ละคร เจ้าหญิงขอทาน
ดู 4,017 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | |||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 6 มกราคม 2550 | |||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:00 น. |
|||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ณรงค์ จารุจินดา | |||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | สินี เต็มสงใส | |||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||
|
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ เจ้าหญิงขอทาน
ไผทเทพ นักข่าวหนุ่มมีน้องสาวชื่อ ผดาชไม ทั้งคู่เป็นบุตรของคุณหญิงผจงจิต มีน้าสาวฝาแฝดอยู่ในบ้านด้วยคือประพากับประไพ ไผทเทพทำงาน ที่สำนักพิมพ์สยามราษฎร์โดยเป็นคู่หูกับบก.โกศล ไผทเทพมักจะทำสกู๊ปข่าวปลกๆ และได้รับความนิยมจากผู้อ่านอยู่เสมอ วันหนึ่งไผทเทพได้พบกับฟ้าใส ซึ่งเป็นเด็กสาวขอทานที่แกล้งทำเป็นขาเจ็บ เขาสังเกตได้ว่าเป็นแผลปลอมเพราะบางครั้งเป็นข้างซ้ายบ้างข้างขวาบ้าง เขาจึงไปขอสัมภาษณ์เธอ เพื่อไปทำสกู๊ปขอทาน
ฟ้าใสคิดว่าไผทเทพเป็นตำรวจปลอมตัวมาจึงใช้ไม้ค้ำยันขาตีจนไผทเทพตกบันไดสะพานลอยและวิ่งหนีไปเจอกับจ้อยซึ่งเป็นขอทานต่างแก๊งค์กัน จ้อยเข้าใจว่าฟ้าใสมาขอทานข้ามเขตจึงจะจับตัวไป ขณะหลบหนีฟ้าใสเห็นร้านะวันแดงติดป้ายว่ามีงานประกวดแฟนซี ฟ้าใสจึงถูกชักชวนให้เข้าไป ในงานเพราะเข้าใจว่าแต่งแฟนซีเป็นขอทานมา พอจะกลับก็พบกับไผทเทพซึ่งมาเป็นกรรมการตัดสินการประกวดแฟนซี เขาจะพาเธอขึ้นรถให้ได้ แต่ฟ้าใสกลับฉกกระเป๋าเงินของเขาได้แล้วหนีรอดไป พอกลับถึงบ้านเจอวิเชียรเป็นหัวหน้าแก๊งค์ สะอาดแม่ของฟ้าใสเป็นภรรยาของวิเชียร
ฟ้าใสนำกระเป๋าเงินของไผทเทพมาเปิดดูเห็นบัตรสำคัญต่าง ๆ หลายใบ เธอจึงเอาเงินไว้และให้เด็กในแก๊งค์เอากระเป๋าไปคืนไผทเทพ คุณหญิงผจงจิต ประพากับประไพ พยายามเกลี้ยกล่อมให้ไผทเทพแต่งงานกับมิ่งสมรลูกสาวของอภิชาติกับมัทรี แต่ไผทเทพไม่ชอบเพราะมัทรีกับมิ่งสมร เป็นคนงมงายเรื่องไสยศาสตร์ ไผทเทพเขียนข่าวเกี่ยวกับเรื่องบ่อนและซ่องจึงทำให้ถูกลอบทำลายเขา
