ละคร บ่วงบาป
ดู 3,295 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันพุธ วันพฤหัส | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 7 กุมภาพันธ์ 2556 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:30 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | กฤษฎา เตชะนิโลบล | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ของ อัจฉรียา, บทโทรทัศน์ พอวาสน์-นันทพร-สุธิสา | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ บ่วงบาป
สุพรรณบุรี รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๖ หรือ ราวพุทธศักราช 2441 ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระยาสุรเดชไมตรี (นาท ภูวนัย) ได้มอบศักดินาตลอดจนทรัพย์สินทุกอย่าง รวมทั้งบริวารทาสให้ลูกชายคนเดียวคือ ขุนพิทักษ์ (ทฤษฏี สหวงษ์) พร้อมทั้งสั่งเสียว่า ขุนพิทักษ์จะต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้หลักธรรมอันดี ขุนพิทักษ์รับปากพร้อมทั้งตั้งสัตย์ปฏิญาณ ทันใดนั้นสายฟ้าก็ฟาดเปรี้ยงลงมาราวกับเป็นพยาน พระยาสุรเดชไมตรีเห็นดังนั้นก็วายชนม์อย่างสงบ แต่คุณหญิงมณี (ดวงตา ตุงคะมณี) ผู้เป็นภรรยากลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวัลเพราะรู้ดีว่าแท้จริงแล้วขุนพิทักษ์ลูกชายเป็นคนไม่เอาการเอางาน ใช้ชีวิตเสพสุขไปวันๆ แต่ที่ผ่านมาอยู่ในกรอบเพราะเกรงกลัวบารมีของบิดา
และก็จริงดังที่คุณหญิงมณีกังวล หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของพระยาสุรเดชไมตรีได้ไม่นาน ขุนพิทักษ์ก็ใช้ชีวิตสุขสำราญเต็มที่ ประพฤติตนผิดศีลห้าทุกอย่างหนำซ้ำยังยักยอกทรัพย์ราชการโดยไม่ฟังคำเตือนของคุณหญิงมณี เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ภายใต้สายตาของ หลวงตามั่น (ยอดชาย เมฆสุวรรณ) อดีตทาสในเรือนเบี้ยของพระยาสุรเดชไมตรีที่ไถ่ถอนตัวเองด้วยการบวช อาจารย์มั่นพยายามทำวิถีทางที่จะเตือนสติเพราะเห็นในนิมิตว่าขุนพิทักษ์จะอยู่เสวยสุขได้ไม่นานแต่ขุนพิทักษ์ก็ไม่ฟัง คุณหญิงมณีอยากให้บวช ขุนพิทักษ์ก็ไม่ยอมบวช
ด้วยความที่เป็นชายหนุ่มรูปงาม ทำให้ขุนพิทักษ์เป็นที่หมายปองของหญิงสาวหลายคน รวมทั้ง คุณรำพึง(เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) บุตรสาวของพระยาเทวราช (ศักราช ฤกษ์ธำรง) ที่หลงรักขุนพิทักษ์ตั้งแต่แรกเห็น ส่วนตัวขุนพิทักษ์เองก็หลงใหลในความสวยผุดผ่องของรำพึง ทำให้ขุนไว (กันต์ กันตถาวร) คู่แข่งคู่อาฆาตของขุนพิทักษ์ไม่พอใจ เพราะแอบชอบรำพึงเหมือนกันแต่ขุนไวดูมีภาษีกว่าเพราะพระยาเทวราชชื่นชอบในความตั้งใจทำงาน ผิดกับขุนพิทักษ์ที่เอาแต่เที่ยวดื่มสุรา เล้าโลมสตรี แต่รำพึงกลับไม่สนใจขุนไวแม้แต่น้อย
