ละคร รากบุญ
ดู 2,406 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 16 พฤศจิกายน 2555 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:15 - 22:30 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ ช่อมณี, บทโทรทัศน์ เอกลิขิต | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ รากบุญ
เมื่อสูญเสียบิดาเสาหลักของครอบครัวไป เจติยา หรือ เจ (ราศรี บาเล็นซิเอก้า) นักศึกษาปีสุดท้ายคณะนิติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จำต้องหางานพิเศษทำเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนของตนเองและนที (สเตฟาน สายชล ปารเนียส) ผู้เป็นน้องชาย แล้วยังต้องหาค่ารักษา มยุรี (ชนานา นุตาคม) มารดาซึ่งป่วยด้วยโรคไต วันหนึ่งมารดาของเธอป่วยหนักอย่างกะทันหัน จนต้องล้างไตเพื่อรอเปลี่ยนไต เจติยากลุ้มใจหนักกับความทุกข์ความทรมานของผู้เป็นมารดา ประกอบกับ นที น้องชายที่เป็นความหวังของครอบครัว กลับมีความประพฤติก้าวร้าวหนักและเอาแต่ใจเพิ่มขึ้น มันทำให้เธอเครียดและวิตกกังวลอย่างมาก
ไม่นานต่อมา เจติยาได้รับกล่องรากบุญมาจากเพื่อนสูงวัยที่ชื่อ ลุงทวี (ญาณี ตราโมท) ซึ่งทำงานตบแต่งศพที่บริษัทนิราลัยด้วยกัน โดยกล่องรากบุญเป็นกล่องสีดำสนิทถูกแกะสลักเป็นรูปยักษ์อ้าปาก และไม่สามารถเปิดออกเองได้ แม้กล่องจะไม่ได้ถูกปิดล็อคก็ตาม ลุงทวีบอกความลับของกล่องลึกลับใบนี้ให้หล่อนพิจารณา เพื่อใช้คลี่คลายปัญหาในครอบครัวอย่างที่ชายชราเคยทำมาก่อนแล้ว ทั้งนี้เจติยาจะต้องทำความดีให้ครบสามอย่างเป็นการแลกเปลี่ยน แล้วจะสามารถขอพรจากกล่องนี้ได้หนึ่งอย่าง แต่มีข้อแม้ว่าต้องทำความดีนั้นให้สำเร็จในเวลาหนึ่งเดือน ไม่เช่นนั้นเธอจะต้องตาย และนอกจากนี้ยังไม่สามารถทิ้งกล่องนี้ไปได้จนกว่าจะหาผู้ครอบครองคนใหม่มารับหน้าที่แทนได้
เมื่ออับจนหนทางในที่สุดเจติยาจึงตอบรับการสืบทอดถือครองกล่องลึกลับต่อจาก คุณสารัช (สมมาตร ไพรหิรัญ) เจ้าของบริษัทนิราลัย บิดาของ ลาภิณ (พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) หรือ ต้น ซึ่งเพิ่งตายจากไป โดยมีลุงทวีเป็นผู้ให้คำแนะนำและคำเตือนกับเธอ ภายหลังจากบิดาของลาภิณตาย พิสัย (โกสินทร์ ราชกรม) น้าชายผู้เป็นน้องชายของ นางชูจิต (อภิรดี ภวภูตานนท์) แม่ของเขาเป็นผู้ดูแลบริษัทนิราลัยซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับจัดการศพครบวงจรตลอดมา และพยายามกีดกันมิให้ลาภิณ ซึ่งเป็นทายาทตัวจริงมายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจเพื่อหวังกอบโกยผลประโยชน์อย่างเต็มที่ ลาภิณจึงขอร้องให้แม่ซึ่งเป็นประธานบริษัทช่วยเหลือเขาซึ่งทำให้พิสัยไม่อาจขัดขวางได้
ลาภิณต้องแปลกใจเป็นอย่างมากที่ในพินัยกรรมของบิดา ได้ระบุให้มอบหุ้นส่วนหนึ่งในบริษัทนิราภัยให้แก่เจติยากับลุงทวี ซึ่งเป็นพนักงานดูแลศพที่บิดารู้จักและชื่นชมพวกเขาเป็นการส่วนตัวด้วย ทำให้ลาภิณไม่ชอบเจติยานัก นอกจากนี้ชูจิตยังปักใจเชื่อว่าเจติยาต้องเป็นเมียเก็บของสามีผู้ล่วงลับ ลาภิณจึงคอยจับผิดเจติยาเสมอ ทำให้ทั้งคู่ไม่ลงรอยกันเท่าไหร่นัก พิสัยเริ่มยุแยงให้บรรดาพนักงานประท้วงทวงอำนาจคืน แต่ทุกครั้งที่มีปัญหายุ่งยาก ลาภิณก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยมีลุงทวีกับเจติยาคอยช่วยเหลือและสนับสนุนอยู่ ทำให้ลาภิณมองเห็นในน้ำใจของเจติยาเขายอมรับและลดอคติที่มีต่อเจติยาลงเรื่อยๆ
