ละคร วิมานมะพร้าว
ดู 4,742 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 12 พฤศจิกายน 2556 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:25 - 22:45 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ชัชวาล ศาสวัตกลูน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ แก้วเก้า, บทโทรทัศน์ ปาตีร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท พอดีคำ จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ วิมานมะพร้าว
"สิ่งที่น่ากลัวสำหรับมนุษย์....ไม่ใช่ผีหรือวิญญาณ หากแต่เป็น อคติ และทัศนคติที่ผิดๆ ที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองต่างหาก" จุลลา ใจเรือง หรือ ไอ้จุ่น (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ของเพื่อนๆ และรุ่นพี่คณะวิศวกรรมศาสตร์ หรือไอ้จูนของ นายจำรัส (ปราบ ยุทธพิชัย) ผู้เป็นพ่อ แต่เป็นน้องจูน ของ ดารา (ไปรมา รัชตะ) ผู้เป็นแม่ เพิ่งจะตกงานเพราะถูกบริษัทจากสิงคโปร์ลอยแพ หลังจากทำงานเป็นวิศวกรประจำโรงงานได้ 3 ปี ตกงานอย่างไม่คาดฝันไม่พอ ยังจะตกมอเตอร์ไซค์ซุปเปอร์ไบค์คู่ใจที่ร้อยวันพันปีไม่เคยตก เพราะเกือบชนกับรถยนต์คันหรูที่ สืบสาย (ธันวา สุริยจักร) นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อ ขับฝ่าไฟแดงมาด้วยความรีบเร่ง เพื่อเดินทางไปต่างประเทศให้ทันเวลา ตอนแรกจุลลาเกือบจะไม่เอาเรื่อง เพราะไม่อยากยืดเยื้อ แต่เมื่อจุลลาถอดหมวกกันน็อกแล้วสืบสายเห็นว่าจุลลาเป็นผู้หญิง ความคิดที่เลวร้ายพอๆกับคำพูดของสืบสายก็ทำงานทันที จากผิดกลายเป็นถูก จากถูกกลายเป็นผิด จากเทพบุตรสุดเวหาที่ยอมรับผิดก็กลายเป็นไอ้วายร้ายจอมวีน โยนความผิดให้จุลลา ฐานออกรถเร็วเกินไป มีหรือที่เฟมินิสต์อย่างจุลลาจะยอมลงให้ง่ายๆ เรื่องนี้ต้องถึงหูร้อยเวรที่โรงพัก!!!!
สืบสายพยายามต่อรอง โยนเงินให้จุลลาเพื่อปิดจ็อบ แต่จุลลาที่รักศักดิ์ศรียิ่งกว่าอะไรทั้งหมดไม่ขอรับเงินแต่ขอขึ้นศาลแทน ต่อให้หมดตัวค่าทนายก็จะฟ้องสืบสายอย่างถึงที่สุด จนกว่าสืบสายจะสำนึกผิดและยอมขอโทษและถอนคำพูดสบประมาทอันแสดงถึงการกดขี่ทางเพศ สืบสายยอมทำตามเงื่อนไขของจุลลา ทั้งที่ในใจ...ยากส์!!!! วันนี้ช่างเป็นวันพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก โชคยังดีที่มอเตอร์ไซค์คู่ใจของจุลลาไม่เสียหาย จุลลาขี่มันอย่างหงุดหงิดกลับบ้าน ที่แบ่งส่วนหนึ่งของพื้นที่เปิดร้านอาหาร "สบายท้อง" ซึ่งมีพ่อและแม่เป็นเชฟประจำร้าน ป้าลำยอง (อุ่นเรือน ราโชติ) เป็นผู้ช่วยแม่ครัว พ่วงด้วยสาวและหนุ่มเสิร์ฟประจำร้าน ลีลา (รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา) และ มะขวิด (ปฐมกฤษณ์ สุดสระ) แต่จุลลาหัวเสียหนักขึ้นอีกเมื่อเห็น ลำยอง ลีลาและมะขวิดกำลังนั่งสุมหัวกันตีความฝันเพื่อหาเลขเด็ดแทงหวย หลังจากที่เมื่อคืนป้าลำยองฝันเห็นผีจับหัว!!!! จุลลาไม่ชอบวิธีคิดที่พึ่งการเสี่ยงโชค คนเราจะรวยหรือจนอยู่ที่การลงมือทำงาน ไม่ใช่รอความหวังลมๆ แล้งๆ ที่มีความน่าจะเป็นตกอยู่ที่ศูนย์ถึงติดลบ!!!! ผลก็คือ ก๊วนฝันกลางวันวงแตก เพราะจุลลาโผล่เข้ามาสลายฝันด้วยสภาพที่น่ากลัวกว่าผีของป้าลำยองเมื่อคืนซะอีก
จำรัสให้กำลังใจจุลลาฮึดสู้ต่อไป ตรงกันข้ามกับดาราที่อยากให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองมีชีวิตและพฤติกรรมสมกับความเป็นผู้หญิง ยุยงให้จุลลาไปเรียนต่อวิศวฯคอมพิวเตอร์ จะได้ไม่ต้องไปรบราราวกับเป็นผู้ชายอกสามศอกเหมือนเดิมอีก หรือจะให้ดีก็ไปเรียนคหกรรม จะได้มาช่วยพ่อแม่ทำร้านอาหาร หรือจะให้ดีที่สุดก็รีบมีหลานให้แม่อุ้มเร็วๆ แต่จุลลาปฏิเสธและยืนยันหนักแน่นกับแม่ว่า ขอเดินทางบนเส้นทางที่ตัวเองเลือกมาตั้งแต่ต้น และที่สำคัญ ไม่ต้องห่วงว่าลูกสาวจะเบี่ยงเบนทางเพศ ยังชอบผู้ชายแต่ไม่คิดจะแต่งงานกับผู้ชาย!!! ยิ่งทำพ่อแม่ตกใจกับคำประกาศอันชวนงง จุลลาให้เหตุผล จนกว่าจะเจอผู้ชายในฝัน หน้าตาดี มีความรู้ สู้เพื่อครอบครัว รั่วบางเวลา ชอบความท้าทาย ไม่กินเหล้า ไม่เจ้าชู้ รักเด็ก อ่อนโยน อ่อนไหว เข้าใจมนุษย์ เข้าวัด ฟังธรรม เต้นกังนัมสไตล์เป็น ฯลฯ สรุป คุณสมบัติเหล่านี้ ไม่มีตัวตน!!! จำรัสรู้ทัน ว่าจุลลาไม่คิดจะแต่งงานเพราะยังไม่เจอผู้ชายที่ดีพอเท่ากับพ่อ แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ความรักฉันท์ชายหญิงในทัศนะของจุลลา ไร้สาระและเสียเวลาชีวิตที่สุด การทำงานต่างหากคือการเติมเต็มชีวิตและหัวใจของเธอ!!!
จุลลาจึงมองข้ามหัว และหัวใจของ พี่โย้ (แมทธิว ดีน) รุ่นพี่ที่คณะ ซึ่งทำงานอยู่ในกระทรวงอุตสาหกรรมที่เทียวไล้เทียวขื่อเป็นลูกค้าประจำของร้าน "สบายท้อง" เพราะหวังจะฝากตัวเป็นผู้ดูแลหัวใจและชีวิตของจุลลา โดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั่นแหละที่ต้องถูกจุลลาดูแลเพราะเมาพับคาร้านทุกคืน แถมจุลลายังต้องพาไปหาหมอรักษาโรคเบาหวาน ความดันและอีกสารพัดโรคที่มาจากการกินไม่เลือกของพี่โย้ พี่โย้ คือ สิ่งตอกย้ำให้จุลลาไม่สนใจผู้ชาย พอจับได้ว่าถูกจีบ จุลลาเสียงแข็ง ประกาศกร้าว ถ้าพี่โย้อยากเลิกคบกับจุลลาแบบถาวรก็เชิญเดินหน้า พี่โย้เลยได้แต่เพียงสงบเสงี่ยมเจียมตัว รอวันหัวใจจุลลาว่างแล้วแวะมา ถึงจะเป็นชาติหน้าพี่โย้ก็จะรอ จุลลาไม่รอให้เสียเวลาชีวิตนาน เกรงจะฟุ้งซ่านจนทำให้ร้าน "สบายท้อง" ของพ่อและแม่ต้องปั่นป่วนเพราะการรับมือพวกขี้เหล้าอันหนักหน่วงและฮาร์ดคอร์ของเธอ จุลลารีบเปิดดูช่องทางหางาน เหมือนเทวดาดลใจ กรอบรับสมัครงานของบริษัท ปาล์มโปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวรายใหญ่ของประเทศไทยกระแทกเข้าตาจุลลาอย่างแรง ที่นี่รับสมัครวิศวกรดูแลเครื่องจักรในโรงงาน 1 ตำแหน่ง จุลลาไม่ฟังเสียงคัดค้านของแม่ ที่ไม่อยากให้ลูกสาวมีชีวิตเปื้อนน้ำมันเครื่องแทนที่จะเป็นเครื่องสำอาง บริษัทปาล์มโปรดักส์ คือจุดหมายที่ต้องไป!!!
ดาราพาจุลลาไปทำสวยที่ร้านของ น้าจ๋อม ที่ปรึกษาทางด้านความสวยความงามของบ้าน อย่างน้อยก็น่าจะทำให้จุลลามีโอกาสได้งานมากกว่ามาดทอมบอยที่เป็นอยู่ แต่จุลลาปฏิเสธเสียงแข็งว่างานที่ทำ คือ ต้องคุมเครื่องจักร ไม่ได้เป็นพริตตี้หรือพรีเซ็นเตอร์ขายเครื่องดื่มคอลลาเจน เป็นอันว่าความพยายามของดาราและน้าจ๋อมตกไป จำรัสชอบใจกับความคิดของลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน จนถูกดาราดุ หาว่าส่งเสริมให้ลูกสาวกลายพันธุ์ จุลลาคงอยู่บนคานจนแก่ ไม่มีใครเลี้ยงดู แต่จำรัสมั่นใจว่าสิ่งที่จุลลาเป็นมันคือ อาวุธที่จะปกป้องอันตรายอันเกิดจากผู้ชายภัยสังคม หากทำสวยจะเป็นการเชิญชวนความเสี่ยงให้เข้ามาหา ถึงจะขึ้นคานก็ไม่เป็นไรพ่อแม่เลี้ยงได้ ไม่ใช่ปัญหา!!!! จุลลานุ่งกระโปรงที่สุภาพที่สุดในการสมัครงาน ซึ่งมีแค่ชุดเดียว แต่ก็ไม่แคร์ แท็กซี่ไม่ใช่ทางเลือก ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ทำเอาดาราและลูกจ้างถอนใจ อ่อนใจกับความ self เกินพิกัดของจุลลา จำรัสอวยพรให้จุลลาได้งานตามที่หวัง แต่ถ้าไม่ได้ก็อย่าผิดหวัง ออกมาช่วยพ่อทำงาน จุลลาต้องรีบตัดบท เพราะเกรงพ่อจะแช่งไปมากกว่านี้ แต่จุลลาก็ไม่โกรธ เพราะรู้ดีว่า พ่อรักและหวงเธอมากขนาดไหน ใจจริงไม่อยากให้ไปไหนไกลหูไกลตา อยากเก็บจุลลาไว้ให้อยู่ในสายตา ตามประสาพ่อที่หวงลูกสาวยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ จะไม่ให้หวงได้ยังไง เพราะจุลลานั้นทั้งเก่งทั้งสวย แต่ไม่คิดจะงัดความสวยออกมาโชว์ ผู้ชายที่จะเข้ามาต้องดีมากกว่าหรือไม่ก็ต้องเสมอกันเท่านั้น!!!
