ละคร ยอดรักนักสู้

เกวลิน (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) สาวสวยนักอนุรักษ์เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ลูกสาวคนเดียวของ นายวิสูตร (สมภพ เบญจาธิกุล) นักธุรกิจโรงงานโม่หินใหญ่โตทางภาคเหนือ เพราะเกวลินหัวแข็งไม่ฟังใคร เกวลินฝังใจว่าธุรกิจที่พ่อทำเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมเป็นเหตุทำให้แม่ของเธอตรอมใจตาย เกวลินมีความฝันและตั้งใจจะเป็นนักอนุรักษ์เหมือนแม่ ดังนั้นเกวลินจึงต่อต้านธุรกิจของพ่อทุกวิถีทาง

ขณะเดียวกันนายวิสูตร รักและหวงลูกสาวมากเพราะเกวลินเป็นสิ่งสุดท้ายที่แม่ของเธอทิ้งไว้ก่อนจะเสียชีวิตไป จึงวางแผนจะให้เกวลินแต่งงานกับเชิงชาญ (โชคชัย บุญวรเมธี) นายทหารเรือหนุ่มลูกชายของ เพื่อนสนิทของครอบครัว ที่ธิดา (ณหทัย พิจิตรา) แม่เลี้ยงของเกวลินพยายามจับคู่ให้ เกวลินปฏิเสธเด็ดขาดเพราะไม่สามารถแต่งงานกับคนที่เธอไม่รักได้ แต่วิสูตรขู่จะตัดความช่วยเหลือทางด้านการเงินโดยเด็ดขาดเกวลินจึงวางแผนแก้เผ็ดพ่อของเธอ

ทันทีที่กลับจากต่างประเทศ เกวลินตรงดิ่งไปยังเขาหลักทันที เพื่อทำโครงการปะการังเทียมสำหรับเป็นที่อยู่ของสัตว์ทะเลโดยมีเชิงชาญเป็นผู้ช่วยเหลือ เกวลินหัวดื้อไม่ยอมติดต่อวิสูตรทำให้วิสูตรโกรธมาก เกวลินเดินทางไปถึงอุทยานเขาหลักแต่เกิดความผิดพลาดไปถึงก่อนกำหนด ทำให้เกวลินพบกับความไม่มีระเบียบของเจ้าหน้าที่อุทยาน แตงร้าน (สุชาดา พูนพัฒนสุข) วัตร (อ้วน มนตรี) และ ผจญ (เฉลิม วงษ์คำเหลา) พร้อมได้พบกับบัญชา (พิศาล อัครเศรณี) หัวหน้าอุทยาน เกวลินปักใจว่าทุกคนทำงานอย่างไม่จริงจัง เกวลินจึงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับคนในสำนักงานเกือบทุกคนระหว่างการเดินทางไปอุทยาน เกวลินได้พบเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านซึ่งเธอรับไม่ได้อย่างมากที่ทุกคนกินและขายไข่เต่ากันอย่างเอิกเกริก เกวลินพยายามแจ้งความกับตำรวจแต่ตำรวจไม่สนใจเพราะมันคือวิถีชีวิตชาวบ้านที่เกวลินไม่คุ้นเคย

ที่อุทยานเกวลินได้พบกับ เพลิน (เกียรติกมล ล่าทา) ลูกทะเลขนานแท้ กำลังดำน้ำเก็บปะการังเกวลินไม่พอใจที่เพลินทำลายธรรมชาติ ทั้งคู่ปะทะกันเกวลินซ้อมเพลินอย่างหนัก โดยที่ต่างคนต่างไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าทั้งสองต้องโคจรมาพบกันอย่างไม่คาดฝันที่บ้านพักในอุทยาน เกวลินได้พบกับแม่พร (ปวีณา ซารีฟสกุล) แม่บ้านของอุทยานที่คอยดูแล เกวลินประทับใจในความมีน้ำใจของแม่พรมากโดยที่เกวลินไม่รู้เลยว่าแม่พรเป็นแม่ของเพลิน

