยุทธ์ไปพบเขาเพื่อช่วยเหลือพิมพ์อร เขายอมไปพบและซึ้งใจกับความกตัญญูต่อวนันต์ที่เคยเลี้ยงดูชาครมาก่อน อีกทั้งความรักที่ชาครมีให้พี่สาวของเขาอย่างเต็มเปี่ยม ชาครจะยอมสารภาพความผิดที่เขาฆ่าศัตรูทางธุรกิจเอง อยุทธ์ดีใจที่พิมพ์อรเป็นอิสระแต่ยังหมางเมินกับน้องชายหลังจากฟังคำบอกเล่าวาจาสุดท้ายของผู้เป็นพ่อ ลาภิณกับเจติยาให้กำลังใจและหวังให้สองพี่น้องคืนดีกัน เข้าใจกันได้ว่าสุดท้ายนี้พวกเขาก็เหลือคนที่รักกันแท้จริงอยู่แค่สองคนเท่านั้น
พลังครอบงำของกสิณสลายไปทำให้หลักฐานในคดีที่ใส่ร้ายลาภิณไว้กลับสู่ความจริงที่เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ลาภิณจึงรอดพ้นทุกข้อกล่าวหาท่ามกลางความดีใจของทุกคน ลาภิณกับเจติยาไปส่งพิมพ์อรกับอยุทธ์กลับสิงคโปร์เมื่อสองพี่น้องปรับความเข้าใจกันได้และรู้คุณค่าความเป็นพี่น้องและเป็นที่พึ่งสุดท้ายของกันและกัน พิมพ์อรยังเคืองใจเจติยาและอาลัยรักต่อลาภิณ จึงวางเฉยต่อทั้งสอง อยุทธ์บอกลาภิณกับเจติยาว่า เขาจะมุ่งมั่นสร้างความเชื่อใจให้พี่สาวให้รู้ว่าพิมพ์อรจะไม่ต้องอยู่เดียวดาย เขาจะเป็นคนที่รักพี่สาวและอยู่เคียงข้างกับพี่สาวตลอดไป
ความจริงแล้วในอดีตวนันต์เป็นเพื่อนสนิทของสารัช (สมมาตร ไพรหิรัญ) พ่อของลาภิณ (พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) และเป็นหุ้นส่วนนิราลัยด้วย หากแต่วนันต์มีปัญหาเรื่องการเงินถึงขั้นล้มละลาย จึงทำการฉ้อโกงบริษัท สารัชรู้ทัน แต่ด้วยความเป็นเพื่อนสนิทเลยไม่เอาผิด เพียงแต่ยึดหุ้นคืนเพื่อเป็นการชดเชยความเสียหายของบริษัท สารัชบอกต่อทุกคนเพียงว่าวนันต์ขายหุ้นให้ตนเพื่อจะไปลงทุนทำกิจการอย่างอื่น
วนันต์อับจนถึงขีดสุด จึงคิดขโมยกล่องรากบุญของสารัชเพราะคิดว่าเป็นของเก่าแก่เพราะสารัชหวงแหนมาก คงได้ราคาเป็นหลายสิบล้านแน่ๆ ไม่งั้นสารัชคงไม่หวงแหนขนาดนี้ วนันต์แอบมาขโมยกล่องรากบุญของสารัชที่ห้องทำงาน ขณะสำรวจกล่องไปมา วนันต์ก็เห็นเหรียญตกแต่งที่ใต้กล่องรากบุญ มีลายสลักสวยงามแปลกตา วนันต์จึงลองจับดูปรากฏว่าสามารถแกะออกมาได้ แต่ทันใดนั้นสารัชก็กลับมาที่ห้องทำงาน วนันต์จึงรีบเก็บกล่องรากบุญไว้ที่เดิมซึ่งเอาไปได้เพียงแค่เหรียญใต้กล่องเท่านั้น
ทันทีที่วนันต์ออกไปจากนิราลัยก็เกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้นกับเหรียญตกแต่งกล่องรากบุญ เหรียญดังกล่าวเกิดแตกตัวกลายเป็น 3 เหรียญ แล้ว 2 เหรียญพุ่งขึ้นฟ้ากระจายหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย วนันต์ตกใจมากได้แต่กำเหรียญรากบุญที่อยู่กับตนอีก 1 เหรียญในมือเอาไว้แน่น
ต่อมาวนันต์ได้ย้ายไปเริ่มต้นธุรกิจที่ประเทศสิงคโปร์ และร่ำรวยขึ้นมาอย่างกะทันหันด้วยการร่วมลงทุนกับนักธุรกิจที่นั่น วนันต์ได้ทำธุรกิจเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้าง โดยมีลูกสาวพิมพ์อร (วิริฒิพา ภักดีประสงค์ แย้มนาม) กับสามีช่วยบริหารบริษัทก่อสร้างแทนเพราะวนันต์เริ่มป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
ต่อมาสามีพิมพ์อรตายกะทันหันด้วยอาการหัวใจวายอันเกิดเพราะคำขอจากเหรียญลึกลับ การชิงอำนาจบริหารกับผู้ถือหุ้นอื่นในบริษัทและจุดประสงค์บางอย่างทำให้เธออาสาขอไปดูแลสาขาใหม่ของบริษัทที่ประเทศไทย ซึ่งเธอมีความได้เปรียบด้านภาษาและพื้นเพดั้งเดิมของครอบครัวที่เคยอยู่ในประเทศไทย อีกทั้งมีมิตรสหายทางธุรกิจที่เป็นคนไทยหลายคน ผู้ถือหุ้นจึงเลือกเธอให้ไปเป็นตัวแทนเปิดตลาดในตำแหน่งผู้จัดการสาขาคนใหม่ วนันต์ได้ขอร้องให้ลูกสาวพาเขากลับเมืองไทยด้วย
