ละคร กระบือบาล
ดู 2,228 ครั้ง /
แชร์
ละครออกอากาศ | วันจันทร์ วันอังคาร | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช่องที่ออกอากาศ | ละครช่อง 7 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
เริ่มออกอากาศ | 26 มีนาคม 2555 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
เวลาออกอากาศ | 20:30 - 22:30 น. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
กำกับโดย | ชวลิต พงศ์ไชยยง | |||||||||||||||||||||||||||||||||
ประพันธ์โดย | บทประพันธ์ ดํารงค์ อารีกุล, บทโทรทัศน์ เล่าเต็ง | |||||||||||||||||||||||||||||||||
นำแสดงโดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้สร้าง | กํากับการดี จํากัด |
ภาพนิ่งจากละคร
เรื่องย่อ กระบือบาล
ณ คฤหาสน์สุดหรูใจกลางเมือง ใจเด็ด (วงศกร ปรมัตถากร) ลูกชายคนสุดท้องของมหาเศรษฐีใจจอม ผู้ผ่าเหล่าผ่ากอทิ้งธุรกิจของตระกูลมาใช้ชีวิตข้าราชการกรมปศุสัตว์ เน้นหนักเรื่องการอนุรักษ์ควาย ยังผลให้พ่อของเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะใจจอมหวังจะให้ลูกทั้งสองคน คือ ใจเด็ด และ ใจเพชร ลูกชายคนโต ช่วยกันสืบทอดธุรกิจของตระกูล
ใจจอมพยายามหว่านล้อม เพื่อให้ใจเด็ดกลับมาดูแลธุรกิจแทนที่จะไปดูแลควายและให้ไม้เกาหลังที่ทำจากไม้สักทองกับใจเด็ดไว้ดูต่างหน้าเพื่อเตือนใจว่าเขายังมีพ่อแม่และพี่ที่รอเขาอยู่ แต่ใจเด็ดกลับเอาไปเป็นต้นแบบทำไม้เกาหลังเอาไว้กล่อมควายแทน ใจเด็ดผูกพันกับควายถึงกระทั่งว่ายอมนำเงินส่วนตัวมาลงกับ “โครงการอนุรักษ์กระบือ” ไม่เว้นแม้กระทั่งภารกิจต่อต้านรถไถที่คิดจะเข้ามาแย่งอาชีพของควายที่ใจเด็ดรัก “อย่าปล่อยให้เพื่อนควายตกงาน” วลีที่ใจเด็ดใช้ปลูกฝังชาวนาในอีสานใต้ เขาต้องการให้ชาวนาผูกพันและรักควายเสมือนญาติ อันเป็นเกราะป้องกันการบุกรุกของรถไถทุกชนิด “คาบาตี้” ของบริษัท สยามคาบาตี้ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถไถรายใหญ่ของประเทศที่มีความสัมพันธ์กับนักการเมืองระดับสูงซ้ำยังเป็นนายทุนพรรครัฐบาลในปัจจุบัน
สมพล (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) กรรมการผู้จัดการของสยามคาบาตี้ จึงต้องเปลี่ยนแผนส่ง แม่ทัพรถไถ คนใหม่เข้าไปเจาะตลาดแทน สรนุช (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) วิศวกรโรงงานสาวสวยถูกเรียกตัวให้มารับหน้าที่นี้ เพราะสรนุชเป็นลูกสาวคนสุดท้องของ พล.อ.สรยุทธ ที่กำลังจะขึ้นรับตำแหน่งผบ.ทบ.ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ สมพลวางแผนให้ ณวัต (จินตรัย อันติมานนท์) ลูกชาย ใช้ความรักที่สรนุชมีให้กับณวัตเป็นเครื่องมือในแผนการครั้งนี้