หลังจากตอบรับการเป็นเจ้าของกล่องรากบุญแล้ว ความวุ่นวายต่างๆ เกิดขึ้นกับชีวิตของเจติยาเกือบทันที เมื่อบรรดาศพเริ่มร้องขอความช่วยเหลือให้หล่อนบอกความจริงที่อยู่เบื้องหลังการตายของพวกเขา ทำให้เจติยาต้องทุ่มเทความรู้และสติปัญญาเพื่อคลี่คลายปมปริศนาที่ซ่อนแฝงไว้ให้เผยออกมาด้วยความยากลำบาก ความสำเร็จของงานที่ศพร้องขอแต่ละอย่าง จะทำให้หล่อนเป็นเจ้าของดาวทุกข์หนึ่งดวง และหากมีครบสามดวงหล่อนจักได้สิทธิรับสิ่งที่ปรารถนาหนึ่งอย่าง ซึ่งเจติยาต้องการให้มารดามีสุขภาพดีดังเดิม จึงยอมอดทนทำงานนี้
ขณะเดียวกันผลพลอยได้จากการคลี่คลายคดีฆาตกรรมตกอยู่กับ หมวดนวัช (เอกพงศ์ จงเกษกรณ์) เพื่อนชายและเพื่อนบ้านซึ่งเป็นนายตำรวจไฟแรงและมีน้ำใจอันดีต่อเจติยาตลอดมา มันทำให้เขาได้รับความชื่นชมจากหัวหน้าอย่างต่อเนื่อง หมวดนวัชสงสัยกับการให้ข้อมูลและข้อสังเกตต่างๆ ของเจติยา เมื่อเพียรเฝ้าถามแต่เขาก็ไม่เคยได้รับคำตอบที่น่าพอใจ ในขณะที่ความเข้าอกเข้าใจของลาภิณและเจติยาพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ หมวดนวัชกลับไม่ชอบใจนัก คล้ายเป็นคู่แข่งหัวใจกันไปโดยปริยาย ลาภิณและนวัชเลยกลายเป็นคู่ปรับ ขัดแข้งขัดขาเห็นแย้งกันแทบทุกเรื่องโดยที่หมวดนวัชไม่เคยรู้เลยว่านิษฐา (แจ๊คกี้ ชาเคอลีน) เพื่อนสนิทของ เจติยา แอบชอบตนอย่างเงียบๆ มาตลอด
เมื่อเจติยาใช้คำขอจากกล่องรากบุญเป็นครั้งแรก และมารดามีสุขภาพดีขึ้นทันตาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ หล่อนเริ่มพิจารณากล่องรากบุญอย่างละเอียดอีกครั้ง และยังได้ค้นพบต้นเหตุความวุ่นวายในชีวิตของตน อันเกิดจากพลังลึกลับที่ทำให้หล่อนมองเห็นนาทีสุดท้ายของศพเหล่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากกล่องใบนี้ นั่นจึงทำให้เจติยาเริ่มหวาดกลัว แต่เธอก็ไม่สามารถขัดขืนกล่องรากบุญได้ เมื่อมีคำร้องขอจากศพเพิ่มขึ้นอีก ทั้งที่เป็นคดีฆาตกรรม และการขอให้ช่วยเหลือครอบครัวของคนตายในทางใดทางหนึ่ง และเกือบทุกครั้งลาภิณก็มักจะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้ทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น จนลาภิณแน่ใจว่าเจติยาไม่ใช่เมียเก็บของพ่ออย่างที่คิดไว้ตอนแรก
ขณะเดียวกันเจติยาก็เริ่มเห็นมุมอ่อนโยนของลาภิณ และรู้ว่าลาภิณไม่ใช่เพลย์บอยเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างที่ตนคิดไว้ตอนแรกเช่นกัน แต่ชูจิตผู้เป็นมารดากลับยิ่งไม่พอใจ เพราะหมายมั่นและอยากให้ลาภิณแต่งงานกับ ปริม (ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ) หญิงสาวผู้สวยเพียบพร้อมซึ่งตนได้เลือกไว้ให้แล้ว และปริมเองก็มีใจให้ลาภิณอยู่แล้วด้วย เหตุนี้ทั้งคู่เลยร่วมมือกันเล่นงานเจติยาและพยายามเขี่ยเจติยาไปให้พ้นทางโดยเร็วที่สุด แต่ไม่ว่าจะกลั่นแกล้งยังไง ก็ไม่สามารถทำลายความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลงได้ แถมกลับยิ่งทำให้ทั้งคู่ผูกพันกันมากขึ้นทุกที
เวลาผ่านไป เจติยาได้ดาวทุกข์ครบสามดวงอีกครั้ง แต่กลับไม่รู้จะขออะไร จนกระทั่งเกิดเหตุร้ายแรงกับ นิษฐา เพื่อนสนิทของเจติยาที่เข้าไปพัวพันในคดีฆาตกรรมคดีหนึ่งเข้า และถูกจับตัวไป เจติยาเลยขอให้ช่วยนิษฐากลับออกมาได้อย่างปลอดภัย และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เจติยาขอทุกประการ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เจติยาหวาดกลัวกล่องรากบุญมากขึ้นทุกที เพราะถึงแม้จะเป็นการทำความดีเพื่อแลกมา แต่ก็เหมือนเป็นการบังคับ และเป็นการทำดีเพื่อหวังผล โดยที่ตนไม่สามารถหยุดยั้งได้ ไม่ต่างจากการเป็นทาสของกล่องรากบุญแม้แต่น้อย