เจติยายังคงทำงานในห้องแต่งศพเพราะขาดบุคลากรด้านนี้ อีกทั้งยังแบ่งเวลาไปช่วยงานแผนกอื่นตามคำขอร้องของลาภิณ ความรักของทั้งคู่อยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน จึงสวีตหวานเป็นที่อิจฉาสำหรับพนักงานสาวๆ ทั้งบริษัท ซึ่งในขณะเดียวกันเจติยายังช่วยคลี่คลายคดีให้ผู้กองนวัช (เอกพงค์ จงเกษกรณ์) ด้วย นวัชก็ยังคงคบหากับนิษฐา (แจ๊คกี้ ชาเคอลีน) เหมือนเดิม แต่นิษฐาก็ยังไม่ใจอ่อนยอมแต่งงานด้วย เพราะเธอต้องการที่จะเรียนปริญญาโทต่อให้จบตามความตั้งใจก่อน แต่ก็ไม่วายแอบหึงแอบงอนผู้กองหนุ่มอยู่ตลอดเพราะระยะหลังเสน่ห์แรงมีสาวๆ มาติดพันเยอะ มีเรื่องมาพูดคุยมาปรึกษากับเจติยาอยู่บ่อยๆ
เจติยาทำงานตามคำเรียกร้องจากศพด้วยความสุขใจโดยไม่มีการเรียกร้องตอบแทนอะไร เจติยาเองก็มีความสุขกับการช่วยวิญญาณจนบางครั้งเริ่มมีเวลาให้ลาภิณน้อยลง ทั้งคู่ก็เริ่มมีความน้อยใจกันบ้าง แต่ก็กระเง้ากระงอดประสาคนรักกัน แต่กระนั้นเรื่องเล็กๆ นี้ก็เป็นบ่อเกิดของปัญหาใหญ่ในชีวิตคู่ที่จะตามมา ธุรกิจของลาภิณก็เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ ลุงทวี (ญาณี ตราโมท) กับโอ้เอ้ (จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม) ก็ยังคงช่วยงานบริษัทอยู่เหมือนเดิมแถมเจติยายังดึงนที (สายชล ปารเนียล) เข้ามาหัดทำงานในห้องแต่งศพเพื่อฝึกนิสัยและหารายได้พิเศษอีกด้วย ลุงทวีช่วยเหลือและให้คำแนะนำเป็นอย่างดี ช่วงนี้นทีเองก็กำลังพบรักกับสาวสก๊อยสวยเปรี้ยวนางหนึ่ง ซึ่งเจติยาและแม่ไม่ชอบเอามากๆ
ชาคร (วริษฐ์ ทิพโกมุท) คือผู้ประสานงานการตั้งบริษัทสาขาใหม่ในเมืองไทยให้พิมพ์อร ชาครมีความหลังและเป็นหนี้บุญคุณเกื้อหนุนกันมากับครอบครัวของวนันต์ หลายปีก่อนชาครพักอยู่กับแม่ที่สิงคโปร์ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านให้ครอบครัวคนสิงคโปร์ ต่อมาแม่ป่วยหนักจึงถูกเลิกจ้างและเตรียมส่งกลับประเทศไทย เขาต้องการหาเงินช่วยรักษาแม่ จึงเข้าร่วมปล้นเงินของวนันต์ที่เพิ่งเบิกจากธนาคารและเอากลับบริษัท จึงถูกชิงเงินตรงที่จอดรถของตึก คนเห็นการปล้นรีบแจ้งสายด่วน ตำรวจจึงเข้าจับกุมโจร ชาครถูกยิงบาดเจ็บและถูกโจรทิ้งไว้ วนันต์รับทราบปัญหาของเขาจึงเห็นใจและช่วยด้านคดีจนเขารับโทษเนรเทศกลับประเทศไทยพร้อมกับแม่ได้ เขาให้เงินช่วยเหลือดูแลครอบครัวชาครและส่งเสียให้เขาได้เรียนหนังสือในไทย เมื่อรู้ว่าพิมพ์อรจะมาทำงานที่ไทยจึงให้ชาครเป็นคนประสานงานและคอยดูแลเธอ ชาครมีโอกาสพบวนันต์และพิมพ์อรเป็นระยะ เขาแอบหลงรักพิมพ์อรและให้ความภักดีต่อวนันต์และลูกสาวอย่างไร้เงื่อนไข ชาครได้ทำงานเป็นเลขาส่วนตัวให้กับพิมพ์อร ทั้งคู่ได้ไปที่บริษัทนิราลัยเพื่อเจรจารับงานสร้างอาคารใหม่กับลาภิณ อีกทั้งขอพบ ลุงทวี อันสร้างความแปลกใจแก่เขามากที่พิมพ์อรลูกสาวของวนันต์กลับมาร่ำรวยยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง พิมพ์อรขอร้องให้ลุงทวีไปพบกับบิดาของเธอแล้วจะหายสงสัยเอง
ลาภิณและพิมพ์อร วัยเด็กไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกันด้วยวัยต่างกันมาก และต่างคนก็เปลี่ยนไปเยอะ แถมพอพ่อทั้งคู่ผิดใจกันก็ไม่เคยได้พบเจอกันอีกเลย ชาครไม่สบายใจที่เห็นเจ้านายสาวมีความพึงพอใจให้ลาภิณที่รวยและมีความสามารถในงานบริหารธุรกิจ พูดง่ายๆ คือแอบหึงหวงแต่ก็ไม่กล้าแสดงความรู้สึกอะไรเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อสาวสก๊อยที่นทีหลงรัก ตามจีบ และหวังช่วยให้เธอกลับใจจากการหลงแก๊งซิ่งรถ เสียชีวิตอย่างปริศนา สร้างความเสียใจมากให้แก่นที เจติยาช่วยคลี่คลายคดีและจับคนร้ายได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เจติยาได้เหรียญที่มีรูปภาพคุ้นตาไว้ในครอบครองจากศพสก๊อยสาวที่ได้เหรียญประหลาด จากแม่ซึ่งเก็บมาจากถังขยะระหว่างเป็นแม่บ้านของบริษัทแห่งหนึ่ง