สรนุชเสนอแผนการปลอมตัวเข้าไปสืบความลับในพื้นที่เป้าหมาย สรนุชไปขอความช่วยเหลือจากสองเพื่อนซี้ สุบิน (วิชญะ จารุจินดา) ผู้กำกับ และ อรอนงค์ (มรกต กิตติสาระ) นักบัญชีสาวในบริษัทเดียวกันให้เข้าร่วมเป็นทีมงานถ่ายทำสารคดีเรื่องควายด้วย ใจเด็ดและ เกริกไกร (คณิน บัดติยา) สัตวแพทย์หนุ่มเพื่อนคู่หู ต้อนรับขับสู้ทีมถ่ายทำสารคดีอย่างเต็มที่ พร้อมกับแนะนำให้รู้จักกับ จะเด็ด และ จันทรา ควายประชาสัมพันธ์ของสถานีฯ รวมถึงการทำงานในโรงเรือนต่างๆ เช่น โรงเรือนผสมเทียมชื่อ “สยุมพรกระบือ” โรงเรือนควายท้องแก่ชื่อ “ลาคลอด” เป็นต้น รวมถึงดูการไถนาของควาย เพียง 3 คืน 4 วัน สรนุชก็เก็บข้อมูลไปต่อยอดงานของตัวเองได้มากพอสมควร
สรนุชเตรียมตัวจะกลับไปที่อีสานใต้อีกครั้งด้วย “ตัวจริง” สรนุชติดต่อกับผู้พันชาญณรงค์ (ไพโรจน์ ใจสิงห์) อดีตลูกน้องของพล.อ.สรยุทธหากมีปัญหา สรนุชเห็นจุดเด่นของผู้พันชาญณรงค์ที่ทำธุรกิจขายเครื่องมือการเกษตรและเป็นนายทุนที่มีอิทธิพลในพื้นที่ ประกอบกับความขัดแย้งกลายๆ ระหว่างผู้พันกับพรรคพวกของใจเด็ดโดยเฉพาะ ช่อผกา (อาริษา วิลล์) ลูกสาวของเขาที่หลงรักใจเด็ดหัวปักหัวปำ น่าจะส่งผลดีต่อการทำงานของเธอ สรนุชจึงเสนอให้ผู้พันชาญณรงค์เป็นตัวแทนจำหน่ายรถไถคาบาตี้ในเขตนี้ ก่อนที่สรนุชจะลงไปในพื้นที่ไม่กี่วัน ใจเด็ดและเกริกไกรได้รับจดหมายลึกลับส่งมาถึงเพื่อแจ้งข่าวให้ทั้งสองคนรู้ว่าแม่ทัพรถไถ คาบาตี้ คนใหม่ของอีสานใต้ คือคนที่เคยปลอมตัวมาสืบความลับที่สถานีฯ เมื่อเร็วๆ นี้ เค้ามีชื่อว่า สรนุช
ใจเด็ดและเกริกไกรเสียใจมาก โดยเฉพาะเกริกไกรเสียใจฟูมฟายไม่ต่างกับคนอกหัก ใจเขานึกโกรธแค้นสรนุช อรอนงค์ และสุบิน ถึงขนาดว่าอยากจะทำอะไรสักอย่างกับลูกควายตัวเมียที่เพิ่งเกิดใหม่ 2 ตัวซึ่งเขาตั้งชื่อว่านุชและอรเพื่อเป็นเกียรติกับพวกเธอ เพื่อเป็นการระบาย สุดท้ายก็ทำไม่ลงเพราะความรักควายมีมากกว่า เกริกไกรโกรธแค้นและชิงชังเธอจนตั้งฉายาให้ว่า แม่มดรถไถ สรนุชเห็นสุบินกำลังไถนาโดยมี โทน หัวหน้ายุวกระบือบาลตามดูแลลากคันไถอยู่นั้น ทำให้สรนุชเข้าใจผิดคิดว่าสุบินไปเข้าข้างฝ่ายตรงข้ามคือใจเด็ดเสียแล้ว แม้สุบินจะบอกว่าเขาเจอกับเกริกไกรและ เจนจิรา (กัญญา รัตน์เพชร) ผู้ช่วยหัวหน้าสถานีฯ ที่จตุจักรโดยบังเอิญ
รถไถคาบาตี้ของสรนุชที่โดนฟ้าผ่าถูกเกริกไกรนำไปประจานให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่า ควายไม่เคยโดนฟ้าผ่าแบบรถไถ โดยมี เฒ่าชุก ผู้หยั่งรู้ฟ้าดินหรืออุตุนิยมประจำพื้นที่ช่วยยืนยันความเชื่อดังกล่าว เพื่อให้ชาวบ้านเห็นดีเห็นงามกับการใช้ควายแทนรถไถต่อไป ยังความโกรธแค้นมาสู่สรนุชและผู้พันชาญณรงค์มากยิ่งขึ้น ประกอบกับใกล้จะหมดหน้าแล้งที่ชาวนาต้องไถนาและเวลาที่ต้องปิดดีลการขายกำลังจะมาถึง ทำให้สรนุชเครียดจนต้องเลือกใช้ไม้ตาย คือ กำจัดใจเด็ดและเกริกไกรออกจากอีสานใต้