จุลลามุ่งหน้าสู่สถานที่ตั้งของ บริษัท ปาล์มโปรดักส์ ซึ่งอยู่ปริมณฑล เกือบถึงอัมพวานี่ถ้าพ่อแม่รู้ว่าอยู่ไกลขนาดนี้ คงไม่ได้มาสมัครงาน การขี่มอเตอร์ไซค์ในระยะทางขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องน่ายินดี แต่จุลลาก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้งาน เพราะหลายที่ที่ไปมาถูกปฏิเสธหมดด้วยเหตุผล กลัวผู้หญิงไม่สู้งานหนัก ไม่คุ้มเงินเดือน คราวนี้ก็เหมือนกัน จุลลาตั้งใจ หากโดนปฏิเสธด้วยเหตุผลงี่เง่าแบบนี้อีก จะยอมทำงานฟรีในช่วงทดลองงานให้ดูเป็นการแลกเปลี่ยนกับโอกาส!!!! จุลลามาก่อนออฟฟิศโรงงานเปิดทำการ ยามจ่อย (คำไหล เมืองอุบล) ยามรักษาการหน้าประตูผู้เคร่งครัดกฎระเบียบจึงแนะนำให้จุลลามาใหม่ แม้จะเหลือเวลาอีกเพียงครึ่งชั่วโมง ยามจ่อยก็ไม่ยอมแสดงน้ำใจให้เข้าไปรอข้างใน หน้าที่คือหน้าที่!!! จุลลาเดินเล่นเตร็ดเตร่แถวนั้น รู้สึกสบายตาเพราะยังมีสวนมะพร้าวให้เห็นรอบๆ บริเวณโรงงานหลังใหญ่ มองเลยไปอีกนิด คือ คฤหาสน์หลังงามที่เดาว่าเป็นของเจ้าของโรงงานเพราะปลูกสร้างอยู่ในอาณาเขตเดียวกัน แต่ที่สะดุดตาและเหมือนมีแรงดึงดูดให้เดินเข้าไปหาคือ ฮวงซุ้ยแห่งหนึ่ง!!!! ด้วยความเคยชินตามนิสัยที่พ่อแม่สอนมาดีให้รู้จักมารยาทขอนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง จุลลายกมือคำนับเหมือนตัวละครในหนังจีนกำลังภายในเพื่อขออนุญาตก่อนเข้าไปเดินสำรวจ โดยไม่รู้ว่า สายลม เสียงแว่วคล้ายเสียงหัวเราะที่ลอยมาให้ได้ยินนั้น เป็นเสมือนคำทักทายจาก บางสิ่งบางอย่างที่จุลลาไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เห็น เพราะไม่เชื่อว่าจะมีจริง และจะต้องเข้าไปเกี่ยวพันชนิดที่เรียกได้ว่า ยุ่งเหยิง วุ่นวาย ปั่นป่วน และอลเวงอย่างถึงที่สุด!!!! และจุลลากำลังจะได้เห็น แต่ได้เวลาออฟฟิศโรงงานเปิดพอดี จุลลารีบลาเจ้าของฮวงซุ้ยกลับ ทำให้คลาดกับสิ่งเหนือธรรมชาติ!!!!
ไม่ใช่แค่จุลลาที่มาสมัครงาน จุลลาเจอกับ ทรงเดช (อัศนัย เทียนทอง) หนุ่มมาดดี ที่แสดงความเจ้าชู้กะลิ้มกะเหลี่ยจุลลาแม้จะเพิ่งเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก ผลก็คือถูกจุลลาตอกหน้าหงาย และอายคนงาน นับตั้งแต่นั้นทรงเดชจึงแค้นจุลลาฝังหุ่น ในฐานะที่เป็นเพื่อนกับลูกชายของ คุณนายเง็ก (ณหทัย พิจิตรา) และเสี่ยตง (ตระการ พันธุมเลิศรุจี) เจ้าของโรงงาน ที่ได้รับการฝากฝังจากลูกชาย ทำให้คุณนายเง็กและเสี่ยตงจำเป็นต้องรับทรงเดชเข้าทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิต แม้ทั้ง 2 คนจะไม่ชอบนิสัยคุยโม้โอ้อวด ยกตนข่มท่าน ไม่เกรงใจใครของทรงเดชก็ตาม ทำให้จุลลาถอดใจ ผู้หญิงไร้เส้นอย่างเธอคงหมดสิทธิ์ตั้งแต่ยังไม่ได้สัมภาษณ์ แต่คุณนายเง็กกลับถูกชะตาจุลลา ด้วยว่ามีอะไรบางอย่างดลใจ ยิ่งเมื่อรู้วันเดือนปีเกิดก็รีบรับจุลลาทำงานทันทีในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายซ่อมบำรุง โดยไม่ต้องซักอะไรให้มากความ เหตุผลว่าเป็นคนเกิดวันแข็งก็น่าจะเพียงพอสำหรับตำแหน่งนี้ ตรงข้ามกับเสี่ยตงที่พอเห็นว่าจุลลาเป็นผู้หญิงก็หมดความสนใจ แต่ไม่อาจขัดใจภรรยาได้ จุลลาเลยได้ทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายซ่อมบำรุงอย่างงงๆ โดยที่จุลลาไม่รู้ว่า เหตุผลที่จุลลาได้งานไวปานวอกนั้น เพราะคุณนายเง็กได้ปรึกษา อาจารย์เฟื้อง (โย่ง วีระศักดิ์) เรื่องถูกวิญญาณ "เถ้าแก่" (สัญญา คุณากร) พ่อผัวผู้บุกเบิกโรงงานมาเข้าฝันบ่อยๆ แถมยังมาปรากฏให้เห็นตรงหน้า เหมือนมีเรื่องจะสื่อสาร แต่ด้วยความกลัวขึ้นสมอง แม้จะเป็นผีพ่อ คุณนายเง็กและเสี่ยตงเลยเป็นลม จับไข้หัวโกร๋น ตั้งแต่ผี "เถ้าแก่" ยังไม่เปิดปาก อาจารย์เฟื้องนั่งทางใน พยายามสื่อสารกับวิญญาณเถ้าแก่ แต่เถ้าแก่ไม่ยอมคุยด้วย เพราะไม่อยากให้คนนอกรู้เรื่องกิจการภายในครอบครัว อาจารย์เฟื้องจึงแนะนำให้คุณนายเง็กหาคนในที่เกิดวันแข็งและถ้าเป็นวันอังคาร เดือนสาม ปีขาลได้ยิ่งดี และจุลลาก็โดนแจ็กพ็อต!!!!
จุลลาเตรียมตัวทำงาน ในโรงงานที่มีการ turn over สูง หมายถึง คนลาออกเป็นว่าเล่นเพราะเจอดี!!! จากผี "เถ้าแก่" ตามคำบอกเล่าผสมเม้าท์เกินจริงนิดหน่อยของ เจ๊พุ่ม (ประไพ สิโนกทก) ก็อดมาเธอร์ประจำโรงงานที่ไม่มีคนงานคนไหนกล้าแหยม อดีตต้นห้องของคุณนายเง็กตั้งแต่ยังสาว แล้วติดสอยห้อยตามมารับใช้เมื่อคุณนายเง็กแต่งงานกับเสี่ยตง ผี "เถ้าแก่" ในความคิดของคนงาน คือ ผีที่น่ากลัว ตรงกันข้ามกับเถ้าแก่ตอนที่ยังมีชีวิต แต่ผี "เถ้าแก่" คือเรื่องไร้สาระสำหรับจุลลา เพราะจุลลาไม่เคยเห็น เพราะฉะนั้นมันย่อมไม่มีจริง จุลลารู้อะไรๆหลายๆอย่างเกี่ยวกับโรงงานกงสีแห่งนี้จากเจ๊พุ่ม รวมถึงความสัมพันธ์ของ เดือนพิไล (ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) ดารานางแบบที่เคยโด่งดังแต่กำลังร่วงเพราะความ self ชอบเหวี่ยงนักข่าวและพฤติกรรมชอบเลี่ยงภาษีของเธอ กับคุณตี๋ ลูกชายคนเดียวของคุณนายเง็กกับเสี่ยตง ทั้ง 2 รักกันมาก และกำลังจะแต่งงานกัน ถึงแม้คุณนายเง็กจะไม่เห็นด้วยอย่างแรง!!!! เดือนพิไลชอบมาแสดงตัวเป็นว่าที่เจ้าของโรงงาน โดยไม่แคร์พ่อแม่แฟนสักนิดว่าไม่ค่อยพอใจ เพราะเดือนพิไลถือว่า แต่งงานกับลูกชาย ไม่ได้แต่งกับพ่อแม่ แถมยังหาเรื่องพนักงานสาวสวยหรือเห็นว่ามีแนวโน้มว่าสวยให้ถูกไล่ออก เพราะเกรงว่าจะไปทำให้แฟนของเธอหวั่นไหว ไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงของความสัมพันธ์ และเหยื่อคนล่าสุดของเดือนพิไลคือ น้ำหวาน (พิมประภา ตั้งประภาพร) ลูกสาวเฮียเจ้าของโรงงานผลิตถุงบรรจุใส่กะทิซองขนาดเล็ก คู่ค้าของโรงงานมานาน และเพิ่งเรียนจบ ป.ว.ช ซึ่งเฮียพามาฝากฝังไว้กับเสี่ยตงให้ทำงาน