ส่วนทางด้านพิสัยไม่พอใจที่ลาภิณขุดคุ้ยความทุจริตของตน จึงคิดยึดอำนาจกลับคืนมาด้วยการจ้างมือปืนชื่อเชิด (ทิฐิ พุ่มอ่อน) มาฆ่าลาภิณ แต่พลาดไป พิสัยจึงวางแผนร้ายด้วยการร่วมมือกับปริม เพื่อให้ปริมได้ตัวลาภิณไป ส่วนตนได้บริษัทนิราลัย ปริมหลงเชื่อคำลวงนั้น พิสัยวางแผนให้ปริมจับลาภิณให้อยู่หมัด แล้วจะส่งคนไปลอบฆ่าลาภิณอีกครั้ง โดยที่ปริมไม่รู้เรื่องนี้ แต่การคิดทำร้ายลาภิณของพิสัยนี่เอง ที่ทำให้เจติยาต้องใกล้ชิดลาภิณมากขึ้น จนทั้งคู่เริ่มผูกพันกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หมวดนวัชไม่พอใจ แต่เจติยาก็ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนจนหมวดนวัชน้อยใจ นิษฐาสงสารหมวดนวัช แต่ตนเองก็ตกอยู่ในที่นั่งเดียวกัน เพราะหมวดนวัชก็ไม่เคยเห็นตนอยู่ในสายตาเช่นกัน
ในขณะที่ชูจิตเริ่มสงสัยพฤติกรรมของน้องชาย จนมาล่วงรู้ความจริงว่าพิสัยคิดทำร้ายลูกตนถึงชีวิต ชูจิตเลยปลดพิสัยออกจากทุกตำแหน่งในบริษัท ทำให้พิสัยโกรธแค้นมาก และใช้คนให้ไปจับตัวชูจิตเพื่อหวังจะข่มขู่ แต่เจติยาช่วยไว้ได้ทันและพาชูจิตหนีสำเร็จ ระหว่างนั้นเจติยาต้องทำตามที่ศพร้องขอตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ตนต้องตาย เลยยิ่งทำให้เจติยา หวาดกลัวกล่องและตั้งใจว่าเสร็จงานคราวนี้ จะไม่ขอพรจากกล่องอีก แต่แล้วลาภิณก็ถูกลอบยิงอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน เจติยาเลยจำใจต้องขอพรอีกครั้งเพื่อช่วยให้ลาภิณรอดตาย ซึ่งชูจิตอยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงได้เห็นอำนาจของกล่องกับตาตัวเอง และเชื่อว่าเจติยาไม่ใช่เมียเก็บของสามีตน ทางด้านปริมรู้ว่าตนได้ตกเป็นเครื่องมือของพิสัยจึงคิดจะแจ้งตำรวจ แต่พิสัยก็หลอกปริมมามอมยาแล้วข่มขืน พร้อมกับถ่ายคลิปเก็บไว้แบล็คเมล์จนปริมไม่กล้าแจ้งความ และต้องกลายเป็นเครื่องมือของพิสัยต่อไป
พิสัยกลัวว่าชูจิตจะกลับมาเล่นงานตนอีก เลยแกล้งหลอกชูจิตว่าตนสำนึกผิดแล้ว ขอให้ชูจิตให้อภัยตน ชูจิตใจอ่อนจนถูกทำร้าย และพิสัยพลาดพลั้งจนทำให้ชูจิตตายโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของพิสัย ทุกคนคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ วิญญาณของชูจิตจึงรีบไปหาเจติยา เพื่อขอร้องให้เจติยาดูแลลาภิณ แทนที่จะขอให้เอาตัวพิสัยมาลงโทษ
ส่วนนทีใช้ชีวิตเสเพลหนักขึ้น และเริ่มติดหนี้พนัน ด้วยความรักลูกนางมยุรีผู้เป็นมารดาจึงไม่กล้าว่ากล่าวตักเตือนอย่างใด นทีได้ใจจึงยิ่งเพิ่มความก้าวร้าวและข่มขู่ขอเงินหนักขึ้น เจติยาพยายามทุกวิถีทางเพื่อดึงรั้งน้องชายไว้ไม่ให้เสียผู้เสียคนไปยิ่งกว่านี้ จนกระทั่งวันหนึ่งนทีได้รับการว่าจ้างจากหนุ่มรูปงามที่ชื่อ ปราณ (ดนัย จารุจินดา) ให้ขโมยกล่องรากบุญของพี่สาวแลกกับค่าจ้างเป็นเงินหลักหมื่น นับวันเจติยามัวแต่วุ่นวายกับการคลี่คลายคดีฆาตกรรมที่ศพร้องขอให้หล่อนช่วยอย่างต่อเนื่อง ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก เจติยามีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะกำจัดกล่องรากบุญออกไปจากชีวิตด้วยคำขอสุดท้าย เหตุนี้เธอจึงเร่งทำงานให้สำเร็จเพื่อจะได้เป็นเจ้าของดาวทุกข์ทั้งสามเป็นครั้งสุดท้าย
โดยระหว่างนั้นก็ต้องคอยดูแลลาภิณ จนลาภิณกลับมาแข็งแรงดังเดิม พร้อมกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่แน่นแฟ้นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่พิสัยยังไม่ยอมหยุด เพราะหวังในทรัพย์สมบัติทั้งหมดของลาภิณ จึงพยายามหาทางทำร้ายลาภิณอีก แต่วิญญาณของชูจิตก็มาเตือนเจติยาให้รู้ตัว จนหลบรอดไปได้หวุดหวิด ต่อมาเจติยาจับได้ว่านทีแอบขโมยกล่องรากบุญไปให้ปราณ แต่ชายคนนั้นกลับหลบหน้าหล่อนทุกครั้งอันสร้างความประหลาดใจให้เธอเป็นอย่างมาก เจติยาจึงเล่าเรื่องของปราณให้ลุงทวีฟัง