นายสม (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) ทาสในเรือนของคุณหญิงมณี พาชุ่ม (หยาดทิพย์ ราชปาล) น้องสาว เข้ามาพึ่งใบบุญเป็นทาสรับใช้ในเรือน ชุ่มร้องไห้เศร้าเสียใจที่ต้องห่าง แม่เย็น (ปวีณา ชารีฟสกุล) แต่เย็นกลับบอกให้ลูกขยันขันแข็งทำงาน ขุนพิทักษ์ดื่มเหล้าเมา เดินเข้าเรือนทาสไปเมาล้มกอดชุ่มในเรือน แจ่ม (ยุวดี เรืองฉาย) ไปรายงานคุณหญิงมณี รำพึงอยู่บนเรือนพอดี ได้ยินแล้วไม่พอใจ พอมีโอกาสจึงจ้องเล่นงานชุ่มตลอดด้วยความหึงหวง เริ่มแรกขุนพิทักษ์ไม่ได้สนใจชุ่มเท่าไหร่ แต่นานวันเข้าความซื่อ ไร้เดียงสาของชุ่ม ทำให้ขุนพิทักษ์หลงรักอย่างไม่รู้ตัว ส่วนชุ่มเองก็แอบรักท่านขุนในความมีน้ำใจ และได้ช่วยชีวิตไว้หลายครั้ง
ขุนไวตามติดรำพึงไม่ให้พบกับขุนพิทักษ์ แล้วยังได้แรงส่งจากพระยาเทวราช ทำให้รำพึงขัดใจยิ่งนัก พยายามกดดันให้ขุนพิทักษ์รีบมาสู่ขอ แต่ขุนพิทักษ์เห็นว่าพระยาเทวราชไม่ชอบหน้า จึงลังเลใจอยู่ขุนพิทักษ์ได้แรงยุจากชุ่ม จึงยอมทำงานไปคัดเลือกเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมโดยมีพระยาเทวราชรับผิดชอบงานอยู่ เจอกับขุนไวก็เกือบมีเรื่องกัน ขุนไวท้าให้ประลองการต่อสู้กัน ถ้าใครชนะจะได้เป็นผู้ช่วยเจ้ากรมคนใหม่และยังได้รำพึงไปครองด้วย ส่วนใครแพ้จะต้องออกจากเมืองไปให้ไกล พระยาเทวราชเห็นดีด้วย นัดให้ประลองในงานเลี้ยงต้อนรับเจ้ากรมคนใหม่
รำพึงยังจ้องรังแกชุ่มตลอดเวลาโดยมีจวง (นฤมล สิทธิเม่ง) คนรับใช้คนสนิทคอยวางแผนด้วยทั้งยังใส่ร้ายว่าชุ่มทำร้ายตัวเอง ทำให้ขุนพิทักษ์จำใจต้องเฆี่ยนตีชุ่มเพราะรำพึงเป็นถึงลูกพระยา ยังไงก็มีศักดิ์ศรีกว่านางทาสในเรือน ชุ่มมองขุนพิทักษ์ที่เฆี่ยนตีด้วยความเจ็บช้ำใจ สมพากลับเรือนทาสด้วยความโมโหเช่นกัน เพราะเห็นว่าน้องสาวโดนรำพึงแอบเข้ามาตบตีถึงในเรือนแล้วยังใส่ร้ายจนโดนเฆี่ยนตีอีก
ขุนพิทักษ์รู้สึกผิดจะไปขอโทษชุ่ม แต่ชุ่มไม่สนใจขุนพิทักษ์เสียใจไปดื่มเหล้าเล่นการพนันหามรุ่งหามค่ำ ไม่กลับบ้าน ทั้งไม่ใส่ใจฝึกการต่อสู้ ซึ่งใกล้จะต้องประลองฝีมือกับขุนไวในอีกไม่กี่วัน ชุ่มเห็นแล้วเป็นห่วง ก็เลยยอมพบหน้าขุนพิทักษ์ ขอร้องให้ขุนพิทักษ์ฝึกซ้อมการต่อสู้ ขุนพิทักษ์ยอมทำตามชุ่ม ทำให้คุณหญิงมณีสบายใจขึ้น แล้ววันประลองก็มาถึง