การสืบหาคดีต่างๆ ร่วมกับผู้กองนวัชอย่างสม่ำเสมอทำให้เจติยาไม่ได้สนใจความเปลี่ยนแปลงของเหรียญรากบุญ ซึ่งแต่เดิมเหรียญเป็นสีดำ พออยู่กับเจติยาก็มีสีอ่อนลงเรื่อยๆ พอลุงทวีได้เห็นเหรียญก็มีความสงสัยว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่ก็นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก เวลาเดียวกันพิมพ์อรกับลาภิณเริ่มสนใจการลงทุนอื่นที่เพื่อนนักธุรกิจแนะนำ ทั้งสองจึงมีการพบปะแลกเปลี่ยนความเห็นและเรียนรู้ธุรกิจที่อยากลงทุนเพิ่มเติม พิมพ์อรยิ่งเพิ่มความชื่นชมความเป็นสุภาพบุรุษและความฉลาดของลาภิณมากขึ้นซึ่งช่วยเติมเต็มจิตโหยหาของเธอ แม้พิมพ์อรจะรู้ว่าเจติยาเป็นภรรยาของเขาก็ตาม เธอใช้ความสนใจการลงทุนและงานก่อสร้างตึกใหม่เพื่อสร้างความสนิทสนมกับลาภิณ
พิมพ์อรต้องการสร้างชื่อเสียงในสังคมไทยจึงบริจาคเงินก้อนใหญ่ให้งานกุศลที่ลาภิณเป็นกรรมการหาทุนอยู่จึงกลายเป็นข่าวใหญ่ จากนั้นก็ใช้ชื่อเสียงนี้เข้าหาผู้ใหญ่เพื่อวิ่งเต้นหางานก่อสร้างเข้าบริษัทอย่างต่อเนื่อง เธอใช้โครงการก่อสร้างอาคารใหม่ของนิราลัยเป็นผลงานไปสู่งานชิ้นใหญ่ การจ่ายเงินแกล้งแพ้พนันในสนามกอล์ฟแก่ผู้ใหญ่แลกกับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทำให้เธอสามารถเข้าถึงผู้ใหญ่ได้ทุกระดับ บริษัทของพิมพ์อรจึงมีชื่อเสียงในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อคู่แข่งพูดสบประมาทเธอก็จะพบจุดจบชีวิตอย่างไม่คาดคิด ทำให้เธอได้งานชิ้นที่ต้องการอย่างง่ายดาย จนลือกันว่าเธออยู่เบื้องหลังความตายปริศนาของคู่แข่งแต่ไร้หลักฐาน ผู้กองนวัชได้รับการร้องเรียนจากครอบครัวผู้ตายเป็นระยะ แต่ยังหาหลักฐานดำเนินคดีกับพิมพ์อรไม่ได้ ส่วนชาครยังคงทำหน้าที่ตามคำสั่งให้ประสบความสำเร็จเพื่อกำจัดศัตรูทางธุรกิจให้เธอ
มยุรี (ชนานา นุตาคม) ป่วยเป็นอัมพาตด้วยโรคหลอดเลือดสมองแตก เจติยารับหน้าที่ดูแลแม่สลับกับนที ซึ่งลาภิณได้จ้างพยาบาลมาช่วยดูแลแทน เจติยายอมรับความช่วยเหลือช่วงกลางวันและวันที่ไม่ต้องเข้าเวรกลางคืนในห้องแต่งศพ ทุกคืนเธอจะดูแลแม่ด้วยตัวเองจากคำพูดที่ทุกคนฟังแล้วอึ้งว่า แม่ดูแลเธอกับน้องชายด้วยสองมือ เธอกับนทีเป็นลูกต้องดูแลแม่คนเดียวได้ นี่จะเป็นการตอบแทนบุญคุณของลูก วันหนึ่งมยุรีเกิดอาการหัวใจวายกะทันหัน นทีรีบแจ้งให้พี่สาว เจติยารู้สึกใจไม่ดีเมื่อได้รับแจ้งให้ไปดูใจของผู้เป็นแม่ที่โรงพยาบาลเป็นครั้งสุดท้าย
ลุงทวีตามเจติยาไปที่โรงพยาบาลด้วย เมื่อเห็นสองพี่น้องร่ำไห้หนักกับการใกล้สูญเสียมารดาหลังจากแพทย์เตือนล่วงหน้าแล้ว ลุงทวีเอ่ยถึงเหรียญประหลาดที่หล่อนได้รับจากศพสาวสก๊อยว่าตนจำได้ว่าเป็นเหรียญที่ประดับอยู่ที่กล่องรากบุญแต่ตอนอยู่กับคุณสารัชและเจติยามันหายไปแล้ว ทวีคิดว่าเหรียญอาจจะมีอิทธิฤทธิ์คล้ายกล่องรากบุญก็ได้ ให้เจติยาลองขอพรให้มยุรีหาย เจติยารับรู้ด้วยความประหลาดใจ แต่หล่อนปฏิเสธว่าไม่ต้องการเป็นทาสกิเลส นี่เป็นวัฏสังขารของมนุษย์ ถ้าแม่รู้ ก็ต้องเห็นด้วยกับการที่ลูกไม่ถูกบังคับให้ทำงานแลกชีวิตแม่ ลาภิณ ผู้กองนวัช นิษฐา รีบไปเยี่ยมปลอบใจเจติยากับนทีในการเสียแม่ครั้งนี้
ภวังค์หลับของเจติยาก็ได้พบกับยมทูตที่เตือนให้รักษาเหรียญประหลาดไว้และใช้มันเพื่อเรียกหาอีกสองเหรียญที่แตกกระจายหายไปจากกล่องรากบุญ รวมทั้งอธิบายถึงขอบเขตพลังของเหรียญดังกล่าว มัจจุราชต้องการให้เจติยาทำลายเหรียญเพราะเป็นผู้ที่มีจิตบริสุทธิ์ พร้อมกับบอกวิธีทำลายมัน เมื่อตื่นขึ้นมาเธอสังเกตเห็นสีดำบนเหรียญจางลงกว่าครั้งแรกที่ได้รับมันอันเป็นไปตามคำบอกของยมทูต หล่อนรู้เพียงว่าอีกสองเหรียญจะตามล่าหาเธอแน่เพื่อสร้างกล่องรากบุญใบใหม่