ลุงทวีสังหรณ์ใจว่าปราณอาจเป็นอันตรายต่อหล่อน โดยเฉพาะการแย่งชิงกล่องรากบุญสร้างความระแวงใจแก่ชายสูงวัยอย่างมาก ส่วนพิสัยโกรธเคืองที่ถูกลูกน้องสองคนข่มขู่ และเรียกร้องเงินทองบ่อยครั้ง โดยอ้างถึงความช่วยเหลือในการติดต่อมือปืนเชิดมาฆ่าลาภิณกับเจติยา พิสัยจึงตัดสินใจฆ่าปิดปากสองคน และศพลูกน้องทั้งสองของพิสัยได้มาร้องขอให้เจติยาจับฆาตกร ทำให้หล่อนทราบว่าพิสัยเป็นฆาตกรและคิดหาวิธีจับเขา ต่อมา เชิด ทราบข่าวการตายของหนึ่งในสองคนนั้นซึ่งเป็นเพื่อนสนิท และในที่สุดเขาก็ถูกตำรวจจับได้ โดยเจติยายอมเป็นเหยื่อล่อ เชิดจึงยอมให้การแฉความผิดของพิสัยทั้งหมด พิสัยจึงถูกตำรวจจับได้ในที่สุด
ไม่นานนักพิสัยหลบหนีออกจากห้องขังเพื่อมาสังหารเจติยากับลาภิณ เป็นการแก้แค้นที่สองคนทำลายอนาคตของตน พิสัยข่มขู่ลาภิณให้ไปตามเจติยา ซึ่งบัดนี้กำลังเดินทางไปพบปราณเพื่อช่วยเหลือมารดากับน้องชายที่ถูกจับไว้เป็นตัวประกันแลกกับกล่องรากบุญ การเผชิญหน้าระหว่างปราณกับเจติยา ทำให้หล่อนต้องตกใจมากขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อได้รับรู้ความลับของปราณหนุ่มลึกลับและกล่องรากบุญที่เกี่ยวพันกัน โดยปราณนั้นถือกำเนิดจากพลังกิเลสของมนุษย์ที่สั่งสมจากความปรารถนาของผู้คนมานานนับหลายร้อยปี และต้องการปกป้องกล่องรากบุญมิให้หล่อนทำลายมัน
ส่วนกล่องรากบุญนั้นแท้จริงแล้วมัจจุราชก็เป็นผู้สร้างมันขึ้นมา เพื่อหวังส่งเสริมให้มนุษย์สัมผัสกับความสุขจากการทำความดี แล้วจะได้เต็มใจทำความดีต่อไปโดยไม่หวังสิ่งแลกเปลี่ยนตอบแทน แต่การณ์กลับไม่เป็นดังที่คาดหวัง มัจจุราชจึงละทิ้งมันไว้บนโลกมนุษย์ และเมื่อทราบว่าเจติยามีเจตนาทำลายกล่องรากบุญทิ้ง ปราณจึงพยายามขัดขวางมิให้งานของหล่อนสำเร็จ และเมื่อไม่ได้ผล ปราณจึงเลือกจะฆ่าเจติยาเพื่อปลดปล่อยกล่องรากบุญให้เป็นอิสระ และจะได้มีสิทธิ์หาเจ้าของคนใหม่ได้
ปริมซึ่งถูกพิสัยหลอกใช้ รู้สึกเสียใจมาก และหวั่นกลัวความผิดที่ร่วมก่อ รวมทั้งความอับอายเรื่องคลิปอุบาทว์จึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย พิสัยปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับปืนและแรงแค้นสุมหัวใจ ส่วนปราณก็หมายมั่นที่จะฆ่าเจติยาซึ่งคิดใช้คำขอสุดท้ายทำลายกล่องรากบุญ ในนาทีเป็นนาทีตายนั้น เจติยาถึงกับยอมแลกชีวิตเพื่อช่วยน้องชายไว้ และทำให้เจติยาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกระสุนฝังแค้นของพิสัย ลาภิณกับหมวดนวัชซึ่งได้รับคำร้องขอจากเจติยาให้ช่วยกันจับกุมพิสัยได้สำเร็จ แต่เจติยากลับใกล้จะสิ้นลมหายใจ ส่วนปราณหายสาบสูญไปจากสถานที่นั้นอย่างน่าพิศวง
ท่ามกลางความเป็นความตายนั้นเอง เจติยาได้พบมัจจุราชซึ่งเป็นเจ้าของกล่องรากบุญ และด้วยความชื่นชมต่อความกล้าและเสียสละชีวิตเพื่อทำลายปราณอันกำเนิดจากกล่องใบนั้น มัจจุราชจึงมอบของรางวัลเป็นสิ่งที่หล่อนปรารถนาสองอย่างคือ ชีวิตใหม่กับพลังรับรู้ภาพสุดท้ายเพื่อใช้สร้างความดีต่อไป และไม่นานนักหลังจากที่เจติยาฟื้นขึ้นมา เธอก็ได้ใช้ความสามารถพิเศษในการช่วยเหลือคนตายทันที จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้นทีซาบซึ้งใจในความรักของพี่สาวที่ยอมแลกชีวิตเพื่อช่วยตน ความสัมพันธ์ของพี่น้องเริ่มพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น นทีเริ่มปรับปรุงตัวใหม่
