ละคร แม่ค้า

ดู 7,971 ครั้ง / แชร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 14 พฤศจิกายน 2556
เวลาออกอากาศ 18:30 - 19:40 น.
  
กำกับโดย ประทุม มิตรภักดี
ประพันธ์โดย ผู้ประพันธ์ เวียงลาภ มาลาจันทร์, บทโทรทัศน์ วรพันธ์ รวี
นำแสดงโดย
ภัทรเดช สงวนความดี ... ภวัน / ตี๋เล็ก
อาภา ภาวิไล ... นิรชา / แตน
อุษณีย์ วัฒฐานะ ... สายวลี
มัณฑนา หิมะทองคำ ... วิณี
ชยพล เลิศพุทธิพงศ์พร ... เท่ง
สวิช เพชรวิเศษศิริ ... เดชา
ปราบ ยุทธพิชัย ... ปยุต
ศตวรรษ ดุลยวิจิตร ... ภวัต
สมฤทัย กล่อมน้อย ... ภัทรมน
สามารถ พยัคฆ์อรุณ ... ฟ้าคำรณ
ปราณวรินทร์ ปามี ... ผึ้ง / ปาสินี
ธีระธันญ์ ขจรชัยเดชาวัฒน์ ... ต่อ / ปิยะพันธ์
สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ ... สวิต
รวิชญ์ ไรวินท์ ... ฮ้ง
เดือนเต็ม สาลิตุล ... ดาราวดี
ปนัดดา โกมารทัต ... ป้ามน
สินีนาฏ โพธิเวส ... อาม่าตี๋เล็ก
พิเชษฐ ศรีราชา ... เฮียสันติ
ทรงพร ณ บางช้าง ... ปะแหวด
วัชระ สิทธิกูล ... น้อยหน่า
สิริยา นฤนาท ... คุณนายสายสมร
อรุโณทัย นฤนาท ... คุณนายสายวลัย
ผู้สร้าง บริษัทดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ แม่ค้า

ต้อย / วิณี (มัณฑนา หิมะทองคำ) เป็นหลานของ ป้ามน (ปนัดดา โกมารทัต) คนรับใช้ในบ้านของ ดาราวดี (เดือนเต็ม สาลิตุล) ผู้ดีเก่าหัวโบราณ มีลูกชายชื่อ เดชา (สวิช เพชรวิเศษศิริ) รับราชการในกระทรวงแต่มีจิตใจรักชอบต้อย ป้ามนพยายามห้ามปรามต้อยแต่ไม่สำเร็จ ทั้งสองแอบมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งจนต้อยท้อง เดชามีราชการต่างจังหวัด ดาราวดีได้โอกาสจึงบังคับให้ต้อยออกจากบ้านโดยมอบเงินให้ก้อนหนึ่ง ต้อยจะไม่รับ ป้ามนบอกให้รับไว้เพื่อนำไปเป็นทุนเพื่อลูก ต้อยออกจากบ้านไปพบกับ ปยุต (ปราบ ยุทธพิชัย) คนขับรถแท๊กซี่และ ฟ้าคำรณ (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) นักมวยทั้งสองให้ความช่วยเหลือให้ที่พักอาศัย ยิ่งรู้ว่าต้อยกำลังท้องทั้งสองยิ่งช่วยกันดูแล โดยเฉพาะคำรณยอมสละห้องให้ต้อยอยู่ เมื่อเดชากลับจากต่างจังหวัดรู้ว่าต้อยหนีออกจากบ้านก็ออกตามหา โดยไม่ฟังเสียงห้ามของแม่ที่พยายามใส่ร้ายว่าต้อยหนีตามผู้ชายไป เมื่อมีผู้ให้ความช่วยเหลือต้อยก็มีกำลังใจในการที่จะต่อสู้ ต้อยเริ่มทำกับข้าวคือข้าวราดแกงออกขาย คำรณว่างจากซ้อมมวยก็จะมาช่วยต้อย ปยุตว่างจากขับรถก็จะมาช่วยล้างจานบ้างพาไปซื้อของบ้าง ความผูกพันเริ่มทวีขึ้นเรื่อยๆจนต้อยคลอดลูกเป็นผู้หญิง ปยุตก็ใส่ชื่อตัวเองว่าเป็นพ่อ ต้อยตั้งชื่อลูกว่า นิรชา / แตน (อาภา ภาวิไล)

คำรณเห็นว่าต้อยคงจะมีใจกับปยุตมากกว่า คำรณจึงหลีกทางให้ปยุตและขอร้องปยุตว่าต่อไปอย่าทำให้ต้อยเสียใจ ปยุตรับคำ ทั้งสองจึงได้อยู่เป็นผัวเมีย ปยุตให้ความรักแตนทั้งๆที่ไม่ใช่ลูกของตัวเอง ปยุตดีกับต้อยและแตนมาตลอดจนต้อยท้องและคลอดลูกผู้หญิงมาอีกคน ปยุตตั้งชื่อให้ว่า ปาลินี / ผึ้ง (ปราณวรินทร์ ปามี) ปยุตเริ่มเปลี่ยนไปไม่สนใจแตน แรกๆต้อยก็คิดว่าปยุตเห็นผึ้งยังเล็กอยู่ แต่เมื่อมีลูกชายมาอีกคน ชื่อ ปิยะพัทธ์ / ต่อ (ธีระธันญ์ ขจรชัยเดชาวัฒน์) ปยุตก็ไม่เปลี่ยนมารักต่อ ยังคงให้ความรักต่อผึ้งมากกว่าเพื่อน แม้แต่เรื่องเรียน พอแตนเรียนจบมัธยมต้นปยุตก็ไม่ให้เรียนต่อ ให้ออกมาช่วยแม่ขายข้าวแกงส่งผึ้งกับต่อเรียน ผึ้งกำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 1 เรียนเก่งเป็นที่พอใจของทุกคนในบ้านโดยเฉพาะพ่อ ต่อเรียนไม่เก่งแค่สอบผ่าน ต่อกำลังเรียนอยู่อาชีวะปี 2 ความขัดสนเริ่มเข้ามาเยือน เนื่องจากปยุตกินเหล้าเมาแล้วไม่ไปขับรถหรือไปก็หาไม่คุ้มกับค่าเช่าจนเถ้าแก่ไม่ยอมให้ออกรถ ค่าใช้จ่ายในการเรียนมหาวิทยาลัยของผึ้ง ซึ่งปยุตพยายามให้ลูกสาวอยู่ในแวดวงของพวกลูกคนมีเงิน ฉะนั้นค่าใช้จ่ายก็ต้องสูงไปด้วย ผึ้งจะเรียนอย่างเดียวไม่เคยช่วยงานที่บ้านจนทำให้ผึ้งดูถูกอาชีพของแม่และพี่สาวโดยมีพ่อคอยให้ท้าย