เวลาเดียวกันพิมพ์อรได้ยินเสียงของ กสิณ (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) ซึ่งเป็นผู้ชี้ทางชีวิตให้เธอมานานแล้ว เธออยู่ในห้องที่ห้ามทุกคนเข้าไปข้างใน จึงไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ในนั้นแม้แต่ชาคร เธอเล่าสรุปว่า พิมพ์อรช่วยสะสมพลังงานให้เธอคงรูปร่างนี้และพัฒนาจนมีเสียงพูดคุยกันได้ แทนที่จะเขียนอักษรบนกระจกอย่างที่ผ่านมา แรงปรารถนาของพิมพ์อรสร้างสีดำบนเหรียญและเป็นพลังงานของเธอยิ่งมีพลังมากขึ้น ทำให้เธอช่วยพิมพ์อรได้มากขึ้น จะไม่ใช่เพียงแค่บันดาลเรื่องเงินทองเท่านั้น เธอได้เตือนว่าเหรียญไม่มีพลังพอที่จะช่วยให้พ่อของพิมพ์อรมีชีวิตใหม่ได้ เรื่องใหญ่ขนาดนี้จำเป็นต้องใช้กล่องรากบุญ เวลาของวนันต์เหลือน้อยเต็มที เธอต้องเร่งหาเหรียญอีกสองอันให้เจอ เธอสัมผัสพลังเหรียญอันหนึ่งอยู่ไม่ห่างเธอนัก แต่ยังไม่มีพลังมากพอจะมองเห็นที่ซ่อนของมัน พิมพ์อรรับปากที่จะหาเหรียญทั้งสองมาให้ได้โดยเร็วเพื่อให้กำเนิดกล่องรากบุญขึ้นมาอีกครั้ง
พิมพ์อรจะเยี่ยมและพูดคุยกับวนันต์เป็นประจำเพื่อใช้เวลากับพ่ออันเป็นที่รัก ให้สัญญาจะคืนสุขภาพแข็งแรงให้เขา โดยไม่สนใจคำขอร้องกึ่งเตือนจากวนันต์ที่ไม่ให้หมกมุ่นกับเหรียญมากเกินไป เขารู้สึกถึงความไม่เป็นมงคลจากเหรียญอันนั้น แม้จะเคยได้ความสำเร็จจากแรงอธิษฐานผ่านเหรียญแล้วก็ตาม จึงไม่อยากให้ลูกสาวพึ่งพามัน แต่ควรใช้ความสามารถ ความรู้ เพื่อสร้างความสำเร็จด้วยตัวเองและยั่งยืนกว่ากัน พิมพ์อรอยากพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่าเธอเป็นที่พึ่งของเขาได้มากกว่าน้องชาย อยุทธ์ (นิพัธ เจริญผล) ซึ่งเป็นความหวังของวนันต์มาตลอด อยุทธ์เองก็ไม่สนใจความต้องการของวนันต์ เขาเดินทางตามหาความฝันของตัวเองที่จะเป็นศิลปินนักวาดรูป ทิ้งภาระให้พี่สาวเผชิญเพียงลำพัง วันนี้พ่อก็ยังรักและคิดถึงน้องชายคนนั้นอยู่ตลอดเวลา เธอน้อยใจที่เสียสละตัวเองเพื่อรักษาธุรกิจของครอบครัวไว้ด้วยการแต่งงานกับลูกน้องที่เก่งของพ่อ แต่เวลานั้นเขาถูกซื้อตัวไปทำงานที่อีกบริษัท เมื่อรู้ว่าเขาหลงรักพิมพ์อร เธอจำต้องยอมแต่งงานกับเขาเพื่อรักษางานของวนันต์ไว้ พ่อก็ยังไม่เชื่อถือเธอว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวตามลำพังได้ เธอจึงอยากให้พ่อมีชีวิตอยู่ดูความสำเร็จของเธอก่อน ให้พ่อได้ชื่นชมเธอได้นานที่สุด กล่องรากบุญจึงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะยื้อชีวิตของพ่อไว้ หลังจากได้ยินคำบอกเล่าของลุงทวีกับวนันต์ซึ่งได้พบกันเป็นครั้งแรก พอได้ถามถึงเหรียญที่เขาแอบขโมยจากก้นกล่องโดยบังเอิญว่ามันคืออะไรกันแน่ เธอยิ่งมั่นใจในพลังของกล่องรากบุญซึ่งจะมอบชีวิตใหม่ให้พ่อได้
เจติยาช่วยคลี่คลายคดีปริศนาในความรับผิดชอบของนิษฐาได้และเห็นเหรียญปริศนาของเธอขาวขึ้นด้วยความยินดี ลุงทวีสงสัยกับสีของเหรียญที่เปลี่ยนไปจึงถามจากเจติยา เขาทึ่งใจกับภารกิจลับที่เธอรับปากกับยมทูตไว้และเตือนถึงภัยที่อาจมาใกล้เธอ อยุทธ์กับแฟนสาวเดินทางมาไทยเพื่อร่วมงานวันเกิดพ่อของแฟน แต่แฟนสาวกลับตกลงมาตายที่โรงแรมโดยไม่รู้สาเหตุระหว่างที่เขาขอตัวไปเข้าห้องน้ำและเป็นมุมที่ไม่สามารถหาภาพในกล้องวงจรปิดมาเป็นหลักฐานได้
ศพแฟนสาวไปอยู่กับเจติยาหลังการตรวจพิสูจน์จากตำรวจแล้ว ลุงทวีเห็นนามสกุลของอยุทธ์เป็นนามสกุลเดียวกับวนันต์และพิมพ์อร จึงซักถามจนได้ความว่าเป็นลูกชายคนเล็กของวนันต์นั่นเอง ทั้งสองจึงสนิทกันในระยะเวลาอันรวดเร็วด้วยอัธยาศัยที่เป็นมิตรของลุงทวีและเจติยา ศพแฟนสาวร้องขอความช่วยเหลือจากเจติยาให้จับแฟนเก่าที่ตามระรานเธอ โดยอยุทธ์ช่วยกันเขียนภาพในมโนภาพสุดท้ายของแฟนสาวออกไปให้ตำรวจตามค้นหาฆาตกรและเจติยาชี้เบาะแสให้ผู้กองนวัชทำงานไวขึ้นจนจับฆาตกรได้สำเร็จ อยุทธ์ชื่นชมและทึ่งในการทำงานของเจติยาที่นิราลัยมาก ประกอบกับยังทำใจเรื่องเสียแฟนสาวไม่ได้ จึงหมกตัวอยู่กับเจติยา ช่วยเหลือเจติยาทำงานชนิดเป็นเงาตามตัว จนลาภิณแอบจับตามองอยู่ห่างๆ แอบหึงภรรยาขึ้นมาเหมือนกัน
