ละคร คือหัตถาครองพิภพ

ดู 5,581 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 6 ธันวาคม 2556
เวลาออกอากาศ 20:30 - 22:45 น.
  
กำกับโดย จรูญ ธรรมศิลป์
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ น้ำอบ, บทโทรทัศน์ วรพันธ์ รวี
นำแสดงโดย
อคัมย์สิริ สุวรรณศุข ... สะบันงา
ปิยธิดา วรมุสิก ... คุณหญิงศรี
เดวิด อัศวนนท์ ... พระยาสมิติภูมิ
อริศรา วงษ์ชาลี ... ยายเมี้ยน
ชวัลนันท์ จันทร์ทรัพย์ ... ศุกล
เซฟฟานี่ อาวะนิค ... พริ้มเพรา
อัปสรสิริ อินทรคูสิน ... แพรวพรรณราย
ซอนญ่า สิงหะ ... พราวพิลาศ
โตนนท์ วงบุญ ... พจน์
นวินดา เบอร์ต๊อดตี้ ... พริสซิลลา
ปรมิณ ศิระวนาดร ... พฤกษ์
กชกร ส่งแสงเติม ... เมขลา
พิชยดนย์ พึ่งพันธ์ ... คุณศีล
ชินวุฒ อินทรคูสิน ... ธรรม์
มิกค์ ทองระย้า ... พอล
อุษณีย์ วัฒฐานะ ... แม่เดือน
ปิติพน พรตรีสัตย์ ... อุดร
ผู้สร้าง บริษัทดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ คือหัตถาครองพิภพ

ศรี (ปิยธิดา วรมุสิก) ลูกสาวคนโตวัยขึ้นคานของท่านเจ้าสัว (วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) พ่อค้าใหญ่ร่ำรวยมีชื่อเสียง ที่เกิดกับแม่น้อย (ปิยะดา เพ็ญจินดา) ภรรยาคนที่สอง ศรีครองตัวเป็นโสด ไม่สนใจเรื่องการมีครอบครัว ก่อนหน้านั้นมีคนมาสู่ขอ แต่ศรีก็ไม่สนใจ ท่านเจ้าสัวทั้งโกรธทั้งกลุ้มใจ ถึงขั้นต้องบังคับจับคลุมถุงชน แต่ศรีก็สร้างเรื่องให้วุ่นวายโดยร่วมมือกับอีเมี้ยน (อริสรา วงษ์ชาลี) พี่เลี้ยงสาวทึนทึก ห้าวๆ คล้ายผู้ชาย เมี้ยนปลอมตัวเป็นเจ้าสาวแทนศรี เพราะเจ้าสาวคลุมหน้าเข้าห้องหอไปเปิดหน้ามาเจ้าบ่าวถึงกับลมใส่ ส่วนศรีมี ศุกล (ชวัลนันท์ จันทร์ทรัพย์) น้องชายลูกแม่ใหญ่ (นวลนง จามิกรณ์) ทั้งสองคน แม้จะเป็นลูกต่างแม่แต่รักใคร่และสนิทกันมาก ศุกลที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก รีบช่วยเหลือพาศรีไปแอบที่เรือนแพของแม่พริ้ง (ปัทมา ปานทอง) ซึ่งอาศัยที่ริมน้ำท่านเจ้าสัวขายเครื่องปั้นดินเผา

เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อนท่านเจ้าสัวโกรธมากกล่าวหาว่า เจ้าสัวเอาคนรับใช้มายกให้เป็นสะใภ้ถือเป็นการดูถูกครอบครัว และตัดความเป็นเพื่อนกับท่านเจ้าสัว ที่แพศุกลได้พบกับสาวน้อยวัย 14 ปี สะบันงา (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ลูกสาวของพริ้ง เวลานั้นสะบันงากำลังจะลงว่ายน้ำเล่น ศุกลกับศรีขับเรือเครื่องมาอย่างเร่งรีบ ไปชนเอากระดานไม้ที่สะบันงายืนเก้งก้างอยู่จนตกลงไปในน้ำ สะบันงาตกใจร้องหวีดจนผ้าถุงหลุด ไม่กล้าขึ้นมาจากน้ำ ศรีต้องรีบไล่ศุกลให้ไป แล้วเอาผ้าถุงจากแพมาให้สะบันงาใส่ ศุกลหลงรักสะบันงาทันที และเป็นรักแรกพบของทั้งสองคน พระยาสมิติภูมิ (เดวิด อัศวนนท์) ชาวฝรั่งสัญชาติอังกฤษ คอยเสาะหาผู้หญิงมีฐานะและมีความรู้คู่ควรมาเป็นภรรยา โดยไม่ได้เน้นความรัก พระยาเกษม (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) เพื่อนรักเป็นผู้แนะนำศรีให้ เนื่องเพราะศรีเป็นสาวหัวทันสมัย เขียนอ่านภาษาได้ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส นอกจากนี้ศรียังเป็นเพื่อนสนิทของ คุณหญิงลออศรี (กชกรณ์ นิมากรณ์) ภรรยาพระยาเกษมอีกด้วย ท่านเจ้าสัวดีใจมาก เพราะศรีลูกสาวมีวัยถึง 28 ปี เหตุเพราะศรีบ่ายเบี่ยงการแต่งงานหลายครั้ง เวลาต่อมาพระยาสมิติภูมิมาสู่ขอศรี คุณหญิงลออศรีช่วยอ้อนวอน ศรีลังเลในเบื้องแรก เจ้าสัวกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย จึงกักตัวศรีไว้ในห้องก่อนแต่งงาน 7 วัน ส่วนอีเมี้ยนนั้นท่านเจ้าสัวแสร้งส่งไปทำธุระต่างจังหวัด ศรีจำต้องแต่งงานกับพระยาสมิติภูมิ กลายเป็น คุณหญิงศรี และมีอำนาจเต็มในคฤหาสน์หลังใหญ่