แตนกับแม่พยายามขายข้าวแกงให้ได้มากขึ้น แต่ก็ไม่วายถูกกลั่นแกล้งจากคู่อริของแตนคือ เท่ง (ชยพล เลิศพุทธิพงศ์พร) ซึ่งเป็นลูกชายจอมเกเรของ คุณนายสายวลัย (อรุโณทัย นฤนาท) เจ้าของสลัมที่พวกแตนเช่าอยู่ เท่งแกล้งขับรถมาชนรถเข็นขายข้าวแกงของแตนจนคว่ำเสียหาย ทำให้แตนและ สอน เพื่อนคู่หูของแตนเกิดการชกต่อยกันขึ้น สอนซึ่งเป็นนักมวยที่ค่ายของฟ้าคำรณซึ่งได้รับการฝึกจากคำรณมาบ้าง ทำเอาพวกของเท่งได้รับบาดเจ็บหลบหนีกันไป เมื่อกลับถึงบ้านคุณนายสายวลัยก็มาฟ้องปยุต และมาทวงค่าเช่ารวมทั้งเงินกู้ ทำให้ปยุตถึงกับลงมือกับแตนโดยตบหน้าแตน ต้อยพยายามห้ามและเล่าความจริงให้ฟัง ปยุตก็ไม่สนใจเพราะปยุตถือว่าคุณนายสายวลัยเป็นผู้มีพระคุณ แตนวิ่งหนีไปที่ค่ายมวยไประบายอารมณ์กับกระสอบทราย คำรณมองอย่างสงสาร แตนถามคำรณว่าปยุตเป็นพ่อจริงๆของแตนหรือเปล่า แตนถูกคำรณดุว่าคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง แตนสงสัยว่าทำไมพ่อจึงรักลูกไม่เท่ากัน เมื่อแตนสบายใจแล้วก็กลับบ้านเพื่อไปช่วยแม่เตรียมของไว้เพื่อสำหรับขายในวันรุ่งขึ้น

ผึ้งกลับจากมหาวิทยาลัยก็ไม่สนใจที่จะช่วยงานที่บ้านโดยอ้างว่าการบ้านเยอะ ส่วนต่อกลับมาก็รีบช่วยแม่กับแตนทำทุกอย่างที่ทำได้ เมื่อปยุตเมากลับมาก็จะชอบพูดยกย่องว่าผึ้งเป็นเด็กดี เรียนก็เก่ง ต่อไปจะเป็นที่พึ่งของพ่อแม่ แล้วก็พูดถึงแตนว่าจะต้องเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงไปตลอดชีวิต รวมทั้งต่อด้วยที่จะต้องตัวดำมุดอยู่แต่ใต้ท้องรถหรือไม่ก็อาจจะติดยา ต้อยทนไม่ได้ก็เถียงขึ้นมาบ้าง ปยุตก็เงียบไป ผึ้งเข้ามาบอกว่า อาทิตย์หน้าจะต้องเอาเงินไปจ่ายค่าทัศนศึกษาหนึ่งพันบาท ปยุตก็บอกให้ต้อยเตรียมเงินไว้ให้ลูกด้วย ต้อยจะพูดแตนก็ห้ามไว้ แตนกับแม่ออกขายข้าวแกงวันดีคืนดีก็ได้พบกับพวกเท่งอีก แตนทนไม่ได้จึงบอกเท่งว่าถ้าก่อเรื่องอีกแตนจะยอมติดคุกและก็จะฆ่าล้างโคตรเลย เท่งเห็นว่าแตนเอาจริงจึงล่าถอยไปแต่ไม่วายที่จะหาทางแกล้งไม่ว่ากับแตนหรือกับน้องๆ ต่อถูกนักเรียนฝ่ายตรงข้ามไล่ตีมาก็มาพบกับแตน สอนและแม่ขายข้าวแกงอยู่ แตนกับสอนจึงจัดการกับพวกนักเรียนเกเรกระเจิงไปแต่ก็หมดแกงไปหม้อหนึ่ง เมื่อกลับถึงบ้านก็ถูกพ่อด่าแล้วก็ทุบตีอีกที่ทำให้ของเสียหาย แตนก็วิ่งไประบายอารมณ์ที่ค่ายมวยอีก แต่พอวิ่งถึงตลาดแตนก็พบคนวิ่งราวกระเป๋าของคนแก่ แตนจึงเข้าสะกัดแล้วแย่งเอากระเป๋าคืนมาได้แล้วก็ส่งคืนให้เจ้าของซึ่งก็คือดาราวดีกับป้ามนที่มาจับจ่ายซื้อของ ดาราวดีหยิบเงินให้แตนเป็นรางวัลแต่แตนไม่รับเดินจากไป ดาราวดีกับป้ามนมองแตนอย่างพินิจ ดาราวดีเอานามบัตรให้ป้ามนเอาไปให้แตนว่าถ้าเดือดร้อนไม่ว่างานหรือเงินให้ไปหา แตนบอกว่าอยากทำงานแต่มีความรู้แค่มัธยมต้น ป้ามนบอกให้ไปหาวันรุ่งขึ้น