น้ำหวานเพิ่งมาอยู่ใหม่ ทำงานเอกสารทั่วไป ยังไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แค่เดินผ่านเดือนพิไลโดยไม่ทำความเคารพ เป็นอันว่าจบอนาคต!!!! ถูกเดือนพิไลต่อว่า เหวี่ยงไม่มีชิ้นดี จุลลาเข้ามาประสบเหตุ จึงออกตัวช่วยเหลือน้ำหวานให้รอดพ้นจากสถานการณ์เลวร้าย ก่อนที่น้ำหวานจะเสียน้ำตาท่วมโรงงานด้วยความตกใจ เดือนพิไลอาฆาตแค้นจุลลา เสมือนว่าจุลลาไปฆ่าพ่อแม่เดือนพิไลตายอย่างโหดเหี้ยมกระนั้น!!!! จุลลายิ่งจินตนาการอนาคตของโรงงานปาล์มโปรดักส์ไม่ออก หากมีลูกสะใภ้อย่างเดือนพิไล และนึกสมเพชลูกชายของคุณนายเง็กและเสี่ยตง ที่ไปคว้านางมารร้ายมาเป็นแฟน โดยที่จุลลาไม่รู้ว่าลูกชายทายาทโรงงานแห่งนี้คือ สืบสาย ไฮโซหนุ่มคู่คดีเก่าของจุลลานั่นเอง!!!! คุณนายเง็กเอาอกเอาใจจุลลาสารพัด ยิ่งทำให้ทรงเดชหมั่นไส้จุลลา มีโอกาสข่มเมื่อไหร่ทรงเดชไม่รีรอ แต่ก็ใช่ว่าจุลลาจะเป็นหมูให้เคี้ยวเล่นง่ายๆ ทรงเดชไม่อาจทำอะไรจุลลาได้ โดยเฉพาะการเล่นในเกม ยิ่งจุลลาซื้อใจ ไอ้แสบ (ตะวัน จารุจินดา) หัวหน้าช่างได้ เพราะความเอาการเอางาน ยุติธรรม และไม่ถือตัวของจุลลา รวมถึงเมื่อคราวที่จุลลาช่วยน้ำหวาน ( ผู้หญิงที่ตนหลงรัก แม้น้ำหวานจะเกลียดตอบ) จากการขย้ำของเดือนพิไล แสบปวารณาตัวเป็นลูกน้องคนสนิท เพราะคนอย่างแสบบุญคุณต้องทดแทน หนี้แค้นต้องชำระ พ่วงด้วย ไอ้เข่ง (หนุงหนิง สิงหราช) ไอ้หยิก (รวิช ไรวินทร์) และ ไอ้ถัด (จิรพัฒน์ สินสนอง) คนงานร่วมอุดมการณ์ลูกน้องของแสบ ทรงเดชยิ่งเล่นงานจุลลาลำบาก และแล้วทรงเดชก็ได้โอกาส เมื่อสืบสายกลับจากดูงานต่างประเทศ และได้พบจุลลา
สืบสายเรียกจุลลาไปไล่ออก ด้วยเหตุผลนานาประการ ที่ฟังยังไงจุลลาก็ฟังไม่ขึ้น มันเป็นเรื่องของอคติล้วนๆ!!!! ทรงเดชได้ทีเลยใส่ไฟเพิ่ม จุลลาแทบอกระเบิดตายที่ถูกรุมจากผู้ชายที่เต็มไปด้วยอคติทั้ง 2 คน แต่แล้วคุณนายเง็กก็เข้ามาห้ามทัพได้ทันเวลา เหมือนมีอะไรดลใจอีกเช่นเคย และตัดสินปัญหาห้ามใครไล่จุลลาออก ไม่งั้นจะเห็นดีกัน สืบสายเลยขอต่อรอง หากภายใน 6 เดือน จุลลาไม่สามารถทำงานได้ให้ออกไป!!!! จุลลาเต็มใจรับคำท้าอย่างไม่เกรงกลัว !!!! ทรงเดชขอเลขาส่วนตัว อ้างถึงภาพลักษณ์และความรับผิดชอบมากมาย สืบสายเออออห่อหมก เพราะอยากเอาใจให้ทรงเดชทำงานได้เต็มที่ จากประวัติการทำงานอันน่าเชื่อถือที่ทรงเดชที่สร้างมาให้ดู สืบสายเชื่อมั่นทรงเดชมาก และให้อำนาจสิทธิ์ขาดในการดูแลฝ่ายผลิตเต็มที่ โดยเฉพาะจุลลา ที่สืบสายต้องการให้ทรงเดช "กดๆ" เอาไว้บ้าง ไม่ให้กระด้างกระเดื่องจนคุมยาก กลัวจุลลาจะเป็นหัวหน้าม็อบ ก่อการจลาจล ทรงเดชจึงได้น้ำหวานมาเป็นเลขาหน้าห้อง ท่ามกลางความไม่พอใจของไอ้แสบ เพราะไอ้แสบดูออกว่าทรงเดชจ้องจะงาบน้ำหวานตั้งแต่แรกเห็น ไอ้แสบจึงทำเป็นเทียวไล้เทียวขื่อไปเสนอหน้าให้น้ำหวานด่าทุกวัน เพื่อเช็กความปลอดภัยและเป็นก้างขวางคอ แต่แสบอ้างว่าไปให้หญิงด่าเหมือนหญิงให้พร จะได้ทำงานอย่างสบายใจ จุลลารู้ใจลูกน้องดีว่าชอบปิดทองหลังพระ เลยตักเตือนพอเป็นพิธี ไม่ให้ไปเหยียบหางทรงเดช ถ้าไม่อยากเดือดร้อนวุ่นวาย
เมื่อทรงเดชเห็นว่าสืบสายคอยให้ท้าย จึงตั้งหน้าตั้งตา "กดขี่" จุลลา ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ทรงเดชสั่งเดินหน้าผลิตโอเวอร์โหลด จนทำให้เครื่องจักรเสีย จุลลาและแสบ พร้อมลูกน้องต้องเร่งแก้ไขกันอย่างหนักจนดึกดื่น คุณนายเง็กบังคับให้จุลลาค้างที่คฤหาสถ์ ด้วยความเป็นห่วงสวัสดิภาพและแอบภาวนาให้จุลลาเจอกับผีเตี่ย จะได้รู้ว่าผีเตี่ยยังมีห่วงอะไรถึงได้ไม่ไปผุดไปเกิด จุลลาจำใจต้องใส่ชุดนอนสีหวานแหววที่ ป้าเมี่ยง แม่บ้านอาวุโสของคฤหาสน์เตรียมให้ จะได้เอาชุดทำงานของจุลลาที่เลอะน้ำมันเครื่องไปซัก ขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับ จุลลาก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อ "อาหลูจุง" มาจากที่ไหนสักแห่ง ไกลๆ จุลลาออกตามหา ก็ได้เห็นชายจีนชราในชุดกางเกงแพร เสื้อกุยเฮงสีขาว หวีผมเรียบแปล้ ยืนรออยู่ที่ระเบียง จุลลาคิดว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของคฤหาสถ์ที่เล่นสัปดนปีนระเบียง ไม่ทันที่ชายจีนชราจะได้พูดอะไร ก็ถูกจุลลาเอ็ดตะโรโวยวายไล่ให้กลับห้อง จนทำให้ทุกคนในบ้านตื่นกันหมด!!! และพากันมาดู ชายจีนชราก็หายแวบไป จุลลาเล่ารายละเอียดให้ฟังก็ทำให้ทุกคนขนหัวลุก เพราะลักษณะทั้งหมดที่ว่ามาคือ "เตี่ย"..."อากง"..."เจ้าสัว"...ที่ตายไปแล้ว!!!! แถมด้วยรูปถ่ายของท่านที่แขวนอยู่บนผนัง ซึ่งจุลลาไม่ได้สังเกตเห็นตั้งแต่แรกเป็นการยืนยันว่า...เป็นคนๆเดียวกันแน่นอน!!!
จุลลาเจอผีเป็นครั้งแรก คุณนายเง็กลุ้นอยากรู้ว่าคุยอะไรกัน แต่จุลลาปิดปากเงียบสนิท เมื่อความเชื่อถูกทำลาย แถมถูกสืบสายหัวเราะเยาะ เพราะสืบสายเองก็ไม่เชื่อเรื่องผีเรื่องวิญญาณ จุลลาประกาศต่อหน้ารูปเถ้าแก่ ว่าอย่ามาให้เห็นอีก!!!! แต่เถ้าแก่ก็ไม่ละความพยายามที่จะสื่อสารกับจุลลาให้ได้ ตามไปหลอกหลอน อ้อนวอน ขอร้อง แต่ก็ไม่ได้ผล เถ้าแก่จอมเจ้าเล่ห์เลยไปแผลงฤทธิ์กับ ไอ้แสบ เจ๊พุ่ม และคนงานคนอื่นๆ เป็นอันว่าเสียงานเสียการกันเป็นแถบๆ ทรงเดชที่จ้องจะเล่นงานจุลลาอยู่แล้วจากการที่เครื่องจักรเสีย ทำให้ปริมาณการผลิตเสียหาย แต่ไม่สำเร็จเพราะสืบสายไม่เอาเรื่อง เพราะจุลลาและลูกน้องแสดงหลักฐานยืนยันได้ว่า ความผิดเกิดจากการสั่งการเดินเครื่องการผลิตที่มากเกินไปของทรงเดช คราวนี้ทรงเดชจึงหยิบมาเป็นประเด็นอีก เตรียมเล่นงานฝ่ายซ่อมบำรุงของจุลลา จุลลาจึงยอมเจรจากับผีเถ้าแก่จนได้ แต่ก็ปกปิดไม่ให้ใครรู้ เพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด จะเป็นการเพิ่มงานของตัวเองโดยใช่เหตุ ถ้าใครรู้ว่าจุลลาสื่อสารกับเถ้าแก่ได้เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าใครๆ โดยเฉพาะกับสืบสาย ที่จ้องจับผิดจุลลาทุกฝีก้าว แล้วจุลลาก็เห็นใจเถ้าแก่ที่กลายเป็นผีติดอยู่ในฮวงซุ้ย ไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้เพราะยังเป็นห่วงโรงงานและที่ดิน ที่เสี่ยตงเอาไปจำนองแบงก์ หาเงินทุนขยายโรงงานให้ใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิต นัยว่าอยากรวยขึ้นไปอีกเยอะๆ!!! เถ้าแก่กลัวหลุดจำนอง แต่ความกลัวนี้ไม่เท่ากับการรู้ว่า เสี่ยตงกำลังพยายามจะระดมเงินทุนในตลาดหลักทรัพย์เพราะขี้เกียจกู้แบงก์ แต่เถ้าแก่ไม่อยากทำอะไรเกินตัว และมีคำว่ากำไรของผู้ถือหุ้นเข้ามาบีบ ทำให้วิถีการทำงานและการดูแลคนเปลี่ยนแปลงไป เถ้าแก่อยากอยู่กันแบบพี่น้อง ลูกหลาน ดูแลกันและกัน เพราะต้องพึ่งพาอาศัยกันมากกว่าเดินเครื่องแบบทุนนิยมเต็มสูบ!!!
