ละคร ฟ้าจรดทราย
ดู 3,374 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 12 สิงหาคม 2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:25 - 22:45 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | สยาม สังวริบุตร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | โสภาค สุวรรณ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | ดาราวิดีโอ |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ ฟ้าจรดทราย
ณ โรงเรียนคอนแวนต์ของคณะชีที่มีชื่อในฝรั่งเศสตอนเหนือ มิเชลล์ เดอลาโรนีล์ (อุษามณี ไวทยานนท์) ได้เติบโตขึ้นที่นี่หลังจากพ่อกับแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเครื่องบิน และญาติพี่น้องไม่มีใครยอมรับเพราะมีแม่เป็นชาวตะวันออกที่ถูกรังเกียจ เธอสำนึกบุญคุณที่คอนแวนต์แห่งนี้รับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าเช่นเธอจึงตั้งใจจะเรียนเป็นชีแต่ แคชฟียา (มรกต กิตติสาระ) เพื่อนสาวชาวตะวันออกไกลได้ชวนมิเชลล์ไปช่วยทำงาน เพราะเธอคิดจะเปิดโรงเรียน แม่อธิการ (อาลิษา ขจรไชยกุล) จึงให้ทุนมิเชลล์เข้ามาเรียนในปารีสและพักในอารามของชี ส่วนแคชฟีก็เรียนที่ปารีส แต่อาศัยอยู่กับพี่ชาย - พี่สะใภ้ของเธอซึ่งทำงานในสถานฑูต แคชฟียามีแฟนชื่อ โรแบร์ (ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) ตั้งใจว่าเรียนจบแล้วจะตามไปทำงานที่เมืองเกซาห์ เมืองท่าของประเทศซูดานของแคชฟียา พี่ชายแคชฟียารู้ก็กีดกันโรแบร์เพราะต่างชาติต่างศาสนากัน ไม่เป็นที่ยอมรับของชนชาติของเธอ
เมื่อเรียนจบ มิเชลล์กลับมาลาแม่อธิการและบอกว่าจะไปทำงานที่เมืองเกซาห์ โรแบร์ได้งานในบ่อน้ำมันเมืองหลวงของซูดาน และแอบมาพบแคชฟียาที่เกซาห์ เธอขอร้องไห้มิเชลล์ช่วยเพราะมิเชลล์เป็นชาวต่างชาติสามารถพบกันอย่างเปิดเผย ซึ่งผิดกับที่เมืองนี้ห้ามหญิงชายพบกันตามลำพังยกเว้นสามีภรรยากัน มิเชลล์ไม่เห็นด้วยเพราะผิดประเพณีของเกซาห์ แคชฟียาโกรธมิเชลล์ไม่ช่วยและว่ามิเชลล์แอบชอบโรแบร์ ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ มิเชลจึงต้องทำตามเพราะแคชฟียาเปลี่ยนไปมากหลังจากกลับมายังบ้านของเธอ คือชอบแสดงอำนาจและข่มขู่เหมือนกับที่เคยทำกับพวกทาสในบ้านของเธอ พอนัดพบกับโรแบร์ได้ เขากลับแสดงความรักต่อมิเชลล์และขอเธอแต่งงาน เพราะระหว่างเขากับแคชฟีนั้นมีอุปสรรคเกินไป แคชฟียาแอบได้ยินทั้งสองคุยกันหลังจากนั้นเธอก็แสดงตัวเป็นเจ้านายและข่มขู่มิเชลล์ เธอรู้สึกเสียใจที่เพื่อนรักเปลี่ยนไปมาก
แม่ของแคชฟีบอกว่าจะส่งตัวแคชฟีเข้าวังเพื่อเป็นมเหสีของ องค์อาหเม็ดที่ 3 (อานัส ฬาพานิช) ของนคร ฮิลฟารา เพราะโหรหลวงได้ทำนายว่าท่านจะได้มเหสีผู้มาจากแดนไกลและมีความรู้อันหมายถึงแคชฟียาที่เพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศสนั่นเอง หญิงผู้นี้จะให้โอรสแก่ราชวงศ์เป็นคนแรก แคชฟีกลุ้มใจมากเพราะไม่อยากไปอยู่ในฮาเร็ม วันต่อมาแคชฟียาจับเด็กในบ้านคนหนึ่งที่แอบส่งจดหมายนัดของโรแบร์มาให้มิเชลล์ หล่อนลงมือตบตีเด็กอย่างแค้นใจ และมีแผนการใหม่สำหรับมิเชลล์