ดาราวดีกลับถึงบ้านก็เล่าเรื่องที่ไปประสบมาให้เดชาที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ฟังแต่เดชาไม่สนใจ อาการป่วยของเดชาเป็นมานานนับสิบปี แต่เดชาไม่พยายามที่จะอยากหายเพราะไม่มีกำลังใจ หมอบอกถ้าเดชามีความพยายามและมีกำลังใจ สักวันหนึ่งเดชาก็จะเดินได้ ดาราวดีเกือบจะพลั้งปากบอกเดชาว่าแตนหน้าตามีส่วนคล้ายต้อยกับเดชา ส่วนป้ามนเมื่อกลับมาถึงก็รีบไปค้นหารูปต้อยสมัยสาวๆ ขึ้นมาดู คำรณกลับมาจากสนามมวยและรู้เรื่องที่แตนถูกตีอีกจึงออกไปหาแตนที่บ้าน เมื่อพบกับปยุตทั้งสองจึงมีปากเสียงกัน ปยุตก็เถียงแบบข้างๆคูๆ จนคำรณทนไม่ได้เลยต่อยปยุต ปยุตถึงกับสลบ แตนกลับมาบ้านมาเห็นจึงรีบช่วยแม่พาพ่อเข้าบ้าน คำรณเอาเงินให้แตนสองพันบาทเพราะรวยพนันมวยมา แตนจะไม่รับ คำรณบอกให้เก็บเอาไว้เวลาฉุกเฉิน หลังจากดูแลพ่อเรียบร้อยแตนก็ได้คุยกับแม่เรื่องที่จะไปหางานทำจะได้ไม่มีเรื่องให้ร้อนใจ ต้อยเตือนให้ระวังว่าอาจจะถูกหลอกได้ ต่อกลับมาถึงบ้านมืดผิดเวลาเมื่อแตนซักถามต่อก็อ้างว่าไม่อยากเข้าบ้านเพราะรำคาญเสียงพ่อด่า แม่ไล่ต่อไปอาบน้ำแล้วหาข้าวกิน วันรุ่งขึ้นหลังจากช่วยแม่จัดของและออกไปส่งแม่เรียบร้อยแตนก็ฝากเงิน 1,000 บาทไว้ให้ผึ้ง แตนบอกแม่ว่าคำรณให้แล้วแตนก็ไปที่บ้านดาราวดี

ดาราวดีตั้งหน้าตั้งตาคอยการมาของแตน ป้ามนก็เหมือนกัน ทั้งสองพยายามที่จะไม่ให้อีกฝ่ายรู้ แต่ทั้งสองก็รู้จนได้ เว้นเดชาคนเดียวที่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แตนมาถึงป้ามนรีบพามาหาดาราวดีที่กำลังนั่งอยู่กับเดชา เมื่อสอบถามความปรารถนาของแตนแล้ว ดาราวดีก็เสนอให้มาทำหน้าที่ดูแลเดชา แตนก็ยินดี เดชาไม่สนใจแตน แตนถามถึงหลักฐานในการสมัครงาน ดาราวดีบอกไม่ต้องเพราะคิดว่าแตนเป็นคนดี ดาราวดีตั้งเงินเดือนให้แตนเดือนละ 4,500 บาท และให้หยุดอาทิตย์ละสองวันตามความต้องการของแตน แตนดีใจเพราะไม่คิดว่าจะได้มากถึงขนาดนี้ แตนตกลงจะมาเริ่มงานตั้งแต่วันพรุ่งนี้ แตนกลับไปบ้านไปบอกแม่กับพ่อ ปยุตไม่ว่าอะไรเพียงแต่ประชดว่าไปบอกไอ้ครูมวยรึยัง เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อช่วยงานแม่เสร็จแตนก็รีบไปทำงานที่บ้านดาราวดี โดยได้รับการชี้แนะจากป้ามนและดาราวดี แตนทำงานอย่างไม่มีท่าทีรังเกียจเดชา แม้ว่าเดชาจะทำสกปรก เป็นที่พอใจของดาราวดีมาก เมื่อว่างแตนก็จะหาหนังสือมาอ่านให้เดชาฟัง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์หรือหนังสืออื่นๆ ที่เดชาต้องการ เดชาเริ่มชอบแตนและชอบนั่งมองแตนแต่ไม่พูดอะไร

ดาราวดีมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของลูกชายภายหลังจากที่แตนมาดูแล ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหาร การแต่งตัว ยอมให้แตนทำให้ทุกอย่าง เริ่มพูดคุยกับแตนมากขึ้น แตนพยายามชวนให้เดชาออกกำลังตามที่ดาราวดีหาหนังสือคู่มือมาให้ เดชาก็ยอมทำตามทั้งๆที่แต่ก่อนไม่เคยยอมใครแม้แต่หมอ ดาราวดีเสนอให้แตนมาค้างที่นี่จะจัดห้องบนตึกให้และจะจ่ายเงินเดือนเพิ่มให้อีกเท่าตัว วันหยุดยังเหมือนเดิม แตนขอไปปรึกษาแม่ก่อน ในตอนแรกต้อยก็ดีใจแต่ก็สอบถามว่าเป็นบ้านของใครอยู่ที่ไหน พอรู้ว่าเป็นบ้านของดาราวดี ต้อยก็มีคำสั่งห้ามไม่ให้แตนไปทำงานที่บ้านนั้นอีกเด็ดขาดและห้ามถามเหตุผล ถ้าแตนไม่เชื่อฟังแม่จะฆ่าตัวตายให้ดู ทำให้แตนตกใจมาก แต่ไม่พยายามที่จะถามให้แม่สะเทือนใจอีก และต้อยสั่งห้ามบอกใครทั้งสิ้น ถึงปยุตถามก็บอกว่าเลิกทำ ทำให้ปยุตตราหน้าว่าแตนไม่มีความอดทน บ้านดาราวดีรอการกลับมาของแตน แต่ก็ไร้วี่แวว ทุกคนคาดการณ์ไปต่างๆนาๆ ด้วยความเป็นห่วง ดาราวดีได้ให้น้อยหน่าคนขับรถกับป้ามนไปตามหาแตน ป้ามนและน้อยหน่าเดินผ่านรถขายข้าวแกงของต้อยแต่ก็จำกันไม่ได้ แตนเห็นจึงหลบป้ามน แล้วสะกิดบอกแม่ว่านี่คือป้ามน เมื่อต้อยเห็นก็รีบเข็นรถหนี และเมื่อกลับถึงบ้าน ผึ้งก็กำลังจะออกไปทัศนศึกษากับเพื่อนที่ต่างจังหวัด

และในเวลาต่อมาก็มีตำรวจมาตามหาต่อ แตนปฏิเสธว่าไม่มีคนชื่อต่อที่นี่ตำรวจก็กลับไป คนขับแท๊กซี่มาบอกว่าปยุตไปออกแท๊กซี่แล้วก็ถูกรถสิบล้อชน ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล ต้อยตกใจทำอะไรไม่ถูก แตนจึงบอกให้ผึ้งอยู่ดูแลแม่และคอยบอกให้ต่อหลบตำรวจไปอยู่ที่ค่ายมวย ส่วนแตนจะไปดูพ่อ ผึ้งอยู่ไม่ได้เพราะได้เวลารถออกแล้ว แม่จึงให้ผึ้งไป แตนมองตามผึ้งอย่างน้อยใจ แม่ขอไปรพ.กับแตน ทั้งสองคนแม่ลูกจึงไป ระหว่างทางเจอกับสอนจึงขอร้องให้สอนคอยดักต่อให้ไปหลบที่ค่ายมวยเพราะตำรวจมาตามตัว ที่รพ.ปยุตได้รับบาดเจ็บที่หัวและใบหน้านิดหน่อย แขนขวาหักเข้าเฝือก หมอบอกต้องอยู่อย่างน้อยก็เจ็ดวันถึงสิบวัน แตนเอาเงินที่เก็บไว้ไปจ่ายค่ายาให้ปยุต เมื่อเสร็จเรื่องของปยุต แตนก็รีบกลับเพราะเป็นห่วงต่อ เมื่อถึงบ้านก็รู้จากสอนว่าต่อถูกตำรวจรวบตัวไปที่สน.แล้ว แตนกับต้อยรีบตามไปที่สน. ตำรวจจะกันต่อไว้เป็นพยานและเป็นสายให้ถ้ายอมร่วมมือ ถ้าไม่เช่นนั้นต่อจะต้องติดคุกหมดอนาคต เพราะมียาไว้ในครอบครอง ต่อพยายามอธิบายให้แม่กับพี่ฟังว่าไม่ใช่ของต่อ เพื่อนมันวิ่งหนีแล้วมายัดของให้ต่อ แตนขอให้ต่อให้ความร่วมมือกับตำรวจเพื่ออนาคตของต่อเอง ต่อตกลง ตำรวจจึงลงบันทึกประจำวันแล้วปล่อยต่อกลับไป เมื่อกลับมาถึงบ้าน สายวลัยมายื่นคำขาดให้จ่ายค่าเช่าที่ค้างรวมทั้งเงินต้นและดอกตามกำหนด ไม่เช่นนั้นให้ย้ายออกไป แตนรับปากจะหาให้เมื่อแม่เข้านอน แตนได้เตือนต่อให้ระวังตัวมากๆ เพราะการเป็นสายให้ตำรวจ ถ้าฝ่ายค้ายาบ้ามันรู้มันฆ่าตายแน่

