ละคร กู้ภัยหัวใจแหวว
ดู 1,966 ครั้ง /
แชร์
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เริ่มออกอากาศ | 30 กันยายน 2555 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 18:45 - 19:45 น. |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์โดย น้ำผึ้งเดือนแปด, บทโทรทัศน์โดย ดรีมทีม | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | บริษัท ดูมันดี จำกัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ กู้ภัยหัวใจแหวว
ติ่ง (เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) สัปเหร่อประจำหมู่บ้าน อยู่กินกับ นวลสวาท (ไปรมา รัชตะ) มาหลายปีดีดัก ก็ไม่ยักจะมีลูกไว้คล้องใจซักที จนกระทั่งวันหนึ่งระหว่างที่ติ่งไปเก็บบัวริมบึงเพื่อนำมาถวายพระ ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน ติ่งได้เจอผู้หญิงคนหนึ่งกำลังหลบหนีการไล่ล่ามาเธอยื่นเด็กน้อยในอ้อมกอดให้ติ่ง แล้วหนีไปโดยไม่บอกกล่าวอะไรซักคำติ่งร้อนใจ หวังว่าแม่ของเด็กจะกลับมารับลูกคืนแต่ก็ไม่เห็นเงา ติ่งจึงย้ายบ้านไปโดยต้องพาเด็กน้อยไปด้วย หลังจากที่ติ่ง กับ นวล อุปการะเลี้ยงดู บัวบูชา (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) เหมือนลูกแท้ๆ ไม่นาน สไบนาง (ศรศิลป์ มณีวรรณ์) ที่ใครๆ ก็บอกว่าเป็นลูกอิจฉาก็ตามมาเกิด
20 ปีผ่านไป บัวได้เติบใหญ่เป็นสาวสวยหน้าตาดี จิตใจโอบอ้อมอารีย์ หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย บัวได้ไปทิ้งใบสมัครงานไว้หลายที่แต่ก็ไม่มีการตอบรับ จึงใช้เวลาว่างช่วย นวล ขายอาหารตามสั่งในวัดและไปเป็นสตั๊นต์แมนในหนังและละครบู๊เพื่อเอาเงินมาจุนเจือครอบครัว
แม้ว่าติ่งจะเป็นเพียงสัปเหร่อแต่ในความเป็นจริง ติ่งเหมือนเป็นทุกอย่างใครเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือก็จะนึกถึงติ่งเป็นคนแรก จนได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยของ เฮียเพ้ง (สุเทพ ประยูรพิทักษ์) บัวได้นิสัยความมีน้ำใจจากติ่งไปอย่างไม่ผิดเพี้ยน บัวมักจะติดสอยห้อยตามติ่งไปช่วยเหลือชาวบ้านไม่ว่าจะจับงู จับจระเข้ ลอกท่อ ก่ออิฐ เก็บศพ ทำคลอด ฯลฯ ผิดกับ สไบ ที่ยังห่วงสวยกลัวลำบากและรักสนุกเหมือนวัยรุ่นทั่วไป
บัว เกิดไอเดียจึงชักชวนเพื่อนๆ อย่าง ก้อย จ๋า (ปาลิตา โกศลศักดิ์) มาทำความดี ด้วยการขอเป็นหน่วยกู้ภัยหญิงล้วนใส่ Uniform สีชมพูหวานแหวว ออกตระเวนช่วยเหลือคนที่กำลังประสบปัญหา ทุกคนเต็มใจที่จะทำแต่คนที่หนักใจที่สุดกลับเป็น ติ่ง ที่แม้ว่าจะเป็นคนคอยขับรถให้ แต่หัวใจและเสื้อผ้าก็ต้องแหววตาม กรณ์ (เชื้อชาติ วงศ์สวัสดิ์) นักข่าวท้องถิ่นประทับใจในความแปลกของคนกลุ่มนี้ จึงทำข่าวกระแสกู้ภัยหัวใจแหววจึงเริ่มดังและมีคนรู้จัก กรณ์ รู้สึกดีกับบัวจึงยอมที่จะแต่งชุดชมพูขึ้นกะบะเป็น 1 ในทีมด้วย