จุลลานึกนับถือวิธีคิดของเถ้าแก่จอมเจ้าเล่ห์ ถึงแม้กิตติศัพท์ของเถ้าแก่ยามที่มีชีวิตอยู่จะมีแต่คำว่า งก ขี้เหนียว แต่ตอนนี้จุลลารู้แล้วว่า เถ้าแก่งกเพื่อให้เม็ดเงินและกำไรตกถึงมือลูกจ้างให้มากที่สุดในรูปแบบของเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นทุกปีพร้อมโบนัสปลายปีไม่ได้ขาด!!! แต่จุลลาก็ต้องประหลาดใจเมื่อรู้จากปากเถ้าแก่ว่า สืบสายไม่เห็นด้วยกับเสี่ยตง และพยายามจะสืบสานแนวคิดของอากง เถ้าแก่ยืนยันว่าสืบสายเป็นคนดี อาจจะงี่เง่าในบางครั้ง แต่เป็นเพราะถูกเลี้ยงมาอย่างลูกชายคนเดียว ย่อมต้องเป็นใหญ่ที่สุด จุลลาอยากเอาสืบสายให้อยู่หมัด ก็ต้องใช้ไม้นวมแทนไม้แข็งบ้าง ที่สำคัญจุลลาเป็นคนเดียวที่จะช่วยเหลือโรงงานนี้ต่อไปได้ อยากให้จุลลาอยู่เคียงข้างสืบสายเพื่อต่อสู้กับการเอาโรงงานเข้าตลาดหุ้น จุลลาเหมาะจะเป็นหลานสะใภ้มากกว่าเดือนพิไล จุลลาสะดุ้งเฮือก ออกตัวว่าไม่อยากยุ่งกับสืบสาย เพราะไม่อยากเปิดศึกกับเดือนพิไล ยิ่งถูกเถ้าแก่ชี้โพรง จุลลายิ่งอึดอัดและขัดเขินหากต้องใกล้ชิดสืบสาย พยายามเลี่ยงให้ห่างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำงาน ขยันขันแข็ง จนเป็นที่ชื่นชมของคุณนายเง็กและเสี่ยตง ออกปากอยากได้เป็นลูกสะใภ้ เรื่องเข้าหูเดือนพิไล โดยการคาบข่าวของทรงเดช
เดือนพิไลมาหาเรื่องจุลลาถึงร้าน เจ๊อ้อย อาหารตามสั่ง ซึ่งเป็นร้านประจำของจุลลาและไอ้แสบ ประกาศลั่น "ผัวข้าใครอย่าแตะ" คนงานร้องฮือ!!!! ที่เดือนพิไลกล้าพูดว่าสืบสายเป็นผัว แต่แล้วจู่ๆ สืบสายก็ปรากฏตัวที่ร้านเจ๊อ้อย เหมือนมีอะไรดลใจ (คงหนีไม่พ้นผีอากง ที่ต้องการเลื่อยขาเตียงสืบสายกับเดือนพิไลและเปิดโอกาสให้จุลลาเข้ามาใกล้ชิดสืบสายให้ได้) ทำให้เห็นด้านมืดของเดือนพิไลที่สืบสายไม่เคยเห็นมาก่อน นอกจากหน้ากากของสาวสวยแสนดีเข้าใจคนที่เดือนพิไลใส่เข้าหา สืบสายปรามเดือนพิไล อย่าพูดอะไรเกินเลย เดือนพิไลรีบแก้ตัวกลัวว่าจะเสียคะแนน ว่าเข้าใจจุลลาผิดเพราะทรงเดชเป็นต้นเหตุ ทรงเดชโกรธเดือนพิไลที่โบ้ยเอาตัวรอดกันเห็นๆ!!!! สืบสายขอโทษจุลลาแทนเดือนพิไล จุลลาไม่ถือคนบ้าไม่ว่าคนเมา แต่อยากให้สืบสายเปิดหูตาให้กว้าง จะได้มองเห็นว่าคนใกล้ชิดแต่ละคนมันงูพิษทั้งนั้น สืบสายเอะใจกลับมาไตร่ตรอง พยายามลบอคติที่มีต่อจุลลา ชั่งน้ำหนักอย่างแรง เพราะจุลลาได้พิสูจน์ให้สืบสายเห็นแล้วว่า สามารถทำงานได้ดีมากแค่ไหน และถนัดที่จะทำงานมากกว่าพูด คำยืนยันของคนงาน เจ๊พุ่ม และพ่อแม่เป็นเสียงสนับสนุนได้เป็นอย่างดี วิจารณญาณของสืบสายกลับมาทำงานร้อยเปอร์เซ็นต์อีกครั้ง แต่ทรงเดชยิ่งร้อนรน ยิ่งจุลลาได้ดี แปลว่า ทรงเดชจะยิ่งอยู่ลำบาก เพราะจุลลาประกาศแล้วว่า เมื่อต่างคนต่างอยู่กันดีๆไม่ได้ ต่อไปนี้อย่าได้หวังว่าจุลลาจะยอมหลบให้ทรงเดช แรงมา แรงไป เสียเลือดเป็นเสีย!!!!
สืบสายสั่งให้ทรงเดชปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น แทนที่จะคอยหาเรื่องจุลลา อยากเห็นผลงานเพิ่มคุณภาพตามที่เคยโฆษณาตัวเองเอาไว้ว่าเคยทำให้กับโรงงานผลิตสัปปะรดกระป๋องที่ฮาวายเพิ่มการผลิตได้สามสิบเปอร์เซ็นต์มาแล้วจากการเอ็นจิเนียริ่งของตัวเอง ทรงเดชรับปาก ทำได้ไม่ยาก!! ทรงเดชเริ่มกระบวนการเพิ่มคุณภาพการผลิต ด้วยการเริ่มต้นจากการเพิ่มวินัยให้กับคนงานก่อน ทุกคนจะต้องมาเคารพธงชาติตอนแปดโมงเช้า และฟังการอบรมจากทรงเดชถึงวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพอีกครึ่งชั่วโมง รวมถึงการให้น้ำหวานทำแผ่นประกาศคำขวัญ ให้คนงานได้เห็นได้อ่านอย่างทั่วถึง จุลลาเป็นคนแรกที่ไม่ปฏิบัติตาม เพราะเห็นว่าทำให้เสียเวลาการทำงาน!!! และปัญญาอ่อนที่สุด!!!! ทรงเดชเดือดดาลไปฟ้องสืบสาย ว่าจุลลาทำตัวเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาองค์กร ขอให้สืบสายไล่ออก แต่สืบสายกลับสั่งให้ทรงเดชยกเลิกกระบวนการเพิ่มผลผลิตของทรงเดชทันที และคาดโทษ หากยังไม่มีผลงานให้เห็นภายในสิ้นเดือนนี้ มีผลให้ออกจากงานทันที โดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย เพราะถือว่า ไม่ผ่านการทดลองงาน
ทรงเดชกลับบ้านด้วยความแค้นใจ!!!!!!!!!!!! จึงเริ่มแผนใหม่!!!! ทรงเดชเสนองบซื้อเครื่องจักรใหม่ล็อตใหญ่ และขอไปเลือกซื้อด้วยตัวเองที่ญี่ปุ่น เถ้าแก่มาปรากฏตัวเตือนจุลลา ว่าทรงเดชกำลังเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ คิดโกงบริษัท หาเงินเข้ากระเป๋า เมื่อเห็นว่าตัวเองอาจจะถูกไล่ออก แต่เมื่อเหตุการณ์ยังไม่เกิด จุลลาไม่สามารถออกตัวทำอะไรได้ จึงรับปากเถ้าแก่ว่าจะไปเตือนสืบสายให้เพิ่มความรอบคอบก่อนจะตัดสินใจอนุมัติงบ แต่ก็สายไปเสียแล้ว สืบสายเซ็นอนุมัติเรียบร้อย เพราะทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส มีเอกสารเสนอราคายืนยันจากบริษัทผู้ผลิตที่อยู่ในงบประมาณ ที่สืบสายเช็กแล้วว่าเป็นราคาตลาดไม่ได้แพงผิดปกติแต่อย่างใด จุลลายังติดใจสงสัยต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล นอกจากจะรู้สึกได้เองเพราะจุลลารู้จักนิสัยของทรงเดช ที่สั่งซื้อของฟุ่มเฟือยเข้าโต๊ะตัวเองโดยใช้เงินบริษัท ใช้รถใช้น้ำมันบริษัทไปกับเรื่องส่วนตัว และอื่นๆ อีกมากมายที่น้ำหวานเล่าให้ฟังแทบจะไม่ไหว อันแสดงถึงนิสัยคดในข้องอในกระดูกและสันดานโกงทุกเม็ดของทรงเดชแล้ว ยังถูกผีเถ้าแก่บิ้วท์อยู่ทุกวันอีกต่างหาก ว่าสืบสายจะต้องเดือดร้อนเพราะทรงเดช สืบสายต้องไล่ทรงเดชออกในสามวันเจ็ดวัน มิฉะนั้น จะซวยไปสามปีเจ็ดปี!!!!!
สืบสายห่างเหินจากเดือนพิไล เพราะภาระหน้าที่การงานที่เสี่ยตงมอบหมายให้สืบสายเป็นกรรมการผู้จัดการ เพื่อแบ่งเบาภาระ เนื่องจากปัญหาเรื่องสุขภาพ ส่วนจุลลาก็ต้องรากเลือดเมื่อพบว่า เครื่องจักรจากญี่ปุ่นทีเพิ่งสั่งซื้อมานั้น เริ่มเกเร เสียซะแล้ว!!!!! ต้องเร่งซ่อมกันหามรุ่งหามค่ำ แถมวิศวกรชาวญี่ปุ่นที่ถูกส่งมาเทรนการใช้เครื่องก็สื่อสารกันยากลำบาก เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จุลลาต้องสั่งให้ลูกน้องซ่อมให้ใช้งานได้ไปก่อน แล้วค่อยรายงานสืบสาย!!!! แต่ใช่ว่าจะแก้กันได้ง่ายๆ แถมคืนนั้นจุลลาต้องไปร่วมงานครบรอบ 20 ที่ก่อตั้งโรงงานที่คฤหาสน์ จุลลาทิ้งหน้าที่การซ่อมเครื่องจักรใหม่แต่เก่าไว้ให้แสบชั่วคราว เพราะต้องไปทำหน้าที่สำคัญนั่นคือ แกล้งทำเป็นถูกผีเถ้าแก่เข้าสิง เพื่อทำให้สืบสาย คุณนายเง็ก และเสี่ยตง ไล่ทรงเดชที่เป็นคนขี้โกงออกไปจากโรงงานตามคำสั่งของเตี่ย ไม่งั้น เตี่ยจะไม่ไปไหน!!!!! จุลลาตื่นเวที เพราะเกิดมาก็ไม่เคยเป็นร่างทรงที่ไหน โชคดีที่ได้ไปศึกษาแอ็กติ้งจากเจ๊พุ่ม ที่ว่างๆก็แอบรับจ็อบเป็นคนทรง ใบ้หวยไปตามเรื่อง แต่ผีเถ้าแก่ก็พยายามปลอบให้จุลลาหายเครียด เมื่อถึงเวลา ร่างทรงผีเถ้าแก่กำมะลอก็เริ่มปฏิบัติการ!!!!! สืบสาย คุณนายเง็ก เสี่ยตง ทรงเดช เดือนพิไล และคนอื่นๆ แตกตื่นกันทั้งงานที่จุลลาล้มตึง แล้วลุกขึ้นมาตาขวาง และออกตัวว่าเป็นเตี่ยอาตง!!!! จุลลาพูดตามคำพูดของเถ้าแก่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ทุกประการ พุ่งเป้าไปที่ทรงเดชว่าโกงบริษัท ซื้อเครื่องจักรเก่าแล้วมาเหมาว่าเป็นของใหม่ ทรงเดชโวยวายหาว่าจุลลาแกล้ง นี่ไม่ใช่ผีเถ้าแก่!!!