บ้านดาราวดีกลับเข้าสู่สภาพเดิมก่อนที่แตนจะเข้ามาหรืออาจจะยิ่งมากขึ้นก็ได้ แตนไปเยี่ยมพ่อหลังจากที่ช่วยแม่เตรียมของไปขาย ปยุตต่อว่าต้อยไม่มาเยี่ยมห่วงแต่ขายของไม่ห่วงชีวิตของผัว แตนพยายามอธิบายปยุตก็ไม่ฟัง ถามถึงผึ้งเมื่อรู้ว่าผึ้งไปตจว.ก็ไม่ว่าอะไร แตนกับต่อลากลับเพื่อจะไปช่วยแม่ขายของ เย็นๆจะกลับมาใหม่พร้อมกับแม่ ที่หน้ารพ.แตนเห็นอาม่าแก่ๆ กำลังมองซ้ายมองขวาเหมือนจะข้ามถนน แตนกับต่อเลยเข้าไปถาม เมื่อรู้ว่าจะหารถกลับบ้านแตนจึงจัดการช่วยเหลือ เมื่ออาม่าส่งเงินและที่อยู่ให้แตนให้ต่อกลับไปช่วยแม่ก่อนเดี๋ยวจะตามกลับไป แตนเรียกแท๊กซี่แล้วพาอาม่า (สินีนาฏ โพธิเวส) ขึ้นรถไป ภายในรพ. ภวัต (ภัทรเดช สงวนความดี) กับภัทรมน (สมฤทัย กล่อมน้อย) สองแม่ลูกกำลังตามหาอาม่าถามใครก็ไม่มีใครเห็นภัทรมน จึงให้ภวัตลูกชายโทรกลับไปบ้าน เผื่อว่าอาม่าจะหนีกลับบ้านก่อน ระหว่างทางอาม่ากับแตนคุยกันอย่างถูกคอ จนถึงบ้านแต่พาอาม่าเข้าบ้าน แม่บ้านรายงานว่า ตี๋เล็กหรือภวัน โทรมาตามหาอาม่า แม่บ้านรีบโทรกลับไปบอกภวัต แตนลากลับ

เมื่ออาม่ารู้ว่าแตนขายข้าวแกงก็เลยสั่งให้เอามาส่งให้ในวันพรุ่งนี้อย่างละ 50 บาท แตนบอกอย่างละ 20 ก็พอ อาม่าไม่ยอมจะเอาอย่างละ 50 และแถมค่ารถไปกลับให้ด้วยและให้ส่งให้ทุกวัน ภวันกับภัทรมนกลับมาพอดีกับแตนจะออกไป ภวันเดินออกไปส่งแล้วจะเอาเงินให้แตน แตนไม่รับและสอนให้ภวันรู้จักน้ำใจว่าซื้อหาไม่ได้ ภวันไม่เชื่อว่าเงินจะซื้ออะไรต่อมิอะไรไม่ได้ เดชาจะออกไปตามหาแตนเอง โดยให้น้อยหน่า (วัชระ สิทธิกูล) ขับรถให้ ดาราวดีก็โทษตัวเองที่ไม่เอาสำเนาบัตรประชาชนของแตนไว้ เพราะอย่างน้อยก็มีที่อยู่ ป้ามนช่วยแก้ให้ดาราวดีสบายใจว่าใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น รถของเดชาขับช้าๆ คอยมองหาแตน แตนเดินข้ามถนนหลังรถเดชาแต่ไม่เห็นกัน เดชากลับบ้านให้เรียกทนายมาให้หานักสืบออกตามหา แตนเล่าเรื่องอาม่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่าอาม่าอยากจะตอบแทนที่แตนไปส่งก็เลยสั่งอาหาร แค่นี้เราก็รู้แล้วว่าอาม่ามีน้ำใจเพราะฉะนั้นอย่าทำให้ท่านเป็นภาระเลย และโดยปกติแล้วคนจีนชอบทานอาหารจืดๆ แต่กับข้าวของเราส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารไทยและรสจัด

วันรุ่งขึ้นอาม่ารอไม่เห็นแตนเอากับข้าวมาส่งจึงขอให้ภวันขับรถมาตามหา เพราะได้ยินแตนเล่าให้ฟังว่าขายอยู่ที่ไหน พอพบอาม่าลงมาต่อว่าแตนที่ไม่เอากับข้าวไปส่งเพราะรอกินอยู่ แตนแนะนำให้แม่รู้จักอาม่าและภวัน อาม่าชมว่าต้อยเลี้ยงลูกดีให้ลูกมีน้ำใจทั้งๆที่ต้องมาช่วยแม่ขายของแล้ว เย็นก็ต้องกลับไปดูพ่อที่โรงพยาบาลอีก อาม่าเหมาหมดทุกอย่าง แตนพยายามทักท้วง อาม่าบอกว่าที่บ้านคนเยอะแค่นี้ไม่พอหรอก แล้วอย่าลืมพรุ่งนี้ให้เอาไปส่งหรือว่าจะให้มาเอาเอง แตนรับปากว่าจะเอาไปส่งเพราะไม่อยากจะเห็นคนหน้าบึ้ง แตนอดที่จะเหน็บภวันไม่ได้ อาม่าหัวเราะชอบใจแล้วขึ้นรถกลับไป แตนมองเงินในมือแม่ แม่ยิ้มด้วยความตื้นตันใจที่เห็นคนมีน้ำใจ เมื่อคลี่ออกมาเป็นเงินใบละร้อยห่อเงินใบละห้าร้อยอยู่เมื่อภวันกลับมาส่งอาม่า ภวันจึงขออนุญาตไปหาเพื่อนที่ต่างจังหวัด ภวันไปพบกับ สวิต (สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ) เพื่อนสนิทที่มาเที่ยวกับเพื่อนๆของน้องสาว สวิตสนใจผึ้ง ผึ้งเองก็สนใจสวิตเหมือนกัน สวิตพยายามชวนผึ้งดื่ม แรกๆ ผึ้งก็ปฏิเสธเพราะไม่เคย แต่ทนแรงเชียร์จากเพื่อนๆไม่ไหวจึงยอมดื่ม เมื่อมีแก้วแรกก็ย่อมมีแก้วต่อๆไป ผึ้งเริ่มเมาก็เริ่มไม่หวงตัว กอดคลอเคลียร์กับสวิต จนดึกทุกคนแยกย้ายกันเข้านอน สวิตก็พาผึ้งเข้านอนเช่นกัน