ในขณะที่โครงการปะการังเทียมของเกวลินกำลังดำเนินไป เกวลินก็ประสบปัญหาไม่ได้รับความร่วมมือจากเพื่อนร่วมงานทำให้โครงการล่าช้า เกวลินขาดคนพื้นที่ที่ชำนาญ บัญชาแนะนำให้เกวลิน และคนๆ นั้นคือเพลินนั่นเอง ในการทำงานเกวลินและเพลินต่างก็ไม่ชอบหน้ากันนัก แต่ด้วยความจำเป็นทำให้ทั้งคู่ต้องร่วมงานกัน เกิดอุบัติเหตุเกวลินทำสร้อยของแม่ตกน้ำเป็นเหตุทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันและน้ำเข้าเรือเสียหาย ทำให้ทั้งสองคนไปติดเกาะด้วยกัน แต่ในที่สุดทั้งสองก็เอาตัวรอดมาได้แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังอยู่ในขั้นเลวร้าย

ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างเกวลินกับเพื่อนร่วมงานก็ย่ำแย่ เพราะความจริงจังกับงานของเธอ ทำให้มองเห็นเพื่อนร่วมงานด้อยประสิทธิภาพ เมื่อวันเวลาสถานการณ์ก็ดีขึ้นเพราะเพลินเป็นตัวช่วยประสาน ทำให้เกวลินเข้าใจกับเพื่อนร่วมงานและคนในพื้นที่ได้ดีขึ้น แถมยังมีบัญชาคอยแอบช่วยเหลือเกวลินอีกแรง แต่คนที่อึดอัดใจมากที่สุดกลับกลายเป็นอ้อย (ชาลิสา บุญครองทรัพย์) สาวใหญ่สามีเป็นชาวต่างชาติและเสียชีวิตคราวสึนามิเข้าไทย อ้อยรับมรดกโดยเป็นเจ้าของร้านอาหารและคาร์บาเร่ย์โชว์ อ้อยแอบหลงรักเพลินมาตลอด ไม่พอใจที่เกวลินกับเพลินใกล้ชิดกัน มีเรืออวนลากมาลากปลาใกล้ชายฝั่ง เกวลินไม่พอใจพยายามกระตุ้นให้บัญชาจัดการกับเรื่องนี้ให้ได้ บัญชาพยายามอธิบายปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เกวลินไม่ยอมฟัง ดึงดันจะไปจัดการด้วยตัวเอง เมื่อเกวลินไปพบตำรวจจึงได้ทราบว่า เรืออวนลากเป็นของ นายหัวไชยา (สุรชัย สมบัติเจริญ) ผู้มีอิทธิพลของท้องถิ่นซึ่งไม่มีใครกล้าแตะต้องเมื่อเกิดปัญหาขึ้น เกวลินจึงหันมาปรึกษาเพลินทั้งที่ทั้งคู่ไม่ถูกกันแต่เพื่อชุมชน คนสองคนจึงร่วมมือกันทำธนาคารสัตว์น้ำขึ้น จุดประสงค์เพื่อให้ชาวบ้านมีอาชีพไม่ต้องไปทำลายธรรมชาติมากกว่านี้

เกวลินกับเพลินต้องร่วมมือกันทำโครงการปะการังเทียมและธนาคารสัตว์ทะเล ทั้งคู่ต้องพยายามทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ไม่เห็นประโยชน์ของโครงการและต้องพบอุปสรรคมากมาย แต่ในที่สุดโครงการก็สำเร็จลุล่วงไปได้ ชาวบ้านเห็นประโยชน์ของโครงการ ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ดีขึ้น ไม่ต้องทำผิดกฎหมาย ชาวบ้านจึงหันมาให้ความร่วมมือด้วย เพลินกับเกวลินสนิทสนมกันมากขึ้น จนพัฒนากลายเป็นความรัก แต่ทั้งคู่ยังไม่ยอมรับความจริงจนเกวลินสังเกตเห็นว่าทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวงเพลินจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เกวลินได้แต่เก็บความสงสัยไว้ และคิดว่าจะต้องหาทางสืบจนรู้ความจริงให้ได้ว่าเพลินหายไปไหน ขณะเดียวกันนายหัวไชยาพยายามจะรุกที่ของชาวบ้านและสร้างท่าเรือเพื่อจอดเรือสำหรับนักท่องเที่ยว แต่รุกเข้ามาในแนวปะการัง เกวลินกับเพลินพยายามร่วมตัวเพื่อต่อต้านโดยได้รับความร่วมมือจากคมสันต์ (เจษฎา รุ่งสาคร) ลูกชายของนายหัวไชยาอย่างเต็มที่ คมสันต์ พยายามช่วยเหลือเกวลินจนออกนอกหน้าทำให้พลอย (ปจิตรา ภรณ์เจริญ) น้องสาวของเพลินไม่พอใจเกวลิน เพราะพลอยแอบสนใจคมสันต์อยู่ ขณะเดียวกันอ้อยก็ไม่พอใจเกวลินเพราะเกวลินพัวพันใกล้ชิดเพลินมากเกินเหตุอ้อยจึงสมคบกับพลอยวางแผนกำจัดเกวลินไปจากเกาะแต่ก็ไม่สำเร็จ เกวลินหลุดรอดฉิวเฉียดไปได้ทุกครั้งโดยความร่วมมือของแตงร้านเจ้าหน้าที่สำนักงาน ภายหลังแปรพักตร์จากอ้อยมาเป็นผู้ช่วยที่ดีของเกวลิน