ไผทเทพจึงเดินทางออกไปจากโรงพิมพ์ไปพบฟ้าใสที่เธอนั่งขอทานอยู่ที่แห่งใหม่ ไผทเทพบังคับให้ฟ้าใสไปนั่งทานข้าวด้วยกันกับเขา ครั้นอิ่มแล้ว เขาก็ จะสัมภาษณ์เธอ กลับถูกฟ้าใสแกล้งทำให้ไผทเทพไม่ได้สัมภาษณ์ ฟ้าใสตั้งใจจะไปเรียนที่การศึกษานอกโรงเรียนเพื่อจะได้มีอนาคตที่ดี สะอาดจึงขอร้องวิเชียรให้ฟ้าใสไปเรียนหนังสือ แต่วิเชียรคัดค้านเพราะเกรงว่าจะขาดรายได้ แต่ฟ้าใสก็อ่าน เขียน คิดเลขได้เพราะมีบุญเติมเพื่อนรุ่นพี่ร่วมแก๊ง ที่เอ็นดู คอยช่วยสอนหนังสือ นอกจากนี้ฟ้าใสยังเรียนภาษาใบ้กับนกเล็กเพื่อนขอทานด้วยกัน
สะอาดชวนฟ้าใสกับนกเล็กไปอาศรมเจ้าพ่อหลวงปู่ครูฤาษีเพื่อขอเลขเด็ดมาแทงหวยบนดิน พอดีมัทรีกับมิ่งสมรชวนครอบครัวของไผทเทพ ไปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองด้วย ไผทเทพกับมิ่งสมรออกมาเดินเล่นจะถ่ายรูปกัน แต่มิ่งสมรเห็นฟ้าใสนั่งคุยภาษาใบ้จึงพูดจาดูถูกเหยียดหยามฟ้าใสกับนกเล็ก ฟ้าใสจึงวิ่งราวกล้องถ่ายรูปของไผทเทพไปเพื่อแก้เผ็ด แต่ในขณะที่หลบหนีก็เจอกับเดชซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งขอทานต่างเขต ที่มีเบื้องหลังเป็นเอเย่นต์ หาผู้หญิงส่งไปขายตัว ส่วนวิเชียรมีบ่อนการพนัน เดชขอซื้อฟ้าใสจากวิเชียรเพื่อนำไปเป็นสินค้า ในจำนวนห้าแสนบาท แต่อยากได้ตัวฟ้าใสก่อนที่จะ ขายเธอไป จึงคิดรวบหัวรวบหางฟ้าใสจึงหลอกให้สะอาดออกไปนอกบ้านแล้วเข้าไปปล้ำฟ้าใสในห้อง
ฟ้าใสสู้แรงของวิเชียรไม่ได้แต่รู้ว่าวิเชียรเป็นคนบ้าจี้จึงจี้สะดือให้วิเชียรลุกขึ้นเต้น เธอเลยวิ่งหนีออกมาได้แต่ก็ปรากฏว่าเป็นรถของไผทเทพ ฟ้าใสจนแต้มจึงรับปากกับเขาว่าจะเอากล้องถ่ายรูปไปคืนเขา ในวันสงกรานต์ขอทานในแก๊งของวิเชียรกลับบ้านที่ต่างจังหวัดกันหมด ฟ้าใสแอบรู้ว่า วิเชียรจะปล้ำเธออีก จึงจ้างให้โสเภณีมานอนรออยู่แทน เพื่อหลอกให้วิเชียรเข้าใจว่านอนกับตนแล้วแล้วก็เอากล้องของไผทเทพมาถ่ายรูปไว้ ฟ้าใสไปพบกับไผทเทพ มีคนร้ายมาลอบยิงเขาอีก แต่ฟ้าใสเห็นก่อนจึงผลักเขาล้มลงทันและตามไปจับตัวคนร้ายได้ทำให้ไผทเทพซาบซึ้งในตัวฟ้าใส
จากนั้นวิเชียรให้สมุนที่บ่อนไปโปะยาสลบจับฟ้าใสไปขัง ฟ้าใสได้สติขึ้นจึงพยายามหาทางออก และดีใจที่เห็นกลุ่มคนใบ้เพื่อนของนกเล็กเดินผ่าน ฟ้าใสทำสัญญาณมือให้มาช่วยเหลือ กลุ่มคนใบ้จึงบุกเข้ามาชิงตัวฟ้าใสออกมาได้ ฟ้าใสไปหาไผทเทพแล้วแจ้งตำรวจ ตำรวจเพื่อนของไผทเทพแกะรอย ตามไปจนถึงถิ่นที่เดชกับวิเชียรร่วมมือกัน ทำงานนอกกฎหมาย คืนนั้นตำรวจก็เข้าทลายบ่อนและซ่องของคนทั้งสอง ฟ้าใสกลับบ้านตัดสินใจ เล่าเรื่องให้ สะอาด ฟังว่าวิเชียรปล้ำเธอหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จจึงจับตัวเธอไป สะอาดสารภาพว่าฟ้าใสไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของตน มัทรีกับมิ่งสมรลงข่าวใน หนังสือพิมพ์ ทำนองว่าไผทเทพกับโกศลเป็นพวกไม้ป่าเดียวกัน ไผทเทพรู้ก็โกรธแถมยิ่งหงุดหงิดเมื่อคุณหญิงผจงจิตเร่งเร้าเรื่องงานแต่งงานกับมิ่งสมร