ลุงทวีทราบว่าอยุทธ์กับพิมพ์อรขัดแย้งกันจนถูกสั่งห้ามพบวนันต์ ผู้เป็นพ่อด้วยข้ออ้างว่าพ่อไม่อยากเห็นหน้าลูกชายแล้ว ทำให้ลุงทวีเห็นใจและให้สัญญาว่าจะพยายามให้พ่อลูกได้พบกัน การก่อสร้างอาคารใหม่ของนิราลัย ความพยายามชักจูงให้ลาภิณลงทุนในบริษัทของพิมพ์อร ทำให้ทั้งสองใกล้ชิดสนิทสนมมากขึ้นจนกลายเป็นข่าวลือทั่วสังคมว่ามีสัมพันธ์พิเศษต่อกัน แต่พิมพ์อรสัมผัสได้ว่า ลาภิณยังรักมั่นต่อเจติยาเสมอ ส่วนเขาก็ไม่แสดงปฏิกิริยาใดให้เธอเข้าใจผิดและรักษาระยะห่างเพื่อให้เกียรติแก่เธอ มันทำให้เธอไม่พอใจมากที่ความรักไม่คืบหน้า ชาครมองความสัมพันธ์ของทั้งสองด้วยความเจ็บปวดใจ แต่เมื่อเป็นความต้องการของพิมพ์อรเขาจึงไม่คิดที่จะขัดใจ เขาหาโอกาสเตือนลาภิณถึงความรักของเจ้านายและขู่นทีว่าไม่ต้องการให้เจ้านายผิดหวัง ยิ่งทำให้ลาภิณเพิ่มความสงสัยข่าวลือว่าพิมพ์อรกับชาครอยู่เบื้องหลังการตายของคู่แข่งทางธุรกิจมากขึ้น
ลาภิณกับเจติยามีความรักมั่นคงและไว้วางใจกัน มีการพูดคุยกันเป็นระยะทำให้ไม่มีใครเห็นทั้งสองทะเลาะกันด้วยข่าวลือความสัมพันธ์ลับๆ ของพิมพ์อรกับลาภิณเลย เมื่อความปรารถนาของพิมพ์อรถึงขีดสุด เธอได้ขอพรต่อเหรียญให้ลาภิณมาหลงรักเธอ แต่ด้วยพลังความดีและความรักอันมั่นคงของลาภิณและเจติยาได้ปกป้องทั้งคู่เอาไว้ พรที่พิมพ์อรขอจึงไม่สำเร็จ พิมพ์อรโกรธมากไปต่อว่ากสิณ ตัวกิเลสจากเหรียญทันที กสิณต้องยอมสารภาพว่าพลังกิเลสของตนยังแพ้คุณความดีและความรักที่ลาภิณและเจติยามีให้กัน คงต้องพึ่งพลังจากกล่องรากบุญเท่านั้นถึงจะช่วยให้ความปรารถนาของพิมพ์อรสำเร็จได้ พิมพ์อรได้แต่ผูกใจเจ็บแลพยายามหากล่องรากบุญเพื่อให้ได้มาโดยเร็วที่สุด
งานเลี้ยงวันเกิดที่บ้านของพิมพ์อรเชิญลาภิณ เจติยา ลุงทวี ไปร่วมพบปะและแนะนำให้รู้จัก วนันต์ ซึ่งนั่งเก้าอี้ล้อเลื่อนมาร่วมงาน ผ่านไปสักระยะหนึ่งจึงแยกตัวกลับห้องนอนโดยลุงทวีตามไปเป็นเพื่อนคุยด้วย โดยวางแผนกับเจติยาและลาภินให้ถ่วงเวลาพูดคุยกับพิมพ์อรไว้ ลุงทวีจะได้เอาโทรศัพท์มือถือให้วนันต์คุยกับอยุทธ์ได้ ช่วงหนึ่งชาครนำของว่างไปให้ทั้งสองในห้อง จึงได้ยินเสียงพูดคุยแปลกๆ ในห้อง เมื่อเปิดเข้าไปก็เห็นวนันต์กับลุงทวีนั่งคุยกันด้วยใบหน้าสดชื่น เขามั่นใจว่ามีบางอย่างไม่ปกติในห้องนั้น เวลาเดียวกัน กสิณ ซึ่งอยู่อีกห้องหนึ่งสัมผัสกับพลังเหรียญที่เจติยาพกติดตัวตลอดเวลา เธอดีใจมากที่พบเหรียญที่สองแล้ว แต่ด้วยพลังไม่มากพอจึงไม่รู้ว่ามันอยู่กับใคร เธอเพ่งสมาธิเต็มที่เพื่อสร้างภาพเจ้าของเหรียญที่สองให้ชัดขึ้นบนกระดาษในมือ ทำให้เห็นลายเส้นภาพผู้ที่เป็นเจ้าของเหรียญเป็นผู้หญิงและเห็นปัญหาที่เกิดกับเหรียญด้วยชาครรายงานความไม่ปกติในห้องของวนันต์แก่พิมพ์อร หล่อนไปซักถามกับพ่อ วนันต์ปฏิเสธไม่มีใครอื่น เขากับลุงทวีคุยถึงความหลังระหว่างสามคนคือ เขา ลุงทวี และสารัช ช่วงเริ่มสร้างนิราลัย วันนี้บริษัทก็รุ่งเรืองจนตกทอดแก่ลาภิณได้ ลุงทวีเล่าอุปสรรคที่เผชิญมาเหมือนกับเล่นละครให้ดูอันเป็นนิสัยของเพื่อนคนนี้ ทำให้คิดว่ามีการคุยกันหลายคน พิมพ์อรสงสัย แต่ไม่อยากคาดคั้นอีกเพราะพ่อคงไม่ยอมพูดความจริงแน่