ทุกคนตื่นเต้นกับการแข่งขันรำพึงก็มาดูพร้อมกับพ่อและคุณหญิงมณี หลังการต่อสู้ที่ลุ้นกันอย่างยิ่ง ผลปรากฏว่าขุนพิทักษ์เป็นผู้ชนะแต่ทั้งนี้ขุนพิทักษ์ใช้กลโกงเอาชนะขุนไว ท่านเจ้ากรม (สมภพ เบญจาธิกุล) ยกตำแหน่งผู้ช่วยให้ขุนพิทักษ์แต่ขุนไวไม่ยอมจะประท้วงว่าขุนพิทักษ์โกง พระยาเทวราชปรามให้ขุนไวยอมรับความพ่ายแพ้ เพราะทุกคนไม่มีใครเห็นว่าขุนพิทักษ์โกง
ขุนพิทักษ์เจอชุ่ม เห็นชุ่มหมางเมิน ตามไปคุยที่เรืองทาส ชุ่มโพล่งว่าขุนพิทักษ์ใช้กลโกงจนชนะขุนไว เพราะชุ่มเป็นห่วงขุนพิทักษ์ จึงได้ตามไปดูการประลอง ขณะที่ขุนไวไม่พอใจการประลองครั้งนี้ จึงท้าขุนพิทักษ์ให้มาประลองฝีมือกันใหม่ที่ชายป่า ขุนพิทักษ์ไม่ยอมให้ใครว่าเป็นคนขี้ขลาด ยอมรับการประลองใหม่ ชุ่มอยู่ในเหตุการณ์ด้วยพยายามห้ามขุนพิทักษ์ แต่ไม่ยอมฟังทั้งยังห้ามไม่ให้บอกคุณหญิงมณี ชุ่มเป็นห่วงขุนพิทักษ์มาก ในวันประลองรุ่งขึ้น จึงวิ่งไปบอกรำพึงที่บ้าน ขอร้องให้ไปห้ามการประลอง แต่รำพึงไม่สนใจ อยากให้สองหนุ่มแข่งขันประลองเพื่อแย่งเป็นเจ้าของเธอ
ขุนพิทักษ์ประลองดาบกับขุนไว ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ สุดท้ายขุนพิทักษ์เป็นฝ่ายชนะอย่างขาวสะอาด แต่คราวนี้ขุนไววางแผนฆ่าขุนพิทักษ์ จ้างโจรป่ามาลอบฆ่าระหว่างทางกลับบ้าน ขุนพิทักษ์โดนรุม สู้ไม่ไหว บาดเจ็บจนสิ้นสติ พวกโจรทิ้งให้นอนสลบอยู่กลางป่า ดีที่ชุ่มกับสมไปช่วย รีบแบกกลับเรือนทาส แล้วแจ้งคุณหญิงมณีให้ตามหมอมารักษา หมอไม่อยากให้ขุนพิทักษ์กระเทือนบาดแผล จึงให้รักษาตัวอยู่ที่เรือนทาส ชุ่มเฝ้าดูแลขุนพิทักษ์ที่ไข้ขึ้นเพราะพิษบาดแผลอยู่หลายวัน จนอาการทุเลา
ขุนไวไปทวงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของรำพึง เพราะชนะขุนพิทักษ์ ทำให้รำพึงมาที่เรือนขุนพิทักษ์ รู้เรื่องที่โดนโจรป่าทำร้ายและมีชุ่มคอยปรนนิบัติดูแล ก็โมโหเพราะเห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก้าวหน้าขึ้น ขุนพิทักษ์รู้แก่ใจว่ารักชุ่มมากกว่ารำพึง ที่สุดขุนพิทักษ์สารภาพรักชุ่มและได้ชุ่มเป็นเมียในกระท่อนเรือนทาส ขณะที่รำพึงเองโดนขุนไวตามติดถึงเรือน เพื่อให้รีบจัดงานแต่งงาน รำพึงโมโหด่าว่าขุนไวว่าเป็นแค่เด็กวัดอย่าคิดใฝ่สูงถึงลูกพระยา ทำให้ขุนไวลุแก่โทสะ ปล้ำรำพึงเป็นภรรยาและรบเร้าที่จะบอกพระยาเทวราชเพื่อสู่ขอแต่งงาน รำพึงประวิงเวลาขอให้ขุนไวปิดเรื่องความสัมพันธ์ไว้ก่อน ขุนไวยอมรับปาก