ใจเด็ดกับเกริกไกรถูกย้ายเข้าส่วนกลางและถูกห้ามเข้าพื้นที่อีสานใต้ แม้แต่ที่ดินที่ใจเด็ดซื้อหามาด้วยเงินจากมรดกของตัวเองเพื่อให้ชาวนาและควายได้มีงานทำและพักอาศัยก็ไม่สามารถเข้าไปได้ พวกเขาพยายามขอความช่วยเหลือจาก ก้านกลาง เพื่อนรุ่นพี่ที่ได้ดีเป็นถึงที่ปรึกษานายกฯ แต่ก็ไม่ทันการณ์เพราะคำสั่งออกมาก่อนและเป็นเหตุผลทางการเมืองที่ว่าสยามคาบาตี้ คือนายทุนพรรคที่เขาสังกัดอยู่ ขณะที่เพื่อนร่วมงานอย่างเจนจิรา สมหญิง และภิรมย์รองหัวหน้าสถานีฯ รวมถึงชาวนาที่อีสานใต้ต่างไม่ยอมสูญเสียใจเด็ดและเกริกไกร พวกเขาจึงร่วมมือกันก่อม็อบควายเดินทางเข้าสู่เมืองประท้วงที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อเรียกร้องให้คืนใจเด็ดและเกริกไกรที่พวกเขารักและศรัทธากลับมาทำงานที่นี่ตามเดิม
ใจเด็ดและเกริกไกรกลายเป็นวีรบุรุษ “กระบือบาล” หรือผู้อภิบาลควายที่ใครต่อใครต่างชื่นชมในอุดมการณ์การอนุรักษ์ควายของพวกเขา เงินบริจาคหลั่งไหลเข้าสู่สถานีบำรุงพันธุ์สัตว์อีสานใต้สำหรับโครงการอนุรักษ์กระบือ หลังจากที่ใจเด็ดเพิ่งตัดสินใจขายที่ดินใจกลางเมืองหลวงมรดกชิ้นสุดท้ายให้กับพี่ชายคนโตไปไม่นาน เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในโครงการนี้ และนั่นหมายความว่าเขารู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องถูกตัดออกจากตระกูลอย่างสิ้นเชิง ซึ่งก็เป็นไปตามคาด แม้ใจเด็ดจะกลายเป็นคนดังและมีคนศรัทธาจากงานที่เขาทำก็ไม่ได้ทำให้ใจจอมหันกลับมาเข้าใจและใจอ่อนให้กับลูกชายคนเล็กได้เลย
สรนุชเสียใจมากถึงกับระบายออกกับเหล้าอย่างหนัก เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด สรนุชเมาแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุต้องเข้าโรงพยาบาล ทว่าคนที่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอในยามนี้นอกจากครอบครัวแล้วก็คือเพื่อนสนิทสุบินและอรอนงค์ที่สรนุชเคยคิดโทษว่าเพื่อนทั้งสองทรยศนำความลับไปบอกพวกใจเด็ด ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งคือเหล่ากระบือบาลและควายของพวกเขา โดยเฉพาะใจเด็ดกลับวนเวียนอยู่ในความฝันของเธอซ้ำไปซ้ำมาเหมือนจะบอกว่าใจของสรนุชลอยไปถึงดินแดนอีสานใต้เสียแล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในละคร กระบือบาล
ใจจอมพยายามหว่านล้อม เพื่อให้ใจเด็ดกลับมาดูแลธุรกิจแทนที่จะไปดูแลควายและให้ไม้เกาหลังที่ทำจากไม้สักทองกับใจเด็ดไว้ดูต่างหน้าเพื่อเตือนใจว่าเขายังมีพ่อแม่และพี่ที่รอเขาอยู่ แต่ใจเด็ดกลับเอาไปเป็นต้นแบบทำไม้เกาหลังเอาไว้กล่อมควายแทน ใจเด็ดผูกพันกับควายถึงกระทั่งว่ายอมนำเงินส่วนตัวมาลงกับ “โครงการอนุรักษ์กระบือ” ไม่เว้นแม้กระทั่งภารกิจต่อต้านรถไถที่คิดจะเข้ามาแย่งอาชีพของควายที่ใจเด็ดรัก “อย่าปล่อยให้เพื่อนควายตกงาน” วลีที่ใจเด็ดใช้ปลูกฝังชาวนาในอีสานใต้ เขาต้องการให้ชาวนาผูกพันและรักควายเสมือนญาติ อันเป็นเกราะป้องกันการบุกรุกของรถไถทุกชนิด “คาบาตี้” ของบริษัท สยามคาบาตี้ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถไถรายใหญ่ของประเทศที่มีความสัมพันธ์กับนักการเมืองระดับสูงซ้ำยังเป็นนายทุนพรรครัฐบาลในปัจจุบัน