ค่ำคืนแรกที่ตกเป็นภรรยาโดยสมบูรณ์ของพระยาสมิติภูมิ ศรีกรีดร้องดังโหยหวนจนท่านพระยาทั้งตกใจ และประหลาดใจ แต่ก็ภูมิใจที่ศรีอุตส่าห์ครองตัวมานาน แต่ยอมแต่งงานกับตน คุณหญิงศรี พาอีเมี้ยนมาเป็นต้นห้อง และหลีกเลี่ยงการหลับนอนกับพระยาสมิติภูมิสม่ำเสมอ โดยคอยจัดหาบ่าวสาวๆ ในบ้าน ไปปรนนิบัติพระยาสมิติภูมิแทน ไม่เว้นแม้แต่อีเมี้ยนก็ต้องยอมไปแก้ขัดให้ หลังจากศรีแต่งงานออกเรือนไปแล้ว เจ้าสัวส่งศุกลไปเรียนเมืองนอกด้านคอมเมิร์ชเพิ่มเติม เพื่อติดต่อค้าขายธุรกิจให้ใหญ่โตมากขึ้น ตลอดเวลาศุกลไม่เคยลืมสะบันงาสาวน้อยตกน้ำคนนั้น เขาตั้งใจเรียนจนจบและเดินทางกลับจากต่างประเทศเร็วกว่ากำหนด ท่านเจ้าสัวผิดหวัง ศุกลไม่ได้เรียนการบริหารธุรกิจกลับไปเรียนด้านวรรณคดีและอักษรศาสตร์ ศุกลกับคุณหญิงศรีเป็นพี่น้องที่รักกันมาก จนถึงขั้นกล้าขอให้คุณหญิงมาบอกท่านเจ้าสัวไปสู่ขอสะบันงา ท่านเจ้าสัวโมโหมากสั่งให้ศุกลเลิกติดต่อกับสะบันงา เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ศุกลลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าสัวจะไปมีเมียเป็นลูกแม่ค้าเรือนแพยากจน ไม่มีสกุลรุนชาติ นอกจากนี้ท่านเจ้าสัวแอบไล่แม่พริ้งและสะบันงาให้ไปจากที่ดินของตน ห้ามกลับมาอีก ศุกลเศร้าหมองไม่รู้สาเหตุการหายไปของสองแม่ลูก

สะบันงาในวัยเพียง 14 ปี กับแม่พริ้งและพ่อ การค้าขาดทุน เรือนแพโดนยึดเพราะติดจำนองเอาเงินไปรักษาแม่พริ้ง วันหนึ่งแม่พริ้งได้พบกับ แกละ (ประถมาภรณ์ รัตนภักดี) โดยบังเอิญ จนได้รู้ว่าแกละเป็นบ่าวในบ้านพระยาสมิติภูมิ แกละแนะนำให้แม่พริ้งพาสะบันงาไปขายฝากตัวขัดดอกเพื่อเอาเงินไปรักษาตัว แม่พริ้งพาสะบันงามาบ้านพระยาสมิติภูมิ คุณหญิงศรีจำสะบันงาได้และดีใจแทนศุกลจึงรีบรับซื้อสะบันงาเอาไว้รับใช้ หวังให้ศุกลมารับไปเป็นภรรยาสักวัน ความที่สะบันงาอายุน้อยมากไร้เดียงสา จึงรอดพ้นสายตาประกอบกับคุณหญิงพยายามเอาสะบันงาหลบจากพระยาสมิติภูมิเสมอ สะบันงาจึงรอดหูรอดตามาตลอด แต่แล้ววันหนึ่งสะบันงาก็ได้พบกับเจ้าพระยาสมิติภูมิโดยบังเอิญอย่างจังๆ ท่านกลับไมได้คิดในแง่ชู้สาวเพราะมองว่าเด็กมาก ได้แต่ติดใจว่าสวยมากแต่ยังเด็ก แต่ท่านพระยาก็ไม่ได้ละเลยสะบันงา คุณหญิงศรีปกครองคนในบ้านโดยมีอีเมี้ยนเป็นตัวแทน คอยสอดส่องดูแลความเป็นไปในบ้านและหาบ่าวสาวไปปรนนิบัติ รวมทั้งสองพี่น้อง สังเวียน (ธัญสินี พรมสุทธิ์) กับ สังวร (ภารดี อยู่ผาสุก) ที่ต่างเป็นคนขี้อิจฉาและมักใหญ่ใฝ่สูง อีเมี้ยนมักมีปัญหากับบ่าวไพร่ในบ้านเป็นประจำ แต่ไม่มีใครกล้าหือ บ่าวในครัวนินทาเมี้ยนกับคุณหญิงศรีว่าเล่นเพื่อนกัน คุณหญิงศรีโกรธขู่จะเอาโทษกับทุกคนที่พูดเรื่องนี้ จนทำให้เรื่องสงบลง

วันหนึ่งคุณหญิงศรีชวนศุกลมาหาที่บ้าน ศุกลมาพบสะบันงาถึงกับตะลึงงันมองด้วยความดีใจและหลงใหล จากนั้นศุกลจึงแวะเวียนมาเยี่ยมคุณหญิงศรี เพื่อได้พบหน้าสะบันงาบ่อยมากจนดูผิดสังเกตของพวกบ่าวไพร่ โดยเฉพาะน้อย (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) บ่าวปากมากจอมส่อเสียด 1 ในบ่าวที่คอยไปบำเรอความสุขให้ท่านพระยา น้อยจับตาความสัมพันธ์ของสองคนตลอด แม้ไม่ค่อยได้พูดจากัน แต่สะบันงาก็มีใจรักตอบศุกล ไม่ได้คิดว่าจะกลายเป็นภรรยาของท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิในวันหนึ่ง ที่นั่นนางเล็กๆ ทั้งหลาย สังเวียน สังวร และน้อย พยายามชิงดีชิงเด่นเพื่อให้เจ้าพระยาสมิติภูมิหลงใหล และแย่งตำแหน่งคุณหญิงศรี ตบตีกันเองก็เคยทำ โดยหารู้ไม่ว่าท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิจะเชิดชูเพียงคุณหญิงเท่านั้น เพราะเหมาะสมคู่ควร บรรดาเมียเล็กเมียน้อยเกลียดคุณหญิงศรีและเมี้ยนมาก ถึงกับทำพิธีสาปแช่งให้คุณหญิงมีอันเป็นไปสารพัด แต่ไม่รอดสายตาเมี้ยน คุณหญิงศรีแสร้งทำเฉยแต่เก็บงำข้อมูลไว้ชำระแค้น