หลังจากผ่านพ้นความตายมาได้ ความรักระหว่างลาภิณกับเจติยาก็ยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น เขายอมรับปากจะไม่สอบถามความลับส่วนตัวของหล่อนอีก ทั้งสองจึงมีความสุขและเข้าใจกันมากขึ้น หมวดนวัชเองก็ยอมรับว่า เจติยารักลาภิณ ไม่ใช่ตน จึงยอมถอยและพอใจกับความเป็นเพื่อนที่ยังเหลืออยู่ รวมทั้งเริ่มหันไปมองนิษฐา ผู้ซึ่งมีใจให้ตนมาตลอด ส่วนเจติยายอมสละเวลาส่วนหนึ่งเพื่อช่วยคลี่คลายคดีฆาตกรรมตามคำขอร้องจากศพและตำรวจ ซึ่งกลายเป็นงานพิเศษอีกชิ้นหนึ่งในชีวิตของเธอ
ไม่นานต่อมา เจติยาได้รับกล่องรากบุญมาจากเพื่อนสูงวัยที่ชื่อ ลุงทวี (ญาณี ตราโมท) ซึ่งทำงานตบแต่งศพที่บริษัทนิราลัยด้วยกัน โดยกล่องรากบุญเป็นกล่องสีดำสนิทถูกแกะสลักเป็นรูปยักษ์อ้าปาก และไม่สามารถเปิดออกเองได้ แม้กล่องจะไม่ได้ถูกปิดล็อคก็ตาม ลุงทวีบอกความลับของกล่องลึกลับใบนี้ให้หล่อนพิจารณา เพื่อใช้คลี่คลายปัญหาในครอบครัวอย่างที่ชายชราเคยทำมาก่อนแล้ว ทั้งนี้เจติยาจะต้องทำความดีให้ครบสามอย่างเป็นการแลกเปลี่ยน แล้วจะสามารถขอพรจากกล่องนี้ได้หนึ่งอย่าง แต่มีข้อแม้ว่าต้องทำความดีนั้นให้สำเร็จในเวลาหนึ่งเดือน ไม่เช่นนั้นเธอจะต้องตาย และนอกจากนี้ยังไม่สามารถทิ้งกล่องนี้ไปได้จนกว่าจะหาผู้ครอบครองคนใหม่มารับหน้าที่แทนได้
เมื่ออับจนหนทางในที่สุดเจติยาจึงตอบรับการสืบทอดถือครองกล่องลึกลับต่อจาก คุณสารัช (สมมาตร ไพรหิรัญ) เจ้าของบริษัทนิราลัย บิดาของ ลาภิณ (พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) หรือ ต้น ซึ่งเพิ่งตายจากไป โดยมีลุงทวีเป็นผู้ให้คำแนะนำและคำเตือนกับเธอ ภายหลังจากบิดาของลาภิณตาย พิสัย (โกสินทร์ ราชกรม) น้าชายผู้เป็นน้องชายของ นางชูจิต (อภิรดี ภวภูตานนท์) แม่ของเขาเป็นผู้ดูแลบริษัทนิราลัยซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับจัดการศพครบวงจรตลอดมา และพยายามกีดกันมิให้ลาภิณ ซึ่งเป็นทายาทตัวจริงมายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจเพื่อหวังกอบโกยผลประโยชน์อย่างเต็มที่ ลาภิณจึงขอร้องให้แม่ซึ่งเป็นประธานบริษัทช่วยเหลือเขาซึ่งทำให้พิสัยไม่อาจขัดขวางได้
ลาภิณต้องแปลกใจเป็นอย่างมากที่ในพินัยกรรมของบิดา ได้ระบุให้มอบหุ้นส่วนหนึ่งในบริษัทนิราภัยให้แก่เจติยากับลุงทวี ซึ่งเป็นพนักงานดูแลศพที่บิดารู้จักและชื่นชมพวกเขาเป็นการส่วนตัวด้วย ทำให้ลาภิณไม่ชอบเจติยานัก นอกจากนี้ชูจิตยังปักใจเชื่อว่าเจติยาต้องเป็นเมียเก็บของสามีผู้ล่วงลับ ลาภิณจึงคอยจับผิดเจติยาเสมอ ทำให้ทั้งคู่ไม่ลงรอยกันเท่าไหร่นัก พิสัยเริ่มยุแยงให้บรรดาพนักงานประท้วงทวงอำนาจคืน แต่ทุกครั้งที่มีปัญหายุ่งยาก ลาภิณก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยมีลุงทวีกับเจติยาคอยช่วยเหลือและสนับสนุนอยู่ ทำให้ลาภิณมองเห็นในน้ำใจของเจติยาเขายอมรับและลดอคติที่มีต่อเจติยาลงเรื่อยๆ
หลังจากตอบรับการเป็นเจ้าของกล่องรากบุญแล้ว ความวุ่นวายต่างๆ เกิดขึ้นกับชีวิตของเจติยาเกือบทันที เมื่อบรรดาศพเริ่มร้องขอความช่วยเหลือให้หล่อนบอกความจริงที่อยู่เบื้องหลังการตายของพวกเขา ทำให้เจติยาต้องทุ่มเทความรู้และสติปัญญาเพื่อคลี่คลายปมปริศนาที่ซ่อนแฝงไว้ให้เผยออกมาด้วยความยากลำบาก ความสำเร็จของงานที่ศพร้องขอแต่ละอย่าง จะทำให้หล่อนเป็นเจ้าของดาวทุกข์หนึ่งดวง และหากมีครบสามดวงหล่อนจักได้สิทธิรับสิ่งที่ปรารถนาหนึ่งอย่าง ซึ่งเจติยาต้องการให้มารดามีสุขภาพดีดังเดิม จึงยอมอดทนทำงานนี้