เชิงชาญขอย้ายมาประจำการทางภาคใต้และมาสืบเรื่องแก๊งค์ค้ายาเสพติด ที่มีต้นตอระบาดจากเขาเกาะ เชิงชาญเตือนให้เกวลินกลับบ้านเพราะที่เกาะนี้ไม่ค่อยปลอดภัย เกวลินไม่ยอมกลับเพราะสิ่งที่เธอคิดยังไม่ประสบความสำเร็จ เชิงชาญเตือนให้เกวลินระวัง ก่อนจะกลับเชิงชาญได้เจอกับพลอย เชิงชาญสนใจพลอยแต่พลอยไม่สนใจ คมสันต์รู้เรื่องเชิงชาญจากพลอยคมสันต์สนใจจนออกนอกหน้าสั่งให้พลอยคอยรายงานเรื่องเชิงชาญให้อีก พลอยเต็มใจเพราะคิดว่าคมสันต์หันมาสนใจเธอ

ทางด้านโครงการธนาคารสัตว์น้ำเริ่มมีความคืบหน้า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสนใจมีทัวว์มาลงทำให้เกวลินปลื้มสุดๆ ที่โครงการของเธอเป็นประโยชน์ต่อคนในชุมชน เธอเปิดสอนภาษาอังกฤษให้ชาวบ้าน รวมทั้งเพลินด้วยเพื่อให้ชาวบ้านสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้ ขณะที่ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่น ข่าวร้ายก็มาเยือน ทัวว์ยกเลิกการจองเพราะเกิดปัญหาในต่างประเทศ ทำให้ชาวบ้านขาดรายได้ ทุกคนท้อใจและหมดหวัง เพลินกับเกวลินปลอบใจไม่ให้ชาวบ้านท้อ ให้ลุกขึ้นมาสู้อีกครั้งเพื่อชุมชนของตนเองและในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เพลินกำลังจะออกเรือไปเหมือนทุกครั้ง เกวลินแอบตามไปด้วยทั้งคู่ปะทะกัน เกวลินกล่าวหาว่าเพลินทำเรื่องไม่ดีหรือว่าเป็นแก๊งค์ค้ายาเสพติด เพลินเลยลากเกวลินออกไปด้วย ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เกวลินพูดไม่ออก เพลินเก็บไข่เต่าย้ายไปจากหาด เพื่อหนีให้พ้นจากการเก็บไข่เต่าของพวกชาวบ้าน เกวลินอยากขอโทษเพลินที่เข้าใจผิดแต่ก็ไม่กล้า ขณะที่นั่งเรือกลับเกวลินสังเกตเห็นแสงไฟลึกลับจากอีกด้านหนึ่ง เกวลินนึกสนุกชวนเพลินตามไปดู และพบว่าเป็นที่ซ่อนของรูปปั้นงานศิลปะไว้ในถ้ำ ทั้งคู่หนีออกมาเพราะถูกโจรไล่ล่าทำให้เรือระเบิด แต่ทั้งคู่หนีรอดไปอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง

พลอยไปขอความช่วยเหลือให้คมสันต์ช่วยออกตามหา แต่คมสันต์อารมณ์เสียพอรู้ตัวก็รีบกลบเกลื่อนทันที พลอยเริ่มสงสัยว่าคมสันต์น่าจะรู้เรื่องนี้ดี พลอยจึงเอาเรื่องไปปรึกษาอ้อย อ้อยพาชาวบ้านออกตามหา แต่ก็ไม่พบตัวเพลินเห็นแต่ซากเรือทำให้คิดว่าทั้งเพลินและเกวลินตายแล้ว คมสันต์ดีใจออกนอกหน้า พลอยเสียใจมากที่ชายที่เธอรัก ดีใจที่พี่ชายเธอตาย เชิงชาญมาที่เกาะเพื่อรับตัวเกวลินกลับบ้าน บัญชาบอกเกวลินหายตัวไป เชิงชาญจึงแจ้งข่าวให้พ่อของเกวลินรู้ และทุกคนรีบออกตามหาเกวลินและเพลิน คมสันต์ค้านสุดตัว วิสูตรจึงเดินทางมาตามตัวเกวลินด้วยตัวเอง และได้มาเจอกับบัญชาเพื่อนเก่า วิสูตรโวยวายว่าบัญชาไม่ยอมทิ้งความหลัง บัญชาบอกวิสูตรต่างหากโลภจนลืมครอบครัว เป็นสาเหตุให้เมียตาย (สองคนนี้รักผู้หญิงคนเดียวกันคือแม่ของเกวลิน) วิสูตรไม่ยอมแพ้งัดเอาความหลังเรื่องของบัญชามาพูดบ้าง บัญชาเงียบไม่ยอมตอบวิสูตรรู้ว่าลูกชายของบัญชาหนีไปอยู่เมืองนอกโดยไม่ติดต่อมาเช่นกัน เชิงชาญบอกให้ทั้งคู่ระงับใจไว้ก่อน สิ่งสำคัญตอนนี้คือตามหาเกวลินให้พบ วิสูตรตัดใจขอความช่วยเหลือจากบัญชาให้ออกตามหาเกวลินเพราะเชื่อว่าเกวลินยังไม่ตาย

พอนายหัวไชยารู้ว่าวิสูตรเป็นนักธุรกิจใหญ่ ก็พยายามเสนอหน้าให้ความร่วมมือในการตามหาเกวลินอย่างเต็มที่เพราะไชยาวางแผนจะดึงวิสูตรมาร่วมทุนทำรีสอร์ทด้วย ขณะเดียวกันไชยาแอบดำเนินการลับๆ โดยหวังจะฮุบที่ดินของชุมชนที่เพลินเป็นเจ้าของอยู่ เพื่อมาทำรีสอร์ทต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างลับๆ โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้ คมสันต์ที่หน้าฉากเป็นคนดีพยายามช่วยเหลือคนในชุมชุน และขัดแย้งกับนายหัวไชยาเรื่องธุรกิจของพ่อมาตลอด แท้จริงแล้วคมสันต์คือพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่แฝงตัวเป็นนักธุรกิจอาร์ตแกลอรี่ โดยที่นายหัวไชยาเองก็ไม่ระแคะระคายมาก่อน ขณะอยู่ที่เกาะเกวลินพยายามจะดำน้ำสำรวจแนวปะการังทำให้เกิดอุบัติเหตุ เพลินลงไปช่วยชีวิตเกวลินขึ้นมาขณะที่เกวลินกำลังจะลืมตาตื่น เชิงชาญกับบัญชาที่ตามหาตัวทั้งคู่อยู่มาพบเข้า ทำให้เกวลินลืมตาขึ้นในอ้อมแขนของเชิงชาญ เกวลินเข้าใจผิดว่าเชิงชาญเป็นคนช่วยชีวิตของเธอไว้ วิสูตรพ่อของเกวลินเป็นฝ่ายขอร้องไม่ให้เพลินบอกความจริงว่าเพลินเป็นคนช่วยชีวิตเกวลิน เพื่อเห็นแก่อนาคตของเกวลินที่กำลังจะกลับไปแต่งงานกับเชิงชาญคู่หมั้น เพลินเศร้าใจ แต่รับปากแบบลูกผู้ชายพยายามจะถอยห่างจากเกวลิน