ด้วยความเอ็นดูรักใคร่เป็นพิเศษคุณหญิงศรีสอนวิชาสารพัดทั้งไทยอังกฤษให้สะบันงา ทำให้สะบันงามีความรู้มากมาย เพราะคุณหญิงต้องการให้สะบันงาเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่คู่ควรของศุกลผู้เป็นน้องชาย แต่พวกนางเล็กๆ กลับคิดไปว่าคุณหญิงจะเอาสะบันงามาเป็นตัวตายตัวแทนในวันข้างหน้า จึงพากันเกลียดและอิจฉาสะบันงาไปด้วย สะบันงาเป็นเด็กจิตใจดี ใจเย็น อดทน ไม่มองใครในแง่ร้าย ยิ่งทำให้คุณหญิงศรีรักสะบันงามากในฐานะน้องสะใภ้ในอนาคต คุณหญิงศรีบอกสะบันงาเรื่องศุกลรักและจะแต่งงาน สะบันงาเต็มใจรักตอบศุกล ซึ่งทั้งศุกลกับสะบันงาได้พูดจาตกลงกันเรื่องแต่งงานไว้แล้ว เพียงรอเวลาให้สะบันงาโตอีกสักนิด สังวรออดอ้อนขอร้องพระยาสมิติภูมิอย่าทิ้งขว้าง พระยาสมิติภูมิรับคำทำให้สังวรไม่เกรงกลัวคุณหญิงศรี โดยเฉพาะกับเมี้ยนมักเป็นคู่ปรับกันเป็นประจำ คุณหญิงศรีแม้จะไม่ชอบสังวรแต่ก็ทำให้เธอพ้นหน้าที่ต้องหลับนอนกับพระยาสมิติภูมิ คุณหญิงศรีฉลาดไม่ลดตัวไปทะเลาะกับสังวรให้เป็นหน้าที่ของเมี้ยน สังวรท้องสมใจอยากกะได้ลูกชายมาสืบทอดตระกูลเขี่ยคุณหญิงศรีให้กระเด็น คุณหญิงศรีรับรู้แผนการของสังวร โดยมีเมี้ยนคอยจับตาดู คุณหญิงศรีไม่มีวันยอมให้พระยาสมิติภูมิมีลูกกับบ่าวไพร่ขี้อิจฉาคนใดโดยเด็ดขาด

สังวรยังไม่ทันบอกให้ใครรู้เรื่องตั้งท้องนอกจากสังเวียนน้องสาว น้อยเมียบ่าวผู้ทะเยอทะยานแอบฟังสองพี่น้องคุยกันจึงรีบไปบอกเมี้ยน เมี้ยนไปบอกคุณหญิงหญิงศรี แต่คุณหญิงศรียินดีกับสังวรยกใหญ่เมี้ยนถึงกับแปลกใจ สังวรผยองยกใหญ่วางก้ามตีเสมอเผลอเบ่งทับคุณหญิงศรี เมี้ยนโมโหและโกรธจัด วางแผนเฉดหัวสังวรออกจากบ้านเนียนๆ ให้คุณหญิงศรี โดยแสร้งชวนสังวรมาคุยในห้องคุณหญิงศรี แล้วทิ้งไว้คนเดียว เมี้ยนจัดแจงนำเอาเครื่องเพชรของคุณหญิงศรีไปซ่อนไว้ในห้องของสังวร พร้อมกับร้องโวยวายว่าสังวรขโมยเครื่องเพชรไป คุณหญิงศรีให้ทางเลือกสองทาง ส่งตำรวจหรือต้องไปจากบ้าน สังวรจำนนต่อหลักฐาน พวกบ่าวไพร่คนในบ้านเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มีแต่สังเวียนเท่านั้นที่ไม่เชื่อเต็มที่ว่าสังวรจะขโมย สังวรต้องออกจากบ้านไปโดยมีลูกติดท้องไปด้วย ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิไม่รู้ว่าสังวรท้องรู้แต่ว่าขโมยของคุณหญิงแล้วหนีไปเพราะกลัวความผิด

สังวรกลับไปคลอดลูกชายตั้งชื่อว่า ทอง (โตขึ้นเป็น ศรุต สุวรรณภักดี) พร้อมกับเลี้ยงดูและเสี้ยมสอนให้ทองกลับมาแก้แค้นคุณหญิงศรีแทนตน หลังจากเห็นพี่สาวถูกใส่ร้าย สังเวียนเจ็บแค้นคุณหญิงศรีที่กลั่นแกล้งสังวร จึงพยายามท้องกับเจ้าพระยาสมิติภูมิให้ได้ สังเวียนสนิทกับแกละที่ยังแคล้วคลาดไม่ได้เป็นภรรยาของท่านสมิติภูมิสักที สังเวียนพยายามไปปรนนิบัติเจ้าพระยาสมิติภูมิแทนคิวของแกละ และคอยเสี้ยมแกละให้ลาออกไปกับ ซ้ง (พศิน ศรีธรรม) กุ๊กจีนที่รักใคร่ชอบพอกันอยู่ ในที่สุดทั้งสองลาออกไปเปิดร้านอาหารจีนภายหลังกิจการเจริญรุ่งเรืองใหญ่โต และมีชื่อเสียงมากในเวลาต่อมา แกละเปลี่ยนชื่อเป็นลออศรีวดี ตามชื่อของคุณหญิงลออศรี ต่อมาเติมวดีข้าไปอีก แกละจึงมีชื่อยาวมากว่า คุณหญิงลออศรีวดี ส่วนซ้งก็เปลี่ยนชื่อเป็นคุณทรงวาด

