ละคร กี่เพ้า
ดู 4,134 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันพุธ วันพฤหัส | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 3 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 1 พฤศจิกายน 2555 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:30 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | โชติรัตน์ รักษ์เริ่มวงศ์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ พงศกร, บทโทรทัศน์ นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ กี่เพ้า
เพกา หรือ พิ้งค์ (แอน ทองประสม) เป็นภัณฑารักษ์สาวไทย อยู่ที่สถาบันเสื้อผ้าแห่งเอเซียที่ตั้งอยู่ในเมืองไทย เธอเป็นสาวไทยรูปร่างสูงระหง ทำงานเก่ง เป็นที่ชื่นชมของ แฮโรลด์ ผู้อำนวยการสถาบัน
วันหนึ่งเพกาได้พบกับชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ดวงหน้าหล่อเหลา ดวงตาเรียวยาวแบบหนุ่มจีนผู้สง่างาม เจ้าหมิงเทียน หรือ แดเนี่ยล (กฤษฎา พรเวโรจน์) บุตรชายของ เจ้าเหวินเยี่ย (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ผู้เป็นเจ้าของกี่เพ้าโบราณสามสิบชุดที่ถูกส่งมาจัดแสดง ณ สถาบันแห่งนี้ เจ้าหมิงเทียนเดินทางมาดูแลกี่เพ้าเหล่านั้นแทนบิดาที่เป็นเจ้าของบริษัท เจ้าเจิ้นเหวิน ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายยารายใหญ่ของฮ่องกง
เจ้าเหวินเยี่ยร่วมกันกับ หวางลี่ผิง ภรรยาที่เป็นเภสัชกรเหมือนกัน พัฒนากิจการร้านยาเล็กๆ จนกลายเป็นบริษัทใหญ่ ครอบครัวของเขากลายเป็นผู้มีอันจะกิน เจ้าของคฤหาสน์ใหญ่บนเกาะฮ่องกง
บิดาของเจ้าหมิงเทียนมีงานอดิเรกคือสะสมเสื้อผ้าโบราณ แฮโรลด์รู้ว่าเจ้าเหวินเยี่ยมีกี่เพ้าล้ำค่าในคอลเลคชั่นจำนวนมาก ก็พยายามอ้อนวอนขอยืมมาจัดแสดงที่สถาบันจนเจ้าเหวินเยี่ยยอมใจอ่อนในที่สุด
เพการู้สึกประทับใจกับใบหน้าหล่อเหลา ท่าทางสง่างาม และบทสนทนาที่เต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาดของเจ้าหมิงเทียน แต่เพการู้สึกได้ว่าเจ้าหมิงเทียนเป็นคนอมทุกข์ เก็บตัวจนเกือบเย็นชา หลายครั้งเจ้าหมิงเทียนแอบมองเธอด้วยความไม่พอใจ และบางครั้งถึงกับหงุดหงิดใส่เพกา