ไผทเทพจึงเอ่ยปากบอกทุกคนว่าผู้หญิงคนแรกที่พบในวันนี้จะเป็นคนที่เขาจะแต่งงานด้วย สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดเมื่อฟ้าใส หลบหนีมาจากแก๊งค์ขอทาน และมายืนรอไผทเทพอยู่ที่หน้าบ้าน ไผทเทพเลยต้องตกบันไดพลอยโจนขอฟ้าใสแต่งงานโดยมีสัญญาว่าเป็นการแต่งงานกันเพียงในนามเท่านั้นฟ้าใสก็ต้องการที่จะออกจากแก๊งค์จึงตกลงยอมที่จะแต่งงานหลอก ๆ กับไผทเทพ โดยรู้กันแค่สองคน ทำให้มิ่งสมรแค้นใจมาก
ไผทเทพกับฟ้าใสแต่งงานกันอย่างเรียบง่าย และมีความสนิทสนมกันมากขึ้น ทั้งคู่พากันไปเที่ยวตามที่ต่างๆ บนเกาะที่มีธรรมชาติงดงาม ทำให้ทั้งคู่รู้ สึกดีต่อกัน ฟ้าใสทำให้ไผทเทพประหลาดใจด้วยการแต่งชุดแบบสาวชาวเกาะฮาวาย พร้อมกับกล่าวอวยพรวันเกิดไผทเทพ ทางกรุงเทพฯ มัทรี พยายามวิ่งเต้นไปหาเจ้าพ่อเจ้าแม่หลายสำนักด้วยความเชื่อว่า ฟ้าใสทำเสน่ห์ใส่ไผทเทพ และยุยงให้คนที่บ้านคุณหญิงผจงจิตเชื่อเช่นนั้นด้วย เมื่อ กลับกรุงเทพฯ บุญเติมบอกฟ้าใสว่าอยากไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่ห่วงบัวบูชาลูกสาว
ฟ้าใสจึงขออนุญาตจากไผทเทพนำบัวบูชามาเลี้ยงที่บ้านของเขาและส่งเข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาล ชีวิตของฟ้าใสหลังแต่งงานกับไผทเทพ ไม่มีความสุขนัก เพราะคุณหญิงผจงจิตและน้าสาวทั้งสองไม่ชอบฟ้าใสเป็นอย่างมาก ส่วนมิ่งสมรก็ไม่เลิกมาหาเรื่องระรานฟ้าใสเสมอ มัทรีกับมิ่งสมร ไม่ละความพยายามที่ต้องการไผทเทพ จึงไปหาอาจารย์ทางไสยศาสตร์ กลับกลายเป็นวิเชียรหลอกทั้งสองแม่ลูกว่าเป็นอาจารย์ทำเสน่ห์ จะหาวิธีช่วย มิ่งสมร ล้างเสน่ห์ของฟ้าใสจากไผทเทพและทำเสน่ห์ให้มิ่งสมรแทน แต่กลับถูกหลอกให้ดื่มน้ำผสมยานอนหลับทำให้มัทรีเคลิ้มหลับไป และมิ่งสมรถูกข่มขืนจนท้อง ทำให้มัทรีโมโหฆ่าวิเชียรตายจนเป็นข่าวครึกโครม มีอยู่วันหนึ่งมีสุนัขตัวหนึ่งดิ้นหลุดวิ่งเข้าในบ้านวิ่งชนเครื่องลายครามราคาแพงแตก สาวใช้กลัวความผิดจึงโทษว่าบัวบูชาเป็นคนทำแตก ประพากับประไพตีบัวบูชาซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ฟ้าใสกับไผทเทพมีปากเสียงกัน