ขณะเดียวกันผลพลอยได้จากการคลี่คลายคดีฆาตกรรมตกอยู่กับ หมวดนวัช (เอกพงศ์ จงเกษกรณ์) เพื่อนชายและเพื่อนบ้านซึ่งเป็นนายตำรวจไฟแรงและมีน้ำใจอันดีต่อเจติยาตลอดมา มันทำให้เขาได้รับความชื่นชมจากหัวหน้าอย่างต่อเนื่อง หมวดนวัชสงสัยกับการให้ข้อมูลและข้อสังเกตต่างๆ ของเจติยา เมื่อเพียรเฝ้าถามแต่เขาก็ไม่เคยได้รับคำตอบที่น่าพอใจ ในขณะที่ความเข้าอกเข้าใจของลาภิณและเจติยาพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ หมวดนวัชกลับไม่ชอบใจนัก คล้ายเป็นคู่แข่งหัวใจกันไปโดยปริยาย ลาภิณและนวัชเลยกลายเป็นคู่ปรับ ขัดแข้งขัดขาเห็นแย้งกันแทบทุกเรื่องโดยที่หมวดนวัชไม่เคยรู้เลยว่านิษฐา (แจ๊คกี้ ชาเคอลีน) เพื่อนสนิทของ เจติยา แอบชอบตนอย่างเงียบๆ มาตลอด
เมื่อเจติยาใช้คำขอจากกล่องรากบุญเป็นครั้งแรก และมารดามีสุขภาพดีขึ้นทันตาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ หล่อนเริ่มพิจารณากล่องรากบุญอย่างละเอียดอีกครั้ง และยังได้ค้นพบต้นเหตุความวุ่นวายในชีวิตของตน อันเกิดจากพลังลึกลับที่ทำให้หล่อนมองเห็นนาทีสุดท้ายของศพเหล่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากกล่องใบนี้ นั่นจึงทำให้เจติยาเริ่มหวาดกลัว แต่เธอก็ไม่สามารถขัดขืนกล่องรากบุญได้ เมื่อมีคำร้องขอจากศพเพิ่มขึ้นอีก ทั้งที่เป็นคดีฆาตกรรม และการขอให้ช่วยเหลือครอบครัวของคนตายในทางใดทางหนึ่ง และเกือบทุกครั้งลาภิณก็มักจะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้ทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น จนลาภิณแน่ใจว่าเจติยาไม่ใช่เมียเก็บของพ่ออย่างที่คิดไว้ตอนแรก
ขณะเดียวกันเจติยาก็เริ่มเห็นมุมอ่อนโยนของลาภิณ และรู้ว่าลาภิณไม่ใช่เพลย์บอยเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างที่ตนคิดไว้ตอนแรกเช่นกัน แต่ชูจิตผู้เป็นมารดากลับยิ่งไม่พอใจ เพราะหมายมั่นและอยากให้ลาภิณแต่งงานกับ ปริม (ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ) หญิงสาวผู้สวยเพียบพร้อมซึ่งตนได้เลือกไว้ให้แล้ว และปริมเองก็มีใจให้ลาภิณอยู่แล้วด้วย เหตุนี้ทั้งคู่เลยร่วมมือกันเล่นงานเจติยาและพยายามเขี่ยเจติยาไปให้พ้นทางโดยเร็วที่สุด แต่ไม่ว่าจะกลั่นแกล้งยังไง ก็ไม่สามารถทำลายความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลงได้ แถมกลับยิ่งทำให้ทั้งคู่ผูกพันกันมากขึ้นทุกที
เวลาผ่านไป เจติยาได้ดาวทุกข์ครบสามดวงอีกครั้ง แต่กลับไม่รู้จะขออะไร จนกระทั่งเกิดเหตุร้ายแรงกับ นิษฐา เพื่อนสนิทของเจติยาที่เข้าไปพัวพันในคดีฆาตกรรมคดีหนึ่งเข้า และถูกจับตัวไป เจติยาเลยขอให้ช่วยนิษฐากลับออกมาได้อย่างปลอดภัย และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เจติยาขอทุกประการ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เจติยาหวาดกลัวกล่องรากบุญมากขึ้นทุกที เพราะถึงแม้จะเป็นการทำความดีเพื่อแลกมา แต่ก็เหมือนเป็นการบังคับ และเป็นการทำดีเพื่อหวังผล โดยที่ตนไม่สามารถหยุดยั้งได้ ไม่ต่างจากการเป็นทาสของกล่องรากบุญแม้แต่น้อย
ส่วนทางด้านพิสัยไม่พอใจที่ลาภิณขุดคุ้ยความทุจริตของตน จึงคิดยึดอำนาจกลับคืนมาด้วยการจ้างมือปืนชื่อเชิด (ทิฐิ พุ่มอ่อน) มาฆ่าลาภิณ แต่พลาดไป พิสัยจึงวางแผนร้ายด้วยการร่วมมือกับปริม เพื่อให้ปริมได้ตัวลาภิณไป ส่วนตนได้บริษัทนิราลัย ปริมหลงเชื่อคำลวงนั้น พิสัยวางแผนให้ปริมจับลาภิณให้อยู่หมัด แล้วจะส่งคนไปลอบฆ่าลาภิณอีกครั้ง โดยที่ปริมไม่รู้เรื่องนี้ แต่การคิดทำร้ายลาภิณของพิสัยนี่เอง ที่ทำให้เจติยาต้องใกล้ชิดลาภิณมากขึ้น จนทั้งคู่เริ่มผูกพันกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หมวดนวัชไม่พอใจ แต่เจติยาก็ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนจนหมวดนวัชน้อยใจ นิษฐาสงสารหมวดนวัช แต่ตนเองก็ตกอยู่ในที่นั่งเดียวกัน เพราะหมวดนวัชก็ไม่เคยเห็นตนอยู่ในสายตาเช่นกัน