เพกาช่วยกันกับ เดซี่ (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) ผู้ช่วยของเธอตรวจรับกี่เพ้าที่บรรจุอยู่ในกล่องโลหะแต่ละกล่องของเจ้าเหวินเยี่ยด้วยความ ตื่นตะลึงเพราะกี่เพ้าแต่ละชุดที่เจ้าเหวินเยี่ยส่งมาให้นั้นมีอายุเก่าแก่นับร้อยปี อยู่ในสภาพสวยสมบูรณ์แบบ จนกระทั่งมาถึงกี่เพ้ากล่องสุดท้ายกล่องที่สามสิบ ก็ปรากฏว่าขณะที่เพกาหยิบ ห่อกี่เพ้าออกมาจากกล่องนั้น มีห่อผ้ากำมะหยี่อีกหนึ่งห่อตกออกมาจากกล่องโลหะด้วย เมื่อเพกาค่อยๆ เปิดห่อผ้าออกด้วยความระมัดระวัง หญิงสาวก็ต้องตื่นตะลึงเมื่อพบว่าในห่อผ้านั้นมีกี่เพ้าตัดเย็บด้วยฝีมือระดับมาสเตอร์พีซ เป็นกี่เพ้าที่ทำขึ้นใหม่ สีแดงสดปักลวดลายดอกโบตั๋นสีชมพู ที่น่าแปลกคือที่บริเวณอกมีร่องรอยการถูกกรีดแทงจนเสียหาย
แฮโรลด์ตัดสินใจสั่งเพกาให้นำกี่เพ้าชุดพิเศษนี้ขึ้นแสดงเป็นชุดไฮไลต์ ในนิทรรศการด้วย เพกาเริ่มรู้สึกลุ่มหลงในกี่เพ้าชุดนั้น เธอแอบนำกี่เพ้าชุดที่สามสิบเอ็ดมาสวม เพกาพบความประหลาดใจว่าเธอสวมกี่เพ้าชุดนั้นได้พอดีราวกับเป็นชุดของตนเอง และก่อนที่เธอจะทันรู้สึกตัว เพกาก็เกิดอาการหน้ามืดไปชั่วขณะ ท่ามกลางความรู้สึกกึ่งมีสติ กึ่งสลึมสลือ เธอก็บังเกิดนิมิตได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอย่างรุนแรงจากนั้นก็มองเห็นมือของใครคนหนึ่งถือมีดปลายแหลม จ้วงแทงลงมาที่หน้าอกของเธอจนสุดแรง
ดวงตาของเธอพร่าพรายราวจะหมดสติ เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่แทงเธอนั้นคือใคร แต่สิ่งเดียวที่เพกา จำได้ก็คือเธอพยายามต่อสู้ และเห็นว่ามือที่จ้วงแทงลงมานั้นสวมกำไลหยกลวดลายมังกร การต่อสู้ทำให้กำไลหยกนั้นหักเป็นสองท่อนจากนั้นเพกาก็หมดสติไป
ในที่สุดวันเปิดนิทรรศการกี่เพ้าโบราณก็มาถึง เจ้าหมิงเทียนมาถึงงาน โดยมีสาวทันสมัย หน้าตาสวย งามอยู่ข้างกาย เจ้าหลินเพ่ย (พิชญ์นาฏ สาขากร) ลูกสาวคนเล็กของตระกูลเจ้า ซึ่งแฮโรลด์แอบกระซิบว่าเจ้าหลินเพ่ยไม่ใช่ลูกสาวจริงๆ ของเจ้าเหวินเยี่ย แต่เป็นลูกติดของ หลินเหม่ยอิง (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) ภรรยาคนที่สองของเจ้าเหวินเยี่ย เจ้าหลินเพ่ยไม่ชอบหน้าเพกาในทันทีที่ได้พบกัน
เมื่อครอบครัวของเจ้าหมิงเทียนได้เห็นกี่เพ้าชุดแดงลายโบตั๋นสีชมพูพวกเขาโกรธมาก พวกเขาไม่รู้ว่ากี่เพ้าชุดนี้มาปรากฎขึ้นที่นี่ได้อย่างไร เจ้าเหวินเยี่ยตบหน้าเจ้าหมิงเทียนเพราะเข้าใจว่าเขาเป็นผู้นำมา เจ้าเหวินเยี่ยโวยวายให้ปิดการแสดงทั้งที่เพิ่งเปิดขึ้นได้เพียงวันเดียว