ไผทเทพถึงกับพลั้งปากไล่ฟ้าใส ฟ้าใสเสียใจพาบัวบูชาไปอยู่โรงละครร้าง ฟ้าใสจะสร้างคอนเสิร์ตการกุศลขึ้นเพื่อนำรายได้ มากองทุนการศึกษาให้กับเด็กเร่ร่อน ชมเพลินเลขาของไผทเทพกับเพื่อนร่วมแก๊งค์ของฟ้าใสจึงวางแผนให้ทุกคนได้รู้ความจริงว่าฟ้าใสเป็นคนอย่างไร จึงนำบัตรคอนเสิร์ต ไปให้ทุกคนที่รู้จักนางเอกเพื่อมางานรวมทั้งสะอาดด้วย อภิชาตจึงได้เจอกับสะอาด ความจริงจึงเปิดเผยว่า ฟ้าใสเป็นลูกของอภิชาตที่เกิดกับ ดาวราย ภรรยาอีกคน ของอภิชาติ ดาวรายเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุจึงทิ้งฟ้าใสไว้กับสะอาดที่เป็นคนเลี้ยงเด็ก
ฟ้าใสดีใจที่เธอจะไม่ต้องถูกดูหมิ่นว่าเป็นเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอีกต่อไป อภิชาติพาฟ้าใสไปอยู่ที่บ้านของเขาและเลี้ยงต้อนรับ คุณหญิงผจงจิต ประพากับประไพ เลิกมีอคติกับฟ้าใส แต่ไผทเทพกับฟ้าใสยังแง่งอนกันอยู่ ฟ้าใสจึงยังคงสอนหนังสือเด็กเร่ร่อน และยังเป็นกลุ่มผู้นำต่อต้านยาเสพติด และฟ้าใสก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบุคคลผู้ทำประโยชน์แก่สังคม ในฐานะครูอาสาและผู้นำชุมชนต่อต้านยาเสพติดจากสมาคมสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ ฟ้าใสไปรับรางวัลโดยไม่บอกให้ไผทเทพรู้ เมื่อลงจากเวทีฟ้าใสพบไผทเทพพาเด็กเร่ร่อนที่เป็นลูกศิษย์ของเธอเข้ามาแห่ล้อมแสดงความยินดี ทำให้ฟ้าใสปลาบปลื้มมาก เธอบอกว่าไม่คิดว่าจะมีวันดี ๆ เช่นนี้เพราะเธอเป็นเพียงเจ้าสาวทานของเขา แต่ไผทเทพบอกว่าแท้จริงแล้ว เธอเป็น เจ้าหญิงขอทาน เพราะเป็นผู้มีน้ำใจงาม เด็ก ๆ ได้นำมงกุฎกระดาษโรยกากเพชรมาให้ฟ้าใสสวมให้ช่างภาพถ่ายภาพคู่กันอย่างมีความสุข
ฟ้าใสคิดว่าไผทเทพเป็นตำรวจปลอมตัวมาจึงใช้ไม้ค้ำยันขาตีจนไผทเทพตกบันไดสะพานลอยและวิ่งหนีไปเจอกับจ้อยซึ่งเป็นขอทานต่างแก๊งค์กัน จ้อยเข้าใจว่าฟ้าใสมาขอทานข้ามเขตจึงจะจับตัวไป ขณะหลบหนีฟ้าใสเห็นร้านะวันแดงติดป้ายว่ามีงานประกวดแฟนซี ฟ้าใสจึงถูกชักชวนให้เข้าไป ในงานเพราะเข้าใจว่าแต่งแฟนซีเป็นขอทานมา พอจะกลับก็พบกับไผทเทพซึ่งมาเป็นกรรมการตัดสินการประกวดแฟนซี เขาจะพาเธอขึ้นรถให้ได้ แต่ฟ้าใสกลับฉกกระเป๋าเงินของเขาได้แล้วหนีรอดไป พอกลับถึงบ้านเจอวิเชียรเป็นหัวหน้าแก๊งค์ สะอาดแม่ของฟ้าใสเป็นภรรยาของวิเชียร