ที่โฮเต็ลอุลดรารัน ที่นัดพบกับโรแบร์ เขาชวนเธอแต่งงานและกลับไปอยู่ฝรั่งเศส แต่มิเชลล์ไม่สามารถรับข้อเสนอได้ และแคชฟียาแอบตามไปด้วย ขณะอยู่ในห้องอาหารได้มีการต้อนรับแขกคนสำคัญขององค์อาหเม็ด ซึ่งมาจากอาฟริกา คืนนั้นเป็นครั้งแรกที่มิเชลล์ได้เห็นทหารองครักษ์ที่มาจากในวังขององค์อาหเม็ด เมื่อกลับมาบ้านเศรษฐีเกซาห์ มิเชลล์พบว่าแคชฟียากำลังขับไล่แม่ลูกจัสปาลชื่อ ติเยาะ (รชยา รักกสิกรณ์) กับ มูฮา ซึ่งเป็นเด็กที่แอบมาส่งจดหมายให้เธอนั่นเอง เธอรู้สึกสงสารติเยาะ แม่กับมูฮาลูกชายที่ต้องเดือนร้อนเพราะเธอ มิเชลล์แอบให้เงินแม่คู่นั้นไปเป็นการขอโทษ
วันที่ได้ฤกษ์ส่งตัว แคชฟียาหลอกให้มิเชลล์ไปตามที่ทางวังนัดมารับตัวโดยให้เธอปิดหน้าตาประเพณี เมื่อมาถึงทุกคนตกใจที่มิเชลล์กลายเป็นหญิงชาวต่างชาติ เป็นที่กังขาขององค์อาหเม็ดและพระอนุชา องค์โอมาน มิเชลล์ได้เห็นองครักษ์คนนั้นอีกครั้งในวังแห่งนี้ องค์โอมานสั่งให้ประหารชีวิตมิเชลล์ตามกฎของผู้ลักลอบสับเปลี่ยนตัวเข้ามาในวัง แต่เมื่อองค์รักษ์ผู้นี้ทูลถึงสกุลเดลาโรนีล์แก่องค์อาหเม็ดทราบ จึงรับสั่งให้สืบถามข้อเท็จจริง เพราะท่าทางของมิเชลล์เหมือนไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก่อน พันเอกชารีฟ (ธีรภัทร์ สัจจกุลราช) องครักษ์รับหน้าที่ไต่สวนมิเชลล์ จนแน่ใจว่าเธอบริสุทธิ์ เมื่อแคชฟียารู้ว่ามิเชลล์ไม่ถูกประหารชีวิตก็บ้าคลั่งเสียสติจนบิดาต้องพาไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ
องค์อาหเม็ด (อานัส ฬาพานิช) ขอให้มิเชลล์เป็นครูสอนภาษาต่างประเทศในวังต่อไป และต้องถวายตัวเป็นมเหสี เพราะมิเชลล์ถูกนำตัวเข้ามาในวังตามฤกษ์ดีที่โหรทำนายไว้ มิเชลล์ขอเวลาตัดสินใจ และจะให้คำตอบหลังจากพระองค์เสด็จกลับจากเมืองอิชฟาอัคเพื่อเยี่ยมเจ้าชายอับดุลลา (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) พระญาติที่นั่น มิเชลล์ได้พักอยู่กับ เจ้าหญิงฟารีดา (กชกร นิมากรณ์) มเหสีขององค์โอมานและเธอได้รับความเมตตาเอ็นดูจากเจ้าหญิงเป็นอย่างดีเธอมี อะมีนา (ประดับดาว คุ้มแพรวพรรณ) คนรับใช้เป็นเพื่อนสนิทและคอยเล่าเรื่องความเป็นไปภายในวังให้ฟังอยู่เสมอ รวมทั้งเรื่องของพันเอกชารีฟ
วันที่องค์อาหเม็ดเสด็จกลับจากอิชฟาอัค องค์โอมานได้ก่อการกบฏยึดอำนาจขึ้นอย่างไม่คาดคิด แล้วลอบปลงพระชนม์องค์อาหเม็ด เพราะกลัวจะเสียอำนาจและต้องการเป็นใหญ่ เมื่อเจ้าหญิงฟารีดาทรงทราบก็ผิดหวังต่อการกระทำของพระสวามี จึงขอเสด็จกลับไปเกซาห์บ้านเกิด เพราะไม่เคยทรงเห็นด้วยกับแผนการทั้งปวงตั้งแต่ต้นแล้ว อะมีนารีบมาส่งข่าวให้มิเชลล์เพื่อนำไปแจ้งพันเอกชารีฟเรื่องการก่อกบฏโดยด่วนแล้วอะมีนาก็ถูกเจ้าซาอิ๊บ (ทองขาว ภัทรโชคชัย) สมุนของโอมานฆ่าตายหลังมิเชลล์จากไปไม่นาน เมื่อไปถึงที่พักพันเอกชารีฟให้มิเชลล์ปลอมตัวเป็นผู้ชายและเปลี่ยนชื่อเป็นตาฟา แล้วพาลอบหนีออกไปชายแดนจากการตามล่าของซาอิ๊บ และถูกกล่าวหาว่าราชองครักษ์ชารีฟเป็นศัตรูกับกษัตริย์องค์ใหม่