พิมพ์อรไปหา กสิณ ที่ห้องจึงรับทราบว่าเธอพบผู้ครองเหรียญแล้ว เมื่อเห็นภาพผู้หญิงทำให้ตกใจมากเมื่อรู้ว่าคือ เจติยา และปัญหาหนักใจต่อมาคือ เหรียญอันนี้กำลังถูกฟอกขาวด้วยพลังบริสุทธิ์ของเจติยา หากเหรียญนี้ไร้กิเลสครอบงำเป็นสีดำ มันจะสร้างกล่องรากบุญขึ้นมาใหม่ไม่ได้ กสิณแนะให้กำจัดเจติยาและแย่งเหรียญมาโดยเร็ว เธอเห็นเป็นโอกาสทองที่จะแย่งลาภิณมาเป็นของตัวเองเมื่อขาดเจติยาแล้ว จึงรับปากที่จะทำเรื่องนี้ เมื่อถามถึงเหรียญอันที่สาม กสิณ ก็ตอบไม่ได้ ถ้าพลังของเขาเพิ่มมากขึ้นก็น่าจะตามหาเหรียญอันสุดท้ายได้ไม่ยาก
พิมพ์อรสั่งชาครไปจ้างคนฆ่าเจติยาด้วยข้ออ้างว่า ต้องการครอบครองลาภิณไวๆ เขาจึงจ้างมือปืนรับจ้างเพื่อฆ่าเจติยา แต่ทำพลาดเพราะพลังลึกลับของยมทูตช่วยเหลือให้แคล้วคลาด พิมพ์อรรับรู้ผลด้วยความแค้นอยุทธ์เข้ามาเรียนรู้การทำงานของเจติยากับลุงทวีทำให้ความสนิทสนมของเจติยาและอยุทธ์เพิ่มพูนขึ้นจนลาภิณชักไม่พอใจ วันหนึ่งทั้งสองได้อยู่กันตามลำพัง อยุทธ์พูดเปิดใจว่าเขาชอบนิสัยและความจริงใจของเจติยา และยังไม่ลืมความรักของเขากับแฟนสาวที่เพิ่งตายไป ไม่เคยคิดกับเจติยาเป็นอื่นนอกจากความเป็นเพื่อน ลาภิณชื่นชอบความเป็นลูกผู้ชายของอยุทธ์มาก จึงสบายใจที่รู้ว่าทั้งสองเป็นแค่เพื่อนกัน แต่ก็ยังแอบจับตาดูอยู่ห่างๆ อยุทธ์กับเจติยาเสนอสร้างหลักสูตรผู้ช่วยงานแต่งศพ โดยจะนำเสนอผ่านมูลนิธิของนิษฐาและอื่นๆ เพื่อให้คนด้อยโอกาสที่ต้องการงานเข้าอบรมและช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนคนแต่งศพให้บริษัทนิราลัย ลาภิณตอบรับและจะสนับสนุนโครงการนี้เต็มที่ กสิณเริ่มมีพลังแข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อระยะหลังพิมพ์อรมีแรงปรารถนากล้าขึ้นและเมื่อร้องขอจากเหรียญบ่อยก็ทำให้สีดำเข้มมากขึ้น เขาคิดจะช่วยเร่งให้พิมพ์อรได้ครองเหรียญของเจติยาโดยอาสากับเธอจะฆ่าศัตรูธุรกิจที่จะแย่งงานก่อสร้างอาคารประชุมนานาชาติแห่งใหม่กับบริษัทของพิมพ์อรแล้วป้ายสีความผิดและน่าสงสัยให้ลาภิณ เพื่อให้เจติยายอมแลกเหรียญกับความช่วยเหลือชายอันเป็นที่รักจากพิมพ์อร
กสิณใช้พลังเรียกลาภิณเพื่อไปหาเพื่อนและถูกทำให้สลบอยู่ใกล้กับศพเพื่อน เขาไม่มีความทรงจำช่วงเวลานั้น กสิณกำชับพิมพ์อรว่าห้ามเจติยาเข้าใกล้ศพเด็ดขาด หล่อนจึงให้เงินสินบนแก่เจ้าหน้าที่เพื่อกีดกันมิให้เจติยาเข้าใกล้ศพ เจติยากับผู้กองนวัชทราบข่าวด้วยความหนักใจเมื่อบาดแผลและรอยนิ้วมือบนศพล้วนพุ่งไปที่ลาภิณ อีกทั้งก่อนหน้านั้นทั้งสองมีปากเสียงกันเพราะลาภิณปฏิเสธไม่ยอมให้ยืมเงิน เจติยาเข้าใกล้ศพไม่ได้จึงไม่อาจสืบค้นพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ลาภิณได้ ชาครเสนอให้เธอขอความช่วยเหลือจากพิมพ์อรซึ่งมีเพื่อนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เยอะ เจติยาตัดสินใจไปคุยกับเจ้านายของชาครซึ่งขอเหรียญในครอบครองของเธอแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพของลาภิณ เธอรู้ทันทีว่าพิมพ์อรคือข่าวร้ายที่ยมทูตเคยแจ้งเตือนเจติยาไว้ เธอปฏิเสธข้อเสนอนั้นแล้วคิดหาวิธีช่วยเหลือลาภินเอง วนันต์เริ่มอ่อนแอลงจนกระทบต่อกล้ามเนื้อหัวใจที่เสื่อมมาก หมอเตือนพิมพ์อรถึงวาระสุดท้ายของพ่อแล้ว เธอร้อนใจมากจึงไปหากสิณ เขาแจ้งว่ารู้แล้วว่าเหรียญอันที่สามอยู่ที่อยุทธ์นั่นเอง อยุทธ์ได้เหรียญมาตอนเดินทางไปเที่ยว พิมพ์อรจะนัดน้องชายออกมาคุยกัน
อยุทธ์นั่งมองเหรียญหน้าตาประหลาดอย่างครุ่นคิด ลุงทวีเห็นความไม่สบายใจของชายหนุ่มจึงนั่งคุยและตกใจและดีใจที่ได้เห็นเหรียญรากบุญเหรียญที่ 3 อยุทธ์เล่าว่าเขาเห็นมันวางขายอยู่ที่ตลาดนัดช่วงที่ท่องเที่ยวในเวียดนามจึงซื้อเก็บไว้เพราะคุ้นตากับลายบนเหรียญที่คล้ายกับของวนันต์มีไว้ในครอบครอง เขาคิดว่ามันอาจเป็นเหรียญเก่ายุคเดียวกัน แต่ไม่เคยมีโอกาสเปรียบเทียบเหรียญสองอันนี้ ลุงทวีตัดสินใจเล่าความเป็นมาของเหรียญทั้งสามอันกับกล่องรากบุญให้อยุทธ์ฟังทั้งหมด และดีใจที่ชายหนุ่มไม่เคยขอสิ่งใดจากเหรียญอันนั้นเลย มันแสดงว่าอยุทธ์มีจิตใจบริสุทธิ์เหมือนเจติยาในปัจจุบันนี้