รำพึงกลัวว่าขุนพิทักษ์จะหลุดลอยไปจึงวางแผนกับจวง ให้ขุนพิทักษ์ไปหาที่เรือน บอกว่าไม่สบายมาก แล้วให้กินผงม้าเสพนางเพิ่มความกำหนัด ทำให้ขุนพิทักษ์ได้รำพึงเป็นภรรยา พระยาเทวราชกลับมาพอดี โมโหมาก ให้ขุนพิทักษ์รับผิดชอบในสิ่งที่กระทำ ขุนพิทักษ์เสียใจที่หลงกลรำพึงเพราะใจขณะนี้รักแต่ชุ่มเพียงคนเดียว ขณะเดียวกันรำพึงก็พยายามเร่งเร้าจะให้จัดงานแต่งงานให้ได้
พระยาเทวราชมาที่เรือนคุณหญิงมณี จำใจเอ่ยปากเรื่องที่ขุนพิทักษ์ทำเรื่องไม่งามกับรำพึง บอกให้คุณหญิงเห็นแก่ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของทั้งสองฝ่าย จัดการให้ขุนพิทักษ์สู่ขอรำพึงให้เร็วที่สุด คุณหญิงมณีไปปรึกษาฤกษ์แต่งงานกับหลวงตามั่นด้วยความไม่สบายใจ หลวงตามั่นบอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามกรรม คุณหญิงมณีต่อว่าขุนพิทักษ์ที่ทำเรื่องไม่งาม ขุนพิทักษ์แก้ตัวว่าโดนรำพึงจัดฉากและบอกคุณหญิงว่าตนได้ชุ่มเป็นเมียแล้ว คุณหญิงมณีอึ้งไป แต่ก็บอกให้ขุนพิทักษ์รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นกับรำพึงเพราะไม่อย่างนั้นพระยาเทวราชจะมาเอาความกับขุนพิทักษ์ได้
ขุนพิทักษ์มาหาชุ่มที่เรือนทาส ชุ่มเศร้าใจ ขุนพิทักษ์ยืนยันว่ารักชุ่มคนเดียวแต่ทุกอย่างเป็นแผนของรำพึงที่สุดพิธีแต่งงานก็จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ รำพึงในชุดเจ้าสาวสวยสง่า กับ ขุนพิทักษ์ในชุดเจ้าบ่าว นั่งคู่กันบนแท่นรดน้ำสังข์ รำพึงมีความสุขในขณะที่ชุ่มนั่งร้องไห้คนเดียวในเรือนทาส ด้านขุนไวก็ยังไม่ยอมแพ้ จ้องจะก่อเรื่องในงานแต่ง ทำให้พระยาเทวราชสั่งให้ลูกน้องคอยจับตาดูขุนไว ทำให้ขุนไวทำอะไรไม่ได้ ขณะที่ขุนพิทักษ์ไม่ได้รักรำพึงจึงไม่สนใจ คืนส่งตัวกลับไปหาชุ่มที่เรือนทาส รำพึงรู้เรื่องตามไปอาละวาดเอาตัวกลับมา ขุนพิทักษ์ยอมกลับมานอนด้วยแต่ก็นอนหันหลังให้ รำพึงพยายามเข้าไปหาขุนพิทักษ์บอกว่าใจของตนมีเพียงชุ่มคนเดียวเท่านั้น รำพึงเสียใจและโกรธแค้นชุ่ม ตั้งใจจะคิดบัญชีในวันรุ่งขึ้น
และก็จริงดังที่คุณหญิงมณีกังวล หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของพระยาสุรเดชไมตรีได้ไม่นาน ขุนพิทักษ์ก็ใช้ชีวิตสุขสำราญเต็มที่ ประพฤติตนผิดศีลห้าทุกอย่างหนำซ้ำยังยักยอกทรัพย์ราชการโดยไม่ฟังคำเตือนของคุณหญิงมณี เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ภายใต้สายตาของ หลวงตามั่น (ยอดชาย เมฆสุวรรณ) อดีตทาสในเรือนเบี้ยของพระยาสุรเดชไมตรีที่ไถ่ถอนตัวเองด้วยการบวช อาจารย์มั่นพยายามทำวิถีทางที่จะเตือนสติเพราะเห็นในนิมิตว่าขุนพิทักษ์จะอยู่เสวยสุขได้ไม่นานแต่ขุนพิทักษ์ก็ไม่ฟัง คุณหญิงมณีอยากให้บวช ขุนพิทักษ์ก็ไม่ยอมบวช