อับดุลเลาะ (สมชาย ปาตัน) พ่อค้าชาวเบดูอินได้นำเงินทองมาดักรอชารีฟเพื่อมอบให้จากพ่อ-แม่ของเขาเอง และให้แฝงตัวอยู่ในคาราวานม้ากับอูฐหนีเข้าไปยังเขตทะเลทรายและมอบทั้งสองให้ ฟูรอ (อมตะ อินทานนท์ )หัวหน้าคาราวานอีกคณะหนึ่งที่ได้รับค่าจ้างจากอับดุลเลาะอีกต่อหนึ่งนำทั้งสองร่วมขบวนไปยังโฮไดดะ แต่ก็แอบขายอาวุธใหักับชีคแห่งคาฟราด้วย เมื่อเดินทางถึงโอเอซีสโฮไดดะ ชารีฟขอซื้อปืนต่อจากฟูรอไว้บางส่วน พร้อมอูฐแล้วเดินทางต่อไป โดยไม่แวะเข้าไปโฮไดดะเพราะมีตำรวจทหารลาดตระเวณของโอมานอยู่ ชารีฟกับมิเชลล์ต้องฝ่าฟันพายุทะเลทหารอยู่หลายวันและเสบียงเริ่มหมด ทั้งสองเริ่มเห็นอกเห็นใจกันและพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนรอดพ้นการตรวจจับของทหาร จนมาถึงโอเอซีสกุไวอิยา เป็นที่ห่างไกลจากโอเอซีสอื่นทำให้ไม่มีผู้คนหรือสัตว์อยู่ที่นี่ เมื่อพักกินน้ำทำความสะอาดร่างกายและนอนพักผ่อน จากนั้นก็เดินทางเขาเขตหมู่บ้านกลางทะเลทรายจาอุฟ ซึ่งใช้เลาถึง 3 วัน ชาริฟมีเพื่อนเป็น
ชีคอัสมัน (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์)อยู่ที่นั่น ทั้งสองได้พบพ่อค้าพี่น้อง นะหมัด (กษาปณ์ จำปาดิบ) กับ กาเซ็ม (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) บนถนนในเมืองจาอุฟ เนื่องจากเจ้ากาเซ็มขี้เมาพี่น้องจึงต้องออกไปพักแรมนอกเมือง เพราะในจาอุฟมีการปล้นสดมภ์ และวุ่นวายกันพอสมควร ชารีฟได้พบชีคอัสมัน ซึ่งกำลังป่วยเป็นฝี ชารีฟช่วยรักษาจนหาย ทำให้หมอโบราณ (สีเทา เพ็ชรเจริญ) ที่เคยรักษาชีคอัสมันแต่ไม่หายรู้สึกไม่พอใจที่ชารีฟใช้วิชาแพทย์สมัยใหม่เข้ามารักษา ชารีฟเล่าเรื่องกบฎโอมานให้ชีคอัสมันฟังเขาแนะนำให้รู้จักกับเด็กรับใช้ชื่อตาฟา ยูซุฟ คนสนิทของชีคขอให้ชาริฟไปรักษาพ่อของเขาที่ไม่สบายมานานชารีฟรักษาพ่อเฒ่าให้หายในเวลาอันสั้น ต่อมาคณะคาราวานสินค้าของชีคอัสมันถูกโจร ตูอิค ปล้นทำร้ายขณะเดินทางกลับมาจากตลาดค้าสัตว์ เมืองซากากา ชาริฟกับมิเชลล์ทำหน้าที่ดูแลรักษาคนของชีค
ขณะทำแผลผ่าตัด หมอโบราณแอบเห็นเหรียญประจำตัวของราชองครักษ์ของชารีฟ จึงนำไปบอกทหารฝ่ายโอมานให้ตามมาฆ่าสมความแค้นของหมอเฒ่า ผลการรักษาคนบาดเจ็บเป็นไปโดยราบรื่น เป็นที่พอใจของชีคอัสมัน และต้องการชารีฟกับตาฟาเป็นลูกเขย จึงวางแผนให้ยูชุฟ (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) ชารีฟและตาฟาเดินทางไปยังซากากา เพื่อขายแพะและอูฐและให้ตำรวจทะเลทรายไล่ล่าจนไม่มีที่อยูและกลับมายังจาอุฟในที่สุด แต่บังเอิญชารีฟได้ช่วยชีวิตยูซุฟจากคนของหัวหน้าโจรตูอิดที่ชื่อ บูชิค (สุเอช พูลสวน) จนเจ้ามือมีดตายคาที่ ยูซุฟจึงตอบแทนชารีฟด้วยการบอกความจริงเกี่ยวกับแผนของซีคอัสมัน ยูซุฟวางแผนให้ชารีฟกับตาฟาแยกออกจากกองคาราวาน และให้เดินทางอีกอาทิตย์หนึ่งจึงจะพบกับโอเอซีสแห่ง อานาอีซา ซึ่งมีนครกลางทะเลทรายอยู่ที่นั่น มีเบดูอินต่างเผ่าพักรวมกันจึงทำให้ปลอดภัยในการลี้ภัย ถึงอานาอีซาจะใกล้เมืองฮิลฟาราเข้าไป แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะไม่ใช่เมืองการค้าเหมือนซากากา ตำรวจจึงไม่อยากไปวุ่นวายด้วย