เมื่อทำนานๆ ไป บัวเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของตัวเองที่เหมือนจะมีจิตสื่อสารกับคนตายได้ หลายๆ เหตุการณ์ทำให้เธอเริ่มมั่นใจว่าเธอมีจิตสัมผัสกับวิญญาณได้จริง การสืบหาสาเหตุการตายแต่ละครั้งจึงเป็นไปตามความเป็นจริงเหมือนว่าจะทำงานง่าย แต่แท้จริงแล้วไม่เลย บัวยังต้องมาคอยสู้รบปรบมือกับ สารวัตร สวัสดี (พาทิศ พิสิฐกุล) นายตำรวจหน่วยสืบสวนไม่เชื่อเรื่องผีข้อโต้แย้งจึงเกิดขึ้นแทบจะทุกครั้ง ระหว่าง ไสยศาสตร์ กับ วิทยาศาสตร์
กลางดึกวันหนึ่ง ระหว่างที่ไปเก็บศพสาวต่างด้าว เธอได้พบกับ น้องพี (อินทัช เสริมสุขเจริญชัย) เด็กผู้ชายวัย 9 ขวบ หน้าตาน่ารัก แต่แววตากลับเศร้าสร้อยนั่งอยู่คนเดียวบัวจึงเข้าไปสอบถามได้ความว่า พลัดหลงกับแม่มาหลายวันแล้ว ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนดีเลยขอไปกับบัวด้วย บัวบ่ายเบี่ยงเพราะกลัวว่าจะกลายเป็นโจรขโมยเด็กแต่เมื่อเห็นว่าเด็กไม่ได้โกหกจึงต้องยอมพาเด็กไปด้วยและจะรีบพาเด็กส่งคืนครอบครัวให้เร็วที่สุด บัวถึงกับช็อกที่รู้ว่ามีแต่เธอเท่านั้นที่เห็นหรือสื่อสารพูดคุยกับน้องพีได้เมื่อรับปากว่าจะช่วยพากลับบ้าน บัวจึงต้องสานต่อเรื่องนี้ให้สำเร็จโดยที่ไม่สามารถบอกใครได้
"แก๊งบอยแบรนด์" หน่วยกู้ภัยหัวใจเกาหลี นำทีมโดย ชูชัย (ชาญณรงค์ ขันทีท้าว) เพื่อนวัยเดียวกันกับ ติ่ง ชูชัยสร้างสีสันด้วยการขนเอาวัยรุ่นหน้าตาดี อย่าง น้ำมนต์ (ชยพล บุนนาค) แบงค์ (ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส ) อิ๊ก (ธีระธันญ์ ขจรชัยเดชาวัฒน์) แม้ กระทั่งด๊วด (ไทธนา อ่อนศรี) ก็จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม มาเป็นทีมอาสาสร้างความปั่นป่วนในการทำงานมากเพราะหนุ่มๆ สาวๆ จะถกเถียงกันในเรื่องไม่เป็นเรื่องทุกครั้ง
นันทา (ดารัณ ฐิตะกวิน) เริ่มปักใจเชื่อว่าบัวคือลูกของเธอที่พรากจากกันไป แต่เธอยังอยากได้รับการยืนยันจากติ่ง แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะมีเหตุให้คลาดกันตลอด จนวันหนึ่งติ่งได้รู้แน่ชัดว่านันทาคือหญิงสาวที่ส่งบัวให้กับเขาเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ติ่งกลับเกิดอาการหวงบัวขึ้นมาและหาวิธีหลบเลี่ยงที่จะไม่ให้เจอกับนันทา อีกทั้งยังพยายามจะย้ายบ้านหนี
สาเหตุการตายของสาวต่างด้าวหลายต่อหลายครั้งทำให้สวัสดีเริ่มปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของ องศา (ศราวุธ นวแสงอรุณ) อีกทั้งบัวยังช่วยเหลือในการสื่อกับวิญญาณทำให้มีเรื่องราวต่างๆ นำพาไปสู่ตัวคนทำผิดได้อย่างไม่ยาก แต่เหตุการณ์กลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะ กะรัต (อนิสา นูกราฮา) เลขาสาวของ ธำรง (ศักราช ฤกษ์ธำรง) ที่ดูภายนอกเป็นสาวเชย นิ่งๆ แต่แท้จริงเธออยู่เบื้องหลังความวุ่นวายต่างๆ อีกทั้งยังเป็นตัวการที่คอยขัดขวางการทำงานของตำรวจ แต่ภายหลัง กะรัต เริ่มมีสัมพันธ์ลึกๆ กับ องศา ทำให้การทำงานเริ่มผิดพลาดและมีเหตุให้มีคดีที่โยงใยไปถึง ธำรง ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางตำรวจติดตามสืบหาข้อมูลอยู่เมื่อสืบสาวราวเรื่องจากการตายของลูกน้อง ทำให้มีเหตุต้องเข้าไปหาหลักฐานที่บ้านของ นันทาบ้านที่มีทั้งแม่ที่แท้จริงและร่างของน้องพีนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่