ฟ้าใสนำกระเป๋าเงินของไผทเทพมาเปิดดูเห็นบัตรสำคัญต่าง ๆ หลายใบ เธอจึงเอาเงินไว้และให้เด็กในแก๊งค์เอากระเป๋าไปคืนไผทเทพ คุณหญิงผจงจิต ประพากับประไพ พยายามเกลี้ยกล่อมให้ไผทเทพแต่งงานกับมิ่งสมรลูกสาวของอภิชาติกับมัทรี แต่ไผทเทพไม่ชอบเพราะมัทรีกับมิ่งสมร เป็นคนงมงายเรื่องไสยศาสตร์ ไผทเทพเขียนข่าวเกี่ยวกับเรื่องบ่อนและซ่องจึงทำให้ถูกลอบทำลายเขา
ไผทเทพจึงเดินทางออกไปจากโรงพิมพ์ไปพบฟ้าใสที่เธอนั่งขอทานอยู่ที่แห่งใหม่ ไผทเทพบังคับให้ฟ้าใสไปนั่งทานข้าวด้วยกันกับเขา ครั้นอิ่มแล้ว เขาก็ จะสัมภาษณ์เธอ กลับถูกฟ้าใสแกล้งทำให้ไผทเทพไม่ได้สัมภาษณ์ ฟ้าใสตั้งใจจะไปเรียนที่การศึกษานอกโรงเรียนเพื่อจะได้มีอนาคตที่ดี สะอาดจึงขอร้องวิเชียรให้ฟ้าใสไปเรียนหนังสือ แต่วิเชียรคัดค้านเพราะเกรงว่าจะขาดรายได้ แต่ฟ้าใสก็อ่าน เขียน คิดเลขได้เพราะมีบุญเติมเพื่อนรุ่นพี่ร่วมแก๊ง ที่เอ็นดู คอยช่วยสอนหนังสือ นอกจากนี้ฟ้าใสยังเรียนภาษาใบ้กับนกเล็กเพื่อนขอทานด้วยกัน
สะอาดชวนฟ้าใสกับนกเล็กไปอาศรมเจ้าพ่อหลวงปู่ครูฤาษีเพื่อขอเลขเด็ดมาแทงหวยบนดิน พอดีมัทรีกับมิ่งสมรชวนครอบครัวของไผทเทพ ไปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองด้วย ไผทเทพกับมิ่งสมรออกมาเดินเล่นจะถ่ายรูปกัน แต่มิ่งสมรเห็นฟ้าใสนั่งคุยภาษาใบ้จึงพูดจาดูถูกเหยียดหยามฟ้าใสกับนกเล็ก ฟ้าใสจึงวิ่งราวกล้องถ่ายรูปของไผทเทพไปเพื่อแก้เผ็ด แต่ในขณะที่หลบหนีก็เจอกับเดชซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งขอทานต่างเขต ที่มีเบื้องหลังเป็นเอเย่นต์ หาผู้หญิงส่งไปขายตัว ส่วนวิเชียรมีบ่อนการพนัน เดชขอซื้อฟ้าใสจากวิเชียรเพื่อนำไปเป็นสินค้า ในจำนวนห้าแสนบาท แต่อยากได้ตัวฟ้าใสก่อนที่จะ ขายเธอไป จึงคิดรวบหัวรวบหางฟ้าใสจึงหลอกให้สะอาดออกไปนอกบ้านแล้วเข้าไปปล้ำฟ้าใสในห้อง
ฟ้าใสสู้แรงของวิเชียรไม่ได้แต่รู้ว่าวิเชียรเป็นคนบ้าจี้จึงจี้สะดือให้วิเชียรลุกขึ้นเต้น เธอเลยวิ่งหนีออกมาได้แต่ก็ปรากฏว่าเป็นรถของไผทเทพ ฟ้าใสจนแต้มจึงรับปากกับเขาว่าจะเอากล้องถ่ายรูปไปคืนเขา ในวันสงกรานต์ขอทานในแก๊งของวิเชียรกลับบ้านที่ต่างจังหวัดกันหมด ฟ้าใสแอบรู้ว่า วิเชียรจะปล้ำเธออีก จึงจ้างให้โสเภณีมานอนรออยู่แทน เพื่อหลอกให้วิเชียรเข้าใจว่านอนกับตนแล้วแล้วก็เอากล้องของไผทเทพมาถ่ายรูปไว้ ฟ้าใสไปพบกับไผทเทพ มีคนร้ายมาลอบยิงเขาอีก แต่ฟ้าใสเห็นก่อนจึงผลักเขาล้มลงทันและตามไปจับตัวคนร้ายได้ทำให้ไผทเทพซาบซึ้งในตัวฟ้าใส