แฮโรลด์เดือดร้อนมาก เขาให้เพกาตามเจรจากับเจ้าหมิงเทียนเพื่อขอจัดแสดงต่อ เจ้าหมิงเทียนที่ยังมีภารกิจติดต่อธุรกิจด้านยาในเมืองไทยอีกสามสัปดาห์ เมื่อถูกเพกาตามตอแยมากๆ ไล่ก็ไม่ไป เจ้าหมิงเทียนเลยให้เพกาเป็นเลขาส่วนตัว พาเขาขึ้นเหนือล่องใต้เพื่อเสาะหายาสมุนไพรไทยมาจัดจำหน่ายที่ฮ่องกง ระหว่างนั้นเจ้าหมิงเทียนแสดงอาการหงุดหงิดเพกาหลายครั้ง เพกาเองก็เข้าใจผิดไปว่า เจ้าหมิงเทียนคิดจะฮุบเอายาสมุนไพรไทยไปเป็นของเขา ทั้งสองมีเรื่องมีราวถึงขั้นออกปากไล่กันบ่อยๆ ในระหว่างการเดินทางอันแสนโกลาหล กับคนขับรถชาวไทยจอมเซ่อซ่าชื่อ นาย เขียว และคนสนิทของเจ้าหมิงเทียนชาวฮ่องกงจอมวุ่นวายชื่อ อาตง
เพกาไม่รู้ว่า สาเหตุแห่งความหงุดหงิดนี้เกิดขึ้นเพราะเจ้าหมิงเทียนเคยรักกับผู้หญิงไทยคนหนึ่ง ต่อมาผู้หญิงคนนั้นก็มาเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้ชายหนุ่มจมอยู่กับความหม่นเศร้า และให้บังเอิญเหลือเกิน เพกามีอะไรหลายอย่างเหมือนผู้หญิงไทยผู้เป็นที่รักของเขา นิสัยจริงจัง ตรงไปตรงมา รักความถูกต้อง ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน เปิ่นซ่า ขยันหาความเดือดร้อน ทั้งหมดทั้งปวงเหล่านี้ทำให้เจ้าหมิงเทียน หงุดหงิด ไม่ชอบอยู่ใกล้ แต่ในทางตรงกันข้ามเขาก็อดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยความห่วงใยไม่ได้
ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ลุ่มๆ ดอนๆ เพกาเริ่มสนิทสนมกับเจ้าหมิงเทียน จนได้รู้ว่ากี่เพ้าชุดนั้นเป็นของ เมย์ลี หรือ สุคนธา หญิงไทยผู้เป็นที่รักของเขา เจ้าหมิงเทียนขอร้องให้เพกาช่วยซ่อมแซมกี่เพ้าชุดแดงให้กับเขา แล้วเขาจะพูดกับเจ้าเหวินเยี่ยเรื่องเปิดนิทรรศการให้ อากาศคืนนั้นหนาวมาก เพกาสวมเสื้อบางๆ ไม่ได้นำเอาเสว็ตเตอร์มาด้วย เจ้าหมิงเทียนจึงถอดเสื้อของเขาสวมให้เธอ และทันใดนั้นเองแขนเสื้อของเจ้าหมิงเทียนก็เผยอขึ้น เผยให้เห็นกำไลหยกแบบเดียวกันกับที่เพกาเห็นในนิมิต
กำไลหยกของชายหนุ่มหักกลางและมีลวดทองคำถักร้อยเชื่อมกำไลสองท่อนเข้าด้วยกัน เจ้าหมิงเทียนอธิบายว่าผู้ชายจีนหลายคนก็สวมกำไลหยกเป็นเรื่องปกติ เพราะหยกมีพลังอำนาจที่จะสร้างเสริมบารมีให้กับผู้สวมใส่ สำหรับกำไลหยกที่เขาสวมนี้ เจ้าเหวินเยี่ยได้หยกก้อนใหญ่มาเมื่อหลายสิบปีก่อน จึงทำให้กับสมาชิกครอบครัวตระกูลเจ้าทุกคนสวม เพื่อเตือนใจว่ากำไลหยกทุกอันสลักมาจากหยกก้อนเดียวกัน เหมือนกับทุกคนเป็นสายเลือดในตระกูลเดียวกันจึงสมควรจะต้องรักใคร่กลมเกลียวกันเอาไว้ให้ดี