เถ้าแก่จึงยืนยันเรื่องที่ไม่มีใครรู้ นอกจากเถ้าแก่ เสี่ยตงและคุณนายเง็กเท่านั้นที่รู้ คือ ชื่อเก่าของโรงงานปาล์มโปรดักส์ คือ เอี่ยจี้เทียนติ๊งเชี่ยง ที่แปลว่า วิมานมะพร้าว!!!! ซึ่งเสี่ยตงถือวิสาสะเปลี่ยนโดยที่เตี่ยไม่เต็มใจ เสี่ยตงและคุณนายเง็กคอนเฟิร์มทันทีว่า ผีเตี่ยแน่แล้ว!!!! ทรงเดชไม่ยอมแพ้ผีเถ้าแก่ วิ่งไปขย้ำคอจุลลาโยกไปมาเพื่อพิสูจน์ว่าผีหรือคนกันแน่ที่เป็นคนพูด ครั้นจะรอให้เถ้าแก่แก้สถานการณ์ก็เกรงว่าจะขาดอากาศหายใจซะก่อน เพราะเถ้าแก่มัวแต่ตะลึง จุลลาจึงรวบรวมพลังนักยูโดสายดำเหรียญทองตัวแทนมหาวิทยาลัยสี่ปีซ้อนเข้าจัดการทรงเดชจนล้มคว่ำ ถูกหามส่งโรงพยาบาล สืบสายปราดเข้าไปดูแลจุลลาด้วยความเป็นห่วง ความเอื้ออาทรที่แสดงออกทางสายตาและการกระทำของสืบสาย ใครเห็นก็ต้องฟันธงว่า เป็นห่วงจุลลามากกว่าแค่เจ้านายลูกน้อง แต่มันคือ ความรักชัดๆ!!!! เดือนพิไลไม่พอใจ และร้อนใจ ร้อนตัวที่ตัวเองกำลังจะตกกระป๋อง ทั้งจากหัวใจของสืบสายและจากอาชีพของตัวเอง!!!! เดือนพิไลมาเอาเรื่องด่าทอจุลลาสาดเสียเทเสีย ทำให้จุลลาอับอายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือที่สาม อ่อยสืบสายเพื่อหวังใช้เต้าไต่ไปเป็นเถ้าแก่เนี้ย!!!! จุลลาไม่เคยอับอายเท่านี้มาก่อน ไม่ใช่เพราะคำด่าอันรุนแรง แต่เป็นเพราะจุลลากำลังกลัวว่าตัวเองจะเป็นอย่างที่เดือนพิไลต่อว่าจริงๆ จุลลากำลังอ่อนไหวให้กับสืบสาย เมื่อสืบสายพาส่งโรงพยาบาลให้หมอเช็กอาการหลังจากที่ถูกทรง ติดตามชมได้ใน "วิมานมะพร้าว"
สืบสายพยายามต่อรอง โยนเงินให้จุลลาเพื่อปิดจ็อบ แต่จุลลาที่รักศักดิ์ศรียิ่งกว่าอะไรทั้งหมดไม่ขอรับเงินแต่ขอขึ้นศาลแทน ต่อให้หมดตัวค่าทนายก็จะฟ้องสืบสายอย่างถึงที่สุด จนกว่าสืบสายจะสำนึกผิดและยอมขอโทษและถอนคำพูดสบประมาทอันแสดงถึงการกดขี่ทางเพศ สืบสายยอมทำตามเงื่อนไขของจุลลา ทั้งที่ในใจ...ยากส์!!!! วันนี้ช่างเป็นวันพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก โชคยังดีที่มอเตอร์ไซค์คู่ใจของจุลลาไม่เสียหาย จุลลาขี่มันอย่างหงุดหงิดกลับบ้าน ที่แบ่งส่วนหนึ่งของพื้นที่เปิดร้านอาหาร "สบายท้อง" ซึ่งมีพ่อและแม่เป็นเชฟประจำร้าน ป้าลำยอง (อุ่นเรือน ราโชติ) เป็นผู้ช่วยแม่ครัว พ่วงด้วยสาวและหนุ่มเสิร์ฟประจำร้าน ลีลา (รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา) และ มะขวิด (ปฐมกฤษณ์ สุดสระ) แต่จุลลาหัวเสียหนักขึ้นอีกเมื่อเห็น ลำยอง ลีลาและมะขวิดกำลังนั่งสุมหัวกันตีความฝันเพื่อหาเลขเด็ดแทงหวย หลังจากที่เมื่อคืนป้าลำยองฝันเห็นผีจับหัว!!!! จุลลาไม่ชอบวิธีคิดที่พึ่งการเสี่ยงโชค คนเราจะรวยหรือจนอยู่ที่การลงมือทำงาน ไม่ใช่รอความหวังลมๆ แล้งๆ ที่มีความน่าจะเป็นตกอยู่ที่ศูนย์ถึงติดลบ!!!! ผลก็คือ ก๊วนฝันกลางวันวงแตก เพราะจุลลาโผล่เข้ามาสลายฝันด้วยสภาพที่น่ากลัวกว่าผีของป้าลำยองเมื่อคืนซะอีก
จำรัสให้กำลังใจจุลลาฮึดสู้ต่อไป ตรงกันข้ามกับดาราที่อยากให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองมีชีวิตและพฤติกรรมสมกับความเป็นผู้หญิง ยุยงให้จุลลาไปเรียนต่อวิศวฯคอมพิวเตอร์ จะได้ไม่ต้องไปรบราราวกับเป็นผู้ชายอกสามศอกเหมือนเดิมอีก หรือจะให้ดีก็ไปเรียนคหกรรม จะได้มาช่วยพ่อแม่ทำร้านอาหาร หรือจะให้ดีที่สุดก็รีบมีหลานให้แม่อุ้มเร็วๆ แต่จุลลาปฏิเสธและยืนยันหนักแน่นกับแม่ว่า ขอเดินทางบนเส้นทางที่ตัวเองเลือกมาตั้งแต่ต้น และที่สำคัญ ไม่ต้องห่วงว่าลูกสาวจะเบี่ยงเบนทางเพศ ยังชอบผู้ชายแต่ไม่คิดจะแต่งงานกับผู้ชาย!!! ยิ่งทำพ่อแม่ตกใจกับคำประกาศอันชวนงง จุลลาให้เหตุผล จนกว่าจะเจอผู้ชายในฝัน หน้าตาดี มีความรู้ สู้เพื่อครอบครัว รั่วบางเวลา ชอบความท้าทาย ไม่กินเหล้า ไม่เจ้าชู้ รักเด็ก อ่อนโยน อ่อนไหว เข้าใจมนุษย์ เข้าวัด ฟังธรรม เต้นกังนัมสไตล์เป็น ฯลฯ สรุป คุณสมบัติเหล่านี้ ไม่มีตัวตน!!! จำรัสรู้ทัน ว่าจุลลาไม่คิดจะแต่งงานเพราะยังไม่เจอผู้ชายที่ดีพอเท่ากับพ่อ แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ความรักฉันท์ชายหญิงในทัศนะของจุลลา ไร้สาระและเสียเวลาชีวิตที่สุด การทำงานต่างหากคือการเติมเต็มชีวิตและหัวใจของเธอ!!!
จุลลาจึงมองข้ามหัว และหัวใจของ พี่โย้ (แมทธิว ดีน) รุ่นพี่ที่คณะ ซึ่งทำงานอยู่ในกระทรวงอุตสาหกรรมที่เทียวไล้เทียวขื่อเป็นลูกค้าประจำของร้าน "สบายท้อง" เพราะหวังจะฝากตัวเป็นผู้ดูแลหัวใจและชีวิตของจุลลา โดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั่นแหละที่ต้องถูกจุลลาดูแลเพราะเมาพับคาร้านทุกคืน แถมจุลลายังต้องพาไปหาหมอรักษาโรคเบาหวาน ความดันและอีกสารพัดโรคที่มาจากการกินไม่เลือกของพี่โย้ พี่โย้ คือ สิ่งตอกย้ำให้จุลลาไม่สนใจผู้ชาย พอจับได้ว่าถูกจีบ จุลลาเสียงแข็ง ประกาศกร้าว ถ้าพี่โย้อยากเลิกคบกับจุลลาแบบถาวรก็เชิญเดินหน้า พี่โย้เลยได้แต่เพียงสงบเสงี่ยมเจียมตัว รอวันหัวใจจุลลาว่างแล้วแวะมา ถึงจะเป็นชาติหน้าพี่โย้ก็จะรอ จุลลาไม่รอให้เสียเวลาชีวิตนาน เกรงจะฟุ้งซ่านจนทำให้ร้าน "สบายท้อง" ของพ่อและแม่ต้องปั่นป่วนเพราะการรับมือพวกขี้เหล้าอันหนักหน่วงและฮาร์ดคอร์ของเธอ จุลลารีบเปิดดูช่องทางหางาน เหมือนเทวดาดลใจ กรอบรับสมัครงานของบริษัท ปาล์มโปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวรายใหญ่ของประเทศไทยกระแทกเข้าตาจุลลาอย่างแรง ที่นี่รับสมัครวิศวกรดูแลเครื่องจักรในโรงงาน 1 ตำแหน่ง จุลลาไม่ฟังเสียงคัดค้านของแม่ ที่ไม่อยากให้ลูกสาวมีชีวิตเปื้อนน้ำมันเครื่องแทนที่จะเป็นเครื่องสำอาง บริษัทปาล์มโปรดักส์ คือจุดหมายที่ต้องไป!!!
ดาราพาจุลลาไปทำสวยที่ร้านของ น้าจ๋อม ที่ปรึกษาทางด้านความสวยความงามของบ้าน อย่างน้อยก็น่าจะทำให้จุลลามีโอกาสได้งานมากกว่ามาดทอมบอยที่เป็นอยู่ แต่จุลลาปฏิเสธเสียงแข็งว่างานที่ทำ คือ ต้องคุมเครื่องจักร ไม่ได้เป็นพริตตี้หรือพรีเซ็นเตอร์ขายเครื่องดื่มคอลลาเจน เป็นอันว่าความพยายามของดาราและน้าจ๋อมตกไป จำรัสชอบใจกับความคิดของลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน จนถูกดาราดุ หาว่าส่งเสริมให้ลูกสาวกลายพันธุ์ จุลลาคงอยู่บนคานจนแก่ ไม่มีใครเลี้ยงดู แต่จำรัสมั่นใจว่าสิ่งที่จุลลาเป็นมันคือ อาวุธที่จะปกป้องอันตรายอันเกิดจากผู้ชายภัยสังคม หากทำสวยจะเป็นการเชิญชวนความเสี่ยงให้เข้ามาหา ถึงจะขึ้นคานก็ไม่เป็นไรพ่อแม่เลี้ยงได้ ไม่ใช่ปัญหา!!!! จุลลานุ่งกระโปรงที่สุภาพที่สุดในการสมัครงาน ซึ่งมีแค่ชุดเดียว แต่ก็ไม่แคร์ แท็กซี่ไม่ใช่ทางเลือก ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ทำเอาดาราและลูกจ้างถอนใจ อ่อนใจกับความ self เกินพิกัดของจุลลา จำรัสอวยพรให้จุลลาได้งานตามที่หวัง แต่ถ้าไม่ได้ก็อย่าผิดหวัง ออกมาช่วยพ่อทำงาน จุลลาต้องรีบตัดบท เพราะเกรงพ่อจะแช่งไปมากกว่านี้ แต่จุลลาก็ไม่โกรธ เพราะรู้ดีว่า พ่อรักและหวงเธอมากขนาดไหน ใจจริงไม่อยากให้ไปไหนไกลหูไกลตา อยากเก็บจุลลาไว้ให้อยู่ในสายตา ตามประสาพ่อที่หวงลูกสาวยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ จะไม่ให้หวงได้ยังไง เพราะจุลลานั้นทั้งเก่งทั้งสวย แต่ไม่คิดจะงัดความสวยออกมาโชว์ ผู้ชายที่จะเข้ามาต้องดีมากกว่าหรือไม่ก็ต้องเสมอกันเท่านั้น!!!