ก่อนออกเดินทางมิเชลล์ขอชารีฟไปเดินซื้อของในตลาด และแอบเห็นพี่น้องนะหมัดกับกาเซ็มกำลังเป็นสายให้ตำรวจเร่งจับตัวชารีฟโดยด่วน เพราะได้เงินค่าจ้างให้มาบอกตำรวจกับหมอโบราณแล้ว มิเชลล์รีบมาบอกชารีฟ ในตอนกลางคืนทั้งสองจึงเริ่มเดินทางพร้อมเสบียงเต็ม ขณะหยุดพักวันที่สามของการเดินทางออกจากซากากา โจรบูชิคกับพวกตามมาทำร้าย และจะฆ่าชารีฟกับมิเชลล์หลังจากตามไปฆ่ายูซุฟมาแล้ว แต่บูชิคเห็นดาบองครักษ์ติดตัวชารีฟจึงไม่กล้าทำอะไร และรีบทำลายข้าวของพร้อมกับปล้นอูฐไปจนหมด ก่อนที่เครื่องบินลาดตระเวรจะมาพบแล้วมันก็จะถูกทำโทษฐานทำร้ายคนของกษัตริย์ ชารีฟเจ็บหนักเพราะถูกซ้อม อูฐ น้ำและเสบียงถูกปล้น ทั้งสองทรมานต่อความอดทนยากมากชารีฟเมื่อรู้ตัวก็สารภาพรักกับมิเชลล์จนหมดหัวใจ ทั้งสองมอบรักให้แก่กันท่ามกลางทะเลทรายแห่งนั้น
4 วันผ่านไปภาวะขาดน้ำและอาหารทำให้มิเชลล์กำลังจะตาย แม้แต่ชารีฟเองก็กำลังจะไม่รอดเช่นกัน เมื่อความมืดมาจึงมีดวงไฟสว่างอยู่ไกลๆ ทำให้ชารีฟพยายามพาร่างมิเชลล์ไปถึงที่นั่นให้ได้ โชคดีที่เป็นครอบครัวเบดูอินของติเยาะ จัสปาลนั่นเอง นางจำมิเชลล์ได้และให้ความช่วยเหลือแต่ อาลี พี่ชายของติเยาะไม่เชื่อเพราะมิเชลล์แต่งกายเป็นชาย ชารีฟจึงต้องบอกว่ามิเชลล์เป็นเมีย เขาจึงเชื่อ แต่ทั้งสองไม่รู้ว่าชาริฟเป็นใคร และให้เดินทางไปโอเอซีสอานาอีซาด้วย กิเยาะเห็นเหรียญห้อยคอที่ชารีฟเหมือนกับผู้มาพักในกระโจมใหญ่บนเนินเขาที่นางเคยพบเมื่อคราวที่แล้ว จึงมาเล่าให้อาลีฟัง และให้อาลี (กลศ อัทธเสรี) ไปแจ้งคนที่กระโจมใหญ่ซึ่งเป็นมิตรกับทุกคน เมื่อไปถึงผู้เฝ้ากระโจมได้นำอาลีกับอิเยาะไปพบหัวหน้าใหญ่ แล้วให้รีบนำชายหญิงที่อาลีบอกรูปพรรณสัณฐานมาเข้าพบ เมื่อชารีฟพบหัวหน้าใหญ่ ก็รีบทำความเคารพตามประเพณี เพราะเขาคือองค์อาหเม็ดที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่นั่นเอง ทรงรอดมาได้ด้วยท่านนายพลมุสคัต (ฤทธิ์ ลือชา) บิดาของอะมีนา ช่วยเหลือออกมาจากวังได้ และยังได้เจ้าชายอับดุลลาแห่งอิชฟาอัค มาประทับอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเป็นกำลังด้วย
ส่วนมิเชลล์ได้ถูกส่งตัวไปอยู่ในฮาเร็มรวมกับมเหสีองค์อาหเม็ด (อุษณีย์ วัฒฐานะ) และจะจัดพิธีแต่งงานกับชาริฟให้เมื่อยึดฮิลฟาราคืนได้สำเร็จ เมื่อได้ทหารเอกกลับมาองค์อาหเม็ดได้วางแผนโจมตียึดราชบัลลังก์คืน โดยวางแผนให้ชารีฟกับ การีม สัปเปลี่ยนตัวศาสตราจารย์โมฮัมหมัด แพทย์ที่จะไปผ่าตัดองค์โอมานที่ประชวร แผนการดำเนินไปอย่างเงียบๆ มีสายคอยรายงานความคืบหน้าของการเดินทางของชารีฟและการีมตลอด โดยเดินทางโดยรถไฟไปยังด้านฝั่งทะเล ลงเรือสินค้าแอบเข้าเมืองที่ศาตราจารย์มูฮัมหมัดอยู่ และทั้งสองก็ถูกนำตัวเข้าวังในฐานะศาสตราจารย์และผู้ช่วยแพทย์แต่องค์โอมานใช้แผนซ้อนแผนจับตัวชาริฟกับการิมไว้ได้ โดยจับทหารลาดตระเวณมาสอบถามอย่างทารุณ และดักจับวิทยุสื่อสาร แต่กองทัพองค์อาหเม็ดเห็นความผิดปกติจึงรีบยกทัพเข้ามาล้อมเมืองฮิลฟาราได้สำเร็จ
