ละคร ปีกมงกุฎ

ดารินทร์ (นุสบา ปุณณกันต์) ลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน ที่หลงรักกล้า (สุรวุฑ ไหมกัน) หนุ่มนักเรียนนอกรุ่นพี่ที่หล่อคารมดี จนเธอเผลอตัวมีความสัมพันธ์กับเขาจนตั้งท้อง ทั้งที่เพิ่งเรียนจบ ม.6 ดารินทร์จึงจำใจหนีตามกล้าเข้ากรุงเทพฯ แต่แล้วดารินทร์ก็ได้รู้ความจริงว่า กล้าเป็นเพียงเด็กหนุ่มในสลัมซึ่งมีพ่อแม่หาเช้ากินค่ำเท่านั้น เธอจึงต้องอุ้มท้องรอจนกว่าลูกจะคลอด และมีชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก ก่อนจะตัดสินใจหนี ทิ้งตรีอัปสร (เขมนิจ จามิกรณ์) ลูกสาวออกไปเผชิญโชคตามลำพัง เธอนำเงินเก็บก้อนสุดท้ายไปเรียนออกแบบเสื้อผ้า ซึ่งเป็นอาชีพที่เธอมีพรสวรรค์

การนำผลงานเข้าประกวดทำให้ดารินทร์ได้พบกับอาชัญ (ตระการ พันธุมเลิศรุจี) นักธุรกิจชื่อดังที่ควงคู่มากับสลิลทิพย์ (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) ภรรยา อาชัญมีท่าทีชอบดารินทร์อย่างเปิดเผย จึงเป็นโอกาสดีที่หญิงสาวจะทอดสะพานให้อย่างง่ายดาย ที่สุดเธอก็รวบรัดจับอาชัญเป็นสามี พร้อมออดอ้อนให้เขาซื้อตึกแถวเปิดร้านตัดเสื้อ โดยสัญญาว่าจะไม่ไปวุ่นวายที่บ้านของอาชัญ หลังเปิดร้านตัดเสื้อได้ไม่นาน สลิลทิพย์ก็สั่งคนมาลอบวางเพลิงร้านของดารินทร์ทันที เพื่อขู่ให้เธอเลิกติดต่อกับอาชัญ ดารินทร์โกรธแค้นและสัญญากับตัวเองว่า เธอจะทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะ และจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้ให้ได้

ตรีอัปสร เติบโตขึ้นมาในสลัมด้วยความลำบาก และความเกลียดชังจากคนในบ้าน เธอถูกตอกย้ำว่าเป็นลูกไม่มีแม่ ทุกครั้งที่ตรีอัปสรเดินไปโรงเรียน เธอมักชอบแอบไปมองดูบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ปากซอย ซึ่งเธอหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ และวันหนึ่งในขณะที่ตรีอัปสรเดินผ่าน ตุ๊กตาหมีตัวน้อยก็ลอยออกมานอกรั้วที่เธอยืน ตรีอัปสรกำลังจะเอาไปคืน แต่แล้วเสียงของ ชญานนท์ ( วงศกร ปรมัตถากร) เด็กผู้ชายคนหนึ่งก็ตะโกนมาต่อว่า เพราะคิดว่าเธอเป็นคนขโมย แม้ว่าอรสินี (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) จะเกิดความสงสาร และอยากมอบตุ๊กตาตัวนั้นให้ แต่ชญานนท์ก็ยังมีท่าทีรังเกียจเธออย่างไม่ลดละ จนอติรุจ (เชื้อชาติ วงศ์สวัสดิ์) พี่ชายของอรสินีต้องเข้ามาห้ามทัพ ทำให้ตรีอัปสรและอติรุจ มอบความรู้สึกดีให้กันตั้งแต่นั้นมา ทุกครั้งที่เธอคิดถึงอติรุจ เธอจะมีความอบอุ่นใจ พร้อมๆ กับถูกรบกวนด้วยคำพูดเหยียดหยาม และสายตาดูแคลนของชญานนท์เสมอที่นึกถึง

หลังจากดารินทร์เลิกรากับอาชัญ เธอก็มีโอกาสเข้ามาอยู่ในบ้านของอัศวิน (พลวัฒน์ รอดรักษา) ในฐานะเมียเก็บ พร้อมกับการเปิดร้านเสื้อผ้าในห้างหรูของเขา โดยที่คุณหญิงสุดสวาท (ณหทัย พิจิตรา) คอยให้การสนับสนุน เพราะแท้จริงแล้วคุณหญิงเอง ก็แอบมีสัมพันธ์กับเด็กหนุ่มอยู่หลายคน ดารินทร์ขออนุญาตอัศวินเรื่องนำตัวตรีอัปสรกลับมาอยู่ด้วยจนสำเร็จ