ด้วยความที่เป็นชายหนุ่มรูปงาม ทำให้ขุนพิทักษ์เป็นที่หมายปองของหญิงสาวหลายคน รวมทั้ง คุณรำพึง(เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) บุตรสาวของพระยาเทวราช (ศักราช ฤกษ์ธำรง) ที่หลงรักขุนพิทักษ์ตั้งแต่แรกเห็น ส่วนตัวขุนพิทักษ์เองก็หลงใหลในความสวยผุดผ่องของรำพึง ทำให้ขุนไว (กันต์ กันตถาวร) คู่แข่งคู่อาฆาตของขุนพิทักษ์ไม่พอใจ เพราะแอบชอบรำพึงเหมือนกันแต่ขุนไวดูมีภาษีกว่าเพราะพระยาเทวราชชื่นชอบในความตั้งใจทำงาน ผิดกับขุนพิทักษ์ที่เอาแต่เที่ยวดื่มสุรา เล้าโลมสตรี แต่รำพึงกลับไม่สนใจขุนไวแม้แต่น้อย
นายสม (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) ทาสในเรือนของคุณหญิงมณี พาชุ่ม (หยาดทิพย์ ราชปาล) น้องสาว เข้ามาพึ่งใบบุญเป็นทาสรับใช้ในเรือน ชุ่มร้องไห้เศร้าเสียใจที่ต้องห่าง แม่เย็น (ปวีณา ชารีฟสกุล) แต่เย็นกลับบอกให้ลูกขยันขันแข็งทำงาน ขุนพิทักษ์ดื่มเหล้าเมา เดินเข้าเรือนทาสไปเมาล้มกอดชุ่มในเรือน แจ่ม (ยุวดี เรืองฉาย) ไปรายงานคุณหญิงมณี รำพึงอยู่บนเรือนพอดี ได้ยินแล้วไม่พอใจ พอมีโอกาสจึงจ้องเล่นงานชุ่มตลอดด้วยความหึงหวง เริ่มแรกขุนพิทักษ์ไม่ได้สนใจชุ่มเท่าไหร่ แต่นานวันเข้าความซื่อ ไร้เดียงสาของชุ่ม ทำให้ขุนพิทักษ์หลงรักอย่างไม่รู้ตัว ส่วนชุ่มเองก็แอบรักท่านขุนในความมีน้ำใจ และได้ช่วยชีวิตไว้หลายครั้ง
ขุนไวตามติดรำพึงไม่ให้พบกับขุนพิทักษ์ แล้วยังได้แรงส่งจากพระยาเทวราช ทำให้รำพึงขัดใจยิ่งนัก พยายามกดดันให้ขุนพิทักษ์รีบมาสู่ขอ แต่ขุนพิทักษ์เห็นว่าพระยาเทวราชไม่ชอบหน้า จึงลังเลใจอยู่ขุนพิทักษ์ได้แรงยุจากชุ่ม จึงยอมทำงานไปคัดเลือกเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมโดยมีพระยาเทวราชรับผิดชอบงานอยู่ เจอกับขุนไวก็เกือบมีเรื่องกัน ขุนไวท้าให้ประลองการต่อสู้กัน ถ้าใครชนะจะได้เป็นผู้ช่วยเจ้ากรมคนใหม่และยังได้รำพึงไปครองด้วย ส่วนใครแพ้จะต้องออกจากเมืองไปให้ไกล พระยาเทวราชเห็นดีด้วย นัดให้ประลองในงานเลี้ยงต้อนรับเจ้ากรมคนใหม่
รำพึงยังจ้องรังแกชุ่มตลอดเวลาโดยมีจวง (นฤมล สิทธิเม่ง) คนรับใช้คนสนิทคอยวางแผนด้วยทั้งยังใส่ร้ายว่าชุ่มทำร้ายตัวเอง ทำให้ขุนพิทักษ์จำใจต้องเฆี่ยนตีชุ่มเพราะรำพึงเป็นถึงลูกพระยา ยังไงก็มีศักดิ์ศรีกว่านางทาสในเรือน ชุ่มมองขุนพิทักษ์ที่เฆี่ยนตีด้วยความเจ็บช้ำใจ สมพากลับเรือนทาสด้วยความโมโหเช่นกัน เพราะเห็นว่าน้องสาวโดนรำพึงแอบเข้ามาตบตีถึงในเรือนแล้วยังใส่ร้ายจนโดนเฆี่ยนตีอีก