ความรักความผูกพันระหว่าง แม่ลูก จะลงเอยอย่างไร บัวบูชา จะใช้จิตสัมผัสของเธอช่วยเหลือแม่แท้ๆ ให้หลุดพ้นจากการอาฆาตของธำรงได้หรือไม่ ความรักแบบยียวนกวนอารมณ์ของ นายตำรวจนักบู๊ กับ หน่วยกู้ภัยสาว เรื่องราวความเชื่อทางไสยศาตร์ กับ วิทยาศาสตร์ จะได้บทสรุปตรงไหน
20 ปีผ่านไป บัวได้เติบใหญ่เป็นสาวสวยหน้าตาดี จิตใจโอบอ้อมอารีย์ หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย บัวได้ไปทิ้งใบสมัครงานไว้หลายที่แต่ก็ไม่มีการตอบรับ จึงใช้เวลาว่างช่วย นวล ขายอาหารตามสั่งในวัดและไปเป็นสตั๊นต์แมนในหนังและละครบู๊เพื่อเอาเงินมาจุนเจือครอบครัว
แม้ว่าติ่งจะเป็นเพียงสัปเหร่อแต่ในความเป็นจริง ติ่งเหมือนเป็นทุกอย่างใครเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือก็จะนึกถึงติ่งเป็นคนแรก จนได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยของ เฮียเพ้ง (สุเทพ ประยูรพิทักษ์) บัวได้นิสัยความมีน้ำใจจากติ่งไปอย่างไม่ผิดเพี้ยน บัวมักจะติดสอยห้อยตามติ่งไปช่วยเหลือชาวบ้านไม่ว่าจะจับงู จับจระเข้ ลอกท่อ ก่ออิฐ เก็บศพ ทำคลอด ฯลฯ ผิดกับ สไบ ที่ยังห่วงสวยกลัวลำบากและรักสนุกเหมือนวัยรุ่นทั่วไป
บัว เกิดไอเดียจึงชักชวนเพื่อนๆ อย่าง ก้อย จ๋า (ปาลิตา โกศลศักดิ์) มาทำความดี ด้วยการขอเป็นหน่วยกู้ภัยหญิงล้วนใส่ Uniform สีชมพูหวานแหวว ออกตระเวนช่วยเหลือคนที่กำลังประสบปัญหา ทุกคนเต็มใจที่จะทำแต่คนที่หนักใจที่สุดกลับเป็น ติ่ง ที่แม้ว่าจะเป็นคนคอยขับรถให้ แต่หัวใจและเสื้อผ้าก็ต้องแหววตาม กรณ์ (เชื้อชาติ วงศ์สวัสดิ์) นักข่าวท้องถิ่นประทับใจในความแปลกของคนกลุ่มนี้ จึงทำข่าวกระแสกู้ภัยหัวใจแหววจึงเริ่มดังและมีคนรู้จัก กรณ์ รู้สึกดีกับบัวจึงยอมที่จะแต่งชุดชมพูขึ้นกะบะเป็น 1 ในทีมด้วย
เมื่อทำนานๆ ไป บัวเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของตัวเองที่เหมือนจะมีจิตสื่อสารกับคนตายได้ หลายๆ เหตุการณ์ทำให้เธอเริ่มมั่นใจว่าเธอมีจิตสัมผัสกับวิญญาณได้จริง การสืบหาสาเหตุการตายแต่ละครั้งจึงเป็นไปตามความเป็นจริงเหมือนว่าจะทำงานง่าย แต่แท้จริงแล้วไม่เลย บัวยังต้องมาคอยสู้รบปรบมือกับ สารวัตร สวัสดี (พาทิศ พิสิฐกุล) นายตำรวจหน่วยสืบสวนไม่เชื่อเรื่องผีข้อโต้แย้งจึงเกิดขึ้นแทบจะทุกครั้ง ระหว่าง ไสยศาสตร์ กับ วิทยาศาสตร์