ในขณะที่ชูจิตเริ่มสงสัยพฤติกรรมของน้องชาย จนมาล่วงรู้ความจริงว่าพิสัยคิดทำร้ายลูกตนถึงชีวิต ชูจิตเลยปลดพิสัยออกจากทุกตำแหน่งในบริษัท ทำให้พิสัยโกรธแค้นมาก และใช้คนให้ไปจับตัวชูจิตเพื่อหวังจะข่มขู่ แต่เจติยาช่วยไว้ได้ทันและพาชูจิตหนีสำเร็จ ระหว่างนั้นเจติยาต้องทำตามที่ศพร้องขอตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ตนต้องตาย เลยยิ่งทำให้เจติยา หวาดกลัวกล่องและตั้งใจว่าเสร็จงานคราวนี้ จะไม่ขอพรจากกล่องอีก แต่แล้วลาภิณก็ถูกลอบยิงอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน เจติยาเลยจำใจต้องขอพรอีกครั้งเพื่อช่วยให้ลาภิณรอดตาย ซึ่งชูจิตอยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงได้เห็นอำนาจของกล่องกับตาตัวเอง และเชื่อว่าเจติยาไม่ใช่เมียเก็บของสามีตน ทางด้านปริมรู้ว่าตนได้ตกเป็นเครื่องมือของพิสัยจึงคิดจะแจ้งตำรวจ แต่พิสัยก็หลอกปริมมามอมยาแล้วข่มขืน พร้อมกับถ่ายคลิปเก็บไว้แบล็คเมล์จนปริมไม่กล้าแจ้งความ และต้องกลายเป็นเครื่องมือของพิสัยต่อไป
พิสัยกลัวว่าชูจิตจะกลับมาเล่นงานตนอีก เลยแกล้งหลอกชูจิตว่าตนสำนึกผิดแล้ว ขอให้ชูจิตให้อภัยตน ชูจิตใจอ่อนจนถูกทำร้าย และพิสัยพลาดพลั้งจนทำให้ชูจิตตายโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของพิสัย ทุกคนคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ วิญญาณของชูจิตจึงรีบไปหาเจติยา เพื่อขอร้องให้เจติยาดูแลลาภิณ แทนที่จะขอให้เอาตัวพิสัยมาลงโทษ
ส่วนนทีใช้ชีวิตเสเพลหนักขึ้น และเริ่มติดหนี้พนัน ด้วยความรักลูกนางมยุรีผู้เป็นมารดาจึงไม่กล้าว่ากล่าวตักเตือนอย่างใด นทีได้ใจจึงยิ่งเพิ่มความก้าวร้าวและข่มขู่ขอเงินหนักขึ้น เจติยาพยายามทุกวิถีทางเพื่อดึงรั้งน้องชายไว้ไม่ให้เสียผู้เสียคนไปยิ่งกว่านี้ จนกระทั่งวันหนึ่งนทีได้รับการว่าจ้างจากหนุ่มรูปงามที่ชื่อ ปราณ (ดนัย จารุจินดา) ให้ขโมยกล่องรากบุญของพี่สาวแลกกับค่าจ้างเป็นเงินหลักหมื่น นับวันเจติยามัวแต่วุ่นวายกับการคลี่คลายคดีฆาตกรรมที่ศพร้องขอให้หล่อนช่วยอย่างต่อเนื่อง ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก เจติยามีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะกำจัดกล่องรากบุญออกไปจากชีวิตด้วยคำขอสุดท้าย เหตุนี้เธอจึงเร่งทำงานให้สำเร็จเพื่อจะได้เป็นเจ้าของดาวทุกข์ทั้งสามเป็นครั้งสุดท้าย
โดยระหว่างนั้นก็ต้องคอยดูแลลาภิณ จนลาภิณกลับมาแข็งแรงดังเดิม พร้อมกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่แน่นแฟ้นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่พิสัยยังไม่ยอมหยุด เพราะหวังในทรัพย์สมบัติทั้งหมดของลาภิณ จึงพยายามหาทางทำร้ายลาภิณอีก แต่วิญญาณของชูจิตก็มาเตือนเจติยาให้รู้ตัว จนหลบรอดไปได้หวุดหวิด ต่อมาเจติยาจับได้ว่านทีแอบขโมยกล่องรากบุญไปให้ปราณ แต่ชายคนนั้นกลับหลบหน้าหล่อนทุกครั้งอันสร้างความประหลาดใจให้เธอเป็นอย่างมาก เจติยาจึงเล่าเรื่องของปราณให้ลุงทวีฟัง
ลุงทวีสังหรณ์ใจว่าปราณอาจเป็นอันตรายต่อหล่อน โดยเฉพาะการแย่งชิงกล่องรากบุญสร้างความระแวงใจแก่ชายสูงวัยอย่างมาก ส่วนพิสัยโกรธเคืองที่ถูกลูกน้องสองคนข่มขู่ และเรียกร้องเงินทองบ่อยครั้ง โดยอ้างถึงความช่วยเหลือในการติดต่อมือปืนเชิดมาฆ่าลาภิณกับเจติยา พิสัยจึงตัดสินใจฆ่าปิดปากสองคน และศพลูกน้องทั้งสองของพิสัยได้มาร้องขอให้เจติยาจับฆาตกร ทำให้หล่อนทราบว่าพิสัยเป็นฆาตกรและคิดหาวิธีจับเขา ต่อมา เชิด ทราบข่าวการตายของหนึ่งในสองคนนั้นซึ่งเป็นเพื่อนสนิท และในที่สุดเขาก็ถูกตำรวจจับได้ โดยเจติยายอมเป็นเหยื่อล่อ เชิดจึงยอมให้การแฉความผิดของพิสัยทั้งหมด พิสัยจึงถูกตำรวจจับได้ในที่สุด