เจ้าชายโอมานให้ชาริฟต่อสู่ตัวต่อตัวด้วยวิชามีดวงเดือนที่โอมานเป็นหนึ่งไม่มีใครทาบติด แต่ชารีฟเองก็ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีโดยคำสั่งขององค์อาหเม็ดเช่นกันองค์โอมานถูกปลิดชีวิตลง กบฎพ่ายแพ้เพราะไม่มีผู้นำ องค์หญิงฟารีดา ขอเสด็จไปอยู่เมืองท่านอกเมืององค์อาหเม็ดจัดพิธีสมรสให้กับชารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ กับมิเชลล์อย่างสมเกียรติ
เมื่อเรียนจบ มิเชลล์กลับมาลาแม่อธิการและบอกว่าจะไปทำงานที่เมืองเกซาห์ โรแบร์ได้งานในบ่อน้ำมันเมืองหลวงของซูดาน และแอบมาพบแคชฟียาที่เกซาห์ เธอขอร้องไห้มิเชลล์ช่วยเพราะมิเชลล์เป็นชาวต่างชาติสามารถพบกันอย่างเปิดเผย ซึ่งผิดกับที่เมืองนี้ห้ามหญิงชายพบกันตามลำพังยกเว้นสามีภรรยากัน มิเชลล์ไม่เห็นด้วยเพราะผิดประเพณีของเกซาห์ แคชฟียาโกรธมิเชลล์ไม่ช่วยและว่ามิเชลล์แอบชอบโรแบร์ ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ มิเชลจึงต้องทำตามเพราะแคชฟียาเปลี่ยนไปมากหลังจากกลับมายังบ้านของเธอ คือชอบแสดงอำนาจและข่มขู่เหมือนกับที่เคยทำกับพวกทาสในบ้านของเธอ พอนัดพบกับโรแบร์ได้ เขากลับแสดงความรักต่อมิเชลล์และขอเธอแต่งงาน เพราะระหว่างเขากับแคชฟีนั้นมีอุปสรรคเกินไป แคชฟียาแอบได้ยินทั้งสองคุยกันหลังจากนั้นเธอก็แสดงตัวเป็นเจ้านายและข่มขู่มิเชลล์ เธอรู้สึกเสียใจที่เพื่อนรักเปลี่ยนไปมาก
แม่ของแคชฟีบอกว่าจะส่งตัวแคชฟีเข้าวังเพื่อเป็นมเหสีของ องค์อาหเม็ดที่ 3 (อานัส ฬาพานิช) ของนคร ฮิลฟารา เพราะโหรหลวงได้ทำนายว่าท่านจะได้มเหสีผู้มาจากแดนไกลและมีความรู้อันหมายถึงแคชฟียาที่เพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศสนั่นเอง หญิงผู้นี้จะให้โอรสแก่ราชวงศ์เป็นคนแรก แคชฟีกลุ้มใจมากเพราะไม่อยากไปอยู่ในฮาเร็ม วันต่อมาแคชฟียาจับเด็กในบ้านคนหนึ่งที่แอบส่งจดหมายนัดของโรแบร์มาให้มิเชลล์ หล่อนลงมือตบตีเด็กอย่างแค้นใจ และมีแผนการใหม่สำหรับมิเชลล์
ที่โฮเต็ลอุลดรารัน ที่นัดพบกับโรแบร์ เขาชวนเธอแต่งงานและกลับไปอยู่ฝรั่งเศส แต่มิเชลล์ไม่สามารถรับข้อเสนอได้ และแคชฟียาแอบตามไปด้วย ขณะอยู่ในห้องอาหารได้มีการต้อนรับแขกคนสำคัญขององค์อาหเม็ด ซึ่งมาจากอาฟริกา คืนนั้นเป็นครั้งแรกที่มิเชลล์ได้เห็นทหารองครักษ์ที่มาจากในวังขององค์อาหเม็ด เมื่อกลับมาบ้านเศรษฐีเกซาห์ มิเชลล์พบว่าแคชฟียากำลังขับไล่แม่ลูกจัสปาลชื่อ ติเยาะ (รชยา รักกสิกรณ์) กับ มูฮา ซึ่งเป็นเด็กที่แอบมาส่งจดหมายให้เธอนั่นเอง เธอรู้สึกสงสารติเยาะ แม่กับมูฮาลูกชายที่ต้องเดือนร้อนเพราะเธอ มิเชลล์แอบให้เงินแม่คู่นั้นไปเป็นการขอโทษ