น้อยเมียบ่าวอีกคนดีใจที่สังวรถูกกำจัดออกไป และหวังมีลูกกับเจ้าพระยาสมิติภูมิเช่นกัน น้อยอิจฉาสังเวียนที่กลายเป็นคนโปรด คอยติดตามข่าวสังเวียนไปบอกเมี้ยนหวังรางวัล หารู้ไม่ว่าเมี้ยนไม่ไว้ใจน้อยเช่นกัน ในที่สุดสังเวียนท้องกับพระยาสมิติภูมิ แต่ขอร้องไม่ให้บอกใคร เจ้าพระยาสมิติภูมิรับปาก และทำให้เจ้าพระยาสมิติภูมิไม่ได้หลับนอนกับสังเวียนอีก เมี้ยนจับสังเกตอยู่ด้วยความแปลกใจ น้อยมาส่งข่าวว่าสังเวียนน่าจะท้อง คุณหญิงศรีสงบนิ่งด้วยยังไม่แน่ใจ เพราะกำลังวางแผนแต่งงานให้ศุกลกับสะบันงา เมื่อหมดคนที่จะส่งไปให้ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิ อีกทั้งท่านเจ้าพระยาไม่ต้องการน้อยเพราะปากมาก เมี้ยนก็มีรอบเดือน คุณหญิงศรีรักน้องชายมากและหวงสะบันงาไว้ให้น้องชาย จึงยอมไปนอนกับเจ้าพระยาสมิติภูมิเสียเอง พร้อมกับเตือนสะบันงาให้ระวังตัว แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อปรากฏว่าคุณหญิงศรีท้องมีอาการแพ้และป่วยจนนอนอยู่แต่ในห้อง ไม่สามารถปกป้องสะบันงาให้น้องชายได้อีก แม้สะบันงาจะเฝ้าดูแลคุณหญิงศรีตลอดเวลา แต่ก็ต้องโดนเรียกไปพบท่านเจ้าพระยาในที่สุด โชคยังดีที่เจ้าพระยาสมิติภูมิไม่ได้หลับนอนกับสะบันงาทันที เพราะจะถนอมเอาไว้ให้สะบันงาเต็มใจรับรักท่าน ท่านหลงรักสะบันงายิ่งกว่าหญิงใดๆ แม้แต่คุณหญิง ยิ่งพบว่าสะบันงาเก่งกาจเพราะเรียนรู้จากคุณหญิง ท่านยิ่งหลงใหล จ้างครูมาสอนสารพัดวิชาให้สะบันงา

ศุกลมาเยี่ยมคุณหญิงศรีและรู้ว่าสะบันงาเข้าไปดูแลปรนนิบัติพระยาสมิติภูมิก็เสียใจมาก คุณหญิงศรีบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่รอเวลาไม่ได้แล้ว บอกให้ทั้งสองคนหนีไปด้วยกัน น้อยมาแอบฟังจึงรีบไปฟ้องสังเวียน และสังเวียนไปฟ้องท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิต่อ สังเวียนกร่างใหญ่โตเบ่งมากมีปากเสียงกับเมี้ยนไม่เกรงกลัวใคร เพราะเจ้าพระยาสมิติภูมิคอยให้ท้าย สังเวียนแอบส่งจดหมายถึงสังวรแจ้งข่าวท้องฝาก นายยอด (กษาปณ์ จำปาดิบ) คนรถไปส่ง ด้านนายยอดไม่ชอบหน้าสองพี่น้องจึงแอบเปิดอ่านและเอาจดหมายไปให้เมี้ยนเพราะหวังรางวัล คุณหญิงศรีอ่านจดหมายจึงรู้ว่าสังเวียนท้องจริง และยังรู้ด้วยว่าสังเวียนเอาสมุนไพรทำให้แท้งลูกใส่ในยาหม้อบำรุงครรภ์ของคุณหญิงศรี เหตุนี้คุณหญิงศรีจึงป่วยกระเสาะกระแสะ

คุณหญิงศรีแค้นมากแต่อีเมี้ยนแค้นกว่า จึงอาสาจัดการให้ โดยจ้างยอดให้เข้าหาสังเวียน สังเวียนต่อสู้แทงยอดด้วยมีด เมี้ยนเข้าไปเจอสังเวียนอยู่กับยอด จึงต่อว่าเสียงดังและเอาจดหมายที่สังเวียนคิดร้ายกับคุณหญิงโชว์ให้ดู สังเวียนตกใจกลัวมากจนด้วยหลักฐาน เมี้ยนขู่จะบอกท่านเจ้าพระยา สังเวียนจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมลูกในท้อง ส่วนยอดเมี้ยนปิดปากด้วยการลอบวางยาพิษ เจ้าพระยาสมิติภูมิอดสงสัยไม่ได้ แต่คุณหญิงเอาจดหมายที่สังเวียนเขียนถึงพี่สาวให้ท่านเจ้าพระยาอ่าน ท่านพูดไม่ออกเพราะสังเวียนปองร้ายคุณหญิงศรีจึงและคิดร้ายถึงขึ้นจะฆ่าลูกในในท้องให้แท้ง จึงเงียบและไม่ต้องการให้เรื่องอื้อฉาว