พิมพ์อรกับอยุทธ์พบกันที่ร้านอาหารย่านชานเมือง เธอขอร้องน้องชายให้มอบเหรียญอันที่สามเพื่อช่วยชีวิตของวนันต์ ผู้เป็นพ่อโดยไม่ยอมบอกวิธีแก่น้องชายโดยละเอียด อยุทธ์เริ่มสงสัยเขาจึงเสนอขอพบพ่อสักครั้งก่อนตัดสินใจ เธอจำต้องรับปากแล้วพากันกลับบ้านเพื่อให้น้องชายคุยกับพ่อ วนันต์ดีใจที่ได้พบลูกชาย วนันต์รู้ตัวว่าวาระสุดท้ายใกล้เข้ามาแล้วกับภาวะหัวใจที่อ่อนแรงลงทุกที จึงขอคุยกับอยุทธ์ตามลำพัง พิมพ์อรจำต้องรับปากเพื่อเอาใจน้องชายและพ่อ คำขอร้องทั้งน้ำตาของวนันต์ให้ช่วยเหลือพี่สาวพ้นจากการครอบงำของกิเลสทำให้อยุทธ์หนักใจมากเมื่อเขาอาจเสียพ่อไปกับการตัดสินใจครั้งนี้ พิมพ์อรต้องผิดหวังเมื่ออยุทธ์ไม่ยอมมอบเหรียญให้พี่สาวจนกว่าจะรู้ว่าเธอทำอย่างไรให้พ่อมีชีวิตใหม่ สองพี่น้องทะเลาะกันหนักเมื่อพิมพ์อรประณามน้องชายว่าไม่รักพ่อ ไม่ทุ่มเทเพื่อพ่อเหมือนเธอ อยุทธ์ทนฟังไม่ได้จึงกลับไป อยุทธ์เล่าการสนทนาระหว่างเขากับวนันต์ทั้งน้ำตาให้ลุงทวีฟัง ลุงทวีมองอยุทธ์ด้วยความเห็นใจ เขาเตือนอยุทธ์ให้เลือกระหว่างคุณธรรม ความรัก และความถูกต้อง ซึ่งอยุทธ์ต้องพร้อมแบกรับความทุกข์ใจไว้กับตัวเองตลอดกาล
เหรียญของเจติยาขาวมากขึ้นจากการคลี่คลายความทุกข์ที่ซ่อนอยู่ในศพอันเป็นการทำบุญจากหัวใจบริสุทธิ์ กสิณร้อนใจมากเกินกว่าจะทนรอการแย่งเหรียญโดยพิมพ์อรได้ จึงพยายามใช้พลังขัดขวางเจติยากับผู้กองนวัชซึ่งลอบเข้าไปใกล้ศพของเพื่อนลาภิณเพื่อหาหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลาภิณ กสิณไม่สามารถทำร้ายเจติยาได้ด้วยพลังลึกลับที่คอยคุ้มครองเธอไว้ทำให้รอดตายได้หวุดหวิด ขณะที่กสิณเสียพลังไปมากจนต้องเก็บตัวสะสมพลังใหม่และขบคิดค้นหาที่มาของพลังลึกลับนั้น เมื่อวนันต์อยู่ในอาการโคม่า พิมพ์อรสั่งชาครไปข่มขู่เจติยาบังคับให้มอบเหรียญไม่เช่นนั้นตนจะส่งคนเข้าไปฆ่าลาภิณในห้องขัง เจติยารู้ว่าพิมพ์อรทำได้เพราะเหรียญในมือพิมพ์อรสะสมกิเลสมากพอจะขอพรได้ จึงยอมรับนัดนำเหรียญไปแลกชีวิตลาภิณ อยุทธ์รู้เรื่องจึงบอกเจติยาว่าจะช่วยให้ทุกอย่างอยู่ในที่อันควรและขอร้องให้เจติยาเชื่อใจเขาด้วย
พิมพ์อรแปลกใจที่อยุทธ์มาหาพี่สาวเพื่อพูดคุยกันก่อนที่เธอจะไปพบเจติยาตามนัดหมาย เขาขอทำเรื่องนี้เพื่อไถ่โทษที่ทิ้งพ่อไปหาความฝันของตัวเองและพี่สาวต้องเดือดร้อนเพียงนี้ เธอรับปากเพื่อเอาใจน้องชาย ขณะนั้นผู้กองนวัชแอบช่วยพูดคุยกับตำรวจผู้ใหญ่ให้ประกันตัวลาภิณออกจากคุกได้ก็เร่งตามเจติยาไปยังที่นัดหมาย โชคดีที่เจติยาฝากข้อความสุดท้ายไว้ที่มือถือของลาภิณในบ้านด้วยคิดว่าเธออาจไม่มีโอกาสกลับมาพบเขาอีก ทั้งสองจึงรู้ว่าจะพบทุกคนได้ที่ใด
พิมพ์อรกับอยุทธ์เดินทางไปพบเจติยาที่โกดังร้างริมแม่น้ำ ชาครจะเข้าไปด้วยแต่พิมพ์อรสั่งให้ชาครรออยู่นอกโกดังร้างอันสร้างความสงสัยแก่ชาครจนต้องแอบดูเหตุการณ์ภายในผ่านหน้าต่าง เจติยาจำใจรับปากมอบเหรียญของเธอให้สองพี่น้อง อยุทธ์ถามพี่สาวว่าจะขอชีวิตใหม่ให้พ่อหรือให้ลาภิณรักพิมพ์อร พี่สาวมีความลังเลชั่วครู่ก่อนตอบยืนยันว่า เรื่องลาภิณจัดการทีหลังได้เมื่อมีกล่องรากบุญแล้ว ตอนนี้ต้องการชีวิตพ่อที่เธอรักก่อน อยุทธ์กับเจติยาแปลกใจที่พิมพ์อรเลือกวนันต์ซึ่งบ่งบอกว่ารักผู้เป็นพ่อมากเพียงใด เจติยาพูดเตือนให้คิดว่าควรปล่อยวนันต์ไปตามวิถีกรรม มิใช่ทำเลว ทำชั่ว เพื่อให้ชีวิตใหม่แก่เขา ที่พิมพ์อรคิดว่าเป็นการแสดงความกตัญญูต่อพ่อ โดยไม่ยอมรับความจริงว่าพ่อรับการตอบแทนแบบนี้ไม่ได้เพราะเป็นการสร้างบาปให้ตัวเองและพ่อ อีกทั้งได้ชีวิตใหม่ครั้งนี้ก็มิใช่ความยั่งยืน สักวันเขาก็ต้องตาย หมายความว่าพิมพ์อรจะต้องสร้างบาปกรรมไปเรื่อยๆ เพื่อให้ชีวิตใหม่แก่พ่อ วนันต์ไม่น่าจะรับเรื่องนี้ได้อีก