เพการู้สึกกังวลยิ่งกว่าเก่า นั่นหมายความว่า มีผู้ต้องสงสัยเป็นฆาตกรฆ่าเจ้าของชุดกี่เพ้าแดงใน ตระกูลเจ้าหลายคน เพกากลับบ้านไปด้วยความรู้สึกค้างคาใจ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายท่าทาง อ่อนโยน มีรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จะเป็นฆาตกรใจโหดไปได้
วันหนึ่งเพกาได้พบกับชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ดวงหน้าหล่อเหลา ดวงตาเรียวยาวแบบหนุ่มจีนผู้สง่างาม เจ้าหมิงเทียน หรือ แดเนี่ยล (กฤษฎา พรเวโรจน์) บุตรชายของ เจ้าเหวินเยี่ย (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ผู้เป็นเจ้าของกี่เพ้าโบราณสามสิบชุดที่ถูกส่งมาจัดแสดง ณ สถาบันแห่งนี้ เจ้าหมิงเทียนเดินทางมาดูแลกี่เพ้าเหล่านั้นแทนบิดาที่เป็นเจ้าของบริษัท เจ้าเจิ้นเหวิน ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายยารายใหญ่ของฮ่องกง
เจ้าเหวินเยี่ยร่วมกันกับ หวางลี่ผิง ภรรยาที่เป็นเภสัชกรเหมือนกัน พัฒนากิจการร้านยาเล็กๆ จนกลายเป็นบริษัทใหญ่ ครอบครัวของเขากลายเป็นผู้มีอันจะกิน เจ้าของคฤหาสน์ใหญ่บนเกาะฮ่องกง
บิดาของเจ้าหมิงเทียนมีงานอดิเรกคือสะสมเสื้อผ้าโบราณ แฮโรลด์รู้ว่าเจ้าเหวินเยี่ยมีกี่เพ้าล้ำค่าในคอลเลคชั่นจำนวนมาก ก็พยายามอ้อนวอนขอยืมมาจัดแสดงที่สถาบันจนเจ้าเหวินเยี่ยยอมใจอ่อนในที่สุด
เพการู้สึกประทับใจกับใบหน้าหล่อเหลา ท่าทางสง่างาม และบทสนทนาที่เต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาดของเจ้าหมิงเทียน แต่เพการู้สึกได้ว่าเจ้าหมิงเทียนเป็นคนอมทุกข์ เก็บตัวจนเกือบเย็นชา หลายครั้งเจ้าหมิงเทียนแอบมองเธอด้วยความไม่พอใจ และบางครั้งถึงกับหงุดหงิดใส่เพกา
เพกาช่วยกันกับ เดซี่ (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) ผู้ช่วยของเธอตรวจรับกี่เพ้าที่บรรจุอยู่ในกล่องโลหะแต่ละกล่องของเจ้าเหวินเยี่ยด้วยความ ตื่นตะลึงเพราะกี่เพ้าแต่ละชุดที่เจ้าเหวินเยี่ยส่งมาให้นั้นมีอายุเก่าแก่นับร้อยปี อยู่ในสภาพสวยสมบูรณ์แบบ จนกระทั่งมาถึงกี่เพ้ากล่องสุดท้ายกล่องที่สามสิบ ก็ปรากฏว่าขณะที่เพกาหยิบ ห่อกี่เพ้าออกมาจากกล่องนั้น มีห่อผ้ากำมะหยี่อีกหนึ่งห่อตกออกมาจากกล่องโลหะด้วย เมื่อเพกาค่อยๆ เปิดห่อผ้าออกด้วยความระมัดระวัง หญิงสาวก็ต้องตื่นตะลึงเมื่อพบว่าในห่อผ้านั้นมีกี่เพ้าตัดเย็บด้วยฝีมือระดับมาสเตอร์พีซ เป็นกี่เพ้าที่ทำขึ้นใหม่ สีแดงสดปักลวดลายดอกโบตั๋นสีชมพู ที่น่าแปลกคือที่บริเวณอกมีร่องรอยการถูกกรีดแทงจนเสียหาย