เวลาต่อมาคุณหญิงศรีคลอดลูกสาวชื่อ พริสซิลลา หน้าตางดงามแต่ไม่แข็งแรงนัก คุณหญิงศรีไม่มีน้ำนม เมี้ยนต้องไปเอาบ่าวชื่อ ดา (มนตระกานต์ ทองขาว) พี่สาวของเดือน (อุษณีย์ วัฒฐานะ) มาเป็นแม่นม น้อยมาบอกให้เจ้าพระยาสมิติภูมิไปดูศุกลกับสะบันงาคุยกันอย่างสนิทสนมใต้ต้นพิกุล ท่านตัดสินใจเลิกทะนุถนอมสะบันงาเอาไว้ต่อไป เจ้าพระยาสมิติภูมิกักสะบันงา ไม่ยอมส่งสะบันงากลับไปดูแลคุณหญิง และให้คุณหมออดุล หมอประจำบ้านมาดูแลพร้อมด้วยพยาบาลและเมี้ยน สะบันงาตกเป็นภรรยาของเจ้าพระยาสมิติภูมิจึงปฏิเสธแต่งงานกับศุกลเพราะมีมลทิน แต่ศุกลกลับไม่ถือสา เขารักสะบันงายิ่งกว่าสิ่งใดในโลก และให้ตัดสินใจหนีไปกับเขา ศุกลจะส่งรถมารับ นัดหมายให้ออกไปตอนเที่ยงคืนแรมสิบห้าค่ำที่จะมาถึง ถ้าไม่ออกมาเขาจะรอจนกว่าจะตาย สะบันงาสองจิตสองใจ น้อยแอบฟังที่ศุกลบอก แต่บิดเบือนเมื่อมารายงานท่านเจ้าพระยาว่าสะบันงานัดศุกลให้มารับเพื่อจะหนีไปด้วยกัน ท่านแค้นมาก สั่งน้อยหานักเลงมาให้สองคน โดยท่านเจ้าพระยาสั่งให้เอาศุกลไปทำร้ายสั่งสอนให้เข็ดหลาบเท่านั้น

เมื่อถึงวันนัด สะบันงาไม่ยอมลงไป เพราะไม่ต้องการทรยศต่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ศุกลมารอรับสะบันงาตามที่นัดหมายไว้ ขณะเดินไปรอที่ต้นพิกุลใหญ่ เขาโดนสองคนทำร้ายทุบตีและอุ้มหายไป ขณะเดียวกันนั้น คุณหญิงศรีซึ่งอยู่ในห้องกับพริสซิลลาที่ยังแบเบาะมองทางหน้าต่าง เห็นสองคนกำลังอุ้มและทุบตีใครคนหนึ่งไป เอะใจว่าเป็นศุกลจึงลอบลงเรือนตามไปดู ทิ้งให้พริสซิลลาหลับอยู่ตามลำพัง เมี้ยนได้ยินเสียงพริสซิลลาร้องไห้วิ่งมาดู ไม่พบคุณหญิงศรีก็ตกใจมาก จึงมาเรียกน้อยไปตามเดือนกับดามาดูแลพริสซิลลา น้อยฉวยโอกาสมากระซิบสะบันงา เมื่อรู้ว่าพริสซิลลาไม่มีใครดูแลเพราะเมี้ยนจะออกไปตามหาคุณหญิงศรี สะบันงาจึงขอไปดูแลพริสซิลลา ระหว่างทางน้อยกลับชวนไปแวะที่ต้นพิกุลใหญ่ บอกว่ามีคนรอพบถ้าไม่ไปพบเขาจะขึ้นไปหาเจ้าพระยาสมิติภูมิ สะบันงายอมไปแต่ไม่พบใคร น้อยย้อนกลับมาฟ้องท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิว่าสะบันงาไปรอพบศุกล สะบันงาเจอเมี้ยนระหว่างทางจึงรู้ว่าโดนน้อยหลอก เมี้ยนตามเดือนกับดามาดูแลพริสซิลลาแทนแล้ว เมี้ยนโกรธน้อยมากรู้ว่าน้อยหักหลัง แต่ต้องรีบไปตามหาคุณหญิง

ท่านเจ้าพระยาตามลงมาหาสะบันงาชวนกลับเรือนไปโดยไม่บอกว่ารู้เรื่องใดๆ สั่งให้สะบันงาอยู่แต่ในห้องอย่าไปไหน ส่วนตนเองออกไปดูผลงาน น้อยแอบวางเพลิงเรือนคุณหญิงศรีหวังให้พริสซิลลาตาย จากนั้นแอบไปดูผลงานที่สองโจรทำร้ายศุกลเพื่อรอรับส่วนแบ่งรางวัลตามที่ตกลงกันไว้ โจรสองคนเกิดโลภทำร้ายศุกลเมื่อเห็นว่ามีทองหยองเงินทองติดตัวมากมาย จึงริบมาหมดกลายเป็นฆ่าชิงทรัพย์ ขณะรูดแหวนติดนิ้วที่มีอักษรไขว้ ศก. คุณหญิงตามมาเจอโจรสองคน กระโจนเข้าไปหาน้องชายด่าว่าโจรเป็นการใหญ่ โจรชั่วสองคนที่กำลังขุดหลุมรอฝังศุกลโมโหใช้จอบฟันเข้าที่หน้าคุณหญิงศรีจนหน้าเละไปข้างหนึ่ง คุณหญิงไม่สิ้นฤทธิ์ พยายามคลานไปขัดขวางจึงโดนจอบฟันขาเดี้ยงไปข้างหนึ่ง เมื่อจะฟันมือปรากฏว่าคุณหญิงศรีหลบทันก่อนจะแกล้งนอนสลบ น้อยพรวดออกมาแสดงความยินดีกับสองโจรเพื่อตั้งใจมาขอส่วนแบ่ง โจรสองคนจึงฟันน้อยตายไปด้วย เมื่อฝังศุกลและน้อยเสร็จ สองโจรคิดว่าคุณหญิงศรีตายแล้ว กำลังจะฝัง แต่ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิมาพบโจรสองคนตามนัดหมายเพื่อให้ค่าจ้างเสียก่อน และรู้ว่าโจรสองคนฆ่าศุกลแถมคุณหญิงศรีนอนตายอีกคน จึงโกรธมากด่าว่าโจรสองคน ทั้งสองคนบอกว่าคุณหญิงศรีมาขัดขวางจึงตัดสินใจฆ่า ท่านเจ้าพระยาเสียใจมาก และจะยิงโจรทั้งสองคนทิ้งแต่เห็นไฟลุกท่วมบ้านที่คุณหญิงพัก ก็ตกใจกลัวพริสซิลลาโดนไฟครอกจึงรีบหันกลับบ้านเพื่อไปดูลูก โจรสองคนฉวยโอกาสหนีไปพร้อมค่าจ้าง