วันที่ได้ฤกษ์ส่งตัว แคชฟียาหลอกให้มิเชลล์ไปตามที่ทางวังนัดมารับตัวโดยให้เธอปิดหน้าตาประเพณี เมื่อมาถึงทุกคนตกใจที่มิเชลล์กลายเป็นหญิงชาวต่างชาติ เป็นที่กังขาขององค์อาหเม็ดและพระอนุชา องค์โอมาน มิเชลล์ได้เห็นองครักษ์คนนั้นอีกครั้งในวังแห่งนี้ องค์โอมานสั่งให้ประหารชีวิตมิเชลล์ตามกฎของผู้ลักลอบสับเปลี่ยนตัวเข้ามาในวัง แต่เมื่อองค์รักษ์ผู้นี้ทูลถึงสกุลเดลาโรนีล์แก่องค์อาหเม็ดทราบ จึงรับสั่งให้สืบถามข้อเท็จจริง เพราะท่าทางของมิเชลล์เหมือนไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก่อน พันเอกชารีฟ (ธีรภัทร์ สัจจกุลราช) องครักษ์รับหน้าที่ไต่สวนมิเชลล์ จนแน่ใจว่าเธอบริสุทธิ์ เมื่อแคชฟียารู้ว่ามิเชลล์ไม่ถูกประหารชีวิตก็บ้าคลั่งเสียสติจนบิดาต้องพาไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ
องค์อาหเม็ด (อานัส ฬาพานิช) ขอให้มิเชลล์เป็นครูสอนภาษาต่างประเทศในวังต่อไป และต้องถวายตัวเป็นมเหสี เพราะมิเชลล์ถูกนำตัวเข้ามาในวังตามฤกษ์ดีที่โหรทำนายไว้ มิเชลล์ขอเวลาตัดสินใจ และจะให้คำตอบหลังจากพระองค์เสด็จกลับจากเมืองอิชฟาอัคเพื่อเยี่ยมเจ้าชายอับดุลลา (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) พระญาติที่นั่น มิเชลล์ได้พักอยู่กับ เจ้าหญิงฟารีดา (กชกร นิมากรณ์) มเหสีขององค์โอมานและเธอได้รับความเมตตาเอ็นดูจากเจ้าหญิงเป็นอย่างดีเธอมี อะมีนา (ประดับดาว คุ้มแพรวพรรณ) คนรับใช้เป็นเพื่อนสนิทและคอยเล่าเรื่องความเป็นไปภายในวังให้ฟังอยู่เสมอ รวมทั้งเรื่องของพันเอกชารีฟ
วันที่องค์อาหเม็ดเสด็จกลับจากอิชฟาอัค องค์โอมานได้ก่อการกบฏยึดอำนาจขึ้นอย่างไม่คาดคิด แล้วลอบปลงพระชนม์องค์อาหเม็ด เพราะกลัวจะเสียอำนาจและต้องการเป็นใหญ่ เมื่อเจ้าหญิงฟารีดาทรงทราบก็ผิดหวังต่อการกระทำของพระสวามี จึงขอเสด็จกลับไปเกซาห์บ้านเกิด เพราะไม่เคยทรงเห็นด้วยกับแผนการทั้งปวงตั้งแต่ต้นแล้ว อะมีนารีบมาส่งข่าวให้มิเชลล์เพื่อนำไปแจ้งพันเอกชารีฟเรื่องการก่อกบฏโดยด่วนแล้วอะมีนาก็ถูกเจ้าซาอิ๊บ (ทองขาว ภัทรโชคชัย) สมุนของโอมานฆ่าตายหลังมิเชลล์จากไปไม่นาน เมื่อไปถึงที่พักพันเอกชารีฟให้มิเชลล์ปลอมตัวเป็นผู้ชายและเปลี่ยนชื่อเป็นตาฟา แล้วพาลอบหนีออกไปชายแดนจากการตามล่าของซาอิ๊บ และถูกกล่าวหาว่าราชองครักษ์ชารีฟเป็นศัตรูกับกษัตริย์องค์ใหม่
อับดุลเลาะ (สมชาย ปาตัน) พ่อค้าชาวเบดูอินได้นำเงินทองมาดักรอชารีฟเพื่อมอบให้จากพ่อ-แม่ของเขาเอง และให้แฝงตัวอยู่ในคาราวานม้ากับอูฐหนีเข้าไปยังเขตทะเลทรายและมอบทั้งสองให้ ฟูรอ (อมตะ อินทานนท์ )หัวหน้าคาราวานอีกคณะหนึ่งที่ได้รับค่าจ้างจากอับดุลเลาะอีกต่อหนึ่งนำทั้งสองร่วมขบวนไปยังโฮไดดะ แต่ก็แอบขายอาวุธใหักับชีคแห่งคาฟราด้วย เมื่อเดินทางถึงโอเอซีสโฮไดดะ ชารีฟขอซื้อปืนต่อจากฟูรอไว้บางส่วน พร้อมอูฐแล้วเดินทางต่อไป โดยไม่แวะเข้าไปโฮไดดะเพราะมีตำรวจทหารลาดตระเวณของโอมานอยู่ ชารีฟกับมิเชลล์ต้องฝ่าฟันพายุทะเลทหารอยู่หลายวันและเสบียงเริ่มหมด ทั้งสองเริ่มเห็นอกเห็นใจกันและพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนรอดพ้นการตรวจจับของทหาร จนมาถึงโอเอซีสกุไวอิยา เป็นที่ห่างไกลจากโอเอซีสอื่นทำให้ไม่มีผู้คนหรือสัตว์อยู่ที่นี่ เมื่อพักกินน้ำทำความสะอาดร่างกายและนอนพักผ่อน จากนั้นก็เดินทางเขาเขตหมู่บ้านกลางทะเลทรายจาอุฟ ซึ่งใช้เลาถึง 3 วัน ชาริฟมีเพื่อนเป็น