จุลลามุ่งหน้าสู่สถานที่ตั้งของ บริษัท ปาล์มโปรดักส์ ซึ่งอยู่ปริมณฑล เกือบถึงอัมพวานี่ถ้าพ่อแม่รู้ว่าอยู่ไกลขนาดนี้ คงไม่ได้มาสมัครงาน การขี่มอเตอร์ไซค์ในระยะทางขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องน่ายินดี แต่จุลลาก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้งาน เพราะหลายที่ที่ไปมาถูกปฏิเสธหมดด้วยเหตุผล กลัวผู้หญิงไม่สู้งานหนัก ไม่คุ้มเงินเดือน คราวนี้ก็เหมือนกัน จุลลาตั้งใจ หากโดนปฏิเสธด้วยเหตุผลงี่เง่าแบบนี้อีก จะยอมทำงานฟรีในช่วงทดลองงานให้ดูเป็นการแลกเปลี่ยนกับโอกาส!!!! จุลลามาก่อนออฟฟิศโรงงานเปิดทำการ ยามจ่อย (คำไหล เมืองอุบล) ยามรักษาการหน้าประตูผู้เคร่งครัดกฎระเบียบจึงแนะนำให้จุลลามาใหม่ แม้จะเหลือเวลาอีกเพียงครึ่งชั่วโมง ยามจ่อยก็ไม่ยอมแสดงน้ำใจให้เข้าไปรอข้างใน หน้าที่คือหน้าที่!!! จุลลาเดินเล่นเตร็ดเตร่แถวนั้น รู้สึกสบายตาเพราะยังมีสวนมะพร้าวให้เห็นรอบๆ บริเวณโรงงานหลังใหญ่ มองเลยไปอีกนิด คือ คฤหาสน์หลังงามที่เดาว่าเป็นของเจ้าของโรงงานเพราะปลูกสร้างอยู่ในอาณาเขตเดียวกัน แต่ที่สะดุดตาและเหมือนมีแรงดึงดูดให้เดินเข้าไปหาคือ ฮวงซุ้ยแห่งหนึ่ง!!!! ด้วยความเคยชินตามนิสัยที่พ่อแม่สอนมาดีให้รู้จักมารยาทขอนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง จุลลายกมือคำนับเหมือนตัวละครในหนังจีนกำลังภายในเพื่อขออนุญาตก่อนเข้าไปเดินสำรวจ โดยไม่รู้ว่า สายลม เสียงแว่วคล้ายเสียงหัวเราะที่ลอยมาให้ได้ยินนั้น เป็นเสมือนคำทักทายจาก บางสิ่งบางอย่างที่จุลลาไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เห็น เพราะไม่เชื่อว่าจะมีจริง และจะต้องเข้าไปเกี่ยวพันชนิดที่เรียกได้ว่า ยุ่งเหยิง วุ่นวาย ปั่นป่วน และอลเวงอย่างถึงที่สุด!!!! และจุลลากำลังจะได้เห็น แต่ได้เวลาออฟฟิศโรงงานเปิดพอดี จุลลารีบลาเจ้าของฮวงซุ้ยกลับ ทำให้คลาดกับสิ่งเหนือธรรมชาติ!!!!
ไม่ใช่แค่จุลลาที่มาสมัครงาน จุลลาเจอกับ ทรงเดช (อัศนัย เทียนทอง) หนุ่มมาดดี ที่แสดงความเจ้าชู้กะลิ้มกะเหลี่ยจุลลาแม้จะเพิ่งเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก ผลก็คือถูกจุลลาตอกหน้าหงาย และอายคนงาน นับตั้งแต่นั้นทรงเดชจึงแค้นจุลลาฝังหุ่น ในฐานะที่เป็นเพื่อนกับลูกชายของ คุณนายเง็ก (ณหทัย พิจิตรา) และเสี่ยตง (ตระการ พันธุมเลิศรุจี) เจ้าของโรงงาน ที่ได้รับการฝากฝังจากลูกชาย ทำให้คุณนายเง็กและเสี่ยตงจำเป็นต้องรับทรงเดชเข้าทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิต แม้ทั้ง 2 คนจะไม่ชอบนิสัยคุยโม้โอ้อวด ยกตนข่มท่าน ไม่เกรงใจใครของทรงเดชก็ตาม ทำให้จุลลาถอดใจ ผู้หญิงไร้เส้นอย่างเธอคงหมดสิทธิ์ตั้งแต่ยังไม่ได้สัมภาษณ์ แต่คุณนายเง็กกลับถูกชะตาจุลลา ด้วยว่ามีอะไรบางอย่างดลใจ ยิ่งเมื่อรู้วันเดือนปีเกิดก็รีบรับจุลลาทำงานทันทีในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายซ่อมบำรุง โดยไม่ต้องซักอะไรให้มากความ เหตุผลว่าเป็นคนเกิดวันแข็งก็น่าจะเพียงพอสำหรับตำแหน่งนี้ ตรงข้ามกับเสี่ยตงที่พอเห็นว่าจุลลาเป็นผู้หญิงก็หมดความสนใจ แต่ไม่อาจขัดใจภรรยาได้ จุลลาเลยได้ทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายซ่อมบำรุงอย่างงงๆ โดยที่จุลลาไม่รู้ว่า เหตุผลที่จุลลาได้งานไวปานวอกนั้น เพราะคุณนายเง็กได้ปรึกษา อาจารย์เฟื้อง (โย่ง วีระศักดิ์) เรื่องถูกวิญญาณ "เถ้าแก่" (สัญญา คุณากร) พ่อผัวผู้บุกเบิกโรงงานมาเข้าฝันบ่อยๆ แถมยังมาปรากฏให้เห็นตรงหน้า เหมือนมีเรื่องจะสื่อสาร แต่ด้วยความกลัวขึ้นสมอง แม้จะเป็นผีพ่อ คุณนายเง็กและเสี่ยตงเลยเป็นลม จับไข้หัวโกร๋น ตั้งแต่ผี "เถ้าแก่" ยังไม่เปิดปาก อาจารย์เฟื้องนั่งทางใน พยายามสื่อสารกับวิญญาณเถ้าแก่ แต่เถ้าแก่ไม่ยอมคุยด้วย เพราะไม่อยากให้คนนอกรู้เรื่องกิจการภายในครอบครัว อาจารย์เฟื้องจึงแนะนำให้คุณนายเง็กหาคนในที่เกิดวันแข็งและถ้าเป็นวันอังคาร เดือนสาม ปีขาลได้ยิ่งดี และจุลลาก็โดนแจ็กพ็อต!!!!
จุลลาเตรียมตัวทำงาน ในโรงงานที่มีการ turn over สูง หมายถึง คนลาออกเป็นว่าเล่นเพราะเจอดี!!! จากผี "เถ้าแก่" ตามคำบอกเล่าผสมเม้าท์เกินจริงนิดหน่อยของ เจ๊พุ่ม (ประไพ สิโนกทก) ก็อดมาเธอร์ประจำโรงงานที่ไม่มีคนงานคนไหนกล้าแหยม อดีตต้นห้องของคุณนายเง็กตั้งแต่ยังสาว แล้วติดสอยห้อยตามมารับใช้เมื่อคุณนายเง็กแต่งงานกับเสี่ยตง ผี "เถ้าแก่" ในความคิดของคนงาน คือ ผีที่น่ากลัว ตรงกันข้ามกับเถ้าแก่ตอนที่ยังมีชีวิต แต่ผี "เถ้าแก่" คือเรื่องไร้สาระสำหรับจุลลา เพราะจุลลาไม่เคยเห็น เพราะฉะนั้นมันย่อมไม่มีจริง จุลลารู้อะไรๆหลายๆอย่างเกี่ยวกับโรงงานกงสีแห่งนี้จากเจ๊พุ่ม รวมถึงความสัมพันธ์ของ เดือนพิไล (ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) ดารานางแบบที่เคยโด่งดังแต่กำลังร่วงเพราะความ self ชอบเหวี่ยงนักข่าวและพฤติกรรมชอบเลี่ยงภาษีของเธอ กับคุณตี๋ ลูกชายคนเดียวของคุณนายเง็กกับเสี่ยตง ทั้ง 2 รักกันมาก และกำลังจะแต่งงานกัน ถึงแม้คุณนายเง็กจะไม่เห็นด้วยอย่างแรง!!!! เดือนพิไลชอบมาแสดงตัวเป็นว่าที่เจ้าของโรงงาน โดยไม่แคร์พ่อแม่แฟนสักนิดว่าไม่ค่อยพอใจ เพราะเดือนพิไลถือว่า แต่งงานกับลูกชาย ไม่ได้แต่งกับพ่อแม่ แถมยังหาเรื่องพนักงานสาวสวยหรือเห็นว่ามีแนวโน้มว่าสวยให้ถูกไล่ออก เพราะเกรงว่าจะไปทำให้แฟนของเธอหวั่นไหว ไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงของความสัมพันธ์ และเหยื่อคนล่าสุดของเดือนพิไลคือ น้ำหวาน (พิมประภา ตั้งประภาพร) ลูกสาวเฮียเจ้าของโรงงานผลิตถุงบรรจุใส่กะทิซองขนาดเล็ก คู่ค้าของโรงงานมานาน และเพิ่งเรียนจบ ป.ว.ช ซึ่งเฮียพามาฝากฝังไว้กับเสี่ยตงให้ทำงาน
น้ำหวานเพิ่งมาอยู่ใหม่ ทำงานเอกสารทั่วไป ยังไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แค่เดินผ่านเดือนพิไลโดยไม่ทำความเคารพ เป็นอันว่าจบอนาคต!!!! ถูกเดือนพิไลต่อว่า เหวี่ยงไม่มีชิ้นดี จุลลาเข้ามาประสบเหตุ จึงออกตัวช่วยเหลือน้ำหวานให้รอดพ้นจากสถานการณ์เลวร้าย ก่อนที่น้ำหวานจะเสียน้ำตาท่วมโรงงานด้วยความตกใจ เดือนพิไลอาฆาตแค้นจุลลา เสมือนว่าจุลลาไปฆ่าพ่อแม่เดือนพิไลตายอย่างโหดเหี้ยมกระนั้น!!!! จุลลายิ่งจินตนาการอนาคตของโรงงานปาล์มโปรดักส์ไม่ออก หากมีลูกสะใภ้อย่างเดือนพิไล และนึกสมเพชลูกชายของคุณนายเง็กและเสี่ยตง ที่ไปคว้านางมารร้ายมาเป็นแฟน โดยที่จุลลาไม่รู้ว่าลูกชายทายาทโรงงานแห่งนี้คือ สืบสาย ไฮโซหนุ่มคู่คดีเก่าของจุลลานั่นเอง!!!! คุณนายเง็กเอาอกเอาใจจุลลาสารพัด ยิ่งทำให้ทรงเดชหมั่นไส้จุลลา มีโอกาสข่มเมื่อไหร่ทรงเดชไม่รีรอ แต่ก็ใช่ว่าจุลลาจะเป็นหมูให้เคี้ยวเล่นง่ายๆ ทรงเดชไม่อาจทำอะไรจุลลาได้ โดยเฉพาะการเล่นในเกม ยิ่งจุลลาซื้อใจ ไอ้แสบ (ตะวัน จารุจินดา) หัวหน้าช่างได้ เพราะความเอาการเอางาน ยุติธรรม และไม่ถือตัวของจุลลา รวมถึงเมื่อคราวที่จุลลาช่วยน้ำหวาน ( ผู้หญิงที่ตนหลงรัก แม้น้ำหวานจะเกลียดตอบ) จากการขย้ำของเดือนพิไล แสบปวารณาตัวเป็นลูกน้องคนสนิท เพราะคนอย่างแสบบุญคุณต้องทดแทน หนี้แค้นต้องชำระ พ่วงด้วย ไอ้เข่ง (หนุงหนิง สิงหราช) ไอ้หยิก (รวิช ไรวินทร์) และ ไอ้ถัด (จิรพัฒน์ สินสนอง) คนงานร่วมอุดมการณ์ลูกน้องของแสบ ทรงเดชยิ่งเล่นงานจุลลาลำบาก และแล้วทรงเดชก็ได้โอกาส เมื่อสืบสายกลับจากดูงานต่างประเทศ และได้พบจุลลา