พอทุกคนคล้อยตัวไป เมี้ยนตามมา และพบสภาพคุณหญิงศรีก็หัวใจสลาย สงสารคุณหญิงจับใจ เมื่อเห็นว่าคุณหญิงยังไม่ตายจึงรีบอุ้มไปหลบที่รถของศุกลที่จอดแอบรออยู่ โดยให้คนรถขับพาไปที่บ้านของตนเองที่ปทุมธานี ด้านสะบันงารีบออกจากตึกของท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิมาช่วยพริสซิลลากับเดือนและดา เจ้าพระยามาถึงบ้านไฟมอดไหม้มจนเป็นจุณ พริสซิลลาปลอดภัยเพราะทั้งสามคนช่วยไว้ ท่านซาบซึ้งในน้ำใจของทั้งสาม จากนั้นจึงย้อนกลับมาดูร่างคุณหญิงศรี แต่ร่างคุณหญิงหายไปไร้ร่องรอย จึงเข้าใจว่าพวกโจรพวกนั้นเอาศพไปด้วย ท่านเจ้าพระยาไม่สบายใจมากเรื่องคุณหญิงศรี และกลายเป็นหนามทิ่มแทงให้เจ็บปวดหัวใจจนกลายเป็นโรคหัวใจในเวลาต่อมา ท่านเจ้าพระยาประกาศว่าคุณหญิงศรีเสียชีวิตในกองเพลิง และจัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ ส่วนสะบันงาได้รับการยกย่องเป็นภรรยาเอกเลื่อนฐานะเป็นคุณหญิง เธอดูแลพริสซิลลาอย่างดีรักเหมือนลูก พริสซิลลาโตขึ้นปรากฏว่าเป็นออทิสติก แต่คนในสมัยนั้นคิดว่าเด็กปัญญาอ่อน เธอเป็นเด็กสวยน่ารักเหมือนตุ๊กตา พระยาสมิติภูมิรักลูกสาวคนนี้มาก สะบันงาก็รักใคร่เอ็นดูเช่นกัน สะบันงาไม่เชื่อว่าพริสซิลลาปัญญาอ่อนพยายามดูแลอย่างดี พริสซิลลามีความจำดีอย่างมหัศจรรย์มักรู้อะไรที่ใครนึกไม่ถึง คิดเลขได้เร็ว

สะบันงายังรักศุกลแม้จะไม่ได้คิดหนีตามไป แต่เข้าใจผิดคิดว่าศุกลหลอกว่าจะมาพบแต่ไม่กลับมาเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีคนเอาไปนินทาว่าเป็นฝีมือของสะบันงา ซึ่งวางแผนกำจัดคุณหญิงศรี ฆ่าตายหมกไว้ที่ไหนสักแห่ง บ้างว่าคุณหญิงศรีหนีตามน้องชายคนละแม่ สะบันงาเสียใจแต่นิ่งเฉยเสีย ท่านเจ้าพระยาคอยปลอบใจและรักสะบันงามากขึ้นทุกวัน และเล่นงานทุกคนที่พูดเรื่องนี้จนพากันเงียบปากไป โดยเฉพาะคุณหญิงลออศรี หรือ แกละนั่นเองคือตัวกระจายข่าวในวงชั้นสูง ภายหลังพระยาเกษมได้มาพบปะสะบันงาจึงรู้สึกดีขึ้น เวลาผ่านไป สะบันงามีลูกสาวคนแรกกับเจ่าพระยาสมิติภูมิ ชื่อ พริ้มเพรา (เซฟฟานี่ อาวะนิค) เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เมี้ยนกลับมาหาสะบันงาบอกว่าขอพาพี่สาวทีพิการมาขออาศัยอยู่บ้านท้ายสวน โดยไม่ยอมบอกว่าที่แท้เป็นคุณหญิงศรีนั่นเอง สะบันงาอนุญาตด้วยความเต็มใจ และถามไถ่ถึงคุณหญิงศรี สะบันงาร้องไห้เสียใจที่คุณหญิงศรีหายไป เธอยังเคารพเทิดทูนและรู้ซึ่งในพระคุณคุณหญิงศรีเสมอ เมี้ยนฟังแล้วถึงกับร้องไห้โฮนำความมาบอกคุณหญิงศรี

คุณหญิงได้ทราบว่าสะบันงาปฏิเสธไม่ให้ทุกคนเรียกว่า คุณหญิง เพราะเธอมั่นใจว่าคุณหญิงศรียังมีชีวิตอยู่ คุณหญิงศรีถึงกับตื้นตันน้ำตาคลอขนาดไม่รู้ว่าเป็นคุณหญิงมาอาศัยอยู่ สะบันงายังใส่ใจส่งอาหารขนมนมเนยของใช้ทุกอย่างมาให้กินให้ใช้ แม้ว่าจะแปลกใจไม่น้อยที่รู้ว่าพี่สาวเมี้ยนคนนี้ชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ และทานอาหารด้วยมีดและส้อม สะบันงาพยายามขอไปเยี่ยมพี่สาว แต่เมื่อเมี้ยนไปรายงาน ถูกคุณหญิงศรีปฏิเสธ บ่าวไพร่หลายคนไปเดินเล่นแถวนั้นพบหญิงสูงวัยพิการหน้าคล้ายผี ต่างตกใจวิ่งหนีกันทุกคน ภายหลังเมี้ยนไปหาหน้ากากมาให้ใส่บังใบหน้าแทน