ชีคอัสมัน (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์)อยู่ที่นั่น ทั้งสองได้พบพ่อค้าพี่น้อง นะหมัด (กษาปณ์ จำปาดิบ) กับ กาเซ็ม (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) บนถนนในเมืองจาอุฟ เนื่องจากเจ้ากาเซ็มขี้เมาพี่น้องจึงต้องออกไปพักแรมนอกเมือง เพราะในจาอุฟมีการปล้นสดมภ์ และวุ่นวายกันพอสมควร ชารีฟได้พบชีคอัสมัน ซึ่งกำลังป่วยเป็นฝี ชารีฟช่วยรักษาจนหาย ทำให้หมอโบราณ (สีเทา เพ็ชรเจริญ) ที่เคยรักษาชีคอัสมันแต่ไม่หายรู้สึกไม่พอใจที่ชารีฟใช้วิชาแพทย์สมัยใหม่เข้ามารักษา ชารีฟเล่าเรื่องกบฎโอมานให้ชีคอัสมันฟังเขาแนะนำให้รู้จักกับเด็กรับใช้ชื่อตาฟา ยูซุฟ คนสนิทของชีคขอให้ชาริฟไปรักษาพ่อของเขาที่ไม่สบายมานานชารีฟรักษาพ่อเฒ่าให้หายในเวลาอันสั้น ต่อมาคณะคาราวานสินค้าของชีคอัสมันถูกโจร ตูอิค ปล้นทำร้ายขณะเดินทางกลับมาจากตลาดค้าสัตว์ เมืองซากากา ชาริฟกับมิเชลล์ทำหน้าที่ดูแลรักษาคนของชีค
ขณะทำแผลผ่าตัด หมอโบราณแอบเห็นเหรียญประจำตัวของราชองครักษ์ของชารีฟ จึงนำไปบอกทหารฝ่ายโอมานให้ตามมาฆ่าสมความแค้นของหมอเฒ่า ผลการรักษาคนบาดเจ็บเป็นไปโดยราบรื่น เป็นที่พอใจของชีคอัสมัน และต้องการชารีฟกับตาฟาเป็นลูกเขย จึงวางแผนให้ยูชุฟ (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) ชารีฟและตาฟาเดินทางไปยังซากากา เพื่อขายแพะและอูฐและให้ตำรวจทะเลทรายไล่ล่าจนไม่มีที่อยูและกลับมายังจาอุฟในที่สุด แต่บังเอิญชารีฟได้ช่วยชีวิตยูซุฟจากคนของหัวหน้าโจรตูอิดที่ชื่อ บูชิค (สุเอช พูลสวน) จนเจ้ามือมีดตายคาที่ ยูซุฟจึงตอบแทนชารีฟด้วยการบอกความจริงเกี่ยวกับแผนของซีคอัสมัน ยูซุฟวางแผนให้ชารีฟกับตาฟาแยกออกจากกองคาราวาน และให้เดินทางอีกอาทิตย์หนึ่งจึงจะพบกับโอเอซีสแห่ง อานาอีซา ซึ่งมีนครกลางทะเลทรายอยู่ที่นั่น มีเบดูอินต่างเผ่าพักรวมกันจึงทำให้ปลอดภัยในการลี้ภัย ถึงอานาอีซาจะใกล้เมืองฮิลฟาราเข้าไป แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะไม่ใช่เมืองการค้าเหมือนซากากา ตำรวจจึงไม่อยากไปวุ่นวายด้วย
ก่อนออกเดินทางมิเชลล์ขอชารีฟไปเดินซื้อของในตลาด และแอบเห็นพี่น้องนะหมัดกับกาเซ็มกำลังเป็นสายให้ตำรวจเร่งจับตัวชารีฟโดยด่วน เพราะได้เงินค่าจ้างให้มาบอกตำรวจกับหมอโบราณแล้ว มิเชลล์รีบมาบอกชารีฟ ในตอนกลางคืนทั้งสองจึงเริ่มเดินทางพร้อมเสบียงเต็ม ขณะหยุดพักวันที่สามของการเดินทางออกจากซากากา โจรบูชิคกับพวกตามมาทำร้าย และจะฆ่าชารีฟกับมิเชลล์หลังจากตามไปฆ่ายูซุฟมาแล้ว แต่บูชิคเห็นดาบองครักษ์ติดตัวชารีฟจึงไม่กล้าทำอะไร และรีบทำลายข้าวของพร้อมกับปล้นอูฐไปจนหมด ก่อนที่เครื่องบินลาดตระเวรจะมาพบแล้วมันก็จะถูกทำโทษฐานทำร้ายคนของกษัตริย์ ชารีฟเจ็บหนักเพราะถูกซ้อม อูฐ น้ำและเสบียงถูกปล้น ทั้งสองทรมานต่อความอดทนยากมากชารีฟเมื่อรู้ตัวก็สารภาพรักกับมิเชลล์จนหมดหัวใจ ทั้งสองมอบรักให้แก่กันท่ามกลางทะเลทรายแห่งนั้น