ไม่นานนักพิสัยหลบหนีออกจากห้องขังเพื่อมาสังหารเจติยากับลาภิณ เป็นการแก้แค้นที่สองคนทำลายอนาคตของตน พิสัยข่มขู่ลาภิณให้ไปตามเจติยา ซึ่งบัดนี้กำลังเดินทางไปพบปราณเพื่อช่วยเหลือมารดากับน้องชายที่ถูกจับไว้เป็นตัวประกันแลกกับกล่องรากบุญ การเผชิญหน้าระหว่างปราณกับเจติยา ทำให้หล่อนต้องตกใจมากขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อได้รับรู้ความลับของปราณหนุ่มลึกลับและกล่องรากบุญที่เกี่ยวพันกัน โดยปราณนั้นถือกำเนิดจากพลังกิเลสของมนุษย์ที่สั่งสมจากความปรารถนาของผู้คนมานานนับหลายร้อยปี และต้องการปกป้องกล่องรากบุญมิให้หล่อนทำลายมัน
ส่วนกล่องรากบุญนั้นแท้จริงแล้วมัจจุราชก็เป็นผู้สร้างมันขึ้นมา เพื่อหวังส่งเสริมให้มนุษย์สัมผัสกับความสุขจากการทำความดี แล้วจะได้เต็มใจทำความดีต่อไปโดยไม่หวังสิ่งแลกเปลี่ยนตอบแทน แต่การณ์กลับไม่เป็นดังที่คาดหวัง มัจจุราชจึงละทิ้งมันไว้บนโลกมนุษย์ และเมื่อทราบว่าเจติยามีเจตนาทำลายกล่องรากบุญทิ้ง ปราณจึงพยายามขัดขวางมิให้งานของหล่อนสำเร็จ และเมื่อไม่ได้ผล ปราณจึงเลือกจะฆ่าเจติยาเพื่อปลดปล่อยกล่องรากบุญให้เป็นอิสระ และจะได้มีสิทธิ์หาเจ้าของคนใหม่ได้
ปริมซึ่งถูกพิสัยหลอกใช้ รู้สึกเสียใจมาก และหวั่นกลัวความผิดที่ร่วมก่อ รวมทั้งความอับอายเรื่องคลิปอุบาทว์จึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย พิสัยปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับปืนและแรงแค้นสุมหัวใจ ส่วนปราณก็หมายมั่นที่จะฆ่าเจติยาซึ่งคิดใช้คำขอสุดท้ายทำลายกล่องรากบุญ ในนาทีเป็นนาทีตายนั้น เจติยาถึงกับยอมแลกชีวิตเพื่อช่วยน้องชายไว้ และทำให้เจติยาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกระสุนฝังแค้นของพิสัย ลาภิณกับหมวดนวัชซึ่งได้รับคำร้องขอจากเจติยาให้ช่วยกันจับกุมพิสัยได้สำเร็จ แต่เจติยากลับใกล้จะสิ้นลมหายใจ ส่วนปราณหายสาบสูญไปจากสถานที่นั้นอย่างน่าพิศวง
ท่ามกลางความเป็นความตายนั้นเอง เจติยาได้พบมัจจุราชซึ่งเป็นเจ้าของกล่องรากบุญ และด้วยความชื่นชมต่อความกล้าและเสียสละชีวิตเพื่อทำลายปราณอันกำเนิดจากกล่องใบนั้น มัจจุราชจึงมอบของรางวัลเป็นสิ่งที่หล่อนปรารถนาสองอย่างคือ ชีวิตใหม่กับพลังรับรู้ภาพสุดท้ายเพื่อใช้สร้างความดีต่อไป และไม่นานนักหลังจากที่เจติยาฟื้นขึ้นมา เธอก็ได้ใช้ความสามารถพิเศษในการช่วยเหลือคนตายทันที จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้นทีซาบซึ้งใจในความรักของพี่สาวที่ยอมแลกชีวิตเพื่อช่วยตน ความสัมพันธ์ของพี่น้องเริ่มพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น นทีเริ่มปรับปรุงตัวใหม่
หลังจากผ่านพ้นความตายมาได้ ความรักระหว่างลาภิณกับเจติยาก็ยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น เขายอมรับปากจะไม่สอบถามความลับส่วนตัวของหล่อนอีก ทั้งสองจึงมีความสุขและเข้าใจกันมากขึ้น หมวดนวัชเองก็ยอมรับว่า เจติยารักลาภิณ ไม่ใช่ตน จึงยอมถอยและพอใจกับความเป็นเพื่อนที่ยังเหลืออยู่ รวมทั้งเริ่มหันไปมองนิษฐา ผู้ซึ่งมีใจให้ตนมาตลอด ส่วนเจติยายอมสละเวลาส่วนหนึ่งเพื่อช่วยคลี่คลายคดีฆาตกรรมตามคำขอร้องจากศพและตำรวจ ซึ่งกลายเป็นงานพิเศษอีกชิ้นหนึ่งในชีวิตของเธอ