คุณหญิงศรีมักแอบไปนั่งที่หลุมฝังศพศุกล นำดอกไม้ไปวางไว้ พูดกับหลุมศพน้องเสมอ เจ้าพระยาสมิติภูมิก็เช่นกันเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงมักวนเวียนไปขอโทษศุกลที่นั่น จนอยู่มาวันหนึ่งพบดอกไม้วางอยู่เช่นเคย ผู้วางยังไม่ทันออกไปพ้น เจ้าพระยาสมิติภูมิตามไปกระชากไหล่ให้หันกลับมา หญิงคนนั้นใส่หน้ากากเห็นแค่ดวงตาข้างที่ไม่บอด ท่านจำได้ทันทีว่าคือดวงตาของคุณหญิง อุทานเรียกชื่อออกไปคุณหญิงผลักท่านเจ้าพระยาล้มลงแล้วกระเซอะกระเซิงหนีไป เจ้าพระยาสมิติภูมิยิ่งเสียใจมาก สงสารคุณหญิงศรีจับใจ ส่งคนไปสร้างบ้านหลังเล็กๆ น่าอยู่ มีทุกอย่างครบครันแทนกระท่อมผุพัง สะบันงาเลี้ยงดูพริสซิลลาอย่างดี จนต่อมา สะบันงามีลูกสาวคนที่สองชื่อ แพรวพรรณราย (อัปสรสิริ อินทรคูสิน) และลูกสาวคนที่สามชื่อ พราวพิลาส (ซอนญ่า สิงหะ) แต่ละคนล้วนงดงามน่ารัก แถมยังมีลูกชายคนสุดท้องชื่อพฤกษ์ (ปรมิณ ศิระวนาดร) สมหวังดังปรารถนาของท่านเจ้าพระยาที่จะมีลูกไว้สืบสกุล เดือนผู้แสนดีได้รับการสนับสนุนจากสะบันงา ให้มาเป็นภรรยาคนที่สองของเจ้าพระยาต่อจากเธอ และมีลูกชายกับท่านเจ้าพระยาอายุแก่กว่าพฤกษ์สามวัน ชื่อ พจน์ (โตนนท์ วงบุญ) และได้เกิดเรื่องราวกับพฤกษ์ดังได้กล่าวไปแล้ว พจน์จึงกลายเป็นผู้สืบสกุลแทน

ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิอุปการะเด็กชายคนหนึ่งชื่อ ศีล (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) เนื่องจากพ่อแม่ตาย จากการไปช่วยงานกฐินของท่าน ศีลเป็นเด็กดีกตัญญูรู้คุณได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก และกลับมาทำงานเป็นผู้จัดการห้างของตระกูลสมิติภูมิ เป็นที่ไว้วางใจของทุกคนในบ้าน สะบันงามีเพื่อนสนิทชื่อ ปานวาด (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) เป็นลูกสาวของคุณหญิงลออศรี ปานวาดถูกส่งไปเรียนฝรั่งเศส มีสามีเป็นนักดนตรี ชื่อ ปีแอร์ และมีลูกชายด้วยกันชื่อ ธรรม์ (ชินวุฒ อินทรคูสิน) ปีแอร์โดนรถชนจนพิการ ปานวาดเลิกเรียนเอาเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้รักษาตัวสามี ปีแอร์ทนดูสภาพปานวาดลำบากไม่ได้จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ปานวาดตัดสินใจพาลูกชายกลับบ้าน คุณหญิงไม่พอใจมาก แต่พระยาเกษมกลับนิ่งเฉย พาปานวาดมาพบกับสะบันงา สะบันงาให้กำลังใจปานวาด

ธรรม์กลายเป็นเพื่อนสนิทกับพริ้มเพรา แพรวพรรณราย โดยเฉพาะพิมพิลาส เนื่องจากชอบดนตรีเหมือนกัน พริ้มเพราสงบเสงี่ยมสุขมรอบคอบ ชอบไปหลังบ้านพบคุณป้าพิการ เธอไม่ตกใจกลัวเช่นคนอื่นพูดด้วยอย่างดี ศรีสอนภาษาให้พริ้มเพราและรักเหมือนลูกสาวอีกคน ศรีส่งข่าวให้ครอบครัวทราบว่ายังไม่ตายแต่ไม่พร้อมจะไปพบ ไม่ต้องการให้พ่อแม่เห็นหน้าผีของตนส่วนศุกลนั้นตายแล้ว ต่อมาภายหลังสิ้นเจ้าสัว ศรีได้รับมรดกทั้งหมดจึงยกต่อให้พริ้มเพรา ส่วนพริสซิลลามักจะไปเดินเล่นในสวน จนพบศรีกลับจำได้ว่าเป็นแม่ และเรียกเธอว่าแม่ ศรีเสียใจมากแต่ไม่อาจยอมรับว่าเป็นแม่ ให้เมี้ยนพากลับไปหาสะบันงา กำชับว่าห้ามบอกพริสซิลลามาเล่นแถวนั้นอีก แต่พริสซิลลาก็แอบมาจนได้ ฟากสองโจรชั่วใช้เงินหมดแล้วย้อนกลับมาจะไถเงินท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิ พบกับพริสซิลลาสวยงามน่ารักมาด้อมมองเรียกหาแม่จึงฉุดคร่าจะข่มขืน ศรีมาพบใช้จอบฟาดสองคนซมซานหนีไปตายอย่างน่าอนาถ เมี้ยนพาพริสซิลลากลับไปหาสะบันงาอีก สะบันงาตัดสินใจปรึกษาเจ้าพระยาสมิติภูมิเรื่องส่งตัวพริสซิลลาไปรักษาโดยมีหมออดุลคอยดูแล ส่วนอุดร (ปิติพน พรตรีสัตย์) ลูกชายหมอรู้จักคุ้นเคยกับลูกๆ ของสะบันงาและสนิทเป็นคู่ๆ