4 วันผ่านไปภาวะขาดน้ำและอาหารทำให้มิเชลล์กำลังจะตาย แม้แต่ชารีฟเองก็กำลังจะไม่รอดเช่นกัน เมื่อความมืดมาจึงมีดวงไฟสว่างอยู่ไกลๆ ทำให้ชารีฟพยายามพาร่างมิเชลล์ไปถึงที่นั่นให้ได้ โชคดีที่เป็นครอบครัวเบดูอินของติเยาะ จัสปาลนั่นเอง นางจำมิเชลล์ได้และให้ความช่วยเหลือแต่ อาลี พี่ชายของติเยาะไม่เชื่อเพราะมิเชลล์แต่งกายเป็นชาย ชารีฟจึงต้องบอกว่ามิเชลล์เป็นเมีย เขาจึงเชื่อ แต่ทั้งสองไม่รู้ว่าชาริฟเป็นใคร และให้เดินทางไปโอเอซีสอานาอีซาด้วย กิเยาะเห็นเหรียญห้อยคอที่ชารีฟเหมือนกับผู้มาพักในกระโจมใหญ่บนเนินเขาที่นางเคยพบเมื่อคราวที่แล้ว จึงมาเล่าให้อาลีฟัง และให้อาลี (กลศ อัทธเสรี) ไปแจ้งคนที่กระโจมใหญ่ซึ่งเป็นมิตรกับทุกคน เมื่อไปถึงผู้เฝ้ากระโจมได้นำอาลีกับอิเยาะไปพบหัวหน้าใหญ่ แล้วให้รีบนำชายหญิงที่อาลีบอกรูปพรรณสัณฐานมาเข้าพบ เมื่อชารีฟพบหัวหน้าใหญ่ ก็รีบทำความเคารพตามประเพณี เพราะเขาคือองค์อาหเม็ดที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่นั่นเอง ทรงรอดมาได้ด้วยท่านนายพลมุสคัต (ฤทธิ์ ลือชา) บิดาของอะมีนา ช่วยเหลือออกมาจากวังได้ และยังได้เจ้าชายอับดุลลาแห่งอิชฟาอัค มาประทับอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเป็นกำลังด้วย
ส่วนมิเชลล์ได้ถูกส่งตัวไปอยู่ในฮาเร็มรวมกับมเหสีองค์อาหเม็ด (อุษณีย์ วัฒฐานะ) และจะจัดพิธีแต่งงานกับชาริฟให้เมื่อยึดฮิลฟาราคืนได้สำเร็จ เมื่อได้ทหารเอกกลับมาองค์อาหเม็ดได้วางแผนโจมตียึดราชบัลลังก์คืน โดยวางแผนให้ชารีฟกับ การีม สัปเปลี่ยนตัวศาสตราจารย์โมฮัมหมัด แพทย์ที่จะไปผ่าตัดองค์โอมานที่ประชวร แผนการดำเนินไปอย่างเงียบๆ มีสายคอยรายงานความคืบหน้าของการเดินทางของชารีฟและการีมตลอด โดยเดินทางโดยรถไฟไปยังด้านฝั่งทะเล ลงเรือสินค้าแอบเข้าเมืองที่ศาตราจารย์มูฮัมหมัดอยู่ และทั้งสองก็ถูกนำตัวเข้าวังในฐานะศาสตราจารย์และผู้ช่วยแพทย์แต่องค์โอมานใช้แผนซ้อนแผนจับตัวชาริฟกับการิมไว้ได้ โดยจับทหารลาดตระเวณมาสอบถามอย่างทารุณ และดักจับวิทยุสื่อสาร แต่กองทัพองค์อาหเม็ดเห็นความผิดปกติจึงรีบยกทัพเข้ามาล้อมเมืองฮิลฟาราได้สำเร็จ
เจ้าชายโอมานให้ชาริฟต่อสู่ตัวต่อตัวด้วยวิชามีดวงเดือนที่โอมานเป็นหนึ่งไม่มีใครทาบติด แต่ชารีฟเองก็ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีโดยคำสั่งขององค์อาหเม็ดเช่นกันองค์โอมานถูกปลิดชีวิตลง กบฎพ่ายแพ้เพราะไม่มีผู้นำ องค์หญิงฟารีดา ขอเสด็จไปอยู่เมืองท่านอกเมืององค์อาหเม็ดจัดพิธีสมรสให้กับชารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ กับมิเชลล์อย่างสมเกียรติ