สืบสายเรียกจุลลาไปไล่ออก ด้วยเหตุผลนานาประการ ที่ฟังยังไงจุลลาก็ฟังไม่ขึ้น มันเป็นเรื่องของอคติล้วนๆ!!!! ทรงเดชได้ทีเลยใส่ไฟเพิ่ม จุลลาแทบอกระเบิดตายที่ถูกรุมจากผู้ชายที่เต็มไปด้วยอคติทั้ง 2 คน แต่แล้วคุณนายเง็กก็เข้ามาห้ามทัพได้ทันเวลา เหมือนมีอะไรดลใจอีกเช่นเคย และตัดสินปัญหาห้ามใครไล่จุลลาออก ไม่งั้นจะเห็นดีกัน สืบสายเลยขอต่อรอง หากภายใน 6 เดือน จุลลาไม่สามารถทำงานได้ให้ออกไป!!!! จุลลาเต็มใจรับคำท้าอย่างไม่เกรงกลัว !!!! ทรงเดชขอเลขาส่วนตัว อ้างถึงภาพลักษณ์และความรับผิดชอบมากมาย สืบสายเออออห่อหมก เพราะอยากเอาใจให้ทรงเดชทำงานได้เต็มที่ จากประวัติการทำงานอันน่าเชื่อถือที่ทรงเดชที่สร้างมาให้ดู สืบสายเชื่อมั่นทรงเดชมาก และให้อำนาจสิทธิ์ขาดในการดูแลฝ่ายผลิตเต็มที่ โดยเฉพาะจุลลา ที่สืบสายต้องการให้ทรงเดช "กดๆ" เอาไว้บ้าง ไม่ให้กระด้างกระเดื่องจนคุมยาก กลัวจุลลาจะเป็นหัวหน้าม็อบ ก่อการจลาจล ทรงเดชจึงได้น้ำหวานมาเป็นเลขาหน้าห้อง ท่ามกลางความไม่พอใจของไอ้แสบ เพราะไอ้แสบดูออกว่าทรงเดชจ้องจะงาบน้ำหวานตั้งแต่แรกเห็น ไอ้แสบจึงทำเป็นเทียวไล้เทียวขื่อไปเสนอหน้าให้น้ำหวานด่าทุกวัน เพื่อเช็กความปลอดภัยและเป็นก้างขวางคอ แต่แสบอ้างว่าไปให้หญิงด่าเหมือนหญิงให้พร จะได้ทำงานอย่างสบายใจ จุลลารู้ใจลูกน้องดีว่าชอบปิดทองหลังพระ เลยตักเตือนพอเป็นพิธี ไม่ให้ไปเหยียบหางทรงเดช ถ้าไม่อยากเดือดร้อนวุ่นวาย
เมื่อทรงเดชเห็นว่าสืบสายคอยให้ท้าย จึงตั้งหน้าตั้งตา "กดขี่" จุลลา ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ทรงเดชสั่งเดินหน้าผลิตโอเวอร์โหลด จนทำให้เครื่องจักรเสีย จุลลาและแสบ พร้อมลูกน้องต้องเร่งแก้ไขกันอย่างหนักจนดึกดื่น คุณนายเง็กบังคับให้จุลลาค้างที่คฤหาสถ์ ด้วยความเป็นห่วงสวัสดิภาพและแอบภาวนาให้จุลลาเจอกับผีเตี่ย จะได้รู้ว่าผีเตี่ยยังมีห่วงอะไรถึงได้ไม่ไปผุดไปเกิด จุลลาจำใจต้องใส่ชุดนอนสีหวานแหววที่ ป้าเมี่ยง แม่บ้านอาวุโสของคฤหาสน์เตรียมให้ จะได้เอาชุดทำงานของจุลลาที่เลอะน้ำมันเครื่องไปซัก ขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับ จุลลาก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อ "อาหลูจุง" มาจากที่ไหนสักแห่ง ไกลๆ จุลลาออกตามหา ก็ได้เห็นชายจีนชราในชุดกางเกงแพร เสื้อกุยเฮงสีขาว หวีผมเรียบแปล้ ยืนรออยู่ที่ระเบียง จุลลาคิดว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของคฤหาสถ์ที่เล่นสัปดนปีนระเบียง ไม่ทันที่ชายจีนชราจะได้พูดอะไร ก็ถูกจุลลาเอ็ดตะโรโวยวายไล่ให้กลับห้อง จนทำให้ทุกคนในบ้านตื่นกันหมด!!! และพากันมาดู ชายจีนชราก็หายแวบไป จุลลาเล่ารายละเอียดให้ฟังก็ทำให้ทุกคนขนหัวลุก เพราะลักษณะทั้งหมดที่ว่ามาคือ "เตี่ย"..."อากง"..."เจ้าสัว"...ที่ตายไปแล้ว!!!! แถมด้วยรูปถ่ายของท่านที่แขวนอยู่บนผนัง ซึ่งจุลลาไม่ได้สังเกตเห็นตั้งแต่แรกเป็นการยืนยันว่า...เป็นคนๆเดียวกันแน่นอน!!!
จุลลาเจอผีเป็นครั้งแรก คุณนายเง็กลุ้นอยากรู้ว่าคุยอะไรกัน แต่จุลลาปิดปากเงียบสนิท เมื่อความเชื่อถูกทำลาย แถมถูกสืบสายหัวเราะเยาะ เพราะสืบสายเองก็ไม่เชื่อเรื่องผีเรื่องวิญญาณ จุลลาประกาศต่อหน้ารูปเถ้าแก่ ว่าอย่ามาให้เห็นอีก!!!! แต่เถ้าแก่ก็ไม่ละความพยายามที่จะสื่อสารกับจุลลาให้ได้ ตามไปหลอกหลอน อ้อนวอน ขอร้อง แต่ก็ไม่ได้ผล เถ้าแก่จอมเจ้าเล่ห์เลยไปแผลงฤทธิ์กับ ไอ้แสบ เจ๊พุ่ม และคนงานคนอื่นๆ เป็นอันว่าเสียงานเสียการกันเป็นแถบๆ ทรงเดชที่จ้องจะเล่นงานจุลลาอยู่แล้วจากการที่เครื่องจักรเสีย ทำให้ปริมาณการผลิตเสียหาย แต่ไม่สำเร็จเพราะสืบสายไม่เอาเรื่อง เพราะจุลลาและลูกน้องแสดงหลักฐานยืนยันได้ว่า ความผิดเกิดจากการสั่งการเดินเครื่องการผลิตที่มากเกินไปของทรงเดช คราวนี้ทรงเดชจึงหยิบมาเป็นประเด็นอีก เตรียมเล่นงานฝ่ายซ่อมบำรุงของจุลลา จุลลาจึงยอมเจรจากับผีเถ้าแก่จนได้ แต่ก็ปกปิดไม่ให้ใครรู้ เพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด จะเป็นการเพิ่มงานของตัวเองโดยใช่เหตุ ถ้าใครรู้ว่าจุลลาสื่อสารกับเถ้าแก่ได้เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าใครๆ โดยเฉพาะกับสืบสาย ที่จ้องจับผิดจุลลาทุกฝีก้าว แล้วจุลลาก็เห็นใจเถ้าแก่ที่กลายเป็นผีติดอยู่ในฮวงซุ้ย ไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้เพราะยังเป็นห่วงโรงงานและที่ดิน ที่เสี่ยตงเอาไปจำนองแบงก์ หาเงินทุนขยายโรงงานให้ใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิต นัยว่าอยากรวยขึ้นไปอีกเยอะๆ!!! เถ้าแก่กลัวหลุดจำนอง แต่ความกลัวนี้ไม่เท่ากับการรู้ว่า เสี่ยตงกำลังพยายามจะระดมเงินทุนในตลาดหลักทรัพย์เพราะขี้เกียจกู้แบงก์ แต่เถ้าแก่ไม่อยากทำอะไรเกินตัว และมีคำว่ากำไรของผู้ถือหุ้นเข้ามาบีบ ทำให้วิถีการทำงานและการดูแลคนเปลี่ยนแปลงไป เถ้าแก่อยากอยู่กันแบบพี่น้อง ลูกหลาน ดูแลกันและกัน เพราะต้องพึ่งพาอาศัยกันมากกว่าเดินเครื่องแบบทุนนิยมเต็มสูบ!!!
จุลลานึกนับถือวิธีคิดของเถ้าแก่จอมเจ้าเล่ห์ ถึงแม้กิตติศัพท์ของเถ้าแก่ยามที่มีชีวิตอยู่จะมีแต่คำว่า งก ขี้เหนียว แต่ตอนนี้จุลลารู้แล้วว่า เถ้าแก่งกเพื่อให้เม็ดเงินและกำไรตกถึงมือลูกจ้างให้มากที่สุดในรูปแบบของเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นทุกปีพร้อมโบนัสปลายปีไม่ได้ขาด!!! แต่จุลลาก็ต้องประหลาดใจเมื่อรู้จากปากเถ้าแก่ว่า สืบสายไม่เห็นด้วยกับเสี่ยตง และพยายามจะสืบสานแนวคิดของอากง เถ้าแก่ยืนยันว่าสืบสายเป็นคนดี อาจจะงี่เง่าในบางครั้ง แต่เป็นเพราะถูกเลี้ยงมาอย่างลูกชายคนเดียว ย่อมต้องเป็นใหญ่ที่สุด จุลลาอยากเอาสืบสายให้อยู่หมัด ก็ต้องใช้ไม้นวมแทนไม้แข็งบ้าง ที่สำคัญจุลลาเป็นคนเดียวที่จะช่วยเหลือโรงงานนี้ต่อไปได้ อยากให้จุลลาอยู่เคียงข้างสืบสายเพื่อต่อสู้กับการเอาโรงงานเข้าตลาดหุ้น จุลลาเหมาะจะเป็นหลานสะใภ้มากกว่าเดือนพิไล จุลลาสะดุ้งเฮือก ออกตัวว่าไม่อยากยุ่งกับสืบสาย เพราะไม่อยากเปิดศึกกับเดือนพิไล ยิ่งถูกเถ้าแก่ชี้โพรง จุลลายิ่งอึดอัดและขัดเขินหากต้องใกล้ชิดสืบสาย พยายามเลี่ยงให้ห่างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำงาน ขยันขันแข็ง จนเป็นที่ชื่นชมของคุณนายเง็กและเสี่ยตง ออกปากอยากได้เป็นลูกสะใภ้ เรื่องเข้าหูเดือนพิไล โดยการคาบข่าวของทรงเดช
เดือนพิไลมาหาเรื่องจุลลาถึงร้าน เจ๊อ้อย อาหารตามสั่ง ซึ่งเป็นร้านประจำของจุลลาและไอ้แสบ ประกาศลั่น "ผัวข้าใครอย่าแตะ" คนงานร้องฮือ!!!! ที่เดือนพิไลกล้าพูดว่าสืบสายเป็นผัว แต่แล้วจู่ๆ สืบสายก็ปรากฏตัวที่ร้านเจ๊อ้อย เหมือนมีอะไรดลใจ (คงหนีไม่พ้นผีอากง ที่ต้องการเลื่อยขาเตียงสืบสายกับเดือนพิไลและเปิดโอกาสให้จุลลาเข้ามาใกล้ชิดสืบสายให้ได้) ทำให้เห็นด้านมืดของเดือนพิไลที่สืบสายไม่เคยเห็นมาก่อน นอกจากหน้ากากของสาวสวยแสนดีเข้าใจคนที่เดือนพิไลใส่เข้าหา สืบสายปรามเดือนพิไล อย่าพูดอะไรเกินเลย เดือนพิไลรีบแก้ตัวกลัวว่าจะเสียคะแนน ว่าเข้าใจจุลลาผิดเพราะทรงเดชเป็นต้นเหตุ ทรงเดชโกรธเดือนพิไลที่โบ้ยเอาตัวรอดกันเห็นๆ!!!! สืบสายขอโทษจุลลาแทนเดือนพิไล จุลลาไม่ถือคนบ้าไม่ว่าคนเมา แต่อยากให้สืบสายเปิดหูตาให้กว้าง จะได้มองเห็นว่าคนใกล้ชิดแต่ละคนมันงูพิษทั้งนั้น สืบสายเอะใจกลับมาไตร่ตรอง พยายามลบอคติที่มีต่อจุลลา ชั่งน้ำหนักอย่างแรง เพราะจุลลาได้พิสูจน์ให้สืบสายเห็นแล้วว่า สามารถทำงานได้ดีมากแค่ไหน และถนัดที่จะทำงานมากกว่าพูด คำยืนยันของคนงาน เจ๊พุ่ม และพ่อแม่เป็นเสียงสนับสนุนได้เป็นอย่างดี วิจารณญาณของสืบสายกลับมาทำงานร้อยเปอร์เซ็นต์อีกครั้ง แต่ทรงเดชยิ่งร้อนรน ยิ่งจุลลาได้ดี แปลว่า ทรงเดชจะยิ่งอยู่ลำบาก เพราะจุลลาประกาศแล้วว่า เมื่อต่างคนต่างอยู่กันดีๆไม่ได้ ต่อไปนี้อย่าได้หวังว่าจุลลาจะยอมหลบให้ทรงเดช แรงมา แรงไป เสียเลือดเป็นเสีย!!!!