วันรุ่งขึ้นขณะที่แตนเอากับข้าวไปส่งให้อาม่า ดาราวดีกับป้ามนมาถามหาคนชื่อ แตนกับต้อย ต้อยก้มหน้าตอบว่าไม่รู้จักแล้วก็รีบเข็นรถหนีไป ดาราวดีกับป้ามนมองตามอย่างงงๆ ที่บ้านอาม่า ภวัต ลูกชายอาม่ากับ ภัทรมนลูกสะใภ้ชวนแตนให้มาทำงานด้วยดีกว่าไปขายข้าวแกงอีก ชวนให้แม่มาด้วยก็ได้ อาม่ามีงานให้ทำ แตนขอไปปรึกษาแม่ก่อน เมื่อแตนกลับมาถึงก็ปรึกษาแม่ แม่รู้ว่าภัยกำลังเข้ามาใกล้ลูกแล้วจึงอนุญาตให้แตนไปทำ แต่ตัวเองทิ้งไปไม่ได้หรอก ผึ้งลงจากรถเก๋งของภวันที่มีสวิตนั่งอยู่ แตนมองเห็นจำได้ แต่แตนไม่ถาม ผึ้งกลับเข้าบ้านมีอาการแปลกๆ แตนช่วยแม่ทำความสะอาดเสร็จถึงชวนกันไปเยี่ยมพ่อ ผึ้งผลัดรอไปพรุ่งนี้ แตนกับแม่จึงไปเพียง 2 คน หลายวันต่อมา ปยุตออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักที่บ้าน ต่อมาเล่าให้แตนและคำรณฟังเรื่องตำรวจกำลังจะกวาดล้างพวกค้ายาโดยมีต่อเป็นหน้าม้า คำรณให้ระวังอย่าพูดให้ใครฟังอีกไม่เช่นนั้นจะไม่ปลอดภัยทั้งครอบครัว ผึ้งกลับบ้านผิดเวลาตลอดถ้าถามก็จะอ้างกิจกรรมเยอะ แต่แท้ที่จริงไปคลุกอยู่ที่ห้องของสวิต การเรียนเริ่มตกต่ำ แตนไปทำงานที่บ้านภวัน ทั้งสองชอบกัดกันในเรื่องที่ภวันไม่รู้จักค่าของเงิน อาม่ามองอย่างพอใจ ต่อไปทำงานให้ตำรวจโดยไม่มีโอกาสบอกใคร เหตุการณ์เกิดผิดพลาดต่อถูกยิงอาการสาหัส ตำรวจนำส่งโรงพยาบาลและไปแจ้งให้ที่บ้านรู้ซึ่งมีแต่ปยุต ปยุตรีบออกไปตามต้อยเพื่อที่จะไปดูลูกที่โรงพยาบาล ต้อยโทร.ตามแตน แตนตกใจจึงขออนุญาตอาม่าไปเยี่ยมต่อ อาม่าให้ภวันขับรถไปส่งที่โรงพยาบาล

เมื่อไปถึงได้พบกับแม่และพ่อปยุตบ่นว่าต่อหาแต่เรื่องเดือดร้อนมาให้ ไม่รักดีไปคบกับพวกยาบ้า แตนทนไม่ได้จึงเล่าความจริงให้ฟัง แทนที่รู้ความจริงแล้วปยุตจะเห็นใจกลับหาว่าต่ออยากดัง ไปยุ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแล้วยังหันมาด่าแตนว่าไม่ดูแลน้อง ต้อยฟังแล้วก็ช้ำใจที่ปยุตเป็นคนไม่มีเหตุผล ต้อยโกรธจนเป็นลม แตนต้องร้องเรียกให้พยาบาลมาช่วย ภวินท์ได้รู้ได้เห็นเริ่มเข้าใจชีวิต พยาบาลพาต้อยเข้าห้องฉุกเฉิน ส่วนต่อก็ยังอยู่ในห้องผ่าตัด อาม่าโทร.เข้ามือถือภวัน ภวันรายงานให้อาม่ารู้ อาม่าสั่งให้ภวันอยู่จัดการทุกอย่างให้หาห้องพิเศษให้ ค่าใช้จ่ายอาม่าจัดการเอง พยาบาลออกมาบอกแตนว่า ต้อยเป็นโรคหัวใจและความดันเป็นอันตรายมาก ถ้าเป็นอีกมีสิทธิที่จะเสียชีวิต แตนกับปยุตฟังถึงกับอึ้ง ปยุตบ่นว่าจะหาเงินที่ไหนมารักษาทั้งแม่และลูก ภวันบอกว่าไม่ต้องห่วงเพราะอาม่าโทร.มาสั่งให้จัดการแล้ว ปยุตค่อยเบาใจ ปยุตแอบกระซิบกับแตนว่า ภวันเป็นแฟนหรือ