กลางดึกวันหนึ่ง ระหว่างที่ไปเก็บศพสาวต่างด้าว เธอได้พบกับ น้องพี (อินทัช เสริมสุขเจริญชัย) เด็กผู้ชายวัย 9 ขวบ หน้าตาน่ารัก แต่แววตากลับเศร้าสร้อยนั่งอยู่คนเดียวบัวจึงเข้าไปสอบถามได้ความว่า พลัดหลงกับแม่มาหลายวันแล้ว ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนดีเลยขอไปกับบัวด้วย บัวบ่ายเบี่ยงเพราะกลัวว่าจะกลายเป็นโจรขโมยเด็กแต่เมื่อเห็นว่าเด็กไม่ได้โกหกจึงต้องยอมพาเด็กไปด้วยและจะรีบพาเด็กส่งคืนครอบครัวให้เร็วที่สุด บัวถึงกับช็อกที่รู้ว่ามีแต่เธอเท่านั้นที่เห็นหรือสื่อสารพูดคุยกับน้องพีได้เมื่อรับปากว่าจะช่วยพากลับบ้าน บัวจึงต้องสานต่อเรื่องนี้ให้สำเร็จโดยที่ไม่สามารถบอกใครได้
"แก๊งบอยแบรนด์" หน่วยกู้ภัยหัวใจเกาหลี นำทีมโดย ชูชัย (ชาญณรงค์ ขันทีท้าว) เพื่อนวัยเดียวกันกับ ติ่ง ชูชัยสร้างสีสันด้วยการขนเอาวัยรุ่นหน้าตาดี อย่าง น้ำมนต์ (ชยพล บุนนาค) แบงค์ (ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส ) อิ๊ก (ธีระธันญ์ ขจรชัยเดชาวัฒน์) แม้ กระทั่งด๊วด (ไทธนา อ่อนศรี) ก็จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม มาเป็นทีมอาสาสร้างความปั่นป่วนในการทำงานมากเพราะหนุ่มๆ สาวๆ จะถกเถียงกันในเรื่องไม่เป็นเรื่องทุกครั้ง
นันทา (ดารัณ ฐิตะกวิน) เริ่มปักใจเชื่อว่าบัวคือลูกของเธอที่พรากจากกันไป แต่เธอยังอยากได้รับการยืนยันจากติ่ง แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะมีเหตุให้คลาดกันตลอด จนวันหนึ่งติ่งได้รู้แน่ชัดว่านันทาคือหญิงสาวที่ส่งบัวให้กับเขาเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ติ่งกลับเกิดอาการหวงบัวขึ้นมาและหาวิธีหลบเลี่ยงที่จะไม่ให้เจอกับนันทา อีกทั้งยังพยายามจะย้ายบ้านหนี
สาเหตุการตายของสาวต่างด้าวหลายต่อหลายครั้งทำให้สวัสดีเริ่มปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของ องศา (ศราวุธ นวแสงอรุณ) อีกทั้งบัวยังช่วยเหลือในการสื่อกับวิญญาณทำให้มีเรื่องราวต่างๆ นำพาไปสู่ตัวคนทำผิดได้อย่างไม่ยาก แต่เหตุการณ์กลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะ กะรัต (อนิสา นูกราฮา) เลขาสาวของ ธำรง (ศักราช ฤกษ์ธำรง) ที่ดูภายนอกเป็นสาวเชย นิ่งๆ แต่แท้จริงเธออยู่เบื้องหลังความวุ่นวายต่างๆ อีกทั้งยังเป็นตัวการที่คอยขัดขวางการทำงานของตำรวจ แต่ภายหลัง กะรัต เริ่มมีสัมพันธ์ลึกๆ กับ องศา ทำให้การทำงานเริ่มผิดพลาดและมีเหตุให้มีคดีที่โยงใยไปถึง ธำรง ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางตำรวจติดตามสืบหาข้อมูลอยู่เมื่อสืบสาวราวเรื่องจากการตายของลูกน้อง ทำให้มีเหตุต้องเข้าไปหาหลักฐานที่บ้านของ นันทาบ้านที่มีทั้งแม่ที่แท้จริงและร่างของน้องพีนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่
ความรักความผูกพันระหว่าง แม่ลูก จะลงเอยอย่างไร บัวบูชา จะใช้จิตสัมผัสของเธอช่วยเหลือแม่แท้ๆ ให้หลุดพ้นจากการอาฆาตของธำรงได้หรือไม่ ความรักแบบยียวนกวนอารมณ์ของ นายตำรวจนักบู๊ กับ หน่วยกู้ภัยสาว เรื่องราวความเชื่อทางไสยศาตร์ กับ วิทยาศาสตร์ จะได้บทสรุปตรงไหน