สมพล (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) กรรมการผู้จัดการของสยามคาบาตี้ จึงต้องเปลี่ยนแผนส่ง แม่ทัพรถไถ คนใหม่เข้าไปเจาะตลาดแทน สรนุช (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) วิศวกรโรงงานสาวสวยถูกเรียกตัวให้มารับหน้าที่นี้ เพราะสรนุชเป็นลูกสาวคนสุดท้องของ พล.อ.สรยุทธ ที่กำลังจะขึ้นรับตำแหน่งผบ.ทบ.ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ สมพลวางแผนให้ ณวัต (จินตรัย อันติมานนท์) ลูกชาย ใช้ความรักที่สรนุชมีให้กับณวัตเป็นเครื่องมือในแผนการครั้งนี้
สรนุชเสนอแผนการปลอมตัวเข้าไปสืบความลับในพื้นที่เป้าหมาย สรนุชไปขอความช่วยเหลือจากสองเพื่อนซี้ สุบิน (วิชญะ จารุจินดา) ผู้กำกับ และ อรอนงค์ (มรกต กิตติสาระ) นักบัญชีสาวในบริษัทเดียวกันให้เข้าร่วมเป็นทีมงานถ่ายทำสารคดีเรื่องควายด้วย ใจเด็ดและ เกริกไกร (คณิน บัดติยา) สัตวแพทย์หนุ่มเพื่อนคู่หู ต้อนรับขับสู้ทีมถ่ายทำสารคดีอย่างเต็มที่ พร้อมกับแนะนำให้รู้จักกับ จะเด็ด และ จันทรา ควายประชาสัมพันธ์ของสถานีฯ รวมถึงการทำงานในโรงเรือนต่างๆ เช่น โรงเรือนผสมเทียมชื่อ “สยุมพรกระบือ” โรงเรือนควายท้องแก่ชื่อ “ลาคลอด” เป็นต้น รวมถึงดูการไถนาของควาย เพียง 3 คืน 4 วัน สรนุชก็เก็บข้อมูลไปต่อยอดงานของตัวเองได้มากพอสมควร
สรนุชเตรียมตัวจะกลับไปที่อีสานใต้อีกครั้งด้วย “ตัวจริง” สรนุชติดต่อกับผู้พันชาญณรงค์ (ไพโรจน์ ใจสิงห์) อดีตลูกน้องของพล.อ.สรยุทธหากมีปัญหา สรนุชเห็นจุดเด่นของผู้พันชาญณรงค์ที่ทำธุรกิจขายเครื่องมือการเกษตรและเป็นนายทุนที่มีอิทธิพลในพื้นที่ ประกอบกับความขัดแย้งกลายๆ ระหว่างผู้พันกับพรรคพวกของใจเด็ดโดยเฉพาะ ช่อผกา (อาริษา วิลล์) ลูกสาวของเขาที่หลงรักใจเด็ดหัวปักหัวปำ น่าจะส่งผลดีต่อการทำงานของเธอ สรนุชจึงเสนอให้ผู้พันชาญณรงค์เป็นตัวแทนจำหน่ายรถไถคาบาตี้ในเขตนี้ ก่อนที่สรนุชจะลงไปในพื้นที่ไม่กี่วัน ใจเด็ดและเกริกไกรได้รับจดหมายลึกลับส่งมาถึงเพื่อแจ้งข่าวให้ทั้งสองคนรู้ว่าแม่ทัพรถไถ คาบาตี้ คนใหม่ของอีสานใต้ คือคนที่เคยปลอมตัวมาสืบความลับที่สถานีฯ เมื่อเร็วๆ นี้ เค้ามีชื่อว่า สรนุช
ใจเด็ดและเกริกไกรเสียใจมาก โดยเฉพาะเกริกไกรเสียใจฟูมฟายไม่ต่างกับคนอกหัก ใจเขานึกโกรธแค้นสรนุช อรอนงค์ และสุบิน ถึงขนาดว่าอยากจะทำอะไรสักอย่างกับลูกควายตัวเมียที่เพิ่งเกิดใหม่ 2 ตัวซึ่งเขาตั้งชื่อว่านุชและอรเพื่อเป็นเกียรติกับพวกเธอ เพื่อเป็นการระบาย สุดท้ายก็ทำไม่ลงเพราะความรักควายมีมากกว่า เกริกไกรโกรธแค้นและชิงชังเธอจนตั้งฉายาให้ว่า แม่มดรถไถ สรนุชเห็นสุบินกำลังไถนาโดยมี โทน หัวหน้ายุวกระบือบาลตามดูแลลากคันไถอยู่นั้น ทำให้สรนุชเข้าใจผิดคิดว่าสุบินไปเข้าข้างฝ่ายตรงข้ามคือใจเด็ดเสียแล้ว แม้สุบินจะบอกว่าเขาเจอกับเกริกไกรและ เจนจิรา (กัญญา รัตน์เพชร) ผู้ช่วยหัวหน้าสถานีฯ ที่จตุจักรโดยบังเอิญ