ตรีอัปสรเติบโตขึ้นมาด้วยชีวิตที่ดีขึ้นอย่างฉับพลัน เพราะดารินทร์ปรนเปรอให้ทุกอย่าง เพื่อทดแทนในสิ่งที่ลูกสาวเธอไม่เคยมีมากว่า 10 ปี และแล้วจิตใจของตรีอัปสรก็เปลี่ยนไปในที่สุด เธอใช้ชีวิตคุณหนูฟุ้งเฟ้อสุขสบายไปวันๆ และรู้แค่เพียงว่าเธอคือความหวังเดียวในชีวิตของดารินทร์ เธอสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้นให้แม่และตัวเอง หลังจากที่ตรีอัปสรกลับมาจากเมืองนอก เธอก็ได้พบกับชญานนท์ อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เขาได้เปลี่ยนฐานะเป็นคนรักของอรสินีไปแล้ว ความคิดที่จะแย่งชิงชญานนท์มาเป็นของตัวเอง จึงเกิดขึ้นในหัวของเธอทันที เพราะตรีอัปสรต้องการเอาชนะและแก้แค้สลิลทิพย์แม่ของอรสินี

ดารินทร์ รู้ข่าวว่าสลิลทิพย์จะส่งอรสินี เข้าประกวดนางงามในปีนี้ เธอจึงวางแผนส่งตรีอัปสรเข้าประกวดด้วยเช่นกัน สองแม่ลูกวางแผนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มงกุฎนี้มา เพราะรู้ดีว่าอรสินี คือตัวเก็งในการประกวดครั้งนี้ ดารินทร์ยอมแม้กระทั่งให้ตรีอัปสรเอาตัวเข้าแลกกับอัศวิน ซึ่งเป็นประธานในการจัดงาน ในที่สุดตรีอัปสรก็ได้มงกุฎนี้มาครองสมใจ ท่ามกลางคำครหาของสื่อมวลชนมากมายที่คิดว่าอรสินี คือผู้ที่คู่ควรกับตำแหน่งนี้อย่างแท้จริง ในคืนวันที่ตรีอัปสรต้องไปพบกับอัศวินที่เซฟเฮ้าส์ เธอก็ได้รับข่าวดีว่า อัศวินประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ดารินทร์กังวลใจเรื่องร้านเสื้อที่อยู่ในห้างของอัศวินว่าจะถูกไล่ที่ แต่ณเดชน์ ( วีรคณิศร์ กานต์วัฒนกุล) ลูกชายของอัศวิน กลับช่วยดารินทร์วางแผนขยายกิจการ เพราะตัวเขาเองก็แอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตรีอัปสร แม้ชายหนุ่มจะมีมุกตาภา (ณัฐชา นวลแจ่ม) น้องสาวของชญานนท์ เป็นคู่หมั้นอยู่แล้ว ไม่นานนักทั้งตรีอัปสรและอรสินี ก็ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัว ด้วยการทาบทามจากดิษย์ (ดิลก ทองวัฒนา) ผู้บริหารสถานี

ด้วยความที่ตรีอัปสรเป็นคนกล้าได้กล้าเสียกับทุกบทบาท ทำให้เธอมีชื่อเสียงมากกว่าอรสินีอย่างสมใจ แต่สิ่งเดียวที่เธอต้องการในตอนนี้คือทำให้ชญานนท์หันมาสนใจเธอ ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจบอกเลิกกับณเดชน์ ซึ่งชญานนท์ก็แอบดีใจอยู่เงียบๆ เพราะส่วนลึกแล้วเขารู้สึกสงสารตรีอัปสร ในขณะที่อรสินีเข้าใจว่าชญานนท์หลงรักตรีอัปสรจริงๆ ซึ่งเธอพร้อมจะหลีกทางให้ ตรีอัปสรแกล้งไปสารภาพกับอรสินีว่าเธอมีความสัมพันธ์กับชญานนท์แล้ว อรสินีเสียใจมากประกาศหลีกทางให้ตรีอัปสรทั้งเรื่องงานและเรื่องความรัก ตรีอัปสรหลงระเริงกับการแก้แค้นและความสุขที่เธอได้รับ โดยไม่รู้ตัวว่าจุดจบในชีวิตของเธอกำลังจะมาถึง เมื่อชญานนท์ออกมาปฏิเสธและยืนยันว่าเค้ารักอรสินีเพียงใด ตรีอัปสรจึงได้พบกับคำว่าพ่ายแพ้ เพราะในตอนนี้หัวใจของเธอได้มอบให้ชญานนท์ไปหมดแล้ว สุดท้ายเธอจึงได้รู้ว่า มงกุฎ ที่เธอได้มานั้น เป็นเพียงแค่ ปีก ที่พร้อมรอวันหลุดลอย