จากนั้นวิเชียรให้สมุนที่บ่อนไปโปะยาสลบจับฟ้าใสไปขัง ฟ้าใสได้สติขึ้นจึงพยายามหาทางออก และดีใจที่เห็นกลุ่มคนใบ้เพื่อนของนกเล็กเดินผ่าน ฟ้าใสทำสัญญาณมือให้มาช่วยเหลือ กลุ่มคนใบ้จึงบุกเข้ามาชิงตัวฟ้าใสออกมาได้ ฟ้าใสไปหาไผทเทพแล้วแจ้งตำรวจ ตำรวจเพื่อนของไผทเทพแกะรอย ตามไปจนถึงถิ่นที่เดชกับวิเชียรร่วมมือกัน ทำงานนอกกฎหมาย คืนนั้นตำรวจก็เข้าทลายบ่อนและซ่องของคนทั้งสอง ฟ้าใสกลับบ้านตัดสินใจ เล่าเรื่องให้ สะอาด ฟังว่าวิเชียรปล้ำเธอหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จจึงจับตัวเธอไป สะอาดสารภาพว่าฟ้าใสไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของตน มัทรีกับมิ่งสมรลงข่าวใน หนังสือพิมพ์ ทำนองว่าไผทเทพกับโกศลเป็นพวกไม้ป่าเดียวกัน ไผทเทพรู้ก็โกรธแถมยิ่งหงุดหงิดเมื่อคุณหญิงผจงจิตเร่งเร้าเรื่องงานแต่งงานกับมิ่งสมร
ไผทเทพจึงเอ่ยปากบอกทุกคนว่าผู้หญิงคนแรกที่พบในวันนี้จะเป็นคนที่เขาจะแต่งงานด้วย สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดเมื่อฟ้าใส หลบหนีมาจากแก๊งค์ขอทาน และมายืนรอไผทเทพอยู่ที่หน้าบ้าน ไผทเทพเลยต้องตกบันไดพลอยโจนขอฟ้าใสแต่งงานโดยมีสัญญาว่าเป็นการแต่งงานกันเพียงในนามเท่านั้นฟ้าใสก็ต้องการที่จะออกจากแก๊งค์จึงตกลงยอมที่จะแต่งงานหลอก ๆ กับไผทเทพ โดยรู้กันแค่สองคน ทำให้มิ่งสมรแค้นใจมาก
ไผทเทพกับฟ้าใสแต่งงานกันอย่างเรียบง่าย และมีความสนิทสนมกันมากขึ้น ทั้งคู่พากันไปเที่ยวตามที่ต่างๆ บนเกาะที่มีธรรมชาติงดงาม ทำให้ทั้งคู่รู้ สึกดีต่อกัน ฟ้าใสทำให้ไผทเทพประหลาดใจด้วยการแต่งชุดแบบสาวชาวเกาะฮาวาย พร้อมกับกล่าวอวยพรวันเกิดไผทเทพ ทางกรุงเทพฯ มัทรี พยายามวิ่งเต้นไปหาเจ้าพ่อเจ้าแม่หลายสำนักด้วยความเชื่อว่า ฟ้าใสทำเสน่ห์ใส่ไผทเทพ และยุยงให้คนที่บ้านคุณหญิงผจงจิตเชื่อเช่นนั้นด้วย เมื่อ กลับกรุงเทพฯ บุญเติมบอกฟ้าใสว่าอยากไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่ห่วงบัวบูชาลูกสาว