มือถือจากโรงพยาบาลเรียกพิมพ์อรไปพบสั่งลากับวนันต์ทำให้เธอเร่งให้น้องชายทำตามสัญญา มิฉะนั้น จะเปลี่ยนใจทำเสียเอง อยุทธ์ยืนกรานว่ารักพ่อเหมือนพี่สาว จึงขอร้องให้เจติยามอบเหรียญให้เขา พิมพ์อรก็มอบเหรียญให้น้องชาย กสิณมองเหรียญทั้งสามมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งด้วยความหวังที่จะได้กล่องรากบุญใบใหม่เป็นที่สิงสถิตสมบูรณ์เสียที พิมพ์อรบอกวิธีการเพ่งแรงปรารถนาเพื่อสร้างคำขอแก่น้องชาย อยุทธ์ทำตามโดยดี เขาเพ่งสมาธิและเปล่งคำขอให้สร้างกล่องรากบุญใบใหม่และ กล่องรากบุญค่อยๆ สร้างตัวเองขึ้นมาขณะที่อยุทธ์พูดคำขอและเว้นระยะไว้ พิมพ์อร กสิณ เจติยา เฝ้ามองกล่องใบนั้นด้วยความตื่นเต้น พลันหัวใจสลายเมื่ออยุทธ์ตะโกนคำขอให้ครบประโยคว่า ให้ทำลายกล่องเดี๋ยวนี้ สิ้นคำขอนั้นกล่องก็สลายตัวพร้อมกับเสียงหวีดร้องของกสิณด้วยความเจ็บปวดทรมานเมื่อเหรียญทั้งสามพุ่งหายวับไปคนละทิศทาง
พิมพ์อรรู้ว่าถูกน้องชายหลอกลวงและวนันต์ ผู้เป็นพ่อต้องตายในไม่ช้า เธอกำลังสูญเสียสมบัติมีค่านี้ไปตลอดกาลแล้ว ตั้งแต่อดีตเธอต้องเสียสละตัวเองเพื่อรักษาธุรกิจให้พ่อ แบ่งปันความรักของพ่อให้น้องชาย ไม่เคยมีอะไรที่เป็นของตัวเองเลย วนันต์จึงเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เป็นของเธอ เขาเป็นพ่อของเธอ พิมพ์อรเป็นลูกของวนันต์ เธอหยิบปืนออกมายิงน้องชาย เจติยาพุ่งตัวเข้าหาพิมพ์อรจนล้มลงและแย่งปืนไปมา ผู้กองนวัชกับลาภิณเข้าไปขวางไว้แล้วจับพิมพ์อรซึ่งคลุ้มคลั่งหนัก ขณะที่อยุทธ์ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งโรงพยาบาลทันที ส่วนตำรวจจับชาครและลูกน้องได้ทั้งหมด
พิมพ์อรถูกคุมขังและพยายามอ้อนวอนให้เธอได้พบวนันต์ ผู้เป็นพ่อครั้งสุดท้าย แต่ถูกปฏิเสธจึงต้องอยู่ในคุก ขณะที่วนันต์ใกล้ตาย ลุงทวีพาอยุทธ์ไปพบพ่อทั้งที่บาดเจ็บอยู่แล้วบอกเล่าการตัดสินใจของลูกชายให้รับรู้ วนันต์ยิ้มและฝากให้อยุทธ์ดูแลพี่สาวด้วย เขามีความสุขที่ทั้งสองพ้นจากการครอบงำของกิเลส และฝากบอกลูกสาวด้วยว่าเขารับรู้ความรักที่เธอมีให้พ่อชัดเจนแล้วกล่าวขอโทษที่เมื่อก่อนเขารักลูกไม่เท่ากันจึงทำลายชีวิตลูกสาวในวันนี้ อยุทธ์เสียใจมากที่พ่อตายและพี่สาวถูกคุมขังอยู่ในคุก
ชาครติดต่อขอให้อยุทธ์ไปพบเขาเพื่อช่วยเหลือพิมพ์อร เขายอมไปพบและซึ้งใจกับความกตัญญูต่อวนันต์ที่เคยเลี้ยงดูชาครมาก่อน อีกทั้งความรักที่ชาครมีให้พี่สาวของเขาอย่างเต็มเปี่ยม ชาครจะยอมสารภาพความผิดที่เขาฆ่าศัตรูทางธุรกิจเอง อยุทธ์ดีใจที่พิมพ์อรเป็นอิสระแต่ยังหมางเมินกับน้องชายหลังจากฟังคำบอกเล่าวาจาสุดท้ายของผู้เป็นพ่อ ลาภิณกับเจติยาให้กำลังใจและหวังให้สองพี่น้องคืนดีกัน เข้าใจกันได้ว่าสุดท้ายนี้พวกเขาก็เหลือคนที่รักกันแท้จริงอยู่แค่สองคนเท่านั้น
พลังครอบงำของกสิณสลายไปทำให้หลักฐานในคดีที่ใส่ร้ายลาภิณไว้กลับสู่ความจริงที่เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ลาภิณจึงรอดพ้นทุกข้อกล่าวหาท่ามกลางความดีใจของทุกคน ลาภิณกับเจติยาไปส่งพิมพ์อรกับอยุทธ์กลับสิงคโปร์เมื่อสองพี่น้องปรับความเข้าใจกันได้และรู้คุณค่าความเป็นพี่น้องและเป็นที่พึ่งสุดท้ายของกันและกัน พิมพ์อรยังเคืองใจเจติยาและอาลัยรักต่อลาภิณ จึงวางเฉยต่อทั้งสอง อยุทธ์บอกลาภิณกับเจติยาว่า เขาจะมุ่งมั่นสร้างความเชื่อใจให้พี่สาวให้รู้ว่าพิมพ์อรจะไม่ต้องอยู่เดียวดาย เขาจะเป็นคนที่รักพี่สาวและอยู่เคียงข้างกับพี่สาวตลอดไป