แฮโรลด์ตัดสินใจสั่งเพกาให้นำกี่เพ้าชุดพิเศษนี้ขึ้นแสดงเป็นชุดไฮไลต์ ในนิทรรศการด้วย เพกาเริ่มรู้สึกลุ่มหลงในกี่เพ้าชุดนั้น เธอแอบนำกี่เพ้าชุดที่สามสิบเอ็ดมาสวม เพกาพบความประหลาดใจว่าเธอสวมกี่เพ้าชุดนั้นได้พอดีราวกับเป็นชุดของตนเอง และก่อนที่เธอจะทันรู้สึกตัว เพกาก็เกิดอาการหน้ามืดไปชั่วขณะ ท่ามกลางความรู้สึกกึ่งมีสติ กึ่งสลึมสลือ เธอก็บังเกิดนิมิตได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอย่างรุนแรงจากนั้นก็มองเห็นมือของใครคนหนึ่งถือมีดปลายแหลม จ้วงแทงลงมาที่หน้าอกของเธอจนสุดแรง
ดวงตาของเธอพร่าพรายราวจะหมดสติ เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่แทงเธอนั้นคือใคร แต่สิ่งเดียวที่เพกา จำได้ก็คือเธอพยายามต่อสู้ และเห็นว่ามือที่จ้วงแทงลงมานั้นสวมกำไลหยกลวดลายมังกร การต่อสู้ทำให้กำไลหยกนั้นหักเป็นสองท่อนจากนั้นเพกาก็หมดสติไป
ในที่สุดวันเปิดนิทรรศการกี่เพ้าโบราณก็มาถึง เจ้าหมิงเทียนมาถึงงาน โดยมีสาวทันสมัย หน้าตาสวย งามอยู่ข้างกาย เจ้าหลินเพ่ย (พิชญ์นาฏ สาขากร) ลูกสาวคนเล็กของตระกูลเจ้า ซึ่งแฮโรลด์แอบกระซิบว่าเจ้าหลินเพ่ยไม่ใช่ลูกสาวจริงๆ ของเจ้าเหวินเยี่ย แต่เป็นลูกติดของ หลินเหม่ยอิง (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) ภรรยาคนที่สองของเจ้าเหวินเยี่ย เจ้าหลินเพ่ยไม่ชอบหน้าเพกาในทันทีที่ได้พบกัน
เมื่อครอบครัวของเจ้าหมิงเทียนได้เห็นกี่เพ้าชุดแดงลายโบตั๋นสีชมพูพวกเขาโกรธมาก พวกเขาไม่รู้ว่ากี่เพ้าชุดนี้มาปรากฎขึ้นที่นี่ได้อย่างไร เจ้าเหวินเยี่ยตบหน้าเจ้าหมิงเทียนเพราะเข้าใจว่าเขาเป็นผู้นำมา เจ้าเหวินเยี่ยโวยวายให้ปิดการแสดงทั้งที่เพิ่งเปิดขึ้นได้เพียงวันเดียว
แฮโรลด์เดือดร้อนมาก เขาให้เพกาตามเจรจากับเจ้าหมิงเทียนเพื่อขอจัดแสดงต่อ เจ้าหมิงเทียนที่ยังมีภารกิจติดต่อธุรกิจด้านยาในเมืองไทยอีกสามสัปดาห์ เมื่อถูกเพกาตามตอแยมากๆ ไล่ก็ไม่ไป เจ้าหมิงเทียนเลยให้เพกาเป็นเลขาส่วนตัว พาเขาขึ้นเหนือล่องใต้เพื่อเสาะหายาสมุนไพรไทยมาจัดจำหน่ายที่ฮ่องกง ระหว่างนั้นเจ้าหมิงเทียนแสดงอาการหงุดหงิดเพกาหลายครั้ง เพกาเองก็เข้าใจผิดไปว่า เจ้าหมิงเทียนคิดจะฮุบเอายาสมุนไพรไทยไปเป็นของเขา ทั้งสองมีเรื่องมีราวถึงขั้นออกปากไล่กันบ่อยๆ ในระหว่างการเดินทางอันแสนโกลาหล กับคนขับรถชาวไทยจอมเซ่อซ่าชื่อ นาย เขียว และคนสนิทของเจ้าหมิงเทียนชาวฮ่องกงจอมวุ่นวายชื่อ อาตง