ฟ้าใสจึงขออนุญาตจากไผทเทพนำบัวบูชามาเลี้ยงที่บ้านของเขาและส่งเข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาล ชีวิตของฟ้าใสหลังแต่งงานกับไผทเทพ ไม่มีความสุขนัก เพราะคุณหญิงผจงจิตและน้าสาวทั้งสองไม่ชอบฟ้าใสเป็นอย่างมาก ส่วนมิ่งสมรก็ไม่เลิกมาหาเรื่องระรานฟ้าใสเสมอ มัทรีกับมิ่งสมร ไม่ละความพยายามที่ต้องการไผทเทพ จึงไปหาอาจารย์ทางไสยศาสตร์ กลับกลายเป็นวิเชียรหลอกทั้งสองแม่ลูกว่าเป็นอาจารย์ทำเสน่ห์ จะหาวิธีช่วย มิ่งสมร ล้างเสน่ห์ของฟ้าใสจากไผทเทพและทำเสน่ห์ให้มิ่งสมรแทน แต่กลับถูกหลอกให้ดื่มน้ำผสมยานอนหลับทำให้มัทรีเคลิ้มหลับไป และมิ่งสมรถูกข่มขืนจนท้อง ทำให้มัทรีโมโหฆ่าวิเชียรตายจนเป็นข่าวครึกโครม มีอยู่วันหนึ่งมีสุนัขตัวหนึ่งดิ้นหลุดวิ่งเข้าในบ้านวิ่งชนเครื่องลายครามราคาแพงแตก สาวใช้กลัวความผิดจึงโทษว่าบัวบูชาเป็นคนทำแตก ประพากับประไพตีบัวบูชาซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ฟ้าใสกับไผทเทพมีปากเสียงกัน
ไผทเทพถึงกับพลั้งปากไล่ฟ้าใส ฟ้าใสเสียใจพาบัวบูชาไปอยู่โรงละครร้าง ฟ้าใสจะสร้างคอนเสิร์ตการกุศลขึ้นเพื่อนำรายได้ มากองทุนการศึกษาให้กับเด็กเร่ร่อน ชมเพลินเลขาของไผทเทพกับเพื่อนร่วมแก๊งค์ของฟ้าใสจึงวางแผนให้ทุกคนได้รู้ความจริงว่าฟ้าใสเป็นคนอย่างไร จึงนำบัตรคอนเสิร์ต ไปให้ทุกคนที่รู้จักนางเอกเพื่อมางานรวมทั้งสะอาดด้วย อภิชาตจึงได้เจอกับสะอาด ความจริงจึงเปิดเผยว่า ฟ้าใสเป็นลูกของอภิชาตที่เกิดกับ ดาวราย ภรรยาอีกคน ของอภิชาติ ดาวรายเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุจึงทิ้งฟ้าใสไว้กับสะอาดที่เป็นคนเลี้ยงเด็ก
ฟ้าใสดีใจที่เธอจะไม่ต้องถูกดูหมิ่นว่าเป็นเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอีกต่อไป อภิชาติพาฟ้าใสไปอยู่ที่บ้านของเขาและเลี้ยงต้อนรับ คุณหญิงผจงจิต ประพากับประไพ เลิกมีอคติกับฟ้าใส แต่ไผทเทพกับฟ้าใสยังแง่งอนกันอยู่ ฟ้าใสจึงยังคงสอนหนังสือเด็กเร่ร่อน และยังเป็นกลุ่มผู้นำต่อต้านยาเสพติด และฟ้าใสก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบุคคลผู้ทำประโยชน์แก่สังคม ในฐานะครูอาสาและผู้นำชุมชนต่อต้านยาเสพติดจากสมาคมสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ ฟ้าใสไปรับรางวัลโดยไม่บอกให้ไผทเทพรู้ เมื่อลงจากเวทีฟ้าใสพบไผทเทพพาเด็กเร่ร่อนที่เป็นลูกศิษย์ของเธอเข้ามาแห่ล้อมแสดงความยินดี ทำให้ฟ้าใสปลาบปลื้มมาก เธอบอกว่าไม่คิดว่าจะมีวันดี ๆ เช่นนี้เพราะเธอเป็นเพียงเจ้าสาวทานของเขา แต่ไผทเทพบอกว่าแท้จริงแล้ว เธอเป็น เจ้าหญิงขอทาน เพราะเป็นผู้มีน้ำใจงาม เด็ก ๆ ได้นำมงกุฎกระดาษโรยกากเพชรมาให้ฟ้าใสสวมให้ช่างภาพถ่ายภาพคู่กันอย่างมีความสุข