อุดรสนิทและรักกับพริ้มเพราแต่ไม่สมหวัง เพราะพริ้มเพรารักธรรม์มากกว่า ส่วนธรรม์สนิทสนมกับพราวพิลาสเพราะรักดนตรีเหมือนกัน แพรวพรรณรายคอยตามกลั่นแกล้งทุกคนเพราะไม่มีใครจับคู่ด้วย พฤกษ์สนิทกับพจน์ไปไหนมีพจน์ตามไปด้วยดั่งเงา ทุกคนดีกับพจน์ยกเว้นแพรวที่ชอบด่าว่าเป็นลูกบ่าว พริ้มเพรามีเพื่อนสนิทชื่อเมขลา เด็กยากไร้มาขอรับใช้ มาร์แมร์ เพื่อแลกกับการได้เรียนโรงเรียนไฮโซ โดยอาสาว่าจะกลับมาสอนหนังสือตอบแทนเมื่อเรียนจบ ไม่มีใครคบกับเมขลาเลย เพราะนิสัยไม่ดียกเว้นพริ้มเพรา เมขลามักหยิบเอาข้าวเอาของและแอบอ้างชื่อพริ้มเพราไปเบ่งใส่ใครต่อใคร วันหนึ่งพฤกษ์กับพจน์พากันไปขุดไส้เดือนตกปลา กลับไปขุดพบกระดูกคนจึงร้องโวยวายขึ้นมา แพรวตามไปแกล้งพจน์พบแหวนที่โครงกระดูกรีบเอามาบอกสะบันงา สะบันงาเห็นแหวนสลัก ศก. ถึงกับลมจับ และรู้ความจริงว่าศุกลมารอรับเธอจริงๆ แต่โดนฆ่าตาย มั่นใจว่าเจ้าพระยาสมิติภูมิฆ่าศุกล จึงไปโวยวายต่อว่าเจ้าพระยาสมิติภูมิฆ่าศรีด้วย ท่านเจ้าพระยาหัวใจวายกะทันหัน ก่อนสิ้นลมยังทันได้บอกว่าคุณหญิงยังไม่ตายอยู่ท้ายบ้านสวน สะบันงารีบไปเชิญคุณหญิงศรีกลับมาเอาบ้าน เอาตำแหน่งคืนให้ คุณหญิงศรีไม่ยอมรับ และบอกว่าเธอคือคนสาบสูญขออาศัยอยู่แต่บนเรือนเท่านั้น

สองคนรักใคร่ปรองดองกันดังเดิม สะบันงายอมรับให้ทุกคนเรียกว่าคุณหญิงเนื่องจากคุณหญิงศรีอนุญาตแล้ว เคารพเรียกศรีว่าคุณพี่ เมี้ยนปรึกษาดูแลทุกอย่างในบ้านเช่นเดิม สะบันงามีความสุขมากจนถึงวันที่พฤกษ์ตายสะบันงาใจสลาย ผมที่เคยดกดำเปลี่ยนเป็นสีขาวชั่วข้ามคืน ด้านพริ้มเพรา ถูกส่งให้ส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ยังเริ่มวัยรุ่น สะบันงาตัดสินใจส่งพจน์ไปแทนพฤกษ์ ส่วนเมขลาอยากไปนอกอย่างพริ้มเพราบ้าง ตั้งใจเรียนเต็มที่ได้ทุนไปนอกจนได้ ก่อนไปได้ทำทีพบกับศีลที่เคยพบที่บ้านพริ้มเพรา อ้างว่าเป็นเพื่อนพริ้มเพราให้มาหาศีลดูข้าวของเครื่องใช้ไปนอก ศีลใจดีให้เสื้อผ้าไปใส่เมืองนอกมากมายทำให้เมขลาอยากได้ศีลเป็นสามี แต่ศีลนิ่งเฉยมากเมขลาจึงอดใจไว้ก่อน ศีลกลับเอ็นดูหลงใหลสาวน้อยวัยรุ่นพราวพิลาส ชอบฟังเสียงเธอเล่นเปียโน เขาหาเปียโนมาให้เล่น หาครูมาสอน พราวพิลาสนับถือศีลเป็นญาติผู้ใหญ่ แต่กลับพึงพอใจธรรม์ที่คอยตามติดเล่นดนตรีด้วยกัน โชคร้ายธรรม์ได้เวลาไปเรียนต่อ อาคม สามีใหม่ของปานวาดแนะนำให้ไปเรียนกฎหมาย ธรรม์เคยสัญญากับพราวพิลาสว่าจะไม่ไปไหน เขาจำต้องไปและบอกว่าจะกลับมาเมื่อเรียนจบ แต่พอเรียนจบจริง ธรรม์กลับมาเรียนดนตรีต่อและไปรับพ่อของลูกเพื่อนสนิทชื่อ ชองปอล ข่าวนี้ทำให้พราวพิลาสเสียใจมาก เธอเศร้าซึมและแต่งเพลงหลายเพลงล้วนเศร้าสะเทือนใจ ศีลพยายามปลอบโยนชวนไปร้องเพลงที่ห้องอาหารในโรงแรมใหญ่ ศรีขอร้องให้สะบันงาอนุญาตเพื่อรักษาแผลใจ พราวพิลาสรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อศีลคอยดูแลทำให้อุ่นใจ

ต่อมาศีลไปดูงานเมืองนอกพบเมขลาอยู่ที่เมืองนั้นพอดี เมขลาทำที่ว่าโดนคนร้ายปล้นหมดตัวมาขออาศัยศีลอยู่ และมอมเหล้าจนได้เสียกันกับศีล ศีลไม่สบายใจมากแต่จำต้องแต่งงานเพราะเมขลาท้องส่วนเมขลาคลอดลูกปุ๊บก็สอบชิงทุนไปเรียนต่ออีก ทิ้งลูกไว้กับศีลแบบไม่ไยดี ศีลผิดหวังโกรธตัวเองเพราะต้องการขอพราวพิลาสแต่งงาน ติมตามชมได้ใน "คือหัตถาครองพิภพ"