เพกาไม่รู้ว่า สาเหตุแห่งความหงุดหงิดนี้เกิดขึ้นเพราะเจ้าหมิงเทียนเคยรักกับผู้หญิงไทยคนหนึ่ง ต่อมาผู้หญิงคนนั้นก็มาเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้ชายหนุ่มจมอยู่กับความหม่นเศร้า และให้บังเอิญเหลือเกิน เพกามีอะไรหลายอย่างเหมือนผู้หญิงไทยผู้เป็นที่รักของเขา นิสัยจริงจัง ตรงไปตรงมา รักความถูกต้อง ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน เปิ่นซ่า ขยันหาความเดือดร้อน ทั้งหมดทั้งปวงเหล่านี้ทำให้เจ้าหมิงเทียน หงุดหงิด ไม่ชอบอยู่ใกล้ แต่ในทางตรงกันข้ามเขาก็อดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยความห่วงใยไม่ได้
ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ลุ่มๆ ดอนๆ เพกาเริ่มสนิทสนมกับเจ้าหมิงเทียน จนได้รู้ว่ากี่เพ้าชุดนั้นเป็นของ เมย์ลี หรือ สุคนธา หญิงไทยผู้เป็นที่รักของเขา เจ้าหมิงเทียนขอร้องให้เพกาช่วยซ่อมแซมกี่เพ้าชุดแดงให้กับเขา แล้วเขาจะพูดกับเจ้าเหวินเยี่ยเรื่องเปิดนิทรรศการให้ อากาศคืนนั้นหนาวมาก เพกาสวมเสื้อบางๆ ไม่ได้นำเอาเสว็ตเตอร์มาด้วย เจ้าหมิงเทียนจึงถอดเสื้อของเขาสวมให้เธอ และทันใดนั้นเองแขนเสื้อของเจ้าหมิงเทียนก็เผยอขึ้น เผยให้เห็นกำไลหยกแบบเดียวกันกับที่เพกาเห็นในนิมิต
กำไลหยกของชายหนุ่มหักกลางและมีลวดทองคำถักร้อยเชื่อมกำไลสองท่อนเข้าด้วยกัน เจ้าหมิงเทียนอธิบายว่าผู้ชายจีนหลายคนก็สวมกำไลหยกเป็นเรื่องปกติ เพราะหยกมีพลังอำนาจที่จะสร้างเสริมบารมีให้กับผู้สวมใส่ สำหรับกำไลหยกที่เขาสวมนี้ เจ้าเหวินเยี่ยได้หยกก้อนใหญ่มาเมื่อหลายสิบปีก่อน จึงทำให้กับสมาชิกครอบครัวตระกูลเจ้าทุกคนสวม เพื่อเตือนใจว่ากำไลหยกทุกอันสลักมาจากหยกก้อนเดียวกัน เหมือนกับทุกคนเป็นสายเลือดในตระกูลเดียวกันจึงสมควรจะต้องรักใคร่กลมเกลียวกันเอาไว้ให้ดี
เพการู้สึกกังวลยิ่งกว่าเก่า นั่นหมายความว่า มีผู้ต้องสงสัยเป็นฆาตกรฆ่าเจ้าของชุดกี่เพ้าแดงใน ตระกูลเจ้าหลายคน เพกากลับบ้านไปด้วยความรู้สึกค้างคาใจ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายท่าทาง อ่อนโยน มีรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จะเป็นฆาตกรใจโหดไปได้