เช้ามา อาม่าขอให้ภวันพาไปเยี่ยมแม่และน้องของแตน ส่วนภวัตและภัทรมนจะไปเยี่ยมเพื่อนก่อนแล้วจะตามไป อาม่ามาเห็นสภาพแตนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ไหนจะแม่ไหนจะน้องที่ยังไม่พ้นขีดอันตรายยังอยู่ในห้องไอ ซี ยู อาม่าปลอบใจแตน แตนขอบคุณอาม่าที่ให้ความช่วยเหลือ อาม่าบอกให้ภวันพาแตนกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยมาใหม่ อาม่าจะอยู่เฝ้าให้ แตนจะไม่ยอม ภวันจึงเตือนว่าถ้าแตนล้มอีกคนใครจะมาช่วยดูแลแม่กับน้อง แตนจึงยอมไป ภวัตกับภัทรมนกำลังพูดคุยอยู่กับเดชาที่เป็นเพื่อนเก่าและดาราวดี ดาราวดีเล่าให้ภวัตฟังว่า อาการของเดชาเกือบจะดีแล้วเมื่อได้เด็กคนหนึ่งมาช่วยดูแล เดชามีกำลังใจมากแต่อยู่ๆเด็กก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยไปตามหาที่ไหนก็ไม่พบ เดชาก็ออกไปตามเอง เดชาบอกว่าเด็กชื่อแตนทำให้สองผัวเมียมองหน้ากัน ภัทรมนจึงเล่าเรื่องแตนให้ฟัง เดชาได้ยินจึงอยากพบแตน และเมื่อรู้ว่าไปเฝ้าไข้แม่และน้องที่โรงพยาบาล เดชาก็ขอให้ภวัตพาไป เดชารีบเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจนแม่และป้ามนตามแทบไม่ทัน

ที่บ้านแตน แตนมาถึงขณะที่วลัยพาพวกมาทวงเงินและถ้าไม่ได้จะรื้อบ้าน ภวันถามจำนวนเงิน เมื่อรู้จึงควักกระเป๋าจ่ายให้ เท่งพูดก่อนจากไปว่ารีบหาผัวให้น้องได้แล้ว เพราะผึ้งกำลังแพ้ท้อง เดี๋ยวจะได้ลูกโดยไม่มีพ่อ ผึ้งวิ่งออกมาอ้วกและพอเห็นภวันก็ตกใจเรียก ชื่อ ภวัน แตนงงและสงสัยว่าทำไมทั้งสองจึงรู้จักกัน แตนพาผึ้งเข้าบ้านเพื่อซักถามอาการ ผึ้งรับว่าประจำเดือนได้ขาดหายไปเป็นเดือนที่สองแล้ว แตนถามถึงพ่อเด็กในท้อง ผึ้งไม่ยอมบอก แตนหันไปถามภวัน ผึ้งห้ามไม่ให้ภวันบอก ทำให้แตนคิดว่าต้องเป็นภวันแน่ๆ แตนไล่ภวันกลับไป ปยุตกลับเข้ามาเห็นผึ้งร้องไห้ก็เอะอะเอากับแตน ภวันไปหาสวิตที่บ้านให้สวิตรับผิดชอบแต่สวิตปฏิเสธ อ้างว่าถ้าพ่อแม่รู้ตนจะไม่ได้ไปเรียนต่อ ภวันโกรธเพื่อนมากจึงตัดความเป็นเพื่อน ที่โรงพยาบาล อาม่านั่งเฝ้าต้อยอยู่ ภวัตพาดาราวดีและภัทรมนเข้าเยี่ยม อาม่าและภวัต ภัทรมนจึงออกมารออยู่ข้างนอก เดชากับดาราวดีเห็นต้อยก็จำได้ถึงแม้ว่าจะดูโทรมไปมาก เดชาเข้าไปบีบมือต้อยด้วยความสงสารน้ำตาไหลอาบแก้ม ดาราวดีก็น้ำตาไหลเสียใจที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง ได้แต่พูดเบาๆ ว่าขอโทษ ดาราวดีออกมาเล่าเรื่องให้อาม่า ภวัตและภัทรมนฟังอย่างคร่าวๆ ว่าแท้จริงแล้วแตนคือลูกของต้อยกับเดชา

ตั้งแต่นั้นมาตนและลูกก็รับกรรมที่ทำมาตลอด ภวัตขอร้องให้กลับกันไปก่อนเพราะถ้าต้อยตื่นขึ้นมาเห็น ถ้ารับไม่ได้อาการโรคหัวใจจะทรุดหนัก ภวัตขอร้องไม่ให้ดาราวดีบอกว่าแตนเป็นลูกของเดชา ดาราวดีรับคำ เมื่อกลับถึงบ้านจึงเล่าให้ป้ามนฟังและคิดว่าเดชายังคงไม่รู้ แต่เดชาปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับบอกว่าตนรู้เรื่องว่าต้อยท้องสามเดือนก่อนต้อยจะจากไป แตนกลับมาที่โรงพยาบาลก็เห็นผึ้งนั่งเฝ้าแม่อยู่ ผึ้งบอกว่าอาม่าจะมาเยี่ยมอีกในวันพรุ่งนี้ ต้อยเริ่มรู้สึกตัว แตนรีบไปตามพยาบาลมา แม่ถามถึงอาการของต่อ แตนบอกว่าปลอดภัยแล้ว ผึ้งอาสาจะเฝ้าไข้แม่แตนก็ต้องไปเฝ้าไข้ต่อ เมื่อทุกคนหลับแตนกับผึ้งได้คุยกันอีก แตนพยายามถามว่าใครเป็นพ่อของเด็กในท้อง ผึ้งไม่ตอบ แต่บอกว่าไม่ใช่ภวัน แตนบอกให้ผึ้งระวังอย่าทำให้พ่อกับแม่รู้ซะก่อนแล้วแตนจะหาทางจัดการแก้ไขเองเพราะแม่เป็นโรคหัวใจ ส่วนพ่อก็หวังในตัวผึ้งมาก ถ้ารู้ท่านก็คงจะผิดหวังมาก ผึ้งขอโทษแตน แตนปลอบน้อง เดชาตื่นแต่เช้าพยายามช่วยตัวเองไม่ว่าจะเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ แต่งตัวเพื่อที่จะได้ออกไปพบต้อยกับแตน ดาราวดีเห็นก็ยิ่งเกิดความสงสารมากขึ้น ภวัตมารับเดชากับดาราวดีไปที่โรงพยาบาลได้พบกับแตนและผึ้งที่กำลังจะกลับบ้าน แตนดีใจที่ได้พบเดชากับดาราวดี แตนเล่าถึงสาเหตุที่ไม่ได้กลับไปทำงานต่อ เพราะแม่สั่งห้ามไม่อย่างนั้นแม่จะฆ่าตัวตาย ภวัตได้ยินก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่ ยิ่งต้อยเป็นโรคหัวใจอยู่ด้วยจึงขอให้เดชากับดาราวดีอย่าเพิ่งเข้าเยี่ยมต้อยเลย เดชากับดาราวดีขอเป็นเจ้าของไข้ และขอร้องแตนอย่าได้ปฏิเสธเลย ภวัตตัดบทไว้ค่อยคุยกันทีหลัง ดาราวดีส่งเงินให้แตน แตนไม่รับ ดาราวดีบอกว่าเป็นเงินค่าแรงที่แตนทำงานแตนจึงรับ