ขุนพิทักษ์รู้สึกผิดจะไปขอโทษชุ่ม แต่ชุ่มไม่สนใจขุนพิทักษ์เสียใจไปดื่มเหล้าเล่นการพนันหามรุ่งหามค่ำ ไม่กลับบ้าน ทั้งไม่ใส่ใจฝึกการต่อสู้ ซึ่งใกล้จะต้องประลองฝีมือกับขุนไวในอีกไม่กี่วัน ชุ่มเห็นแล้วเป็นห่วง ก็เลยยอมพบหน้าขุนพิทักษ์ ขอร้องให้ขุนพิทักษ์ฝึกซ้อมการต่อสู้ ขุนพิทักษ์ยอมทำตามชุ่ม ทำให้คุณหญิงมณีสบายใจขึ้น แล้ววันประลองก็มาถึง ทุกคนตื่นเต้นกับการแข่งขันรำพึงก็มาดูพร้อมกับพ่อและคุณหญิงมณี หลังการต่อสู้ที่ลุ้นกันอย่างยิ่ง ผลปรากฏว่าขุนพิทักษ์เป็นผู้ชนะแต่ทั้งนี้ขุนพิทักษ์ใช้กลโกงเอาชนะขุนไว ท่านเจ้ากรม (สมภพ เบญจาธิกุล) ยกตำแหน่งผู้ช่วยให้ขุนพิทักษ์แต่ขุนไวไม่ยอมจะประท้วงว่าขุนพิทักษ์โกง พระยาเทวราชปรามให้ขุนไวยอมรับความพ่ายแพ้ เพราะทุกคนไม่มีใครเห็นว่าขุนพิทักษ์โกง
ขุนพิทักษ์เจอชุ่ม เห็นชุ่มหมางเมิน ตามไปคุยที่เรืองทาส ชุ่มโพล่งว่าขุนพิทักษ์ใช้กลโกงจนชนะขุนไว เพราะชุ่มเป็นห่วงขุนพิทักษ์ จึงได้ตามไปดูการประลอง ขณะที่ขุนไวไม่พอใจการประลองครั้งนี้ จึงท้าขุนพิทักษ์ให้มาประลองฝีมือกันใหม่ที่ชายป่า ขุนพิทักษ์ไม่ยอมให้ใครว่าเป็นคนขี้ขลาด ยอมรับการประลองใหม่ ชุ่มอยู่ในเหตุการณ์ด้วยพยายามห้ามขุนพิทักษ์ แต่ไม่ยอมฟังทั้งยังห้ามไม่ให้บอกคุณหญิงมณี ชุ่มเป็นห่วงขุนพิทักษ์มาก ในวันประลองรุ่งขึ้น จึงวิ่งไปบอกรำพึงที่บ้าน ขอร้องให้ไปห้ามการประลอง แต่รำพึงไม่สนใจ อยากให้สองหนุ่มแข่งขันประลองเพื่อแย่งเป็นเจ้าของเธอ
ขุนพิทักษ์ประลองดาบกับขุนไว ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ สุดท้ายขุนพิทักษ์เป็นฝ่ายชนะอย่างขาวสะอาด แต่คราวนี้ขุนไววางแผนฆ่าขุนพิทักษ์ จ้างโจรป่ามาลอบฆ่าระหว่างทางกลับบ้าน ขุนพิทักษ์โดนรุม สู้ไม่ไหว บาดเจ็บจนสิ้นสติ พวกโจรทิ้งให้นอนสลบอยู่กลางป่า ดีที่ชุ่มกับสมไปช่วย รีบแบกกลับเรือนทาส แล้วแจ้งคุณหญิงมณีให้ตามหมอมารักษา หมอไม่อยากให้ขุนพิทักษ์กระเทือนบาดแผล จึงให้รักษาตัวอยู่ที่เรือนทาส ชุ่มเฝ้าดูแลขุนพิทักษ์ที่ไข้ขึ้นเพราะพิษบาดแผลอยู่หลายวัน จนอาการทุเลา
ขุนไวไปทวงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของรำพึง เพราะชนะขุนพิทักษ์ ทำให้รำพึงมาที่เรือนขุนพิทักษ์ รู้เรื่องที่โดนโจรป่าทำร้ายและมีชุ่มคอยปรนนิบัติดูแล ก็โมโหเพราะเห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก้าวหน้าขึ้น ขุนพิทักษ์รู้แก่ใจว่ารักชุ่มมากกว่ารำพึง ที่สุดขุนพิทักษ์สารภาพรักชุ่มและได้ชุ่มเป็นเมียในกระท่อนเรือนทาส ขณะที่รำพึงเองโดนขุนไวตามติดถึงเรือน เพื่อให้รีบจัดงานแต่งงาน รำพึงโมโหด่าว่าขุนไวว่าเป็นแค่เด็กวัดอย่าคิดใฝ่สูงถึงลูกพระยา ทำให้ขุนไวลุแก่โทสะ ปล้ำรำพึงเป็นภรรยาและรบเร้าที่จะบอกพระยาเทวราชเพื่อสู่ขอแต่งงาน รำพึงประวิงเวลาขอให้ขุนไวปิดเรื่องความสัมพันธ์ไว้ก่อน ขุนไวยอมรับปาก
รำพึงกลัวว่าขุนพิทักษ์จะหลุดลอยไปจึงวางแผนกับจวง ให้ขุนพิทักษ์ไปหาที่เรือน บอกว่าไม่สบายมาก แล้วให้กินผงม้าเสพนางเพิ่มความกำหนัด ทำให้ขุนพิทักษ์ได้รำพึงเป็นภรรยา พระยาเทวราชกลับมาพอดี โมโหมาก ให้ขุนพิทักษ์รับผิดชอบในสิ่งที่กระทำ ขุนพิทักษ์เสียใจที่หลงกลรำพึงเพราะใจขณะนี้รักแต่ชุ่มเพียงคนเดียว ขณะเดียวกันรำพึงก็พยายามเร่งเร้าจะให้จัดงานแต่งงานให้ได้
พระยาเทวราชมาที่เรือนคุณหญิงมณี จำใจเอ่ยปากเรื่องที่ขุนพิทักษ์ทำเรื่องไม่งามกับรำพึง บอกให้คุณหญิงเห็นแก่ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของทั้งสองฝ่าย จัดการให้ขุนพิทักษ์สู่ขอรำพึงให้เร็วที่สุด คุณหญิงมณีไปปรึกษาฤกษ์แต่งงานกับหลวงตามั่นด้วยความไม่สบายใจ หลวงตามั่นบอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามกรรม คุณหญิงมณีต่อว่าขุนพิทักษ์ที่ทำเรื่องไม่งาม ขุนพิทักษ์แก้ตัวว่าโดนรำพึงจัดฉากและบอกคุณหญิงว่าตนได้ชุ่มเป็นเมียแล้ว คุณหญิงมณีอึ้งไป แต่ก็บอกให้ขุนพิทักษ์รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นกับรำพึงเพราะไม่อย่างนั้นพระยาเทวราชจะมาเอาความกับขุนพิทักษ์ได้
ขุนพิทักษ์มาหาชุ่มที่เรือนทาส ชุ่มเศร้าใจ ขุนพิทักษ์ยืนยันว่ารักชุ่มคนเดียวแต่ทุกอย่างเป็นแผนของรำพึงที่สุดพิธีแต่งงานก็จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ รำพึงในชุดเจ้าสาวสวยสง่า กับ ขุนพิทักษ์ในชุดเจ้าบ่าว นั่งคู่กันบนแท่นรดน้ำสังข์ รำพึงมีความสุขในขณะที่ชุ่มนั่งร้องไห้คนเดียวในเรือนทาส ด้านขุนไวก็ยังไม่ยอมแพ้ จ้องจะก่อเรื่องในงานแต่ง ทำให้พระยาเทวราชสั่งให้ลูกน้องคอยจับตาดูขุนไว ทำให้ขุนไวทำอะไรไม่ได้ ขณะที่ขุนพิทักษ์ไม่ได้รักรำพึงจึงไม่สนใจ คืนส่งตัวกลับไปหาชุ่มที่เรือนทาส รำพึงรู้เรื่องตามไปอาละวาดเอาตัวกลับมา ขุนพิทักษ์ยอมกลับมานอนด้วยแต่ก็นอนหันหลังให้ รำพึงพยายามเข้าไปหาขุนพิทักษ์บอกว่าใจของตนมีเพียงชุ่มคนเดียวเท่านั้น รำพึงเสียใจและโกรธแค้นชุ่ม ตั้งใจจะคิดบัญชีในวันรุ่งขึ้น