รถไถคาบาตี้ของสรนุชที่โดนฟ้าผ่าถูกเกริกไกรนำไปประจานให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่า ควายไม่เคยโดนฟ้าผ่าแบบรถไถ โดยมี เฒ่าชุก ผู้หยั่งรู้ฟ้าดินหรืออุตุนิยมประจำพื้นที่ช่วยยืนยันความเชื่อดังกล่าว เพื่อให้ชาวบ้านเห็นดีเห็นงามกับการใช้ควายแทนรถไถต่อไป ยังความโกรธแค้นมาสู่สรนุชและผู้พันชาญณรงค์มากยิ่งขึ้น ประกอบกับใกล้จะหมดหน้าแล้งที่ชาวนาต้องไถนาและเวลาที่ต้องปิดดีลการขายกำลังจะมาถึง ทำให้สรนุชเครียดจนต้องเลือกใช้ไม้ตาย คือ กำจัดใจเด็ดและเกริกไกรออกจากอีสานใต้
ใจเด็ดกับเกริกไกรถูกย้ายเข้าส่วนกลางและถูกห้ามเข้าพื้นที่อีสานใต้ แม้แต่ที่ดินที่ใจเด็ดซื้อหามาด้วยเงินจากมรดกของตัวเองเพื่อให้ชาวนาและควายได้มีงานทำและพักอาศัยก็ไม่สามารถเข้าไปได้ พวกเขาพยายามขอความช่วยเหลือจาก ก้านกลาง เพื่อนรุ่นพี่ที่ได้ดีเป็นถึงที่ปรึกษานายกฯ แต่ก็ไม่ทันการณ์เพราะคำสั่งออกมาก่อนและเป็นเหตุผลทางการเมืองที่ว่าสยามคาบาตี้ คือนายทุนพรรคที่เขาสังกัดอยู่ ขณะที่เพื่อนร่วมงานอย่างเจนจิรา สมหญิง และภิรมย์รองหัวหน้าสถานีฯ รวมถึงชาวนาที่อีสานใต้ต่างไม่ยอมสูญเสียใจเด็ดและเกริกไกร พวกเขาจึงร่วมมือกันก่อม็อบควายเดินทางเข้าสู่เมืองประท้วงที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อเรียกร้องให้คืนใจเด็ดและเกริกไกรที่พวกเขารักและศรัทธากลับมาทำงานที่นี่ตามเดิม
ใจเด็ดและเกริกไกรกลายเป็นวีรบุรุษ “กระบือบาล” หรือผู้อภิบาลควายที่ใครต่อใครต่างชื่นชมในอุดมการณ์การอนุรักษ์ควายของพวกเขา เงินบริจาคหลั่งไหลเข้าสู่สถานีบำรุงพันธุ์สัตว์อีสานใต้สำหรับโครงการอนุรักษ์กระบือ หลังจากที่ใจเด็ดเพิ่งตัดสินใจขายที่ดินใจกลางเมืองหลวงมรดกชิ้นสุดท้ายให้กับพี่ชายคนโตไปไม่นาน เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในโครงการนี้ และนั่นหมายความว่าเขารู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องถูกตัดออกจากตระกูลอย่างสิ้นเชิง ซึ่งก็เป็นไปตามคาด แม้ใจเด็ดจะกลายเป็นคนดังและมีคนศรัทธาจากงานที่เขาทำก็ไม่ได้ทำให้ใจจอมหันกลับมาเข้าใจและใจอ่อนให้กับลูกชายคนเล็กได้เลย
สรนุชเสียใจมากถึงกับระบายออกกับเหล้าอย่างหนัก เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด สรนุชเมาแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุต้องเข้าโรงพยาบาล ทว่าคนที่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอในยามนี้นอกจากครอบครัวแล้วก็คือเพื่อนสนิทสุบินและอรอนงค์ที่สรนุชเคยคิดโทษว่าเพื่อนทั้งสองทรยศนำความลับไปบอกพวกใจเด็ด ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งคือเหล่ากระบือบาลและควายของพวกเขา โดยเฉพาะใจเด็ดกลับวนเวียนอยู่ในความฝันของเธอซ้ำไปซ้ำมาเหมือนจะบอกว่าใจของสรนุชลอยไปถึงดินแดนอีสานใต้เสียแล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในละคร กระบือบาล