เท่งกำลังเล่าว่าเห็นผึ้งมีอาการแพ้ท้องให้ปยุตฟัง ปยุตไม่เชื่อ พวกเท่งแซวว่าปยุตจะได้หลานโดยไม่รู้ว่าใครเป็นลูกเขย ปยุตเดินเมากลับบ้านพร้อมกับความแค้น เพราะนึกว่าคนที่เท่งพูดถึงคือแตน เมื่อมาถึงจึงเข้าตบแตนและก็ด่าว่าไม่รักดี ท้องให้พ่อแม่อับอายชาวบ้าน ปยุตด่าว่าแตนใจง่ายเหมือนแม่จนต้องท้องไม่มีพ่อ ต้องมาอาศัยคนอื่นเป็นพ่อ ผึ้งทนไม่ได้จึงรับสารภาพว่าคนที่ท้องไม่ใช่แตนแต่เป็นผึ้งเอง ปยุตได้ยินถึงกับช็อก ขณะที่คำรณเข้ามาพอดี คำรณพยายามที่จะเข้าไปปลอบปยุต ปยุตไม่ฟังได้แต่พูดว่าไม่จริงเป็นไปไม่ได้ ปยุตเดินออกจากบ้านไป คำรณบอกให้สอนตามไปดูห่างๆ แตนพาผึ้งเข้าบ้านแล้วออกมาคุยกับคำรณเพื่อถามถึงพ่อที่แท้จริง คำรณไม่รู้นอกจากต้อยคนเดียวที่รู้ เมื่อต้อยอาการดีขึ้นก็สังเกตเห็นท่าทีของแตนที่เงียบเหงาไปจึงถามผึ้งๆ บอกว่าแตนรู้แล้วว่าพ่อปยุตไม่ใช่พ่อที่แท้จริง ต้อยเรียกแตนเข้าไปกอดด้วยความรักและสงสารที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับแม่และน้องๆ ผึ้งบอกว่าตั้งแต่แม่ไม่สบายแตนยังไม่ได้นอนเลย ต้อยยิ่งสงสารลูกมากขึ้น ต้อยจึงเล่าเรื่องของพ่อแตนให้ฟังและขอให้แตนยกโทษให้กับทุกคนแล้วถือว่าเป็นบาปกรรมที่เราต้องชดใช้ แตนบอกต้อยว่าเดชากับดาราวดีมาเยี่ยมตั้งสองสามครั้ง ขณะที่ไม่ได้สติและดาราวดีขอเป็นเจ้าของไข้ให้แม่ด้วย คืนนี้แม่ขอร้องให้แตนกับผึ้งกลับไปนอนที่บ้านไปดูพ่อด้วย ผึ้งกำลังจะบอกแม่ แตนจึงแกล้งชวนผึ้งกลับ พอกลับไปถึงบ้านแตนกับผึ้งก็ได้เห็น ภวันนั่งคอยอยู่กับสวิต ผึ้งเห็นจึงเลี่ยงหนีเข้าบ้าน ภวันพยักหน้าให้สวิตตามเข้าไป แตนขอโทษภวันที่เข้าใจผิดทั้งสองคู่เข้าใจกัน สวิตจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอผึ้งและแต่งงานโดยเร็ว แตนพอใจและขอบใจภวันที่ช่วยเหลือ

ตกดึก ปยุตได้เข้ามาหามาขอโทษต้อยที่ทำตัวไม่ดีและขอยอมรับผิดทุกอย่าง ต้อยยกโทษให้ขณะที่ทั้งสองเข้าใจกัน เดชาได้เข็นรถเข้ามา ต้อยตกใจ ปยุตมองและเข้าใจจึงเชิญให้เดชาเข้ามา ส่วนตัวเองจะออกไป เดชาขอร้องให้ปยุตอยู่ด้วย เดชามาขอโทษต้อยและขอขอบใจปยุตที่ช่วยดูแลต้อยและลูกในท้อง ทั้งสามเข้าใจกัน เดชาขอร้องให้ต้อยพาแตนไปที่บ้านส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง รับรองว่าจะไม่มีการพรากใครไปจากกันอีก เมื่อต้อยและต่อออกจากโรงพยาบาลจึงพากันไปบ้านดาราวดี ดาราวดีให้การต้อนรับอย่างกับลูกหลาน อาม่าและครอบครัวก็มาแสดงความยินดีด้วย รวมทั้งครอบครัวของสวิตที่จะมาสู่ขอปาลินีหรือผึ้ง อาม่าก็มาสู่ขอแตนให้กับภวันหรือตี๋เล็ก ทุกคนมีความสุข