เพลินนัดเกวลินไปพบเพื่อบอกเรื่องสำคัญ เกวลินคิดว่าเพลินจะขอแต่งงานกับเธอ เธอดีใจมาก และกลับมาพบกับเชิงชาญเพื่อขอถอนหมั้น แต่เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่คาดเมื่อเกวลินกลับไปที่หน้าผาตามนัดหมาย เธอกลับเห็นเพลินกับอ้อยพลอดรักกัน เกวลินทั้งผิดหวังและเสียใจกับการกระทำของเพลินเมื่อกลับมาที่หมู่บ้าน เหตุการณ์กำลังวุ่นวายเพราะนายทุนพยายามจะไล่ที่ซึ่งนายทุนได้ซื้อที่ดินมาอย่างถูกต้องและมีเอกสารสิทธิ์ เกวลินกับเจ้าหน้าที่อุทยานเข้ามาเจรจาแต่จำนนด้วยหลักฐาน เพราะเอกสารสิทธิ์ออกโดยถูกต้อง เกวลินกลายเป็นคนที่ต้องไล่ชาวบ้านออกจากที่ทำกินด้วยตัวเอง เพลินผิดหวังในตัวเกวลินมาก เชิงชาญขอร้องให้เพลินช่วยพาไปเกาะที่เพลินเจอถ้ำเก็บยาเสพติด เพลินตกลงรับปากจะช่วย เพราะเกาะนั้นเป็นเกาะที่เต่าจะขึ้นมาวางไข่ อย่างน้อยก็เป็นการช่วยให้ความฝันของเพลินและเกวลินเป็นความจริงที่เคยสัญญาว่าจะพาเกวลินไปดูเต่าขึ้นมาไข่ริมชายหาด เพลินฝากให้เชิงชาญช่วยทำสิ่งนั้นแทน เชิงชาญรับปากเพลินทันที

คมสันต์ซึ่งเป็นตัวการใหญ่และเป็นเจ้าของงานศิลปะยัดไส้ยาเสพติดที่เก็บไว้ในถ้ำ ร้อนตัวกลัวความจริงจะเปิดเผย คมสันต์จึงตัดสินใจวางแผนฆ่าเพลินทิ้งเพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ความลับเรื่องนี้ แต่อ้อยรู้ความลับจากลูกน้องของคมสันต์ ซึ่งเมาแล้วคายความลับให้เหล่าลูกน้องของอ้อยฟัง อ้อยรีบไปเตือนเพลิน แต่พลาดพลั้งต้องรับกระสุนแทน อ้อยบาดเจ็บสาหัส นายหัวไชยาพาตำรวจมาจับเพลินด้วยข้อหาลักลอบค้ายาเสพติดเพราะพบยาเสพติดจำนวนมาก บนเกาะร้างใกล้กับหาดทรายที่เพลินมาเฝ้าดูเต่าทะเลมาวางไข่ ที่นั่นมีกระท่อมและข้าวของๆ เพลินเพียงคนเดียวเท่านั้น

ที่โรงพยาบาลอ้อยฟื้นขึ้นมา อ้อยขอร้องให้เกวลินช่วยสืบหาความจริงเกวลินนับถือน้ำใจและความรักที่อ้อยมีต่อเพลิน เกวลินตัดสินใจไปขอร้องให้เชิงชาญช่วยเหลือ เชิงชาญถามว่าทำไมต้องทำเพื่อเพลิน เกวลินไม่ตอบแต่สัญญาว่าเมื่อเรื่องนี้จบลงเกวลินจะกลับไปแต่งงานกับเชิงชาญทันที เชิงชาญรู้ด้วยสัญชาติญาณของลูกผู้ชาย เกวลินไม่มีใจให้ตนเองแม้แต่น้อย พลอยแอบรู้เรื่องที่อ้อยพูดกับเกวลินจึงไปต่อว่าคมสันต์ คมสันต์ไล่ตะเพิดพลอยไป พลอยเสียใจมาก ไปเยี่ยมเพลินที่โรงพัก ได้แต่ร้องไห้ไม่กล้าบอกความจริงกับเพลินเพราะคมสันต์ขู่จะฆ่าทุกคนในครอบครัว หากพลอยเปิดเผยความจริงเพลินบอกไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้พลอยดูแลแม่ให้ดี เชิงชาญไปสืบความจริงจนกระทั่งรู้ว่า เพลินเป็นคนดีเหมือนพ่อของเพลินที่ตายไปเพราะงานอนุรักษ์เกาะเช่นกัน เชิงชาญจึงต้องสืบว่าเพลินไปทำอะไรที่เกาะนั้น เชิงชาญจึงตัดสินใจไปที่เกาะนั้นอีกครั้งในตอนคืนเดือนมืด และเชิงชาญได้พบความจริงคือ เพลินไปเฝ้าดูเต่าขึ้นมาวางไข่บนชายหาดจนกระทั่งเช้า และเชิงชาญเห็นเรือลึกลับวิ่งวนเข้าไปที่ท้ายเกาะ เพลินถูกปล่อยตัวออกมา ท่ามกลางความไม่พอใจขอคมสันต์ เพราะคิดว่าเพลินอาจชี้ตัวเขาได้ว่าเป็นเจ้าของยาเสพติดในถ้ำทั้งหมด คมสันต์ตัดสินใจไประเบิดข้าวของในถ้ำทิ้ง เพื่อจะได้ไม่มีหลักฐาน แต่เชิงชาญซ้อนแผน จับคมสันต์ไว้ได้ ไชยาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคมสันต์เป็นขาใหญ่ค้ายาเสพติด โดยอาศัยร้านขายงานศิลปะยัดยาเสพติดในสินค้าแล้วส่งออกไปต่างประเทศโดยไม่มีใครรู้ ไชยาเสียใจมากและตั้งใจจะทำดีไถ่โทษเพื่อชุมชน จึงคืนที่ดินทำกินทั้งหมดให้แก่ชุมชน ทุกคนดีใจมากที่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาสงบสุขเหมือนเดิม

วิสูตรกับบัญชา ปรับความเข้าใจกัน วิสูตรพาลูกชายของบัญชากลับมาพบกับพ่ออีกครั้งด้วยความช่วยเหลือจากเกวลิน บัญชาดีใจมากในที่สุดเพื่อนเก่าก็กลับมาดีกันอีกครั้ง วิสูตรเห็นแม่พร จึงกระเซ้าบัญชาบอกให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ซะที บัญชาได้คิดตัดสินใจขอแม่พรแต่งงานเป็นครอบครัวอีกครั้ง โดยที่เพลินเต็มใจเรียกบัญชาว่าพ่ออย่างเต็มภาคภูมิ

เมื่อเรื่องทุกอย่างคลี่คลายเกวลินตัดสินใจกลับบ้าน ตามคำขอร้องของพ่อ เธอตัดสินใจเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเพื่อลืมเพลินและความหลังที่เขาเกาะ สามปีผ่านไปในวันที่เกวลินเดินทางกลับมาเมืองไทย ได้เห็นข่าวการยกเกาะไข่ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยวัดจากความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อม โครงการทั้ง 3 ที่เกวลินและเพลินช่วยกันทำ ทำให้ธรรมชาติของทะเลเกาะเต่ากลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง โดยเต่าทะเลกลับขึ้นมาไข่บนชายหาดตามธรรมชาติเหมือนแต่ก่อน ทั้งนี้จากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านและผู้นำชุมชนคนนั้นคือ เพลิน ในงานแต่งงานของเกวลินกับเชิงชาญ บัญชาเดินทางไปร่วมงานด้วย บัญชามอบของขวัญให้เกวลิน ทันทีที่เปิดออกดู เกวลินตะลึงในกล่องคือสร้อยคอของแม่ที่หล่นหายไปในทะเล และเพลินสัญญาว่าจะเอามาคืนให้เธอ ภาพในอดีตย้อนกลับมาฉายชัดอีกครั้ง เพลินทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับเธอทุกอย่าง

เกวลินตัดสินใจทิ้งการแต่งงาน โดยที่เชิงชาญเป็นฝ่ายโล่งใจที่เกวลินตัดสินใจเช่นนั้น เชิงชาญอวยพรให้เกวลินมีความสุข เชิงชาญเดินทางกลับมาที่ชุมชนบนเกาะไข่อีกครั้งพร้อมเกวลินเพื่อพบกับพลอย เด็กสาวที่เชิงชาญต้องชะตาตั้งแต่แรกเจอและในคืนพระจันทร์เต็มดวงริมชายหาด มีพิธีแต่งงานของเพลินและเกวลินโดยมีเต่าและฝูงปลาเป็นพยาน อีกหลายปีต่อมา ในเวทีการประชุมโลกเรื่องสิ่งแวดล้อม เขาเกาะได้รับการพิจารณาจากองค์การยูเนสโก้ให้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยมีเพลินผู้นำท้องถิ่นของเขาเกาะและเกวลินนักอนุรักษ์ทั้งสองคนร่วมกันฝ่าฟันให้โครงการนี้ลุล่วงไปได้