สืบสายสั่งให้ทรงเดชปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น แทนที่จะคอยหาเรื่องจุลลา อยากเห็นผลงานเพิ่มคุณภาพตามที่เคยโฆษณาตัวเองเอาไว้ว่าเคยทำให้กับโรงงานผลิตสัปปะรดกระป๋องที่ฮาวายเพิ่มการผลิตได้สามสิบเปอร์เซ็นต์มาแล้วจากการเอ็นจิเนียริ่งของตัวเอง ทรงเดชรับปาก ทำได้ไม่ยาก!! ทรงเดชเริ่มกระบวนการเพิ่มคุณภาพการผลิต ด้วยการเริ่มต้นจากการเพิ่มวินัยให้กับคนงานก่อน ทุกคนจะต้องมาเคารพธงชาติตอนแปดโมงเช้า และฟังการอบรมจากทรงเดชถึงวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพอีกครึ่งชั่วโมง รวมถึงการให้น้ำหวานทำแผ่นประกาศคำขวัญ ให้คนงานได้เห็นได้อ่านอย่างทั่วถึง จุลลาเป็นคนแรกที่ไม่ปฏิบัติตาม เพราะเห็นว่าทำให้เสียเวลาการทำงาน!!! และปัญญาอ่อนที่สุด!!!! ทรงเดชเดือดดาลไปฟ้องสืบสาย ว่าจุลลาทำตัวเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาองค์กร ขอให้สืบสายไล่ออก แต่สืบสายกลับสั่งให้ทรงเดชยกเลิกกระบวนการเพิ่มผลผลิตของทรงเดชทันที และคาดโทษ หากยังไม่มีผลงานให้เห็นภายในสิ้นเดือนนี้ มีผลให้ออกจากงานทันที โดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย เพราะถือว่า ไม่ผ่านการทดลองงาน
ทรงเดชกลับบ้านด้วยความแค้นใจ!!!!!!!!!!!! จึงเริ่มแผนใหม่!!!! ทรงเดชเสนองบซื้อเครื่องจักรใหม่ล็อตใหญ่ และขอไปเลือกซื้อด้วยตัวเองที่ญี่ปุ่น เถ้าแก่มาปรากฏตัวเตือนจุลลา ว่าทรงเดชกำลังเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ คิดโกงบริษัท หาเงินเข้ากระเป๋า เมื่อเห็นว่าตัวเองอาจจะถูกไล่ออก แต่เมื่อเหตุการณ์ยังไม่เกิด จุลลาไม่สามารถออกตัวทำอะไรได้ จึงรับปากเถ้าแก่ว่าจะไปเตือนสืบสายให้เพิ่มความรอบคอบก่อนจะตัดสินใจอนุมัติงบ แต่ก็สายไปเสียแล้ว สืบสายเซ็นอนุมัติเรียบร้อย เพราะทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส มีเอกสารเสนอราคายืนยันจากบริษัทผู้ผลิตที่อยู่ในงบประมาณ ที่สืบสายเช็กแล้วว่าเป็นราคาตลาดไม่ได้แพงผิดปกติแต่อย่างใด จุลลายังติดใจสงสัยต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล นอกจากจะรู้สึกได้เองเพราะจุลลารู้จักนิสัยของทรงเดช ที่สั่งซื้อของฟุ่มเฟือยเข้าโต๊ะตัวเองโดยใช้เงินบริษัท ใช้รถใช้น้ำมันบริษัทไปกับเรื่องส่วนตัว และอื่นๆ อีกมากมายที่น้ำหวานเล่าให้ฟังแทบจะไม่ไหว อันแสดงถึงนิสัยคดในข้องอในกระดูกและสันดานโกงทุกเม็ดของทรงเดชแล้ว ยังถูกผีเถ้าแก่บิ้วท์อยู่ทุกวันอีกต่างหาก ว่าสืบสายจะต้องเดือดร้อนเพราะทรงเดช สืบสายต้องไล่ทรงเดชออกในสามวันเจ็ดวัน มิฉะนั้น จะซวยไปสามปีเจ็ดปี!!!!!
สืบสายห่างเหินจากเดือนพิไล เพราะภาระหน้าที่การงานที่เสี่ยตงมอบหมายให้สืบสายเป็นกรรมการผู้จัดการ เพื่อแบ่งเบาภาระ เนื่องจากปัญหาเรื่องสุขภาพ ส่วนจุลลาก็ต้องรากเลือดเมื่อพบว่า เครื่องจักรจากญี่ปุ่นทีเพิ่งสั่งซื้อมานั้น เริ่มเกเร เสียซะแล้ว!!!!! ต้องเร่งซ่อมกันหามรุ่งหามค่ำ แถมวิศวกรชาวญี่ปุ่นที่ถูกส่งมาเทรนการใช้เครื่องก็สื่อสารกันยากลำบาก เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จุลลาต้องสั่งให้ลูกน้องซ่อมให้ใช้งานได้ไปก่อน แล้วค่อยรายงานสืบสาย!!!! แต่ใช่ว่าจะแก้กันได้ง่ายๆ แถมคืนนั้นจุลลาต้องไปร่วมงานครบรอบ 20 ที่ก่อตั้งโรงงานที่คฤหาสน์ จุลลาทิ้งหน้าที่การซ่อมเครื่องจักรใหม่แต่เก่าไว้ให้แสบชั่วคราว เพราะต้องไปทำหน้าที่สำคัญนั่นคือ แกล้งทำเป็นถูกผีเถ้าแก่เข้าสิง เพื่อทำให้สืบสาย คุณนายเง็ก และเสี่ยตง ไล่ทรงเดชที่เป็นคนขี้โกงออกไปจากโรงงานตามคำสั่งของเตี่ย ไม่งั้น เตี่ยจะไม่ไปไหน!!!!! จุลลาตื่นเวที เพราะเกิดมาก็ไม่เคยเป็นร่างทรงที่ไหน โชคดีที่ได้ไปศึกษาแอ็กติ้งจากเจ๊พุ่ม ที่ว่างๆก็แอบรับจ็อบเป็นคนทรง ใบ้หวยไปตามเรื่อง แต่ผีเถ้าแก่ก็พยายามปลอบให้จุลลาหายเครียด เมื่อถึงเวลา ร่างทรงผีเถ้าแก่กำมะลอก็เริ่มปฏิบัติการ!!!!! สืบสาย คุณนายเง็ก เสี่ยตง ทรงเดช เดือนพิไล และคนอื่นๆ แตกตื่นกันทั้งงานที่จุลลาล้มตึง แล้วลุกขึ้นมาตาขวาง และออกตัวว่าเป็นเตี่ยอาตง!!!! จุลลาพูดตามคำพูดของเถ้าแก่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ทุกประการ พุ่งเป้าไปที่ทรงเดชว่าโกงบริษัท ซื้อเครื่องจักรเก่าแล้วมาเหมาว่าเป็นของใหม่ ทรงเดชโวยวายหาว่าจุลลาแกล้ง นี่ไม่ใช่ผีเถ้าแก่!!!
เถ้าแก่จึงยืนยันเรื่องที่ไม่มีใครรู้ นอกจากเถ้าแก่ เสี่ยตงและคุณนายเง็กเท่านั้นที่รู้ คือ ชื่อเก่าของโรงงานปาล์มโปรดักส์ คือ เอี่ยจี้เทียนติ๊งเชี่ยง ที่แปลว่า วิมานมะพร้าว!!!! ซึ่งเสี่ยตงถือวิสาสะเปลี่ยนโดยที่เตี่ยไม่เต็มใจ เสี่ยตงและคุณนายเง็กคอนเฟิร์มทันทีว่า ผีเตี่ยแน่แล้ว!!!! ทรงเดชไม่ยอมแพ้ผีเถ้าแก่ วิ่งไปขย้ำคอจุลลาโยกไปมาเพื่อพิสูจน์ว่าผีหรือคนกันแน่ที่เป็นคนพูด ครั้นจะรอให้เถ้าแก่แก้สถานการณ์ก็เกรงว่าจะขาดอากาศหายใจซะก่อน เพราะเถ้าแก่มัวแต่ตะลึง จุลลาจึงรวบรวมพลังนักยูโดสายดำเหรียญทองตัวแทนมหาวิทยาลัยสี่ปีซ้อนเข้าจัดการทรงเดชจนล้มคว่ำ ถูกหามส่งโรงพยาบาล สืบสายปราดเข้าไปดูแลจุลลาด้วยความเป็นห่วง ความเอื้ออาทรที่แสดงออกทางสายตาและการกระทำของสืบสาย ใครเห็นก็ต้องฟันธงว่า เป็นห่วงจุลลามากกว่าแค่เจ้านายลูกน้อง แต่มันคือ ความรักชัดๆ!!!! เดือนพิไลไม่พอใจ และร้อนใจ ร้อนตัวที่ตัวเองกำลังจะตกกระป๋อง ทั้งจากหัวใจของสืบสายและจากอาชีพของตัวเอง!!!! เดือนพิไลมาเอาเรื่องด่าทอจุลลาสาดเสียเทเสีย ทำให้จุลลาอับอายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือที่สาม อ่อยสืบสายเพื่อหวังใช้เต้าไต่ไปเป็นเถ้าแก่เนี้ย!!!! จุลลาไม่เคยอับอายเท่านี้มาก่อน ไม่ใช่เพราะคำด่าอันรุนแรง แต่เป็นเพราะจุลลากำลังกลัวว่าตัวเองจะเป็นอย่างที่เดือนพิไลต่อว่าจริงๆ จุลลากำลังอ่อนไหวให้กับสืบสาย เมื่อสืบสายพาส่งโรงพยาบาลให้หมอเช็กอาการหลังจากที่ถูกทรง ติดตามชมได้ใน "วิมานมะพร้าว"